ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

มาติดตามข่าวสารต่างๆที่น่าสนใจกันครับ

[คัดลอกลิงก์]


"วัฒนา"โต้"บิ๊กตู่"บอกอยู่เบื้องหลังม็อบแดง′ปี53 ลั่น แค่ฝ่ากระสุนไปเจรจาแกนนำ

เมื่อวันที่ 12 ส.ค. นายวัฒนา เมืองสุข อดีตแกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า  ได้อ่านคำให้สัมภาษณ์ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี  ที่มีพาดพิงถึงกรณีที่ตนอุทธรณ์คำสั่งศาลปกครอง กรณีห้ามเดินทางออกนอกประเทศ โดยนายกรัฐมนตรีบอก  ให้ดูที่พฤติกรรมตนในการชุมนุมของคนเสื้อแดงเมื่อปี 2553  

"ผมคือคนที่อยู่กลางราชประสงค์เป็นคนมาต่อรอง ศอฉ.  ซึ่งท่านก็ดูแลให้แต่การชุมนุมไม่เลิกจนท้ายสุดเกิดความรุนแรง ความจริงเรื่องนี้ผมไม่เคยนำมาเปิดเผย  เก็บเป็นความลับมาตลอด แต่เมื่อท่านเปิดมาเองผมก็จะชี้แจงเพียงเท่าที่จำเป็น  ผมไม่ใช่คนที่อยู่กลางราชประสงค์และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับการชุมนุม  แต่เป็นคนที่ช่วยในการเจรจาทำให้ลดการสูญของทั้งสองฝ่าย
ทั้งเหตุการณ์เมื่อคืนวันที่ 10 เมษายน  ที่ผมเป็นคนประสานให้มีการหยุดยิงและแยกสองฝ่ายออกจากกัน

ส่วนในวันที่ 19 พฤษภาคม  ผมเป็นคนเดินฝ่ากระสุนปืนเข้าไปเจรจากับแกนนำเพื่อยุติการชุมนุมที่สี่แยกราชประสงค์จนสำเร็จ  ส่วนที่ว่าการชุมนุมไม่หยุดนั้นยังมีรายละเอียดอื่นๆ  อีกมากแต่ผมไม่ขอพาดพิงเพราะยังมีคนที่เกี่ยวข้องอีกหลายคน  ผมเป็นเพียงคนกลางครับไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับฝ่ายใด  บางครั้งฝ่ายรัฐบาลรับปากแล้วไม่ปฏิบัติตามคนเสื้อแดงก็ว่าผมไม่ได้และผมก็ไม่เคยเอามาเปิดเผย"  นายวัฒนากล่าว

นายวัฒนา กล่าวว่า ส่วนที่ว่าตนชอบโจมตีนายกรัฐมนตรีนั้น  ขอเรียนว่าทุกเรื่องที่พูดคือเรื่องของประเทศ เริ่มต้นจากที่ พล.อ.ประยุทธ์  กับพวกใช้กำลังอาวุธเข้ายึดอำนาจ ตนดูแถลงการณ์ฉบับที่ 1  ถึงเจตนารมณ์และความจำเป็นก็ถอยและหยุดดูท่านกับพวกทำงานมา  1  ปีเต็มจนเห็นว่าเริ่มไม่เข้าท่าจึงออกมา  และสิ่งที่ตนรับไม่ได้คือพฤติกรรมที่จะสืบทอดอำนาจผ่านรัฐธรรมนูญที่กำลังยกร่าง  การแสดงท่าทีที่จะอยู่ในอำนาจต่อไป โดยไม่คำนึงถึงความเสียหายของประเทศ  การลุแก่อำนาจของนายกรัฐมนตรีและบริวาร ไม่รวมถึงการบริหารที่ล้มเหลวทุกด้าน  แล้วจะให้เฉยปล่อยให้ท่านทำบ้านเมืองเสียหายต่อไปหรือ  

อย่าอ้างว่าการร่างรัฐธรรมนูญนายกรัฐมนตรีไม่เกี่ยวข้อง ลองส่งเสียงดังๆ  ว่าจะรีบคืนอำนาจให้ประชาชนเค้าไปกำหนดวิถีทางทางการเมืองกันเอง หนุมานตัวไหนมันจะกล้าเหาะเกินกรุงลงกา  นอกจากปากว่าตาขยิบเท่านั้น  มีใครเค้าอยากทะเลาะกับหัวหน้าเผด็จการที่มีอำนาจเบ็ดเสร็จบ้าง

"ที่ผมฟ้องท่านขอให้ศาลเพิกถอนประกาศฉบับที่21/2557ที่ห้ามคนจำนวน 155 คน เดินทางออกนอกประเทศนั้นก็เป็นการใช้สิทธิทางศาลแบบอารยะ  เพราะผมเห็นว่าคำสั่งห้ามคนเดินทางนี้ขัดกับรัฐธรรมนูญชั่วคราวที่ท่านลงนามรับสนองพระบรมราชโองการเอง  ในมาตรา 4 เขียนซะหรูว่าจะคุ้มครองศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สิทธิ  เสรีภาพและความเสมอภาคที่ชนชาวไทยเคยได้รับคุ้มครองและตามพันธกรณีระหว่างประเทศแต่การกระทำเป็นอีกอย่าง  การห้ามคนเดินทางคือการจำกัดสิทธิส่วนบุคคลอันถือเป็นสิทธิมนุษยชนตามกฎหมายระหว่างประเทศ  

ที่สำคัญคือลูกน้องท่านทำเรื่องนี้โดยลุแก่อำนาจ เอามาต่อรองไม่ให้พวกผมวิจารณ์ท่านและรัฐบาล  การอนุญาตหรือไม่ไม่มีหลักเกณฑ์ใดๆ บ่อยครั้งขอเดินทางไปยุโรปเครื่องบินออกตอนเที่ยงคืน  ลูกน้องท่านแจ้งคำสั่งอนุญาตมาตอน 16.00 น.  ทั้งที่ยื่นเรื่องขออนุญาตไปก่อนนับสิบวัน

