ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

มาติดตามข่าวสารต่างๆที่น่าสนใจกันครับ

[คัดลอกลิงก์]
สุดมึน! หนุ่มกดเงินหมื่นตู้ ATM ได้ไม้ตะเกียบแทน
                                                                                                                  
                            ที่มา : http://news.sanook.com/
                                                            (7 ต.ค.) พ.ต.ท.สุทธิชน ธงชัยภูมิ สารวัตรเวร สภ.บางปู สมุทรปราการ รับแจ้งมีคนมากดเงินที่ตู้บริการเงินด่วนของธนาคารไทยพาณิชย์ที่ตั้งอยู่ด้านหน้าบริษัท ชิน อี เมลทัล จำกัด ภายในเขตส่งออกนิคมอุตสาหกรรมบางปูซอย E6 ต.แพรกษา อ.เมือง จ.สมุทรปราการ แต่เงินไม่ยอมออกมาแต่กลับมีไม้ตะเกียบออกมาแทน

ตรวจสอบพบนายไพรัตน์ สุขแก้ว อายุ 38 ปี ผู้เสียหายยืนรอเจ้าหน้าที่อยู่ที่หน้าตู้ดังกล่าว เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ มาส่งแฟนทำงานกะดึก และวันนี้เป็นวันเงินเดือนของแฟน จึงได้ไปกดเงินสดที่ตู้เอทีเอ็มจำนวน 17,000 บาท เพื่อจะนำไปจ่ายค่างวดรถในวันพรุ่งนี้ ซึ่งระหว่างกดเงินตามขั้นตอนจนจบ ได้เอื้อมมือมารอหยิบเงินที่ช่องจ่ายเงินที่อยู่หน้าตู้ ปรากฎว่ากลับมีไม้ตะเกียบยาวประมาณ 7 นิ้วออกมาแทน ส่วนเงิน 17,000 บาทของตนที่กดออกมากลับถูกดูดคืนกลับเข้าตู้ไปเหมือนเดิม ตนพยายามใช้มืองัดช่องจ่ายเงินเพื่อที่จะดูว่าเงินคาอยู่ที่ช่องหรือไม่ ซึ่งก็เป็นจังหวะเดียวกับที่ รปภ.ของบริษัทดังกล่าวได้เดินออกมาดูและบอกว่าเดี๋ยวสัญญาณเตือนภัยจะดัง พร้อมทั้งแนะนำให้ตนไปแจ้งความที่โรงพัก

นายไพรัตน์ เล่าต่อว่า ด้วยความสงสัยตนเองจึงกดเช็คยอดเงินพบว่ายอดเงินได้หายไป 17,000 บาทตามที่ตนกดเอาไว้เหลือยอดเงินเพียง 15 บาทเท่านั้น ห่างกันประมาณ 6-7 นาทีในระหว่างที่เตรียมตัวจะไปแจ้งความที่โรงพัก ได้มีพนักงานของบริษัทซ่อมตู้เอทีเอ็มเป็นชาย 3 คนเดินทางมาซ่อมตู้เอทีเอ็มตู้ดังกล่าว โดยอ้างว่าจะมาเปลี่ยนสายพานในตู้เอทีเอ็ม ตนจึงได้เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟังแต่พนักงานทั้ง 3 ได้บอกว่าให้ตนไปแจ้งความและนำใบแจ้งความไปติดต่อที่ธนาคารในช่วงเช้า แต่ระหว่างนั้นตนได้สังเกตเห็นพนักงานที่เข้าไปเปิดตู้เซฟด้านหลังมีธนบัตรใบละพันกว่า 10 กว่าใบตกอยู่นอกกล่องบรรจุเงิน แต่ตนก็ไม่กล้าถามจึงเดินทางไปแจ้งความที่โรงพัก

