ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

มาติดตามข่าวสารต่างๆที่น่าสนใจกันครับ

[คัดลอกลิงก์]
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย morntanti เมื่อ 2014-10-18 07:48

ต้องวิ่งถึง 7 กม. กว่าจะเผาผลาญพลังงานน้ำอัดลม 1 กระป๋องออกหมด





สาวๆหลายคนชอบดื่มน้ำอัดลม แต่จะรู้ไหมว่าน้ำอัดลมกระป๋องหนึ่ง ถ้าเราต้องการเผาผลาญพลังงานให้หมดไปต้องวิ่งไกลถึง 7 กิโลเมตร
นักวิทยาศาสตร์จากสถาบันจอห์น ฮอบกินส์ บรูมเบิร์ก ในรัฐบัลติมอร์ เปิดเผยข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับปริมาณแคลอรี่ในอาหารและเครื่องดื่ม พร้อมทั้งตารางการออกกำลังกายเพื่อให้ร่างกายเผาผลาญสิ่งที่เรากินเข้าไป
โดยยกตัวอย่างคือ น้ำอัดลมกระป๋องขนาด 500 มิลลิลิตร มีปริมาณ 210 แคลอรี นั่นมากกว่าแคลอรี่ที่ผู้หญิงต้องการในแต่ละวันถึง 10 เท่า ทำให้นักวิทยาศาสตร์ให้คำแนะนำว่าหากสาวๆท่านใดอยากเผาผลาญพลังงานของน้ำอัดลม 1 กระป๋องออกจากร่างกายต้องวิ่งอย่างน้อยประมาณ 6.8 กิโลเมตร หรือใช้เวลาราว 42 นาทีในการเดิน
วิธีที่กล่าวมาข้างต้นนี้สามารถใช้ได้กับอาหารประเภทอื่นๆได้ เช่น หากกินแฮมเบอร์เกอร์ดับเบิลชีส 1 ชิ้น ต้องใช้การวิ่งถึง 9 กิโลเมตรกว่าจะเผาผลาญออกมาให้หมด แต่ถ้าเลือกกินแฮมเบอร์เกอร์ชิ้นเล็กจะต้องวิ่งแค่ 4.2 กิโลเมตรเท่านั้น
ที่มา : news.com.au
flickr/Omar Bariffi









สลด เด็กจีนให้อาหารหมี ถูกหมีขย้ำแขนขาดคากรง
                                                                                                                   
                            ที่มา : http://hilight.kapook.com/
                                                            เด็กชายจีนถูกหมีขย้ำแขนขาด หลังยื่นแขนเข้าไปให้อาหารในกรงหมี

เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2557 เว็บไซต์เดลี่เมลของอังกฤษ รายงานว่า เกิดเหตุสุดช็อกขึ้นในสวนสัตว์จีน เมื่อหมีในสวนสัตว์ขย้ำเด็กชายวัย 9 ขวบ จนแขนขาดวิ่น ต้องตัดแขนทั้งแขน หลังจากที่เด็กชายพยายามยื่นอาหารป้อนหมีตัวนี้

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในสวนสัตว์ผิงติ้งชาน เหอปิ่น ในมณฑลเหอเป่ย เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 18 ตุลาคมที่ผ่านมา เด็กชายรายหนึ่งซึ่งไม่ได้รับการเปิดเผยชื่อได้ไปเที่ยวสวนสัตว์กับครอบครัว และยื่นแขนขวาเข้าไปในกรงหมี เพื่อให้อาหาร  โดยไม่ได้ตระหนักถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้น และฝันร้ายก็เกิดขึ้นจริง ๆ เมื่อหมีในกรงเข้ามาขย้ำแขนจนขาดและเป็นแผลเหวอะหวะ สาหัสมาก ก่อนจะถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลโดยด่วน ซึ่งแพทย์ก็ได้ทำการผ่าตัดแขนขวาของเขาทั้งแขน กลายเป็นคนพิการแขนในที่สุด

อย่างไรก็ดีแหล่งข่าวไม่ได้เปิดเผยถึงรายละเอียดใด ๆ ไปมากกว่านี้ แต่ระบุว่าพยายามติดต่อไปสอบถามที่สวนสัตว์แล้ว แต่ก็ไม่ได้รับการตอบรับใด ๆ                                                                        
                                                            

คุณตาผูกคอตาย คิดว่าโดนโกงเงินในบัญชีจาก 1 ล้านเหลือ 4 พัน

                                                                                                                   
                            ที่มา : http://hilight.kapook.com/
                                                            คุณตาผูกคอตาย หลังคิดว่าโดนโกงเงินในบัญชี จาก 1 ล้านบาทเหลือ 4,000 บาท ด้านธนาคาร คาด เข้าใจผิด เห็นดอกเบี้ย 4,000 บาทเป็นเงินต้น

เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2557 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมือง จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งว่า มีบุคคลฆ่าตัวตายที่บ้านเลขที่ 106 ต.คลองตำหรุ จึงเข้าไปตรวจสอบ พบนายบุญเลิศ ธรรมเมธา วัย 65 ปี ใช้ผ้าขาวม้าผูกคอตายกับขื่อกลางบ้าน ใกล้ ๆ พบจดหมายลาตาย เขียนว่า โดนโกง ฝากเงิน 1 ล้าน เหลือ 4,000 บาท

ภายหลังการสอบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ความว่า 2 วันก่อนหน้านี้ นายบุญเลิศได้บ่นน้อยใจว่าเงินที่ฝากในธนาคาร 1 ล้านบาทหาย เหลือเพียง 4,000 บาทเท่านั้น ทั้งที่ไม่เคยเบิกเงินออกมา หลังจากนั้นนายบุญเลิศก็บ่นว่าอยากฆ่าตัวตาย

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า สาเหตุการฆ่าตัวตาย น่าจะเครียดเรื่องเงิน และกำลังตรวจสอบว่า เงินหายไปจริงหรือไม่

ขณะเดียวกัน ธนาคารธนาชาต ธนาคารเจ้าของบัญชีของผู้ตาย เปิดเผยว่า เงินทุกบาทยังอยู่ครบ คาดว่าผู้ตายน่าจะเข้าใจผิด คิดว่าดอกเบี้ยที่ได้รับทุกเดือนจำนวน 4,000 บาทเป็นเงินต้น                                                                        
                                                            

ชาวบ้านแห่ไหว้ "จอมปลวกพญานาค" ใหญ่เกือบเต็มห้องใต้กุฏิ                           

                           
                                                                                       
                            ที่มา : http://news.springnewstv.tv/
                                                            วันที่  20  ต.ค. 57 เวลา 08.00  น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดบ้านดู่ ต.ดู่ อ.ปรางค์กู่ จ.ศรีสะเกษ ได้มีชาวบ้านจำนวนหนึ่งพากันนำดอกไม้ธูปเทียนเข้าไปไหว้จอมปลวกขนาดใหญ่  ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับพญานาค ผุดขึ้นมาอยู่ใต้กุฏิพระสงฆ์ โดยกุฏิหลังนี้ทำมาจากไม้ตะเคียน สร้างขึ้นมาพร้อมกับวัด  ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2499 จอมปลวกมีขนาดฐานกว้างประมาณ 8 ม. สูงประมาณ 3 ม. ถึงเพดานห้อง  มีปลายยอดแหลมคล้ายพญานาคอยู่ตามจุดต่างๆ รอบจอมปลวก  ส่วนบริเวณฐานจอมปลวกจะมีก้อนจอมปลวกขนาดต่างๆ กระจายอยู่เต็มพื้นห้อง  ซึ่งชาวบ้านได้พากันกราบไหว้เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว

พระครูอภินันท์สังฆกิจ  เจ้าคณะ  ต.พิมาย  เขต  1  และเป็นเจ้าอาวาสวัดบ้านดู่  กล่าวว่า  จอมปลวกแห่งนี้ผุดขึ้นมาตั้งแต่ปี  2531  โดยผุดขึ้นมาตามรอยแยกแตกของพื้นปูนซีเมนต์  ซึ่งตอนแรกก็มีขนาดเพียงเล็กๆ เท่านั้น  แต่ต่อมาจอมปลวกมีขนาดใหญ่ขึ้น และเมื่อปี  2538  ได้ฝันว่า  มีเณรชื่อ สิบล้าน มานั่งสมาธิบนจอมปลวกพญานาค  ต่อมาในปี  2539  ก็ได้ฝันเห็นหลวงปู่ชื่อกัจจนะ  นั่งสมาธิอยู่บนจอมปลวกยักษ์ และใน 2546  ก็ได้ฝันเห็นฤาษีหนวดขาวยาวมานั่งสมาธิอยู่บนจอมปลวกอีก   จึงเชื่อว่าเป็นเจ้าที่เจ้าทางที่มาสิงสถิตย์อยู่ที่จอมปลวกพญานาคแห่งนี้   อาตมาภาพได้เก็บเรื่องนี้ไว้  ไม่ได้แจ้งให้ใครได้ทราบ  เนื่องจากเห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องธรรมชาติ  แต่ว่าก็มีญาติโยมที่ทราบข่าวพากันมากราบไหว้บูชาและนำเอาน้ำขมิ้นมาประพรมเพื่อความเป็นสิริมงคลในวันพระเป็นประจำอยู่เสมอ  ซึ่งเป็นความเชื่อของชาวบ้านไม่สามารถที่จะไปห้ามได้

