ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

รวมเรื่องเล่าประสบการณ์เพื่อบูชาครู หลวงปู่ชื่น ติคญาโณ

[คัดลอกลิงก์]
31#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-3-27 17:40 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ประสบการณ์ของคุณต้อย

      เรื่องมันเกิดตอนใกล้รุ่งของวันทำงานวันหนึ่งของผมเอง
คืนนั้นผมอาราธนาพระนาคปรก 5 พลัง + ลูกแก้วมณีราชา (คู่กาย)
โดยตั้งจิตอธิษฐานไว้ว่าพรุ่งนี้จะขออาราธนาพระชุดนี้ออกไปทำงานสักหน่อย
ชุดที่ห้อยประจำคือ ชมตลาด + ลูกแก้วมณีราชา

จังหวะกึ่งหลับกึ่งตื่น เวลาประมาณ ตี5 กว่า ก็มีผู้ชาย รูปร่างสันทัด มองแล้วคุ้นหน้าคุ้นตามาก
พอเดินมาถึงใกล้ๆๆ จึงได้รู้ว่าเป็นอาจารย์สรายุทธ นั่นเอง
ผมก็เลยถือโอกาศปรึกษาอาจารย์ว่าจะขออาราธนาพระชุดนี้ออกไปทำงานจะเหมาะไหม ?
ท่านอาจารย์ก็ไม่ได้พูดอะไรแต่หยิบพระอีกองค์มามอบให้แทน
มองแวบแรกนั้น คล้ายๆจะเป็น พระอาถรรพ์ธรรมชาราเวทย์ พิมพ์เล็ก (ซึ่งของผมก็มีไว้บูชาอยู่เหมือนกัน)
...แล้วอาจารย์ก็หายไป ผมก็เลยสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมกับคำถามที่ยังค้างคาใจอีกมาก...
8.30 น.วันนั้นหลังจากนั่งทบทวนความฝันที่เกิดขึ้นผมก็เข้าไปนมัีสการหลวงปู่ที่สำนักและ
ปรึกษาท่านอาจารย์ถึงความฝันที่เกิดขึ้น
ท่านอาจารย์ก็ให้คำแนะนำว่า "พระชุดนี้ พระอาถรรพ์ธรรมราชาเวทย์ นี้ดีนะทางด้านค้าขาย ติดต่องานเป็นเมตตาในตัวด้วย"
ว่าแล้วงานก็เข้าผมสิครับ โทรศัพท์จากลูกค้าก็ดังขึ้น...

หลังจากวันนั้นผมก็อาราธนาุพระอาถรรพ์ธรรมราชา + ลูกแก้วมณีราชา ติดตัวไว้เสมอ (การงานก็เริ่มเข้าที่เข้าทาง)
ต้องขอกราบขอบคุณในความเมตตาของหลวงปู่ชื่น
ต้องขอขอบคุณ ความกรุณาของท่านอาจารย์สรายุทธ
ที่มีต่อศิษย์คนนี้
.
.
.
ปล.แล้วแบบนี้จะไม่ให้ผมรักและเคารพแบบหมดใจได้ไงละครับ
32#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-3-27 17:43 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ประสบการณ์ของพี่ AUD

      ช่วงเดือนที่ผ่านมาผมมีปัญหาต้องขายรถยนต์ไปครับ เงินที่ได้มาก็เก็บไว้เตรียมจะออกรถใหม่ ทุกวันนี้เวลาจะไปไหนก็จะต้องใช้มอเตอร์ไซค์ รู้สึกว่าอะไรมันก็ไม่ราบลื่นเลยครับ ทุกครั้งที่ผมขี่มอเตอร์ไซค์ ผมจะค่อนข้างละเอียดมากครับ ระวังตัวเต็มที่ จนมาถึงเมื่อวาน ช่วงเย็นวันอาทิตย์ ลูกค้าโทรมาสั่งสินค้าจัดเป็นลูกค้าเกรด A ของผมเลยครับ บอกว่าต้องการให้ส่งให้ด่วนในวันจันทร์ ใจก็คิดว่ายังทันต้องไปเอาของมาส่งได้ชัวร์ ฝนตกครับก็เลยรอฝนหยุด เพื่อความปลอดภัย ออกจากบ้านก็ประมาณ 1 ทุ่มครับ ผมขี่รถมอเตอร์ไซค์ออกจากบ้านรอบแรกไปได้ถึงน่าปากซอยแล้ว นึกขึ้นได้ว่าลืมหยิบเสื้อของลูกจะเอามาปักชื่อเดี๋ยวไม่ทันใส่วันพุธ ก็เลยกลับมาเอาที่บ้าน เสร็จแล้วก็ออกไปใหม่ จะแวะกดเงินที่ตู้ ATM หน้าปากซอย ปรากฎว่าลืมกระเป๋าที่ใส่บัตร ATM ครับ ต้องย้อนกลับไปที่บ้านอีก (นึกในใจว่า ลูกๆใครแกล้งพ่อรึป่าววะกำลังรีบ) คราวนี้ออกมาสมใจอยากครับ ขี่รถมอเตอร์ไซค์มาได้ครึ่งทาง ปรากฎว่ามีรถปิคอัพเลี้ยวตัดหน้าออกมาจากตลาดอย่างเร็ว....

