ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

มาติดตามข่าวสารต่างๆที่น่าสนใจกันครับ

[คัดลอกลิงก์]
ท่ามหาราช ที่เที่ยวริมเจ้าพระยาสุดชิคของคนรุ่นใหม่
                                                                                                                   
                            ที่มา : http://travel.kapook.com/view114655.html
                                                            ท่ามหาราช จุดนัดพบแห่งใหม่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ศูนย์กลางการท่องเที่ยวสุดชิคของในกรุงเทพฯ ที่ห้ามพลาด

          ได้ฤกษ์เปิดตัวกันไปแล้วสำหรับ "ท่ามหาราช" คอมมูนิตี้มอลล์สุดชิคของคนกรุงที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เรียกว่าบรรยากาศนั้นชวนให้ควงแขนกันมาดื่มด่ำกับวิวสวย ๆ ช้อปเพลิน ๆ หรือกินดื่มสุดชิลตรงตามคอนเซ็ปต์ Riverside Eatery, Urban Oasis, Art & Culture Market หรือศูนย์กลางการท่องเที่ยวที่อุดมไปด้วยศิลปะ และมรดกทางวัฒนธรรมของชุมชน อีกทั้งยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวให้คนกรุงมาสัมผัสบรรยากาศดี ๆ เพื่อเติมความสดชื่นให้กับชีวิต นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งร้านอาหารอร่อยที่มีประวัติอันยาวนานมากมายด้วย เรียกว่าเป็นสถานที่ซึ่งเต็มไปด้วยกลิ่นอายของวิถีชุมชนในอดีตในขณะเดียวกันก็ไม่ลืมที่จะผสมผสานความน่าสนใจเพื่อให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ด้วย

          ใครที่อยากพักกายพักใจในช่วงวันหยุดหรือระหว่างสัปดาห์ก็เดินทางกันมาได้ที่ท่ามหาราช และสามารถสอบถามข้อมูลหรือติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.thamaharaj.com/ และเฟซบุ๊ก Tha Maharaj หรือโทรศัพท์ 02-8663163-4, 090-9265265
การเดินทาง : สามารถเดินทางได้ทั้งเรือ, รถยนต์, รถไฟฟ้าบีทีเอส และรถเมล์ ดังนี้

          เรือด่วนเจ้าพระยา ธงเขียว ส้ม แดง เหลือง มาลงท่าพรานนก/วังหลัง (N10) แล้วนั่งเรือข้ามฟากจากท่าวังหลัง มา ท่าวัดมหาธาตุ หรือเรือด่วนเจ้าพระยา ธงเขียว หรือส้ม ลงที่ท่าช้าง (N9) และเดินมาท่ามหาราช หรือนั่ง Chao Praya Tourist Boat (CTB) ธงฟ้า มาลงท่ามหาราช

          รถส่วนตัว จากถนนราชดำเนิน เลี้ยวซ้ายตรงมาเข้าท้องสนามหลวงก่อนขึ้นสะพานพระปิ่นเกล้า เลี้ยวขวาเข้าถนนหน้าพระลาน ผ่านพระบรมมหาราชวัง และเลี้ยวขวาเข้าถนนมหาราช ท่ามหาราชจะอยู่ทางซ้ายมือ

          รถไฟฟ้า BTS ลงที่สถานีตากสิน (S6) ต่อเรือด่วนเจ้าพระยาที่ท่าเรือสาทร (ธงแดง เหลือง เขียว ส้ม) ลงท่าพรานนก/วังหลัง (N10) หรือ ท่าช้าง (N9) และ เรือท่องเที่ยวเจ้าพระยา (CTB) มาลงท่ามหาราช

          รถโดยสารประจำทาง ลงหน้าท่ามหาราช สาย 32, 53, 124, 203, 201, ปอ.32, ปอ.524                                                                        
                                                            

kit007 ตอบกลับเมื่อ 2015-3-17 21:35
ป้าสังเวียน เครียดหนี้-จุดไฟเผาตัวเอง เสียชีวิตแล้ว  ...

