ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

มาติดตามข่าวสารต่างๆที่น่าสนใจกันครับ

[คัดลอกลิงก์]

แสดงว่าเคย
ประกาศใช้ พ.ร.บ.ทวงหนี้ ฉบับใหม่-ห้ามข่มขู่ลูกหนี้ข่าว » ข่าวทั่วไป » ประกาศใช้ พ.ร.บ.ทวงหนี้ ฉบับใหม่-ห้ามข่มขู่ลูกหนี้
วันพุธที่ 11 มีนาคม 2558 | OballO Bossanova
ประกาศใช้ พ.ร.บ.ทวงหนี้ ฉบับใหม่-ห้ามข่มขู่ลูกหนี้ข่าว » ข่าวทั่วไป » ประกาศใช้ พ.ร.บ.ทวงหนี้ ฉบับใหม่-ห้ามข่มขู่ลูกหนี้
วันพุธที่ 11 มีนาคม 2558 | OballO Bossanova

แชร์394/
[url=]แชร์ Facebook[/url][url=]แชร์ Twitter[/url][url=]แชร์ Google+[/url]
พ.ร.บ.ทวงหนี้ พ.ศ. 2558 ประกาศใช้แล้ว ควบคุมทวงหนี้ใน-นอกระบบ ห้ามข่มขู่ลูกหนี้ มีผลบังคับอีก180วันฝ่าฝืน ติดคุก1ปี ปรับไม่เกิน1แสน หรือทั้งจำทั้งปรับ
เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2558 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา มีการประกาศราชกิจจานุเบกษา เรื่อง พ.ร.บ.การทวงถามหนี้ พ.ศ. 2558 มีรายละเอียดที่สำคัญดังต่อไปนี้
1.ห้ามมิให้ผู้ติดตามหนี้ติดต่อบุคคลอื่น ที่ไม่ใช่ลูกหนี้ จะไปทวงกับบุคคลในครอบครัวหรือบุคคลอื่นไม่ได้ ทวงได้เฉพาะลูกหนี้และผู้ค้ำประกันเท่านั้น เว้นแต่เพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลสถานที่ติดต่อลูกหนี้
2.ห้ามมิให้ผู้ติดตามหนี้ กระทำการในลักษณะที่เป็นการละเมิด และคุกคาม ในการติดตามทวงถามหนี้ อาทิ ใช้ความรุนแรง ใช้วาจา หรือภาษาดูหมิ่น ถากถาง เสียดสี การเปิดเผยความเป็นหนี้ของผู้บริโภคแก่ผู้อื่นที่ไม่เกี่ยวข้อง
3.ห้ามติดตามทวงหนี้เกินสมควรแก่เหตุ รวมถึงการติดต่อทางโทรศัพท์วันละหลายครั้ง และก่อให้เกิดความเดือดร้อน รำคาญ
4.ห้ามมิให้ผู้ติดตามหนี้กระทำการในลักษณะที่เป็นเท็จ หรือทำให้เกิดความเข้าใจผิด ในการติดตามทวงหนี้ เช่น ทำให้เข้าใจว่าเป็นการกระทำของศาล เจ้าพนักงานบังคับคดี รัฐ ฯลฯ ทำให้เชื่อว่าหากไม่ชำระหนี้จะถูกดำเนินคดี ถูกยึดหรืออายัดทรัพย์หรือเงินเดือน ข่มขู่ว่าจะดำเนินการใด ทั้งที่ไม่มีอำนาจจะกระทำได้ตามกฎหมาย
5.ห้ามไม่ให้ผู้ติดตามหนี้ ติดตามทวงถามหนี้ในลักษณะที่ไม่เป็นธรรม อาทิ เรียกเก็บค่าธรรมเนียม หรือค่าใช้จ่ายใดๆ เว้นแต่ได้มีการตกลงไว้ล่วงหน้า ติดต่อลูกหนี้เกี่ยวกับหนี้โดยทางไปรษณียบัตร เอกสารเปิดผนึก หรือโทรสาร ใช้ภาษา สัญลักษณ์ ชื่อทางธุรกิจ บนซองจดหมายในการติดต่อลูกหนี้ ที่แสดงให้เห็นว่าเป็นการติดตามทวงถามหนี้
ขณะที่ โทษทางอาญา หากมีบุคคลที่ฝ่าฝืน จะต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนในกรณีที่เป็นเรื่องการทวงหนี้อันเป็นเท็จ จะระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 3 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แต่หากเป็นเจ้าหน้าที่รัฐกระทำผิด จะระวางโทษไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ




