|
พิษไข้รถคันแรกไม่สร่าง ทำตลาดปี57 วูบต่อเนื่อง ค่ายรถคาดปี58โตขึ้นแค่ 10%
ตลาดรถยนต์ปี 2557 มีการคาดการณ์ล่าสุดว่าจะอยู่ในระดับต่ำกว่า 9 แสนคัน ต่ำกว่าปี 2556 ที่ทำได้ 1.33 ล้านคัน อย่างไรก็ตามผู้ประกอบการต่างเชื่อว่าปีหน้าตลาดจะเริ่มปรับตัวดีขึ้น แต่เป็นตัวเลขไม่มากนัก ปี 2557 นี้คงเป็นปีที่วงการอุตสาหกรรมยานยนต์ ดูเหมือนยังจะซบเซาต่อเนื่อง เพราะตั้งแต่ปลายไตรมาสแรก จนงานมอเตอร์โชว์ผ่านไป สถิติยอดขายรถยนต์สะสม 3 เดือน 224,171 คัน ลดลง 45.8% เข้ามาช่วง 6 เดือน มียอดขายรวม 440,911 คัน ลดลง 40.5% และล่าสุด ตัวเลข 8 เดือน ยอดขายยังร่วงระนาว ขณะที่ตลาดรถยนต์สะสม 8 เดือน มียอดขาย 579,273 คัน ลดลง 38.3% โดยเฉพาะยอดขาย ส.ค. ขายได้ไม่ถึง 70,000 คันด้วยซ้ำ ทำดีสุดได้เพียง 68,835 คัน ลดลง 31.4%
สำหรับทิศทางการเติบโตของตลาดรถยนต์ในปี2558 คงยังไม่ดีขึ้นมากนักคาดว่าสูงสุดไม่เกิน 10% เนื่องจากยังมีอีกหลายปัจจัยที่มีผลต่อตลาด เช่น ภาวะเศรษฐกิจของประเทศ ภาคการเกษตรที่ถือว่าเป็นห่วงโซ่สำคัญของระบบเศรษฐกิจ และที่ผ่านมามีบทบาทโดยตรงต่อตลาดรถยนต์จำนวนมาก ค่ายรถคาดไตรมาสแรกปีหน้าตลาดปลดล็อก เชื่อปรับฐานหลังโตผิดปกติจากโครงการรถคันแรก ชี้แรงหนุนรถใหม่เริ่มส่งมอบ ผู้บริโภคมั่นใจรายได้-งานดันยอดขายพ้นภาวะติดลบ จับตาปัจจัยเสี่ยงเศรษฐกิจ ราคาสินค้าเกษตร ฉุดตลาดโตช้า หวังไฟแนนซ์ผ่อนคลายสินเชื่อปล่อยกู้ คาดยอดขาย 9 แสนคัน ใกล้เคียงปีนี้ ด้านรถหรูมั่นใจขยายตัวต่อเนื่อง
นายวัลลภ ตรีฤกษ์งาม ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่าตลาดรถยนต์ในปีนี้คาดว่าจะทำได้สูงสุดไม่เกิน 8.9 แสนคัน แม้ว่าช่วงปลายปี จะได้แรงกระตุ้นจากรถใหม่ และงานมหกรรมยานยนต์ (มอเตอร์ เอ็กซ์โป) ก็ตาม เนื่องจากตลาดได้รับผลกระทบตลอดครึ่งปีแรก ส่วนปี 2558 เชื่อว่าเมื่อผ่านจุดต่ำสุดในปีนี้ ตลาดจะเริ่มปรับฐานหลังจากถูกบิดเบือนมากในช่วงที่ผ่านมา และจะเริ่มดีขึ้นตั้งแต่ช่วงปลายปีนี้ หลังจากผู้บริโภคโดยเฉพาะคนระดับกลางที่จะรับรู้ทิศทางรายได้ชัดเจน ไม่ว่าจะความมั่นคงในงาน โบนัสปลายปี และการปรับอัตราเงินเดือน ทำให้เริ่มกลับมาใช้จ่ายมากขึ้น ประกอบกับมีรถใหม่เข้าสู่ตลาดจำนวนมากและเริ่มส่งมอบได้ เชื่อว่าช่วงงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์ โชว์ เดือน มี.ค.ปีหน้า ตลาดจะปลดล็อก หยุดภาวะถดถอย และเห็นการเติบโตได้ตั้งแต่เดือน เม.ย. เป็นต้นไป