"อยากบอกท่านจริงๆ  ว่าคำสั่งห้ามคนเดินทางไม่ก่อประโยชน์อะไรเลย ท่านกลัวเค้าไปสุมหัวกันแบบที่ ผบ.ทบ.  เคยให้สัมภาษณ์ผมก็จะบอกว่าถ้าเค้าจะไปสุมหัวกันเค้าคงไม่ไปขออนุญาตท่านให้เป็นหลักฐานหรอกครับ  การสื่อสารทุกวันนี้ทันสมัยที่เค้าจะสุมหัวกันคุยผ่านเครื่องมือสื่อสารได้โดยไม่ต้องเดินทาง  คำสั่งห้ามเดินทางไม่ได้ทำให้เกิดความมั่นคงแต่กลับจะทำให้ท่านเสียหาย  เพราะนอกจากจะเป็นการจำกัดสิทธิส่วนบุคคลแล้วลูกน้องท่านยังเอาอำนาจนี้ไปใช้ตามอำเภอใจอีก  อะไรที่ไม่จำเป็นหรือก่อประโยชน์ก็เลิกๆ ไปบ้างเถิดครับไม่ใช่เรื่องที่มาเอาแพ้เอาชนะกัน  รัฐบาลท่านจะได้ดูดีขึ้นทันทีว่าไม่ได้จำกัดสิทธิและเสรีภาพไปซะทุกเรื่อง  เอาเวลาไปคิดแก้ไขปัญหาให้บ้านเมืองดีกว่าครับ" นายวัฒนา กล่าว

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1439377638
"ถ้ารธน.ผ่าน การันตีไม่มีปฏิวัติโดยรถถัง แต่จะได้รัฐประหารโดยรธน."






ข่าวข้นคนเข้ม

  สันตะวา

หนังสือพิมพ์ข่าวสด สิทธิ เสรีภาพ ประชาธิปไตย เป็นของปวงชนชาวไทยทุกคน ฉบับนี้ตรงกับวันอังคารที่ 18 สิงหาคม พุทธศักราช 2558 ขึ้น 4 ค่ำ เดือน 9 ปีมะแม... ประเทศไทย, คนไทย ปรากฏเป็นข่าวใหญ่ไปทั่วโลก กิจกรรม Bike For Mom ปั่นเพื่อแม่ โดย สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงปั่นจักรยานนำขบวน ได้รับการบันทึกสถิติโลกจากกินเนสส์ เวิลด์ เร็กคอร์ดส์... กิจกรรมปั่นเพื่อแม่ผ่านไปแล้วอย่างตราตรึงใจ ขณะที่ นิทรรศการเทิดพระเกียรติแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ยังจัดต่อไปจนถึงวันที่ 22 ส.ค. ที่สนามเสือป่า สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงมีพระราชานุญาตให้นำจักรยานพระที่นั่งส่วนพระองค์มาจัดแสดงในนิทรรศการ นี้ด้วย... ศุกร์สุดสัปดาห์ ที่ผ่านมา ตอนเช้า "บิ๊กป้อม"พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรมว.กลาโหม นั่งหัวโต๊ะก.ต.ช.ตั้ง "บิ๊กแป๊ะ" พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา เป็นผบ.ตร.คนที่ 11 ตอนบ่ายเข้ากลาโหม นั่งหัวโต๊ะจัดทำบัญชีแต่งตั้ง โยกย้ายนายทหารประจำปี... ใครเข้าวิน ผบ.ทบ.คนที่ 39 ระหว่าง "บิ๊กหมู"พล.อ.ธีรชัย นาควานิช กับ "บิ๊กติ๊ก" พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา รับรู้กันแล้วในหมู่ผบ.เหล่าทัพ รอมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ลงมา... ย้อนกลับไปดูเส้นทางการเติบโตของ บิ๊กติ๊ก ที่ "บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พี่ชาย วางไว้ตั้งแต่สมัยคุมกองทัพต่อเนื่องมาถึงปัจจุบันก็ไม่แปลกใจ หากประเทศไทยจะมีผบ.ทบ.เป็นพี่น้องคลานตามกันมา ครั้งแรก แต่ถ้ามองในแง่ ความไว้วางใจและขุมกำลังอำนาจ ก็น่าเห็นใจ... วันนี้จับตาประชุมครม. ถ้าไม่มีอะไรขัดข้องจะได้ ปลัดใหม่ อย่างน้อย 2 กระทรวง การคลัง แทน รังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ กับ การพัฒนาสังคมฯ แทน วิเชียร ชวลิต...

กระทรวงตรานกวายุภักษ์ สมชัย สัจจพงษ์ อธิบดีกรมศุลกากร แรงกว่าใคร โดยมี ประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร ตามมาห่างๆ และยิ่งห่างออกไปเรื่อยๆ เมื่อตัวเลขการเก็บภาษีไม่เข้าเป้า... ขณะที่กระทรวง พม. พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว เจ้ากระทรวงแย้มตั้งคนใน ข่าวจะมีคนนอกข้ามห้วยมานั่งเก้าอี้ก็เลยจอดป้ายแถวๆ ปทุมวัน ... ร่างรธน. ผลงาน 36 หมอตำแยจอมปราดเปรื่อง แค่โผล่หัวออกมา ยังไม่ทันตัดสายสะดือ ผู้คนก็ส่งเสียง ยี้ ทั่วบ้านทั่วเมือง ขนาด แป๊ะยังไม่ปลื้ม เพราะเหาะเหินเกินลงกาจนตกยุคหลุดโลก... กาคาบข่าว มาบอก คนใหญ่คนโตที่ช่วงนี้เหวี่ยงๆ วีนๆ ถี่ๆ ส่วนหนึ่งอารมณ์บ่จอยกับร่างรธน. ฉบับฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ประชาธิปไตย ฉายาแสบไส้ที่ ทักษิณ ชินวัตร ตั้งให้ใหม่ๆ หมาดๆ บรรดาสาวกแห่ กดไลก์ กันกระหึ่ม... รธน.จัดให้มี นายกฯ คนนอก ยังงี้ กรรมการยุทธศาสตร์ปฏิรูปและปรองดองแห่งชาติ มีอำนาจเหนือรัฐบาล-รัฐสภา ยังงี้ ครม.ตั้งส.ว. 123 จาก 200 คน ยังงี้ การันตีได้เลยจากนี้ไม่มี ปฏิวัติโดยรถถัง แน่นอนแต่จะได้ รัฐประหารโดยรธน. แทนที่ จริงมั้ย ตัวเอง ??!... ข่าวข้น คนเข้ม วันนี้, 08.30 น. สุเมธ มโหสถ อธิบดีกรมการจัดหางาน เปิดอบรมการดำเนินงานตามพ.ร.บ.การอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทาง ราชการฯ ห้องบอลรูม 1 ดิ เอมเมอรัลด์... 11.30 น. รศ.นพ.โศภณ นภาธร คณบดีคณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ แถลงการ ประชุมแพทยศาสตรศึกษาแห่งชาติ ห้องอเนกประสงค์ ตึกแพทยพัฒน์... 14.00 น. มูลนิธิสายใจไทยฯ แถลงจัดงาน "สานสายใย เพื่อผลิตภัณฑ์สายใจไทย" ห้องเทเวศร์ สำนักงานทรัพย์สินฯ...

