ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

มาติดตามข่าวสารต่างๆที่น่าสนใจกันครับ

[คัดลอกลิงก์]
‘เสี่ยอู๊ด’ นักสร้างพระคนดัง ตายแล้ว!! ดับคาโรงแรม-เขียนจดหมายสั่งเสีย
  เสี่ยอู๊ดนักสร้างพระชื่อดังกลายเป็นศพในโรงแรม จ.พิษณุโลก เปิดห้องพัก 9 วัน เสียชีวิตมาแล้ว 2 วัน ก่อนเพื่อนเปิดห้องเจอศพ แจ้งตำรวจ พบจดหมายสั่งเสียลาตายทิ้งไว้ เผยกินยานอนหลับจำนวนมาก สั่งน้องชายให้เผาเลย ไม่ต้องมีพิธีบำเพ็ญกุศล

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 30 ต.ค. ร.ต.ท.อำนาจ อ่อนปาน ร้อยเวร สภ.เมืองพิษณุโลก รับแจ้งเหตุมีชายนอนคว่ำหน้าเสียชีวิตภายในห้องพักเลขที่ 209 ชั้นสอง ของโรงแรมแห่งหนึ่ง ถ.พระลือ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก ตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน 6 นพ.ณัฐสิทธิ์ เจริญสันติ แพทย์เวรนิติเวช รพ.พุทธชินราช และเจ้าหน้าที่กู้ภัยสมาคมกู้ภัยข่าวภาพพิษณุโลก  
ที่เกิดเหตุเป็นห้องพักชั้น 2 พบผู้เสียชีวิตเป็นชายสภาพนอนคว่ำหน้าอยู่บนเตียง ลักษณะสภาพศพเริ่มขึ้นอืดส่งกลิ่นเหม็น ทราบชื่อผู้เสียชีวิต คือ เสี่ยอู๊ด หรือ นายสิทธิกร บุญฉิม อายุ 44 ปี นักสร้างพระชื่อดัง ภูมิลำเนาอยู่ แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร
เจ้าหน้าที่ได้เก็บหลักฐานอย่างละเอียด โดยภายในห้อง พบขวดน้ำดื่มยี่ห้อดัง จำนวน 3 ขวด กระเป๋าเสื้อผ้าของผู้เสียชีวิต และจดหมายสั่งลา วางไว้บนโต๊ะแต่งหน้า นอกจากนี้ ยังพบยา XIEMED (Alprazolam) เป็นยาในกลุ่มที่ออกฤทธิ์กดระบบประสาทส่วนกลาง ใช้สำหรับรักษาอาการวิตกกังวล และช่วยให้นอนหลับ โดยพบจำนวนมากในถุงพลาสติกจำนวน 20 แผง และพบร่องรอยการแกะรับประทานไปแล้วจำนวน 10 แผงๆ ละ 10 เม็ด

และยาส่วนตัวของผู้เสียชีวิตเป็นยารักษาโรคมะเร็ง โรงพยาบาลมะเร็งลพบุรี ไม่พบร่องรอยการทำร้ายร่างกาย จากการชันสูตรพบว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 วัน หลังจากตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้ว แพทย์เวร ได้ให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยข่าวภาพนำร่างนายสิทธิกร ไปชันสูตรโดยละเอียดอีกครั้ง ที่นิติเวชโรงพยาบาลพุทธชินราช

จากการสอบถามเจ้าของโรงแรมดัง กล่าวว่า ผู้เสียชีวิตเพิ่งมาพักที่นี่ครั้งแรก โดยมีเพื่อนผู้ชายพามาเปิดห้องพัก ซึ่งมาเปิดห้องพักตั้งแต่วันที่ 21 ต.ค. ที่ผ่านมา ได้ออกมาจากห้องพักและกินข้าวทุกวัน และจ่ายเงินห้องพักวันต่อวัน กระทั่งสามวันก่อน ผู้ตายได้บอกแม่บ้านว่า ไม่ให้ใครรบกวน จากนั้นก็เงียบหายไป กระทั่งเมื่อคืนวันที่ 29 ต.ค. เพื่อนที่เปิดห้องพักให้ ได้มาหาผู้ตายที่ห้องพัก และขึ้นไปเคาะประตู แต่ไม่มีเสียงตอบรับ จึงลงมาข้างล่าง พบแม่บ้าน และได้ขอโทรศัพท์ภายในขึ้นไปที่ห้องพัก แต่ไม่มีคนรับ จึงคิดว่าผู้ตายนอนหลับแล้ว จึงกลับไป


กระทั่งเช้านี้ เวลาประมาณ 09.00 น. เพื่อนผู้ตายได้กลับมาอีกครั้ง ตนและแม่บ้าน พร้อมเพื่อนผู้ตาย จึงนำกุญแจสำรองไปเปิดห้องพัก และพบว่า นายสิทธิกร ได้เสียชีวิตไปแล้ว

สำหรับ จดหมายลาตายของเสี่ยอู๊ด ระบุว่า (ภูมิใจ) จากเด็กกำพร้ายากจนมีวุฒิ ม.3 ได้หาเงินช่วยเหลือสังคม ประเทศชาติ พระพุทธศาสนา ก่อเกิดสาธารณะประโยชน์เป็นวัด โรงเรียน โรงพยาบาล สถานศึกษา มหาวิทยาลัยสงฆ์ องค์กรการกุศล สงเคราะห์ผู้ยากไร้ อุปการะเยาวชนให้เล่าเรียน คิดเป็นมูลค่าสินทรัพย์ และเงิน รวมๆ บริจาคไปกว่า 3,000 ล้านบาท กระจายอยู่ทั่วแผ่นดินทั้งที่คนรู้และไม่รู้  


(เสียใจ) ที่หาเงินได้มากมาย แต่ไม่เคยเก็บสะสมสร้างฐานะ เพราะมัวแต่ช่วยเหลือผู้อื่นไม่เคยช่วยพี่น้อง ช่วยสาธารณะจนตัวเองเดือดร้อน ผลตอบแทนกลับมาให้เสื่อมเสียไม่มีความดีและความจริง จากผู้ที่ได้รับความช่วยเหลือไปจะเป็นจริงอย่างถาวร “ดีชั่ว ถูกผิด ยึดติดใครไม่ได้”

