ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

มาติดตามข่าวสารต่างๆที่น่าสนใจกันครับ

[คัดลอกลิงก์]
หนุ่มวิศวกรหาปลากลางดึกพบลูกแก้ว เชื่อเป็นของพญานาค-กรมศิลป์ ยังไม่สรุป



(27 ก.พ.) ชาวบ้านในหมู่บ้านสันบุญเรือง ม.4 ต.ปงยางคก อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง รวมถึงหมู่บ้านใกล้เคียงในพื้นที่ ต.ปงยางคก ได้แห่พากันไปดูลูกแก้วประหลาด ที่มีผู้นำเข้ามาที่บ้านเลขที่ 53/1 บ้านสันบุญเรือง ม.4 ต.ปงยางคก อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง ซึ่งเป็นบ้านของ นางอามร โภยะโล อายุ 60 ปี
ทั้งนี้ ชาวบ้านมีความเชื่อว่า เป็นลูกแก้วศักดิ์สิทธิ์ของพญานาคราชในแม่น้ำวัง มีน้ำหนักมาถึง 10.2 กิโลกรัม ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 16 เซนติเมตร จะเป็นลูกแก้วที่เป็นลักษณะใสขุ่น เมื่อมีการส่องไฟกระทบจะเป็นแสงวนอยู่ข้างในลูกแก้ว
สำหรับลูกแก้วลูกนี้ นายพีระพันธ์ โภยะโล อายุ 34 ปี เป็นวิศวกรอยู่ที่โรงงานเซรามิกแห่งหนึ่งใน จ.ลำปาง โดยเป็นบุตรชายของ นางอามร เล่าว่า เมื่อคืนของวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ตนพร้อมด้วยหลานชาย ได้ไปหาปลาที่แม่น้ำวัง หาปลาได้สักพักก็พบปลาช่อนตัวใหญ่ และยาวประมาณครึ่งเมตรว่ายดิ้นอยู่ แต่ปรากฏว่าปลาตัวดังกล่าวได้ว่ายดิ้นหนีไปอย่างรวดเร็วในจุดที่น้ำลึก แต่สิ่งที่ตนพบคือแสงกระทบลูกแก้วที่โผล่ขึ้นมาจากพื้นทรายก้นแม่น้ำวัง
จากนั้นตนจึงได้เรียกหลานชายมาช่วยกันเขี่ยทรายที่ถมลูกแก้วดังกล่าวแต่ไม่สามารถยกขึ้นมาได้ จึงได้ยกมือไหว้ขอว่าอยากที่จะเอาขึ้นมาไว้ที่บ้านเพื่อกราบไหว้บูชา เมื่อไหว้เสร็จ ก็ทำการเขี่ยทรายที่ล้อมถมลูกแก้ว ก่อนที่จะยกขึ้นได้สำเร็จ จึงรีบนำกลับมาบ้าน เพื่อใส่พานไว้บูชาจนโดยตนก็มาทราบว่า ชาวบ้านได้ไปถามทรงเจ้า ทราบว่า เป็นลูกแก้วของพญานาคราช หรือพญานาค ในแม่น้ำวัง ที่จะให้ลูกแก้วขึ้นมาให้ชาวบ้านได้เห็น และกราบไหว้บูชา และจะให้โชคลาภ 2 งวด
ทั้งนี้ หลังจากที่ข่าวพบลูกแก้วประหลาดที่บ้านหลังดังกล่าวแพร่สะพัดออกไป เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ มีเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญจากสำนักศิลปากรที่ 7 น่าน กรมศิลปากร เดินทางมาที่บ้านหลังดังกล่าว มาดูว่า เป็นลูกแก้วใด และสอบถามข้อมูลการพบลูกแก้วดังกล่าว ในเบื้องต้นที่เดินทางมาดูยังไม่สามารถระบุได้ว่า เป็นลูกแก้วที่มีอายุเก่าแก่ จากเมืองเก่าในอดีตของ จ.ลำปาง หรือไม่ ซึ่งจะต้องนำไปตรวจพิสูจน์อีกครั้ง
โดยที่ชาวบ้านก็ได้สอบถามว่า หากเป็นของเก่าแก่ในอดีตจริง จะต้องทำอย่างไร และใครเป็นผู้ครอบครอง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ จากสำนักศิลปากรที่ 7 น่าน กรมศิลปากร ได้บอกให้ชาวบ้านได้เกิดความเข้าใจ ว่า จะต้องมีการตรวจสอบให้แน่ชัดก่อน และจะมีการประเมินมูลค่า รวมถึงจะต้องเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี จะเก็บไว้เป็นของสาธารณะประโยชน์ เช่น เก็บไว้ที่วัด หรือผู้ที่พบเก็บไว้ แต่หากลูกแก้วหาย ผู้ที่พบ และดูแลจะต้องเสียค่าใช้จ่ายตามมูลค่าที่ประเมินไว้ อย่างไรก็ตามทั้งหมดนี้ ก็จะต้องขึ้นอยู่กับการตรวจสอบก่อน