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าอาจจะมีคนจงใจที่จะเอาไม้ตะเกียบไปแหย่ขวางช่องจ่ายเงินของตู้เอทีเอ็มดังกล่าวเอาไว้เมื่อมีคนมากดเงิน ซึ่งเงินที่กดออกมาจะชนอยู่กับไม่เสียบลูกชิ้นทำให้เงินไม่ไหลออกมา หลังผู้เสียหายออกจากตู้ไปคนร้ายก็จะย้อนกลับมาทำทีกดเงินและดึงเอาไม้เสียบลูกชิ้นออกเอาเงินของผู้เสียหายไป อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะได้ประสานเจ้าหน้าที่ธนาคารไทยพาณิชย์ เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป                                                                        
                                                            

เจ้าของสวนยางถูกแฮกบัตรเครดิต 3 นาที สูญเงินนับแสน  
                                                                                                                 
                            ที่มา : http://hilight.kapook.com/
                                                            เจ้าของสวนยางเมืองระยองนำบัตรเครดิตเก็บใส่เซฟในบ้าน ยังไม่พ้นถูกแฮกข้อมูล สูญเงินนับแสน  เผย 3 นาที ถูกรูดไป 19 ครั้ง คาดเป็นฝีมือมิจฉาชีพชาวต่างชาติ

วันนี้ (8 ตุลาคม 2557) ผู้สื่อข่าวได้รายงานว่า นายอนันต์ เกตุวัตถา อายุ 51 ปี พร้อมนางมยุรา เกตุวัตถา อายุ 50 ปี สองสามีภรรยาเจ้าของสวนยางพารา ได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่สถานีตำรวจภูธรเมืองระยอง หลังถูกแฮกข้อมูลใช้บัตรเครดิตทำให้เกิดความเสียหาย

โดยคดีนี้เริ่มขึ้นเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 6 ตุลาคม 2557 ที่ผ่านมา ได้มีข้อความเข้ามาที่โทรศัพท์ของนายอนันต์ว่า มีการอนุมัติใช้บัตรเครดิตไปเป็นสกุลเงินต่างประเทศ ทั้งยูโรและดอลลาร์ ซึ่งแจ้งยอดเข้ามาเป็นจำนวน 19 ครั้ง ภายใน 3 นาที คิดเป็นเงินสกุลไทยประมาณ 120,000 บาท  ทั้ง ๆ ที่ บัตรเครดิตใบดังกล่าวได้เก็บไว้ในเซฟที่บ้าน ซึ่งเจ้าตัวยืนยันว่าล่าสุดที่ใช้ก็ใช้เติมน้ำมันหรือใช้รูดสินค้าที่มีดอกเบี้ย 0% เท่านั้น หลังเกิดเหตุจึงรีบโทรศัพท์แจ้งสายด่วนธนาคารกสิกรไทยเพื่อขออายัดบัตร ซึ่งทางธนาคารได้ให้คำแนะนำ พร้อมทั้งส่งแฟ๊กซ์เอกสารมาให้กรอกรายละเอียดแล้ว

ส่วนนางมยุรา เกตุวัตถา ภรรยาผู้เสียหาย เล่าว่า ตนเองเป็นแม่บ้าน มีสวนยางพาราประมาณ 100 ไร่ ชอบใช้จ่ายด้วยบัตรเครดิต โดยใช้มานานเป็น 10 ปีแล้ว และไปต่างประเทศปีละครั้งก็จะรูดบัตรตลอด รวมถึงใช้ซื้อของตามห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ ก็ไม่เคยมีปัญหาอะไร

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่า ผู้ที่ทำการแฮกข้อมูลของผู้เสียหายเป็นมืออาชีพชาวต่างชาติ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะนำเอกสารการใช้บัตรเครดิตจากทางธนาคารของผู้เสียหายมาตรวจสอบเพื่อหาข้อมูลที่แท้จริงต่อไป                                                                        
                                                            

