ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก
เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด
เข้าสู่ระบบ
บ้านหลวงปู่
คศช.
ข่าวสารล่าสุด
ประสบการณ์
โชว์วัตถุมงคล
สอบถาม
นานาสาระ
นครนาคราช
ร่วมประมูล
บูชาวัตถุมงคล
เพื่อน
กระทู้แนะนำ
บุ๊คมาร์ก
ไอเท็ม
เหรียญ
ภารกิจ
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
ดูบริการทั้งหมด
เว็บบอร์ด
BBS
บูชาวัตถุมงคลหลวงปู่ชื่น
ศรีสุทธรรมนาคราช
ร้านจอมพระ
ศูนย์พระเครื่องจอมพระ
ค้นหา
ค้นหา
HOT TAG:
พระศรีราม
ขุนแผนแสนตรีเวทย์
พระเจ้าชัยวรมัน
บอร์ดนี้
บทความ
เนื้อหา
สมาชิก
Baan Jompra
›
คณะศิษย์หลวงปู่ชื่น ติคญาโณ (คศช.)
›
พูดคุยตามประสา คศช.
»
100
1 ...
11
12
13
14
15
16
17
18
19
... 40
/ 40 หน้า
ถัดไป
กลับไป
ตั้งกระทู้ใหม่
เจ้าของ: Metha
100
[คัดลอกลิงก์]
Metha
Metha
ออฟไลน์
เครดิต
54527
141
#
เจ้าของ
|
โพสต์ 2013-12-15 08:07
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
40. ทุนชุมชน ทุนทางสังคม (social capital) ทุนชุมชน เป็นคำที่ยืมคำว่า “ ทุน ” มาจากเศรษฐศาสตร์ เพื่อบอกถึงทั้งสิ่งที่เป็นมูลค่าที่นับเป็นเงินมิได้ แต่มีความหมายต่อชีวิตของผู้คนเป็นอย่างยิ่ง หมายถึงทุนทรัพยากรรวมทั้งทรัพยากรที่ชุมชนก่อให้เกิดหรือผลิตขึ้น เช่น ปัจจัยสี่ รวมถึงเงินและสินทรัพย์อื่น ๆ ความรู้ภูมิปัญญา ประสบการณ์ชีวิตของผู้คนทุนทางสังคมและวัฒนธรรม
ทุนทางสังคม เป็นคำที่มีคนให้ความหมายหลากหลาย หมายถึง “ สถาบัน ความสัมพันธ์ กฎเกณฑ์ต่าง ๆ ที่กำหนดการอยู่ร่วมกันของผู้คนในสังคม ” (ธนาคารโลก) หรือหมายถึง “ กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคับ ความไว้ใจกัน ซึ่งอยู่ในความสัมพันธ์ทางสังคม โครงสร้างทางสังคมและสถาบันทางสังคมซึ่งช่วยให้สมาชิกบรรลุวัตถุประสงค์ของตนเองและของชุมชน ” (นารายัน) หรือ “ ลักษณะขององค์กรทางสังคม เช่น ความไว้ใจกัน ระเบียบกฏเกณฑ์และเครือข่ายซึ่งช่วยให้สังคมมีประสิทธิภาพและทำให้ประสานการดำเนินงานต่าง ๆ ได้ ” (พุตนัม) หรือ อาจจะกล่าวสั้น ๆ ว่า ทุนทางสังคมคือระเบียบ กฏเกณฑ์ วิถีที่ร้อยรัดผู้คนให้อยู่ร่วมกันเป็นชุมชน เป็นเครือข่าย เป็นสังคม ที่ไว้ใจกัน พึ่งพาอาศัย ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ด้วยวิธีการและรูปแบบทั้งเก่าและประยุกต์สร้างสรรค์ใหม่
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
Metha
Metha
ออฟไลน์
เครดิต
54527
142
#
เจ้าของ
|
โพสต์ 2013-12-15 08:08
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
