ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

มาติดตามข่าวสารต่างๆที่น่าสนใจกันครับ

[คัดลอกลิงก์]
ศึกวัดโสธรฯปะทุ ชักปืนยิง ชิงผลประโยชน์                                
                                       

               
  หลานสมภารปะทะแม่ค้า ตัวเองโดนรุมสกรัมน่วม ฮือขับไล่พระราชมงคลฯ
บรรดาผู้ค้าของฝากวัดโสธรวรารามวรวิหาร เปิดศึกเลือดหลานเจ้าอาวาส ประกาศเสียงตามสาย ไม่พอใจที่นำตู้คอนเทนเนอร์ดัดแปลงเป็นร้านขายกาแฟสดมาตั้งกีดขวางการจราจร หลานเจ้าอาวาสบุกแย่งไมค์ประชาสัมพันธ์ชมรมพ่อค้าแม่ค้าหน้าวัดโสธรฯ ประกาศ “กูเป็นหลานเจ้าอาวาสทำไมจะขายไม่ได้” ก่อนจะชักปืนจะยิงฝ่ายตรงข้ามแต่ถูกปัดปืน ทำให้กระสุนพลาดไปถูกชาวบ้านนั่งกินกาแฟบาดเจ็บ เลยถูกกลุ่มพ่อค้าแม่ค้ารุมยำอ่วม ก่อนรวมตัวขับไล่เจ้าอาวาสหน้ากุฏิ ขณะที่หลานเจ้าอาวาสอ้างตู้คอนเทนเนอร์เป็นที่พัก รปภ.ดูแลความเรียบร้อยในวัดแต่กลุ่มผู้ค้าเข้าใจผิด ทำให้เรื่องบานปลาย
เหตุยิงสนั่นกลางวัดดังเมืองแปดริ้วรายนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 20 ก.ย. ร.ต.ท. ชัยหาร พิมพ์จันทร์ พงส.สภ.เมืองฉะเชิงเทรา รับแจ้งเหตุยิงกันมีผู้บาดเจ็บภายในตลาดค้าขายของฝากหน้าพระอุโบสถหลังเก่าวัดโสธรวรารามวรวิหาร ถนนเทพคุณากร ต.หน้าเมือง พร้อมด้วย พ.ต.อ.พงษธร พนาสนธิ์ พงส.ผทค. พ.ต.ท.จิระวัสก์ เชื้อจันทร์อัตถ์ รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.อาเดียว ท้วมละมูล รอง ผกก.ป. นำกำลังรุดไปสอบสวน
ที่เกิดเหตุในร้านขายกาแฟโบราณ นายยะโสธร สาขา 2 และเป็นที่ตั้งชมรมพ่อค้าแม่ค้าหน้าวัดโสธรฯ พบโต๊ะเก้าอี้ล้มระเนนระนาด แก้วกาแฟ และจานแตกกระจายเกลื่อนพื้น นอกจากนี้ยังพบไมโครโฟน 1 ตัว และซองปืนหนังสีดำตกอยู่ 1 อัน ผู้บาดเจ็บ 2 คน ถูกนำตัวส่ง รพ.พระพุทธโสธร ไปก่อนแล้ว ชื่อนายสมชาย หรืออดุลย์ ดีสวัสดิ์ อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 333 ถนนพระยาศรีสุนทรโวหาร อ.เมืองฉะเชิงเทรา ถูกยิงด้วยปืน .38 เข้าหลังเท้าซ้าย 1 นัดกระสุนฝังใน และนายเอกราช ท้วมละมูล อายุ 68 ปี เจ้าของปืนที่ใช้ก่อเหตุ อยู่บ้านเลขที่ 94/2 ม.3 ต.แสนภูดาษ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา ถูกกลุ่มพ่อค้าแม่ค้ารุมยำหน้าบวมปูดศีรษะแตก ส่วนปืนที่ใช้ก่อเหตุเป็นปืน .38 ซุปเปอร์ ตำรวจสายตรวจประจำตู้ยามวัดโสธรฯยึดไว้ตั้งแต่ตอนเข้าระงับเหตุแล้ว
