ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

มาติดตามข่าวสารต่างๆที่น่าสนใจกันครับ

[คัดลอกลิงก์]
เงิบ? ชีวิตครูสาว 2 หัวในร่างเดียว แต่รสนิยมต่างกันลิบลับ

สำหรับ "อาบิเกล-บริตตานี" ฝาแฝดสาวคู่นี้แล้ว รูปพรรณสันฐานไม่ใช่อุปสรรคเลยแม้แต่น้อย เพราะแม้จะเกิดมามี 2 หัว แต่พวกเธอก็ยังใช้ชีวิตเยี่ยงคนปกติได้อย่างสบายมาก

อาบิเกล เฮนเซล (คนขวา) และบริตตานี เฮนเซล (คนซ้าย) เกิดเมื่อวันที่ 7 มี.ค. ปี 2533 ที่เขตคาร์เวอร์ รัฐมินนิโซตา ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นฝาแฝดที่มี 2 หัวในร่างเดียว ซึ่งทางการแพทย์นับว่าเป็นเคสที่หายากมาก อวัยวะภายนอกมีเท่ากับคนปกติทั่วไปหมด ไม่ว่าจะเป็นแขน 2 ข้าง ขา 2 ข้าง หน้าอก 2 ข้าง

ส่วนภายในร่างกายนั้น อาบิเกลและบริตตานีมีกระดูกสันหลังคนละท่อน แล้วไปเชื่อมกันตรงสะโพก มีปอด 3 ปอด กระเพาะอาหาร 2 กระเพาะ ไต 3 ข้าง ถุงน้ำดี 2 ถุง กระเพาะปัสสาวะ 1 อัน ลำไส้ใหญ่หนึ่ง ใช้ระบบสืบพันธุ์ร่วมกัน นอกจากนี้ ยังมีหัวใจ 2 อันแต่ใช้ระบบหมุนเวียนเลือดเดียวกัน ทำให้เวลาถ้ามีใครคนใดคนหนึ่งไม่สบาย

อีกคนสามารถทานยาแทนกันได้ แม้รูปกายจะแตกต่างจากคนอื่นแต่อาบิเกลกับบริตตานีก็ใช้ชีวิตเหมือนกับคนทั่วๆไปเที่ยวลั้นลาวันหยุด ไปสำเริงสำราญกับเพื่อน เล่นวอลเลย์บอล หรือแม้แต่ขับรถก็ตาม  นอกจากนี้ ยังจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเบเธล จนปัจจุบันมีอาชีพเป็นครูชั้นประถม ที่เน้นสอนวิชาคณิตศาสตร์

"เรามีใบอนุญาตวิชาชีพครูแยกกันคนละใบก็จริง แต่เวลาจ่ายเงินเดือน เขาจ่ายให้แค่ก้อนเดียวนะ เพราะถือว่าเราทำงานโดยใช้ร่างเดียว" อาบิเกลกล่าว และว่า "เอาจริงๆฉันก็อยากจะเถียงซักหน่อยว่า เราเรียนจบแล้วได้ประกาศนียบัตรมาคนละใบ แล้วในการสอนเราก็ยังช่วยกันได้ด้วย คือให้มุมมองต่อผู้เรียนต่างกัน" "เป็นต้นว่า คนใดคนหนึ่งอาจจะสอนไป แล้วอีกคนก็คอยสังเกตชั้นเรียนแล้วก็ถามคำถามเด็ก" บริตตานีกล่าวเสริม

ก็แน่นอนว่า การเกิดมาเป็นแฝดสยาม (Siamese Twins) ก็คือการต้องอยู่ตัวติดกันไปนานโข หรืออาจจะตลอดชีวิตในบางคู่ถ้าหากว่ามีอวัยวะที่ใช้ร่วมกันจนไม่สามารถผ่าแยกได้ ย่อมต้องมีการขัดแย้งกันบ้างเป็นธรรมดา แต่สาวอาบิเกลและบริตตานีก็ยังสามารถเรียนรู้ที่จะปรับตัวเข้าหากันได้ ตั้งแต่เรื่องการกิน ชีวิตในสังคม หรือแม้แต่เสื้อผ้าที่ต่างคนก็ต่างสไตล์