41. ทุนทางวัฒนธรรม (cultural capital) หมายถึง คุณค่า ค่านิยมของสังคมที่แสดงออกทางจารีตประเพณี วิถีชุมชนที่มีรากฐานจากความรู้ ภูมิปัญญาท้องถิ่น รวมถึงความรู้และภูมิหลังของบุคคล ซึ่งมีที่มาจาก “ ตระกูล ” “ เผ่าพันธุ์ ” สถานภาพทางสังคม (ชนชั้น) เช่น นามสกุลของบางคน ตำแหน่ง สถานภาพทางสังคม การมีดีกรีทางการศึกษาก็ทำให้คนนั้นได้รับการยอมรับจากคนทั่วไป ตั้งแต่ต้นแล้ว
การเป็นฝรั่งในสายตาของคนไทยหลายคนถือว่าเป็น “ ทุนทางวัฒนธรรม ” สตรีไทยจำนวน ไม่น้อยอยากแต่งงานกับฝรั่ง คนจากต่างจังหวัดเข้ามาหางานทำในกรุงเทพ ฯ มักจะทำงานที่มีคนบ้านเดียวกันทำงานอยู่ก่อนแล้วอาศัยเป็น “ ทุน ” เพื่อให้นายจ้างรับเข้าทำงานคนบ้านเดียวกันแนะนำหรือ “ รับรอง ” เช่น คนขับแท็กซี่มากกว่าครึ่งหนึ่งในกรุงเทพ ฯ มาจากจังหวัดร้อยเอ็ด คนจีนไปอยู่ที่ไหนก็ช่วยเหลือกัน การเป็นคนจีนจึงเป็นทุนทางวัฒนธรรมที่สำคัญ
ความรู้ในการทำอาหารไทย ความรู้เกี่ยวกับสมุนไพร การนวดแผนโบราณ งานหัตถกรรมต่าง ๆ เป็นทุนทางวัฒนธรรมที่ก่อให้เกิดผลทางเศรษฐกิจ
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
Metha
Metha
ออฟไลน์
เครดิต
54527
143
#
เจ้าของ
|
โพสต์ 2013-12-15 08:08
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
42. ทุนเฉพาะบุคคล ( individual capital ) คือคุณสมบัติเฉพาะของบุคคล เช่น ทักษะ ความคิดสร้างสรรค์ ความกล้าหาญ คุณธรรมต่าง ๆ บารมี สติปัญญา การค้นคิดประดิษฐ์ ความสามารถเฉพาะตัวในการทำงาน ความเป็นผู้นำ เหล่านี้เป็นอะไรที่มักจะถ่ายทอดไปสู่คนอื่นโดยตรงไม่ได้ถ้าหากถ่ายทอดได้เป็นรูปธรรมอาจจะเรียกว่า ทุนทางปัญญา
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
Metha
Metha
ออฟไลน์
เครดิต
54527
144
#
เจ้าของ
|
โพสต์ 2013-12-15 08:15
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
43. ทุนทางปัญญา ( intellectual capital ) หรือทุนความรู้ (knowledge capital) ซึ่งก่อให้เกิดผลงาน สิ่งสร้างสรรค์หรือนวัตกรรมต่าง ๆ กลายเป็น “ ยี่ห้อ ” “ แบรนด์ ” กลายเป็นทุนทางวัฒนธรรมและทุนหรือมูลค่าทางเศรษฐกิจ ทุนทั้งหลายที่เกี่ยวข้องกับบุคคลอาจเรียกโดยรวมว่า ทุนมนุษย์ (human capital)
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
Metha
Metha
ออฟไลน์
เครดิต
54527
145
#
เจ้าของ
|
โพสต์ 2013-12-15 08:16
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
44. สัญญาประชาคม (social contract) หมายถึง ข้อตกลงภายในรัฐที่ว่าด้วยสิทธิและความรับผิดชอบของรัฐและพลเมือง หรือ ในความหมายทั่วไปหมายถึงข้อตกลงว่าด้วยสิทธิและความรับผิดชอบระหว่างกลุ่มและสมาชิก โดยปกติถือกันว่าสมาชิกทุกคนในสังคมย่อมยอมรับกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ในลักษณะของสัญญาประชาคมโดยปริยายเมื่อตนเองอยู่ในสังคมนั้น ๆ