นายปิยะ ศรีชวนะ อายุ 67 ปี อยู่บ้านเลขที่ 981 ถนนเทพคุณากรณ์ ต.หน้าเมือง อ.เมืองฉะเชิงเทรา เปิดเผยว่า ในฐานะประชาสัมพันธ์ชมรมพ่อค้าแม่ค้าหน้าวัดโสธรฯ ได้ใช้ร้านกาแฟนี้เป็นศูนย์รวมของบรรดาพ่อค้าแม่ค้าของวัดโสธรฯมานานแล้ว มีพ่อค้าแม่ค้าและประชาชนทั่วไปหมุนเวียนมานั่งกินกาแฟและพูดคุยปรึกษาหารือกันตลอด มีกิจกรรมหรืองานอะไรก็จะประกาศผ่านทางเสียงตามสายให้แก่สมาชิกทราบ ก่อนเกิดเหตุมีพ่อค้าแม่ค้ามานั่งจับกลุ่มพูดคุยเรื่องการจัดระเบียบร้านค้า มีการนำตู้คอนเทนเนอร์ดัดแปลงมาตั้งบริเวณฝั่งตรงข้ามกับตลาดเพื่อขายกาแฟสดและน้ำดื่ม ไม่เป็นไปตามนโยบายของทางวัดที่ประกาศเอาไว้ เพราะกีดขวางทางเดินรถทำให้พุทธศาสนิกชนที่ไปกราบนมัสการพระพุทธโสธรไม่ได้รับความสะดวก จึงใช้ไมค์ประกาศความเห็นของพ่อค้าแม่ค้าส่วนใหญ่ที่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำดังกล่าว
นายปิยะกล่าวต่อว่า หลังจากนั้นครู่เดียวนาย เอกราชเดินผ่าวงโต๊ะกาแฟเข้าไปหา และประกาศว่า “กูเป็นหลานเจ้าอาวาส ทำไมจะขายไม่ได้” จากนั้นได้ใช้มือกระชากไมค์ที่ตนถืออยู่เกิดการยื้อแย่งกัน ก่อนที่นายเอกราชจะขยับถอยหลังชักปืนออกมาทำท่าจะยิง ตนจึงปัดกระบอกปืนให้พ้นตัวแล้วมีเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด กระสุนปืนพุ่งไปถูกนายสมชาย ลูกค้าที่มานั่งกินกาแฟบาดเจ็บ จากนั้นบรรดาพ่อค้าแม่ค้าที่อยู่ในเหตุการณ์ฮือเข้าแย่งปืนจากนายเอกราช พร้อมรุมยำนายเอกราชอุตลุด พอดีตำรวจตู้ยามโสธรฯ ผ่านมาเข้าระงับเหตุและนำคนเจ็บส่งโรงพยาบาล
หลังเกิดเหตุพ่อค้าแม่ค้าหน้าวัดโสธรฯ ประมาณ 100 คน ไปรวมตัวบริเวณประตูทางเข้ากุฏิพระราชมงคลรังษี เจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร พร้อมตะโกนขับไล่พระราชมงคลรังษีให้พ้นจากตำแหน่งเจ้าอาวาส โดยให้เหตุผลว่าปล่อยให้นายเอกราชที่อ้างว่าเป็นหลาน แสดงตัวเป็นผู้มีอิทธิพลในวัด มีพฤติกรรมป่าเถื่อน ใช้อาวุธปืนไล่ยิงชาวบ้านที่เป็นพ่อค้าแม่ค้า แต่พระราชมงคลรังษีติดกิจนิมนต์ไม่อยู่ในกุฏิ กลุ่มพ่อค้าแม่ค้าแยกย้ายกันกลับไปขายของที่แผงเหมือนตามปกติ
ด้านนายเอกราช ท้วมละมูล กล่าวถึงเหตุที่เกิดขึ้นว่า ตนได้รับมอบหมายจากเจ้าอาวาสให้ดูแลรักษาความสงบ และความเป็นระเบียบเรียบร้อยภายในลานจอดรถด้านหลังร้านค้า เนื่องจากที่ผ่านมามักจะมีกลุ่มคนชอบไปสร้างความเดือดร้อนรำคาญแก่พุทธศาสนิกชนที่ไปไหว้หลวงพ่อพุทธโสธร เชิญชวนแกมบังคับให้ซื้อดอกไม้ธูปเทียนของร้านเอกชนถ้าไม่ซื้อก็จะกลั่นแกล้งต่างๆนานา รวมทั้งช่วยสอดส่องกลุ่มมิจฉาชีพที่เข้ามางัดแงะรถยนต์เพื่อขโมยทรัพย์สินต่างๆ โดยจ้างเจ้าหน้าที่ รปภ. 10 คน มาทำหน้าที่นี้ร่วมกัน
