ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

มาติดตามข่าวสารต่างๆที่น่าสนใจกันครับ

[คัดลอกลิงก์]
สลด! 2 ด.ช.ขี่ จยย.ชนท้ายรถไถที่จอดอยู่ ดับทั้งคู่
                                                                                                                   
                            ที่มา : http://www.springnews.co.th/local/northeast/165442
                                                            วันที่ 28 พ.ย. 2557 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดเหตุรถชนมีผู้เสียชีวิต บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 15 ถ.ประทัดบุ-อาลอ ต.เพี้ยราม อ.เมือง จ.สุรินทร์ ทราบคือ ด.ช.เอ (นามสมมติ) อายุ 15 ปี และ ด.ช.บี (นามสมมติ) อายุ 12 ปี ทั้งสองเป็นพี่น้องกัน และเป็นชาว จ.สุรินทร์ อีกทั้งพบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ 110 สีแดงดำ ทะเบียน 1 กจ 5503 สุรินทร์

จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ด.ช.เอ ได้ขี่รถจักรยานยนต์ ส่วน ด.ช.บี นั่งซ้อนท้าย พากันไปกดเงินจากตู้เอทีเอ็ม บริเวณ สหกรณ์ปฏิรูปบ้านอาม็อง และขณะขับขี่รถจักรจักรยานยนต์มุ่งหน้ากลับบ้าน ได้ชนกับรถไถการเกษตรที่จอดอยู่ โดยไม่ได้เปิดสัญญาณไฟ ทำให้ชนท้ายรถไถการเกษตร จนเป็นเหตุให้ ด.ช.ทั้งสองเสียชีวิตคาที่ ขณะที่คนขับรถไถอาศัยความมืดหลบหนีไป

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สกัดตามเส้นทางหลบหนี แต่ยังไร้วี่แวว ซึ่งจะได้สืบสวนสอบสวนติดตามตัวเจ้าของรถไถมาดำเนินคดีโดยเร็วที่สุด พร้อมมอบศพ 2 เด็กชายให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป                                                                        
                                                            

ยาริสซิ่งเสยท้ายรถบรรทุก ไฟคลอกดับ 2 ศพ ต่อหน้าชาวบ้าน                                                                                                                   
                            ที่มา : http://hilight.kapook.com/view/112037
                                                            ยาริสซิ่งขึ้นเนิน แต่เสียหลักเสยท้ายรถบรรทุกชนสนั่น รถพังยับ ไฟคลอกดับ 2 ศพ พลเมืองดีพยายามช่วย แต่ช่วยได้แค่คนเดียว เห็น 2 ผู้ตายถูกไฟคลอกต่อหน้าต่อตา  

          เมื่อเวลา 01.30 น. ของวันนี้ (28 พฤศจิกายน 2557) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง รับแจ้งว่าเกิดอุบัติเหตุรถชนกัน เพลิงไหม้รถ และมีผู้เสียชีวิต บริเวณวงลอยกิ่งแก้วข้ามถนนบางนา-ตราด จึงรุดไปตรวจสอบ

         ทั้งนี้เมื่อไปถึงยังที่เกิดเหตุ พบเพลิงกำลังโหมลุกไหม้รถยนต์โตโยต้า ยาริส สีขาว ทะเบียน กง 9615 บุรีรัมย์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ใช้เวลากว่า 20 นาที ถึงจะสามารถควบคุมเพลิงได้สำเร็จ

         จากการตรวจสอบภายในรถ พบร่างผู้เสียชีวิต 2 ราย สภาพไหม้เกรียมอยู่ที่เบาะคนขับและเบาะคนข้างคนขับ ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 คน ชื่อ นายอดิเทพ การนอก อายุ 23 ปี พลเมืองดีได้นำตัวส่งโรงพยาบาลแล้ว

          จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ใช้เครื่องตัดถ่างกู้ร่างผู้เสียชีวิตออกมา ตรวจสอบเอกสารภายในรถ ทราบชื่อ นายชัชวาลย์ ธรรมธร อายุ 24 ปี  อยู่จังหวัดบุรีรัมย์ และนายศักดิ์ชัย หลงทอง อายุ 38 ปี อยู่จังหวัดนครปฐม เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่ระบุยืนยันว่าเป็นเอกสารของผู้เสียชีวิตทั้งสองตามที่พบหรือไม่ ต้องรอการตรวจสอบยืนยันอย่างแน่ชัดอีกครั้ง

         ส่วนสาเหตุอุบัติเหตุในครั้งนี้ ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า เห็นรถเก๋งขับมาด้วยความเร็วสูง ซึ่งจังหวะขึ้นลอยยกระดับ เกิดเสียหลักชนกับรถบรรทุกที่วิ่งอยู่ด้านหน้าอย่างจัง จึงทำให้เกิดเหตุสลดดังกล่าว ส่วนรถบรรทุกก็ขับออกไป คาดว่าน่าจะไม่รู้ตัวว่าโดนชนท้าย โดยมีพลเมืองดีเข้ามาช่วยคนเจ็บได้เพียงคนเดียวเท่านั้น อีก 2 คนไม่สามารถนำร่างออกมาได้ จึงเห็นผู้ตายถูกไฟคลอกต่อหน้าต่อตา อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบหาสาเหตุที่แน่ชัดอีกครั้ง                                                                        
                                                            

เก๋งซิ่งเสียหลัก ชนดะจยย. 4 คันเละ! บาดเจ็บ 2
                                       
เมื่อเวลา 05.00 น. วันที่ 29 พ.ย. พ.ต.ต.ภูมเรศ อินทร์คง สารวัตรสอบสวน สภ.ธัญบุรี ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถเก๋งชนรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ข้างทาง และมีผู้ได้รับบาดเจ็บบริเวณถนนรังสิต-นครนยก (มุ่งหน้านครนายก) ต.บึงยี่โถ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี จึงไปที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ชีพเทศบาลบึงยี่โถ


ที่เกิดเหตุพบเก๋งยี่ห้อโตโยต้า หมายเลขทะเบียน 3 กร 2649 กทม. สภาพพังยับเยินทั้งคัน ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ซึ่งเป็นคนขับรถเก๋ง และคนนั่งมาด้วย มีพลดีนำส่งโรงพยาบาลเอกปทุม ไปก่อนหน้าแล้ว ทราบชื่อคนนั่งข้าง คือ นายกวิน พิชัยอุดมเดช อายุ 27 ปี อยู่ ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ส่วนคนขับยังไม่ทราบชื่อ และยังมีรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ข้างทาง ถูกชนพังยับเยินอีก 4 คัน ประกอบด้วย รถจักยานยนต์ยี่ห้อซูซูกิ หมายเลขทะเบียน กจษ 348 ปทุมธานี รถจักรยานยนต์ยี่ห้อซูซูกิ หมายเลขทะเบียน อพท 785 กทม. และอีก 2 คัน ทราบแต่ว่าเป็นรถจักรยานยนต์ยี่ห้อซูซูกิ แต่ยังไม่ทราบทะเบียน และยังมีป้ายร้านกระถางต้นไม้ที่อยู่ริมฟุตบาทถูกชนได้รับความเสียหายอีก 3 ร้าน


จากการสอบถามพยานที่เห็นเหตุการณ์ บอกว่า ตนนอนอยู่ที่ร้านขายแบตเตอรี่ได้ยินเหมือนเสียงรถชนกันดังมาก จึงลุกขึ้นมาดู พบว่ากระถางต้นไม้ป้ายหน้าร้านถูกรถชนพัง และยังมีรถจักรยานยนต์ถูกชนมากองกันอยู่ ส่วนรถเก๋งที่ชนอยู่ห่างจากหน้าร้านตนเองประมาณ 10 เมตร และมีผู้ชายลงมาจากรถ 2 คน


ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ให้ผู้เสียทั้งหมดไปแจ้งความไว้ที่ สภ.ธัญบุรี และจะเรียกคนขับรถที่ก่อเหตุมาสอบสวนข้อเท็จจริงต่อไป

ที่มา: http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRReE56SXlOREkwTmc9PQ=

