ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

มาติดตามข่าวสารต่างๆที่น่าสนใจกันครับ

[คัดลอกลิงก์]
ผวา! งูเหลือมยักษ์โผล่เขมือบไก่ชน คาเล้า
                                                                                                                   
                            ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์
                                                            ชาวบ้าน อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี ผวางูเหลือมยักษ์ ยาว 4 เมตร เลื้อยเข้าเขมือบไก่ชนคาเล้า เจ้าหน้าที่พร้อมชาวบ้านช่วยกันจับประมาณ 30 นาที ก่อนปล่อยกลับคืนสู่ป่า...

เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 23 ก.ย. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นายบัลลังก์ หลักคำ อายุ 21 ปี เจ้าหน้าที่มูลนิธิเสมอกัน ว่า มีชาวบ้านให้ไปช่วยจับงูเหลือมขนาดใหญ่จะเข้ามากินไก่ เหตุเกิดที่หลังวัดไผ่โรงวัว บ้านเลขที่ 286 หมู่ 11 ต.บางตาเถร อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี จึงไปตรวจสอบ

พบงูเหลือมขนาดใหญ่นอนขดตัวอยู่ในเล้าไก่ เจ้าหน้าที่และชาวบ้านใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง จึงจับได้ เป็นงูเหลือมเพศเมียตัวใหญ่ ความยาว 4 เมตร ลำตัวกว้างประมาณ 13 นิ้ว น้ำหนัก 45 กิโลกรัม

สอบถาม นางประคอง โสนน้อย อายุ 54 ปี เจ้าของบ้าน เล่าว่า เมื่อช่วง 2-3 คืนที่ผ่านมา ไก่ชนในเล้าหายไป ตนสงสัยว่าตัวอะไรเอาไปกิน จนกระทั่งวันนี้ได้ยินเสียงไก่แตกตื่น เลยรีบออกไปดู พอเห็นตกใจงูเหลือมตัวใหญ่นอนขดอยู่ในเล้าไก่ จึงตะโกนให้คนมาช่วย แล้วแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาช่วยจับ ดีที่ตนมาเห็นก่อน ไม่เช่นนั้นอาจจะเกิดอันตรายต่อเด็กๆ และชาวบ้านได้ ส่วนเจ้าหน้าที่จะได้นำไปปล่อยกลับคืนสู่ป่าธรรมชาติต่อไป                                                                        
                                                            

"เรือด่วนเจ้าพระยา" ขอขึ้นค่าโดยสาร 1 บาท หลังค่าครองชีพขยับ!!
                                                                                                                   
                            ที่มา : T News
                                                            วันนี้ (23 ก.ย.) นายจุฬา สุขมานพ อธิบดีกรมเจ้าท่า (จท.) กล่าวว่า ขณะนี้บริษัท เรือด่วนเจ้าพระยา จำกัด ยังไม่ได้เข้ามาหารือกับกรมเจ้าท่าเพื่อขอปรับขึ้นราคาค่าโดยสารอีก 2 บาท ตามที่เคยเสนอไว้ก่อนหน้านี้

ในส่วนของกรมเห็นว่าบริษัทเรือด่วนฯไม่ได้ปรับขึ้นราคามานานแล้ว ขณะที่ต้นทุนการให้บริการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงน่าจะพิจารณาให้ปรับขึ้นราคาได้ แต่คงจะให้ได้อีก 1 บาทเท่านั้น แต่ถ้าในอนาคตราคาน้ำมันดีเซลมีแนวโน้มปรับตัวลดลง ก็จะต้องพิจารณาปรับลดค่าโดยสารลงด้วย ส่วนเรือคลองแสนแสบและคลองอื่นๆ เป็นอำนาจหน้าที่ของกรุงเทพมหานคร (กทม.) จะเป็นผู้พิจารณา

"เรือด่วนเจ้าพระยาเคยยื่นเรื่องการขอปรับขึ้นค่าโดยสารมานานแล้ว ก่อนที่ผมจะเข้ามารับตำแหน่ง แต่ในช่วงที่เข้ามารับตำแหน่งบริษัทยังไม่เคยเข้ามาหารือถึงเรื่องนี้เลย ซึ่งตามปกติการปรับขึ้นราคาของเรือด่วนเจ้าพระยาจะมีโครงสร้างราคาที่อิงกับราคาน้ำมันดีเซลอยู่แล้ว เช่น กรณีราคาน้ำมันดีเซลอยู่ที่ 30-32 บาท จะให้ปรับขึ้นได้ 1 บาท เป็นต้น" นายจุฬากล่าว                                                                        
                                                            