นายเอกราชกล่าวต่อว่า ก่อนเกิดเหตุได้ยินเสียงประกาศผ่านลำโพงของกลุ่มชมรมพ่อค้าแม่ค้าวัดโสธรฯ ในลักษณะให้ร้ายป้ายสีเจ้าอาวาส ในลักษณะให้ท้ายปล่อยปละละเลย ให้ตนซึ่งเป็นหลานมาดำเนินการในสิ่งที่ขัดต่อระเบียบเกี่ยวกับเรื่องการตั้งร้านภายในวัด ซึ่งไม่เป็นความจริง เพราะตู้ดังกล่าวนำมาตั้งเป็นที่พักของ รปภ. จึงเข้าไปขอให้ยุติการประกาศดังกล่าว แต่ผู้พูดกลับไม่ยอมหยุดจนต้องเข้าไปแย่งไมค์ จากนั้นมีกลุ่มคนฮือจะเข้ามาทำร้าย จนต้องถอยไปตั้งหลักและจะพยายามชักปืนซึ่งเหน็บเอวออกมา แต่ไม่ทันกลุ่มคนนับสิบ ได้ฮือเข้ามาแย่งปืนทำให้ปืนลั่นขึ้น ตนไม่รู้ว่ากระสุนโดนอะไรบ้าง
ด้าน พ.ต.อ.พงษธร พนาสนธิ์ พนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา กล่าวว่า ต้องดำเนินคดีกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ในชั้นจับกุมได้ดำเนินคดีนายเอกราช ในข้อหามีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน พกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และชักหรือแสดงอาวุธปืนในการวิวาทต่อสู้กัน ซึ่งจะต้องสอบสวนพยานที่อยู่ในเหตุการณ์ให้ลึกลงไปด้วยว่าเป็นอย่างไร มีเจตนาจะฆ่าหรือไม่ และในส่วนที่นายเอกราชถูกรุมทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บก็ต้องดำเนินคดีเช่นกัน โดยจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
วัดโสธรวรารามวรวิหารถือเป็นวัดใหญ่ที่มีประชาชนแวะเวียนไปทำบุญและกราบไหว้ขอพรพระพุทธโสธร พระศักดิ์สิทธิ์สำคัญของไทย ทำให้มียอดเงินบริจาคทำบุญจำนวนมหาศาล รวมทั้งเป็นแหล่งรายได้จากร้านค้าขาย และผลประโยชน์อื่นๆ มากมาย ทำให้การแต่งตั้งเจ้าอาวาสเป็นที่จับตาของพุทธศาสนิกชนเป็นพิเศษ โดยปัญหาการแต่งตั้งเจ้าอาวาสวัดแห่งนี้กลายเป็นข่าวใหญ่เมื่อปลายปี 2552 มีพระเณรในวัดออกมาประท้วงไม่เอาคนนอกมาดำรงตำแหน่ง เนื่องจากพระพรหมสุธี รักษาการเจ้าอาวาส หมดวาระลงเมื่อครบ 5 ปี กระทั่งวันที่ 10 พ.ย.2552 ที่ประชุมมหาเถรสมาคมมีมติแต่งตั้งพระราชมงคลรังษี ในขณะนั้นดำรงสมณศักดิ์พระพิพิธกิจจาภิวัฒน์ ให้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ ท่ามกลางมวลชนทั้งฝ่ายสนับสนุนและฝ่ายต่อต้านรวมตัวที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม
                                