บิ๊กไบค์ชนกระบะไฟลุก! คลอกหนุ่มดับสยองคาหมวกกันน็อก - เจ็บ4                                       
เมื่อเวลาประมาณ 13.57 น. วันที่ 29 พ.ย. มูลนิธิสว่างคีรีธรรมสถาน จ.เลย รับแจ้งเหตุรถยนต์ชนประสานงากับรถจักรยานยนต์จนเกิดเพลิงลุกไหม้ที่เกิดเหตุบริเวณโค้งภูเสี้ยว บ้านนํ้าอ้อม ต.วังสะพุง อ.วังสะพุง จ.เลย จึงประสานอาสาสมัครจุดวังสะพุงเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบผู้บาดเจ็บ 4 ราย เป็นผู้หญิง 1 ราย อาการสาหัส อาสาสมัครพร้อมรถกู้ชีพ รพ.วังสะพุง ช่วยเหลือนำส่งรพ.วังสะพุง


เมื่อเพลิงสงบ ตรวจสอบพบร่างผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นชายถูกไฟคลอกเกือบทั้งตัว นอนเสียชีวิตอยู่ข้างทาง โดยยังสวมหมวกนิรภัย และพบรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ ไม่ทราบรุ่น สี เจอแผ่นทะเบียน งฐจ 777 นครราชสีมา เบื้องต้นพบว่าชนกับรถกระบะอีซูซุ ดีแม็กซ์ สีบรอนซ์ ทะเบียน บต 7035 เลย

ร้อยเวร สภ.วังสะพุง ถึงที่เกิดเหตุประสานแพทย์เวร ร่วมชันสูตรก่อนจะมอบร่างผู้เสียชีวิตให้เจ้าหน้าที่มูลนิธินำไปชันสูตรที่ รพ.วังสะพุงต่อไป



ขอบคุณข้อมูล-ภาพ ศูนย์วิทยุกู้ภัยสว่างคีรีธรรม จ.เลย
ที่มา: http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRReE56STFOall6TWc9PQ=

โรงเรียนเฮี้ยน เจอผีตามหลอนแทบคลั่ง สั่งทำพิธีปลดปล่อยวิญญาณ                                       



โรงเรียน มัธยมตากสินระยอง สร้างทับที่เรือนจำเก่า ต้องกลับมาทำพิธีปลดปล่อยวิญญาณ หลัง ครู นักเรียน เจอผีตามหลอนตลอด ไม่เป็นอันทำอะไร

จาก ที่มีการเสนอข่าวเรื่องครูและนักเรียนของโรงเรียนมัธยมตากสินระยอง อ.เมือง จ.ระยอง ถูกวิญญาณหลอกหลอนจนไม่เป็นอันทำอะไร เนื่องจากโรงเรียนดังกล่าวสร้างทับที่ของเรือนจำกลาง จ.ระยอง เปิดการเรียนการสอนมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2553 ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 นั้น ล่าสุด เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2557 ทางโรงเรียน ได้จัดทำพิธีปลดปล่อยวิญญาณ และอัญเชิญวิญญาณ ไม่ตามมาหลอกหลอนบุคลากรในโรงเรียนอีก

โดย นายกิตติพัฒน์ เดชะพหุล ผู้บัญชาการเรือนจำกลางระยอง พร้อมด้วย นายมานะ ชูติวงศ์ อดีต ผบ.เรือนจำกลางระยอง ได้เดินทางมาที่โรงเรียนมัธยมตากสินระยอง และพบกับ นายมานิตย์ จันวัน ผู้บริหารโรงเรียนมัธยมตากสินระยอง และ น.ส.รัชนี สุวรรณเกษร ผอ.โรงเรียนฯ พร้อมทำพิธีอัญเชิญเจ้าพ่อเจตคุปต์ เทพารักษ์สำคัญที่ประดิษฐานภายในศาลหลักเมือง กรุงเทพมหานคร ซึ่งเจ้าพ่อเจตคุปต์ ถือเป็นขวัญและกำลังใจที่สำคัญของการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานราชทัณฑ์ เพื่อให้ผู้กระทำผิดรู้จักเกรงกลัวความผิด พร้อมมีการบริวารองค์หนึ่งของพระยม ที่เป็นที่เคารพนับถือของประชาชนและชาวราชทัณฑ์ และเชิญพราหมณ์มาร่วมทำพิธีปลดปล่อยวิญญาณในโรงเรียนด้วย