ทางด้าน นายตัน  ทองดี  อายุ  52 ปี  ชาว จ.ศรีสะเกษ  กล่าวว่า  ตนไม่เคยเห็นจอมปลวกที่ใหญ่โตมียอดแหลมแผ่ออกคล้ายกับพญานาคขนาดนี้มาก่อน เพราะว่าจอมปลวกโดยทั่วไปจะมีผิวเรียบไม่ขรุขระแข็งแบบนี้   และขณะนี้จอมปลวกพญานาคขยายใหญ่จนเกือบเต็มห้อง และไม่มีใครที่จะกล้าทำลายจอมปลวกพญานาคแห่งนี้  ตนเชื่อว่าจอมปลวกพญานาคแห่งนี้จะนำเอาความเป็นสิริมงคลมาสู่หมู่บ้านของตนให้พ้นจากความทุกข์ยาก  นำความโชคดีมีชัยมาสู่หมู่บ้านของตนอย่างแน่นอน                                                                        
                                                            

เจ้าของบ้านผงะ! โจรปีนเข้าครัว หัวติดขื่อดับสยอง
                                                                                                                   
                            ที่มา : http://news.sanook.com/
                                                            ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (21 ต.ค.) เมื่อเวลา 14.20 น. สภ.โมถ่าย อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี รับแจ้งเหตุพบศพผู้เสียชีวิต ติดอยู่บริเวณขื่อช่องลมหลังคาด้านหลังบ้านเลขที่ 169/3 หมู่ 7 ต.ปากหมาก ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว ยกพื้นสูง ที่บริเวณครัวด้านหลังบ้าน พบศพนายอิสมาแอล องสารา อายุ 24 ปี อาชีพรับซื้อหมากแห้ง เสียชีวิตในสภาพลำตัวห้อยอยู่นอกตัวบ้าน สภาพตัวซีดเซียว สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีดำ ไม่สวมรองเท้า

เบื้องต้น คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 ชั่วโมง และไม่พบร่องรอยการถูกทำร้ายแต่อย่างใด พบเพียงรอยเขียวช้ำที่ลำคอที่เกิดจากการติดขื่อหลังคา จากการตรวจสอบบริเวณบ้านที่เกิดเหตุ พบรถจยย.ยามาฮ่า ฟีโน่ สีส้ม - ขาว ทะเบียน คพฉ 39 สุราษฎร์ธานี จอดทิ้งอยู่ 1 คัน คาดว่าน่าจะเป็นของผู้เสียชีวิต

จากการสอบสวนนายประสิทธิ์ คงขำ อายุ 70 ปี เจ้าของบ้านให้การว่า เมื่อช่วงเช้าได้ออกไปดูแลสวนยางตามปกติ และกลับมากินข้าวเที่ยง เมื่อเดินเข้าห้องครัวก็ต้องตกใจ เมื่อพบศีรษะคนติดอยู่กับขื่อหลังคาบ้าน วิ่งออกไปดูหลังบ้านพบลำตัวห้อยโตงเตง จึงตะโกนบอกให้เพื่อนบ้านช่วยเอาออกแต่ก็พบว่าเสียชีวิตแล้ว

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่า ผู้ตายวางแผนจะเข้าไปขโมยทรัพย์สิน ภายในบ้านที่เกิดเหตุ โดยใช้แผ่นไม้กระดานวางพาดกับผนังบ้านเพื่อปีนเข้าไป แต่ระหว่างนั้นไม้กระดานเกิดหล่นกับพื้นเสียก่อน เป็นเหตุให้ศีรษะติดคากับขื่อหลังคา หายใจไม่ออกจนเสียชีวิต                                                                        
                                                            

ระทึก! เก๋งไฟลุกไหม้ พยาบาลรอดตายหวุดหวิด
                                                                                                                   
                            ที่มา : http://www.krobkruakao.com/
                                                            เกิดเหตุไฟไหม้รถยนต์ของพยาบาลสาวขณะขับรถไปทำงาน เจ้าตัวเผยโชคดีตั้งสติได้ทันหนีออกมาอย่างปลอดภัย