                        

ใครก็ได้ช่วยทีเมื่อวานโดนผีหลอกตอนหัวค่ำ.....
สุดมันส์! ผีแดงโดนจิ้งจอกสยามไล่แซงชนะ 5-3

ประเทศนี้ก็เป็นซะอย่างนี้....
วันนี้ กทม. อนุญาตให้เอาจักรยานขึ้นบีทีเอสได้ฟรีเนื่องในวัน คาร์ฟรีเดย์
เพื่อคนที่อยากมาปั่นร่วมงานแต่อยู่ไกลได้ใช้ผ่อนแรงในการเดินทางมาร่วม
เข้าใจว่านานทีถึงจะมีแบบนี้ แต่ก็ขอพื้นที่ให้คนไม่มีจักรยานได้เข้าไปนั่งบ้าง
//แอดมินแม่มด


กินเจอย่างไรให้ได้ประโยชน์by Phennapha22 กันยายน 2557 เวลา 08:41 น.
10
SHARES

Facebook[url=]Twitter[/url]Google plus




เริ่มเข้าสู้เทศกาลกินเจปีนี้ ซึ่งเป็นปีที่พิเศษกว่าทุกปี เนื่องจากมี 2 รอบตามปฎิทินจีน คือ วันที่ 24 กันยายน – 2 ตุลาคม 2557 และวันที่ 24 ตุลาคม – 1 พฤศจิกายน 2557 การรับประทานอาหารเจ แม้จะไม่ได้ทานเนื้อสัตว์ แต่สามารถเลือกทานอาหารประเภทอื่นๆ ทดแทนเพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารครบถ้วน โดยการรับประทานอาหารเจให้ได้ประโยชน์ สามารถปฎิบัติได้ ดังนี้

1.กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ เช่น กินอาหารที่ทำจากถั่ว เพื่อทดแทนโปรตีนจากเนื้อสัตว์
2.กินอาหารเจที่สะอาด ใส่ใจความสะอาดของอาหาร หรือวัตถุดิบที่นำมาปรุง
3.หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด โดยเฉพาะรสมันจัดกับเค็มจัด และเลี่ยงอาหารทอด
4.ควรเลือกทานผัก-ผลไม้สด ที่มีคุณค่าทางโภชนาการมากกว่าผักดอง
5.เลี่ยงการปรุงอาหารด้วยการเคี่ยวนานๆ เพราะคุณค่าของสารอาหารอาจสูญเสียไป
6.ทานเจให้ได้ไอโอดีน เมื่องดกินอาหารทะเล ก็ควรเติมเกลือไอโอดีนเพื่อทดแทน
7.ควรบริโภคข้าวกล้องมากกว่าข้าวขาว เพราะมีประโยชน์มากกว่า
8.ดื่มน้ำเปล่าเป็นหลัก งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และน้ำอัดลม



สวีเดนขยะหมดจนต้องนำเข้า 800,000 ตัน เพื่อใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้าDIY ตกแต่งภายใน ของแต่งบ้าน ไอเดียแต่งบ้าน เที่ยวไหนดี รีวิว






Sweden Must Import Trash For Energy Conversion Because Its Recycling Program Is So Successful

ขณะที่ประเทศเรากำลังปวดหัวกับปัญหาขยะล้นเมืองไม่รู้จะจัดการกับปริมาณขยะที่เพิ่มขึ้นทุกวันได้อย่างไร ประเทศสวีเดนที่มีประชากรราว 9.5 ล้านคน กำลังขาดแคลนขยะ จนต้องนำเข้าขยะจากประเทศเพื่อนบ้าน อย่างนอร์เวย์ และอีกหลายๆประเทศในยุโรป ปีละกว่า 800,000 ตัน เพื่อนำมาป้อนโครงการผลิตกระแสไฟฟ้า พลังงานที่ได้จากขยะสามารถนำมาใช้ให้ความอบอุ่นกับบ้านเรือนได้มากถึง 20% หรือ 810,000 หลัง และยังสามารถป้อนพลังงานไฟฟ้าให้กับบ้านเรือนได้อีก 250,000 หลัง และดูจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆด้วย


แต่เรื่องดีๆแบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นแบบชั่วข้ามคืน..

