ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

มาติดตามข่าวสารต่างๆที่น่าสนใจกันครับ

[คัดลอกลิงก์]
                                                                                                                                                                                                  เงื่อนไขการคว้าแชมป์ “คิงส์คัพ” ของแต่ละทีม!
                                                                                                                  
                            ที่มา : http://sport.sanook.com/130905/

                 ถึงคราวที่ต้องใช้วลี "ยืมจมูกคนอื่นหายใจ" คงยังไม่พอ เพราะต้อง "ทำวันนี้ให้ดีที่สุด" ด้วยสำหรับ "ทัพช้างศึก" หากหวังจะคว้าแชมป์ คิงส์คัพ ครั้งที่ 43 นี้

เพราะล่าสุด หลังจากที่ ทีมชาติไทย พ่ายเละต่อ ทีมชาติอุซเบกิสถาน 2-5 ไปเมื่อช่วงหัวค่ำวานนี้ ทำให้สถานการณ์ "ลุ้นแชมป์" ประตูไม่เปิดกว้างสำหรับเราเท่าไรนัก

"โสมขาว" เกาหลีใต้ ถือไพ่ได้เปรียบ ดูดีมีภาษีกว่าใครเพื่อนในตอนนี้ เมื่อนำเป็นจ่าฝูง 6 คะแนน นัดสุดท้ายกับทีมชาติไทย "แค่ไม่แพ้" พวกเขาก็จะเป็นแชมป์ทันที

ส่วน อุซเบกิสถาน อยู่ในสถานการณ์ที่เป็นรองลงมา เนื่องจากนัดสุดท้ายพวกเขาต้องชนะ ฮอนดูรัส แล้ว ก็ต้อง "ยืมจมูกช้างศึกหายใจ" ลุ้นให้ไทยเราเอาชนะเกาหลีใต้ให้ได้สถานเดียว และต้องชนะแบบยิงไม่เยอะด้วยนะ
ด้าน "ช้างศึก" ทีมชาติไทย เสียเปรียบกว่าใครเพื่อน เมื่อต้องเอาชนะเกาหลีใต้ให้ได้อย่างน้อย 2 ประตู และ "ยืมจมูกฮอนดูรัสหายใจ" ด้วยหวังให้ขุนพลจากทะเลแคริบเบียนไม่แพ้อุซเบกิสถานนั่นเอง

และสุดท้าย ฮอนดูรัส แม้โอกาสจะได้แชมป์ครั้งนี้จะเท่ากับศูนย์ไปแล้ว แต่พวกเขายังถือเป็นส่วนสำคัญ กำหนดชะตาชีวิตตำแหน่งแชมป์ของทีมอื่นได้ โดยเฉพาะ อุซเบกิสถาน และ ทีมชาติไทย

อย่างไรก็ดี วันที่ 7 ก.พ. 2558 นี้ ทัพนักเตะทีมชาติไทยยังถือว่ามีโอกาสดีไม่น้อย เมื่อโปรแกรมที่วางไว้ จะลงสนามเตะเป็นคู่ที่สอง ตอน 19.00 น. ซึ่งนั่นหมายความว่า เราทราบผลคู่แรกที่ลงแข่งไปก่อนตอน 16.00 น. แล้วนั่นเอง

เงื่อนไขการคว้าแชมป์ "คิงส์คัพ" ครั้งที่ 43 ของแต่ละทีม

"ไทย" จะได้แชมป์ ก็ต่อเมื่อ - ต้องชนะ เกาหลีใต้ ไม่น้อยกว่า 2 ประตูขึ้นไป และ อุซเบกิสถาน ไม่ชนะ ฮอนดูรัส

"เกาหลีใต้" จะได้แชมป์ ก็ต่อเมื่อ - ได้เปรียบมากกว่าเพื่อน เพราะมีถึงสองเงื่อนไข เงื่อนไขแรกคือ ชนะหรือเสมอ ทีมชาติไทย ก็พอ และ เงื่อนไขที่สองคือ แพ้ ไทย ไม่เกิน 1 ประตู แต่ อุซเบกิสถาน ไม่ชนะ ฮอนดูรัส