ที่มา: http://news.sanook.com/1755257/

วิกฤตหนัก ! กาชาดเลือดหมดคลัง ขอรับบริจาคช่วยผู้ป่วยทั่วประเทศด่วน



สภากาชาดไทย เผย เลือดหมดคลังวิกฤตหนัก ขาดเลือดทั่วประเทศ ขอรับบริจาคช่วยผู้ป่วยในโรงพยาบาลทั่วประเทศ หลังขอเบิกเลือดมากถึง 8,000 ยูนิต แต่จ่ายให้ได้แค่ 2,000 ยูนิต หรือ 25% จากเดิมเคยจ่ายให้ได้ 80%

วันนี้ (27 กุมภาพันธ์ 2558) รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ช่อง 3 รายงานว่า แพทย์หญิงสร้อยสอางค์ พิกุลสด ผู้อำนวยการศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย เปิดเผยว่า ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ ประสบปัญหาขาดโลหิตสำรอง ซึ่งตามมาตรฐานงานบริการโลหิตต้องมีโลหิตสำรอง 3,000 ยูนิตต่อวัน

สาเหตุเนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่มักบริจาคในช่วงที่มีกิจกรรมและเทศกาลวันสำคัญต่าง ๆ ทำให้เกิดการบริจาคโลหิตไม่สม่ำเสมอ เกิดการขาดแคลนสะสมต่อเนื่อง จนกระทั่งเกิดภาวะวิกฤตขึ้นในขณะนี้ ส่งผลกระทบกับโรงพยาบาลทั่วประเทศ ที่ขอเบิกโลหิตนำไปรักษาผู้ป่วยมากถึง 8,000 ยูนิต แต่ทางกาชาดจ่ายโลหิตได้เพียง 2,000 ยูนิต หรือ 25% เท่านั้น จากที่เคยจ่ายได้มากกว่า 80% รวมถึงไม่มีโลหิตสำรองในคลังเลือด สำหรับใช้ในกรณีฉุกเฉิน ทำให้ผู้ป่วยไม่สามารถรับการรักษาได้ และต้องมีการเลื่อนการผ่าตัดออกไป

ทั้งนี้ สภากาชาดไทย ขอเชิญชวนประชาชนเข้าร่วมบริจาคโลหิต ได้ที่ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ ถนนอังรีดูนังต์

วัน เวลา เปิดรับบริจาคโลหิต

จันทร์ พุธ ศุกร์
08.00-16.30 น.
เคยเห็นเรื่องนี้ใน postjung แล้วนะ แหม่!!
อังคาร พฤหัสบดี
07.30-19.30 น.

เสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์
08.30-15.30 น.


ส่วนภูมิภาคบริจาคโลหิต ได้ที่ ภาคบริการโลหิตแห่งชาติ จังหวัดเชียงใหม่ นครสวรรค์ พิษณุโลก อุบลราชธานี ขอนแก่น นครราชสีมา ชลบุรี ราชบุรี สงขลา ภูเก็ต และงานบริการโลหิต สถานีกาชาดหัวหินเฉลิมพระเกียรติ จ.ประจวบคีรีขันธ์ สอบถามรายละเอียด ได้ที่ ฝ่ายประชาสัมพันธ์และจัดหาผู้บริจาคโลหิต โทร. 0-2256-4300, 0-2263-9600-99 ต่อ 1101


ที่มา:http://hilight.kapook.com/view/116579

เลือดจอยคงใช้ไม่ได้ มันคึกไป
มือบึ้มศาลอาญา เผย รับค่าจ้าง 2 หมื่นบาท และมีนัดก่อเหตุป่วนทั่วทุกภาค                                      
                           
                                                                     
                  
                            ที่มา : http://news.voicetv.co.th/thailand/176574.html
                                                            สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ควบคุมตัว นายมหาหิน ขุนทอง 1 ใน 2 ผู้ก่อเหตุปาระเบิดหน้าศาลอาญา เมื่อคืนวันที่ 7 มีนาคม มาแถลงเหตุจูงใจในการก่อเหตุ นายมหาหิน เปิดเผยว่า ไม่ได้อยากทำ แต่ถูกกดดันจากหลายฝ่ายว่าจะมาติดตามครอบครัว จึงได้ยอมลงมือเพราะไม่อยากให้ครอบครัวเดือดร้อน