อยุธยาฮือฮา! งูเห่าผสมจงอาง ออกมาเป็นสายพันธุ์นี้ น่ากลัวมาก[size=14.3000001907349px]มีชาวบ้านพบงูเห่าประหลาดผสมจากงูจงอางแถมดุมากๆ โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่อยุธยาจากการเปิดเผยจากคุณชัช ตลาดไท บอกว่า คุณลุงจำลอง ไตรรึก อายุ 58 ปี อดีตหมองูมีอาชีพจับงูเห่าขาย อยู่ที่ ต.ปากกราน อ.เมือง จ.พระนครศรีอยุธยา สามารถจับงูเห่าประหลาดขนาดใหญ่ได้ 2 ตัว หนีร้อนมาจากทุ่งนาเข้ามาหลบซ่อนตัวตามบ้านเรือนที่อากาศเย็นกว่า โดยจับขังรวมกันอยู่ในตู้ปลาหลังบ้าน

[size=14.3000001907349px]ตัวแรกเป็นงูเห่าประหลาดที่ผสมจากงูเห่าและงูจงอาง มีลำตัวยาวประมาณสัก 1 เมตร มีลำตัวสีเหลืองทองผิดกับงูเห่าทั่วไป ในตามันแวววาวและก็นิ่งแต่ดุร้าย

[size=14.3000001907349px]ส่วนอีกตัวเป็นงูเห่าขนาดใหญ่มีสีดำสนิทมีดอกบนตัวเป็นปล้องคล้ายกับงูจงอางลำตัวใหญ่แล้วก็ยาวเกือบ 2 เมตร มีนิสัยที่ดุร้ายกว่างูเห่าทั่วไป
ข้อมูลจาก: ครอบครัวข่าวสาม
ดูเพิ่มเติม ==> http://nisit.co/W9fZ

[url=]
[/url]
[url=][/url][url=]
[/url]
[url=][/url]








เบนซ์ ท่าทราย โดนรวบคาด่านสังขละบุรี หลังค้ายา-ขู่ฆ่าตำรวจ                                                                                                                   
                            ที่มา : http://hilight.kapook.com/view/117200
                                                            ตำรวจกาญจนบุรี รวบแล้ว "เบนซ์ ท่าทราย" พัวพันค้ายาเสพติด ขู่ฆ่าตำรวจ คาด่านสังขละบุรี ด้าน ผบ.ตร. เตรียมแถลง

          วันที่ 11 มีนาคม 2558 พล.ต.ต. กมลสันติ กลั่นบุศน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า ตำรวจภูธรภาค 7 สามารถติดตามจับกุมตัว "เบนซ์ ท่าทราย" หรือ นายอดิศักดิ์ ศรีสะอาด อายุ 26 ปี ผู้มีส่วนพัวพันค้ายาเสพติดรายใหญ่เครือข่ายประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งขู่ฆ่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี ได้แล้วเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา โดยจับกุมตัวได้ขณะหลบหนีอยู่ในพื้นที่รอยต่อระหว่างชายแดนไทย-พม่า อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี

          เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวมายังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม และในเวลา 12.30 น. พล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.ท. วีระพงษ์ ชื่นภักดี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 และตนเอง จะร่วมแถลงข่าวถึงรายละเอียดการจับกุม