"รสนิยมเรานี่ต่างกันสุดขั้วเลย"อาบิเกลกล่าว และว่า "บริตตานีจะชอบแนวธรรมชาติๆ สีโทนพื้นๆ แต่ฉันนี่สิ ชอบสีดุเด็ดเผ็ดมัน"

เหมือนจะเป็นคนคนเดียวกัน เพราะมีร่างเดียว แต่จริงๆแล้วไม่ใช่ แม้แต่อุปนิสัยก็ยังต่างกันเสียด้วยซ้ำ โดยอาบิเกลจะเป็นคนพูดเก่ง เถียงใครก็มักจะชนะเสมอ แต่จะไม่ค่อยสังคมจัด ในขณะที่บริตตานีอาจจะพูดน้อยกว่า แต่กลับชอบออกไปเที่ยวนอกบ้าน

เวลาดื่มกาแฟก็เช่นกัน บริตตานีจะเริ่มมีอาการใจสั่นถ้าเกิดดื่มไปประมาณ 2-3 ถ้วย ในขณะที่อาบิเกลไม่รู้สึกอะไรเลย

นอกจากคู่ของสองสาวนี้แล้ว ยังมีแฝดสยามอื่นๆบนโลกอีกมากมาย เช่นที่อินเดีย ก็มีฝาแฝดหญิงเกิดมามีสองหัว และแพทย์ไม่สามารถผ่าแยกได้เนื่องจากว่าใช้ร่างเดียวกัน ในตอนแรกก็หวั่นๆกันว่าทั้งคู่อาจจะไม่รอดชีวิต เพราะแพทย์กล่าวว่า จะมีแค่เพียงร้อยละ 35 เท่านั้นที่จะยังหายใจได้จนกระทั่งหมดวัน แต่แล้วหนูน้อยทั้งสองก็อยู่ได้เกิน 24 ชม. ในขณะที่พ่อซึ่งทำงานอยู่ในโรงงานผลิตจักรยาน และได้ค่าจ้างเพียงน้อยนิด กลับปฏิเสธที่จะเอาลูกกลับไปเลี้ยงในตอนนั้น โดยอ้างว่ายังไม่พร้อม และเครียดที่ลูกเกิดมาผิดปกติ





เก่งมากสำหรับแฝดคู่นี้ สู้ชีวิต ทำใจและยอมรับมัน เป็นผมก็ไม่รู้จะทำได้ไหม
ไฟไหม้โรงงานยาง นิคมเหมราช บริษัทหลิงหลง ระยอง                                                                                                                   
                            ที่มา : http://hilight.kapook.com/view/115148
                                                            ภาพล่าสุด ไฟไหม้โรงงานยาง นิคมเหมราช บริษัทหลิงหลง ระยอง
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ทวิตเตอร์  @MorningNewsTV3

ไฟไหม้โรงงานยางระยองยังคุกรุ่น-ฉีดน้ำเลี้ยงป้องลุกลาม (ไอเอ็นเอ็น)

                 SkyReport เผยภาพล่าสุด ไฟไหม้โรงงานยางรถยนต์ บริษัทหลิงหลง นิคมเหมราช จ.ระยอง ไฟยังคุกรุ่น เจ้าหน้าที่ยังฉีดน้ำหล่อเลี้ยงป้องกันลุกลาม ขณะที่ กรมควบคุมมลพิษ เตรียมเข้าตรวจสอบสภาพอากาศ

                 วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2558 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าเหตุเพลิงไหม้โรงงานยางรถยนต์ของบริษัท หลิงหลง ภายในนิคมอุตสาหกรรมเหมราชอีสเทิร์นซีบอร์ด จ.ระยอง โดย นายพรชัย ถมกระจ่าง นายอำเภอศรีราชา ได้เดินทางเข้าอำนวยการดับเพลิง พร้อมฟังบรรยายสรุปสถานการณ์จากตัวแทนโรงงาน ทั้งนี้สาเหตุเพลิงไหม้คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร มีคนงานภายในโรงงานเห็นประกายไฟปะทุขึ้นที่สายไฟเมนหลักของโรงงานก่อนที่เปลวไฟจะหล่นใส่แท่นตั้งยางรถยนต์จนเกิดเพลิงลุกไหม้ลามถึงกองยางรถยนต์ในโรงงาน ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี

                 และจากการนับยอดจำนวนคนงานล่าสุด พบว่ายังอยู่กันครบไม่พบผู้เสียชีวิตตามที่มีข่าวออกมาก่อนหน้านี้ว่ามีผู้เสียชีวิต 4 ราย โดยมีเพียงผู้บาดเจ็บจากการสำลักควันเท่านั้น และขณะนี้สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ในวงจำกัดแล้ว หลังจากเผาผลาญอาคารภายในโรงงานเสียหาย 6 หลัง

                 โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา SkyReport ของช่อง 3 ได้ทำการบินสำรวจพร้อมเผยภาพล่าสุดบริเวณจุดเกิดเหตุพบว่า ไฟยังคุกรุ่น เจ้าหน้าที่ยังฉีดน้ำหล่อเลี้ยงป้องกันลุกลาม ขณะที่ กรมควบคุมมลพิษ เตรียมเข้าตรวจสอบสภาพอากาศ                                                                        
                                                            

ไหม้หมดเลยมังครับนั่น
ไหม้ทั้งหลังเลย
ดาบตำรวจ สภ.เมืองสระแก้ว แค้นเมียมีชู้จ่อยิงดับ


2014/12/22 10:52 PM


http://www.tnamcot.com/2014/12/2 ... %E0%B9%89%E0%B8%A7/


สระแก้ว 22 ธ.ค.-ดาบตำรวจ ผบ.หมู่งานสืบสวน สภ.เมืองสระแก้ว แค้นเมียมีชู้ใช้ปืนจ่อยิงหน้าผาก 1นัด หน้าอก 1 นัด เสียชีวิตก่อนหลบหนี จนท.เร่งไล่ล่า และประสานจนมอบตัว

เมื่อเวลา 05.30 น.วันที่ 22 ธ.ค.57 ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองสระแก้ว จ.สระแก้ว ได้รับแจ้งเหตุยิงกันบริเวณหน้าร้านอาหารปากซอยเทศบาล 20 เขตเทศบาลเมืองสระแก้ว จ.สระแก้ว จึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุข้างตู้โทรศัพท์สาธารณะ พบร่างของนางสาวอรพรรณ  ศรีสุทโธ หรือ อร อายุ 25 ปี นอนจมกองเลือดหายใจรวยริน พบบริเวณหน้าผากและหน้าอก มีรอยถูกกระสุนปืนยิงเข้าจุดละ 1 นัด หน่วยกู้ภัยสระแก้ว จึงได้รีบนำส่งโรงพยาบาล และเสียชีวิตในเวลาต่อมา

จากการสอบถามทราบว่ามือปืนที่ยิงนางสาวอรพรรณจนเสียชีวิต คือ ด.ต.ทะนงศักดิ์  สะท้านสัตย์  หรือดาบบัง อายุ 48 ปี ผบ.หมู่งานสืบสวน สภ.เมืองสระแก้ว เป็นสามีของนางสาวอรพรรณ ซึ่งหลังก่อเหตุ ด.ต.ทนงศักดิ์ อุ้มลูกวัย 2 ขวบ หลบหนีไป

จากการสอบสวนเจ้าของร้านอาหารบริเวณดังกล่าวทราบว่าเมื่อเวลาประมาณ 05.30 น. ได้ยินเสียงผู้ชายและผู้หญิงทะเลาะกันเสียงดังบริเวณข้างตู้โทรศัพท์สาธารณะหน้าร้าน ต่อมาได้ยิงเสียงปืนดังขึ้น 2 นัด เมื่อวิ่งออกมาดูเห็น ด.ต.ทนงศักดิ์ ซึ่งแต่งเครื่องแบบครึ่งท่อนสวมเสื้อแจ็คเก็ตสีดำ อุ้มลูกวัย 2 ขวบ วิ่งไปขึ้นรถยนต์กระบะขับหนีไปอย่างรวดเร็ว ขณะที่พบนางสาวอรพรรณ ภรรยาของ ด.ต.ทนงศักดิ์ ถูกยิงนอนจมกองเลือด