เพื่อนมือปืนโหดฆ่าสาวท้อง-แม่ ที่ชลบุรีเข้ามอบตัวแล้ว
                                                                                                                   
                            ที่มา : http://news.springnewstv.tv/
                                                            พล.ต.ต.ธเนศร์ พิณเมืองงาม ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 แถลงข่าวจับกุมนายอภิชาติ กรีวัชรินทร์ อายุ 37 ปี และนางปิยวัลย์ ผสมทรัพย์ อายุ 37 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดชลบุรี ในคดีร่วมกันฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อนและพกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 6 ต.ค. ที่ผ่านมา นายสุทธนา เพ็ญโฉม ใช้อาวุธปืนขนาด 9 มิลลิเมตร ยิงนางกัญญารัตน์ พลเภา และนางวิไล พลเภา แม่ของนางกัญญารัตน์ เสียชีวิต รวมทั้งนายธงชัย พลเภา ลูกชายของนางวิไลและนายอนุชา แก้วปราณี ได้รับบาดเจ็บสาหัส ขณะกำลังขนของย้ายบ้านหนีนายสุทธนา เพื่อนบ้านที่มีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกันมาตลอด ซึ่งนายอภิชาติและนางปิยวัลย์รู้เห็นเป็นใจใช้รถกระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีเทา หมายเลขทะเบียน ถฬ 567 กทม. พานายสุทธนาหลบหนี และจากการกดดันไล่ล่า ทำให้นายอภิชาติและนางปิยวัลย์ ติดต่อขอมอบตัว ส่วนนายสุทธนายังคงหลบหนี

เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้ง 2 คนให้การภาคเสธว่า ได้ร่วมกันยิงผู้ตายและผู้ได้รับบาดเจ็บจริง แต่เป็นการป้องกันตัวจากการถูกทำร้าย ส่วนนายสุทธนาไม่ทราบว่าตอนนี้หลบหนีไปอยู่ที่ใด ขณะที่ตำรวจจะคัดค้านการประกันตัวของผุ้ต้องหาทั้ง 2 ราย ส่วนนายสุทธนาที่ยังคงหลบหนี คาดว่าจะสามารถติดตามตัวได้ภายใน 2 วันนี้ โดยกำชับเจ้าหน้าที่ทุกนายให้ระมัดระวัง เนื่องจากผู้ต้องหามีอาวุธปืนไว้ในครอบครอง แต่หากขัดขืนหรือต่อสู้ก็จำต้องใช้วิธีการขั้นเด็ดขาด                                                                        
                                                            

หนองคายเฮบั้งไฟพญานาคผุดให้ชมกว่า 500 ลูก
                                                                                                                   
                            ที่มา : http://news.sanook.com/
                                                            สรุปบั้งไฟพญานาคที่จังหวัดหนองคาย ประจําปี 2557 อย่างไม่เป็นทางการ จากลูกแรกที่โผล่เหนือผิวน้ำ ที่บ้านหนองแก้ว อ.รัตนวาปี นับได้ 444 ลูก ส่วนที่ลานพญานาค อ.ปากคาด จ.บึงกาฬ 10 ลูก และที่บ้านท่าสีไค อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ จํานวน 9 ลูก

วันที่ 8 ตุลาคม 2557 สรุปบั้งไฟพญานาคที่จังหวัดหนองคาย ประจําปี 2557 จากการติดตามการรายงานผลการปรากฏขึ้นของลูกไฟจากนักวิทยุสมัครเล่นจังหวัดหนองคายที่ประจําในทุกอําเภอของจังหวัดหนองคายที่คาดว่าจะปรากฏบั้งไฟพญานาคทั้ง อ.สังคม (อ่างปลาบึก) อ.ศรีเชียงใหม่ (วัดหินหมากเป้ง) อ.โพนพิสัย และ อ.รัตนวาปี พบว่า หลังจากเกิดบั้งไฟพญานาคลูกแรกเมื่อเวลา 18.19 น. ที่บ้านหนองแก้ว ต.รัตนวาปี อ.รัตนวาปี 3 ลูก