ประเทศสวีเดนเริ่มต้นโครงการนำขยะกลับมาใช้ใหม่นี้ตั้งแต่ปี 1940 ในขณะที่ประเทศอื่นๆในโลกยังไม่มีใครตระหนักหรือสนใจกับปัญหาขยะและคิดถึงเรื่องรีไซเคิลแม้สักนิด.. แต่สวีเดนกลับเริ่มต้นโครงการในการคัดแยกขยะ และนำขยะกลับมาใช้เป็นพลังงาน จนปัจจุบันสวีเดนสามารถพัฒนาเทคโนโลยีที่นำขยะกลับมาใช้เป็นพลังงานได้โดยแทบไม่ก่อให้เกิดมลพิษใดๆ

ความสำเร็จของโครงการไม่ได้มีเพียงเทคโนโลยี แต่ต้องขอบคุณประชากร 9.5 ล้านคน ที่มีความตระหนักถึงปัญหา และร่วมมือกับโครงการ รวมถึงกฏหมายที่เข้มงวด ความร่วมมือในการจัดเก็บและคัดแยกขยะในสวีเดนเป็นเรื่องที่น่าทึ่งมาก เพราะขยะเกือบทั้งหมดถูกนำกลับไปใช้ใหม่ได้ เหลือเพียง 4% เท่านั้น ที่ไม่สามารถนำกลับไปใช้ใหม่และต้องนำไปถมที่ ในทางตรงข้ามประเทศอย่างสหรัฐอเมริกา ขยะมากถึง 63% ไม่ได้ถูกนำกลับมาใช้ใหม่ ต้องนำไปถมที่


โรงงานนำขยะมาผลิตกระแสไฟฟ้าในสวีเดน มีความต้องการใช้ขยะ 2ล้านตันในแต่ละปี เพื่อนำมาผลิตกระแสไฟฟ้า จึงไม่มีขยะมากพอมาป้อนให้กับโรงงาน และต้องมีการนำเข้าขยะจากประเทศเพื่อนบ้าน.. เป็นข่าวดีๆในโลกใบนี้ อย่างน้อยเราก็ยังไม่สิ้นหวังกับจำนวนขยะที่เพิ่มมากขึ้นในทุกเมืองใหญ่ ..อย่างน้อยก็มีประเทศที่ประสบความสำเร็จ ให้เราเอาเป็นต้นแบบ

Source : http://www.dogonews.com/2012/11/1/how-sweden-plans-to-turn-the-worlds-trash-into-cash

http://www.huffingtonpost.com/2012/09/12/sweden-imports-trash_n_1876746.html
http://www.trueactivist.com/sweden-runs-out-of-garbage



ข่าวเกาะเต่า ยังไม่สรุป DNA 2 เด็กสปีดโบ๊ทไม่ตรง
                                                                                                                   
                            ที่มา : kapook.com
                                                            ขอขอบคุณภาพประกอบจาก สปริงนิวส์

            ข่าวเกาะเต่า ความคืบหน้าคดีฆ่านักท่องเที่ยวเกาะเต่า เผย DNA 2 เด็กสปีดโบ๊ทไม่ตรงกับฝรั่ง ตำรวจบอกไม่ได้รับรายงานโยงทะเลาะมาเฟียเกาะเต่า

            วันที่ 23 กันยายน 2557 พลตำรวจเอก สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยความคืบหน้าการติดตามคนร้ายฆ่า 2 นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ จากการสืบสวนสอบสวนยังไม่อะไรคืบหน้า ซึ่งทางตำรวจในพื้นที่ได้ร้องขอทีมแพทย์นิติเวช พร้อมทั้งกองพิสูจน์หลักฐานให้ลงพื้นที่อีกครั้ง เพื่อร่วมประชุมกับชุดสืบสวนสอบสวนในพื้นที่เพื่อประเมินสถานการณ์ วางกรอบให้เป็นไปแนวทิศทางเดียวกัน ซึ่งตนยอมรับว่าที่ผ่านมาโอกาสที่ได้พูดคุยพร้อมหน้ากันมีน้อย มีเพียงเฉพาะชุดสืบสวนสอบสวนเท่านั้นที่มีข้อมูล หลังจากนี้จะมีการทำงานลักษณะให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน

            สำหรับความคืบหน้าทางคดีมีความคืบหน้ามาก ในทางการสืบสวนยังไม่สามารถเปิดเผยได้ ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า 2 นักท่องเที่ยวอังกฤษถูกฆาตกรรม เหตุทะเลาะกับมาเฟียในพื้นที่นั้น ยังไม่ได้รับรายงาน เชื่อว่าไม่มี หากมีมาเฟียจริงคนในพื้นที่รวมทั้งชุดสืบสวนจะต้องรายงานให้ตนทราบ เพราะที่ผ่านมาทุกหน่วยงาน รวมทั้งประชาชนบนเกาะให้ความร่วมมือในการติดตามตัวคนร้ายกับตำรวจมาโดยตลอด อย่างไรก็ตาม ผลดีเอ็นเอของผู้ต้องสงสัย 2 รายล่าสุดที่เป็นลูกเรือสปีดโบ๊ท ไม่ตรงกับดีเอ็นเอในช่องคลอดของผู้เสียชีวิตและวัตถุพยาน                                                                        
                                                            

สลดอีก! พ่อพิการขาขาด ประกาศหาคนอุปการะลูกสาววัย 12 เหตุตัวเองต้องถูกจำคุก
                                                                                                                  
                            ที่มา : ข่าวสดออนไลน์
                                                            เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 23 ก.ย. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังอู่ซ่อมรถใน ต.เอกราช อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง เพื่อตรวจสอบหลังรับแจ้งว่ามีพ่อที่พิการกำลังประกาศหาผู้ใจบุญมาอุปการะดูแลลูกสาววัย 12 ขวบ เนื่องจากจะต้องถูกจำคุก เพราะไปรับซื้อของโจรมา หลังจากเดินทางไปถึงก็พบนายเฉลียว ซ่อนกลิ่น อายุ 58 ปี กำลังนั่งซ่อมรถที่ลูกค้าได้เอามาให้ซ่อม โดยมี ด.ญ.จุฑามณี ซ่อนกลิ่น อายุ 12 ปี ลูกสาวคอยช่วยหยิบของอยู่ใกล้ๆ นอกจากนั้นบริเวณหน้าอู่ยังพบแผ่นกระดาษกล่องขนาดใหญ่ นำมาเขียนข้อความว่า “ลุงเหลียวคนพิการขาขาดหมดทั้ง 2 ข้าง อาชีพปะยางรถ เครื่องรถจักรยานถูกฟ้องศาลวันที่ 7 ต.ค. 57 ลุงรู้เท่าไม่ถึงการณ์ รับซื้อของโจรลุงไม่มีเงินประกัน ลุงอยู่กับลูก 2 คน ลูกลุงเป็นผู้หญิงอยู่ชั้น ป.6 ลุงขอกราบเท้าถึงผู้ใจบุญช่วยเป็นค่าบ้านที่เช่าอยู่ทุกวัน กว่าลุงจะกลับคงจะนาน จึงวิงวอนมานะที่นี้”

จากการสอบถามนายเฉลียว กล่าวว่า ตนพิการมาตั้งแต่ปี 2535 เนื่องจากขับรถรถบรรทุกหลับในชนเสาไฟฟ้า แต่ก็หากินในการซ่อมรถมาโดยตลอด จนกระทั่งภรรยาตนคลอดลูกเมื่อ 12 ปีก่อน หลังจากภรรยาตนคลอดลูก ก็เลี้ยงมาได้ 11 เดือน ก่อนจะหนีไป ตนก็เลี้ยงลูกคนเดียวมาตลอด และที่ตนต้องประกาศหาคนที่มีใจบุญเข้ามาอุปการะเลี้ยงดูลูกสาวตน ก็เนื่องจากตนไม่มีใครแล้ว เพราะวันที่ 7 ต.ค.57 นี้ทางอัยการจังหวัดอ่างทองก็จะพิจารณาส่งตนฟ้องศาลเนื่องจากตนไปรับซื้อของโจร ตนไม่มีเงินทองที่จะประกันตัว จึงต้องจำยอมต้องติดคุก แต่ตนเป็นห่วงลูกสาวจะอยู่อย่างไร อันตราย จะกินอย่างไร ห้องที่อยู่ก็ต้องเช่า ตนหมดหนทางแล้ว จึงจำเป็นต้องทำแบบนี้ หากตนออกจากคุกก็จะมาดูแลลูกต่อ