ด้านนายประพัฒน์ เชยชม รองผู้จัดการใหญ่อาวุโสฝ่ายขายและการตลาด บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่าตลาดรถยนต์ที่ลดลงในปีนี้เกิดจากการปรับฐาน หลังจากเติบโตผิดปกติในปี 2555-2556 เมื่อหมดแรงหนุนจากโครงการรถคันแรก ทำให้เกิดปัญหาสต็อกสินค้าล้นและแข่งขันจัดแคมเปญรุนแรงตามมา อย่างไรก็ตามแม้จะมีแคมเปญจำนวนมากและให้ข้อเสนอที่จูงใจเพียงใด ก็ไม่มีผลทำให้ตลาดปีนี้ฟื้นตัว เนื่องจากกำลังซื้อถูกดึงไปใช้ล่วงหน้าแคมเปญรถยนต์ปีนี้ถือว่ามีผลดีต่อตลาด เพราะแม้ไม่ทำให้ตลาดฟื้นตัว แต่หากไม่มีตลาดอาจลดลงไปมากกว่านี้
ส่วนปี 2558 เชื่อว่ายอดขายรถจะใกล้เคียงกับปีนี้ หรือเติบโตเล็กน้อยในระดับ 9 แสนคัน ต้องยอมรับว่าปีหน้า ยังไม่มีปัจจัยอะไรโดดเด่นในการผลักดันให้ตลาดรถยนต์เติบโตในอัตราสูง และเศรษฐกิจเช่นนี้จะส่งผลให้ผู้บริโภคพยายามยืดอายุการใช้งานรถออกไป นอกจากนี้จะต้องจับตามองเศรษฐกิจทั้งภายในและภายนอก เนื่องจากหลายภูมิภาคมีสถานการณ์ที่ไม่ดีนัก เช่น สหรัฐ ยุโรป นายประพัฒน์ กล่าวว่าอีกปัจจัยที่น่าเป็นห่วงคือเศรษฐกิจระดับรากหญ้า เนื่องจากเกษตรกรมีรายได้ลดลง ทั้งราคาข้าว ยางพารา กำลังซื้อในภาคเกษตรน่าห่วงมาก เพราะมีผลกระทบต่อเนื่อง หากฐานล่างไม่หมุนก็จะส่งผลในวงกว้าง แม้ว่ารัฐบาลจะพยายามกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการมีนโยบายช่วยเหลือระดับรากหญ้าหลายด้าน แต่เห็นว่าอาจไม่ได้ผลมากนัก เนื่องจากประชาชนเริ่มชินกับการให้ของภาครัฐ จากการใช้นโยบายประชานิยมอย่างมากก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตามสิ่งที่เป็นเรื่องดีของตลาดรถในขณะนี้ก็คือ สถานการณ์การเมืองนิ่งกว่าช่วงก่อนหน้า
ส่วนนายซานเจย์ มิชรา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทาทา มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่าปัจจัยลบหนึ่งของตลาดรถยนต์คือ ความเข้มงวดของสถาบันการเงิน ซึ่งยังไม่ดีขึ้นจากเดิมประเมินว่าอย่างน้อยไตรมาส 4 ปีนี้จะคลี่คลายเงื่อนไขการออกรถให้ผ่อนคลายลง คาดว่าจะเป็นผลมาจากปัญหาหนี้เสียในระบบที่มีอัตราเพิ่มขึ้น การเข้มงวดของไฟแนนซ์ในขณะนี้ทำให้ลูกค้าที่มีกำลังซื้อ ซึ่งมีน้อยอยู่แล้วมีจำนวนลดลงไปอีก ทำให้ค่ายรถต้องแก้ไขปัญหาไฟแนนซ์เอง ทาทามองหาช่องทางในการส่งเสริมการเป็นเจ้าของรถใหม่ได้ง่ายขึ้น เช่น การมีไฟแนนซ์เอง เพื่อช่วยกระตุ้นรถใหม่ในช่วงนี้ คาดว่าจะสามารถสรุปได้ต้นปีหน้า สำหรับตลาดรถยนต์ปีนี้คาดว่าจะมียอดขายรวมประมาณ 8-8.5 แสนคัน และปีหน้าตลาดจะเติบโต เป็น 1 ล้านคัน แม้ว่าเป็นตัวเลขอัตราการขยายตัวสูง แต่ก็เป็นไปได้หากสถาบันการเงินเปิดกว้างมากกว่านี้ และการที่รัฐบาลลงทุนทางด้านสาธารณูปโภค โดยวางเป้าหมายตัวเลขเศรษฐกิจประเทศเติบโต 4% ตามแผนเพราะว่าอุตสาหกรรมรถยนต์มีส่วนในการเพิ่มจีดีพี 10%
