ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

มาติดตามข่าวสารต่างๆที่น่าสนใจกันครับ

[คัดลอกลิงก์]
kit007 ตอบกลับเมื่อ 2015-1-8 19:52
ชาวเน็ตเดือด ขาซิ่งชนน้องการ์ตูนโพสต์เฟซบุ๊ก บอกเสี ...

kit007 ตอบกลับเมื่อ 2015-1-8 19:52
ชาวเน็ตเดือด ขาซิ่งชนน้องการ์ตูนโพสต์เฟซบุ๊ก บอกเสี ...

คนเรานี่มันแย่ขนาดนี้แล้วเหรอเนี่ย
เยี่ยมๆๆไๆ
ขนส่งยัน ไม่มีการยกเลิกใบขับขี่ตลอดชีพ
                                                                                                                   
                            ที่มา : http://car.kapook.com/view108833.html
                                                            ใบขับขี่ตลอดชีพไม่ยกเลิก กรมการขนส่งทางบก ไม่มีมาตรการบังคับให้เปลี่ยนใบขับขี่ตลอดชีพ

          เมื่อช่วงปีใหม่ที่ผ่านมามีการส่งข้อความทางโซเชียลผ่านสื่อสังคม ออนไลน์ให้เปลี่ยนใบขับขี่ตลอดชีพ (แบบกระดาษ) เป็นใบขับขี่รูปแบบใหม่ (Smart card)

นายธีระพงษ์ รอดประเสริฐ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า ตามที่มีการส่งต่อข้อความผ่านสื่อสังคมออนไลน์ โดยระบุว่าผู้ที่มีใบขับขี่รูปแบบเดิม (แบบกระดาษ) ต้องดำเนินการเปลี่ยนเป็นใบขับขี่แบบใหม่ (Smart card) ภายในเดือนธันวาคมนี้ หากพ้นกำหนดจะต้องทำการทดสอบเพื่อขอรับใบอนุญาตใหม่

          กรมการขนส่งทางบกยืนยันไม่มีมาตรการนั้น ใบขับขี่ตลอดชีพยังสามารถใช้ได้ตามปรกติ แต่ถ้าต้องการเปลี่ยนก็ใช้หลักเกณฑ์เหมือนการต่ออายุใบขับขี่ในปัจจุบันที่ต้องมีการอบรม ทั้งนี้หากเปลี่ยนเป็น ใบอนุญาตขับรถแบบใหม่ (Smart card) ก็สามารถขับรถในอาเซียน 10 ประเทศได้เลยทันที

          ทั้งนี้กรมการขนส่งทางบกแจ้งด้วย ขอให้ยุติการสร้างความสับสนแก่ประชาชน รวมถึง ขอความร่วมมือประชาชนและผู้ใช้สื่อ สังคมออนไลน์ หยุดเผยแพร่ ส่งต่อข้อความอันเป็นเท็จ เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนเป็นวงกว้างต่อไปด้วยครับ                                                                        
                                                            

คลิปแฉ! พฤติกรรมโจรรูปแบบใหม่ เบียดรถหวังกรรโชกทรัพย์                           

                                                                                       
                            ที่มา : http://www.springnews.co.th/local/northern/177281
                                                            คลิปวีดีโอ แฉพฤติกรรมโจรรูปแบบใหม่ ที่ จ.สุโขทัย  กำลังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ และได้รับสนใจจากโลกออนไลน์อยู่ในขณะนี้ ถึงวิธีทำมาหากินของรถเก๋งสีดำ 2 คัน ที่เข้ามาเบียดรถกระบะให้เกิดเหตุ และจอดรอเตรียมกรรโชกเหยื่อ ซึ่งคลิปนี้ถ่ายที่ ถ.สุโขทัย-พิษณุโลก อ.กงไกรลาศ จ.สุโขทัย ช่วงโค้งตานก ถึง แยกหนองเต่า โดยพฤติกรรม คือ รถสีดำ 2 คันเบียดให้รถกระบะมาชนแล้วเรียกร้องค่าเสียหาย เจ้าของคลิปคือเจ้าของอู่ช่างโตขับตามมา เห็นเหตุการณ์พอดี และได้นำคลิปมาเผยแพร่เพื่อให้ผู้ใช้รถใช้ถนนระวังกัน