เวรกรรม ในสังคมไทยและความเป็นจริง การเข้าถึงระบบการเงินที่ถูกต้องของคนที่มีรายได้น้อย ยากมาก พวกเขาจึงไม่มีทางเลือก ที่ต้องพึงพา เงินนอกระบบ ที่แพงงสุดๆ
ระทึก! กลุ่มบิ๊กไบค์นับร้อย บุกโรงพักหนองขาม ร้องความยุติธรรมให้นเรศ โรจน์บุนส่งศรี
กลุ่มบิ๊กไบค์นับร้อย บุกโรงพักหนองขาม ร้องความยุติธรรมให้นเรศ โรจน์บุนส่งศรี หลังเสียชีวิตจากการถูก จนท. ยิงขณะขับรถแหกด่าน
เกิดเป็นที่ฮือฮาในโลกออนไลน์ในขณะนี้ เมื่อเพจ @เรื่องจริงยิ่งกว่านี้อีก ได้มีการโพสต์ภาพและข้อความของกลุ่มขับขี่บิ๊กไบค์หลายร้อยคัน พร้อมด้วยประชาชนจำนวนมากรวมตัวกันไปปิดโรงพักหนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับนายนเรศ โรจน์บุนส่งศรี คนขับรถจักรยานยนต์นินจา ผู้ซึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้อาวุธปืนยิง หลังได้ขับขี่แหกด่านตรวจ เมื่อช่วงคืนของวันที่ 14 มี.ค. 58 ที่ผ่านมา ก่อนจะเสียชีวิตลงเมื่อช่วงเช้าวานนี้
ซึ่งการรวมตัวดังกล่าว ผู้โพสต์ระบุว่า เป็นการเรียกร้องความเป็นธรรมของประชาชนเพื่อให้ตำรวจชั้นผู้ใหญ่ออกมาเจรจา และแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุที่เกิดขึ้น ทั้งนี้หลังจากที่กลุ่มบิ๊กไบค์ไปถึง กลับไม่มีเจ้าหน้าที่อยู่ที่โรงพักรับเรื่องร้องทุกข์แม้แต่คนเดียว อย่างไรก็ดีเมื่อภาพดังกล่าวได้เผยแพร่ออกไปทำให้มีคนเข้าไปแสดงความเห็น โดยส่วนใหญ่เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจออกมาไขข้อสงสัยในประเด็นดังกล่าว พร้อมทั้งแชร์ภาพและคลิปออกไปไปยังโลกออนไลน์เป็นจำนวนมาก
ส่วนความคืบหน้าในคดีนั้น ทางแพทย์หญิง คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ได้รับเรื่องไว้แล้วหลังจากทางญาติได้ร้องขอให้นำศพไปผ่าพิสูจน์ และในวันพฤหัสบดีนี้จะมีความกระจ่างมากยิ่งขึ้น
: ข่าวจังหวัดชลบุรี, ตำรวจยิงประชาชน, นเรศ โรจน์บุนส่งศรี, บิ๊กไบค์
อ่านแล้ว : 620 ครั้ง
ติดต่อทีมข่าว : news@mthai.com
ข่าวด่วนถึงมือคุณ MThai SMS News ทันทุกเหตุการณ์ ไม่พลาดทุกข่าวร้อน
สนใจรับข่าว AIS กด *482590800 แล้วโทรออก True และ DTAC กด *4825908 แล้วโทรออกอัตราค่าบริการเพียง 29 บาท/เดือน เท่านั้น







มาอีก ตำรวจ สภ.หนองขาม เมาซิ่งเสยเก๋ง ไม่โดนเป่าแอลกอฮอล์                                                                                                                   
                            ที่มา : http://hilight.kapook.com/view/117633
                                                            ชาวเน็ตแชร์วีรกรรม ตำรวจ สภ.หนองขาม อีก รอบนี้เมาแอ๋ขับกระบะรถเสยท้ายเก๋งพังยับ แต่ไม่โดนเป่าแอลกอฮอล์ ด้านร้อยเวรอ้าง เครื่องเป่าเสีย กำลังส่งซ่อม

            เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2558 ที่ผ่านมา เพจเฟซบุ๊กชื่อ มีด่าน บอกด้วย @ชลบุรี  ได้แชร์ข้อความจากผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Aekchai Mannan  ซึ่งได้โพสต์ภาพเหตุการณ์อุบัติเหตุรถชนกันพร้อมระบุข้อความว่า...