"อุซเบกิสถาน" จะได้แชมป์ ก็ต่อเมื่อ - ต้องชนะ ฮอนดูรัส ให้ได้ก่อนสถานเดียว และลุ้นให้ ไทย ต้องชนะ เกาหลีใต้ เท่านั้นเช่นกัน ซึ่งถ้าเป็นกรณีนี้ ต้องมานับลูกได้เสียว่าใครดีกว่า ถ้าบวก-ลบผลต่างยังเท่ากัน ทีมที่ยิงประตูได้มากกว่าจะได้แชมป์ไปครอง

"ฮอนดูรัส" ไม่มีโอกาสได้แชมป์แล้ว                                                                        
                                                            

ประกาศจาก คมนาคมอนุมัติปรับค่าโดยสารรถร่วม ขสมก.ขึ้น 1 บาท มีผล 10 ก.พ.นี้                           
                                   

                                                                                       
                            ที่มา : sanook.com
                                                            กระทรวงคมนาคมอนุมัติปรับค่าโดยสารรถร่วมบริการ ขสมก.ขึ้น 1 บาท จากที่ผู้ประกอบการขอปรับขึ้น 3 บาท ทั้งนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 10 ก.พ.นี้ ส่วนจะปรับขึ้นเพิ่มให้อีกหรือไม่รอดูผลอีก 1 เดือน

นางภัทรวดี กล่อมจรูญ นายกสมาคมผู้ประกอบการรถโดยสารประจำทาง กล่าวว่ากระทรวงคมนาคมมีมติปรับขึ้นค่าโดยสารรถร่วมบริการ ขสมก.โดยรถร้อนปรับขึ้น 1 บาท และรถปรับอากาศอยู่ที่ระยะละ 1 บาท ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 10 ก.พ.นี้ ส่วนจะปรับขึ้นอีกหรือไม่ กระทรวงคมนาคมขอพิจารณาต้นทุนที่แท้จริงของผู้ประกอบการก่อน หากมีต้นทุนที่สูงขึ้น กระทรวงคมนาคมจะพิจารณาปรับอัตราค่าโดยสารขึ้นให้อีกครั้ง

นางภัทรวดี กล่าวเพิ่มเติมว่าหลังการหารือสมาคมจะประชุมร่วมกันก่อนสรุปผลอีกครั้ง เนื่องจากการปรับราคาค่าโดยสารเพิ่มอีก 1 บาท ไม่เสริมสภาพคล่องผู้ประกอบการ และเงินอุดหนุนของภาครัฐ 30,000 บาทต่อคัน ไม่เพียงพอเพราะเป็นอัตราอุดหนุนที่ราคาก๊าซเอ็นจีวีอยู่ที่ 8.50 บาท ผู้ประกอบการจึงต้องการให้รัฐมาอุดหนุนอัตรา 80,000 บาทต่อคัน เนื่องจากเป็นอัตราที่เหมาะสมกับราคาก๊าซที่กิโลกรัมละ 13 บาท                                                                        
                                                            

ขึ้น 1บาท ก็โอเคครับ
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย kit007 เมื่อ 2015-2-10 18:06

ชาวเน็ตสงสัย? มิเตอร์แท็กซี่สุวรรณภูมิพุ่งปรี๊ด ห้ามกะพริบตา                                                                                                                   
                            ที่มา : http://news.sanook.com/1745741/
                                                            กลายเป็นประเด็นข้อสงสัยในโลกออนไลน์ หลังจากที่ผู้โดยสารหลายคนได้ตั้งข้อสังเกต ราคามิเตอร์บนรถแท็กซี่สนามบินสุวรรณภูมิ ที่มีการคำนวณและเปลี่ยนตัวเลขราคาอย่างรวดเร็ว ชนิดที่กะพริบตายังไม่ได้ จนถูกนำมาวิเคราะห์วิจารณ์กันอยู่ในเวลานี้