          สำหรับ "เบนซ์ ท่าทราย" เมื่อปี 2550 ถูกจับกุมในคดีฆ่าผู้อื่น โดยมีชนวนเหตุมาจากการพัวพันยาเสพติด แต่เมื่อเรื่องถึงอัยการได้พิจารณาสั่งไม่ฟ้อง ต่อมาโดนจับในคดีจำหน่ายยาเสพติดอีก และเพิ่งพ้นโทษออกมาประมาณ 1 ปี หลังพ้นโทษ "เบนซ์ ท่าทราย" ย้ายไปพักอาศัยเป็นประจำที่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี แต่ยังคงวนเวียนไปที่บ้านเกิด จ.สุพรรณบุรี เพื่อซื้อขายยาเสพติด โดยมีผู้ร่วมเครือข่ายเชื่อมโยงหลายรายในพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี จ.นนทบุรี และใกล้เคียง รวม 13 คน ต่อมาได้มีภาพและข้อความปรากฏขู่ฆ่าตำรวจในพื้นที่ สภ.ศรีประจันต์ จนเจ้าหน้าที่ต้องสืบสวนสอบสวนติดตามจับกุมตัว                                                                        
                                                            

ปิดฉาก “เจาะใจ“ รายการทอล์คโชว์น้ำดี คู่คนไทยมา 24 ปี                                                            
                                                                                       
                            ที่มา : http://news.sanook.com/1761793/
                                                            นำเสนอข่าวโดยทีมงาน Sanook.com

หนึ่งในรายการวาไรตี้ทอล์คโชว์ชื่อดัง ที่สร้างสรรค์ผลงานคุณภาพ สำหรับ รายการ "เจาะใจ" ทางช่อง ททบ.5 ล่าสุดถึงเวลาต้องอำลาจอโทรทัศน์ หลังอยู่คู่กับคนไทยมาถึง 24 ปี ซึ่งเทปสุดท้ายจะออกอากาศในวันพฤหัสบดีที่ 12 มีนาคมนี้

เพจเฟซบุ๊กรายการ "เจาะใจ" ได้โพสต์ข้อความที่แชร์ต่อมาจาก หนุ่มเมืองจันท์ (สรกล อดุลยานนท์) หนึ่งในผู้ดำเนินรายการ ระบุว่า "การสิ้นสุดของสิ่งหนึ่ง คือ การเริ่มต้นของสิ่งใหม่ Johjai Never Die ขอบคุณทุกความงดงามของทีมงานเจเอสแอล และ รายการเจาะใจ ครับ"

ทั้งนี้ หลังกระแสข่าวอำลาจอของรายการ เจาะใจ ถูกเผยแพร่ออกไป มีแฟนรายการจำนวนมากรู้สึกตกใจกับงานเลี้ยงที่กำลังเลิกราครั้งนี้ หลายคนรู้สึกเสียดายวาไรตี้ทอล์คโชว์คุณภาพอีกหนึ่งรายการ ที่ต้องหายไปจากหน้าจอโทรทัศน์เมืองไทย

สำหรับ "เจาะใจ" เป็นรายการทอล์คโชว์ที่มุ่งเน้นสาระและสัมภาษณ์บุคคลที่มีแง่มุมที่ดีต่อสังคม "สัญญา คุณากร" เป็นพิธีกรดำเนินรายการที่เป็นสัญลักษณ์ของรายการนี้ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เคยมีผู้ร่วมดำเนินการรายการหลายท่าน ไม่ว่าจะเป็น ดำรง พุฒตาล, นารากร ติยายน, ปิติ ภิรมย์ภักดี, จอมขวัญ หลาวเพ็ชร์ หรือ สุวิกรม อัมระนันทน์ เป็นต้น และยังเคยได้รับรางวัลดีเด่นอย่างมากมาย                                                                        
                                                            