            "เหตุเกิด เวลา 21.45 น. ของวันที่ 16 มีนาคม 2558 ที่ผ่านมา บริเวณ สามแยกบางแสน ขาเข้าตลาดหนองมน ได้มีรถยนต์ toyota yaris สีดำ ทะเบียน กบ 5030 นครปฐม จอดติดไฟแดงอยู่ และได้มี รถยนต์ isuzu 4 ประตู สีดำ ทะเบียน กน 6382 ชลบุรี ชนท้าย รถที่จอดติดไฟแดงอยู่อย่างจัง โดยไม่มีร่องรอย ของการเบรก แม้แต่นิดเดียว จึงทำให้รถคันหน้าได้รับความเสียหายอย่างหนัก และผู้ที่ขับ รถ isuzu มีอาการ เมาคุยไม่รู้เรื่อง ไม่ยอมลงมาจากรถ จึงแจ้งไปยัง ร้อยเวร ท้องที่ สภ. อ.แสนสุข สืบทราบภายหลัง ผู้ขับขี่ คือ ดาบตำรวจ สุพรร ชำนิจ (ดาบยัก) สังกัด สภ. อ.หนองขาม มีที่สภาพเมา จนพูดไม่รู้เรื่อง (แต่ร้อยเวร ไม่ได้ทำการ เป่าแอลกอฮอล์ เพราะอ้างว่าเครื่องเป่าเสียส่งไปซ่อมและไม่ไปตรวจเลือด เพราะอ้างว่าต้องได้รับความยินยอมจากคู่กรณีก่อน ไม่เช่นนั้นจะเป็นการทำร้ายร่างกาย)

            นอกจากนี้ ผู้ใช้งานเฟซบุ๊กรายดังกล่าวยังทิ้งท้ายอีกว่า "ลองคิดกลับกันดู ถ้าเป็นเราอยู่ในสภาพนั้นป่านนี้ คงต้องไปนอนในคุกแล้ว อีกอย่างหนึ่งก็คือการที่ตำรวจ ตั้งข้อหาแค่ขับรถประมาท ทำให้ผู้อื่นได้รับความเสียหาย แค่นั้นมันพอเหรอครับ ประชาชนอย่างเราทำอะไรไม่ได้มากกว่า เรียกประกัน ลงชื่อใน บันทึกประจำวัน แค่นั้นเหรอครับ ตอบที"

            ซึ่งในขณะนี้ สภ.หนองขาม กำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์จากสังคมอย่างหนัก จากกรณีที่ นายนเรศ โรจน์บุญสงศรี วัย 40 ปี ได้ขับรถบิ๊กไบค์ ฝ่าด่านตรวจของ สภ.หนองขาม ก่อนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงเข้าที่ศีรษะ ได้รับบาดเจ็บสาหัส และได้รับการรักษาตัวโรงพยาบาลวิภารามแหลมฉบัง เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2558 ที่ผ่านมา ก่อนถูกย้ายไปรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลพญาไท ศรีราชา จนกระทั่งเสียชีวิตลงในวันที่ 16 มีนาคม 2558 ทำให้ชาวบ้านและผู้ขับขี่บิ๊กไบค์ไม่พอใจเป็นอย่างมากและได้ออกมารวมตัวเพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรมจากทางตำรวจเพราะมองว่าเหตุการณ์ดังกล่าวตำรวจทำเกินกว่าเหตุ                                                                        
                                                            

ฉาวอีก! ตร.มือยิงหนุ่มบิ๊กไบค์ดับ เจอเมาแล้วขับอีกข้อหาดูเพิ่มเติม ==> http://nisit.co/WfVF


ที่มา มติชน
ตั้งข้อหาเพิ่ม ด.ต.สุพรรณเมาแล้วขับ พ่วงยิงหนุ่มใหญ่ขับบิ๊กไบค์ดับ ยันให้ออกจากราชการ กลุ่มบิ๊กไบค์เตรียมรวมตัวพื้นที่ จ.ชลบุรี 21 มีนาคม 3 จุดใหญ่แสดงความอาลัย

เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 19 มีนาคม ที่กองบังคับการตำรวจภูธร จ.ชลบุรี น.ส.เฉลิมขวัญ บุญปั่น อายุ 29 ปี พนักงานห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลชลบุรี บ้านเดิมอยู่ที่ 88/14 หมู่ 2 ต.หนองอ้อ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ชูเกียรติ ตรีเพ็ชร พนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ สภ.แสนสุข อ.เมือง จ.ชลบุรี ในฐานะพยานและผู้เสียหายจากกรณีที่ ด.ต.สุพรรณ ขำนิจ สังกัด สภ.หนองขามได้ขับรถกระบะอีซูซุ 4 ประตู สีดำ ทะเบียน กน 6382 ชลบุรี ชนท้ายรถโตโยต้า ยาริส สีดำ ทะเบียน กบ 5030 นครปฐม ของ น.ส.เฉลิมขวัญ ที่บริเวณสามแยกไฟแดง ถนนสุขุมวิท ทางลงชายหาดบางแสน อ.เมือง จ.ชลบุรี เมื่อคืนวันที่ 16 มีนาคม ที่ผ่านมาซึ่งตำรวจได้ตั้งข้อหาเมาแล้วขับ หลังจากนั้นจะส่งฟ้องศาลให้พิจารณาอีกครั้งหนึ่ง ตามพยานหลักฐานที่ปรากฏ

น.ส.เฉลิมขวัญ บุญปั่น กล่าวว่า ในวันเกิดเหตุตนจอดรถติดไฟแดงได้ประมาณ 1 นาที ด.ต.สุพรรณ ได้ขับรถชนท้าย ทำให้เกิดความเสียหาย และไม่ยอมลงจากรถ แต่รอจนกระทั่งร้อยเวรมาถึงจึงได้ออกจากรถ หลังจากนั้นได้ให้ตำรวจขับรถไป สภ.แสนสุข จึงได้พยายามให้ตำรวจตรวจวัดแอลกอฮอล์ แต่ตำรวจยืนยันว่าเครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์ส่งไปซ่อม จึงให้ตำรวจส่งเลือดไปตรวจที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยบูรพา แต่ตำรวจไม่รู้ว่าตำรวจดำเนินการหรือไม่ เพราะตนเดินทางกลับก่อน

ต่อมา นายกิตติ์ฤทธิธรรม หรือตู๋ แสวงหาทรัพย์ ตัวแทนของกลุ่มบิ๊กไบค์ ได้นำพยานคนสำคัญที่เห็นเหตุการณ์คือ น.ส.ปวิณา ศรียังคะบุตร อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 218/1 หมู่ 11 ต.ทุ่งสุขลา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เข้าพบ พล.ต.ต.นิติพงศ์ เนียมน้อย ผบก.ภ.จ.ชลบุรี เกี่ยวกับคดีที่ ด.ต.สุพรรณ ขำนิจ ผบ.หมู่.สภ.หนองขาม ได้ใช้อาวุธปืนยังนายนเรศ โรจน์บุณส่งศรี อายุ 40 ปี ทำงานบริษัท ยูนิไทยชิปยาร์ด แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด ขี่รถจักรยานยนต์ คาวาซากิ รุ่นนินจา สีส้มดำ หมายเลขทะเบียน 1 กณ 5906 ชลบุรี เข้าที่บริเวณขมับซ้ายเสียชีวิต ช่วงที่มีการตั้งจุดตรวจที่บริเวณสะพานห้วยเล็ก หมู่ 11 ต.หนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เมื่อเวลา 22.00 น.วันที่ 14 มีนาคมที่ผ่านมา

หลังจากนั้น พล.ต.ต.นิติพงศ์ กล่าวว่า คดีดังกล่าวได้มีการตั้งคณะกรรมการระดับจังหวัดขึ้นมา เพื่อสร้างความโปร่งใสและเป็นธรรม หลังจากนั้นได้มีการตั้งข้อหาฆ่าคนตาย และได้มีคำสั่งให้ออกจากราชการ พร้อมทั้งดำเนินการทางวินัย ซึ่ง ด.ต.สุพรรณได้รับทราบข้อกล่าวหาแล้ว ส่วนการสอบปากคำพยานได้ให้การว่าเห็น ด.ต.สุพรรณยิงคนเดียว

อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการที่ตั้งขึ้นมาจะดำเนินการสอบสวนเพื่อหาข้อเท็จจริงต่อไป และปืนของกลางเจ้าของคดีได้ยึดไว้ตรวจสอบแล้ว การเยียวยาผู้ตายนั้นมีแน่นอนและกฎหมายได้กำหนดไว้แล้ว

ด้าน นายกิตติ์ฤทธิธรรม แสวงหาทรัพย์ กล่าวว่า ช่วงแรกที่เกิดเหตุรับไม่ได้ ตำรวจติดภาพลบมากๆ เกรงว่าเรื่องจะเงียบจึงได้ออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องขอความเป็นธรรม เมื่อได้รับคำชี้แจงจาก พล.ต.ต.นิติพงศ์ ก็ทราบถึงการทำงานของตำรวจ ทำให้สบายใจขึ้น และจะได้ชี้แจงกับพรรคพวกให้เข้าใจต่อไป

ส่วนการรวมตัวเพื่อไว้อาลัยนายนเรศ โรจน์บุณส่งศรี วันที่ 21 มีนาคมนั้นในพื้นที่ จ.ชลบุรีจะรวมกันทั้งหมด 3 จุดคือ ที่เกิดเหตุ สำนักงานตำรวจภูธรภาค 2 และเกาะลอย อ.ศรีราชา ซึ่งจะดำเนินการด้วยความสงบเรียบร้อย ในช่วงเวลา 16.00 น.วันเดียวกันร่างของ นายนเรศ โรจน์บุณส่งศรี ผู้เสียชีวิตได้นำมาประกอบพิธีกรรมทางศาสนาที่วัดเนินบุญญาราม (วัดต้นมะม่วง) บ้านห้วยเล็ก ต.ทุ่งสุขลา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี

โดยมี นางจินดา ถนอมรอด นายกเทศมนตรีนครแหลมฉบังเป็นประธานในการรดน้ำศพ พร้อมกับนายสันติ ศิริตันหยง รองนายกเทศมนตรีนครแหลมฉบัง นายอำพล บุญชอบ รองนายก อบจ.ชลบุรี เพื่อนร่วมงาน บริษัท ยูนิไทยชิปยาร์ด แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด และญาติพี่น้องมาร่วมงานประมาณ 100 คน โดยจะมีการสวดพระอภิธรรมศพจนถึงวันที่ 22 มีนาคมและประชุมเพลิง
ข้อมูลจาก:

ดูเพิ่มเติม ==> http://nisit.co/WfVF



สาว จ.ตรัง ขนลุก!! เจ้าของที่เข้าฝันบอกตำแหน่งที่อยู่ และนี่คือสิ่งที่เขาเจอ
ดูเพิ่มเติม ==> http://nisit.co/Wf68


ที่มา ข่าวส
เมื่อวันที่ 19 มี.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นางอรทิภา เทพชู ประธานสาขาพรรคประชาธิปัตย์ เขตอำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง ว่า มีชาวบ้านพื้นที่ หมู่ที่ 2 ตำบลปากคม อำเภอห้วยยอด ได้ขุดพบเรือโบราณอายุนับร้อยปี ที่บริเวณคลองนุ้ย หรือคลองห้วยยอด ติดแม่น้ำตรัง จึงเดินทางไปตรวจสอบ โดยการเดินทางต้องเดินเท้าจากสวนยางพาราของชาวบ้านเข้าไปที่คลอง เพราะไม่สามารถนำยานพาหนะเข้าไปได้ เป็นระยะทางประมาณ 300 เมตร และต้องเดินลงในลำคลองที่มีระดับน้ำตื้นเขินต่อไปอีกประมาณ 50 เมตร จึงพบเรือลำดังกล่าวตามที่ได้รับแจ้ง ซึ่งมีชาวบ้านหลายสิบคนที่ทราบข่าวต่างเดินทางมาดู เพราะเรือลำนี้มีลักษณะที่แปลกตากว่าเรือที่เคยพบเห็นโดยทั่วไป