(คำสั่ง) หากเสียชีวิตที่พิษณุโลก ให้น้องชายขึ้นมาจัดการศพ ทำการเผาทันที ไม่ให้จัดพิธีการใดๆ ไม่ให้บำเพ็ญกุศล เพราะไม่ต้องการให้พี่น้องเดือดร้อน ไม่ต้องการให้คนอื่นเข้ามายุ่งยากที่สำคัญผมทำบุญไว้เยอะแล้วไม่มีใครจะทำบุญให้ผมได้ เท่าตัวผมทำตอนอยู่ ท้ายสุดฝากบอกบุญ เชิญคนไทยไปบริจาคทรัพย์รับพระกริ่ง ซึ่งผมบริจาคไว้ 75 ล้านบาท ช่วยสร้างอาคารศูนย์ดูแลผู้สูงอายุระยะยาวของคณะแพทย์ศาสตร์ มช.นะครับ


ฝากคำคมข้อคิดจากบัณฑิต ม.3  “ดีที่สุด คือหยุดอยาก..ดียาก คืออยากที่สุด” ลงชื่อ สิทธิกร วันออกพรรษา ปี 2558


ด้านนายสุรพันธุ์ อายุ 23 ปี อยู่ ต.ปากโทก อ.เมือง จ.พิษณุโลก เพื่อนของเสี่ยอู๊ด ผู้เสียชีวิตที่มาเปิดห้องพักให้ เปิดเผยว่า ตนได้รู้จักกับผู้ตายมาตั้งแต่เมื่อปลายปี 2556 จากนั้นก็ได้ติดต่อกันเรื่อยมา จนกระทั่งล่าสุดผู้ตายได้ติดต่อตนเองมาจากไลน์ส่วนตัวว่าจะมาเที่ยวที่จังหวัดพิษณุโลก วันที่ 21 ต.ค. และมาพักอยู่ที่โรงแรมที่เกิดเหตุใน อ.เมืองพิษณุโลก ช่วงที่ผู้ตายมาพักอยู่นั้น ตนเองก็แวะมาหาผู้ตายทุกวัน โดยมีหน้าที่มารับไปทานอาหาร รับเสื้อผ้าไปซักทุกวัน

จนกระทั่งเจอกับผู้ตายครั้งสุดท้าย เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 27 ต.ค. ผู้ตายได้ไลน์มาหาตนเองว่าให้มารับไปทานข้าว ตนเองได้ขับรถจักรยานยนต์มาจากร้านนมที่ตนดูแลอยู่ช่วงเวลา 14.00 น. และพาไปทานที่ร้านอาหาร ร้านส้มตำปู่เสื่อ ห่างจากที่พักประมาณ 15 กิโลเมตร ก่อนจะกลับมาส่งที่ห้องพัก หลังจากนั้นก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย จนกระทั่งกลางดึกของเมื่อคืนที่ผ่านมา ตนเองเห็นว่าผู้ตายได้เงียบหายไป จึงมาหาที่พัก ขึ้นไปเคาะประตูห้องพัก แต่ไม่มีเสียงตอบรับ จึงได้กลับมาติดต่อที่เคาน์เตอร์ เพื่อให้โทรศัพท์ขึ้นไปที่ห้องพัก และขึ้นไปเปิดประตูกับแม่บ้าน ก็พบว่าเสียชีวิตดังกล่าว


  โดย ‘เสี่ยอู๊ด’ สิทธิกร บุญฉิม" เซียนพระชื่อดัง เคยติดคุกมานานกว่า 5 ปี ก่อนได้รับคำสั่งให้ปล่อยตัวจากคดีหลอกลวงประชาชนเช่า "พระสมเด็จเหนือหัว" และยังเคยตกเป็นข่าวดังขึ้นหน้าหนึ่งกับดาราชายชื่อดังหลายคน
เครดิต เรื่อง ภาพ จาก ข่าวสดออนไลน์













ข่าวข้นคนเข้ม

ข้าวตอกแตก

คดียากๆทำมามาก แต่พอทุจริต 396 โรงพัก
วิชา มหาคุณ กลับอ้างซับซ้อน!?






หนังสือพิมพ์ ข่าวสด ครบทุกรส สดทุกเรื่อง ฉบับนี้ตรงกับวันอังคารที่ 3 เดือนพฤศจิกายน พุทธศักราช 2558 แรม 7 ค่ำ เดือน 11 ปีมะแม...










ดูจากท่วงท่า ท่านผู้นำ ประยุทธ์ จันทร์โอชา และคณะ แล้วต้องเตรียมตัวแต่เนิ่นๆ ท่านออกทีวีส่งสัญญาณมาแล้วอย่างน้อย 2 เรื่อง ถ้าเศรษฐกิจดีขึ้น อาจขึ้นภาษี กับ ห้ามม็อบเกษตรกรเคลื่อนไหว แต่รัฐบาลจะช่วยเหลือให้เองอย่างเหมาะสม...










แค่ขึ้นต้น แค่ชื่อก็พิสดาร ระบบเลือกตั้งแบบจัดสรรปันส่วนผสม ฉบับ มีชัย ฤชุพันธุ์ นำคะแนนของผู้สมัครที่ไม่ได้รับเลือกตั้งส.ส.ในระบบเขต มาคำนวณเพื่อให้ได้ส.ส.ในระบบบัญชีรายชื่อ ไม่รู้แค่โยนหิน หรือเอาจริง เสียงสวดมากกว่าชม...

ปู่มีชัย ให้เหตุผล อ้างต้องการให้ทุกคะแนนมีความหมาย ไม่สูญเปล่า เคารพทุกเสียงของประชาชน ฟาก เพื่อไทย ไม่ต้องพูดถึง คัดค้านรุนแรง ถึงขั้นใช้คำว่า ทำลายหลักการเสียงข้างมาก ส่วน ประชาธิปัตย์ ยังแบ่งรับแบ่งสู้ ไม่ค้านหัวชนฝา...










ถึงขั้นนี้จึงพอมองออก ฝ่ายหลักๆ ทางการเมือง ต้องการรัฐธรรมนูญแตกต่างกันไป เพื่อไทย เรียกร้องให้ยึดฉบับ 2540 ประชาธิปัตย์ ชอบฉบับ 2550 ส่วน กรธ. ก็ต้องพยายามร่างให้ถูกใจ แป๊ะ มากที่สุด เนื้อหาจึงยุ่งๆ เข้าไว้ คุมนั่นนี่ ทำท่าอีหรอบเดียวกับ ฉบับบวรศักดิ์...


