|
32. จีดีพี (GDP ตัวชี้วัดเศรษฐกิจ) จีดีพี (GDP – Gross Domestic Product) แปลเป็นไทยว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ ซึ่งหมายถึงมูลค่าตลาดทั้งหมดของสินค้าและการบริการในประเทศในหนึ่งปี ตัวเลขดังกล่าวได้มาจากตัวเลขการบริโภค, การลงทุน, การใช้จ่ายของรัฐบาล บวกตัวเลขการส่งออกลบด้วยตัวเลขการนำเข้า
GDP รวมมูลค่าตลาดทั้งหมดในประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนหรือดำเนินการโดยบริษัทของประเทศใด ขณะที่ GNP (Gross National Product) วัดโดยใช้มูลค่าตลาดของสัญชาติตนเองทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งเป็นเรื่องยุ่งยากซับซ้อน จึงนิยมใช้ GDP มากกว่า
วันนี้เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ทั่วโลกว่า การวัดความเจริญด้วยตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจแบบนี้ไม่ได้แสดงการเติบโต “ จริงๆ ” หรือเติบโตในคุณภาพชีวิต มีชีวิตดีขึ้น มีความสุขมากขึ้น เพราะได้มีหลักฐานทั่วโลกที่ชี้ให้เห็นว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจ การมีทรัพย์สินเงินทองมากไม่ได้แปลว่ามีคุณภาพชีวิตและมีความสุขมากขึ้นตามไปด้วยเสมอไป มีหลายประเทศที่มีจีดีพีอยู่ระดับเดียวกัน แต่ แตกต่างกันอย่างมากในเรื่องสุขภาพและการศึกษาแห่งชาติ ประเทศยากจนบางประเทศมีตัวเลขคุณภาพชีวิตดีกว่าประเทศร่ำรวยกว่าบางประเทศ เช่น อายุยืนกว่า เด็กตายน้อยกว่า คนมีสุขภาพจิตดีกว่า ความเครียดน้อยกว่า และมีตัวชี้วัดการอยู่ดีมีสุขอีกหลายตัวดีกว่า มีการวิพากษ์วิจารณ์เกณฑ์การวัดจีดีพีเองด้วยว่าไม่สมบูรณ์ และไม่ตรงกับความเป็นจริง แม้การทำความสะอาดสิ่งแวดล้อมยังถูกรวมเข้าไปอยู่ในจีดีพี แทนที่จะลบออก จีดีพีไม่ได้แยกระหว่างอะไรเป็นที่พึงปรารถนา อะไรไม่พึงปรารถนา นักวิจารณ์บางคนเปรียบจีดีพีเหมือนคนทำบัญชีที่รู้จักบวกอย่างเดียวลบไม่เป็น สายตาสั้น มองเห็นแค่ปลายจมูกตัวเอง จีดีพีจึงเป็นเพียงการบวกตัวเลขการใช้จ่ายของประชาชน แล้วเรียกมันว่าการเติบโต แล้วอ้างว่าการเติบโตนี่ดี โดยไม่เคยสนใจว่าเงินไปไหนและทำไม ยิ่งจ่ายค่ายาค่าหมอ จ่ายค่าอาหารขยะ นั่งอยู่ในรถติดเป็นชั่วโมงๆ ค่าธรรมเนียมแบบซ่อนเร้น ที่สถาบันการเงินเจ้าของบัตรเครดิตเขาเก็บสูงเท่าไรก็ยิ่งดี ทั้งหมดทำให้เศรษฐกิจดี ตัวเลขโตขึ้น
วันนี้ปรากฏชัดแล้วว่า ประเทศที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงๆ นั้นมีปัญหาความเครียด การทำงานหนัก มีความกลัวความไม่มั่นคงของชีวิตมากขึ้น แล้วยิ่งไล่ล่าหาเงินให้มากขึ้นๆ โดยที่ไม่ได้มีความสุขมากขึ้นจริง นักวิชาการวิจัยพบว่า ระหว่างปี 1975-1995 จีดีพีของสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 43 แต่คนอเมริกันไม่ได้มีความสุขเพิ่มขึ้นเลย
มีงานวิจัยที่พบว่า ปัจจัยที่ทำให้คนมีความสุขมี 7 อย่าง คือ สุขภาพจิตที่ดี, มีความพอใจและการงานที่มั่นคง, ชีวิตส่วนตัวที่มั่นคงและมีความรัก, ชุมชนที่ปลอดภัย, คุณค่าทางศีลธรรมและเสรีภาพ ผู้คนเริ่มให้ความสนใจประเทศเล็กๆ ซึ่งมีพลเมืองเพียงประมาณ 1 ล้านคน คือ ภูฐาน ซึ่งยังปกครอง ในระบอบสมบูรณาญาสิทธิราช มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ประเทศนี้วัดความเจริญของประเทศด้วย ความสุข |
|