.....ผมก็เลยต้องเบรคอย่างเต็มที่เลยครับ รถมอเตอไซค์ล้มครับ ทั้งตัวผมและรถไถลไปด้วยกัน โดยตัวผมตะแคงท่อนแขนด้านซ้าย ของผมเป็นจุดรับน้ำหนักตัว ส่วนตั้งแต่สะโพกด้ายซ้ายลงไปถึงขา รถมอเตอไซค์ทับอยู่ในช่วงที่ไถล ผมคิดว่าไม่น่าจะไกลครับ ระยะทางที่ตัวถูไปกับพื้นประมาณสัก 2 เมตรได้ ความรู้สึกตอนนั้น ทั้งเจ็บแขนและก็ขาด้านซ้าย รู้สึกว่าแสบเข้าไปถึงขั้วหัวใจเลย ใจก็คิดไปว่าถ้าเป็นอะไรไปพรุ่งนี้ใครจะมาทำงานให้ ใครจะมาดูลูกให้ หลวงปู่ช่วยผมด้วยครับ หลังจากนั้นเมื่อทุกอย่างนิ่งแล้ว ลุกไม่ขึ้นครับต้องนอนอยู่ในสภาพนั้น มีน้องๆเป็นวัยรุ่นแถวนั้นวิ่งเข้ามาแล้วยกรถที่ทับอยู่ออกให้ แล้วก็ประคองผมมานั่งอยู่ข้างๆทางครับ ....

น้องเค้าดูรถให้ แล้วก็บอกว่า "รถพี่ไม่เป็นไรเลย แต่ตัวพี่เดี๋ยวผมพาไปส่งโรงพยาบาลนะ"  
"ไม่เป็นไรมากครับ ไม่ต้องก็ได้เดี๋ยวขอนั่งพักสักครู่ ต้องรีบไปมีธุระ" บริเวณนั้นแสงไฟสลัวๆครับมองเห็นเสื้อยืดที่ผมใส่ไปบริเวณไหล่ซ้ายกับแขนซ้ายขาดรุ่งริ่งเลย แต่ที่แขนมองไม่เห็นครับว่าแผลเยอะขนาดไหนแต่เจ็บปวดมาก สักพักก็เลยขี่มอเตอร์ไซค์ต่อ กลัวใครเห็นแล้วจะตกใจก็เลยแวะเข้าห้องน้ำที่ปั้มน้ำมัน ที่อยู่ใกล้ๆเข้าไปล้างแขนล้างแผลก่อน..

เมื่อไปถึงก็ค่อยๆเปิดน้ำล้างแขนเบาๆ กลัวเจ็บครับ ไม่น่าเชื่อครับ
"แขนผมไม่เป็นอะไรเลย ไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วน " ส่วนขาที่โดนรถทับอยู่ ดูแล้วก็ไม่เป็นอะไรครับ ปกติทุกอย่าง

ทำให้ผมคิดว่า หลวงปู่ช่วยผมไว้อีกครั้งหนึ่งแล้ว  ขอบคุณครับ หลวงปู่ ขอบคุณครับอาจารย์
33#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-3-27 17:53 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ประสบการณ์ของคุณนก bigbird