ตามรายงานระบุว่า สมาชิกผู้ใช้เว็บไซต์พันทิปดอมคอมคนหนึ่ง ชื่อคุณ ออกหลวงมงคล ได้ตั้งกระทู้ชื่อว่า "แท็กซี่สุวรรณภูมิ เดี๋ยวนี้มิเตอร์พุ่งไวปานจรวดอย่างนี้เลยเหรอครับ" พร้อมกับถ่ายคลิปวิดีโอสังเกตการณ์ตัวเลขมิเตอร์บนรถแท็กซี่ ที่พบว่าตัวเลขราคาเปลี่ยนไปเร็วอย่างที่มีการตั้งข้อสังเกต

เจ้าของกระทู้ดังกล่าว เปิดเผยว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา หลังจากกลับมาจากต่างประเทศ ออกมาจากประตูฝั่งขาเข้า เวลาประมาณตี 1 เศษ มารับบัตรขึ้นแท็กซี่ตามคิว มีกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ 1 ใบ รถเข็นเด็ก 1 คัน เพื่อเดินทางไปย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี

เมื่อรถขับออกจากสนามบินได้สักระยะ สังเกตเห็นว่าตัวเลขมิเตอร์เปลี่ยนไปไวมาก จึงแอบถ่ายคลิปเอาไว้บางช่วง จนกระทั่งเมื่อถึงปลายทาง ค่าโดยสารแท็กซี่ พร้อมค่าธรรมเนียม 50 บาท รวมราคาเป็น 585 บาท เทียบกับตอนเดินทางจากบ้านไปสนามบิน ราคา 300 บาท จึงได้ถามโชเฟอร์แท็กซี่ว่า "ทำไมมิเตอร์ขึ้นเร็วผิดปกติ?" โชเฟอร์ก็ตอบกลับอย่างสุภาพว่า "เขาปรับมิเตอร์ใหม่แล้ว รถคันนี้ก็ใหม่ เป็นไปตามมาตรฐานทุกอย่าง"

อย่างไรก็ตาม เจ้าของเรื่องราวดังกล่าว ยังรู้สึกสงสัยเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงราคามิเตอร์อย่างรวดเร็ว จึงได้โทรสอบถาม 1584 แต่ไม่มีผู้รับสาย จึงได้โทรไปอีกหมายเลข เจ้าหน้าที่รับสายและชี้แจงให้ฟัง พร้อมกับรับปากว่าจะดำเนินการตรวจสอบให้ แต่ปัจจุบันก็ยังไม่มีการแจ้งกลับมาอย่างที่ได้ระบุไว้

ทั้งนี้ ภายหลังจากกระทู้ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก หลายคนเห็นด้วยว่า ตัวเลขมิเตอร์เปลี่ยนเร็วผิดปกติ คล้ายกับอัตราราคา 2 บาทต่อระยะทาง 100 เมตร หรือ กะพริบตาขึ้นทีละ 2 บาท ขณะที่บางคนลองคำนวณเลขเบื้องต้น ก็ไม่มีความเป็นไปได้ที่ราคาโดยสารจะสูงเท่านี้ แม้รถแท็กซี่จะวิ่งอยู่บนถนนโล่งและทำความเร็วได้ดีก็ตาม

นอกจากนี้ พบว่ายังมีอีกหลายกรณีที่เกี่ยวกับมิเตอร์รถแท็กซี่สนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งมีผู้แชร์เรื่องราวในโลกออนไลน์ ส่วนใหญ่มักจะเจอเหตุการณ์ในลักษณะเดียวกัน คือ ตัวเลขมิเตอร์ปรับขึ้นเร็วแบบผิดปกติ ราคาพุ่งสูงจนแทบทำใจรับไม่ได้ โดยเฉพาะเมื่อเอาราคาไปเปรียบเทียบกับค่าโดยสารแท็กซี่เที่ยวไปสนามบิน กลับพบว่าเที่ยวกลับอาจจะต้องจ่ายค่าโดยสารเพิ่มขึ้นถึง 30-40% ทีเดียว                                                                        
                                                            