ช่างโตเจ้าของคลิป เล่าว่า ขณะนั้นได้ขับรถตามหลังรถกระบะสีขาวมาประมาณเวลา 15.00 น. พบว่าด้านหน้าตนมีรถซีวิครุ่นใหม่สีดำอยู่ด้านขวาเบียดรถกระบะที่กำลังจะเลี้ยวยูเทิร์น และมีรถเชฟโรแลต โซนิค สีดำอีกคันเข้ามาประกบด้านซ้าย และขับเบียดให้เกิดการกระแทกกันขึ้น ลักษณะจงใจ เนื่องจากเคยมีเหตุการณ์เช่นนี้มาแล้วเมื่อ 3 เดือนก่อน เมื่อเห็นว่าเจ้าของรถกระบะสีขาวจอดรถชิดซ้ายและลงมาเพื่อจะเข้าไปเจรจา ตนจึงจอดรถและเข้าไปเตือนให้แจ้งความและอย่าจ่ายเงินให้กับคู่กรณี ป้องกันการกรรโชกทรัพย์ คนขับรถซีวิคที่จอดรออยู่ก่อแล้ว จึงไม่พอใจและว่ากล่าวตนเองอย่างรุนแรง ตนเองจึงบอกว่าอย่าไปไหน เดี๋ยวกลับมา เพราะจะไปรับลูกน้องที่อู่ซึ่งอยู่ใกล้ๆ แต่เมื่อกลับมาพบว่ารถสีดำทั้ง 2 คันนั้นขับออกไปจากที่เกิดเหตุแล้ว จึงได้นำคลิปมาโพสต์เพื่อเตือนภัยคนที่ใช้รถใช้ถนนขับรถในช่วงดังกล่าวให้ ระมัดระวังให้มากขึ้น

ด้าน พ.ต.อ.ถาวร รวมถึง ผู้กำกับการตำรวจภูธรกงไกรลาศ กล่าวว่า กรณีนี้ไม่มีการร้องทุกข์แจ้งความแต่อย่างใด แต่เมื่อดูในคลิปแล้ว ได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ เพราะเหมือนมีการจงใจให้เกิดเหตุ และดูเหมือนจงใจเลือกรถที่ไม่มีประกันประเภท 1 หรือรถของพี่น้องเกษตรกร ที่ไม่อยากเสียเวลาไปให้การที่สถานีตำรวจ หลังจากนั้นได้เชิญเจ้าของคลิป และตามตัวผู้เสียหายมาสอบถามถึงข้อเท็จจริง รวมถึงประชาสัมพันธ์ให้ผู้ใช้รถใช้ถนนทราบ หากเกิดเหตุใดๆก็ตามแต่ ขอให้แจ้ง 191 และระหว่างนั้น ขอให้จดจำรูปพรรณสัณฐาน ถ่ายภาพเก็บไว้เป็นหลักฐาน อย่าตกลงกันเอง เพราะจะเป็นช่องทางของมิจฉาชีพ                                                                        
                                                            

ระทึก! ไฟไหม้โรงงานในนิคมฯ บางปะอิน จ.อยุธยา                                                                                                                   
                            ที่มา : http://www.springnews.co.th/local/central/178084
                                                            วันที่ 12 ม.ค. 58 เวลา 12.10 น. เกิดเหตุเพลิงไหม้ โรงงานบริษัท เอพีซีบี อิเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด ภายในนิคมฯ บางปะอิน ต.คลองจิก อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่ดับเพลิงถึงที่เกิดเหตุแล้ว โดยในขณะนี้ยังควบคุมเพลิงไม่ได้ และมีเสียงระเบิดดังขึ้นเป็นระยะ                                                                        
                                                            

ช้างป่าเขาใหญ่ ล้มต้นไม้ขวางถนน-จนท. ตั้งด่านหน้าน้ำตกเหวนรก                                                                                                                   
                            ที่มา : http://travel.kapook.com/view109123.html
                                                            ช้างป่าเขาใหญ่ ยังคงออกอาละวาด ล้มต้นไม้ขวางถนน ช่วง กม.23 เจ้าหน้าที่เข้าเคลียร์เส้นทางแล้ว ล่าสุดจัดกำลังดูช้างป่าระยะทาง 10 กิโลเมตร หากพบจะทำการกั้นรถให้ช้างป่าเดินไปก่อน

            ความคืบหน้าเหตุช้างป่าเพศผู้อายุประมาณ 8 ขวบ หากินริมถนนสาย 3077 (ปราจีนบุรี-เขาใหญ่) ช่วง กม.30 ต.ปากพลี อ.ปากพลี จ.นครนายก บนอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ มรดกโลก (ในพื้นที่รอยต่อ 4 จังหวัด จ.ปราจีนบุรี จ.นครราชสีมา จ.นครนายก และ จ.สระบุรี) นั่งทับรถเก๋งนักท่องเที่ยวเสียหายหน้าหม้อรถยุบกระจกแตกนั้น