คงจะหาละครน้ำเน่าหาสาระไม่ได้มาลงแทน เฮ้อ
อึ้ง! โรงพยาบาลดัง นำคนป่วยขาขาดทิ้งโรงพัก
                                                                                                                   
                            ที่มา : http://www.springnews.co.th/local/193993
                                                            นายมานะ กุลธรรม อายุ 53 ปี ร้องกับผู้สื่อข่าวหลังถูกโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่งย่านสะพานควาย นำมาปล่อยตัวทิ้งไว้ที่ สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ

โดยนายมานะเผยว่า เมื่อวันที่ 28 มกราคมที่ผ่านมา ได้เข้ารับการรักษาอาการเบาหวานกับไตวายที่โรงพยาบาลแห่งนี้ ซึ่งแพทย์วินิจฉัยว่า อาการลุกลามไปมากจำเป็นต้องตัดขาซ้ายเพื่อรักษาชีวิต หลังผ่าตัดยังนอนรักษาตัวเป็นเวลากว่า 2 เดือน จนกระทั่งถูกทางโรงพยาบาลนำตัวมาทิ้งไว้ที่ สน.บางซื่อ โดยไม่ทราบสาเหตุ

ขณะที่ ร.ต.ท.สุนทร สมสุข พนักงานสอบสวนเวร ตำรวจนครบาลบางซื่อระบุว่า ทางโรงพยาบาลชี้แจงว่า ผู้ป่วยมีอาการดีขึ้น สามารถทำกายภาพบำบัดด้วยตนเองได้ จึงแนะนำให้กลับบ้าน แต่กลับพบว่าผู้ป่วยไม่มีญาติ จึงต้องนำมาส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ช่วยติดตามตัว ซึ่งตำรวจได้ประสานให้เจ้าหน้าที่ทหารรับตัวนายมานะเพื่อไปอยู่ในความดูแล และเตรียมส่งเข้ารักษาตัวเพิ่มเติมที่โรงพยาบาลพระมงกุฎต่อไปแล้ว

ทั้งนี้ สำหรับโรงพยาบาลดังกล่าว ผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อเพื่อขอทราบข้อเท็จจริง แต่ยังปฏิเสธที่จะให้ข้อมูล อย่างไรก็ตามมีรายงานว่า ก่อนหน้านี้ทางเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลได้เดินทางมาที่ สน.บางซื่อเพื่อชี้แจงกรณีดังกล่าว โดยระบุถึงสาเหตุพร้อมหลักฐานที่ต้องนำชายคนดังกล่าวมาไว้ที่โรงพักว่า ชายคนดังกล่าวก่อเหตุวุ่นวายภายในโรงพยาบาล ด้วยการกระทำอนาจารต่อธารกำนัล ซึ่งจะมีการแถลงข่าวอีกครั้งในวันนี้ (12 มี.ค.)                                                                        
                                                            

แพทย์ประจำตัว "หลวงพ่อคูณ" โต้ข่าวลือเกจิดังมรณภาพ ยืนยันเเข็งแรงดี                                   
                                                                                       
                            ที่มา : http://news.voicetv.co.th/thailand/178809.html
                                                            แพทย์ประจำตัว "หลวงพ่อคูณ" โต้ข่าวลือเกจิดังมรณภาพ ยืนยันเเข็งแรงดี ด้านลูกศิษย์ใกล้ชิด เผยสุขภาพเป็นไปตามอายุขัย ซึ่งยังออกมาพบกับญาติโยม ผ่านห้องปลอดเชื้อ ที่มีกระจกกั้นได้

กรณีตามที่มีผู้ไม่หวังดีนำภาพที่ระบุว่าเป็น พระเทพวิทยาคม หรือ หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา เกจิอาจารย์ชั้นผู้ใหญ่ที่มีศิษยานุศิษย์ญาติโยมเคารพศรัทธาทั่วประเทศ ละสังขารมรณภาพแล้วตั้งแต่เมื่อช่วงกลางดึก ของคืนที่ผ่านมา ถูกส่งไปตามโซเชียลเน็ตเวิร์ก นั้น

ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง นายแพทย์พินิศจัย นาคพันธุ์ หัวหน้าศูนย์โรคหัวใจและหลอดเลือด แพทย์ รพ.มหาราชนครราชสีมา ซึ่งเป็นเเพทย์ประจำตัวหลวงพ่อคูณ ทราบว่า เมื่อเวลา 06.00 น. วันนี้ (13 มี.ค.58) ตนพร้อมด้วยคณะแพทย์ รพ.มหาราชนครราชสีมา และ รพ.ด่านขุนทด ได้เดินทางไปยังวัดบ้านไร่ เข้าตรวจอาการของท่านตามปกติที่กุฏิวัดบ้านไร่ พบว่าอาการทั่วไปของหลวงพ่อยังคงที่ เหมาะกับวัยของผู้สูงอายุ ในวัย 91 ปี โดยตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 56 ที่ผ่านมา หลังจากหลวงพ่อออกจาก รพ.มหาราชฯ แล้วกลับไปอยู่ที่วัด ท่านก็มีอาการติดเชื้อทางเดินหายใจบ้าง แต่แพทย์ก็ได้ให้ยาปฏิชีวะ และสามารถคุมอาการได้

ส่วนการฉันอาหาร ยังคงให้ทางสายยางและท่านก็รับอาหารได้เป็นปกติ ณ วันนี้ ถือว่าอาการท่านดีขึ้นในระดับหนึ่ง ซึ่งทาง รพ. ทั้งสองแห่งได้จัดแพทย์และพยาบาลมาเฝ้าตรวจอาการของหลวงพ่ออย่างใกล้ชิดที่วัดตลอด 24 ชม. ซึ่งถ้าท่านมีอาการที่ผิดปกติ แพทย์ก็จะนำท่านส่งเข้ารักษาที่ รพ.มหาราชนครราชสีมาทันที

นายแพทย์พินิศจัย กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ปัจจุบันหลวงพ่อมีโรคประจำตัวคือ เบาหวาน รวมทั้งเคยเข้ารับการรักษาเส้นเลือดหัวใจตีบ ด้วยการทำบายพาสหัวใจถึง 5 เส้น และผ่านการผ่าตัดเส้นเลือดในสมองแตก และยังพบอาการถุงลมโป่งพอง ที่เกิดจากการสูบบุหรี่ ล่าสุดก็อาพาธด้วยวัณโรค แต่แพทย์ได้ทำการรักษาจนหายแล้ว แต่ก็ยังต้องให้ฉันยารักษาโรคต่างๆ อย่างต่อเนื่อง และอยู่ในความดูแลของแพทย์ พยาบาล และลูกศิษย์ อย่างใกล้ชิด ไม่ได้มีปัญหาอย่างที่เป็นข่าวลือเเต่อย่างใด

ด้าน นายสมบูรณ์ โสตถิอนันต์ หรือไก่โต้ง เลขานุการส่วนตัวหลวงพ่อคูณ และเลขานุการคณะกรรมการวัดบ้านไร่ กล่าวว่า ตนเองได้ดูภาพที่มีคนส่งทางไลน์เเล้วระบุว่าเป็นภาพหลวงพ่อคูณ มรณภาพนั้น แท้ที่จริงเป็นภาพของหลวงพ่อคำบุ จ.อุบลราชธานี ซึ่งไม่ใช่ภาพหลวงพ่อคูณแต่อย่างใด ตนยืนยันว่าหลวงพ่อยังมีสุขภาพดี ไม่ได้เป็นอะไรตามที่มีข่าวลือออกมา สามารถออกมาพบกับญาติโยมที่เดินทางมานมัสการผ่านห้องปลอดเชื้อที่มีกระจกกั้นเพื่อป้องกันการติดเชื้ออย่างดี โดยทุกวันหลวงพ่อจะออกจากห้องในช่วงเวลา 14.00-15.00 น. ข่าวลือเกี่ยวกับหลวงพ่อระยะนี้เกิดขึ้นมาเป็นระยะๆ ซึ่งตนก็ไม่ทราบว่าต้นตอมาจากไหน และคนปล่อยข่าวหวังผลอะไร อาจจะเป็นการสื่อสารที่คลาดเคลื่อนแล้วส่งต่อกันมาจนกลายเป็นข่าวลือ