http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1439828213




เกิดเหตุระเบิดขึ้นอย่างรุนแรง บริเวณแยกราชประสงค์ ใกล้ศาลพระพรหมเอราวัณ โดยเป็นการวางระเบิดแสวงเครื่อง ปภ.รายงานมีผู้บาดเจ็บประมาณ 70 ราย เสียชีวิตหลายศพ ด้าน คสช.ยืนยันไม่มีประกาศหยุดเรียนหรือภาวะฉุกเฉินตามที่ลือในโซเชียล...

เมื่อเวลาประมาณ 18.55 น. วันที่ 17 ส.ค. 58 มีรายงานว่า ได้เกิดระเบิดขึ้น เสียงดังกึกก้องพร้อมกับมีเปลวไฟลุกไหม้ขึ้นบริเวณสี่แยกราชประสงค์ ด้านใกล้ศาลพระพรหม เอราวัณ เขตปทุมวัน กทม. โดยมีรถยนต์ที่จอดอยู่บริเวณสี่แยกดังกล่าวได้รับความเสียหาย พร้อมกับมีเศษชิ้นส่วนจากการระเบิด ที่แตกออกจากตัวรถ ตกกระจายอยู่บนถนน

ชมคลิปจุดที่เกิดเหตุ

ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมกู้ภัย ได้รุดไปยังที่เกิดเหตุ และปิดการจราจรทันที เนื่องจากเกิดการลุกไหม้อย่างรุนแรงจากรถคันที่เกิดระเบิด และเกรงว่าจะเกิดการระเบิดตามมาอีกได้ เบื้องต้น นอกจากรถคันเกิดเหตุ ยังมีรถจักรยานยนต์ล้มอยู่ และมีผู้บาดเจ็บหลายคน ที่น่าตกใจคือเศษชิ้นเนื้อที่คาดว่าเป็นชิ้นเนื้อของมนุษย์กระเด็นมากองบนถนน


ทั้งนี้ มีรายงานจากเจ้าหน้าที่ ปภ. เบื้องต้นพบมีผู้บาดเจ็บประมาณ 70 ราย และมีผู้เสียชีวิตแล้วประมาณ 15 ราย ส่วนสาเหตุคาดว่าจะเป็นการวางระเบิดแบบแสวงเครื่อง โดยใช้ระเบิดทีเอ็นทีเป็นตัวจุดระเบิด

จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ มีความเป็นไปได้ว่า เหตุครั้งนี้เป็นการวางระเบิด โดยคนร้ายนำระเบิดซุกซ่อนมาในรถจักรยานยนต์หรือรถจักรยานยนต์บอมบ์ จอดไว้บริเวณศาลพระพรหม ก่อนที่จะเกิดระเบิดขึ้น และมีคนอยู่ใกล้กับจุดระเบิด เสียชีวิตทันทีอย่างน้อย 2 คน


รถไฟฟ้า BTS แจ้งว่า ยังเปิดให้บริการตามปกติ เพราะเหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์ไม่กระทบกับการให้บริการ

พลเอกอุดมเดช สีตบุตร ผบ.ทบ. ให้สัมภาษณ์กับไทยรัฐทีวีว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งให้ รมว.กลาโหม ผบ.ทบ. ดูแลประชาชนในพื้นที่เกิดเหตุและกันประชาชนในพื้นที่ออกจากพื้นที่เสี่ยง


20.00 น. เจ้าหน้าที่อีโอดีประกาศให้ผู้ไม่เกี่ยวข้องออกจากพื้นที่ หลังพบวัตถุต้องสงสัยที่คาดว่าอาจจะเป็นวัตถุระเบิดอีก 1 ลูก โดยได้ส่งหน่วยกู้ระเบิดพร้อมชุดบอมบ์สูทเข้าไปตรวจสอบ แต่จากการตรวจสอบและเข้าเคลียร์พื้นที่แล้ว ปรากฏว่าไม่ใช่วัตถุระเบิดแต่อย่างใด

20.35 น. พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยว่า ยังไม่มีประกาศหยุดเรียนหรือประกาศภาวะฉุกเฉินตามที่มีการส่งข้อมูลกันทาง social media ขอประชาชนอย่าหลงเชื่อข่าวลือ ขอให้พี่น้องประชาชนอย่าตื่นตระหนกกับการพยายามสร้างสถานการณ์และข่าวลือเพื่อสร้างความสับสนในประเทศ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้เข้าควบคุมสถานการณ์และพื้นที่เกิดเหตุแล้ว ขอยืนยันว่าทุกอย่างอยู่ในความควบคุมของเจ้าหน้าที่แล้ว.