โชเฟอร์โฉด! หลอกฟันสาวไซด์ไลน์ ชิงกระเป๋าและขู่ฆ่า                                                                                                                   
                            ที่มา : sanook.com
                                                            ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (25 ก.ย.) สภ.เมืองพัทยา รับแจ้งเหตุมีผู้หญิงถูกโชเฟอร์ก่อเหตุชิงทรัพย์แล้ววิ่งมาขอความช่วยเหลือกับพนักงานปั๊มน้ำมันปตท. ถนนสุขุมวิท-พัทยาเหนือ ม.5 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ที่เกิดเหตุพบ น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 20-25 ปี ผู้เสียหาย เป็นสาวไซด์ไลน์ นั่งร้องไห้ระงม อยู่ที่บริเวณหัวจ่ายน้ำมันปั๊มดังกล่าว

จากการสอบสวน ผู้เสียหายให้การเบื้องต้นว่า ก่อนเกิดเหตุมีคนร้ายเป็นชาย อาชีพโชเฟอร์รถตู้ เข้าติดต่อซื้อบริการทางเพศ เวลาชั่วคราว ในราคา 3,000 บาท เมื่อตกลงกันได้ จึงได้นั่งรถตู้โดยสารสีขาว ซึ่งข้างรถติดสติกเกอร์ กรุงเทพ-สัตหีบ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ที่จอดอยู่บริเวณหน้าโรงแรมแห่งหนึ่ง บริเวณถนนพัทยาเหนือ แล้วไปเปิดโรงแรมแห่งหนึ่งในเมืองพัทยา หลังจากเสร็จภารกิจ คนร้ายอ้างว่าเดี๋ยวกลับไปเอาของที่บ้านพักสักครู่เดียว เมื่อเลี้ยวเข้าซอยเปลี่ยว คนร้ายได้กระชากเอากระเป๋าภายในมีทรัพย์สินเงินสดดังกล่าวจำนวน 3,000 บาท ไอโฟน 5 และเอกสารต่างๆ แล้วข่มขู่ ให้ลงจากรถถ้าไม่ลงจะฆ่าให้ตาย ตนจึงยอมลงจากรถ ก่อนวิ่งเข้ามาขอความช่วยเหลือที่ปั๊มดังกล่าว

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้นำกำลังไปตรวจสอบกล้องวงจรปิด บริเวณจุดเกิดเหตุอย่างละเอียด อย่างไรก็ตามจะสอบสวนผู้เสียหายอีกครั้ง เนื่องจากหลังเกิดเหตุยังอยู่ในอาการตกใจ                                                                        
                                                            

คุมเข้ม! คุณภาพโรงเจทั่วโคราช   
                                                                                                                
                            ที่มา : สปริงนิวส์
                                                            สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมาร่วมกับ สคบ. ลงพื้นที่ตรวจเข้มวัตถุดิบปรุงอาหารเจโรงทานทั่วเมืองโคราช เพื่อป้องกันอาหารเป็นพิษในช่วงเทศกาลกินเจ

ที่โรงทานมูลนิธิหลักเสียงเซี่ยงตึ๊งสว่างเมตตาธรรม อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา เจ้าหน้าที่จากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค อำเภอเมืองนครราชสีมา และเจ้าหน้าที่เทศบาลนครนครราชสีมา เข้าตรวจโรงครัวประกอบอาหารเจ เพื่อควบคุมความสะอาดตามหลักสุขอนามัย

โดย น.ส.ศิริขวัญ คูลกลาง เจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา ระบุว่า โรงทานมูลนิธิหลักเสียงเซี่ยงตึ๊งสว่างเมตตาธรรมสถาน ให้บริการอาหารเจฟรีจนถึงวันที่ 2 ตุลาคมนี้ ทำให้มีประชาชนเข้ามารับประทานอาหารเจเป็นจำนวนมาก

และเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาต่างๆ กับผู้บริโภค เช่น อาหารเป็นพิษ อาหารไม่ได้คุณภาพ และมีสารตกค้างในวัตถุดิบ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงได้มาตรวจสอบและไม่พบสารปนเปื้อน โดยดำเนินการถูกหลักอนามัยทุกประการ นอกจากนี้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา ยังได้จัดชุดลงพื้นที่ตรวจสอบโรงทานต่างๆ ทั่วจังหวัดนครราชสีมา ในช่วงเทศกาลกินเจครั้งนี้ด้วย                                                                        
                                                            