นางละเอียด คงมงคล อายุ 48 ปี พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ โรงพยาบาลบางกระทุ่ม เจ้าของรถ ให้การว่าขับรถยนต์นิสสัน เซนทรา สีขาว หมายเลขทะเบียน กก 9049 พิษณุโลก ออกจากบ้านตั้งแต่เวลา 07.15 น. ของวันนี้ เพื่อไปตรวจวัดสายตาคนไข้ที่โรงพยาบาลบางกระทุ่ม กระทั่งขับรถมาถึงจุดเกิดเหตุบริเวณหลังวัดสระไม้แดง รู้สึกร้อนขึ้นมาที่หลังเท้า และสังเกตเห็นควันพวยพุ่งออกมาจากใต้กระโปรงรถก่อนที่จะมีเพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็ว  เมื่อตนเองตั้งสติได้จึงคว้ากระเป๋าสัมภาระและสิ่งของมีค่า วิ่งหนีตายออกมาได้อย่างหวุดหวิด ไม่ได้รับอันตรายแต่อย่างใด

จากนั้น ได้แจ้งรถดับเพลิงจากเทศบาลเมืองอรัญญิก 2 คัน พร้อมเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสมาคมข่าวภาพ มาช่วยกันดับไฟโดยเพลิงได้ลุกไหม้ห้องเครื่องอย่างรวดเร็ว และมีเสียงระเบิดดังขึ้นติดต่อกัน 2 ครั้ง เจ้าหน้าที่จึงสั่งปิดการจราจรชั่วคราว และใช้เวลาฉีดน้ำสกัดเพลิงนานกว่า 30 นาที ส่วนสภาพรถยนต์ได้รับความเสียหายที่ห้องเครื่อง และ ยางถูกไฟไหม้เสียหายทั้งหมด

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า สาเหตุอาจเกิดจากระบบสายไฟมีสภาพเก่าชำรุดจนเกิดไฟช็อต ทำให้เกิดประกายไฟและลุกไหม้ห้องเครื่องอย่างรวดเร็ว ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป                                                                        
                                                            

พบแล้วศพญี่ปุ่นถูกฆ่ายัดถุงทิ้งน้ำ
                                                                                                                   
                            ที่มา : http://www.dailynews.co.th/
                                                            จากกรณีที่ นายเทสซึโอะ ชิมาโตะ อายุ 47 ปี ชาวญี่ปุ่น เข้าแจ้งความตำรวจ สน.ห้วยขวาง ว่า นายโยชิโนริ ชิมาโตะ อายุ 79 ปี ผู้เป็นพ่อ ซึ่งประกอบอาชีพครูสอนภาษาญี่ปุ่นในประเทศไทยได้หายตัวไป โดยตำรวจไปตรวจสอบห้องพักในอาคารศรีวราแมนชั่น 2 ถนนรัชดาภิเษก แขวงและเขตดินแดง จนพบและจับกุม นางพรชนก ไชยะปะ อายุ 47 ปี เพื่อนสาวชาวไทยของ นายโยชิโนริ ที่มีพฤติการณ์น่าสงสัย ใช้บัตรเอทีเอ็มของ นายโยชิโนริ ไปตระเวนกดเงินสดกว่า 7.2 แสนบาท นอกจากนี้ยังได้จับกุม นายสมชาย แก้วบางยาง สามีของ นางพรชนก โดยเชื่อว่าทั้งสองมีส่วนเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของครูสอนภาษาชาวญี่ปุ่นรายนี้

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 21 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์สืบสวน บช.น. ได้เปิดเผยผลการสอบปากคำสองผู้ต้องหาล่าสุด ว่า หลังจากที่เค้นสอบ นายสมชาย และนางพรชนก อย่างละเอียด ในที่สุด นายสมชาย ได้ยอมเปิดปากรับสารภาพว่า ได้วางแผนร่วมกับ นางพรชนก ลงมือสังหาร นายโยชิโนริ จริง เนื่องจากต้องการเงินและสมบัติของผู้ตาย ไปใช้จ่ายปัญหาเรื่องการเงินที่กำลังประสบอยู่ ก่อนจะอำพรางด้วยการหั่นศพเหยื่อใส่ถุงขยะสีดำแยกเป็น 4 ถุงแล้วนำขึ้นรถแท๊กซี่ของตน ไปทิ้งลงในลำคลองย่านถนนบางนา-ตราด กม.ที่ 25 โดยมีการตักทรายใส่ลงไปในถุงด้วยเพื่อเป็นการถ่วงน้ำหนักไม่ให้ศพลอยขึ้นมา เจ้าหน้าที่จึงนำตัวผู้ต้องหาไปชี้จุดที่ทิ้งศพ เพื่อค้นหาร่างของ นายโยชิโนริ แล้ว นอกจากนี้ยังมีรายงานด้วยว่า สำหรับ นางพรชนก มีพฤติการณ์เป็นพวก 18 มงกุฎ มักจะต้มตุ๋นเหยื่อที่เป็นชายชาวญี่ปุ่น เนื่องจาก นางพรชนก สามารถพูดภาษาญี่ปุ่นได้ดี จนมักมีชายชาวญี่ปุ่นตกเป็นเหยื่ออยู่เสมอ