คำว่าสัญญาประชาคมมาจากปรัญชาตะวันตกในยุคใหม่มีหลายคนที่พูดถึงคำนี้และเป็นพื้นฐานของกฏหมายมหาชน เช่น โธมัส ฮอบส์ , จอห์น ล็อค ชาวอังกฤษ และที่มีอิทธิพลมากที่สุด คือ ฌอง ฌัค รุสโซ นักปรัชญาชาวฝรั่งเศสซึ่งเขียนหนังสือเรื่อง “ สัญญาประชาคม ” เมื่อกลางศตวรรษที่ 18 ต่อมามีการนำคำว่าสัญญาประชาคมไปใช้อย่างสับสน โดยมักใช้แทน “ คำสัญญา ” ที่นักการเมือง ผู้บริหารให้ไว้กับประชาชนบ้าง หรือเป็นพันธกิจที่นักการเมืองประกาศไว้ เป็นต้น
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
Metha
Metha
ออฟไลน์
เครดิต
54527
146
#
เจ้าของ
|
โพสต์ 2013-12-15 08:17
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
45. ธรรมาภิบาล (good governance) ธรรมาภิบาลเป็นคำที่นิยมใช้กันมากเมื่อไม่นานมานี้ โดยองค์การสหประชาชาติด้านการพัฒนา (UNDP) เริ่มใช้คำนี้อย่างสัมพันธ์กันและเพื่อเป็นเงื่อนไขสำคัญของ “ การพัฒนายั่งยืน ” (sustainable development) โดยขยายความจากคำว่า “ อภิบาล ” (governance) ซึ่งสัมพันธ์กับคำว่า รัฐบาล (government) และผู้อภิบาล ผู้ว่าการ ผู้ว่าราชการ (governor) ในขณะที่คำว่า อภิบาล หมายถึง กระบวนการและระบบซึ่งรัฐบาลและผู้อภิบาลนำมาใช้
ธรรมาภิบาลเป็นกระบวนการตัดสินใจหรือการกำหนดนโยบาย และกระบวนการนำการตัดสินใจนั้นหรือนโยบายนั้นไปสู่การปฏิบัติ โดยเฉพาะสถาบันสาธารณะทั้งหลายที่ดำเนินงานเพื่อสาธารณะ บริหารทรัพยากรของส่วนรวม และดูแลให้เกิดความเคารพในสิทธิมนุษยชน ธรรมาภิบาลเป็นการดำเนินการที่ปลอดการคอร์รัปชั่น และเคารพต่อกฎหมาย
ธรรมาภิบาลมีอยู่สามฐาน คือ เศรษฐกิจ การเมือง และการบริหารจัดการ เกี่ยวข้องกับทุกระดับของรัฐบาลและราชการ และรวมความถึงประชาสังคมอันเป็นกลไก กระบวนการและสถาบัน ซึ่งพลเมืองและกลุ่มต่าง ๆ แสดงออกถึงผลประโยชน์และดำเนินการตามสิทธิ์ของตนเอง
ธรรมาภิบาลด้านเศรษฐกิจเป็นกระบวนการตัดสินใจที่มีผลต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจของประเทศและความสัมพันธ์กับเศรษฐกิจอื่น ๆ ส่งผลต่อความเท่าเทียม ความยากจน และคุณภาพชีวิตธรรมาภิบาลด้านการเมือง คือกระบวนการตัดสินใจในการสร้างนโยบาย ธรรมาภิบาลด้านการบริหาร จัดการ คือการดำเนินการตามนโยบายนั้น
ธรรมาภิบาล หรือการอภิบาลที่เป็นธรรม มีลักษณะสำคัญ 9 ประการ คือ
1.การมีส่วนร่วม ( participation ) ชายและหญิงทุกคนมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ กำหนดนโยบายโดยตรงหรือผ่านสถาบันที่เป็นตัวแทนของผลประโยชน์ของพวกเขา ให้คนมีสิทธิรวมตัวกันและแสดงความคิดเห็นอย่างเสรี