หลังจากจบงานไหว้ครูไปได้รับเหรียญพร้อมด้วยกุมารหลายชีวิตมาอยู่ด้วยกัน
วันนี้วันทำงาน จบงานเช็คยอดเคลียร์บิลสรุป ได้เงินมาก้อนนึงที่พอจะเคลียร์หนี้สินต่างๆได้ซักส่วนนึงพอดี
รู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก เพราะเช้ามาตอนสวดมนต์เสร็จ
ก้อนั่งขอหลวงปู่กับพญานาคานาคีรวมไปถึงเด็กน้อยว่าให้เคลียร์หนี้สินได้ซักส่วนหนึ่งด้วยเถิด
แต่แลจากยอดแล้วก้อนนี้ไม่น่าหมดแน่ๆ แต่พอเคลียร์บิลเรียบร้อย
เงินก้อนนี้ได้พอดีกะที่ขอเอาไว้แถมยังเหลือไว้ใช้ด้วยอีกนิดหน่อย
ขอขอบพระคุณหลวงปู่ พญานาคานาคี เด็กน้อย
และที่ขาดไม่ได้เลยคือขอขอบพระคุณอาจารย์สรายุทธที่ได้มอบวัตถุมงคลต่างๆให้ศิย์คนนี้งับ

สาธุๆๆๆๆๆ {:3_59:}

34#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-3-27 17:59 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ประสบการณ์ของคุณ worapath