จนท.ระดมกำลังกันออกติดตามจับกุม ด.ต.ทนงศักดิ์ แต่ยังไร้ร่องรอย จนกระทั่งเวลาประมาณ 11.00 น. ด.ต.ทนงศักดิ์ ติดต่อ พ.ต.อ.วุฒิชัย  คำพุฒิ ผกก.สภ.เมืองสระแก้ว ขอเข้ามอบตัว

จากการสอบถาม ทราบว่าสาเหตุที่ทำให้ ด.ต.ทนงศักดิ์ คิดสั้นตัดสินใจยิงภรรยา เนื่องจากทราบว่านางสาวอรพรรณ ภรรยา ซึ่งมีลูกด้วยกัน 1 คน อายุ 2 ปี แอบไปคบกับชายอื่นและชอบหนีออกไปเที่ยวบ่อยครั้ง จนกระทั่งล่าสุดเกิดทะเลาะกันอีก และด้วยความหึงหวง ด.ต.ทนงศักดิ์ จึงใช้ปืนพกประจำตัวขนาด .38 ยิงนางสาวอรพรรณ ภรรยา 2 นัดซ้อน โดยยิงเข้าที่หน้าผาก 1 นัดและ หน้าอก 1 นัด .-สำนักข่าวไทย


Tagged: ด.ต.แค้นเมียมีชู้, สภ.เมืองสระแก้ว



ที่มา..http://www.tnamcot.com
สุดเพี้ยน! หนุ่มจีนตัดมือตัวเอง แก้อาการเสพติดเกม
                                                                                                                   
                            ที่มา : http://www.springnews.co.th/global/184689
                                                            
           สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า หนุ่มจีนวัย 19 ปีจากเมืองหนานทง ในมณฑลเจียงซู สาธารณรัฐประชาชนจีน เข้ารักษาตัวในห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาล หลังได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการใช้มีดตัดข้อมือของตัวเอง

หนุ่มเพี้ยนรายนี้เผยสาเหตุของการกระทำดังกล่าวว่า เขาต้องการแก้อาการเสพติดเกมและอินเตอร์เน็ตของตัวเอง จึงตัดสินใจใช้มีดทำครัวในบ้านของตน เฉือนข้อมือตัวเองหลายครั้งขณะนั่งอยู่ที่เก้าอี้ในสวนสาธารณะ ก่อนจะทนการบาดเจ็บไม่ไหวและเรียกรถแท็กซี่ให้ไปส่งที่โรงพยาบาลของมหาวิทยาลัยซึ่งอยู่บริเวณใกล้ๆ

นับเป็นโชคดีของหนุ่มจีนรายนี้ ที่ศัลยแพทย์สามารถต่อเส้นเลือดและเส้นเอ็นข้อมือให้เขาได้สำเร็จ แต่ไม่ยืนยันว่าเขาจะสามารถใช้งานหรือเคลื่อนไหวมือได้เหมือนปกติหรือไม่

ทั้งนี้ จากข้อมูลสถิติพบว่า ชาวจีนมากกว่า 24 ล้านคนมีอาการเสพติดการใช้อินเตอร์เน็ต และร้อยละ 14 ของวัยรุ่นจีนมีอาการเสพติดโลกออนไลน์ ซึ่งผู้ที่มีอาการรุนแรงจะไม่สนใจทำอะไรเลย นอกจากนอนและเล่นอินเตอร์เน็ต ทำให้จีนถึงกับต้องตั้งศูนย์บำบัดอาการเสพติดอินเตอร์เน็ตขึ้นที่กรุงปักกิ่งเลยทีเดียว                                                                        
                                                            

พระอาวุโสมองโกเลีย ยันพระมัมมี่ยังไม่มรณภาพ แค่เข้าฌานลึก                           

                                                                                       
                            ที่มา : http://hilight.kapook.com/view/115381
                                                            พระอาวุโสมองโกเลีย ยันพระมัมมี่ยังไม่มรณภาพ แค่เข้าฌานลึก

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก knowledgeincreaser.blogspot.com