            ล่าสุด (12 มกราคม 2558) มีรายงานว่า ที่บริเวณ กม.23 ต.เนินหอม อ.เมืองปราจีนบุรี ระหว่างเส้นทางด่านช้าง เกิดเหตุระทึกพบต้นไม้ข้างทางขนาดใหญ่ล้มขวางลักษณะปิดถนนเกือบเต็ม 2 ช่องทาง เบื้องต้นคาดว่าเป็นฝีมือช้างป่าเพศผู้ที่ช่วงนี้พบเห็นออกมาหากินริมถนนบ่อยครั้ง จนมีเหตุทำลายทรัพย์สิน รถยนต์นักท่องเที่ยว เบื้องต้นจุดสกัดด่านตรวจหน้าน้ำตกเหวนรกที่อยู่ใกล้หน่วยเคลื่อนที่เร็วเขาใหญ่ ได้ตรวจสอบและเปิดเส้นทางไม่ให้เป็นอันตรายหรือขวางเส้นทางต่อไป

           อย่างไรก็ดี รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ช่อง 3 ได้นำเสนอข่าวดังกล่าวเช่นกัน โดยระบุว่า สาเหตุที่ช้างป่าออกกระทำเช่นนี้ อาจจะเนื่องจากความเครียด เพราะปกติช้างป่าจะเดินลัดเลาะริมถนน เพื่อหาอาหารกิน แต่เมื่อเจอรถหรือรถบางคันจอดขวางอยู่ ช้างป่าก็ป้องกันตัวดังกล่าว

           ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ก็ได้ออกมาตรการจัดเจ้าหน้าที่ในการระแวดระวังช้างป่า ในระยะทาง 10 กิโลเมตร บริเวณทางขึ้นฝั่งด่านช้าง โดยได้จัดเจ้าหน้าที่เอาไว้ ถ้าเจอช้างป่าออกมาก็จะกั้นรถไม่ให้ขับผ่าน แต่ทั้งนี้ปัญหาคือระยะทาง 10 กิโลเมตรนั้น ค่อนข้างยาวไป จึงคาดการณ์ได้ยาก ว่าช้างป่าจะออกมาช่วงไหนหรือตอนไหน

           และหากเมื่อนักท่องเที่ยวเจอช้างป่า ก็ควรปฏิบัติตาม 10 ข้อที่กรมอุทยานแห่งชาติระบุไว้ อ่าน
เปิด 10 วิธีปฏิบัติตัวเมื่อพบช้างป่าบนถนน โดยสิ่งสำคัญลำดับแรก ๆ คืออย่าดับเครื่องยนต์ เพราะถ้าเมื่อไรช้างเปิดทางจะได้เลี่ยงออกมาได้ และอย่าบีบแตรหรือตีไฟสูงใส่ช้างป่าเด็ดขาด ส่วนถ้าใครที่ขับรถมาแล้วเห็นช้างป่าไกล ๆ เป็นไปได้ให้วกรถกลับเลย หรือสังเกตพฤติกรรมของช้างป่าดู หากช้างสะบัดหูไปมา แสดงว่า ช้างยังเป็นมิตร ถ้าตัวไหนมีใบหูตั้ง มีอาการหงุดหงิดและจ้องทำร้าย หรือเดินเข้าหา ควรคิดเลยว่า ช้างตัวนี้น่าจะเป็นช้างที่อ­ันตรายไม่สมควรขับรถผ่าน ควรเปลี่ยนเส้นทางการเดินทางเสียใหม่ ทั้งนี้ กรณีของช้างป่าเป็นสิ่งที่กรมอุทยานควบคุมไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องธรรมชาติที่ช้างป่าจะออกมาหากินตามวงจรของมัน และหากใครเจอช้างป่าก็ขอให้ปฏิบัติตาม 10 ข้อ อย่างเคร่งครัด                                                                        
                                                            