หลังจากนั้นมีบั้งไฟพญานาคทยอยพุ่งขึ้นกลางแม่น้ำโขงอย่างต่อเนื่องจนถึงเวลา 21.00 น. มีบั้งไฟพญานาคเกิดขึ้นที่ อ.รัตนวาปี ประกอบด้วย บ้านหนองแก้ว 3 ลูก บ้านตาลชุม 116 ลูก บ้านท่าม่วง 68 ลูก บ้านโป่งสําราญ 122 ลูก หนองน้ำหนองคอน 2 ลูก หนองน้ำหนองลาด 51 ลูก บ้านนิคมเปงจาน 16 ลูก บ้านน้ำเป 50 ลูก ส่วนที่อําเภอโพนพิสัยมีบั้งไฟพญานาคเกิดขึ้นที่หน้า อบต.จุมพล 9 ลูก และ ต.บ้านเดื่อ อ.เมืองหนองคาย 2 ลูก ต.หินโงม อ.เมืองหนองคาย 2 ลูก และ อ.สังคม ที่อ่างปลาบึก ต.ผาตั้ง จํานวน 3 ลูก รวมจํานวนบั้งไฟพญานาคในวันที่ 8 ตุลาคม 2557 ณ ช่วงเวลา 21.00 น. จํานวน 444 ลูก

ส่วนในพื้นที่ จ.บึงกาฬมีบั้งไฟพญานาคเกิดขึ้นที่ลานพญานาค อ.ปากคาด จ.บึงกาฬ 10 ลูก และที่บ้านท่าสีไค อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ จํานวน 9 ลูก สําหรับบั้งไฟพญานาคในปีนี้มีสีส้มอมแดง                                                                        
                                                            

335#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-10-10 07:43 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้


ต่อไปนี้ห้ามจ่ายเงินสินบนให้ตำรวจ ให้รับใบสั่งมาดีกว่า เพราะตอนนี้ตำรวจมีกล้องแอบถ่ายติดตัวถ่ายไว้เป็นหลักฐาน ถ้าตำรวจคนไหนจับคนให้สินบนเรื่องใบสั่งได้ จะได้เงินรางวัล 10,000 บาททันที ที่สำคัญคดีให้สินบนเป็นคดียอมความไม่ได้ วันนี้ทั่วกรุงเทพโดนไปแล้วเจ็ดร้อยราย

ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
336#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-10-10 15:04 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ปภ.เตือนเหนือ 17 จังหวัดจะมีอากาศเย็นลง 3-5 องศา
โดย ทีมข่าวภูมิภาค 10 ต.ค. 2557 11:23