จากการสอบถาม นายเอี่ยม บุญรุ่ง อายุ 62 ปี อยู่ หมู่ 4 ตำบลปากคม อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง ผู้พบเรือลำนี้เป็นคนแรก เล่าว่า เมื่อวันที่ 14 มี.ค. ที่ผ่านมา ตนได้มาหาลูกปลาใกล้กับคลองนุ้ย แต่สังเกตเห็นวัตถุคล้ายตอไม้โผล่ขึ้นมาเหนือน้ำ เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงหน้าแล้ง ปริมาณน้ำในคลองลดลงจึงสังเกตเห็นได้ง่าย ตอนแรกคิดว่าเป็นตอไม้ธรรมดา จึงลองโยกดู ปรากฏว่า เห็นส่วนของลำเรือโผล่ขึ้นมาอีก จึงเรียกให้น้องชายมาดู แต่ก็ยังไม่ได้มีการขุดในทันที

นายเอี่ยม เล่าต่อว่า หลังจากวันนั้น ตนได้ไปเล่าให้ชาวบ้านฟังว่า ได้พบเรือโบราณที่บริเวณริมคลอง และยังพูดทีเล่นทีจริงว่า เป็นเรือสมัยโบราณ สมัยนางแก้วน้าม้า ในวรรณคดีไทย ทำให้มีบุคคลที่ให้ความสนใจได้ชักชวนกันมาขุดดู และใช้เวลากว่า 8 ชั่วโมง จึงพบว่าเป็นเรือโบราณจริง และมีลักษณะที่แปลกตากว่าที่เคยพบเห็น โดยสภาพเรือเป็นไม้สีดำ ซึ่งน่าจะทำด้วยไม้ตะเคียน และใช้ไม้ใหญ่ 5 ชิ้นในการประกอบเรือ

ทั้งนี้ ยังคงความสมบูรณ์เกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะไม่มีการใช้ตะปูหรือวัสดุในการเชื่อมติดเหมือนอย่างที่ปัจจุบันทำกัน อีกทั้งหากสังเกตดูที่ท้ายเรือจะพบว่า มีการแกะสลักรูปลายกนกไว้ด้วย แต่เนื่องจากอายุของเรือน่าจะหลายสิบหรือเป็นร้อยปีมาแล้ว จึงทำให้ลายดูจางลงไป

นอกจากนั้น ยังพบวัตถุคล้ายเศษหม้อดินหลายชิ้น ในจุดที่ขุดพบเรือลำนี้ด้วย สามารถวัดความยาวของเรือได้ 7.65 เมตร ท้องเรือกว้าง 1.20 เมตร นายเอี่ยม ยังกล่าวอีกว่า ในอดีตคนเฒ่าคนแก่ได้เล่าต่อๆ กันมาว่า คลองนุ้ย เคยใช้เป็นเส้นทางการค้า และหากลงไปไกลจากบริเวณดังกล่าวอีก ก็จะเป็นท่าเรือ หรือภาษาท้องถิ่นเรียกว่า คม จึงเป็นที่มาของตำบลปากคม ส่วนเรือลำนี้ ได้ปรึกษากันว่า จะนำไปไว้ที่วัดควนไทร เพื่อให้คนรุ่นหลังได้มีโอกาสชมความสวยงาม และความแปลกตาของเรือลำดังกล่าวนี้ต่อไป

ด้าน นางรัตน์ รักษาศรี อายุ 43 ปี อยู่ หมู่ที่ 2 ตำบลปากคม อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง กล่าวว่า ตนมีบ้านอยู่ใกล้กับจุดที่พบเรือลำนี้ และก่อนหน้านี้ในช่วงสิ้นปีที่แล้ว ตนเคยฝันว่ามีชายชราผมยาวนุ่งขาวห่มขาวมายืนอยู่ที่กระท่อม และได้บอกกล่าวกับตนว่า เป็นเจ้าของที่ดินตรงนี้ เมื่อตื่นจากฝันก็ได้เล่าให้สามีฟัง และเชื่อว่าเหตุการณ์ในฝันของตน น่าจะเป็นลางบอกเหตุเกี่ยวข้องกับที่มีผู้มาพบเรือลำนี้
ข้อมูลจาก:

ดูเพิ่มเติม ==> http://nisit.co/Wf68

แพทย์สวนดอกโต้แมลง Sand Fly กัดคนป่วยอื้อไม่จริง                                                            
                           
                                                                                       
                            ที่มา : http://news.sanook.com/1766793/
                                                            จากกรณีที่โลกออนไลน์มีการเผยแพร่ภาพและข้อมูลว่า แพทย์จากโรงพยาบาลสวนดอก หรือ โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ออกมาเตือนให้ประชาชนระวังแมลง Sand Fly หรือ แมลงริ้นฝอยทรายกัด แล้วจะทำให้เกิดรอยแผลบนผิวหนังดูน่ากลัว โดยที่เชียงใหม่พบป่วยแล้วกว่า 20 รายนั้น

ล่าสุด คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และทางโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ได้ชี้แจงกรณีดังกล่าวว่า ยังไม่มีผู้ป่วยเข้ารับการรักษาจากอาการดังกล่าวตามที่มีการเผยแพร่

ทั้งนี้ อาการดังกล่าวพบในผู้ป่วยที่ส่วนใหญ่จะไปทำงานในประเทศแถบตะวันออกกลาง ซึ่งต่อมามีผู้พบเชื้อในประเทศไทย ทางภาคใต้ ภาคกลาง และภาคอีสาน โดยช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ภาคเหนือมีรายงานพบผู้ป่วยใน จ.น่าน เชียงราย ลำพูน และเชียงใหม่ ซึ่งพาหะของโรคนี้เป็นแมลงจำพวกริ้นที่ไปกัดสัตว์ประเภทฟันแทะแล้วนำเชื้อมาถ่ายทอดสู่คน

อย่างไรก็ตาม แม้โรคนี้จัดว่าเป็นโรคที่อันตรายแต่ในประเทศไทยพบผู้ป่วยน้อยมาก และมีโอกาสที่จะแพร่ระบาดติดต่อกันได้ยาก เนื่องจากองค์ประกอบของการแพร่ระบาดมีเยอะมาก ดังนั้น จึงขอให้ประชาชนที่ทราบข้อมูล อย่าหวาดกลัวและอย่าหลงเชื่อข้อมูลที่ได้มีการเผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์ เพราะเป็นข้อมูลที่นำเสนอคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง                                                                        
                                                            

"ชูวิทย์" โพสต์ FB ฉะ "พุทธะอิสระ" พระผู้โปรดสัตว์? บอกไปสอนเด็กวัดตัวเองให้ดีก่อน  
                           
                                                                                       
                            ที่มา : http://news.voicetv.co.th/thailand/181896.html
                                                            'ชูวิทย์  โพสต์ เฟซบุ๊ก ฉะ 'พุทธะอิสระ'   พระผู้โปรดสัตว์?  - บอกไปสอนเด็กวัดตัวเองให้ดีก่อน

นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย ได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊คส่วนตัว "ชูวิทย์ I'm No.5"  โดยระบุข้อความดังนี้


พระผู้โปรดสัตว์?
ผมเห็นพุทธะอิสระพร่ำเพ้อว่าจะไม่ให้มีนักการเมืองเลว ประชาชนจะอยู่ดีกินดี ไม่มีคอรัปชั่นโกงกิน ปัญหาพระมั่วสีกา เอาเงินเข้าย่ามจะหมดไป โดยชี้ที่ตัวเองว่า "ฉันนี่แหละ จุติมาเพื่อเป็นผู้เสียสละ โปรดสัตว์แก่มนุษย์บาปหนาทั้งหลาย"