แค้นจัด! ดักตบ “ลีน่า จัง” ล้มทั้งยืน-มึนไม่เคยขัดแย้งกับใคร                                                                                                                   
                            ที่มา : http://www.springnews.co.th/crime/187171
                                                            กล้องวงจรปิดจับภาพผู้ชายสวมเสื้อเชิ้ตสีขาว เดินเข้าไปใช้มือขวาตบหน้านางลีนา จังจรรจา หรือลีน่า จัง อายุ 55 ปี นักธุรกิจชื่อดังจนล้มลงไปกองกับพื้น บริเวณหน้าบ้านย่านประตูน้ำ นางลีน่า จังจึงเก็บไว้เป็นหลักฐานในคดีถูกทำร้ายร่างกาย ก่อนเดินทางเข้าร้องเรียนต่อ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ โดยมี พ.ต.อ.วสุพล บาลี รองผู้บังคับการกองแผนงานกิจการพิเศษ เป็นตัวแทนรับเรื่องนางลีน่า จัง กล่าวว่า ขณะที่กำลังเปิดประตูเหล็กเพื่อออกจากบ้านไปทำรายการที่ตลาดน้ำวิถีไทย คลองผดุงกรุงเกษม ปรากฏว่ามีชายฉกรรจ์รูปร่างสันทัด สูงประมาณ 165 ซม. ปรี่เข้ามาตบหน้าตน 1 ครั้งก่อนจะวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว ขณะนั้นรู้สึกมึนงงจึงไม่สามารถจดจำรูปพรรณสัณฐานคนร้ายได้ และไม่ได้ติดตามคนร้ายไปเพราะเกรงไม่ปลอดภัย ฉะนั้นคดีนี้อยากให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติให้ความเป็นธรรม เร่งติดตามตัวคนร้ายให้ได้โดยเร็ว

ส่วนสาเหตุคาดว่าน่าจะมาจากการทำคลิปเผยแพร่ข้อมูล กรณีที่ตำรวจ สน.พญาไท ปล่อยปละให้รถทัวร์ปรับอากาศ รับส่งนักท่องเที่ยวมาจอดกีดขวางการจราจรย่านประตูน้ำ จึงอาจจะมีคนที่เสียผลประโยชน์ไม่พอใจ ส่งคนมาทำร้าย ที่ผ่านมาไม่เคยมีเรื่องบาดหมาง หรือความขัดแย้งกับใคร

ส่วนที่ไม่ไปแจ้งความที่ สน.พญาไท เพราะมองว่าไม่มีประโยชน์ เนื่องจากที่ผ่านมาเคยถูกมือดีบุกสาดน้ำปลาร้ามาแล้ว ตำรวจก็ไม่สามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้ ทั้งนี้ หากตำรวจไม่สามารถจับกุมคนร้ายได้ จะไปร้องต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพราะเกิดขึ้นขณะที่มีการประกาศกฎอัยการศึกด้วย

ด้าน พ.ต.อ.วสุพล กล่าวว่า เบื้องต้นจะประสานพนักงานสอบสวน สน.พญาไท มารับแจ้งความ พร้อมส่งตัวนางลีน่า จัง ไปตรวจร่างกายอย่างละเอียดที่โรงพยาบาลตำรวจ ขณะเดียวกันจะนำเรื่องส่งให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป                                                                        
                                                            