คดียากๆ ทำมาแล้วมากมาย แต่พอกับ ทุจริตโครงการก่อสร้าง 396 โรงพัก มูลค่าเสียหายเกือบ 6 พันล้าน ไฉน วิชา มหาคุณ ป.ป.ช. หัวหน้าทีมไต่สวน อ้างซับซ้อน เรื่องตรวจสอบเส้นทางการเงิน ทั้งที่วิธีการโกงก็รูปแบบเก่าๆ เอกชนผู้ประมูลงานก็รายเดียว ชาวบ้านไม่ได้กินแกลบ...

น่าเห็นใจเป็นที่สุด ชาวสวนยางภาคใต้ ทำหนังสือถึง นายกฯ บิ๊กตู่ เรียกร้องช่วยเหลือปัญหาราคาตกต่ำ อยากได้ ไม่ต่ำกว่า ก.ก.ละ 50 บาท ปัจจุบันลดฮวบเฉียด 3 โลร้อย ต่างลิบลับกับ 1-2 ปีก่อน ให้ 120 บาทต่อ ก.ก. ยังไม่พอใจ เพราะการเมืองอย่างอคติ ตามแผนชัตดาวน์ประเทศ...


นับวันยิ่งกลายเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ต่อสู้ทางประชาธิปไตยไปแล้ว ลุงนวมทอง ไพรวัลย์ โชเฟอร์แท็กซี่ชนรถถัง ยุครัฐประหาร 19 กันยาฯ 2549 เมื่อ 31 ตุลาฯ ที่ผ่านมา มีพิธีรำลึกการจากไปครบรอบ 9 ปี บริเวณจุดที่ผูกคอตาย กับแยกคอกวัว ถนนราชดำเนิน ผ่านไปราบรื่นไม่มีเหตุวุ่นวาย ควรแล้วที่ รัฐบาล-คสช. ปล่อยให้ กลุ่มพลังประชาธิปไตย มีรูระบายบ้าง...


กลับมาปะทุอีก วางระเบิดจังหวัดชายแดนภาคใต้ ถล่มถี่ 3-4 วันติด หรือตีความ ต้องการสื่อไปยังรัฐบาลส่วนกลาง ถึงข้อตกลง ข้อเรียกร้องของฝ่ายขบวนการจากเวทีพูดคุยกันในมาเลเซียก่อนหน้านี้ ที่เงียบกริบ...

ข่าวข้น คนเข้ม วันนี้, 09.30 น. กิตติพันธ์ อนุตรโสตถิ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานธุรกิจขนาดใหญ่ ธนาคารกรุงไทย กฤษน์ ศรีชวาลา ประธานกรรมการบริหาร บริษัทในกลุ่มฟิโก้ และ นริศ เชยกลิ่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) จัดพิธีลงนามการเข้าซื้อกิจการ Jupiter Hotels ในสหราชอาณาจักร ห้องบอลรูม 1 พูลแมน แกรนด์ สุขุมวิท 21... 10.30 น. แถลงข่าว "บนเส้นทางวิศวกรรม ครั้งที่ 10" พบ "คุณลำไย" หุ่นยนต์ไทยรับใช้งานบ้านที่ติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลก ห้องประชุมอาคารนานาชาติ คณะวิศวกรรมศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์ บางเขน... 14.30 น. พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม ประธานพิธีเปิดสถาบันอนุญาโตตุลาการ และปาฐกถาเรื่อง "กระบวนการระงับข้อพิพาททางเลือกฯ" ชั้น 26 อาคารภิรัชฯ เอ็มควอเทียร์...


ที่มา.http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1446473497
ต่างมุม-ม.44กับคดีจำนำข้าว
วันที่ 03 พฤศจิกายน  พ.ศ. 2558 เวลา 00:52 น.




มีความเห็นที่แตกต่างจากรัฐบาล และคสช. ต่อการใช้อำนาจตามมาตรา 44 ต่ออายุและคุ้มครองบุคคล-คณะบุคคล ที่บริหารจัดการข้าวในสต๊อกและดำเนินการหาผู้รับผิดชอบ

แม้รัฐบาลชี้แจงว่ามาตรการดังกล่าวเพื่อช่วยการระบายข้าวเร็วขึ้น และปกป้องเฉพาะเจ้าหน้าที่ที่ทำตามหน้าที่อย่างสุจริต

แต่ก็ยังมีข้อถกเถียงถึงการใช้อำนาจที่ถือเป็นที่สุด ที่นำมาใช้กับการสอบสวนคดีความ












เอกชัย ไชยนุวัติ
นักวิชาการด้านนิติศาสตร์










   กรณีใช้มาตรา 44 เพื่อคุ้มครองบุคคลและคณะบุคคลคดีจำนำข้าว มองว่าไม่มีความจำเป็นต้องใช้มาตรา 44 คุ้มครองผู้ที่รับผิดชอบ การสอบสวนความผิดปกติ หรือทุจริตในโครงการรับจำนำข้าวที่ผ่านมา

   เนื่องจากถ้าอ่านประกาศ คสช. ฉบับนี้จะต้องมี 2 เงื่อนไขที่สำคัญ คือ 1. เจ้าหน้าที่นั้นต้องมีอำนาจหน้าที่

   และ 2.ต้องทำโดยสุจริต ดังนั้น แม้จะไม่ใช้มาตรา 44 เจ้าหน้าที่ก็พ้นความรับผิดชอบอยู่ดี เพราะเป็นการทำหน้าที่ตามกฎหมาย










   เพียงแต่การประกาศใช้มาตรา 44 เพื่อให้พ้นจากการตรวจสอบจากองค์กรใดๆ ทั้งสิ้น ในทางกฎหมายจึงไม่จำเป็นต้องใช้

   ส่วนทางการเมืองนั้นคำสั่งฉบับนี้ทำให้ทัศนคติของคนไทยโดยทั่วไป เกิดความเคลือบแคลงสงสัยต่อการดำเนินการสอบสวนโครงการจำนำข้าว มาตรา 44 ที่ใช้นี้ทำให้เกิดความสงสัย