ด้านนายสมชาย คำสมาน พราหมณ์ผู้ประกอบพิธี ได้เดินทางมาร่วมในพิธี พร้อมตั้งโต๊ะพิธีบริเวณศาลพระภูมิในอดีต ซึ่งในขณะที่ทำพิธีนั้น รูปปั้นม้าก็ได้ตกลงมาแตกทั้งที่ตอนนั้นไม่มีลม หมายความว่า วิญญาณได้หนีไปหนึ่งตน พร้อมกับที่ภายหลัง พราหมณ์ได้ออกมาเผยว่า ขณะทำพิธีพบดวงวิญญาณประมาณ 80 ดวง ที่ถูกมัดเอาไว้ในอาณาเขตเรือนจำเก่า จนทำให้ดวงวิญญาณเหล่านี้ ปรากฏให้ครูนักเรียนเห็นกัน และยังมีดวงวิญญาณผีตายทั้งกลมอีกด้วย ซึ่งทางพราหมณ์ ได้ย้ายดวงวิญญาณไปยังศาลใต้ต้นไม้ยางเก่าแก่ และหลังจากนี้ ก็ต้องการให้สร้างศาลขึ้นใหม่ ให้มีขนาดใหญ่กว่าเดิม ดวงวิญญาณจะได้ไม่มาหลอกหลอนอีก

นาย กิตติพัฒน์ ผบ.เรือนจำกลางระยอง กล่าวว่า โรงเรียนแห่งนี้ สร้างบนพื้นที่เรือนจำกลางระยองเก่า ก่อนที่เรือนจำกลางระยอง จะย้ายไปตั้งที่สถานที่แห่งใหม่ ซึ่งจากการสอบถามอดีต ผบ.เรือนจำคนเดิมนั้น ทราบว่า ก่อนที่จะมีการย้ายไปนั้น ยังไม่มีการทำพิธีปลดปล่อยวิญญาณนักโทษที่เสียชีวิตในเรือนจำ เรือนจำดังกล่าวสร้างตั้งแต่ปี พ.ศ. 2511 และได้ย้ายไปเมื่อ พ.ศ. 2547 ตลอดเวลาที่ผ่านมา มีนักโทษเสียชีวิตหลายร้อยราย และยังมีการประหารนักโทษชายคดีข่มขืนคนหนึ่ง อีกทั้งก่อนที่จะมีการมาตั้งเรือนจำ พื้นที่แห่งนี้ก็เป็นสุสานมาก่อน

นายกิตติพัฒน์ ยังกล่าวอีกว่า ตามหลักแล้ว เมื่อมีการย้ายเรือนจำทุกครั้ง จำเป็นต้องมีพิธีปลดปล่อยวิญญาณนักโทษ ให้หลุดพ้นจากการถูกคุมขัง หรือแม้กระทั่งนักโทษที่เสียชีวิต ทางเรือนจำยังต้องมีประกาศว่า นักโทษได้หลุดพ้นจากการจองจำแล้ว เพื่อให้วิญญาณได้หลุดพ้น การทำพิธีปลดปล่อยวิญญาณในครั้งนี้ ก็เพื่อความสบายใจของครูนักเรียน และบุคลากรของโรงเรียน เพื่อไม่ให้ต้องประสบพบเจอกับเรื่องราวความน่าสะพรึงกลัวอีก