นศ.สาวซิ่งเก๋งฝ่าฝนชนต้นไม้ รถพังเละขาดสองท่อน ดับคาซาก!
                                                                                                                   
                            ที่มา : ข่าวสดออนไลน์
                                                            เมื่อเวลา 03.30 น. วันที่ 25 ก.ย. เจ้าหน้าที่ ตร.สภ.ย่อย บ้านดู่ อ.เมือง เชียงราย ได้รับแจ้งมีเหตุรถเก๋งชนต้นไม้ มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ หลังรับแจ้ง จึงได้ประสานแพทย์แผนกนิติเวช พร้อมหน่วยกู้ภัยแสงธรรมเชียงราย รีบรุดไปตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ

เมื่อถึงที่เกิดเหตุ บริเวณหน้าจุดกลับรถ ถนนพหลโยธินขาเข้าเมือง บ้านขัวแคร่ พบรถเก๋งฮอนด้า ซีวิค สีแดง สภาพขาดสองท่อน พังยับเยิน ภายในที่เกิดเหตุ พบศพหญิงทราบชื่อภายหลังว่า น.ส.จตุพร มโนวัง อายุ 22 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในเชียงราย เป็นคนขับรถคันดังกล่าว สภาพศพคอหัก แขนขาหักหลายแห่ง เจ้าหน้าที่ได้นำส่งแผนกนิติเวชชันสูตรศพ

จากการสอบถามชาวบ้านใกล้เคียง ทราบว่า เวลาประมาณ 03.00 น. ช่วงฝนตกพรำๆ ได้ยินเสียงชนกันดังสนั่น จึงวิ่งออกมาดู ก็เห็นรถพังเละ และมีคนตายดังกล่าว จึงได้แจ้ง จนท.ทันที เบื้องต้น จนท.สันนิษฐานว่า ผู้ตายอาจจะขับรถมาด้วยความเร็วสูง ประกอบกับช่วงฝนตกถนนลื่น ทำให้ควบคุมรถไม่อยู่ จึงเสียหลักตกข้างทางไปชนกับต้นสักขนาดใหญ่ จนรถขาดเป็นสองท่อน โดยจะได้ติดต่อญาติผู้เสียชีวิตต่อไป                                                                        
                                                            

ประมงระยอง 'ไม่มีเงินสู้คดี' หลังฟ้องพีทีทีจีซีทำ 'น้ำมันรั่ว'
                                                                                                                   
                            ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์
                                                            ประมงพื้นบ้านระยอง ร้องศาลเว้นเก็บค่าธรรมเนียมฟ้องแพ่ง "พีทีทีจีซี" เหตุน้ำมันรั่วทำรายได้สูญ หลังสูญรายได้ และมีงานไม่พอต่อสู้คดี ย้ำไม่ต้องการเพียงเงิน แต่อยากให้เอกชน-หน่วยงานฟื้นทะเลยั่งยืน ด้านศาลนัดไต่สวนโจทก์อีก 27 คน 13 ต.ค.นี้ ขณะเดียวกัน ยังฟ้องศาลปกครองเพิ่ม...

เมื่อวันที่ 26 ก.ย.57 นายละม่อม บุญยงค์ กรรมการสมาคมประมงพื้นบ้านเรือเล็กระยอง กล่าวถึงเหตุที่ชาวบ้านผู้ฟ้องคดีต้องขอยกเว้นค่าธรรมเนียมศาลระยอง กรณียื่นฟ้องแพ่งบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ พีทีทีจีซี ที่ทำให้น้ำมันรั่วไหลลงทะเล เมื่อวันที่ 27 ก.ค.56 ว่า ต้องยอมรับว่าปัจจุบัน หลังเกิดเหตุ และมีปรากฏคราบน้ำมันลอยเกยหาดเป็นระยะๆ นับจากนั้น ชาวประมงพื้นบ้านและแม่ค้าอาหารทะเลอยู่ในภาวะขัดสน เนื่องจากทรัพยากรทางทะเลสูญหาย ชาวบ้านไม่สามารถจับสัตว์น้ำมาขายได้เหมือนก่อน ทำให้รายได้ลดลงอย่างน่าตกใจ ส่วนใหญ่จากที่เคยทำมาหากินได้หลายหมื่นบาทต่อเดือน ก็ลดเหลือหลักพันบาท หรือบางคนต้องเลิกทำประมงไป ทุกวันนี้ในแต่ละเดือนจึงแทบไม่พอใช้จ่าย หลายคนต้องไปกู้หนี้ยืมสินทั้งในระบบและนอกระบบมาใช้เพื่อให้อยู่รอด โดยการฟ้องเรียกค่าเสียหายจากบริษัท พีทีทีจีซี ชาวบ้านทุกคนฟ้องเป็นทุนทรัพย์ไม่ต่ำกว่าสามแสนบาท ส่วนหนึ่งเรียกค่าเสียหายหลักล้าน คิดรวมระยะเวลา 2-3 ปี ซึ่งเป็นค่าเสียหายตามจริง เป็นเหตุให้ต้องเสียค่าธรรมเนียมศาลในอัตราร้อยละ 2 ของทุนทรัพย์ที่ฟ้อง ดังนั้น ชาวบ้านจะต้องจ่ายเงินถึงหลักหมื่นในการดำเนินการทางการศาล แน่นอนว่าชาวบ้านไม่สามารถหาเงินมาจ่ายได้ จึงจำเป็นต้องขอความเป็นธรรมงดเว้นค่าธรรมเนียมจากศาล