   ส่วนสาเหตุที่มีการหยิบยกมาตรา 44 มาใช้กับคดีโครงการจำนำข้าวนั้นไม่ทราบว่ามาจากสาเหตุใด แต่คุณสมบัติพิเศษของมาตรา 44 คือความเป็นที่สุด หมายความว่าในทางกฎหมายไม่มีผู้ใดจะไปโต้แย้งประกาศนี้ได้


   ในส่วนของความจำเป็นที่ต้องใช้มาตรา 44 ต่อกรณีดังกล่าว มองว่าคดีโครงการรับจำนำข้าวเป็นการตรวจสอบตามกระบวนการทางกฎหมาย ที่มีผู้กล่าวหา ประเด็นที่กล่าวหา ผู้โต้แย้งสิทธิ

    และองค์การภายนอกซึ่งสำคัญมาก ที่ต้องตรวจสอบข้อพิพาทนี้โดยยุติธรรมและต้องใช้กฎหมายเท่านั้นในการตัดสินข้อพิพาท ซึ่งมาตรา 44 ทำให้ข้อสุดท้ายนี้หายไป

    ทั้งนี้ เชื่อว่าคนทั่วไปคงมีข้อสงสัยว่าทำไมต้องใช้มาตรา 44 กับกรณีนี้ ในเมื่อเป็นคดีที่อยู่ในศาลแล้ว


   จึงน่าเป็นห่วงเรื่องความไว้วางใจ ของประชาชนต่อผู้มีอำนาจ





สมบัติ บุญงามอนงค์
บ.ก.ลายจุด


   มองได้ 2 แง่มุม แง่แรกการออกมาตรการนี้อาจ เกิดปัญหาในกระบวนการทำงานของทางรัฐบาล เจ้าหน้าที่อาจไม่ยอมปฏิบัติตามเนื่องจากกลัวว่าจะถูกฟ้องร้องกลับหากไปจบที่ศาลชี้ว่าไม่ผิด

   เพราะกรณีนี้นับว่าแปลกประหลาด สุ่มเสี่ยงจะถูกฟ้องกลับได้สูง รัฐบาลจึงต้องหามาตรการเพื่อคุ้มครองป้องกันให้ผู้ปฏิบัติงานไม่มีความกังวลที่จะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่

   ส่วนอีกแง่หนึ่งมองว่าเรื่องนี้จะเป็นปัญหาทางหลักนิติธรรม อะไรที่รัฐบาลดำเนินการแล้วถูกก็จะมีความชอบธรรม แต่สำหรับกรณีนี้เหมือนชกอยู่ฝ่ายเดียว การใช้มาตรา 44 ออกคำสั่งรอบนี้ทำให้ 2 ฝั่ง ยืนอยู่บนคนละกติกา


   การใช้ ม.44 โดยอ้างว่าเป็นกฎหมายโดยไม่ต้องผ่านกระบวนการทางนิติบัญญัติ แล้วไปทำลายกฎหมายตามกระบวนการยุติธรรม ประโยคที่ว่า “ทุกคนต้องทำตามกฎหมาย” จะไร้ความศักดิ์สิทธิ์และกลายเป็นเรื่องตลกเพราะมันทำลายหลักการ

   เช่น ใช้อำนาจพิเศษนี้เพื่อทำให้โครงการรัฐที่ดำเนินอยู่ไม่ต้องสำรวจผลกระทบทาง สิ่งแวดล้อม ทั้งที่กฎหมายบังคับเอาไว้ แต่กรณีจำนำข้าวจะกลายเป็นปัญหามากกว่า

   อีกความรู้สึกเหมือนว่าคดีจำนำข้าวที่รัฐบาลกำลังผลักดันการฟ้องร้องอยู่เกิดมีความไม่มั่นใจ เหมือนรัฐบาลเองก็รับรู้อยู่แล้วว่าฟ้องไปก็จะแพ้ จึงต้องออกคำสั่งคุ้มครองผู้ปฏิบัติงาน


   ผลจากการฟ้องร้องนี้น่าจะมีประโยชน์เพียงการใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองเท่านั้น เพราะในทางกฎหมาย หากคดีนี้ถูกชี้ว่าผิดก็จะยิ่งกลายเป็นบรรทัดฐานที่จะเป็นปัญหาในอนาคต เช่น หากใครบอกว่าการบินไทยทำให้เกิดความเสียหายปีละ 50,000 ล้านบาท ก็สามารถไปฟ้องรัฐบาลได้ใช่หรือไม่ เพราะความผิดทางกฎหมายต้องชี้ชัดว่าผิดตรงไหนอย่างไร

   ไม่เพียงเท่านี้ หากพิจารณาโครงการรัฐแต่ละอย่างจะพบว่าแทบจะไม่มีโครงการใดที่ไม่เกิดความเสียหาย หมายความว่าเราฟ้องทุกโครงการของรัฐบาลได้หรือไม่
   
  เชื่อว่ากรณีนี้จะส่งผลให้มีแรงกระเพื่อม เพราะปฏิกิริยาจากฝ่ายการเมืองอย่างพรรคเพื่อไทยชัดเจนว่าไม่พอใจ ซึ่งก็ไม่แน่ว่าอาจจะบานปลายหรือไม่




สมลักษณ์ จัดกระบวนพล
อดีตกรรมการป.ป.ช.


   คำสั่งตามมาตรา 44 เป็นมาตราที่ให้อำนาจไว้กับคนคนเดียว ที่สามารถมีคำสั่งในทางใดก็ได้ไม่ว่าจะเป็นทางบริหาร นิติบัญญัติและตุลาการ หมายความว่าอะไรที่เป็นความผิดก็สามารถสั่งให้ไม่ผิดได้

   ถ้าดูตามกฎหมายก็ต้องบอกว่ามาตรานี้ขัดต่อหลักนิติธรรม นักกฎหมายทั่วไปก็คงไม่อยากให้ใช้ไม่ว่าในกรณีใด แต่เข้าใจว่าในสถานการณ์ บ้านเมืองที่ไม่ปกติ ผู้มีอำนาจย่อมต้องการมีเครื่องมือที่ใช้บริหารจัดการประเทศ