ทั้งนี้จากการสอบถามครู นักเรียน ที่พบเห็นเหตุการณ์ลึกลับ ทราบว่า ดวง วิญญาณที่เคยตามมาหลอกหลอนบุคลากรในโรงเรียนนั้น มีตั้งแต่เสียงเปิดปิดประตู ทั้งที่ไม่มีใครอยู่ จนแม่บ้านไม่กล้าขึ้นไปทำความสะอาด หรือมีนักเรียนเห็นผู้หญิงหน้าแดงก่ำ โผล่ให้เห็นในช่องลิฟต์ นอกจากนี้ ยังมีเสียงคล้ายเสียงลากโซ่ตรวนในห้องน้ำ เมื่อเปิดประตูก็ไม่พบใคร และคนนั้นก็ล้มพับไปด้วยความกลัว ส่วนช่างก่อสร้างที่มาก่อสร้างสระว่ายน้ำในโรงเรียน ก็พบกับใบหน้าคนบนพื้นสระน้ำกลางวันแสก ๆ แต่เมื่อเอามือถือมาถ่ายรูปก็ไม่ติดภาพ ส่วนพนักงานสวนของโรงเรียน ก็มักจะเจอเงาดำวิ่งผ่าน สร้างความสยดสยองเป็นอย่างมาก
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก

ที่มา: http://hilight.kapook.com/view/112100
ที่มา: kapook.com
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ข่าวสด

ฉลามขาวโผล่เกาะลันตา นักท่องเที่ยวแตกตื่น หวั่นฉลามทำร้าย                                       
ฉลามขาว ตัวยาวกว่า 3 เมตร โผล่เกาะลันตา คาดอาจเป็นฉลามหลงฝูง เจ้าหน้าที่แจง หากพบเห็นฉลามขาวให้รีบแจ้งทันที

เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2557 มีรายงานว่า นายธนากร แซ่ลิ้ม ชาวประมงในพื้นที่บ้านหัวแหลม ม.1 ต.เกาะลันตาใหญ่ อ.เกาะลันตา สามารถจับฉลามขาวได้ที่ด้านหลังเกาะไหง ซึ่งฉลามตัวนี้มีลำตัวยาวกว่า 3 เมตร น้ำหนักกว่า 200 กิโลกรัม ซึ่งเป็นฉลามที่ลอยมาติดอวนชาวประมง ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา

จากการสอบถามเบื้องต้น ทราบว่า ฉลามขาวตัวดังกล่าว อาจหลงเข้ามาที่น่านน้ำบริเวณเกาะไหง แต่ถูกชาวประมงจังหวัดตรังจับได้ และนำไปขึ้นแพที่ฝั่ง อ.กันตัง จ.ตรัง และต่อมา เจ้าหน้าที่ก็ได้ประสานไปยังบริษัททัวร์ต่าง ๆ ที่มาดำน้ำบริเวณเกาะไหงและเกาะใกล้เคียง ให้เพิ่มความระมัดระวังกับนักท่องเที่ยว เพื่อความไม่ประมาท ได้มีการสั่งให้มีการตรวจสอบบริเวณใกล้เคียงแล้ว และหากใครที่พบเห็นฉลาม สามารถรายงานให้เจ้าหน้าที่ทราบ เพื่อเพิ่มความระมัดระวังต่อไป

ทั้งนี้ การพบฉลามบริเวณรอบเกาะลันตาใหญ่ เกาะไหง และเกาะใกล้เคียงนั้น สร้างเสียงฮือฮาเป็นอย่างมาก เนื่องจากเกาะดังกล่าว เป็นแหล่งดำน้ำดูปะการังชื่อดังของเมืองไทย ทำให้นักท่องเที่ยววิตกว่า ฉลามอาจจะหลงฝูงเข้ามาในบริเวณดังกล่าว และทำอันตรายกับนักท่องเที่ยวได้

ด้านนายไพบูลย์ บุญญลิปตานนท์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งกระบี่ กล่าวว่า โดยปกติแล้ว ฉลามขาวจะอาศัยอยู่บริเวณทะเลลึก พบเห็นได้ไม่บ่อยในฝั่งอันดามัน แต่อาจมีความเป็นไปได้ที่จะหลงเข้ามาที่ในพื้นที่บริเวณเกาะไหง หรือหินม่วง หินแดง อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ พื้นที่รอยต่อจังหวัดตรัง เพราะบริเวณดังกล่าวเป็นล่องน้ำลึก อีกทั้งน้ำทะเลยังเปลี่ยนแปลง มีความเป็นไปได้ว่าฉลามอาจอพยพเข้ามาชั่วคราว ซึ่งปีที่ผ่านมา มีการพบฉลามขาวที่ทะเลนอก ฝั่งอ่าวพังงา และหมู่เกาะสุรินทร์ และหากผู้ใดพบฉลามขาวไม่ควรเข้าใกล้ เพราะถือเป็นสัตว์ดุร้าย