เครดิต ภาพ เสียง จากเวป

ไทยรัฐออนไลน์

ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
ข้อมูล (บึ้มกรุง) นอกคำแถลงรัฐบาล...
โปรดใช้วิจารณญาณในการเชื่อ        


เป็นธรรมดาอยู่เองที่ผู้กุมอำนาจรัฐจะต้องพยายามสรุปเบื้องต้นว่าเหตุระเบิดที่สี่แยกราชประสงค์ เมื่อช่วงหัวค่ำของวันจันทร์ที่ 17 สิงหาคม 2558 นั้น ไม่ได้ร้ายแรงมากขนาดที่เป็นข่าวทางสื่อ ทั้งกระแสหลักและโซเชียลมีเดีย

          เพราะด้วยความเป็นรัฐ เป็นผู้รับผิดชอบต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน จึงจำเป็นต้องรักษารูปมวย แต่ผลที่ตามมาก็คือเกิดคำถามในหัวใจประชาชนว่า ข้อมูลที่แถลงนั้นเป็นจริงหรือไม่ จงใจปกปิดข้อมูลสำคัญบางประการหรือเปล่า

          เช่น ตำรวจยืนยันว่าเกิดระเบิดเพียงจุดเดียว คือ บริเวณริมรั้วศาลพระพรหม แต่ก็ไม่ได้อธิบายต่อว่าเปลวไฟที่ลุกโชนบนซากยานพาหนะกลางถนน และมีศพร่างฉีกขาดกระจายอยู่ไม่ไกลนั้น เกิดจากอะไร
          หรือซากรถมอเตอร์ไซค์ที่เหลือเพียงแค่โครงเหล็ก เหมือนซากมอเตอร์ไซค์บอมบ์หลังจุดระเบิดอย่างสมบูรณ์แล้วในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เกิดขึ้นได้อย่างไร
          คำแถลงที่ว่าควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว เป็นการควบคุมสถานการณ์ได้จริง หรือเป็นเพราะฝ่ายคนร้ายยังไม่ได้ก่อเหตุเพิ่มเติม
          ที่สำคัญ คำแถลงของตัวแทนรัฐบาลดูจะให้น้ำหนักไปที่เรื่องการเมืองมากเป็นพิเศษ ทั้งๆ ที่หลายฝ่ายตั้งคำถามว่าสถานการณ์ขณะนี้สุกงอมถึงขั้นต้องใช้ความรุนแรงในระดับลอบวางระเบิดจนผู้คนตายเป็นเบือแล้วหรือ?
          จากการตรวจสอบกับบุคคลในหน่วยงานความมั่นคงทั้งระดับสูงและระดับหัวหน้าผู้ปฏิบัติ ซึ่งทั้งหมดมีตัวตนและยังปฏิบัติหน้าที่อยู่จริง พบข้อมูลเพิ่มเติมนอกเหนือจากคำแถลงของรัฐบาลดังนี้

          1.จุดเกิดเหตุระเบิด ไม่ว่าจะมี 1 หรือ 2 จุด และไม่ว่าจะเป็นมอเตอร์ไซค์บอมบ์ หรือระเบิดแสวงเครื่องที่ซุกไว้ริมรั้วศาลพระพรหมก็ตาม ประเด็นที่สำคัญกว่านั้น คือ รูปแบบของระเบิดและอุปกรณ์ที่ใช้ประกอบ
          เจ้าหน้าที่จากหน่วยทำลายวัตถุระเบิด หรืออีโอดี ระบุว่า ดินระเบิดหลักที่คนร้ายใช้ เป็น "ทีเอ็นที" น้ำหนักไม่น้อยกว่า 2 ปอนด์ ขณะนี้ยังไม่พบตัวจุดระเบิด ขณะที่สะเก็ดระเบิดเป็นลูกปืนรถขนาด 2 หุน หรือที่เรียกว่า "บอล แบริ่ง"
          2.การใช้ "ทีเอ็นที" เป็นดินระเบิด และใช้ "บอล แบริ่ง" เป็นสะเก็ด ยังไม่เคยปรากฏใช้ก่อเหตุในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือในประเทศไทยเลย โดยมากพบในตะวันออกกลาง
          3.ทีเอ็นที และ "บอล แบริ่ง" เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ประกอบเป็นเสื้อของมือระเบิดพลีชีพ ซึ่งเคยพบในตะวันออกกลางเช่นกัน ดังนั้นจึงต้องชันสูตรศพในที่เกิดเหตุให้ชัดเจน โดยเฉพาะศพที่ชิ้นส่วนร่างกายแหลกเหลว ว่าใส่เสื้อระเบิดพลีชีพหรือไม่
          4.ก่อนหน้านี้มีการแจ้งเตือนการเคลื่อนไหวของกลุ่มก่อการร้ายข้ามชาติที่ลักลอบเข้ามาในประเทศไทย โดยเป็นกลุ่มที่ต่อสู้กับพันธมิตรของสหรัฐอเมริกาในตะวันออกกลาง ซึ่งทางการไทยยังติดตามจับกุมไม่ได้ มีโอกาสหรือไม่ที่จะเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดเที่ยวนี้
          5.บริเวณที่เกิดเหตุระเบิดเป็นสัญลักษณ์ที่เชื่อมโยงกับความเชื่อทางศาสนา (ศาลพระพรหม) น่าจะเป็นความจงใจของกลุ่มผู้ก่อเหตุ จึงน่าถอดรหัสในส่วนนี้ต่อ
          6.บริเวณที่เกิดเหตุมีผู้คนพลุกพล่าน โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีน ซึ่งเหตุระเบิดก็ทำให้ชาวจีนเสียชีวิตหลายคน ขณะที่ทางการไทยเพิ่งตัดสินใจส่งตัวชาวมุสลิมอุยกูร์กว่า 100 ชีวิตไปให้รัฐบาลจีนเมื่อเดือนที่แล้ว ท่ามกลางการคัดค้านของรัฐบาลตุรกี (ที่เสนอตัวรับมุสลิมอุยกูร์กลุ่มนี้ไปตั้งถิ่นฐาน) และองค์กรสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ จนกลายเป็นข่าวอื้อฉาวไปทั่วโลก
          ทั้งนี้เพราะชาวอุยกูร์จากมณฑลซินเจียงถูกทางการจีนกดดันอย่างหนัก โดยเฉพาะกลุ่มหัวรุนแรงที่ต้องการแบ่งแยกดินแดนและสถาปนารัฐใหม่ ขณะที่รัฐบาลจีนก็พยายามเชื่อมโยงกลุ่มดังกล่าวเข้ากับขบวนการก่อการร้ายสากล และใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดในการจัดการ
          เป็นไปได้หรือไม่ที่เหตุระเบิดจะเกี่ยวพันหรือเป็นผลจากเรื่องนี้?
          ทั้งหมดเป็นข้อมูล ข้อสังเกต และคำถามซึ่งล้วนน่าสนใจ...


          อย่าปล่อยให้คำตอบปลิวหายไปกับสายลม!