ปภ.เพชรบูรณ์ ประกาศแจ้งเตือนประชาชน 17 จังหวัดภาคเหนือ ให้เฝ้าระวังลมพายุฝนฟ้าคะนอง โดยจะมีมวลอากาศเย็นจากจีนจะแผ่ปกคลุม ทำให้อากาศเย็นลง 3-5 องศา...
เมื่อวันที่ 10 ต.ค.57 ที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จังหวัดเพชรบูรณ์ เผยว่า ระหว่างวันที่ 10-13 ตุลาคมนี้ บริเวณความกดอากาศสูง หรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงอีกระลอก จากประเทศจีนแผ่เสริมลงมาคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้เกิดฟ้าฝนคะนองลมกระโชกแรงบางแห่ง จากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศา กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจึงแจ้งเตือนประชาชนในจังหวัดเพชรบูรณ์ กำแพงเพชร พิจิตร นครสวรรค์ อุทัย ตาก สุโขทัย พิษณุโลก อุตรดิตถ์ ลำปาง ลำพูน เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน เชียงราย พะเยา แพร่ น่าน ให้ระวังภัยเกี่ยวกับพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง พร้อมเร่งประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ ทั้งโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ วิทยุ หอกระจายเสียงตามหมู่บ้าน เสียงตามสาย เครือข่ายวิทยุสมัครเล่น พร้อมประสานให้ผู้ว่าราชการจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งแจ้งเตือนประชาชน และตรวจสอบสิ่งก่อสร้าง และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง หากพบว่า มีความไม่ปลอดภัยให้เร่งดำเนินการโดยเคร่งครัด จัดเจ้าหน้าที่และชุดมิสเตอร์เตือนภัยคอยเฝ้าระวังและแจ้งเตือนประชาชน พร้อมรายงานให้ส่วนกลางทราบโดยทันที
ด้านนายชัช กิตตินภดล ผวจ.อุตรดิตถ์ เผยว่า ในขณะนี้สภาวะอากาศกำลังเปลี่ยนฤดูจากฤดูฝนเข้าสู่ฤดูหนาว ดังนั้นในช่วงเช้ามักจะมีหมอกหนาปกคลุมในบางพื้นที่ จนกระทบต่อทัศนะวิสัยในการขับขี่ของผู้ใช้ยวดยานทั้งรถจักรยานยนต์และรถยนต์ ซึ่งไม่สามารถมองเห็นได้ในระยะไกล จังหวัดอุตรดิตถ์ห่วงใยพี่น้องประชาชน ผู้ใช้รถใช้ถนน ตลอดจนรถโดยสารสาธารณะทุกคัน ที่ขับขี่ผ่านบริเวณที่มีหมอกหนา จึงขอให้ผู้ขับขี่ใช้ความระมัดระวังเพิ่มมากขึ้น เพื่อความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สิน.



ที่มา http://www.thairath.co.th/




ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
ปตท -บางจาก ลดเบนซิน-โซฮอล 60 ส.ต. /E-85 ลด 50 ส.ต.มีผล 00.01น.พรุ่งนี้ (11 ต.ค.)
                           
                                   
                                
                           
                                                                                       
                            ที่มา : http://www.js100.com/
                                                            ปตท.ปรับลดราคาขายปลีกน้ำมันกลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล 60 สตางค์/ลิตร E85 ปรับลด 50 สตางค์/ลิตร (เว้น ดีเซล คงเดิม) ตามที่มีการปรับเปลี่ยนการเก็บเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันและราคาตลาดโลกลดลง มีผลพรุ่งนี้ (11 ต.ค.57) เวลา 00.01 น.

ราคาใหม่ เป็นดังนี้    เบนซิน 95: 44.26 บาท/ลิตร แก๊สโซฮอล 95: 37.20 บาท/ลิตร แก๊สโซฮอล91: 35.18 บาท/ลิตร E20: 33.38 บาท/ลิตร E85: 23.78 บาท/ลิตร ดีเซล 29.99 บาท/ลิตร                                                                        
                                                            

วันนี้ ที่อินโดนีเซีย ภูเขาไฟซินาบุงทางสุมาตราเหนือปะทุอีกระลอก ส่งควันพวยพุ่งสูงกว่า 2 กิโลเมตร ซินาบุง เป็นภูเขาไฟที่กลับมาปะทุอีกครั้งในช่วง 4 - 5 ปีที่ผ่านมา หลังจากสงบไปร่วม 400 ปี




สตช.ห้าม ตร.ติดกล้องแอบถ่ายดักจับ ปชช.จ่ายสินบน

สตช.มีคำสั่งไม่ให้ตำรวจติดกล้องแอบถ่ายที่เพื่อล่อถ่ายภาพและบันทึกเสียงการให้สินบนกับเจ้าหน้าที่ในโครงการให้เงินรางวัลเจ้าหน้าที่ตำรวจ 10,000 บาท

หลังจากมีข่าวการแจกเงินรางวัลนำจับ ประชาชนที่ จ่ายสินบนให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ มีรายงานว่า ในวันนี้  (10 ต.ค.57) พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รอง ผบช.น. ควบคุมดูแลงานด้านจราจร เจ้าของโครงการแจกเงินรางวัลสินบนจราจรให้กับตำรวจ 10,000 บาท ได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง โดย พล.ต.ต. อดุลย์ ระบุตอนหนึ่งว่า จะดำเนินโครงการนี้ไปจนถึงสิ้นเดือน ต.ค. จากนั้นจะมีการประชุมอีกครั้งจะทำต่อไปอีกหรือไม่