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก


ที่มา: กระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ข่าวสด

ไอ้นี่ต้องเป็นหลานจอร์ตแน่เลย
ลูกสาววัย12สุดเศร้า! ร่วมงานศพพ่อ-แม่ หลังต้นเลี่ยนล้มทับดับคาอุทยานฯวังเจ้า                           
   
                                                                                       
                            ที่มา : http://www.khaosod.co.th/
                                                            วันที่ 1 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 30 พ.ย. ที่ผ่านมา นายสุรพล วาณิชเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชรและนายสมชาย วิเชียรกัลยารัตน์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติคลองวังเจ้า ร่วมพิธีสวดพระอภิธรรมการบำเพ็ญกุศล 2 สามี-ภรรยา นายมังกร วุฒิปัญญาดี อายุ 43 ปี นายช่างระดับ 6 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดกำแพงเพชร และ นางณัฎฐธิดา วุฒิปัญญาดี อายุ 38 ปี เจ้าหน้าที่พนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดกำแพงเพชร ที่ประสบอุบัติเหตุ ต้นเลี่ยนต้นไม้ใหญ่โค่นทับเสียชีวิต ที่ลานกางเต็นท์ 2 อุทยานแห่งชาติคลองวังเจ้า เขตติดต่อ จังหวัดตาก-กำแพงเพชร ซึ่งได้ตั้งศพของทั้งคู่บำเพ็ญกุศลสวดพระอภิธรรม ที่บ้านติดวัดศรีสุทธาวาส (วังน้ำขาว) เลขที่ 26 หมู่ที่ 13 ตำบลไตรตรึงษ์ อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร

โดยมีเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติคลองวังเจ้า เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าจังหวัดกำแพงเพชร และประชาชน เข้าร่วมฟังสวดพระอภิธรรมบำเพ็ญกุศลศพในคืนแรกจำนวนมาก โดยมีพวงหรีดเคารพศพจำนวนมากเช่นกัน อาทิ นายนิพนธ์ โชติบาล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เป็นต้น บรรยากาศเต็มไปด้วยความเสร้าสลด โดยมี นางนิ่ม วุฒิปัญญาดี อายุ 65 ปี มารดาของ นายมังกร วุฒิปัญญาดี และ นางแต๋ว จันทร์ฉาย อายุ 67 ปี มารดาของ นางณัฎฐธิดา วุฒิปัญญาดี 2 สามีภรรยาผู้เคราะห์ร้าย รวมทั้ง ด.ญ.วิภาดา (ข้าวฟ่าง) วุฒิปัญญาดี บุตรของผู้เสียชีวิต และร่วมอยู่ในเหตุการณ์เศร้าสลดในครั้งนี้ อายุ 12 ปี นักเรียนชั้นประถมปีที่ 6 โรงเรียนอนุบาลกำแพงเพชร ซึ่งแพทย์โรงพยาบาลกำแพงเพชร อนุญาตให้มาร่วมงานงานบำเพ็ญกุศลศพได้ หลังจากเอ็กซเรย์อาการบาดเจ็บที่บริเวณขาข้าวขวา ที่เกิดจากเหตุการณ์ดังกล่าว พบว่ากระดูกไม่หัก เพียงแค่บาดเจ็บจากอาการกระดูกเคลื่อนและร้าว เท่านั้น