ข้อมูลข่าวจาก.http://www.isranews.org/south-ne ... dJ0N5OhLj8.facebook
โจ๋เผ่นกระเจิง นั่งตกปลาคุยกับเพื่อนเรื่องคนโดดสะพานตาย ถึงกับอึ้งเบ็ดติดศพหญิงสาวลอยน้ำ


วันที่ 20 สิงหาคม  พ.ศ. 2558 เวลา 09:51 น.




เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 20 ส.ค. ร.ต.ท.อนวัช แสนอินทร์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.สวนพริกไทย อ.เมือง จ.ปทุมธานี รับแจ้งเหตุพบศพหญิงลอยน้ำติดข้างเรือภายในแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณท่าจอดเรือวัดโบสถ์ หมู่ที่ 4 ต.บ้านกลาง อ.เมือง จ.ปทุมธานี จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง แพทย์เวรสถาบันนิติวิทยาศาสตร์กระทรวงยุติธรรม

ที่เกิดเหตุพบศพหญิงสาว 1 รายทราบชื่อต่อมา น.ส.วราภรณ์ พาคำ อายุ 26 ปี สภาพศพสวมเสื้อยืดสีฟ้า สวมกางเกงยีน จากการชันสูตรไม่พบบาดแผลจากการถูกทำร้าย จึงนำส่งไปผ่าชันสูตรที่สภาบันนิติวิทยาศาสตร์ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ อีกครั้ง

ร.ต.อ.อนวัช เปิดเผยว่า ได้รับการประสานจากสภ.เมืองปทุมธานีว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 18 ส.ค. ที่ผ่านมา รับแจ้งมีหญิงสาวลักษณะดังกล่าวชื่อน.ส.วราภรณ์ กระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ลงมาจากสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาสะพานปทุมธานี 2 ลงมาในแม่น้ำเจ้าพระยา แล้วถูกกระแสน้ำพัดจมหายไป จึงประสานให้ทางนักประดาน้ำ มูลนิธิร่วมกตัญญูที่เข้าเวรในวันดังกล่าวมางมหา ใช้เวลาหลายชั่วโมงก็ไม่พบ จึงยุติการค้นหาในวันดังกล่าว กระทั่งมาพบศพในวันนี้



ด้าน น.ส.วราทิพย์ พาคำ อายุ 22 ปี น้องสาวของผู้เสียชีวิต ให้การว่า พี่สาวทำงานอยู่ในบริษัทแห่งหนึ่งในนิคมโรจนะ จ.พระนครศรีอยุธยา และพักอยู่ห้องเช่าเขต อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี มีโรคเครียดในครอบครัวไม่ค่อยพูดจากับใคร กระทั่งหนีออกไปจากห้อง และมาทราบว่าเดินทางมากระโดดสะพานฆ่าตัวตายดังกล่าว

สอบสวน นายเมธาวี บุญรอด อายุ 19 ปี คนตกปลา ผู้พบศพคนแรก ให้การว่า ก่อนที่จะมาพบศพ ตนเองและกลุ่มเพื่อน 4-5 คน ชอบมานั่งตกปลาแถวท่าจอดเรือ โดยระหว่างที่รอปลาติดเบ็ด พูดคุยกันถึงเรื่องผี หรือจิตวิญญาณและพูดถึงกรณีของหญิงสาวที่กระโดดสะพานฆ่าตัวตายในแม่น้ำเจ้าพระยา แล้วถูกกระแสน้ำพัดจมหายตามที่เป็นข่าว ตามหน้าหนังสือพิมพ์แต่ยังหาร่างไม่เจอ โดยตนยังพูดทีเล่นทีจริงว่า เกิดตกได้ศพขึ้นมาจะทำอย่างไรกันดี ปรากฏว่ายังพูดไม่ทันขาดคำ สายคันเบ็ดก็ติดวัตถุขนาดใหญ่ที่ลอยมาตามน้ำ จึงบอกเพื่อนๆ ให้ช่วยกันดึงสายเอ็นขึ้นมา เพราะนึกว่าต้องเป็นปลาตัวใหญ่แน่นอน แต่เมื่อลากเข้ามาในฝั่งก็ต้องผงะ เมื่อพบว่าเป็นศพหญิงสาวคนดังกล่าวจริง จึงวิ่งหนีเผ่นกระเจิงไปตั้งหลัก แล้วกลับมาแจ้งตำรวจมาตรวจสอบดังกล่าว ซึ่งหลังจากนี้พวกตนจะไปทำบุญให้ด้วย


ที่มา..http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1440039127
แบงค์ชาติจัดทำแบงค์พันแบบใหม่ เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว                                                            

                                                                                       
                            ที่มา : http://money.kapook.com/view126791.html


                                                            ธนาคารแห่งประเทศไทย จัดพิมพ์ธนบัตรชนิด 1,000 บาท แบบใหม่ มีกำหนดออกใช้วันที่ 21 สิงหาคมนี้ ประชาชนสามารถติดต่อขอแลกได้ที่ธนาคารพาณิชย์ทั่วประเทศ

          วันที่ 17 สิงหาคม 2558 นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 21 สิงหาคมนี้ เป็นต้นไป ธปท. จะนำธนบัตรชนิดราคา 1,000 บาท แบบใหม่ (แบบ 16) ออกใช้ โดยธนบัตรชนิดราคาดังกล่าว จัดทำขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงออกแบบให้เรื่องราวในธนบัตรแสดงถึงพระราชกรณียกิจอันสำคัญของพระองค์

          นอกจากนี้ ยังได้พัฒนารูปแบบให้สวยงาม และมีเทคโนโลยีต่อต้านการปลอมแปลงที่ทันสมัย เพื่อให้ประชาชน ภาคธุรกิจ ภาคธุรกิจ สถาบันการเงิน รวมถึงผู้บกพร่องทางสายตาสามารถตรวจสอบได้ง่าย

          โดยธนบัตรชนิดราคา 1,000 บาท แบบใหม่ มีลักษณะดังนี้

          ธนบัตรชนิดราคา 1,000 บาท มีขนาดกว้าง 72 มิลลิเมตร และยาว 162 มิลลิเมตร สีโดยรวมเป็นสีน้ำตาล เช่นเดียวกับแบบปัจจุบัน