          ถึงคราวที่ต้องพูดถึงขุนแผนชมตลาด ในประสบการณ์ของผมบ้างแล้วครับ
หลังจากที่นำขุนแผนชมตลาดไปเลี่ยมมา ก็นำออกงานทันทีเลย
          วันที่ 1 ของการแขวนขุนแผนชมตลาด : เช้าวันจันทร์ ก่อนที่ผมจะขับรถออกจากคอนโด หญิงสาววัยกลางคนเป็นเจ้าหน้าที่สำนักงานคอนโดพี่เค้ามาทักมาชมว่า...
          วันนี้หน้าตาผ่องใสจัง
ผมก็ได้แต่อมยิ้ม เพราะร้อยวันพันปีไม่เคยทักกันเลย พอขับรถมาเห็นปั้มจึงแวะเติมน้ำมันก่อน ถือเป็นเคล็ดเล็กๆน้อยๆ แต่พอเติมเสร็จก็เลยวนรถมาจอดตรงหน้าร้านถ่ายเอกสารในปั้มกะว่าจะลงไปถ่ายเอกสารเผื่อไว้ซักชุด แต่กำลังจะดับเครื่องรู้สึกว่ามีคนมองเราอยู่ก็เลยหันไปดู โอ้แม่เจ้า.. ผมร้องหาพระเยซูเลยทันที   สิ่งที่ผมเห็นมันไม่แน่ใจว่าเป็นคนหรือนางฟ้ามาจุติในโลกานี้เพราะเธอช่างสวยเหลือเกิน สวยมากจริงๆ ผู้หญิงคนนั้นเธอนั่งอยู่ในร้านกาแฟคนเดียวเป็นร้านติดกับร้านถ่ายเอกสารนั้นพอดี ผมคิดอยู่นานว่าเธอยิ้มให้ผมหรือว่าเด็กปั้มกันแน่ เลยหันหลังไปดู ปรากฏว่าข้างหลังผมมันไม่มีใครเลยนี่นา คิดอยู่นานว่าจะลงจากรถท่าไหนดีถึงจะดูดี ก็ออกมันไปแบบธรรมดานี่ล่ะนะ ก็เปิดประตู ใจเอ๋ยทำไมมันทั้งตื่นทั้งเต้นอะไรย่างนี้ (นี่เราถือศิลปฏิบัติธรรมอยู่นะ เป็นเสียงฝั่งธรรมมะคอยเตือน แต่อีกฝั่งมารมันก็บอกว่าแค่เช็คเรดติ้งเท่านั้นเอง อย่าเยอะ ) พอลงจากรถ ผู้หญิงคนนั้นก็ยังมองผมอยู่เหมือนเช่นเดิม ผมไม่กล้าแม้แต่จะยิ้มตอบ มันเป็นอะไรก็ไม่รู้ช่างเสียมารยาทจริงๆเลยนะเรา พอเดินไปร้านถ่ายเอกสารร้านกลับยังไม่เปิดซะงั้น ไอ้เราอยากจะเข้าไปนั่งดื่มกาแฟก็กลัวจะไปสมัครงานที่นัดไว้ไม่ทัน เลยขึ้นรถไป ตัดสินใจอยู่นานว่าจะเลือกงานหรือสิ่งที่อยู่ตรงหน้าก่อนดีน๊า สายตาก็ไปเหลือบเห็นรูปหลวงปู่ชื่นแผ่นเล็กๆที่อาจารย์ให้มา อารมณ์ที่มีและจิตที่เกิดขึ้นที่คิดไปไหนต่อไหนนั้น มันหดหายไปทันทีเลย ถอยรถแล้วขับออกไปสายตาผู้หญิงคนนั้นคนนั้นก็ยังมองเราอยู่ เฮ้อ...
         พอถึงบริษัทที่นัดไว้ก็ไปติดต่อที่เค้าเตอร์ เจอเจ้าหน้าที่หน้าตาน่ารักแบบฮ่องกง ไต้หวันเลย น้องเค้าสอบถามและทักทายด้วยไมตรีที่แสนประทับใจเสียเหลือเกิน ผมก็ได้เอกสารมานั่งกรอกโดยไม่คิดอะไร ขณะเขียนใบสมัครอยู่นานน้องเค้าก็มาถามว่า..
         มีไรให้ช่วยไหมค่ะ
ผมหันไปมองหน้าน้องเค้าเห็นรอยยิ้มแล้วเล่นซะหัวใจละทวยเลย ผมเองก็บอกน้องเค้าว่า
         ไม่เป็นไรครับเขียนใกล้จะเสร็จแล้ว ขอบคุณมากนะครับ...
         ยินดีค่ะ  
พอผมกรอกใบสมัครเสร็จฝนเริ่มลงเม็ดแล้ว น้องคนนั้นถามว่า
        ฝนตกแล้วเดี๋ยวหนูกางร่มเดินไปส่งหน้าปากซอยนะค่ะ..
        ไม่เป็นไรครับผมขับรถมา
ผมเดินออกมากลางสายฝนที่ลงมาอย่างบางเบาเหมือนตัวเองเป็นพระเอกมิวสิควีดีโอพี่เบิร์ด ธงชัย ยังไงอย่างงั้นเลย พอเข้ามาในรถผมด่าตัวเองซะไม่ยั้งเลย ทำไมผมโง่อะไรได้ขนาดนี้น๊า ทำเอาผมอดคิดถึงน้องมัดหมี่ (พี่ชายที่แสนดีของเราเสียจริงๆ )
        จากนั้นผมก็ขับรถออกมา พี่ยามโบกไม้โบกมือปัดกันใหญ่เลย เราก็งงเลยจอดรถและลดกระจกลง พี่ยามวิ้งมาแล้วยิ้มบอกผมว่าทางนั้นไปไม่ได้ครับทางตัน นี่น้องทั้งสองเล่นผมซะจิตหลุดใจแตกเลยเหรอเนี่ย   พอถึงคอนโด ผมแวะกินก๊วยเตี๋ยวก่อนขึ้นห้อง วันนี้แม่ค้าขายก๊วยเตี๋ยวทักทายเราและยิ้มให้บ่อยจนผิดสังเกตุแฮะ ก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะรู้ว่าแม่ค้าคนนั้นมีสามีแล้วถึงแม้แม่ค้าจะน่าตาใช้ได้เลยทีเดียวก็ตามเถอะ