ล่าสุด ตำรวจและประดาน้ำได้รุดไปตรวจสอบที่คลองดังกล่าว กระทั่งเวลา 22.00 น.ทีมนักประดาน้ำได้พบถุงปุ๋ยถุงหนึ่งจมอยู่ก้นคลองเมื่องมขึ้นมาพบว่ามีขนาดความยาวประมาณ 50 ซม.กว้าง 30 ซม.เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานจึงเปิดออกดูพบว่าถูกห่อหุ้มด้วยถุงพลาสติกสีดำและสีขาวอีกหลายชั้น แต่ละชั้นมีทรายบรรจุอยู่ตามคำรับสารภาพเมื่อเปิดดูจนหมดก็พบเศษชิ้นส่วนมนุษย์ช่วงกลางลำตัว บริเวณท้องซึ่งมีตับไตไส้พุงติดมาด้วย สักพักก็พบถุงปุ๋ยลักษณะเดียวกันอีกถุงที่ก้นคลองเช่นกันเมื่อเปิดออกดูพบชิ้นส่วนกะโหลกศีรษะ มือ และเท้าทั้ง 2 ข้าง ส่วนอีก 2ถุงจะได้ค้นหาต่อไป                                                                        
                                                            

2พม่ายันโดนซ้อม ให้รับสารภาพ คดีดังเกาะเต่า พ่อแม่มาไทย

                                                                                                                   
                            ที่มา : http://www.thairath.co.th/
                                                            สองผู้ต้องหาพม่ามือฆ่า 2 นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษบนเกาะเต่า ยัน ถูกตำรวจซ้อมให้รับสารภาพ หลังสภาทนายความ ดอดพบในเรือนจำเกาะสมุย พร้อมฝากยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมกับอัยการ ไม่ได้ฆ่านักท่องเที่ยว ชี้ที่รับสารภาพถูกบังคับให้รับ โฆษก ตร.ปัดตำรวจเมืองผู้ดีร่วมสังเกตการณ์ทำคดี ชี้พร้อมให้ข้อมูลที่สงสัย ย้ำทุกฝ่ายทุ่มเททำงานเพื่อชาติ

คดีฆาตกรรม 2 นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ นายเดวิด มิลเลอร์ และน.ส.ฮันนาห์ วิธเธอร์ริดจ์ บริเวณ ชายหาดทรายรี เกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี เหตุเกิดกลางดึกวันที่ 15 ก.ย. จนต่อมาวันที่ 2 ต.ค.ตำรวจติดตามจับกุม 2 ผู้ต้องหาชาวพม่าคือนายเวพิว หรือวิน อายุ 21 ปี และนายซอลิน หรือโซเรน อายุ 21 ปี ก่อนนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ แต่กลับกันถูกตั้งข้อสงสัยผ่านสังคมโซเชียลเน็ตเวิร์กว่า ผู้ต้องหาทั้ง 2 คนไม่น่าใช่คนร้ายตัวจริง เพราะหลักฐานมีพิรุธหลายอย่าง โดยเฉพาะการตรวจดีเอ็นเอ รวมทั้งการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ขณะที่อัยการยังคงรอหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อเร่งสรุปส่งฟ้องศาล ด้านอังกฤษส่งเจ้าหน้าที่มาดูรูปคดียันตรวจนิติวิทยาศาสตร์ถูกต้อง ส่วนคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน (กสม.) ได้เชิญชุดสืบสวนมาชี้แจงประเด็นซ้อมผู้ต้องหาตามคำอ้าง

เกี่ยวกับความคืบหน้า เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 21 ต.ค.นายรัษฎา มนูรัษฎา ทนายความอาวุโส พร้อมด้วยทีมทนายความจากสำนักงานสิทธิมนุษยชน สภาทนายความ 3 คน ล่ามแปลภาษา 1 คน และแพทย์ เดินทางมายื่นหนังสือต่อนายชนินทร์ เลี้ยงสุวรรณ ผู้บัญชาการเรือนจำอำเภอเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อขออนุญาตเข้าไปสอบปากคำผู้ต้องหาทั้งสอง