เหิมเกริม! บุกปล้นปั๊มกลางกรุงคืนเดียว 4 แห่งรวด                           

                                                                                       
                            ที่มา : http://www.springnews.co.th/crime/188272
                         ภาพจากกล้องวงจรปิดบันทึกภาพขณะชายสวมหมวกกันน็อคสีขาว สวมเสื้อสีเขียว ใช้มีดสปาต้าปล้นเงินจากตู้เก็บเงิน ภายในสถานีบริการน้ำมันคาลเท็กซ์ ย่านเหม่งจ๋าย เขตวังทองหลาง ก่อนที่คนร้ายจะขึ้นซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ที่มีผู้ร่วมก่อเหตุอีก 1 คนสตาร์ทรถรออยู่แล้วหลบหนีไป ขณะที่ผู้ร่วมขบวนการอีก 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์วนเวียนภายในที่เกิดเหตุเพื่อดูต้นทาง
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจู่โจมกองบังคับการตำรวจนครบาล 4 (บก.น.4) สามารถจับกุม 3 ใน 4 คนร้ายที่ลงมือตระเวนก่อเหตุปล้นปั้มน้ำมันในย่านลาดพร้าวและพื้นที่ใกล้เคียงในช่วงกลางดึก (16 ก.พ.) ที่ผ่านมา ภายหลังรับแจ้งเหตุชุดจู่โจม บก.น.4 สกัดจับ 2 คนร้ายที่กำลังพยายามหลบหนีได้ภายในซอยประชาราษฏร์บำเพ็ญ 20 ขณะเข้าทำการจับกุมคนร้ายพยายามต่อสู้โดยใช้อาวุธมีดฟันเจ้าหน้าที่ชุดจู่โจม ทำให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 1 ราย

ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ชุดจู่โจมได้ไล่ล่าอีก 2 คนร้าย จนต่อมาสามารถจับกุมคนร้ายได้เพิ่มอีก 1 รายได้ภายในซอยลาดพร้าว 80 แยก 22 ส่วนคนร้ายอีกคนสามารถหลบหนีไปได้ โดยเจ้าหน้าที่ยึดของกลางเป็นอาวุธมีดยาว 1 ฟุตจำนวน 3 เล่ม หมวกกันน็อคแบบเต็มใบ 3 ใบ และโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง พร้อมรถจักรยายนต์ 1 ใน 2 คันที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ เป็นรถจักรยานยนต์ยี่ห้อซูซูกิ สแมซ สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน ขฉพ 252 มหาสารคาม

จากการสอบสวน พ.ต.อ.เชษฐา สว่างสุข ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลวังทองหลาง เปิดเผยว่าคนร้ายทั้ง 3 ได้เริ่มก่อเหตุจากปั้ม ปตท. ถนนลาดพร้าวใกล้ซอยลาดพร้าว 61 ได้เงินสดไปจำนวน 8,000 บาท และต่อมาได้ย้ายไปปล้นต่อที่ปั้มน้ำมันบางจาก ปากซอยโยธินพัฒนา ถนนเลียบทางด่วน แต่คนร้ายไม่ได้เงินสดไป ได้แต่เพียงโทรศัพท์มือถือของพนักงานภายในปั้ม เพราะพนักงานภายในปั้มน้ำมันต่อสู้ โดยทั้ง 2 ปั้มอยู่ในพื้นที่ สน.โชคชัย

จากนั้นคนร้ายไปลงมือก่อเหตุต่อที่ปั้มน้ำมันคาลเท็กซ์ ถนนประชาอุทิศ ตรงข้ามร้านเดอะพริ้ม ใกล้แยกเหม่งจ๋าย พื้นที่ สน.วังทองหลาง ได้เงินสดจำนวน 12,000 บาท พร้อมโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง และสุดท้ายลงมือก่อเหตุที่ร้านสะดวกซื้อภายในปั้มน้ำมันเอสโซ่ ใกล้ปากซอย ลาดพร้าว 20 ในพื้นที่ สน.สุทธิสาร ได้เงินสดไปจำนวน 20,000 บาท โดยคนร้ายทั้งหมดรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา ว่าทำไปเพราะความคึกคะนองและต้องการนำเงินไปใช้เที่ยวตามประสาวัยรุ่น

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่พบว่ามีสารเสพติดภายในร่างกาย พบเพียงมีกลิ่นสุราเพียงเล็กน้อย โดยเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาร่วมกันปล้นทรัพย์ในยามวิกาลโดยใช้อาวุธและยานพาหนะ และข้อหาขัดขวางการจับกุมและต่อสู้เจ้าพนักงานตำรวจ

นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังทำการตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดจากสถานที่ที่เคยเกิดเหตุลักษณะคล้ายกันว่าเป็นคนร้ายกลุ่มเดียวกันหรือไม่ เนื่องจากก่อนหน้านี้มีการก่อเหตุลักษณะนี้ด้วยเช่นกัน ส่วนผู้ต้องหาทั้งหมดจะถูกนำส่งศาลเยาวชน เนื่องจากคนร้ายทั้งหมดเป็นเยาวชน ส่วนผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีอยู่ระหว่างเร่งล่าตัวมาดำเนินคดีต่อไป                                                                        
                                                            