2.หลักนิติธรรม ( rule of law ) มีกรอบกฎหมายที่ดีและมีการบังคับใช้โดยไม่เลือกที่รักมักที่ชัง เคารพสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะคนกลุ่มน้อย
3.ความโปร่งใส ( transparency ) ความโปร่งใสในการไหลเวียนอย่างอิสระของข้อมูลข่าวสาร คนที่เกี่ยวข้องสามารถเข้าถึงกระบวนการ สถาบันและข้อมูลข่าวสาร มีการให้ข้อมูลข่าวสารเพียงพอเพื่อเข้าใจและติดตามตรวจสอบ
4.การตอบสนอง ( responsiveness ) สถาบันและกระบวนการรับใช้ผู้มีส่วนได้เสีย( stakeholders ) ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
5.มติร่วม ( consensus ) ธรรมาภิบาลเป็นตัวกลางประสานความสนใจและผลประโยชน์ที่ แตกต่างหลากหลายให้บรรลุจุดร่วมเป็นมติร่วม ให้เกิดประโยชน์มากที่สุดแก่ผู้ที่เกี่ยวข้อง
6.ความเท่าเทียม ความเสมอภาค ความเป็นธรรม ( equity ) ทุกคนมีส่วนไม่มีใครถูกกีดกันออกไปจากสังคม โดยเฉพาะกลุ่มคนที่อยู่ในสภาวะลำบากยากแค้นและอันตราย ให้พวกเขามีโอกาสพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของตนเอง
7.ประสิทธิผล ( effectiveness ) และประสิทธิภาพ ( efficiency ) กระบวนการและสถาบันตอบสนองความต้องการของสังคมโดยการจัดการทรัพยากรที่มีอยู่อย่างดีที่สุด รวมไปถึงการใช้อย่างยั่งยืนและการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม
8.ความรับผิดชอบ (accountability) มีความรับผิดชอบต่อสาธารณะและผู้มีส่วนได้เสียที่ เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะผู้ที่จะได้รับผลกระทบจากการตัดสินใจหรือนโยบายและการปฏิบัติงาน
9.วิสัยทัศน์เชิงยุทธศาสตร์ (strategic vision) ผู้นำและสาธารณะมีโลกทัศน์และชีวิทัศน์ที่กว้างไกลเกี่ยวกับการพัฒนาและธรรมาภิบาล เข้าใจรากเหง้าที่มาทางสังคมวัฒนธรรมอันเป็นรากฐานของสังคม
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
Metha
Metha
ออฟไลน์
เครดิต
54527
147
#
เจ้าของ
|
โพสต์ 2013-12-15 08:17
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
46. นวัตกรรม ( innovation ) นวัตกรรมเป็นกระบวนการนำความคิดใหม่ ปัจจัยใหม่ สินค้าใหม่ การบริการใหม่ การปฏิบัติใหม่เข้าสู่ปฎิบัติการของหน่วยงานองค์กร บริษัท สถาบัน เพื่อให้เกิดประโยชน์หรือการเปลี่ยนแปลงที่ให้คุณแก่ผู้ที่เกี่ยวข้องในสังคมวงกว้าง ทั้งนี้โดยไม่จำเป็นต้องเป็นอะไรใหม่เอี่ยมทั้งหมด แต่อาจเป็นเพียงบางส่วน ซึ่งต้องก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่พึงปรารถนา หรือเกิดการท้าทายที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลง
คำว่านวัตกรรมยุคนี้มีแนวโน้มไปสู่ความหมายของการเปลี่ยนแปลงในทางบวกมากขึ้น เป็นเรื่องการค้นหาเทคโนโลยีใหม่ วิธีการใหม่ เช่น นวัตกรรมทางการศึกษา การเรียนรู้ การอนุรักษ์ พลังงานสิ่งแวดล้อม การพัฒนายั่งยืน ซึ่งเป็นเงื่อนไขสำคัญของการพัฒนาเศรษฐกิจที่มั่นคงและยั่งยืน ที่ไม่มุ่งแต่เพียงการเติบโตทางตัวเลขแต่เพียงอย่างเดียว แต่เน้นคุณภาพชีวิต
นวัตกรรมที่โดดเด่นต่าง ๆ มักเป็นผลของการวิจัยและพัฒนา (R & D) แต่ก็มีจำนวนไม่น้อย ที่เกิดจากการปฏิบัติ การปรับเปลี่ยนที่มาจากการสรุปบทเรียน การสังเคราะห์ความรู้จากประสบการณ์และนวัตกรรมไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องทางเทคโนโลยีเสมอไป อาจเป็นวิธีปฏิบัติ แนวทางในการบริหารจัดการได้
นวัตกรรมทางเทคโนโลยีก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่นักเศรษฐศาสตร์โจเซฟ ชุมเปเตอร์ (Joseph Schumpeter ) เรียกว่า การทำลายที่สร้างสรรค์
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
Metha
Metha
ออฟไลน์
เครดิต
54527
148
#
เจ้าของ
|
โพสต์ 2013-12-15 08:18
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
47. การทำลายที่สร้างสรรค์ ( creative destruction ) หมายความว่า นวัตกรรมที่ก่อให้เกิดการเติบโตทางเศรษฐกิจนั้นทำให้เทคโนโลยีเก่ากลายเป็นเรื่องล้าสมัย ตายไป ตกยุค หมดยุค ใช้ไปก็ ไม่คุ้มค่าคุ้มทุนประสิทธิภาพก็น้อยกว่า เทคโนโลยีใหม่ ๆ รวมความถึงกระบวนการใหม่ ผลิตภัณฑ์และสินค้าใหม่ การขนส่งใหม่ การจัดองค์กรใหม่ ตลาดใหม่ สถาบันใหม่ เป็นต้น
ชุมเปเตอร์เป็นเจ้าของแนวคิดที่ว่า หลักสำคัญของทุนนิยมไม่ใช่การแข่งขันซึ่งควบคุมด้วย “ มือที่มองไม่เห็น ” ( invisible hand ตามแนวคิดเรื่องการแข่งขันของอดัม สมิธ ) แต่เป็นนวัตกรรมและเทคโนโลยีต่างหาก
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
Metha
Metha
ออฟไลน์
เครดิต
54527
149
#
เจ้าของ
|
โพสต์ 2013-12-15 08:18
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
48. นโยบายสาธารณะ (public policy) คำว่านโยบายสาธารณะใช้กันบ่อยขึ้นในสังคมไทยในระยะหลัง ๆ นี้ แต่ที่จริงก็ใช้กันมาในระดับสากลตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 20 เพื่อบอกถึง “ สิ่งที่รัฐบาล ตัดสินใจทำหรือไม่ทำ ” เป็นการตัดสินใจของรัฐบาลในการดำเนินกิจการต่าง ๆ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของส่วนรวมนโยบายสาธารณะในความหมายดั้งเดิมนี้จึงหมายถึงทั้งกฏหมายยุทธศาสตร์ แผนงานและกิจกรรมต่าง ๆ ที่ปรากฏในแผนการดำเนินงานของรัฐบาลและหน่วยงานของรัฐ