          มีลักษณะกันการปลอมแปลง คือ ลายน้ำ พระบรมฉายาทิสลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบัน และตัวเลข ๑๐๐๐ ที่มีความโปร่งแสงพิเศษ มองเห็นได้ชัดเจนทั้งสองด้าน เมื่อยกส่องกับแสงสว่าง นอกจากนี้ หมึกพิมพ์พิเศษสลับสีพร้อมตัวเลขแฝง ลายประดิษฐ์สีทองจะเปลี่ยนเป็นสีเขียว เมื่อพลิกเอียงธนบัตร

          ตัวเลขแฝงมีตัวเลข 1,000 ซ่อนไว้ในหมึกพิมพ์พิเศษสีเหลือบแดง

          แถบฟอยล์ 3 มิติผนึกไว้ตามแนวตั้งในแถบมาตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554

          ด้านแถบสี่เหลี่ยมเคลื่อนไหวสลับสี ฝันในเนื้อกระดาษ มีบางส่วนของแถบปรากฏให้เห็นเป็นระยะเมื่อพลิกธนบัตรขึ้นลงจะเห็นสี่เหลี่ยมขนาดเล็กสีม่วงเคลื่อนไหว และจะเปลี่ยนเป็นสีเขียวเมื่อเปลี่ยนมุมมอง ด้านสัญลักษณ์

          สำหรับผู้บกพร่องทางสายตา เน้นนูนแนวนอนเรียง ลดหลั่นกัน นำสู่สัญลักษณ์อักษรเบลล์ ที่พิมพ์นูนเป็นรูปดอกไม้ 4 ดอก แทนอักษร T ที่ย่อ Thousand

          สาเหตุที่ออกแบบ 16 ในวันที่ 21 สิงหาคมนั้น เพราะเป็นวันที่ รัชกาลที่ 5 ประกาศเลิกทาส ซึ่ง ธปท. มีธนบัตรใหม่ในสต๊อกกว่า 100 ล้านฉบับ หมุนเวียนแลกจ่ายได้ 3-4 เดือน จากนั้นค่อย ๆ ทยอยพิมพ์เพิ่ม โดยประชาชนสามารถแลกจ่ายธนบัตรใหม่นี้ได้จากสถาบันการเงินทุกแห่ง ทั้งธนาคารพาณิชย์ และธนาคารรัฐ ซึ่งปัจจุบัน มีธนบัตรชนิดราคา 1,000 บาทหมุนใช้จ่ายในระบบ 24% ของธนบัตรทั้งหมด

          นอกจากนี้ ธนบัตรชนิดราคา 1,000 บาท แบบที่ 16 ยังมีเทคโนโลยีใหม่ที่ป้องกันการปลอมแปลง สังเกตได้ง่ายและเพิ่มมาตรการปลอมแปลงเข้ามามาก เชื่อว่าน่าจะป้องกันการปลอมแปลงได้ ต่างจากแบบ 15 ที่ออกแบบมาห่างถึง 10 ปี

http://www.toptenthailand.com/news/detail/20150819125626527                                                                       
                                                            

บีบีซีเจอหลักฐานใกล้ศาลพระพรหมหลังบึ้ม 3 วัน ชี้จนท.ทำความสะอาดที่เกิดเหตุเร็วไป      
                           
                                                                                       
                            ที่มา : http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1440083867


                                                            บีบีซีไทย - BBC Thai รายงานว่า  โจนาธาน เฮด ผู้สื่อข่าวบีบีซีส่งรายงานมาจากกรุงเทพฯ ว่าขณะนี้ประชาชนกลับไปสักการะศาลพระพรหมเอราวัณตามปกติแล้ว หลังจากทางการทำความสะอาดพื้นที่เกิดเหตุ ซึ่งอาจจะเรียกได้ว่า “เร็วเกินไป” ผู้สื่อข่าวบีบีซีบอกว่าสามวันหลังจากเกิดเหตุ มีผู้พบหลักฐานชิ้นที่เขาถืออยู่ในมือ คือชิ้นส่วนระเบิดและบอล แบริ่ง ในจุดที่ห่างไปจากที่เกิดเหตุประมาณ 50 ม. และนำมาส่งมอบให้ ซึ่งจริง ๆ แล้วตำรวจน่าจะเป็นฝ่ายรวบรวมหลักฐานชิ้นนี้ไว้ สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นการทำงานด้านสืบสวนของเจ้าหน้าที่ว่าเป็นอย่างไร

   ผู้สื่อข่าวบีบีซีพยายามนำหลักฐานไปส่งให้ตำรวจที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ  ในเบื้องต้นได้รับแจ้งว่าสำนักงานปิดทำการแล้วเพราะหมดเวลาราชการแล้ว อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมาโฆษกสำนักงานตำรวจส่งตัวแทนมารับมอบหลักฐานดังกล่าวแล้ว

http://www.toptenthailand.com/news/detail/20150821094212600

                                                            

นักวิเคราะห์ต่างชาติชี้บึ้มราชประสงค์
มุ่งกลุ่มเกรย์วูล์ฟ แก้แค้นเรื่องอุยกูร์





ที่มาเฟซบุ๊กบีบีซีไทย
บีบีซีไทย รายงานเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2558 ว่า นักวิเคราะห์ด้านความมั่นคงเสนอแนวคิดใหม่อธิบายเหตุระเบิดราชประสงค์ ตัดประเด็นทั้งการเมืองเรื่องภาคใต้ ไม่เกี่ยวกับไอเอสหรืออัลไคดา ตีโจทย์คนลงมือต้องเป็นกลุ่มต่างประเทศ เอ่ยชื่อกลุ่มเกรย์ โวลฟส์ในตุรกี ชี้เป็นการจับมือเฉพาะกิจต้องการแก้แค้นเรื่องอุยกูร์

แอนโทนี เดวิส นักวิเคราะห์ประจำประเทศไทยของกลุ่มไอเอชเอส - เจนส์ ซึ่งเป็นกลุ่มวิเคราะห์ข้อมูลด้านข่าวความมั่นคงและการทหาร เปิดประเด็นความเป็นไปได้ของกลุ่มลงมือกรณีระเบิดราชประสงค์ว่า ต้องเป็นกลุ่มที่มีความสามารถพิเศษในการใช้อาวุธที่มีประสิทธิภาพสูง เพราะลักษณะของระเบิดที่ใช้และลักษณะของการลงมือชี้ว่าต้องอาศัยการวางแผน อย่างดี รอบคอบและมีคนสนับสนุน โดยดูจากทั้งที่ราชประสงค์และที่สาทร