นางสำเริง ศรีลอย ชาวประมงพื้นบ้านหนึ่งในผู้ฟ้องคดี กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุน้ำมันรั่ว ตนจับปูมาขายมีรายได้วันหนึ่งไม่ต่ำกว่า 1,000-3,000 บาท แต่ปัจจุบันบางวันได้เงินเพียง 100-300 บาทเท่านั้น จนไม่พอใช้จ่ายต้องไปกู้เงินจากธนาคาร หรือนำของมีค่าที่เคยสะสมไว้ไปจำหน่ายเพื่อนำเงินมาประทังชีวิต ทำให้ทุกวันนี้ความเป็นอยู่ลำบากมาก แต่ยังพร้อมที่จะต่อสู้ทางคดี เพื่อให้บริษัทรับผิดชอบต่อสิ่งที่ทำและรีบฟื้นฟูทรัพยากรทะเลต่อไป

"ไม่ได้ฟ้องเพราะอยากจะได้แต่เงินของบริษัทฯ ไม่มีใครอยากเสียเวลาทำกินมาขึ้นโรงขึ้นศาล แต่เราสู้เพราะอยากให้พีทีทีจีซี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหันมาฟื้นฟูทรัพยากรทะเลอย่างแท้จริง โดยให้ชาวบ้านได้มีส่วนร่วม ไม่ใช่ทำแบบสร้างภาพ เอาปลาหรือปะการังมาปล่อยเหมือนที่ผ่านมาๆ อีกประเด็นสำคัญที่ชาวบ้านฟ้องจึงเป็นการขอให้มีการจัดตั้งกองทุนฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลเพื่อความยั่งยืนต่อไป เพราะถ้าในทะเลมีปลา เงินทองเราจะออกไปหาเท่าไหร่ก็ทำได้” นางสำเริง กล่าว

ขณะที่ น.ส.รัตนมณี พลกล้า ทนายความจากศูนย์ข้อมูลชุมชน ซึ่งให้ความช่วยเหลือทางคดีแก่ชาวบ้าน กล่าวว่า คดีนี้แม้ชาวบ้านจะไม่ต้องจ่ายเงินว่าจ้างทนายความ เพื่อดำเนินการทางคดี เนื่องจากศูนย์ข้อมูลชุมชนและสมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชนได้ให้ความช่วยเหลือแก่ชาวบ้าน เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายแล้วก็ตาม แต่ชาวบ้านก็ยังเดือดร้อนมากและไม่มีรายได้มากพอที่จะหาเงินค่าธรรมเนียมมาวางศาล โดยวันนี้ศาลจังหวัดระยองไต่สวนชาวบ้านส่วนใหญ่แล้วและจะนัดไต่สวนโจทก์ที่เหลืออีก 27 คนเพิ่มเติมในวันที่ 13 ต.ค. 57 ทั้งนี้ คาดหวังว่าชาวบ้านจะได้รับความเมตตาจากศาลยกเว้นค่าธรรมเนียมและสามารถเข้าถึงความยุติธรรมต่อไป หลังจากนั้นจึงเข้าสู่กระบวนการที่จำเลยจะต้องยื่นคำให้การต่อศาล และเริ่มกระบวนพิจารณาคดีสืบพยานในชั้นต่อไป นอกจากการฟ้องคดีแพ่งที่ศาลจังหวัดระยองแล้ว ชาวบ้านยังได้ฟ้องหน่วยงานทางปกครองไว้ที่ศาลปกครองระยองอีกด้วย โดยขณะนี้ ชาวบ้านได้ไปสาบานตัวต่อศาลเกี่ยวกับการขอยกเว้นค่าธรรมเนียมศาลแล้ว คดีจึงอยู่ระหว่างศาลพิจารณาเรื่องการขอยกเว้นค่าธรรมเนียมศาล เช่นเดียวกัน.                                                                        
                                                            