ต่อมาเวลา 17.00 น. นายรัษฎา ทนายความอาวุโส จากสภาทนายความ พร้อมคณะออกมาจากเรือนจำอำเภอเกาะสมุย พร้อมเชิญผู้สื่อข่าวร่วมเป็นสักขีพยาน ที่สำนักงานอัยการจังหวัดเกาะสมุย โดยคณะทนายความได้ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมของผู้ต้องหาผ่านนายไพบูรณ์ อาชวานันทคุณ อัยการจังหวัดเกาะสมุย เป็นผู้รับหนังสือ โดยนายรัษฎาเปิดเผยว่า ผู้ต้องหาร้องขอความเป็นธรรมผ่าน สภาทนายความ และลงชื่อในหนังสือร้องขอความเป็นธรรมให้ทนายความนำไปยื่นต่ออัยการจังหวัดเกาะสมุย

โดยสองผู้ต้องหาเรียกร้องขอความเป็นธรรม 3 เรื่อง คือ 1.ขอปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหาว่าไม่ได้เป็นคนผิด และลงมือฆ่านักท่องเที่ยว 2.ถูกล่ามแปลถีบที่หน้าอกและถูกตำรวจทำร้ายร่างกายบังคับให้รับสารภาพ 3.ขอความเป็นธรรมต่ออัยการจังหวัดเกาะสมุย เพื่อพิจารณาในการไต่สวนก่อนส่งฟ้องศาล เพื่อตัดสิน ภายหลังจากที่นายไพบูรณ์ อาชวานันทคุณ รับหนังสือร้องขอความเป็นธรรมแล้ว ได้ถามว่ามีหนังสือรับรองการแต่งตั้งมาจากสภาทนายหรือไม่ นายรัษฎานำหนังสือแต่งตั้งมอบให้กับทางอัยการจังหวัดเกาะสมุย เพื่อตรวจสอบ

จากนั้นอัยการจังหวัดเกาะสมุยถามกับทนาย ความว่า เห็นก่อนหน้านี้มีการออกข่าวจากคณะกรรมการ สิทธิมนุษยชนว่าผู้ต้องหาให้การรับสารภาพกับคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน ด้านนายธนู เอกโชติ ทนายความจากสภาทนายกล่าวว่า ก่อนหน้านี้วันที่สืบพยานโจทก์พบข้อพิรุธ จากสองผู้ต้องหาที่เปลี่ยนตัวทนายที่ตำรวจจัดมาให้ และเปลี่ยนให้เป็นทนายความจากสภาทนาย และวันนี้จึงเดินทางลงมาตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกครั้งและผลปรากฏตามที่สองผู้ต้องหาให้การในวันนี้

นายรัษฎา มนูรัษฎา ทนายความอาวุโส กล่าวว่า หลังจากที่ใช้เวลาสอบปากคำสองผู้ต้องหานานกว่า 5 ชั่วโมง ได้ข้อมูลที่แท้จริง โดยผู้ต้องหาให้การกับสภาทนายความว่า ที่รับสารภาพเพราะถูกทำร้ายร่างกาย และถูกบังคับให้รับสารภาพ โดยล่ามที่ตำรวจ นำมาเป็นล่ามคนละภาษากัน และถูกล่ามใช้เท้าถีบ พร้อมยึดเงินของสองผู้ต้องหาไปด้วย และถูกตำรวจซ้อมให้รับสารภาพที่เกาะเต่า หลังจากเกิดเหตุได้ประมาณ 1 สัปดาห์ ดังนั้นผู้ต้องหาได้ขอโอกาสให้กระบวนการยุติธรรมได้ให้โอกาสกับผู้ต้องหา ในการตรวจสอบข้อมูลให้ครบถ้วน และให้ตำรวจตรวจสอบพร้อมสอบปากคำเสียใหม่ เพื่อให้เป็นข้อเท็จจริงและเป็นที่ประจักษ์ต่อประชาชนที่กำลังติดตามข่าวต่อเนื่อง

นายรัษฎากล่าวอีกว่า ขณะเดียวกัน ทางพ่อและแม่ของผู้ต้องหาจะเดินทางมาเยี่ยมลูกชาย 2 ผู้ต้องหาในเรือนจำอำเภอเกาะสมุย ในเร็วๆนี้ พร้อมจะขอคุยกับสองผู้ต้องหาที่ถูกควบคุมตัวในเรือนจำ จากการพูดคุยกับผู้ต้องหามั่นใจว่าผู้ต้องหาพูดจริง และยังหวังในกระบวนการยุติธรรม ว่าจะพิจารณาเพื่อรื้อคดีใหม่