นโยบายสาธารณะในระยะหลัง ๆ นี้มีความหมายที่กว้างออกไปครอบคลุมถึงแนวคิดและแนวปฏิบัติของรัฐบาล ของพรรคการเมืองรวมทั้งของประชาสังคมและภาคเอกชนที่มีผลกระทบต่อส่วนรวมหรือต่อสาธารณะ นโยบายสาธารณะในที่นี้จึงเป็น “ ทิศทางหรือแนวทางที่สังคมโดยรวมเห็นว่าหรือเชื่อว่าควรดำเนินไป ”
พัฒนาการของความหมายเกิดขึ้นพร้อมกับพัฒนาการของประธิปไตย การมีส่วนร่วมของ ประชาชนในการกำหนดนโยบายการออกกฎหมาย การจัดการทรัพยากร ( ดิน น้ำ ป่า ) การศึกษา สุขภาพ เศรษฐกิจ การพัฒนาในประเด็นและปัญหาเฉพาะต่าง ๆ ที่มีผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของ ผู้คนในสังคม
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
Metha
Metha
ออฟไลน์
เครดิต
54527
150
#
เจ้าของ
|
โพสต์ 2013-12-15 08:18
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ด้วยเหตุนี้กระบวนการพัฒนานโยบายสาธารณะจึงเป็นเรื่องสำคัญ ถ้าหากทุกฝ่ายที่มีส่วนได้เสียมีส่วนร่วมในกระบวนการตั้งแต่เริ่มต้นก็ควรจะได้นโยบายสาธารณะที่ดี ที่ตอบสนองประโยชน์ของทุกฝ่าย ไม่มีใครใช้อำนาจครอบงำเพื่อเอาประโยชน์เป็นส่วนตนมากกว่าส่วนรวม ไม่ใช่ “ รวบรัด ” หรือ “ งุบงิบ ” กันทำไม่กี่คนแล้วไปเกณฑ์คนมายกมือ โดยอ้างว่าเป็นการทำประชาพิจารณ์ แล้วนำเสนอแบบ “ หมกเม็ด ” มีผลประโยชน์แอบแฝง หรือผลประโยชน์ทับซ้อน ( conflict of interest ) นโยบายเหล่านี้มักขาดหลักฐานทางวิชาการให้โอกาสคนบางกลุ่มและละเลยผลประโยชน์ของส่วนรวม ไม่มีการประเมินผลกระทบและตรวจสอบอย่างเป็นวิชาการก่อนการดำเนินการอาจจะมีก็ต่อเมื่อได้ ดำเนินการไปแล้ว จึงมักเป็นการดำเนินการที่บิดเบือนเพื่อสนับสนุนมากกว่าคัดค้าน
ในความเป็นจริง นโยบายสาธารณะของสังคมไทยเกือบทั้งหมดออกมาจากฝ่ายการเมือง ฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายราชการ รัฐธรรมนูญ ฯ พ.ศ. 2540 เขียนไว้ในมาตรา 76 ว่า “ รัฐต้องส่งเสริมและสนับสนุนการมีส่วนร่วมของประชาชนในการกำหนดนโยบาย การตัดสินใจทางการเมือง การวางแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมและการเมืองรวมทั้งการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐทุกระดับ ”
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
หน้าถัดไป »
1 ...
11
12
13
14
15
16
17
18
19
... 40
/ 40 หน้า
ถัดไป
กลับไป
ตั้งกระทู้ใหม่
โหมดขั้นสูง
B
Color
Image
Link
Quote
Code
Smilies
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง
ลงชื่อเข้าใช้
|
ลงทะเบียน
รายละเอียดเครดิต
ตอบกระทู้
ข้ามไปยังโพสต์ล่าสุด
ตอบกระทู้
ขึ้นไปด้านบน
ไปที่หน้ารายการกระทู้
Share To Facebook
Share To Twitter
Share To Google+
Share To ...