อีกแล้ว ตู้เอทีเอ็มไฟรั่วที่ตรัง กดเงินโดนไฟช็อต
                                                                                                                   
                            ที่มา : kapook.com
                                                            ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล

          ตู้เอทีเอ็มไฟรั่วใน จ.ตรัง ระหว่างช่วงฝนตก โชคดีไม่ถูกไฟช็อตเสียชีวิต ตำรวจเข้าคุมห้ามใช้บริการจนกว่าจะได้รับการซ่อม

          วันนี้ (26 กันยายน 2557) วิทยุ 191 กองกำกับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง ได้รับแจ้งจาก นายนิยม แก้วลาย อายุ 52 ปี ระบุว่า ตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่งซึ่งตั้งอยู่หน้าโรงเลื่อย บริษัท ไม้ยางพาราปักษ์ใต้ ถนนทุ่งควน ต.ทับเที่ยง อ.เมืองตรัง เกิดไฟฟ้ารั่ว

          โดยนายนิยม เผยว่า ขณะที่ตนกำลังกดเงินจากตู้เอทีเอ็มดังกล่าวนั้น ก็มีฝนตกลงมาเล็กน้อย ทำให้พื้นเหล็กหน้าตู้เอทีเอ็มเปียกน้ำ ทำให้ตนถูกกระแสไฟฟ้าช็อตและตกใจเป็นอย่างมาก แม้ว่าตนจะไม่เป็นอะไรมาก แต่เกรงว่าจะมีบุคคลอื่นมาใช้บริการอีก จึงได้แจ้งมายังหมายเลขโทรศัพท์ 191 เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งไปยังธนาคารเจ้าของตู้เอทีเอ็ม ให้ดำเนินการตัดไฟหรือระงับการให้บริการชั่วคราวเพื่อความปลอดภัย ซึ่งต่อมาสถานีตำรวจภูธรเมืองตรังก็ได้ส่งเจ้าหน้าที่มารักษาความปลอดภัยบริเวณตู้เอทีเอ็มดังกล่าว โดยห้ามไม่ให้ใช้บริการจนกว่าจะได้รับการแก้ไข

          ต่อมาทางธนาคารไทยพาณิชย์ ได้ส่งช่างเข้าตรวจสอบ แต่เนื่องจากตู้มีสภาพเปียกน้ำจึงไม่สามารถซ่อมได้ ทำได้เพียงตัดกระแสไฟฟ้า แล้วรอให้ช่างที่ชำนาญมาซ่อมเพื่อหาสาเหตุของการเกิดกระแสไฟฟ้ารั่วในครั้งนี้อย่างละเอียด

          อย่างไรก็ตาม จากการสำรวจตู้เอทีเอ็มจุดดังกล่าว พบว่าอยู่ในสภาพเก่า มีต้นหญ้าขึ้นปกคลุมหลังตู้ มีสายโทรศัพท์และสายไฟฟ้าหลังตู้เอทีเอ็มพันด้วยสายเทปเก่า ๆ และมีต้นไม้ที่พาดกับสายโทรศัพท์อยู่ติดกับตู้เอทีเอ็ม โดยผู้ใช้บริการตู้เอทีเอ็มตู้นี้ส่วนใหญ่จะเป็นแรงงานต่างด้าวที่ทำงานอยู่ในโรงงานไม้ยางพาราพาแห่งนี้

          ทั้งนี้เหตุกระแสไฟฟ้ารั่วจากตู้เอทีเอ็ม เคยเกิดขึ้นมาแล้วใน จ.ตรัง จนเป็นข่าวครึกโครม กรณีของ ด.ญ.ปาริฉัตร หนูพินิจ หรือ น้องใบหยก อายุ 2 ขวบ ซึ่งมากดเงินที่ตู้เอทีเอ็มไทยพาณิชย์ หน้าปั๊มน้ำมันเอสโซ่ อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง กับผู้ปกครอง เมื่อช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา แล้วเกิดเหตุไฟช็อตแล้วเสียชีวิตในเวลาต่อมา                                                                        
                                                            