ด้าน พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษก ตร.กล่าวว่า ยังไม่ได้รับการยืนยันว่าตำรวจอังกฤษเข้ามาร่วมสังเกตการณ์คดีฆาตกรรมนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ ถือเป็นเรื่องที่ดี แสดงความบริสุทธิ์ใจ และความโปร่งใสในการคลี่คลายคดีทุกคดีที่ใช้หลักฐานด้านนิติวิทยาศาสตร์เป็นแนวทางการทำงาน ตำรวจไทยมีความมั่นใจการตรวจพิสูจน์พยานหลักฐานด้านนิติวิทยาศาสตร์ได้รับการยอมรับในระดับสากล ไม่ได้ต่างจากประเทศที่พัฒนาแล้ว เหตุการณ์สำคัญหลายคดีที่ตำรวจไทยเข้าร่วมกับตำรวจประเทศอื่นตรวจสอบพยานหลักฐานจนได้รับการยอมรับ ในคดีนี้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายได้ทุ่มเททำงานอย่างเต็มที่เพื่อชื่อเสียงของประเทศ ตำรวจไทยพร้อมให้ข้อมูลที่สงสัยแต่จะต้องไม่กระทบสำนวนที่เสนออยู่ในการพิจารณาของศาล

พ.ต.ท.หญิง ฉันฉาย รัตนพานิช รองโฆษก ตร. กล่าวถึงคดีดังกล่าวว่า จากการตรวจสอบไปยังสถานเอกอัครราชทูตอังกฤษ ประจำประเทศไทย และตรวจสอบไปยังนายตำรวจประสานงานสถานทูต พบว่ายังไม่มีการประสานเรื่องที่ตำรวจนครบาลอังกฤษ หรือสกอตแลนด์ยาร์ด เข้ามาประสานในคดีนี้แต่อย่างใด ทางสถานทูตก็ทราบเพียงข่าวไม่มีการพูดคุยติดต่อเรื่องนี้อย่างเป็นทางการในชั้นใดทั้งสิ้น และได้สอบถามผ่านช่องทางของตำรวจสากล หรืออินเตอร์โพล ยังไม่มีการติดต่อประสานงานเข้ามาเช่นกัน นับแต่มีคดีนี้ตำรวจอังกฤษไม่เคยติดต่อประสานข้อมูลโดยตรง มีเพียงการประสานงานกันตลอดในส่วนสถานทูตเท่านั้น แม้ยังไม่มีการประสานติดต่อเข้ามา ตำรวจไทยได้จัดเตรียมข้อมูลเพื่อชี้แจงการทำคดีนี้ทั้งหมด ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ตรวจที่เกิดเหตุ สอบพยาน การสืบสวนเก็บหลักฐานทุกอย่างไปจนถึงการได้ตัวคนร้ายที่ก่อเหตุ หากมีการประสานมาพร้อมชี้แจงให้ทราบข้อเท็จจริงทันที                                                                        
                                                            