            พระอาวุโสมองโกเลีย ยันพระที่ถูกพบในสภาพมัมมี่ยังไม่มรณภาพ แค่เข้าฌานลึก ขณะที่คาดว่าพระรูปดังกล่าวอาจเป็นพระอาจารย์ของ องค์ลามะดาชิ ดอร์โซ อิทิกิลอฟ แห่งอดีตสหภาพโซเวียต

            วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2558 สำนักข่าวบีบีซี มีรายงานว่า พระอาวุโสหลายรูปในประเทศมองโกเลีย ระบุว่าพระรูปหนึ่งที่ถูกพบในสภาพมัมมี่ โดยมีหนังวัวพันรอบกายเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น ยังไม่มรณภาพ หากแต่อยู่ในสมาธิจิตที่ดิ่งลึก ขณะที่ร่างของพระรูปดังกล่าวกำลังอยู่ระหว่างการชันสูตร

            ขณะที่นักวิทยาศาสตร์ยังไม่ชี้ชัดว่าเหตุใดร่างของพระรูปนี้จึงถูกรักษาไว้อย่างดี แต่หลายคนเชื่อว่าอาจเป็นเพราะสภาพอากาศหนาวเหน็บในแถบภาคกลางค่อนไปทางเหนือของมองโกเลีย ทำให้ร่างดังกล่าวยังคงอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์

            อย่างไรก็ตาม ดร.บาร์รีย์ เคอร์ซิน แพทย์ขององค์ดาไล ลามะ ได้แสดงความคิดเห็นว่า พระรูปนี้อยู่ในสภาวะการเข้าสมาธิในระดับที่ยากจะพบเจอ ซึ่งเรียกว่า "ทัคดัม" และหากผู้เข้าสมาธิสามารถเพ่งจิตอยู่ในสมาธิขั้นนี้ได้ต่อไป เขาก็จะเข้าถึงสภาวะแห่งพุทธ

            รายงานชี้ว่า พระรูปนี้ถูกค้นพบหลังจากมีคนขโมยร่างเพื่อนำไปขายในตลาดมืด แต่ตำรวจมองโกเลียสามารถจับกุมผู้กระทำผิดไว้ได้ ก่อนส่งร่างของพระรูปนี้ไปเก็บรักษาไว้ที่ศูนย์นิติเวชแห่งชาติ โดยที่ขณะนี้ยังไม่เป็นที่ทราบชัดว่าแท้จริงแล้วพระรูปนี้เป็นใคร แต่คาดกันว่าน่าจะเป็นพระอาจารย์ขององค์ลามะดาชิ ดอร์โซ อิทิกิลอฟ ซึ่งถูกพบอยู่ในสภาพมัมมี่เช่นกัน

            โดยเมื่อปี 2470 ลามะอิทิกิลอฟ แห่งเบอร์ยาเทีย ในอดีตสหภาพโซเวียต ได้แจ้งแก่ศิษยานุศิษย์ว่าจะละสังขารและให้ขุดร่างขึ้นมาในอีก 30 ปีข้างหน้า จากนั้นเขาได้เริ่มนั่งสมาธิก่อนจะสังขารไป จนเมื่อมีการขุดร่างขึ้นมาในภายหลังก็ปรากฏว่าร่างของลามะองค์นี้ยังคงอยู่ในสภาพดี แต่ด้วยหวาดกลัวทางการโซเวียตทำให้ศิษยานุศิษย์ตัดสินใจนำร่างขององค์ลามะกลับไปฝังอีกครั้ง กระทั่งถึงปี 2545 จึงขุดขึ้นมาเพื่อเฉลิมฉลอง และพบว่าร่างยังอยู่ในสภาพดี จากนั้นจึงนำไปประดิษฐานที่วัดเพื่อให้เคารพบูชาต่อไป                                                                        
                                                            

ขอบคุณครับ
kit007 ตอบกลับเมื่อ 2015-2-5 18:55
พระอาวุโสมองโกเลีย ยันพระมัมมี่ยังไม่มรณภาพ แค่เข้า ...

มัมมี่นี่ ถ้ายังไม่ตายจริงนี่ แสดงให้เห็นถึงความสุดยอดของสมาธิเลย แต่ผมว่าไม่เหลือแล้วหล่ะครับ
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้