เป็นเสมือนโลกของ "พระศรีอริยเมตไตรย" ไม่ใช่โลกของปุถุชนคนเดินดินกินข้าวแกงอย่างเราๆท่านๆ
พุทธะอิสระเที่ยวแสดงปาฏิหาริย์ อวดอุตริ เทศนา ยกตนข่มท่านผ่านเฟสบุ๊คเสียยืดยาวอยู่อย่างนี้ จำเป็นที่คนอย่างชูวิทย์มนุษย์มีกิเลสที่ยังอยู่บนโลกของความเป็นจริง ต้องออกมาชี้แจงให้สังคมคนกลางเข้าใจ (จริงๆคงเข้าใจอยู่แล้ว)

พุทธะอิสระพยายามสร้างแบรนด์ว่าเป็น "พระดี" ที่จะมาปราบเหล่าอธรรม ทั้งที่แค่ให้พุทธศาสนิกชนทั่วไปศรัทธาตัวเองยังทำไม่ได้ เมื่อเที่ยวไปเข้าข้างขั้วการเมือง สนับสนุนพรรคบางพรรค หอบผ้าเหลืองร่วมขบวน ใช้ ว. สั่งการ สร้างความวุ่นวาย ปิดถนน ขวางเลือกตั้ง ชาวบ้านไม่รู้อิโหน่อิเหน่ตกเป็นเหยื่อถูกทำร้าย ฟอกตัวเองเป็นศูนย์กลางจักรวาล โดยบอกว่าฝั่งตัวเองถูกหมด ผู้ที่คิดไม่เหมือนตัวเองผิดหมด


นี่น่ะหรือคือ ผู้มาโปรดสัตว์?

พุทธะอิสระคิดว่าตัวเองเป็นใคร ที่จะมาบังคับให้คนเดินตามรอย ในเมื่อพฤติกรรมในอดีตสร้างความเดือดร้อนและบาดแผลให้กับประชาชนอย่างบาดลึก


สังคมสามารถตัดสินได้ว่า ใครดีใครเลว โดยใช้กฎหมายเป็นเครื่องวัด ไม่ใช่ให้พระหลงวัดมาเป็นตาช่าง เพราะแม้แต่คดีความของตัวเองยังคาอยู่ที่ศาล รอให้พิพากษาก่อนจะเป็นไร

อย่าสั่งสอนให้คนอื่นเขาเชื่อเลย แค่สั่งสอนเด็กวัดของตัวเองให้ได้ดีเสียก่อนเถิด                                                                        
                                                            

แทบอ้วก! เจอตะขาบหมกอยู่ในราดหน้า ร้านชื่อดัง
                           
                                                                                       
                            ที่มา : http://news.mthai.com/hot-news/social-news/432126.html
                                                            แทบอ้วก! เจอตะขาบหมกอยู่ในราดหน้า ร้านชื่อดัง

ชาวสังคมออนไลน์ได้มีการแชร์กระทู้จากเว็บไซต์พันทิป โดยสมาชิกชื่อคุณ I_Tim Candy โดยเผยว่าเพื่อนของตนได้ซื้อราดหน้ามาฝากจากร้านชื่อดังแห่งหนึ่งที่มีหลายสาขา เมื่อเทราดหน้าลงในจานระหว่างที่กินก็พบบางอย่างผิดปกติ จึงเขี่ยดูพบว่าเป็นตะขาบตัวใหญ่ เห็นดังนั้นจึงกินไม่ลงแล้วไปอาเจียนออกมาหมดหลังจากนั้นจึงได้ถ่ายภาพแล้วนำไปให้เจ้าของร้านดู ซึ่งเจ้าของร้านได้ขอโทษและคืนเงินเป็นจำนวน45บาทค่าราดหน้าที่ซื้อไป โดยเหตุการณ์นี้ตนไม่ได้ต้องการ ดิสเครดิตร้าน หรือต้องการไรมากกว่ถ้าเป็นตนเป็นคนกินผักอาจจะเผลอกินตะขาบตัวนี้เข้าไปแน่ๆ ซึ่ง ณ ตอนนี้ ร่างกายน่าจะปกติ ส่วนจิตใจไม่ต้องพูดถึง ถึงขั้นหาข้อมูลเพิ่มว่ากินตะขาบแล้วจะเป็นไรไหม เพราะเกรงว่าอาจจะได้รับพิษที่ติดมาด้วย                                                                        
                                                            

ขอบคุณสำหรับข่าวสารนะครับ
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้