   แต่สิ่งที่บรรดานักกฎหมายเคยเตือนมาตลอดว่าการใช้อำนาจตามมาตรานี้ควรใช้เฉพาะกรณีจำเป็นจริงๆ อย่านำมาใช้บ่อย โดยเฉพาะการไปแทรกแซงอำนาจตุลาการในกระบวนการยุติธรรม เพราะอาจจะกลายมาเป็นสิ่งที่ทำจนเป็นบรรทัดฐานได้


   ซึ่งตามหลักกระบวนการยุติธรรมทั่วไปที่เคยมีมา หากมีการตรวจสอบในเรื่องใดแล้วพบว่าไม่ได้เป็นไปตามที่กล่าวหา ผู้เสียหายหรือจำเลยย่อมมีสิทธิ์จะฟ้องร้อง

   การป้องกันการฟ้องกลับเช่นนี้เหมือนกับเป็นการทำลายกระบวนการยุติธรรมอย่างร้ายแรง เพราะไปปิดกั้นโอกาสผู้เสียหายไม่ให้มีหนทางเรียกร้องสิทธิ จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่ต้องระมัดระวังว่าจะไปกระทำการใดๆ ที่เป็นการละเมิดสิทธิเสรีภาพในกระบวน การยุติธรรม

   อย่างไรก็ตาม ยังไม่แน่ชัดว่าคำสั่งนี้จะอยู่ต่อไปหรือไม่ แต่ฝ่ายที่มีอำนาจพิจารณาว่าอาจเป็นการขัดต่อกระบวนการยุติธรรมก็คือศาล แต่อยู่ที่ว่าจะมีใครทำหรือไม่


   ส่วนเหตุการณ์ลักษณะนี้จะมีนัยยะอะไรหรือไม่นั้น ไม่ทราบข้อเท็จจริง แต่ภาษากฎหมายจะมีคำพูดในทำนองว่ากรรมย่อมเป็นเครื่องชี้เจตนา

http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1446483909


ครม.อนุมัติ1.2หมื่นล้านช่วยชาวสวนยาง คงไม่มีใครคิด"ขาดทุน-รัฐเสียหาย"นะจ๊ะ
วันที่ 05 พฤศจิกายน  พ.ศ. 2558 เวลา 00:01 น.

ข่าวข้นคนเข้ม

สันตะวา



หนังสือพิมพ์ข่าวสด สิทธิ เสรีภาพ ประชาธิปไตย เป็นของปวงชนชาวไทยทุกคน ฉบับนี้ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ 5 พฤศจิกายน พุทธศักราช 2558 แรม 9 ค่ำ เดือน 11 ปีมะแม...










สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯไปทรงเปิดนิทรรศการและพระราชทานรางวัลการประกวดภาพถ่ายทั่วประเทศชิง ถ้วยพระราชทาน ครั้งที่ 28 ณ แฟชั่น ฮอลล์ ศูนย์การค้าสยามพารากอน เวลา 09.00 น....










ประเทศไทยมาถึงจุด โพล ขออนุญาตเอ่ยนาม "สวนดุสิตโพล" ระบุ คนไทยหนุนท่านผู้นำปิดประเทศ ด้วยความเคารพในสิทธิ เสรีภาพของทุกความคิดเห็น ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อแล้วว่า ประเทศไทยยังไม่พร้อมกับประชาธิปไตย อย่างที่พยายามให้เชื่อมาตั้งแต่ปี 2475 !!?...

ปล่อย พี่ป้อม ประวิตรออกมาช่วยแปลไทยเป็นไทย หยุดความแตกตื่น โกลาหล วิตกกังวลได้ระดับหนึ่ง หลังประชุมครม.วันอังคาร นายกฯประยุทธ์ เลยปิดประเด็นปิดประเทศด้วยประโยค "ผมจะปิดทำไมเล่า" จบนะ...










ปู่มีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรธ. อธิบาย การเลือกตั้งส.ส.แบบจัดสรร ปันส่วนผสม ที่หมายมั่นปั้นมือบังคับใช้ในรธน.ใหม่ "ครอบครัวหนึ่งมีสมาชิก 10 คน แต่ละวันมีกับข้าวได้เพียง อย่างเดียว แล้วให้ลงคะแนนกัน 4 คนกินแกงเผ็ด, 3 คนกินแกงจืด, 2 คนกินผัดผัก, 1 คนไม่ลงคะแนน ถ้าใช้หลักการนี้ทุกคนต้องกินแกงเผ็ดไปทั้งอาทิตย์ ดังนั้นจึงต้องหาแนวทางว่าจะทำอย่างไรใน 1 อาทิตย์ จะมีแกงจืด 2 วัน ผัดผัก 1 วัน ที่เหลือจะกินแกงเผ็ดไปอีก 4 วันก็ไม่ว่ากัน" นี่คือการอธิบายของ นักกฎหมาย หรือ นักโต้วาที กันหนอ...


เอา รธน. เปรียบ ของกิน อย่างนี้ เลยเกิดคำถาม ทำไมต้องตั้งต้นด้วยโจทย์ "มีกับข้าวอย่างเดียว" แล้วบังคับให้เลือก (เพื่อจะได้อ้างถึงจุดอ่อน จุดด้อย จุดเสีย) ทำไมไม่ตั้งโจทย์ "มีกับข้าวหลากหลาย" แบบ พาแลงอีสาน ขันโตกเหนือ สำรับใต้ หรือ โต๊ะจีน โต๊ะแขก บุฟเฟ่ต์ฝรั่ง ไม่ว่าจะเลือกแบบใดก็ได้กิน กับข้าวคุณภาพครบ 5 หมู่ ตั้งโจทย์แบบ ปู่มีชัย ฟังไปฟังมาไม่ต่าง อดีตนายกฯคนหนึ่ง เคยยกตัวอย่าง...

หมู่บ้านโจรลงมติกัน แล้วเสียงข้างมากของโจร ถือว่าชอบธรรมอย่างนั้นหรือ... พูดไปพูดมาก็เห็นประชาชนเจ้าของประเทศ จน โง่ เลือกไม่เป็น...


ครม.อนุมัติงบ 12,000 ล้านบาท ชดเชยต้นทุนการผลิตชาวสวนยาง โดยแบ่งให้ เจ้าของสวน 900 บาท คนกรีด 600 บาท คิดเป็นสัดส่วน 60 ต่อ 40 โดยชดเชยเฉพาะผู้มีเอกสารสิทธิ ขอแสดงความยินดีกับชาวสวนยางที่ราคากำลังตกต่ำหนัก 3 กิโลฯ ไม่ถึง 100 บาท การช่วยเหลือครั้งนี้หวังว่าคงไม่มีใครคิดเรื่อง ขาดทุน-กำไร-ไม่คุ้มค่า-ทำให้รัฐเสียหาย นะจ๊ะ...