2 แม่ลูกขึ้นรถไฟผิดขบวน โดดลงบาดเจ็บสาหัส
                                                                                                                  
                            ที่มา : http://news.sanook.com/1729397/
                                                            วานนี้ (11 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดเหตุสองแม่ลูกกระโดดลงจากรถไฟ บริเวณสถานีรถไฟเทพา จ.สงขลา ได้รับบาดเจ็บ ทราบชื่อคือ นางเกตุ ประสมพงษ์ อายุ 44 ปี และ ด.ญ.พณิดา ประสมพงษ์ อายุ 11 ขวบ มีภูมิลำเนาอยู่ ม.4 ต.ทุ่งขมิ้น อ.นาหน่อม จ.สงขลา เป็นผู้โดยสารรถไฟขบวนที่ 37 ซึ่งเป็นรถด่วนทักษิณ กรุงเทพฯ-สุไหงโก-ลก

รายงานข่าวแจ้งว่า ผู้เป็นแม่ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส เนื่องจากศีรษะได้รับความกระทบกระเทือนอย่างหนัก ถูกส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลสงขลา ส่วนลูกสาวได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยอาการปลอดภัย ถูกส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลเทพา

จากการสอบสวนทราบว่าสาเหตุที่ทั้งสองแม่ลูกกระโดดลงจากรถไฟ เนื่องจากขึ้นรถไฟผิดขบวน โดยก่อนเกิดเหตุได้ซื้อตั๋วโดยสารขบวนท้องถิ่น 463 พัทลุง-สุไหงโก-ลก ขึ้นรถไฟจากสถานีนาหม่อม อ.นาหม่อม จ.สงขลา ไปลงที่สถานีตาแปด อ.เทพา จ.สงขลา

แต่ปรากฏว่าทั้งสองคนขึ้นรถไฟผิดขบวนโดยไปขึ้นขบวนที่ 37 ซึ่งเป็นรถด่วนและไม่จอดสถานีตาแปดและสถานีเทพา แต่เมื่อรถไฟเข้าสู่สถานีเทพาและชะลอความเร็ว ทั้งสองคนจึงได้กระโดดลงมาจากรถจนได้รับบาดเจ็บ โดยหากเลยไปจะต้องไปลงที่สถานีรถไฟปัตตานี จึงทำให้ตัดสินใจกระโดดลงดังกล่าว                                                                        
                                                            

น่าสงสารจั
รู้ลึกรู้จริง ชูวิทย์ยัน!! ฟิตเนสเซ็กซ์มีจริง ค่าเข้าคนละ 2000 บาท หลังจากนั้น...

ที่มา ไทยรัฐ
จากกรณี โลกโซเชียลฯ มีการแชร์คลิปแอบถ่าย กลุ่มชายหญิงเปลือยกายนัวเนียกันในฟิตเนสแห่งหนึ่ง ขณะที่มีผู้ชายบางคนที่ก้มหน้าก้มตาวิ่งบนลู่วิ่งโดยที่ไม่ได้สนใจสิ่งรอบข้าง

ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ จึงขอต่อสายโทรศัพท์ด่วนไปยังอดีตเจ้าพ่ออาบอบนวด นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย เพื่อสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับร้านฟิตเนสว่ามีการให้ผู้หญิงเปลือยกายรวมถึงมีการแอบแฝงขายบริการด้วยจริงหรือ? โดยนายชูวิทย์ เปิดเผยว่า สถานที่พวกนี้คือสปาที่มีบริการฟิตเนสและบริการนวดอย่างครบวงจร อยู่ย่านทาวน์ อิน ทาวน์ มีหลายร้านมาก แต่ถ้าเป็นร้านที่มีการเปลื้องผ้า จะมีอยู่ประมาณ 5 ร้าน

ธุรกิจเหล่านี้เป็นพัฒนาการต่อจากอาบอบนวด มีบริการนวดตั้งแต่หัวจรดเท้า รวมถึงอวัยวะเพศของผู้ชายด้วย โดยคิดค่าเข้าคนละ 2,000 บาท เมื่อเดินเข้าไปก็มีหลายส่วนทั้งสปา ฟิตเนส ซาวน่า และที่เด็ดสุดคือพนักงานเปลื้องผ้าคอยให้บริการแขก หากสนใจพนักงานคนไหนก็สามารถคุยต่อรองราคาและขึ้นไปบนห้องนวดชั้นบนได้ทันที ราคาก็แล้วแต่คนอยู่ที่ 5,000-10,000 บาท


ฟิตเนสอะไรกันนี่ มีสาวเปลือยกายเดินไปเดินมา
ทั้งนี้ นายชูวิทย์ มองว่า ผู้ที่ให้บริการธุรกิจแบบนี้น่าจะเอาต้นแบบมาจากมาเก๊า ซึ่งมีพนักงานผู้หญิงเปลือยกาย มีให้แช่น้ำร้อน มีห้องซาวน่า อีกทั้ง ยังมีบริการเครื่องดื่มแอลกฮอล์ด้วย เรียกได้ว่า เปิดเป็นสปาครบวงจรจริงๆ