เดวิสซึ่งอยู่ในประเทศไทยร่วมสามสิบปี ติดตามงานด้านความมั่นคงตลอดจนปัญหาสามจังหวัดภาคใต้มานานนำเสนอความเห็นของ เขาในวงเสวนาเรื่อง “ระเบิดในกรุงเทพฯ: ที่จริงแล้วเรารู้อะไรบ้าง” The Bangkok Bombing : What do we really know? ที่สโมสรผู้สื่อข่าวต่างประเทศค่ำวันที่ 24 ส.ค.ที่ผ่านมาโดยชี้ว่า ในความเห็นส่วนตัวของเขา ระเบิดหนนี้ไม่ใช่การลงมือโดยคนคนเดียวอย่างแน่นอน เพราะ ลักษณะของการลงมือที่บ่งบอกว่าต้องวางแผนมาอย่างดีดังกล่าว มีการจัดวางกำลังชัดเจน ประการถัดมาสิ่งที่ชัดเจนคือมุ่งหมายทำร้ายชาวต่างชาติ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวจีน ซึ่งเรื่องนี้มีนัยสำคัญยิ่งกว่าข้อเท็จจริงที่ว่าเป็นการโจมตีเป้าหมายที่ มีความสำคัญทางศาสนา เขาระบุว่ามีสามกลุ่มที่ควรพิจารณา กลุ่มแรกคือกลุ่มการเมืองในประเทศที่เกิดจากความแตกแยกกัน กลุ่มที่สองคือกลุ่มผู้เห็นต่างจากรัฐในสามจังหวัดภาคใต้ และกลุ่มที่สามคือกลุ่มจากต่างประเทศ

นักวิเคราะห์ของไอเอชเอส - เจนส์บอกอีกว่า เขาตัดกลุ่มแรกที่กระทำด้วยมูลเหตุจูงใจในเรื่องการเมืองออกไปเพราะจาก ประสบการณ์ที่เห็นเมืองไทยมานานทำให้เห็นได้ชัดว่า ระดับของความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับระเบิดราชประสงค์ไม่สอดคล้องกับสิ่งที่เคย เกิดจากความขัดแย้งทางการเมืองในประเทศ “ระเบิดเมื่อวันจันทร์ที่แล้วเป็นความรุนแรงระนาบใหม่ มันเป็นเกมแบบใหม่ไม่ใช่แบบที่เราเคยเห็นจากประสบการณ์ที่ผมอยู่เมืองไทยมา สามสิบปี เห็นการนองเลือดมาหลายหนแต่ไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้ ลักษณะแบบนี้ไม่ใช่ลักษณะการลงมือแบบไทย”

ส่วนในเรื่องว่าระเบิดนี้อาจจะเป็นการลงมือของกลุ่มผู้เห็นต่างในภาคใต้ ซึ่งที่จะมีศักยภาพทำได้ก็มีเพียงกลุ่มเดียวคือกลุ่มบีอาร์เอ็น เดวิสบอกว่า ลักษณะระเบิดที่ใช้ไม่เหมือนในภาคใต้ซึ่งใช้วัตถุระเบิดที่แตกต่างกว่ากัน มาก ระเบิดที่ราชประสงค์เป็น “industrial type” คือมีลักษณะใช้เทคโนโลยีสูง ในทางเทคนิคไม่ใช่แบบที่ใช้ในภาคใต้ นอกจากนั้นการลงมือส่วนใหญ่ในภาคใต้เพื่อต้องการดึงดูดความสนใจหรือทำเพื่อ บ่งบอกอะไรอย่างใดอย่างหนึ่ง แม้จะมีคนบาดเจ็บเสียชีวิตแต่ไม่ได้หวังทำลายชีวิตมากเท่านี้ นอกจากนี้เดวิสบอกว่าเขาได้ยินมาว่าบีอาร์เอ็นได้พยายามสื่อสารเงียบๆไปยัง ฝ่ายต่างๆว่าตนไม่เกี่ยวข้อง “บีอาร์เอ็นเองก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรในอันที่จะยอมให้มีกลุ่มย่อยแยกตัวออกมา แล้วไปสังหารคนสร้างความเสียหายมากขนาดนี้

เดวิสชี้ว่า สิ่งที่เป็นไปได้คือระเบิดหนนี้เป็นการทำงานของกลุ่มนอกประเทศ ต้องเป็นกลุ่มที่มีลักษณะจัดตั้ง มีศักยภาพที่จะทำได้ และมีมูลเหตุจูงใจที่จะทำ เขาชี้ว่า กลุ่มที่อยู่ในข่ายคือกลุ่มรัฐอิสลามหรือไอเอส ซึ่งไม่จำเป็นต้องปฏิบัติการจากพื้นที่ในครอบครองในตะวันออกกลางเท่านั้น แต่เรียกร้องให้ผู้สนับสนุนในต่างแดนตอบสนองด้วย มีกลุ่มผู้สนับสนุนที่ไปร่วมรบไอเอสทั้งในอินโดนีเซียและมาเลเซีย และในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีกลุ่มที่ขึ้นต่อไอเอสเรียกว่า Katibah Nusantara และประเด็นที่เป็นมูลเหตุจูงใจก็คือไม่พอใจวิธีที่รัฐบาลไทยปฏิบัติต่อ มุสลิมในประเทศ

กลุ่มต่างประเทศกลุ่มถัดมาที่เดวิสเห็นว่ามีศักยภาพทำได้คือกลุ่มอัลไคดา ซึ่งก็มีกลุ่มย่อยที่มีความเชื่อมโยงเป็นพันธมิตรที่เรียกว่า Turkistan Islamic Party ซึ่งก็คือกลุ่มคนเชื้อชาติเดียวกันกับอุยกูร์ แต่แอนโทนี เดวิสชี้ว่า ทั้งสองกลุ่มนี้ก็ยังไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับการวางระเบิดที่ราชประสงค์ เพราะแม้จะมีศักยภาพและมีมูลเหตุจูงใจ แต่ทั้งไอเอสและอัลไคดา ดำเนินการก่อเหตุเพราะต้องการดึงดูดความสนใจ ในขณะที่ระเบิดราชประสงค์ผ่านไปแล้วหนึ่งสัปดาห์โดยที่ไม่มีใครตัวอ้างเป็น ผู้ลงมือ อีกอย่าง ลักษณะการลงมือของกลุ่มเหล่านี้มักมีจุดเด่นคือเป็นลักษณะพลีชีพ