จวกยับ! แขวนจักรยานใน BTS หวั่นอนาคตถูกห้ามเอาขึ้น                                                                                                                   
                            ที่มา : http://news.sanook.com/1749945/
                                                            ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (17 ก.พ.) กำลังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อยู่ตอนนี้ หลังจากคุณสมาชิกหมายเลข 908125 ได้มาตั้งกระทู้ในเว็บไซต์พันทิป โดยกระทู้มีชื่อว่า "เพียงกลุ่มคนไม่กี่คน อาจจะทำให้คนกลุ่มใหญ่ไม่สามารถนำจักรยานขึ้น BTS ได้ในอนาคต"

โดยในภาพเผยให้เห็นจักรยาน 2 คัน ถูกแขวนอยู่กับราวกลางรถไฟฟ้า โดยมีนักปั่น 2 รายยืนอยู่ใกล้ๆ ซึ่งเจ้าของกระทู้ได้โพสต์ข้อความไว้ ดังนี้

"ตามภาพ ไม่มีคำอธิบาย โตๆ กันแล้วรู้จักใช้สมองเองได้ว่าอะไรสมควรไม่สมควร เป็นคนขี่จักรยานไปทำงานทุกวันพุธกับพฤหัสบดี เห็นแบบนี้ คือทำเอามันส์ แล้วเห็นคนใจอื่นบ้างไหม ถ้าสมมติในอนาคตทาง BTS ไม่ให้เอาจักรยานขึ้นอีก"

ทั้งนี้ ชาวเน็ตได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นว่า นักปั่นอาจจะเห็นว่าเป็นช่วงเวลาที่ไม่มีผู้โดยสารมาก คาดว่าไม่มีเจตนาสร้างความเสียหายใดๆ                                                                        
                                                            

kit007 ตอบกลับเมื่อ 2015-2-17 17:27
จวกยับ! แขวนจักรยานใน BTS หวั่นอนาคตถูกห้ามเอาขึ้น        ...

ปลาเน่าตัวเดียว เหม็นทั้งเข่ง
ตะลึง! เผากระดาษเงิน-ทอง มีสารก่อมะเร็ง 60 เท่า
                                                                                                                   
                            ที่มา : http://www.springnews.co.th/social/188509
                                                            นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ คณะทำงานผู้วิจัยห้องปฏิบัติการพิษวิทยาและสิ่งแวดล้อม เรื่อง ควันธูปและกระดาษเงินกระดาษทอง สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ กล่าวว่า จากการวิจัยพบการเผาไหม้ของกระดาษเงินกระดาษทอง ทำให้เกิดสารก่อมะเร็ง เพราะปัจจุบันมีความเปลี่ยนแปลง โดยนิยมเผาสิ่งประดิษฐ์ต่างๆ ตามความเชื่อ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับบรรพบุรุษที่ล่วงลับ ทั้งรถยนต์ ไอโฟน ไอแพด เครื่องบิน ที่ทำจากกระดาษเคลือบเงินสีสันสวยงาม มันวาว

ซึ่งเมื่อเผาไหม้ล้วนแต่ก่อสารโลหะหนักไม่ต่างจากควันธูป โดยพบสาร 4 ชนิด ได้แก่ โครเมียม นิกเกิล ตะกั่วและแมงกานีส โดยโครเมียมและนิกเกิลจะทำให้เกิดโรคมะเร็งปอด สารตะกั่วมีผลต่อพัฒนาการทางสมองของเด็ก ทำให้เลือดจาง ไตวาย และแมงกานีสมีผลทำให้เกิดโรคพาร์กินสันได้ในผู้สูงอายุ