นายสมบูรณ์ กล่าวต่อว่า ส่วนสุขภาพของหลวงพ่อคูณ ก็เป็นไปตามอายุขัยในวัย 91 ปี แต่ทางวัดก็ได้รับความกรุณาจาก รพ.มหาราชนครราชสีมา และ รพ.ด่านขุนทด จัดแพทย์และพยาบาลมาดูแลอาการท่านตลอด 24 ชม. ทุกวัน ถ้าศิษยานุศิษย์อยากทราบข้อเท็จจริงใดๆ ก็สามารถสอบถามกับทางวัดบ้านไร่ได้                                                                        
                                                            

ขอบคุณครับ
ป้าสังเวียน เครียดหนี้-จุดไฟเผาตัวเอง เสียชีวิตแล้ว                                                            

                                                                                       
                            ที่มา : http://news.sanook.com/1764761/
                                                            นำเสนอข่าวโดยทีมงาน Sanook.com

(17 มี.ค.) "ป้าสังเวียน" หญิงวัยกลางคนที่ก่อเหตุจุดไฟเผาร่างตัวเอง บริเวณหน้าศูนย์บริการประชาชน (ชั่วคราว) ฝั่งสำนักงาน กพ. ตรงข้ามทำเนียบรัฐบาล เมื่อเดือนตุลาคม 2557 ที่ผ่านมา ล่าสุุดได้เสียชีวิตลงแล้ว หลังจากที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสมา 5 เดือนเต็ม

ตามรายงานระบุว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.สามเสน ได้รับแจ้งจากโรงพยาบาลวชิระว่า นางสังเวียน รักษาเพ็ชร์ หรือ ป้าสังเวียน อายุ 52 ปี ได้เสียชีวิตลงแล้ว ตั้งแต่เมื่อคืนวานนี้ (16 มี.ค.) หลังจากที่เข้ารับการรักษาบาดแผลที่ถูไฟไหม้ตามร่างกาย ก่อนเสียชีวิต ป้าสังเวียน มีอาการทรุดหนักลงและสิ้นใจในที่สุด

ทั้งนี้ หลังจากการเสียชีวิตของป้าสังเวียน ทางญาติพี่น้องได้ติดต่อขอรับศพกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาที่บ้านเกิด จ.ลพบุรี โดยจะมีพิธีฌาปนกิจศพขึ้นในวันที่ 20 มีนาคมนี้ ส่วนปัญหาเรื่องหนี้สินที่ยังค้างคาอยู่ ยังไม่ทราบรายละเอียดว่าจบสิ้นลงไปหรือไม่

สำหรับกรณีของ ป้าสังเวียน สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2557 ได้บุกไปขอความช่วยเหลือเรื่องปัญหาหนี้สินที่ทำสัญญาเงินกู้ไว้ 400,000 บาท แต่เมื่อสมทบกับดอกเบี้ยในปัจจุบัน มูลค่าหนี้สินเพิ่มสูงเป็น 1,500,000 บาท ทำให้ ป้าสังเวียน เกิดความเครียดและหาทางออกไม่ได้ ตัดสินใจจุดไฟเผาตัวเองกลางสถานที่ราชการ กลายเป็นประเด็นข่าวโด่งดัง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพยายามประนีประนอมแก้ปัญหาเรื่องนี้ ส่วนทางเจ้าหนี้ก็มีทีท่าจะยกหนี้ให้ทั้งหมด                                                                        
                                                            

ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้