นายเฉลียว กล่าวต่อว่า เมื่อวันที่ 9 ส.ค. 57 ตนได้ไปซื้อเสาธงที่มีคนเอามาขายโดยไม่รู้ว่าเป็นของที่ขโมยมา ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมาจับตนในข้อหารับซื้อของโจร ตนก็ไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะตนก็ซื้อมาจริงๆ ถึงจะไม่รู้ก็ตาม ตนคิดมากเป็นห่วงลูกสาวคนนี้คนเดียว แต่ตนก็ยังมีความหวังว่าหากทางอัยการไม่สั่งฟ้อง ตนก็จะได้อยู่กับลูกไม่ต้องหาคนมาดูแลลูก

ส่วนด.ญ.จุฑามณี กล่าวว่า ตนเพิ่งรู้ว่าพ่อจะต้องติดคุก เพราะพ่อเพิ่งจะบอก ตนสงสารพ่อมาก หากพ่อต้องติดคุก ตนก็คงจะต้องอยู่คนเดียว ถามว่ากลัวไหม กลัวมาก ญาติก็ไม่ได้ติดต่อกันมานานมาก ก็ยังไม่รู้จะทำอย่างไร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเฉลียวซึ่งขาทั้งสองข้างขาด แต่ก็ไม่ย่อท้อซ่อมรถอย่างคล่องแคล่ว แต่ตอนนี้สุขภาพไม่ค่อยดีแล้ว สำหรับรายได้ ก็ได้แค่เงินที่มีลูกค้ามาซ่อมรถเท่านั้น ซึ่งจากการสอบถามนายเฉลียวมั่นใจว่าจะต้องถูกฟ้อง และจะต้องติดคุกจึงหาคนที่จะมาดูแลลูกสาว เพราะลูกสาวนายเฉลียวยังเด็กและเป็นผู้หญิง                                                                        
                                                            

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย morntanti เมื่อ 2014-9-24 07:06

บ้านใครอยู่ใกล้คลองมีเด็กอ่อนก็ระวังไว้บางนะครับบ้านเราเจ้าตัวนี้ก็มีมากพอสมควร...
ทารกวัย8เดือน ถูกตัวเหี้ย(เหี้ยจริงๆ)กัดที่บ้านพัก เพียงเสี้ยวเวลาที่มารดาไปหยิบของ คิดว่าคงไม่มีอะไร เลยทิ้งลูกน้อยไว้ลำพังในครัว สักพัก หนูน้อยร้องเสียงดังมาก(ร้องแบบผิดปกติ)แม่รู้สึกใจไม่ดีเลยรีบวิ่งมาดูเห็นตัวเหี้ยกำลังกัดแล้วจะงาบหัวหนูน้อยและกำลังลากหนูน้อยไป โชคยังดีที่แม่วิ่งมาทันเลยไล่ตัวเหี้ยไปและนำหนูน้องส่ง รพ.ใกล้เคียงทัน ‪#‎มาเลเซีย‬ ขอให้น้องหายไวๆน่ะค่ะ










morntanti ตอบกลับเมื่อ 2014-9-24 07:04
บ้านใครอยู่ใกล้คลองมีเด็กอ่อนก็ระวังไว้บางนะครับบ้ ...



ขอไว้อาลัยระบบยุติธรรม ( ผู้มีอำนาจตัดสิ้นคีดความ ) ประเทศนี้

จำนวนคนอ่านล่าสุด 598307 คน       
วันที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2557 เวลา 15:48 น. ข่าวสดออนไลน์