ทั้งนี้ ผู้ต้องหา ระบุว่า รู้จักกับคนชื่อ "เดียร์" ในไลน์ แต่ไม่เคยพบหน้ากัน ทราบเพียงว่าอีกฝ่ายอยู่ออสเตรเลีย และได้เข้ากลุ่มไลน์เพื่อสนทนากัน โดย คนชื่อเดียร์ ระบุว่า หากประเทศไทยเกิดความรุนแรง ทางองค์การสหประชาชาติจะเข้ามาจัดการแทนรัฐบาล และได้มีการเตรียมจัดตั้งกลุ่มเสรีชนเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งมีสมาชิกทั้งในและต่างประเทศ โดยได้ไปก่อเหตุร่วมกับ นายยุทธนา เย็นภิญโญ รับระเบิดมาจาก "ใหญ่ พัทยา" ที่ย่านลำลูกกา ปทุมธานี ได้รับค่าจ้าง 2 หมื่นบาท โดยนายมหาหินเป็นผู้ขี่มอเตอร์ไซค์ ส่วนนายยุทธนาเป็นคนปาระเบิด

พร้อมกันนี้ นายมหาหิน ระบุด้วยว่า การก่อเหตุครั้งนี้ไม่เกี่ยวข้องกับกลุ่มการเมืองหรือสีเสื้อใด ๆ แต่เป็นการทำตามอุดมการณ์ของกลุ่มที่ติดต่อกันผ่านไลน์ ซึ่งในวันที่ 10 มีนาคม ทางแกนนำกลุ่มจะนัดประชุมวางแผนกันเพื่อนก่อเหตุป่วนทั่วทุกภาคในวันที่ 15 มีนาคมนี้                                                                        
                                                            

ยังจำได้ไหม ? หนุ่มเยอรมันขาบวมสุดแสบ โผล่อีก รอบนี้ไปขอทานฟิลิปปินส์                                
                           
                                                                                       
                            ที่มา : http://hilight.kapook.com/view/117065
                                                            ชายเยอรมันขาบวมที่เคยขอทานใน กรุงเทพฯ-พัทยา แถมแสบบอกคนไทยโง่บริจาคเงินเอง หลังโดนชาวเน็ตไทยจับว่านำเงินไปเที่ยว ก่อนถูกขับออกประเทศ ล่าสุดโผล่ขอทานอีกรอบที่ประเทศฟิลิปปินส์ พร้อมโพสต์รูปดูสาวใส่บิกินี่ในบาร์

            จากกรณีที่ชาวเน็ตได้ช่วยแชร์เรื่องของ นายเบนจามิน โฮลส์ ชายชาวเยอรมัน วัย 29 ปี ที่มีขาโตผิดปกติ นั่งขอทานอยู่บริเวณถนนข้าวสาร โดยเจ้าตัวอ้างว่ามาเที่ยวเมืองไทยแล้วได้ทำกระเป๋าเงินพร้อมพาสปอร์ตหาย จนต้องนั่งขอทานและนอนข้างทางมานานกว่า 3 วัน เมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้วนั้น

            ซึ่งในเวลาต่อมาได้มีตำรวจท่องเที่ยวและสมาคมช่วยเหลือชาวเยอรมัน เข้ามาช่วยเหลือพร้อมส่งเข้าพักที่โรงแรมและประสานไปยังสถานทูตเยอรมนีเพื่อส่งตัวกลับประเทศ แต่ปรากฏว่านายเบนจามินหนีออกจากโรงแรมที่พัก ก่อนจะมีคนไปพบนายเบนจามินนำเงินที่ได้รับจากการบริจาคไปเที่ยวเตร่ในเมืองพัทยา จ.ชลบุรี ก่อนไปนั่งขอทานหลังเงินหมดอยู่ที่ชายหาด แถมยังบอกพนักงานโรงแรมที่พัทยาว่าคนไทยโง่บริจาคเงินให้เอง จนกระทั่งถูกจับได้อีกครั้งและถูกเนรเทศให้ออกจากประเทศไทยไป หลังจากนั้นก็มีผู้พบเห็นนายเบนจามินปรากฏตัวอีกครั้งขณะกำลังนั่งขอทานอยู่ที่ประเทศเดนมาร์ก

            ล่าสุด (7 มีนาคม 2558) มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า StickboyBangkok  ได้โพสต์ภาพนายเบนจามินโฮลส์ นั่งขอทานอยู่ริมถนนที่ประเทศฟิลิปปินส์ พร้อมข้อความว่า The German beggar with the swollen leg who got deported from #Thailand is now chancing his luck in the Philippines