ข่าวข้น คนเข้ม วันนี้, 13.00 น. พจนา ภาคสุข ผู้บริหารบริษัท สยาม เฮลท์ กรุ๊ป จำกัด เปิดตัว "ปาล์มเมอร์" ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวยอดขายอันดับ 1 จากสหรัฐ ห้องพิมานแมน อนันตรา สยาม... 13.30 น. วิจารย์ สิมาฉายา รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ และ กรัณย์ แสงไฟ ผู้บริหาร บริษัท คิมเบอร์ลี่ย์-คล๊าค ประเทศไทย จำกัด เปิดงาน Reduce Today Respect Tomorrow ปี 8 มอบประกาศเกียรติคุณให้องค์กรที่เลือกใช้กระดาษทิชชูที่ผ่านกระบวนการผลิต ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ห้องเลิศวนาลัย สวิสโฮเต็ล ปาร์คนายเลิศ... 14.00 น. สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจ ศศินทร์ ร่วมกับ เอออน ฮิววิท ประเทศไทย เปิดตัวโครงการค้นหาสุดยอดนายจ้างดีเด่นประจำปี 2559 ห้องรอยัลฮอลล์ ศศปาฐศาลา ศศินทร์...


ที่มา..http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1446651322


ทบ.ตั้ง กก.สอบสร้างอุทยานราชภักดิ์ เร่ง 1 สัปดาห์รู้ผล ปลด “เสธ.โจ้” พ้นราชการ

                                                                                       
                            ที่มา : http://manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9580000125864


                                                            โฆษกกองทัพบกเผยสั่งตั้งกรรมการสอบโครงการอุทยานราชภักดิ์ เร่งให้เสร็จใน 1 สัปดาห์ ยันยึดข้อเท็จจริง กำลังพลผิดพร้อมจัดการ สั่งปลด “เสธ.โจ้” พ้นราชการแล้ว
      
       วันนี้ (12 พ.ย.) พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีอุทยานราชภักดิ์ว่า ข้อมูลที่มีการนำเสนอในช่วงที่ผ่านมาหลายข้อมูลอาจยังไม่ได้ผ่านกระบวนการพิสูจน์ที่สมบูรณ์อย่างเป็นทางการจากผู้ปฏิบัติ และผู้ที่มีหน้าที่โดยตรง ทำให้หลายข้อมูลอาจคลาดเคลื่อนได้จนอาจกระทบต่อภาพลักษณ์องค์กร
      
       “ทั้งนี้ เมื่อมีข้อกังวลสงสัยขึ้น แม้ว่าจะเป็นโครงการที่ไม่ได้ใช้งบประมาณของแผ่นดินก็ตาม แต่เพื่อให้เกิดความมั่นใจบนพื้นฐานของข้อเท็จจริง กองทัพบกจึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบโครงการอุทยานราชภักดิ์เพื่อทำการตรวจสอบการดำเนินโครงการอุทยานราชภักดิ์ในทุกด้าน อย่างเร่งด่วนแล้ว ทางผู้บังคับบัญชายังได้มีการขีดกรอบการทำงานไว้ คือ จะพยายามทำงานให้แล้วเสร็จภายใน 1 สัปดาห์”
      
       พ.อ.วินธัยกล่าวอีกว่า ขอให้เชื่อมั่นว่าการดำเนินการจะอยู่บนพื้นฐานข้อเท็จจริงที่จะต้องไม่มีการบิดเบือน โดยหากพบว่ามีกำลังพลไปการดำเนินการใดๆ ที่ไม่เหมาะสม กองทัพบกจะดำเนินการไปตามระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างแน่นอน
      
       สำหรับ พ.อ.คชาชาติ บุญดี นายทหารฝ่ายเสนาธิการประจำกองทัพภาคที่ 3 หลังจากที่มีการแจ้งข้อหามาแล้วนั้น ทางต้นสังกัดได้เสนอขอให้ปลดออกจากราชการ เนื่องจากต้องหาคดีอาญาฯ และได้มีการหลบหนี ปัจจุบันจึงได้มีคำสั่งกระทรวงกลาโหมปลดออกจากราชการแล้ว
      
       รายงานข่าวเปิดเผยว่า หากกรรมการตรวจพบว่าทางกองทัพบกเกิดความเสียในกรณีดังกล่าวก็พร้อมที่จะแจ้งความเพื่อให้ดำเนินคดีต่อไป                                                                        
                                                            

kit007 ตอบกลับเมื่อ 2015-11-14 09:37
ทบ.ตั้ง กก.สอบสร้างอุทยานราชภักดิ์ เร่ง 1 สัปดาห์รู้ผ ...

ขอบคุณครับ
ข่าว / โลกด่วน!! สื่อฝรั่งเศสรายงานยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์โจมตีในกรุงปารีสอาจสูงกว่า 100 คน
ปธน.ฝรั่งเศสประกาศภาวะฉุกเฉินทั่วประเทศและสั่งปิดชายแดนหลังเหตุโจมตีหลายแห่งในกรุงปารีส




Spectators rush onto the field at Stade de France stadium after an explosion nearby, Nov. 13, 2015.