นักวิเคราะห์ไอเอชเอส - เจนส์สรุปว่า กลุ่มที่เขาเห็นว่ามีความเป็นไปได้ค่อนข้างมากในบรรดากลุ่มต่างๆที่กล่าวมา เป็นกลุ่มจิฮาดในต่างประเทศที่เขาใช้คำว่า “พันธุ์ผสม” และไม่จำเป็นต้องมีชื่อหรือเป็นที่รู้จัก แต่มีลักษณะของการเป็นองค์กรจัดตั้งและเกี่ยวพันกับกลุ่มในตุรกี เดวิสชี้ให้จับตากลุ่ม Grey Wolves ซึ่งเป็นกลุ่มใช้ความรุนแรงขวาสุดโต่ง เกี่ยวพันกับการก่อเหตุมาแล้วในอดีตในความขัดแย้งหลายกรณีตั้งแต่นากอร์โน คาราบัค เชชเนีย ไซปรัส เป็นกลุ่มที่รวมตัวกันรวมๆ สนับสนุนอุยกูร์อย่างมากและมีบทบาทอยู่แถวหน้าในการประท้วงและเข้าโจมตีสถาน ทูตไทยในตุรกีหลังเหตุการณ์ไทยส่งอุยกูร์ให้จีน เขาเชื่อว่ากลุ่มนี้มีความสัมพันธ์กับกลุ่มอาชญากรรมของคนเชื้อสายตุรกีทั่ว ไปไม่ว่ากลุ่มที่ทำเรื่องลักลอบค้ายาเสพติดหรือค้ามนุษย์ และกลุ่มที่เป็นกลุ่มอาญากรรม จับมือกับกลุ่มที่มีแนวความคิดหรืออุดมการณ์ลงมือในงานนี้โดยเฉพาะ แต่ทั้งนี้เขาระบุว่า “ผมไม่ได้บอกว่าอุยกูร์เป็นคนลงมือ อุยกูร์ต่อสู้ในประเทศไม่มีอะไรเลย ศักยภาพไม่ถึงขั้น”

ด้าน พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและโฆษก สตช.กล่าวว่า คดีนี้เป็นคดีที่ยากเป็นพิเศษ ลักษณะระเบิดใช้วัสดุที่หายากในไทย ทำลายตัวเองเกือบหมด มีแรงทำลายล้างสูง ไม่ใช่ระเบิดที่จะทำได้โดยง่าย ถือว่าเป็นครั้งแรกที่ประเทศไทยมีกรณีเช่นนี้ เมื่อถามว่าระเบิดนี้น่าจะประกอบในไทยหรือไม่ พล.ต.ท.ประวุฒิชี้ว่าน่าจะประกอบในไทยแต่ไม่ใช่ในกรุงเทพฯ ส่วนเรื่องที่ว่าเจ้าหน้าที่กำลังตามหาชายคนหนึ่งพร้อมระบุชื่อด้วยนั้น พล.ต.ท.ประวุฒิกล่าวปฏิเสธ พร้อมกันนั้นชี้กับผู้สื่อข่าวว่า ต้องให้เวลาเจ้าหน้าที่ทำงาน ที่ผ่านมาทุกคนทำงานกันเต็มที่จนหลายคนไม่ได้นอน “มันเพิ่งผ่านมาเจ็ดวันนะครับ ไม่ใช่เจ็ดปี”

http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1440486485
มีแต่ ตำรวจ ทหารและรัฐบาลไทยนี่หละที่พยายามโยงให้เป็นเรื่องการเมือง
สาว 20 ขับกระบะชนเสาไฟฟ้าย่านติวานนท์ถูกไฟคลอกดับคารถ                                                            
                                                                                       
                            ที่มา : http://manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9580000097615


                                                            วันนี้( 28 ส.ค.)เมื่อเวลา 03.00 น.ร.ต.ท. ธนวัฒน์ ชีวิตโสภณ ร้อยเวร สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ได้รับเเจ้งมีเหตุรถชนเสาไฟฟ้า มีเพลิงลุกไหม้ บริเวณถนนติวานนท์มุ่งหน้าเเยกสวนสมเด็จ ขาออก ตรงข้ามร้านนิพนธ์การช่าง ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พร้อมด้วยแพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์และมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งรีบรุดไปตรวจสอบ

สาว 20 ขับกระบะชนเสาไฟฟ้าย่านติวานนท์ถูกไฟคลอกดับคารถ

         
       ในที่เกิดเหตุพบรถยนต์กะบะ ยี่ห้อวีโก้ หมายเลขทะเบียน1ฒญ 411 กทม.ชนติดกับเสาไฟฟ้าสภาพรถพังยับทั้งคันมีผู้เสียชีวิตติดอยู่ในรถด้านคนขับ 1 ราย ทราบชื่อต่อมาคือ น.ส. นพรัตน์ ขาวเหลือง อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 117/278 ม.9 ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี สภาพศพถูกไฟเผาไหม้ทั้งตัว

สาว 20 ขับกระบะชนเสาไฟฟ้าย่านติวานนท์ถูกไฟคลอกดับคารถ

         
       จากการสอบถาม นายมนตรี บัวนอก ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่าตนกับเพื่อน 2 คนได้นั่งทานข้าวอยู่หน้า ม.มิตรประชา ได้ยินเสียงดังบึ้มจึงได้รีบวิ่งมาดูพบรถกะบะไฟลุกไหม้ชนอัดอยู่กับเสาไฟฟ้ามีผู้ชาย 2 คน กำลังช่วยกันทุบกระจกรถเพื่อจะช่วยคนขับรถที่ติดอยู่ภายในแต่ดึงยังไงก็ดึงไม่ออกตนจึงรีบเข้าไปช่วย ต่อมาได้เกิดไฟลุกขึ้นและมีเสียงระเบิดดังจากตัวรถตนจึงรีบวิ่งหนีตายออกมา เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบรถคันดังกล่าวทราบว่าเป็นรถที่ติดตั้งแก๊ส อย่างไรก็ตามจะประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเพื่อตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป                                                                        
                                                            

ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้