หนุ่มคลั่ง!จ้วงแทงแฟนยับ-ควักอวัยวะต้มกิน.... อ่านต่อได้ที่ : http://bit.ly/1wCAbI9
หนุ่มมะกันวัย33ปี คลั่งก่อเหตุใช้มีดแทงแฟนสาวยับ ก่อนควักสมอง หัวใจ ปอดมาต้มกิน
เว็บไซต์ข่าวต่างประเทศเผยเรื่องราวชวนสะเทือนขวัญ เมื่อนาย 'โจเซฟ โอเบอร์ฮันสเลย์' หนุ่มชาวสหรัฐอเมริกาวัย 33 ปี ก่อเหตุฆาตกรรม นาง 'แทมมี่ แบลนตัน' อดีตคนรักวัย 46 ปี ด้วยการจ้วงแทงบริเวณศีรษะ และลำตัวหลายแผลจนเธอเสียชีวิต ก่อนจะควักอวัยวะภายในของเธอมาประกอบอาหารและรับประทาน เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในเมืองเจฟเฟอร์สันวิลล์ รัฐอินดีแอนา เมื่อวันที่ 11 กันยายนที่ผ่านมา โดยเริ่มขึ้นเมื่อ 3 นาฬิกาของวันนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากนางแบลนตันว่าโจเซฟหรือแฟนหนุ่ม พยายามบุกรุกเข้ามาภายในบ้านของเธอ ก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจจะรีบรุดไปที่เกิดเหตุ หลังจากไกล่เกลี่ยเรียบร้อยและนายโจเซฟยอมจากไปอย่างเงียบๆ ต่อมาเมื่อเวลา 10 นาฬิกาของวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากเพื่อนร่วมงานของแบลนตันว่าเธอไม่ได้มาทำงานและเกรงว่าอาจได้รับอันตราย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรีบรุดกลับไปที่บ้านของแบลนตันอีกครั้ง เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกเข้าไปตรวจค้นภายในบ้าน พบนายโจเซฟอยู่ภายในบ้านด้วยพร้อมมีดหนึ่งเล่มในกระเป๋าหลัง และพบศพของแบลตันอยู่ในอ่างอาบน้ำ ในสภาพที่เต็มไปด้วยแผลถูกมีดแทง กะโหลกศีรษะถูกเปิดออก ชิ้นส่วนของสมอง หัวใจ ปอด และอวัยวะภายในบางส่วนหายไป โดยตรวจค้นภายหลังพบว่า อวัยวะบางส่วนกลับไปปรากฏอยู่ในถุงขยะภายในบ้าน ในขณะที่บางส่วนไปอยู่บนจานอาหารแทน ทั้งนี้เมื่อสอบสวนนายโจเซฟยอมรับว่า เขาได้นำอวัยวะดังกล่าวไปประกอบอาหาร และรับประทานด้วย เมื่อวันที่ 15 กันยายนที่ผ่าน เจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายโจเซฟขึ้นไต่สวนในชั้นศาล เขากลับให้การปฏิเสธว่าเขาไม่ได้ชื่อ 'โจเซฟ โอเบอร์ฮันสเลย์' แต่ชื่อ 'เซอุส บราวน์' พร้อมทั้งกล่าวว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังจับผิดคนแล้ว ทั้งนี้ยังมีอาการหลงลืมอายุและเชื้อชาติของตัวเองอีกด้วย อย่างไรก็ตามนายโจเซฟยังคงถูกคุมตัวไว้ในเรือนจำโดยไม่ให้ประกันตัว อนึ่งนายโจเซฟเคยก่อคดีอาชญากรรมมามากมาย โดยเคยก่อเหตุฆาตกรรมแฟนสาววัย 17 ปี ในปีค.ศ.1998 หลังจากที่เธอเพิ่งให้กำเนิดลูกของเขาได้ไม่นาน ก่อนที่จะถูกจำคุกและปล่อยตัวออกมาในปีค.ศ.2012 แล้วก่อเหตุทะเลาะวิวาทและขับรถยนต์โดยประมาทอีกหลายคดี จนต้องถูกจำคุกอีกหลายครั้ง โดยล่าสุดเมื่อ 2 เดือนก่อน แบลนตันหรือผู้ตายได้เป็นผู้ประกันตัวเขาออกจากเรือนจำไปด้วยเงิน 500 ดอลลาร์ หรือประมาณ 15,000 บาทอีกด้วย ที่มา : huffingtonpost.com
|