14.11.2015


สำนักข่าว AFP ของฝรั่งเศสรายงานว่า กลุ่มคนร้ายก่อเหตุยิงกราดและระเบิดหลายจุดในกรุงปารีสทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วราว 100 ราย
สำนักข่าว AFP รายงานด้วยว่าเหตุระเบิด 2 ครั้งบริเวณใกล้กับสนามกีฬาแห่งชาติฝรั่งเศสนั้น ได้รับการยืนยันว่าเป็นการก่อเหตุระเบิดพลีชีพ (Suicide Bomber)

ด้านสำนักข่าว AP รายงานว่า คนร้ายอย่างน้อย 2 รายถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสังหารภายในบริเวณโรงละคร Bataclan ในกรุงปารีส ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตจากการโจมตีทั่วกรุงปารีสยังมีรายงานเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะที่บริเวณโรงละคร Bataclan สถานที่จัดแสดงคอนเสริ์ทของวง Eagles of Death Metal วงร็อค สัญชาติอเมริกัน ที่กลุ่มคนร้ายใช้อาวุธสงครามกราดยิงระหว่างการแสดง พบผู้เสียชีวิตมากกว่า 100 ราย


Terror attacks in Paris


ประธานาธิบดี ฟร็องซัว เออล็องด์ ของฝรั่งเศส ประกาศภาวะฉุกเฉินทั่วประเทศ และสั่งปิดชายแดนทุกจุด ผ่านสถานีโทรทัศน์ที่ออกอากาศทั่วฝรั่งเศส หลังเกิดเหตุกลุ่มมือปืนกราดยิงผู้คนที่ร้านอาหารและโรงละครใจกลางกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส





[url=]▶[/url]
0:00:00













นอกจากนี้ยังมีรายงานการเกิดระเบิด บริเวณใกล้กับสนามกีฬาแห่งชาติฝรั่งเศส Stade de France ทางเหนือของกรุงปารีส ซึ่งกำลังมีการแข่งขันฟุตบอลระหว่างทีมชาติฝรั่งเศสและทีมชาติเยอรมนี ซึ่งเบื้องต้นยังไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บ

รายงานแจ้งเพิ่มเติมว่า ประธานาธิบดี ฟร็องซัว เออล็องด์ ของฝรั่งเศส ต้องยกเลิกการชมการแข่งขันฟุตบอลนัดดังกล่าวทันที และเรียกประชุมด้วนเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของฝรั่งเศสอย่างเร่งด่วน ที่ห้องประชุมกระทรวงมหาดไทยของฝรั่งเศส

การโจมตีในครั้งนี้เกิดขึ้นก่อนหน้าไม่กี่สัปดาห์ ที่ผู้นำจากประเทศต่างๆจะมารวมตัวเพื่อร่วมการประชุมที่จัดโดยองค์การสหประชาชาติ ว่าด้วยเรื่องภาวะโลกร้อน


  • เเ
    Equipa médica junto das vítimas de tiroteio no restaurante Petit Cambodge, Paris, Nov. 13, 2015.


[url=]◀[/url]


[url=]▶[/url]

[url=]<[/url]
[url=]▶[/url]
[url=]>[/url]
1/9

[url=]⇱[/url]
[url=]ปิดคำบรรยาย[/url]











เครดิต เรื่อง ภาพ ว้อยซ์ ออฟ อเมริกา








โลกนี้คงถึงช่วงเวลาแห่งความหวาดกลัวจริงๆแล้วหรือนี่...


รธน.ฝืนธรรมชาติ สุมไฟ "การเมือง" ยิ่งนาน-ยิ่งร้อน

การร่างรัฐธรรมนูญภายใต้คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ หรือ กรธ. นำโดย นายมีชัย ฤชุพันธุ์  ยังคงความร้อนแรงทุกขณะจิต

ก่อนหน้านี้ผลการศึกษาของอนุกรรมการ กรธ. เรื่องระบบการเลือกตั้งที่เห็นชอบให้ใช้บัตรเลือกตั้งเดียว แต่ใช้คะแนนเลือกตั้งมาคัด  ส.ส.ทั้งระบบเขตและระบบบัญชีรายชื่อ

ก่อเกิดเป็นความเห็นที่แย้งขัด แต่ด้วยลีลาของ กรธ. ที่เยือกเย็น แยบยล จึงยึดที่จะผลักดันระบบการเลือกตั้งแบบนั้น

เพียงแต่ในรายละเอียด  อาจมีเปลี่ยนแปลง เช่น คะแนนที่ใช้คัด ส.ส.บัญชีรายชื่อ จะนำเอาคะแนนเขตเฉพาะผู้สมัครที่แพ้  หรือจะนำเอาคะแนนทั้งหมดมาใช้

หรือจะมีอะไรอื่นปลีกย่อยก็สุดแท้แต่จะดำเนินการ

หากในที่สุุด กรธ. ก็ยังยึดที่จะใช้บัตรเลือกตั้งเดียว และใช้ทุกคะแนนเสียง

นำมาเลือก  ส.ส.เขต และเลือก ส.ส.บัญชีรายชื่อ

ยังยืนยันที่จะเลือกระบบ "จัดสรรปันส่วนผสม" อยู่ดี..



การร่างรัฐธรรมนูญในวาระต่อมา มีขีดขั้นการพิจารณา  โดยวกไปศึกษาและบัญญัติองค์ประกอบพร้อมหน้าที่ขององค์กรอิสระ

มีการกำหนดให้ กกต. มีจำนวน 7 คน  มีวาระการดำรงตำแหน่ง 7 ปี

กำหนดให้ศาลเป็นผู้พิจารณาใบแดง

ขณะเดียวกัน  กรธ.ก็วกกลับมาพิจารณาผลการศึกษาของอนุกรรมการ กรธ. เรื่องที่มานายกรัฐมนตรีอีกครั้ง

คณะอนุกรรมการ กรธ. เสนอ 3 สูตรการเลือกนายกรัฐมนตรี

สูตรแรก นายกรัฐมนตรีมาจาก ส.ส. คือ ต้องลงเลือกตั้งด้วย  แบบนี้ประเทศออสเตรเลีย ประเทศสิงคโปร์ ใช้อยู่

ส่วนไทยใช้ในรัฐธรรมนูญปี 2475 ปี 2517 ปี 2534 ปี 2540 และปี 2550

สูตรสอง นายกรัฐมนตรีมาจาก ส.ส.หรือคนนอกก็ได้ แบบนี้ประเทศอังกฤษใช้กันอยู่

ส่วนไทยใช้ในรัฐธรรมนูญปี 2502 ปี 2511 ปี 2515 และปี 2519

สูตรสาม  นายกรัฐมนตรีมาจากบัญชีรายชื่อที่พรรคการเมืองประกาศไว้ก่อนเลือกตั้ง พรรคละไม่เกิน 5 คน

หลังจากเลือกตั้งกันแล้วให้ ส.ส.เลือกบุคคลตามบัญชีที่ประกาศไว้

แบบนี้ประเทศที่ใช้คืออิสราเอล  ส่วนไทยยังไม่เคยลอง

กรธ.พิจารณากันแล้วมีแนวโน้มว่าสนใจจะใช้สูตรอิสราเอล ทำให้หลายฝ่าย  โดยเฉพาะฝ่ายการเมืองออกมาคัดค้าน และแสดงความข้องใจในมุมมองหลากหลาย