นพ.มนูญกล่าวอีกว่า สารโลหะหนักเหล่านี้จะอยู่ในขี้เถ้ามากกว่าฝุ่นละอองในอากาศประมาณ 3-60 เท่า ดังนั้น การกำจัดเศษขี้เถ้าจึงไม่ใช่แค่การนำไปทิ้งขยะ โรยตามดินหรือท่อน้ำ เพราะจะย้อนกลับเข้ามาสู่ระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อมอีกครั้งจนเกิดอันตราย การกำจัดขี้เถ้าดังกล่าวต้องทำคล้ายกับการกำจัดขยะในโรงงานอุตสาหกรรม

อย่างไต้หวันทางเมืองจะเป็นผู้รวบรวมและนำไปเผายังเตากำจัดขยะของเมือง ไม่ปล่อยให้ประชาชนเผากันเองตามบ้านเรือน ซึ่ง กทม.หรือเมืองใหญ่ๆ น่าจะมีการปรับเปลี่ยน หรือกระทรวงอุตสาหกรรมควรเข้ามาควบคุมการผลิต ไม่ให้นำสารเคลือบเงามาใช้ แม้จะทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น แต่นับว่าคุ้มค่าและเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดสารก่อมะเร็งในระดับเมือง และมลพิษทางสิ่งแวดล้อม

ขณะที่ นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัยกล่าวว่า ผู้ที่เผาหรือพับกระดาษเงินกระดาษทอง ควรล้างมือให้สะอาดทุกครั้งหลังสัมผัส และควรเผาในภาชนะที่มิดชิด ใช้ผ้าเช็ดหน้าหรือหน้ากากอนามัยปิดปากและจมูกขณะเผา โดยเผาในที่โล่งแจ้งและยืนอยู่เหนือลม นอกจากนี้ควรระวังอุบัติเหตุไฟไหม้ โดยเตรียมถังน้ำหรือถังดับเพลิงไว้ในบริเวณใกล้เคียงด้วย                                                                        
                                                            

ช็อกแฟนกีฬา! สนามวอลเลย์บอลซีเกมส์ จุคนดูได้แค่ 600 คน แถมไม่มีถ่ายทอดสด!                           

                                                                                       
                            ที่มา : http://sport.sanook.com/133349/
                                                            มหกรรมกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 28 ที่ประเทศ สิงคโปร์ ยังไม่เริ่ม ก็ส่อเค้าวุ่นซะแล้ว เมื่อสนามแข่งขันวอลเลย์บอลในครั้งนี้ มีความจุแค่ 600 ที่นั่ง แถมเจ้าภาพยังยืนยัน ไม่มีถ่ายทอดสดกลับไปที่เมืองไทยแน่นอน

การแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 28 ที่เตรียมจะเริ่มขึ้น ในระหว่างวันที่ 10-16 มิถุนายน 2558 ที่ ประเทศสิงคโปร์ ยังคงมีเรื่องราวให้แฟนกีฬาชาวไทยต้องปวดหัวต่อไป

ล่าสุด เจ้าภาพจัดการแข่งขันได้จัดสนามแข่งขันวอลเลย์บอลในร่ม ทั้งชายและหญิง ซึ่งมีความจุแค่ 600 คน แถมยังไม่ผลิตสัญญาณถ่ายทอดสดอีกด้วย

นั่นเท่ากับว่า หากประเทศไทย ต้องการชมการถ่ายทอดสด ต้องให้โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย หรือ ทีวีพูล เข้าไปดำเนินการถ่ายทอดสดเอง

ทั้งนี้ "เจ้าภาพ"  บรรจุกีฬาวอลเล่ย์บอล ซึ่งเป็นกีฬาสากลที่นานาชาติยอมรับ แต่เนื่องด้วย สิงคโปร์ ไม่มีความหวังในกีฬาชนิดนี้ จึงค่อนข้างไม่ให้ความสำคัญ  

ขณะที่ประเทศไทย ตั้งความหวังไว้ที่ 2 เหรียญทอง ทั้งประเภททีมชาย และทีมหญิง ซึ่งทีมไทยเป็นแชมป์เก่าทั้ง 2 รายการ จากซีเกมส์ครั้งที่ 27 ที่เมียนมาร์ เมื่อปลายปี 2556                                                                        
                                                            

ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้