            ทั้งนี้จากการตรวจสอบเฟซบุ๊กของนายเบนจามิน Benjamin Holst พบว่า นายเบนจามิน ได้โพสต์ภาพว่าตนกำลังท่องเที่ยวอยู่ที่เมือง Angeles city ประเทศฟิลิปปินส์ นอนห้องพักมีอ่างจากุซชี่ และยังโพสต์ภาพตอนที่เขาเข้าไปนั่งดูสาว ๆ สวมชุดบิกินี่ในบาร์แห่งหนึ่งอีกด้วย                                                                        
                                                            

ดราม่าหนัก! คลิปครูถอดรองเท้า เรียงคิวตบหน้านักเรียน                                                                                                                   
                            ที่มา : http://news.sanook.com/1760389/
                                                            นำเสนอข่าวโดยทีมงาน Sanook.com

(9 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โลกออนไลน์กำลังวิพากษ์วิจารณ์คลิปวิดีโอภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายในรั้วโรงเรียนแห่งหนึ่ง คุณครูท่านหนึ่งได้ถอดรองเท้าออก ก่อนจะนำมาใช้ตบใบหน้าเด็กนักเรียน ที่กำลังทยอยเดินออกจากห้องสอบ ที่ทำให้เกิดข้อถกเถียงเรื่องความเหมาะสมและจรรยาบรรณ

ตามรายงานระบุว่า ผู้ใช้เฟซบุ๊กคนหนึ่งได้โพสต์คลิปวิดีโอเผยแพร่ไปตามเพจเฟซบุ๊กชื่อดังต่างๆ คลิปความยาวไม่กี่วินาที "ไอเดียร์บรรเจิด! ครูเอารองเท้าตบหน้าเด็กเพื่อขออำลา.." แสดงให้เห็นภาพคุณครูท่านหนึ่ง กำลังใช้รองเท้าข้างหนึ่ง ตบฟาดเข้าที่ใบหน้าเด็กนักเรียน ระหว่างเดินเรียวแถวออกจากห้องเรียน ที่คาดว่าจะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังจากการสอบเสร็จ

ผู้โพสต์คลิปดังกล่าว ยังระบุข้อความว่า "นี่คือครูที่ดีหรือ? ครู----- พ่อแม่เด็กยังไม่เคยเอารองเท้าตบหน้าลูกเลย แล้วครูคือใคร ถึงมาทำกับน้องฉันได้ ครูดังแน่ ไม่จบหรอกพูดเลย ความเป็นครูอยู่ไหนคะ เอารองเท้าตบหน้าเด็ก เพื่อขออำลา อย่าเป็นครูเลยค่ะ เสียจรรยาบรรณครู แม่-ของขึ้น!! ฝากไลค์ฝากแชร์ด้วยนะคะ"

อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากคลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก บางส่วนมองว่า ภาพดังกล่าวไม่รู้ความหมายหรือที่มา อาจจะเป็นการทำโทษที่สมเหตุสมผล หรือ วิธีอบรมสั่งสอนให้เด็ก ไม่ควรวิจารณ์ไปต่างๆ นานา หากยังไม่รู้ข้อมูลที่แท้จริง

ขณะที่บางส่วนคิดเห็นว่า การทำโทษเด็กมีหลากหลายวิธี แต่วิธีนี้ดูไม่เหมาะสมและรุนแรงเกินไป ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาพรวมวิชาชีพครู รวมทั้งจรรยาบรรณครู แม้ว่าคุณครูในคลิปดังกล่าวจะเป็นผู้อาวุโสก็ตาม แต่วิธีการทำโทษเด็กเช่นนี้ ดูไม่เหมาะสมและขัดต่อวัฒนธรรมไทยอย่างสิ้นเชิง                                                                        
                                                            

ใช้รองเท้าเลยรึ
Nujeab ตอบกลับเมื่อ 2015-3-10 16:41
ใช้รองเท้าเลยรึ

ที่โดน ใช้แส้ ไม่เห็นเจ้หนูบ่นสักคำ
Sornpraram ตอบกลับเมื่อ 2015-3-10 16:45
ที่โดน ใช้แส้ ไม่เห็นเจ้หนูบ่นสักคำ

ใช้แส้มันเร้าใจดีครับ กลัวก้อแต่สิ่งที่อยู่เหนือรองเท้า
Nujeab ตอบกลับเมื่อ 2015-3-10 16:48
ใช้แส้มันเร้าใจดีครับ กลัวก้อแต่สิ่งที่อยู่เหนือรองเท้า

เลือดซิบๆ นา
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้