รวมทั้งข้องใจว่าทำไมต้องมี "คนนอก" ด้วย

น่าสังเกตว่า ขณะที่ กรธ. ขับเคลื่อนรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ไปเรื่อยๆ  ได้ปรากฏเสียงคัดค้านดังขึ้นเป็นรายทาง

ทุกคนทุกพรรคต่างมีความเห็น

พรรคเพื่อไทยไม่เห็นด้วยกับแนวทางที่กรธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ ทั้งระบบเลือกตั้ง และที่มานายกรัฐมนตรี

พรรคประชาธิปัตย์ยังนำเสนอในนามพรรคแบบตามหลักการ  ประชาธิปไตย

พรรคชาติพัฒนาเห็นด้วยกับการเปิดโอกาสให้มีนายกฯคนนอก หากแต่ต้องใช้ในห้วงวิกฤต  มีเวลากำหนด และรัฐสภาเป็นผู้เลือก

เป็นต้น

การแสดงความคิดเห็นในนามพรรค  ยังไม่รุนแรงเท่าการให้ความเห็นเป็นการส่วนตัว

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำ กปปส. วิจารณ์  ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อว่า "ไม่มีประโยชน์"

ส่วน นายจาตุรนต์ ฉายแสง แกนนำพรรคเพื่อไทย มองว่า  ระบบเลือกตั้งใหม่ ต้องการทำให้พรรคการเมืองโดยรวมอ่อนแอ  และเป็นเงื่อนไขที่จะให้ได้ประโยชน์ในการได้คนนอกมาเป็น

นายกฯ

แต่คนที่วิจารณ์ออกมารุนแรงที่สุดเห็นจะเป็น นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ แกนนำพรรคประชาธิปัตย์  ที่เปรียบการเสนอชื่อ "คนนอก" มาเป็นนายกรัฐมนตรีว่าผิดธรรมชาติ

เป็นความคิดวิตถาร!

นายนิพิฏฐ์แสดงความคิดเห็นถึงระบบเลือกตั้งแบบใหม่ที่ให้ประชาชนกาบัตรเลือกตั้ง1ใบ ได้ทั้ง ส.ส.เขต ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายกรัฐมนตรี ในวันต่อมาว่าเหมือนกาแฟสำเร็จรูป "ทรี อิน  วัน"

นายนิพิฏฐ์ตอกย้ำว่า ความคิดเช่นนี้ "วิตถารหนักเข้าไปอีก"

เสียงวิพากษ์วิจารณ์ระบบเลือกตั้ง  และระบบการเลือกนายกรัฐมนตรีที่ดังกระหึ่มขึ้น ทำให้ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ต้องนัดแถลงด่วน  เพื่อทำความเข้าใจ

ปรากฏการณ์นี้ย่อมวัดอุณหภูมิทางการเมืองในปัจจุบันได้

ร้อนขึ้น  ร้อนขึ้น เป็นลำดับ



ขณะที่ประเทศไทยกำลังครื้นเครงกับการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่  ที่ประเทศพม่ามีการจัดการเลือกตั้งขึ้นมาแล้ว

การเลือกตั้งครั้งนี้มีประชาชนชาวพม่าใช้สิทธิเลือกตั้ง 80 เปอร์เซ็นต์  ผลการเลือกตั้งครั้งนี้พรรคเอ็นแอลดี ของ นางออง ซาน ซูจี กวาดที่นั่ง 70 กว่าเปอร์เซ็นต์

เป็นการเลือกตั้งที่นานาชาติตอบรับด้วยท่าทีเป็นมิตร  มีน้ำเสียงแสดงความยินดีดังกึกก้อง

รัฐบาลทหารพม่าเองก็ออกมายอมรับ  ทำให้ภาพลักษณ์ของพม่าในสายตาสากลเป็นไปในทางบวก

ถูกมองในมุมบวกเพราะพม่ายอมรับฟังเสียงประชาชน

เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศไทยหลังจากวันที่22 พฤษภาคม 2557 นานาชาติมีมุมมองในเชิงลบ

เมื่อฟังจากเสียงวิพากษ์วิจารณ์นับตั้งแต่มีรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวเกิดขึ้นก็ออกมาในเชิงตั้งคำถาม

โดยเฉพาะเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในมาตรา35

เรื่อยมาจนถึงเสียงวิพากษ์วิจารณ์บทบัญญัติในร่างรัฐธรรมนูญฉบับที่คณะกรรมาธิการยกร่าง ซึ่งมี นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ เป็นประธาน

รวมถึงเสียงวิพากษ์วิจารณ์ร่างรัฐธรรมนูญที่  กรธ.กำลังดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน

เสียงที่วิจารณ์  ฟังคล้ายกับว่าฝ่ายมีอำนาจไม่อยากให้ฝ่ายที่เพิ่งถูกยึดอำนาจได้อำนาจกลับคืน

แม้ประเทศไทยต้องมีประชาธิปไตยประเทศไทยต้องมีเลือกตั้ง แต่ผลการเลือกตั้งที่ออกมาต้องสอดคล้องกับความต้องการของผู้มีอำนาจ

แม้ว่าสิ่งที่ผู้มีอำนาจต้องการ อาจไม่ใช่สิ่งที่ประชาชนต้องการก็ตาม

ดังนั้น  หากผลที่ออกมาไม่ตรงตามความต้องการของประชาชน  ผลที่ปรากฏย่อมผิดธรรมชาติของประชาธิปไตย

ความผิดปกติอาจก่อให้ความขัดแย้ง  ความขัดแย้งจะนำไปสู่อุณหภูมิทางการเมืองที่รุ่มร้อน

ยิ่งปล่อยให้ความผิดปกติดำรงอยู่ได้นานเท่าใด ความร้อนก็จะยิ่งทวีมากขึ้น มากขึ้น เท่านั้น

มากขึ้นไปเรื่อยๆ จนไปถึงจุดหนึ่ง ซึ่งยากจะคาดเดาว่าไปถึงจุดใด

ระหว่างจุดเดือด  กับทะลุจุดเดือด

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1447564531
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้