นายสุรพล วาณิชเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร กล่าวว่า มีความรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างมาก ช่วงนี้เป็นช่วงการท่องเที่ยวเพื่อสัมผัสกับฤดูหนาว ซึ่งโดยทั่วไป การท่องเที่ยวในบรรยากาศแบบนี้ จะมีการป้องกันอันตรายต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยว แต่กลับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน ซึ่งได้รับฟังจากผู้เข้าร่วมเหตุการณ์ที่ร่วมไปพักผ่อนวันหยุดในครั้งนี้หลายคน ทราบว่า ระหว่างเกิดเหตุมีผู้ร่วมอยู่ในเหตุการณ์หลายคน และผู้เสียชีวิตก็ไม่ได้นั่งอยู่เคียงข้างกัน เพียงแต่ต้นเลี่ยน ต้นไม้ใหญ่ที่โค่นนั้น สูงมากประมาณ 20 เมตร เมื่อโค่นลงมาใส่กลุ่มผู้เสียชีวิตนั้น ลักษณะปลายลำต้น มีลักษณะเป็นตัววาย มีกิ่งทั้ง 2 ข้าง ซ้ายขวา และฟาดอย่างแรงถูกนายมังกร และนางณัฎฐธิดา จนเสียชีวิต อย่างไรก็ตาม ได้ให้เจ้าหน้าที่อุทยานฯ เพิ่มมาตรการป้องกันต้นไม้ใหญ่ ที่อยู่ในบริเวณจุดกางเต็นท์ ว่ามีสภาพของความมั่นคงแข็งแรงขนาดไหน

นายสมชาย วิเชียรกัลยารัตน์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติคลองวังเจ้า เปิดเผยว่า ทางอุทยานฯ ในช่วงฤดูกาลต้อนรับนักท่องเที่ยวที่จะมาเยือนในช่วงฤดูหนาว ก็ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ดูแลในเรื่องความปลอดภัยในด้านต่างๆ แต่ไม่ได้คิดถึงเรื่องที่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ซึ่งนับเป็นเหตุการณ์ที่ไม่ได้คาดคิดมาก่อนจริงๆ ทุกคนรู้สึกเสียใจอย่างมากเช่นกัน สำหรับต้นเลี่ยนที่โค่นลงมาต้นนี้ เป็นไม้ที่รากไม่แข็งแรง และสูงมากประมาณ 20 เมตร ลำต้นตรง ทำให้เมื่อโค่นพาดไปถึงกลุ่มผู้เสียชีวิต จึงเกิดเหตุการณ์เศร้าสลดในครั้งนี้

สำหรับผู้เคราะห์ร้ายทั้ง 2 คน เป็นสามี–ภรรยา ได้กำหนดฌาปนกิจศพ วันพุธที่ 3 ธันวาคม 2557 เวลา 15.00 น. ณ เมรุลอยวัดศรีสุทธาวาส (วังน้ำขาว)                                                                        
                                                            

สลด! รถบัสคนงานพลิกคว่ำมอเตอร์เวย์ คนขับดับคาที่
                                                                                                                   
                            ที่มา : http://www.springnews.co.th/local/eastern/166209
                                                            วันนี้ (1 ธ.ค. 57) เมื่อเวลา 04.00 น. ที่ผ่านมา เกิดอุบัติเหตุรถโดยสารรับส่งคนงานพลิกคว่ำ บริเวณถนนสายมอเตอร์เวย์ ขาเข้าชลบุรี จ.ชลบุรี พบรถบัสรับส่งคนงานของบริษัท นรินทร์แอร์บัส จำกัด หมายเลขทะเบียน 30-1613 ฉะเชิงเทรา พลิกคว่ำอยู่บนถนนสายดังกล่าว และมีผู้เสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อคือ นายพิชัย พงษ์พุทธ อายุ 56 ปี ซึ่งเป็นคนขับรถ

จากการสอบสวนทราบว่า นายพิชัยได้ขับรถคันดังกล่าวเพื่อไปรับส่งคนงานที่ จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อขับมาถึงที่เกิดเหตุคาดว่าจะหลับใน เพราะจู่ๆ รถเกิดเสียหลักชนกับแท่งปูนข้างทางจนพลิกคว่ำเป็นเหตุให้นายพิชัยเสียชีวิต                                                                        
                                                            

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย morntanti เมื่อ 2014-12-2 07:02