ด้านสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มีคำสั่งทางวิทยุผ่านหน่วยงานในสังกัดให้ยกเลิก ไม่ให้ตำรวจติดกล้องแอบถ่ายที่เพื่อล่อถ่ายภาพและบันทึกเสียงการให้สินบนกับเจ้าหน้าที่ในโครงการให้เงินรางวัลเจ้าหน้าที่ตำรวจ 10,000 บาท ที่จับกุมผู้ให้สินบนได้ โดยมีข้อความระบุว่า "ด้วยขณะนี้ มีการเผยแพร่ข้อความทางสื่อและโซเชี่ยลเน็ตเวิรค์เกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจจะใช้กล้องแอบถ่าย (กล้องปากกา,กล้องกระดุม) เพื่อล่อภาพในโครงการในโครงการดังกล่าว จึงขอให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้น ประชุมชี้แจงเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังคมทุกนาย ให้เข้าใจว่า ผู้บังคับบัญชา และ คสช. ไม่มีนโยบายเรื่องนี้ ซึ่งเป็นการสร้างความแตกแยกและความหวาดระแวงระหว่างประชาชนกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ อันเป็นขัดต่อนโยบายของ ผบช.ก. ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องลดความหวาดระแวงจากประชาชน รวมทั้งให้ระมัดระวังการถูกถ่ายและบันทึกเสียงจากประชาชน และงดเว้นการล่อถ่ายภาพการให้เงินสินบนโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจเอง หากพบว่า ผู้ข้าราชการผู้ใดดำเนินการในลักษณะดังกล่าว ผู้บังคับบัญชาจะพิจารณาข้อบกพร่องต่อไป

ที่มา : www.js100.com


วันที่ 10 ตุลาคม เป็นวันยุติโทษประหารสากล เพื่อลดภาวะกดดันของนักโทษประหาร ซึ่งเป็นสาเหตุของสุขภาพจิตที่ย่ำแย่

ทุกวันที่ 10 ตุลาคม ของทุกปี ถูกประกาศให้เป็นวันยุติโทษประหารสากล ปีนี้เป็นปีที่ 12 เพื่อต้องการลดภาวะกดดันของเหล่านักโทษประหารที่อาจนำมาซึ่งสุขภาพจิตที่ย่ำแย่ ซึ่งศตวรรษที่ 21 นี้นักโทษกำลังจะกลายเป็นผู้มีปัญหาด้านสุขภาพจิตมีแนวโน้มเป็นมากที่สุด

ทั้งนี้หลายประเทศยกเลิกโทษประหารชีวิตแล้ว และเปลี่ยนโทษสูงสุดให้เป็น จำคุกตลอดชีวิตโดยไม่มีสิทธิ์อภัยโทษ โดยกฏหมายในลักษณะนี้มักจะปรากฏในประเทศพัฒนาแล้ว โดยส่วนใหญ่ อัตราการเกิดอาชญากรรมสะเทือนขวัญ หรืออาชญากรรมต่อชีวิต น้อยกว่าประเทศที่ยังมีโทษประหารชีวิตอยู่ แต่อย่างไรก็ตามยังคงมีประเทศที่พัฒนาแล้วที่ยังมีโทษประหารชีวิตอยู่

วันนี้ถูกกำหนดขึ้นเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจในประเด็นโทษประหารชีวิตซึ่งเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน ท่ามกลางกระแสความตื่นตัวเรียกร้องให้มีการบังคับใช้โทษประหารในประเทศไทย ที่สวนกระแสดังกล่าว

ที่มาภาพ : พิพิธภัณฑ์กรมราชทัณฑ์

ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้