สลดอีก! พ่อพิการขาขาด ประกาศหาคนอุปการะลูกสาววัย 12 เหตุตัวเองต้องถูกจำคุก

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 23 ก.ย. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังอู่ซ่อมรถใน ต.เอกราช อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง เพื่อตรวจสอบหลังรับแจ้งว่ามีพ่อที่พิการกำลังประกาศหาผู้ใจบุญมาอุปการะดูแลลูกสาววัย 12 ขวบ เนื่องจากจะต้องถูกจำคุก เพราะไปรับซื้อของโจรมา หลังจากเดินทางไปถึงก็พบนายเฉลียว ซ่อนกลิ่น อายุ 58 ปี กำลังนั่งซ่อมรถที่ลูกค้าได้เอามาให้ซ่อม โดยมี ด.ญ.จุฑามณี ซ่อนกลิ่น อายุ 12 ปี ลูกสาวคอยช่วยหยิบของอยู่ใกล้ๆ นอกจากนั้นบริเวณหน้าอู่ยังพบแผ่นกระดาษกล่องขนาดใหญ่ นำมาเขียนข้อความว่า “ลุงเหลียวคนพิการขาขาดหมดทั้ง 2 ข้าง อาชีพปะยางรถ เครื่องรถจักรยานถูกฟ้องศาลวันที่ 7 ต.ค. 57 ลุงรู้เท่าไม่ถึงการณ์ รับซื้อของโจรลุงไม่มีเงินประกัน ลุงอยู่กับลูก 2 คน ลูกลุงเป็นผู้หญิงอยู่ชั้น ป.6 ลุงขอกราบเท้าถึงผู้ใจบุญช่วยเป็นค่าบ้านที่เช่าอยู่ทุกวัน กว่าลุงจะกลับคงจะนาน จึงวิงวอนมานะที่นี้”

จากการสอบถามนายเฉลียว กล่าวว่า ตนพิการมาตั้งแต่ปี 2535 เนื่องจากขับรถรถบรรทุกหลับในชนเสาไฟฟ้า แต่ก็หากินในการซ่อมรถมาโดยตลอด จนกระทั่งภรรยาตนคลอดลูกเมื่อ 12 ปีก่อน หลังจากภรรยาตนคลอดลูก ก็เลี้ยงมาได้ 11 เดือน ก่อนจะหนีไป ตนก็เลี้ยงลูกคนเดียวมาตลอด และที่ตนต้องประกาศหาคนที่มีใจบุญเข้ามาอุปการะเลี้ยงดูลูกสาวตน ก็เนื่องจากตนไม่มีใครแล้ว เพราะวันที่ 7 ต.ค.57 นี้ทางอัยการจังหวัดอ่างทองก็จะพิจารณาส่งตนฟ้องศาลเนื่องจากตนไปรับซื้อของโจร ตนไม่มีเงินทองที่จะประกันตัว จึงต้องจำยอมต้องติดคุก แต่ตนเป็นห่วงลูกสาวจะอยู่อย่างไร อันตราย จะกินอย่างไร ห้องที่อยู่ก็ต้องเช่า ตนหมดหนทางแล้ว จึงจำเป็นต้องทำแบบนี้ หากตนออกจากคุกก็จะมาดูแลลูกต่อ

นายเฉลียว กล่าวต่อว่า เมื่อวันที่ 9 ส.ค. 57 ตนได้ไปซื้อเสาธงที่มีคนเอามาขายโดยไม่รู้ว่าเป็นของที่ขโมยมา ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมาจับตนในข้อหารับซื้อของโจร ตนก็ไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะตนก็ซื้อมาจริงๆ ถึงจะไม่รู้ก็ตาม ตนคิดมากเป็นห่วงลูกสาวคนนี้คนเดียว แต่ตนก็ยังมีความหวังว่าหากทางอัยการไม่สั่งฟ้อง ตนก็จะได้อยู่กับลูกไม่ต้องหาคนมาดูแลลูก

ส่วนด.ญ.จุฑามณี กล่าวว่า ตนเพิ่งรู้ว่าพ่อจะต้องติดคุก เพราะพ่อเพิ่งจะบอก ตนสงสารพ่อมาก หากพ่อต้องติดคุก ตนก็คงจะต้องอยู่คนเดียว ถามว่ากลัวไหม กลัวมาก ญาติก็ไม่ได้ติดต่อกันมานานมาก ก็ยังไม่รู้จะทำอย่างไร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเฉลียวซึ่งขาทั้งสองข้างขาด แต่ก็ไม่ย่อท้อซ่อมรถอย่างคล่องแคล่ว แต่ตอนนี้สุขภาพไม่ค่อยดีแล้ว สำหรับรายได้ ก็ได้แค่เงินที่มีลูกค้ามาซ่อมรถเท่านั้น ซึ่งจากการสอบถามนายเฉลียวมั่นใจว่าจะต้องถูกฟ้อง และจะต้องติดคุกจึงหาคนที่จะมาดูแลลูกสาว เพราะลูกสาวนายเฉลียวยังเด็กและเป็นผู้หญิง

ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้