ส่วนเหตุผลหลักที่ปัจจุบันคนหันมาทำธุรกิจแบบนี้มากขึ้น เนื่องจากว่าอาบอบนวดที่เป็นตู้กระจกเริ่มล้าสมัยแล้ว คนใช้บริการก็ลดน้อยลง ไม่มีอะไรแปลกใหม่ คนก็เบื่ออะไรแบบเดิมๆ จึงดัดแปลงเป็นธุรกิจใหม่ที่แผ่ขยายออกไปได้หลายอย่าง เช่น อาจจะเป็นสปา มีบริการนวด พร้อมกับมีฟิตเนสให้ออกกำลังกาย อีกทั้งยังมีบริการขายอาหาร เครื่องดื่มแอลกฮอล์เพิ่มเติมไปด้วย และที่สำคัญสามารถเปิดได้ 24 ชม. ซึ่งการทำธุรกิจแบบนี้ค่อนข้างแปลกใหม่ ดึงดูดใจผู้ใช้บริการมากกว่าอาบอบนวดตู้กระจก และสามารถทำรายได้ให้ผู้ประกอบการเป็นกอบเป็นกำ

นายชูวิทย์ อธิบายต่อว่า จำนวนผู้ใช้บริการจะมากหรือน้อยแล้วแต่สถานที่ อย่างทาวน์ อิน ทาวน์ ทาร์เก็ตจะเป็นคนไทยมีอายุ ส่วนที่ภูเก็ตก็มีธุรกิจแบบนี้เหมือนกัน ลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นชาวต่างชาติ เช่นเดียวกับที่พัทยา สำหรับช่วงวันหยุด ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ผู้ใช้บริการจะเยอะเป็นพิเศษ ส่วนวันธรรมดาช่วงเที่ยงเมื่อคนต้องการพักผ่อนก็สามารถมาใช้บริการได้

“ธุรกิจแบบนี้ทำให้เกิดช่องโหว่ของกฎหมายที่เอาผิดไม่ได้ เนื่องจากเขาทำสปา ฟิตเนส อย่างถูกกฎหมาย และยังเปิดได้ 24 ชม. แต่ในต่างประเทศ เขาจะมีข้อห้ามไว้ว่าห้ามทำธุรกิจขายบริการแอบแฝง แต่ข้อห้ามแบบนี้ใช้ไม่ได้กับเมืองไทยหรอก” อดีตเจ้าพ่ออาบอบนวด แสดงความเห็น


นัวเนียกันในฟิตเนส
ด้าน พ.ต.อ.ปัญญา ปิ่นสุข รองผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) ชี้แจงถึงกรณีซาวน่าเซ็กซ์ว่า ในกรณีเช่นนี้ จะต้องส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบลงพื้นที่เข้าตรวจสอบ เพื่อหาข้อมูลและรายละเอียดการกระทำความผิดต่างๆ ของสถานบริการแห่งนั้น หากเข้าไปตรวสอบแล้วพบว่า มีการประกอบพฤติกรรมลามกอนาจารอยู่ในสถานที่ดังกล่าวจริง จะถือว่ามีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาอย่างแน่นอน

กระนั้น หากพบสถานบริการที่มีการเปิดแบบครบวงจร ในรูปแบบของสปา ฟิตเนส หรือแช่น้ำร้อนก็ดี แต่กลับมีการแสวงหาประโยชน์จากการเปิดธุรกิจอื่นๆ แอบแฝง มิหนำซ้ำ ยังมีนางบำเรอคอยให้บริการ พร้อมกับขายสุราและบุหรี่ด้วยแล้ว โดยที่ไม่มีกำหนดไว้ในใบอนุญาตประกอบกิจการค้า หรือไม่ถูกต้องตามประเภทของใบอนุญาต จะถือว่ามีความผิด

“หากเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปแล้วพบว่ามีความผิดจริง จะถือว่าเป็นความผิดซึ่งหน้า สามารถทำการจับกุมได้เลย หรือในกรณีที่ลงพื้นที่ไปแล้ว ไม่สามารถตรวจสอบพบว่ามีการกระทำความผิด ก็จะต้องสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานและดำเนินคดีต่อไป” พ.ต.อ.ปัญญา กล่าว
ข้อมูลจาก:

ดูเพิ่มเติม ==> http://nisit.co/WjrK

ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้