สลด!!! พบศพทารกเพศหญิงถูกทิ้งเป็นขยะ
                                                                                                                  
                            ที่มา : T News
                                                            วันนี้ (26 ก.ย.)  ร.ต.ท.มัสโรจน์ เมฆวิเชียรเจริญ พนักงานสอบสวน.สน.วัดพระยาไกร ได้รับแจ้งเหตุพบศพเด็กทารกเพศหญิง ไม่สวมเสื้อผ้า อายุประมาณ 9 เดือน บนรถขยะบริเวณ ซ.จันทร์ 43 แยก 26-5 แขวงบางโคล่ เขตบางคอแหลม กทม.  จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.ท.ศรศักดิ์ ทองมี สว.สส.สน.วัดพระยาไกร และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
      
     


ที่เกิดเหตุพบศพในรถขยะของกรุงเทพมหานคร หมายเลขทะเบียน 77-5785 กทม. โดยศพทารกอยู่ในกระเป๋าผ้าสีเขียว โดยมีถุงพลาสติกสีดำห่อทับอีกชั้น  จากการสอบสวนเจ้าหน้าที่เก็บขยะของ กทม. ให้การว่า ขณะเก็บขยะเมื่อมาถึงแคมป์โรงงานก่อสร้างก็พบกองขยะจำนวนหนึ่ง จึงนำไปคัดแยกที่รถขยะ ก่อนพบถุงสีดำ เปิดดูก็พบกระเป๋าผ้าสีเขียว และเมื่อเปิดดูก็พบกับศพเด็กทารกอยู่ภายใน จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาตรวจสอบ
      
      


เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้ส่งศพไปตรวจอย่างละเอียดที่สถาบันนิติเวชฯ เพื่อหาสาเหตุการตายโดยละเอียด ก่อนที่จะสอบสวนพยานในละแวกใกล้เคียงเพื่อหาตัวแม่เด็กมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป                                                                        
                                                            

รวบญี่ปุ่นใจเหี้ยม ฆ่าหั่นศพเด็ก 6 ขวบโดย ทีมข่าวต่างประเทศ 25 ก.ย. 2557 04:10

  • 7,465 ครั้ง









ตำรวจญี่ปุ่นจับกุมนายยาสุฮิโระ คิมิโนะ อายุ 47 ปี ผู้อาศัยอยู่ในเขตนากาตะ เมืองโกเบ จ.เฮียวโหงะ ทางตะวันตกของญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 24 ก.ย. ในฐานะผู้ต้องสงสัยลงมือฆาตกรรมและหั่นศพ ด.ญ.มิเรอิ อิคุตะ อายุ 6 ขวบ ซึ่งหายตัวไปตั้งแต่วันที่ 11 ก.ย. หลังกลับจากโรงเรียนและออกจากบ้านเพื่อไปเล่นกับเพื่อน ขณะที่กล้องวงจรปิดในละแวกใกล้เคียงบันทึกภาพ ด.ญ.มิเรอิเดินอยู่บนถนนพร้อมถือร่มกันแดดอยู่เพียงลำพัง แต่ไม่อาจบันทึกภาพผู้ต้องสงสัยไว้ได้
การตามหาตัว ด.ญ.มิเรอิใช้เวลานานกว่า 2 สัปดาห์ จนกระทั่งพบถุงพลาสติกใส่ชิ้นส่วนศพซุกซ่อนอยู่ในพุ่มไม้สวนสาธารณะไม่ไกลจากบ้านพักนายยาสุฮิโระ โดยเป็นจุดกึ่งกลางระหว่างโรงเรียนและบ้านของ ด.ญ.มิเรอิ ช่วงค่ำวันที่ 23 ก.ย.ที่ผ่านมา ยืนยันผลดีเอ็นเอว่าศพเป็นร่างของ ด.ญ.มิเรอิจริง แต่ยังมีชิ้นส่วนอวัยวะหายไปบางส่วน คดีที่เกิดขึ้นถือเป็นเรื่องสะเทือนขวัญสังคมญี่ปุ่น ซึ่งมีสถิติอาชญากรรมต่ำที่สุดในเอเชีย.
เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพื้นที่ที่มีการพบศพเด็กหญิงมิเรอิ อิคุตะ









คอเหล้าโปรดทราบ ตอนนี้ หงษ์ทองกับ BLEND 285
ปลอมกำลังระบาด แพทย์เตือนกินถึงตายคับ














ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้