สาวรับสารภาพแล้ว ฆ่า-หั่นศพครูญี่ปุ่น ก่อนแยกชิ้นส่วนไปทิ้งคลอง จ.สมุทรปราการ
รับสิ้นร่วมกับผัวขับแท็กซี่ลงมือโหด แฉฆ่าหั่นศพแล้วยัดถุง-เททรายถ่วง ก่อนนำไปทิ้งอำพรางในคลอง ผบช.น.นำทีมสืบสวนเร่งงมหาศพ ตร.เค้นสอบขยายผลหาปมฆ่าสยอง
จากกรณีนายโยชิโนริ ชิมาโตะ อายุ 79 ปี ครูสอนภาษาญี่ปุ่นในไทยหายตัวไปตั้งแต่เมื่อปลายเดือนก.ย.ที่ผ่านมา ทำให้นายเท็ตสึโอะ ชิมาโตะ อายุ 47 ปี บุตรชาย เดินทางมาตามหาและแจ้งความไว้ที่สน.ห้วยขวาง ต่อมาเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบห้องพักนายโยชิโนริ พบนางพรชนก ไชยะปะ อายุ 47 ปี หญิงคนสนิทกำลังเก็บของอยู่ในห้อง จึงคุมตัวมาสอบปากคำ พบนางพรชนกนำบัตรเอทีเอ็มของนายโยชิโนริไปกดเงิน 700,000 บาท โดยอ้างรู้จักกัน แต่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการหายตัวไป
วันที่ 21 ต.ค. ผู้สื่อข่าวข่าวสดรายงานว่า จากการสอบสวนนางพรชนก ล่าสุด ยอมรับสารภาพแล้วว่า เป็นคนร้ายที่ก่อเหตุฆ่านายโยชิโนริ โดยหั่นศพแยกชิ้น ก่อนใส่ถุงปุ๋ยและเททรายลงไป โดยตอนแรกนางพรชนกให้การอ้างว่านำศพไปทิ้งในคลองย่านบางบ่อ จ.สมุทรปราการ แต่เมื่อเจ้าหน้าที่นำกำลังไปตรวจค้นกลับไม่พบ จึงเค้นสอบนางพรชนกอีกครั้ง และให้การว่านำศพใส่กระสอบไปทิ้งในคลองพระองค์เจ้าไชยานุชิต ย่านบางเสาธง
จากนั้นพล.ต.ท.เรืองศักดิ์ จรติเอก พล.ต.ต.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล พ.ต.อ.สมบัติ มิลินทจินดา พ.ต.อ.ธัมรงค์ วงศ์แป้น พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน จึงนำกำลังอีกชุดออกไปค้นหาศพของนายโยชิโนริ พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดประดาน้ำและควบคุมตัวนางพรชนกไปชี้จุดที่ทิ้งอำพรางศพด้วย นอกจากนี้นายสมชายยังรับสารภาพว่า ร่วมก่อเหตุฆ่านายโยชิโนริด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังคุมตัวสอบสวนขยายผล
ส่วนสาเหตุการลงมือฆ่าหั่นศพสยองครั้งนี้ เจ้าหน้าที่พยายามเค้นสอบนางพรชนก จนรับสารภาพว่าประสงค์ต่อทรัพย์สินของนายโยชิโนริ
ต่อมาเวลา 22.00 น. เจ้าหน้าที่ชุดค้นหาและนักประดาน้ำได้ลงค้นหาศพในคลองอย่างละเอียด ตามคำให้การของนางพรชนกที่ระบุหั่นศพนายโยชิโนริแยกเป็น 4 ถุงและนำมาทิ้งอำพราง ล่าสุดเจ้าหน้าที่พบถุงปุ๋ย 2 ถุง เบื้องต้นพบด้านในมีชิ้นเนื้อและอวัยวะภายใน แต่ต้องรอเจ้าหน้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานมาพิสูจน์และตรวจสอบอีกครั้ง และจะเร่งค้นหาตลอดทั้งคืน
ที่สน.ห้วยขวาง พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกตร. พร้อมด้วย พ.ต.อ.บรรลือศักดิ์ แสวสว่าง ผกก.สน.ห้วยขวาง และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบรถกระบะ ยี่ห้ออีซูซุ ดีแมกซ์ สีเทา ทะเบียน ศฉ 1416 กทม. ซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจยึดได้พร้อมนางพรชนก หลังนำรถคันดังกล่าวไปใช้กดเงินที่ตู้เอทีเอ็ม เพื่อนำเงินในบัญชีของนายโยชิโนริมา
พล.ต.ท.ประวุฒิ กล่าวว่า จากการตรวจสอบรถคันดังกล่าว เจ้าหน้าที่พบอาวุธมีดที่ใช้สำหรับเดินป่า ความยาวประมาณ 15 นิ้ว พร้อมซองหนังที่บริเวณด้านหลังเบาะคนขับ ซึ่งเป็นมีดที่นายสมชาย ให้การรับสารภาพว่าเป็นมีดที่ใช้หั่นศพนายโยชิโนริ ก่อนนำชิ้นส่วนไปทิ้งที่คลองบริเวณ ซ.นวมินทร์ 16 หลังมหาวิทยาลัยเอแบค พื้นที่ สภ.บางเสาธง โดยมีดมีลักษณะของคราบเลือดติดอยู่ที่ปลายของมีด ซึ่งจะส่งต่อไปให้เจ้าหน้าที่นำไปตรวจสอบอย่างละเอียด ว่ามีเป็นคราบเลือดของนายโยชิโนริหรือไม่ ส่วนรถคันดังกล่าวจะนำส่งไปตรวจพิสูจน์ด้วย











New post (Update 22/10/2557 22:17 รับแจ้งอุบัติเหตุรุนแรง เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา เกิดเหตุรถสิบล้อเบรคแตก ชนรถอื่นรวม18 คัน หน้าร้านอำนวยบ้านฉาง จ.ระยอง บาดเจ็บ3คนและเสียชีวิตที่ โรงพยาบาล 1 คน
ขอแสดงความเสียใจกับผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตมา ณ ที่นี้ด้วยครับ
ขอบคุณภาพ JS100



ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้