เรื่องจริงดั่งนิยายนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 27 ก.ย. นายภวัต เลิศมุกดา นายอำเภอสัตหีบ จ.ชลบุรี ได้รับการร้องขอความช่วยเหลือจาก นางโอ (นามสมมุติ) อายุ 60 ปี อาชีพค้าขาย ว่าอยากให้ช่วยตามหา น.ส.หนิง (นามสมมุติ) ลูกสาวที่หนีออกจากบ้านหายไปนานกว่า 10 ปี เนื่องจากไม่รู้ว่าตอนนี้เป็นตายร้ายดีอย่างไร โดยรู้เพียงว่าขณะนี้ลูกสาวมีอายุ 39 ปี และไปพักอยู่กับหญิงสาวร่างทรงรายหนึ่งใน ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ นอกจากนี้ยังเชื่อว่าลูกสาวอาจโดนคาถามนต์ดำเล่นงานจนกลับบ้านไม่ได้ด้วย
จากนั้นเจ้าหน้าที่นำโดย นายชวัฒน์ เทพทัพ ปลัดฝ่ายความมั่นคง นำกำลังชุดปฏิบัติการพิเศษ ร่วมกับ สธ.เทศบาลเมืองหนองปรือ กระจายกันออกสืบสวนและติดตามหาตัวจนประสบความสำเร็จ เมื่อพบว่า น.ส.หนิง ได้พักอาศัยใช้ชีวิตอยู่ในบ้านพักกับหญิงสาวร่างทรงจริงภายในชุมชนเขาบายศรี ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จึงรีบพาแม่ไปพบลูกสาวทันที
ซึ่งปรากฎว่าหลังจากแม่ลูกพบหน้ากัน กลับสร้างความแปลกใจให้กับเจ้าหน้าที่อย่างมาก เนื่องจากผู้เป็นแม่ร่ำไห้โฮโผเข้ากอดลูกด้วยความดีใจ แต่ด้านลูกสาวกลับมีสีหน้าเรียบเฉย ไม่แสดงอาการดีใจแม้แต่น้อย เจ้าหน้าที่จึงพาทั้งคู่มาพูดคุยกันแบบเปิดอกว่าเรื่องราวทั้งหมดเป็นมาอย่างไร
กระทั่งความจริงถูกเปิดเผยว่า สาเหตุที่ น.ส.หนิง ต้องหนีออกจากบ้านมานานกว่า 10 ปีนี้ แท้จริงไม่ได้โดนมนต์ดำตามที่แม่เชื่อ แต่เพราะเคยถูกน้าชายแท้ๆ ที่เป็นน้องแม่ข่มขืนกระทำชำเราตั้งแต่เรียนอยู่ชั้น ป.5 จากนั้นก็ถูกข่มขู่ฆ่าไม่ให้บอกใคร รวมทั้งเกิดความอับอายและหวั่นใจว่าครอบครัวจะแตกสาแหรกขาด เลยต้องยอมเป็นสนามอารมณ์ให้น้าชายระบายความใคร่หลายครั้ง แต่สุดท้ายความทนมีขีดจำกัด จึงตัดสินใจหนีออกจากบ้านมาเริ่มชีวิตใหม่ โดยมีหญิงสาวร่างทรงผู้มีพระคุณคอยดูแลและให้ที่พักอาศัยเรื่อยมา และยืนกรานว่าจะไม่กลับบ้านแน่นอน
ด้าน นางโอ เมื่อรู้ความจริงจากปากลูกสาวถึงกับช็อกจนล้มทั้งยืน ก่อนเผยว่า ตนไม่รู้มาก่อนเลยว่ามีเรื่องอัปยศเช่นนี้เกิดขึ้นกับลูกสาว คิดว่าโดนมนต์ดำ เพิ่งรู้ว่าลูกเจอเรื่องเลวร้ายขนาดนี้ แถมต้องเก็บไว้เป็นปมในใจไม่ยอมบอกใครด้วย ตนผิดเองที่ดูแลลูกไม่ดี หากลูกไม่กลับก็ไม่เป็นไร ขอแค่แวะไปเยี่ยมบ้านเดือนละครั้ง ส่วนเรื่องคดีข่มขืนขอปรึกษาญาติผู้ใหญ่อีกครั้งว่าจะดำเนินการยังไงต่อ เพราะเหตุการณืมันนานมากแล้ว จากนั้นแม่ลูกได้กอดร่ำลากันอีกครั้งก่อนแยกจากกัน.