รื่องเล่าชาวสยาม15 ชั่วโมงที่แล้ว


เพื่อนแท้ต่างสายพันธุ์
สุดสลด!ปิดฉากชีวิตลิงกับห่านเพื่อนแท้ต่างสายพันธุ์ หลังฟ้าเปรี้ยงกลางบ้านไฟลุกท่วม ห่านติดคาอยู่ในบ้าน หนีเข้าห้องน้ำหลบไฟ ลิงถูกล่ามด้านนอกเห็นเพื่อนจะถูกไฟคลอกตาย ดิ้นจนโซ่ขาดโดดเข้าช่วย สุดท้ายดับอนาถทั้งคู่ เจ้าของร่ำไห้ฝังทั้งคู่ไว้ด้วยกัน ปิดตำนานความรักไว้ใต้ผืนดิน

วันนี้ (1 ธ.ค.) เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) พลูตาหลวง ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งเกิดเหตุฟ้าผ่าจนเกิดเพลิงไหม้บ้านเลขที่ 495 หมู่ 1 ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวอยู่ใจกลางชุมชนแออัด ถูกเพลิงกำลังโหมลุกไหม้อย่างหนัก ท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง และความอลหม่านของชาวบ้านที่อาศัยอยู่ใกล้เคียง เจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้ระดมฉีดน้ำอย่างหนัก ใช้เวลานานเกือบ 1 ชั่วโมง จึงสกัดเพลิงไว้ได้

ตรวจสอบในบ้านพบรถยนต์อีซูซุ ดราก้อนอาย สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน กข 1110 ระยอง และทรัพย์สินเสียหายทั้งหมด เบื้องต้นคาดว่าความเสียหายกว่า 1 ล้านบาท

นอกจากนี้ ในที่เกิดเหตุภายในห้องน้ำยังพบร่างห่าน ชื่อสำลี และลิง ชื่อไมเคิล ซึ่งเป็นเพศผู้ทั้งคู่ และเป็นเพื่อนรักกัน ถูกไฟคลอกนอนตายอยู่เคียงข้างกัน เป็นภาพที่สุดอนาถของผู้พบเห็นอย่างมาก

สอบถาม นายสมศักดิ์ พ่วงช่าง อายุ 44 ปี เจ้าของบ้าน กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุเป็นช่วงที่มีฝนตกลงมาอย่างหนัก และขณะที่ตนไม่อยู่บ้าน ฟ้าเกิดผ่าลงมาใส่เสาเหล็กในบ้าน ทำให้เกิดเพลิงลุกไหม้ลุกลามอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ทรัพย์สินถูกไฟเผาวอดทั้งหมด

ที่น่าสลดไปยิ่งกว่า ห่านและลิงที่เลี้ยงไว้ก็ถูกไฟคลอกเสียชีวิตไปด้วย ซึ่งลิงได้เลี้ยงไว้แต่กำเนิด ส่วนห่านได้หนีมาจากวัดราษฎร์สามัคคี ใกล้บ้านมาขออาศัยอยู่ด้วย จนทั้งคู่สนิทสนมเป็นเพื่อนรักต่างสายพันธุ์

ก่อนเกิดเหตุห่านได้อยู่ในบ้าน ส่วนลิงได้ถูกล่ามไว้ใต้ต้นมะพร้าว แต่เมื่อมาพบก็เห็นทั้งคู่ตายอยู่ด้วยกันในห้องน้ำ จึงคาดว่าตอนเกิดเหตุเจ้าห่านน่าจะหนีไฟไปหลบอาศัยความชุมชื้นอยู่ในห้องน้ำ เจ้าลิงเห็นไฟไหม้ และรู้ว่าเพื่อนอยู่ในบ้านจึงดิ้นจนโซ่ล่ามหลุดขาดจากกัน ก่อนจะเข้าไปช่วยเหลือเพื่อนรัก

แต่สุดท้ายก็ต้องมาจบชีวิตถูกไฟคลอกตายทั้งคู่ เบื้องต้น ได้ฝังทั้งคู่ไว้ด้วยกันใต้ต้นมะพร้าวที่เจ้าลิงชอบอยู่

เนื้อหาจากคุณ สุดใจ ต้นทอง




ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้