นางสาวยุคนธร วิเศษโกสิน กรรมการผู้จัดการ บริษัทฟอร์ด ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่าภาวะตลาดรถยนต์ขณะนี้มีแนวโน้มดีขึ้น เห็นได้จากปริมาณลูกค้าที่เข้ามาเยี่ยมโชว์รูมไม่ลดลงมากนัก แต่การที่ยอดขายไม่ดี เป็นผลมาจากเงื่อนไขการซื้อรถเงินผ่อนที่ต้องผ่านไฟแนนซ์นั้นมีความเข้มงวดมากขึ้น ทำให้ลูกค้ามีคุณสมบัติไม่ผ่านเกณฑ์การอนุมัติ ไฟแนนซ์ สกรีนลูกค้าในช่วงนี้อย่างเข้มข้น แต่เชื่อว่าอนาคตหากภาวะการเงินคลี่คลาย และเศรษฐกิจขยายตัวจะปล่อยรถง่ายขึ้น สำหรับภาวะตลาดในปีหน้าอาจยังไม่เติบโต แม้ว่าทุกคนจะมองว่าปีนี้เป็นปีที่ต่ำสุด ของการชะลอตัวของเศรษฐกิจ จากการวิเคราะห์ตลาดรถภายในสิ้นปีนี้ ยอดขายรวมคร่าวๆ อยู่ที่ 8.9 แสนคัน และปีหน้าก็จะอยู่ในระดับใกล้เคียงกันนี้
รถหรูเชื่อตลาดโต10% นายไมเคิล เกรเว่ ประธานบริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่าตลาดรถระดับบนไม่มีปัจจัยน่ากังวล เนื่องจากกลุ่มลูกค้ามีกำลังซื้อที่ดี คาดว่าปีนี้จะเติบโต 10% หรือทำได้ 2 หมื่นคัน ขณะที่ปีก่อนทำได้ 1.8 หมื่นคัน อีกปัจจัยที่ทำให้ตลาดขยายตัว เนื่องจากมีสินค้าให้เลือกหลากหลายมากขึ้น เช่น เมอร์เซเดส-เบนซ์ ปัจจุบัน แบ่งสินค้าได้เป็น 3 กลุ่มคือ คอมแพค คาร์ ซึ่งเป็นกลุ่มสินค้าที่ต้องการขยายฐานคนรุ่นใหม่ และมีถึง 30 รุ่นย่อย ทั้ง ซี-คลาส เอ-คลาส ซีแอลเอ จีแอลเอ นอกจากนี้ก็ยังมีกลุ่ม ลักชัวรี่ ซึ่งมีความแข็งแกร่งอยู่แล้ว เช่น อี-คลาส เอส-คลาส และยังมีกลุ่มทางเลือกให้กับลูกค้า คือ ดรีมคาร์ เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของลูกค้า เช่น กลุ่มคูเป้ 2 ประตู ส่วนปี 2558 ยังไม่สามารถประเมินสถานการณ์ที่เด่นชัดได้ แต่เชื่อว่ามีแนวโน้มที่ดี จากสถานการณ์การเมืองที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับปีนี้
ช่วงที่ผ่านมาค่ายรถยนต์ต่างอัดแคมเปญการตลาดอย่างรุนแรง เพราะตลาดซบหนัก เห็นได้จากค่ายรถยนต์บางแห่ง ได้จัดโปรโมชั่นพิเศษ สำหรับรถยนต์บางรุ่นที่ขายไม่ออก โดยเฉพาะรถยนต์นั่งขนาดเล็ก ที่ยังโดนพิษไข้รถคันแรก ยอดไม่ขยับ กลุ่มนี้ให้ส่วนลดสูงสุดถึง 100,000 บาท นอกจากนั้นยังมีแจก แถม ไม่ต้องดาวน์ ดอกเบี้ย 0% จัดครบทุกกระบวนยุทธ์ แต่ตลาดก็ยังไม่ตอบสนองยาแรงเหล่านี้ ไม่มีสัญญาณใดแสดงให้เห็นว่าจะผงกหัวขึ้นได้ในเวลาอันใกล้ ดังนั้นโค้งสุดท้ายปลายปีนี้ คงต้องลุ้นกันว่าจะปั้นยอดขายถึงเป้าหมายหรือไม่
เรื่อง ณัฐพล เดชสิงห์
เรียบเรียงข้อมูลโดย www.gpinews.com
ที่มา: http://www.gpinews.com
|
|