         วันที่ 2 ของการแขวนขุนแผนชมตลาด : เช้าวันอังคาร ต่อจากวันแรกที่แขวนขุนแผนชมตลาด ผมไปสมัครที่บริษัทขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง ขึ้นไปติดต่อประชาสัมพันธ์เพื่อขอใบสมัคร เจ้าหน้าที่คนนึงเธอก็ยิ้มแล้วยื่นใบสมัครให้กรอก โต๊ะที่ผมนั้งกรอกนั้นจะเฉียงๆตรงข้ามกับเธอ ระหว่างที่กรอกอยู่นั้นเหมือนรู้สึกว่ามีคนมองแต่ก็ไม่ได้สนใจหันไปดู ซักพักมีผู้หญิงร้องเพลงเบาๆ ซึ่งผมจำเนื้อร้องได้ดีเลยซึ่งมีประโยคหนึ่งว่า ..........   ไม่บอกดีกว่า   พอผมกรอกเอกสารเสร็จเธอก็ให้ผมไปทำข้อสอบ ซึ่งเธอให้ผมนั่งเก้าอี้หน้าคอมพิวเตอร์ พอผมนั่งเสร้จ เธอก็ยืนอยู่ข้างๆผมแบบใกล้มากครับ คือถ้าผมหันหน้าไปทางเธอ จะเกิดเสียงแตรดังสนั่นหวั่นไหวแน่เลยครับ  ผมแทบทำข้อสอบไม่ได้เลยเวลานั้นใจมันสั่นไปหมดเลย   แต่ก็ทำได้คะแนน 81% ถือว่าผ่านครับ เสร็จจากนั้นผมนั่งรอสัมภาษณ์ต่อ แต่โชคผมตอนท้ายๆมักไม่ดีเท่าไหร่มีหญิงสาวในร่างชายมาสัมภาษณ์ผม จากที่กำลัง HOT !  HOT ! ผมเหี่ยวเลยครับ (ใจนะครับที่เหี่ยว ) พอผมออกมาจากห้องสัมภาษณ์ผมก็ได้เจอเธอคนนั้นอีกแต่ตอนนี้ผมยิ้มให้พร้อมทั้งยักคิ้วให้เธอไปหนึ่งที
           จะต่อวันที่ 3 ดีไหมเนี่ยเยอะเกินไปกลัวไม่มีใครอ่าน
           แต่ตอนนี้ผมไม่มีขุนแผนชมตลาดแขวนแล้วครับ เพราะคุณ Zonya ได้เอาไปครอบครองเป็นกรรมสิทธิ์ของเค้าไปแล้ว ทีหลังเห็นทีเวลาบูชาอะไรต้องบูชาเป็นเพ็คคู่แล้วล่ะจะได้ไม่โดนแย่ง บอกได้คำเดียวครับ เซ็ง

           วันที่ 3 ของการแขวนขุนแผนชมตลาด : บ่ายวันพุธ ผมออกไปซื้อส้มตำแถวคอนโด เป็นร้านประจำที่เคยซื้อเพราะมีรสชาติเหมือนที่บ้านเลยคือนัวสุดๆ
แม่ค้าไถ่ถามตามประสาว่า...
หายไปไหนมาไม่เห็นหน้าเป็นเดือนเลย
ผมก็ตอบแม่ค้าไปว่า...
ไปบวชมา เดือนกว่าๆเลยคิดถึงส้มตำร้านป้ามากเลยครับ
แม่ค้าเลยแซวผมว่า...
อย่างนี้ตอนที่บวชผ้าเหลืองคงร้อนนะสิเพราะสีกาอยู่ทางนี้คงคิดถึงแย่เลย
ผมก็ตอบไปว่า...
ไม่มีอะไรเลยบวชต้องสงบ
พอสิ้นเสียงผมมีเสียงผู้หญิงเบาๆ ออกมาจากโต๊ะเดียวที่มีคนนั่งอยู่ในร้าน เป็นหญิงสาวออฟฟิศ 2 คนนั่งกินส้มตำอยู่ เข้าใจว่าผู้หญิง 2 คนนั้นเค้าคงคุยกันแค่ 2 คนเท่านั้นแหละครับแต่ด้วยร้านที่ไม่มีใครเลยทำให้ร้านค่อนข้างเงียบ (แม่ค้าและผมได้ยินอย่างชัดเจน) ว่า...
มีแฟนแล้วซะงั้น
ผมไม่รู้ว่าคนไหนที่พูด ทั้งสองมีหน้าตาที่ดูดี อายุน่าจะไม่เกิน 30
แม่ค้าก็เลยแซวไปยังหญิงสาวคู่นั้นว่า...
คิดอะไรเยอะกันเชียวอีหนู สมัยนี้ผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย 3 เท่าแล้ว ขืนอายอยู่จะอดเอานะลูกเอ๊ย อยากรู้จักก็จดเบอร์โทรให้เค้าสิ
ผมมองหญิงคู่นั้นอย่างตั้งใจครับว่าเธอจะกล้าจดไหม แต่ในที่สุดไม่มีใครกล้า เพราะพวกเธอคงอายมาก เพราะต่างคนก็ก้มหน้าแทบจะมุดโต๊ะหนี
แม่ค้าไม่วายยังแซวต่อไปอีกว่า...
หนุ่มน่ะจะเอาเบอร์โทรเค้าไหมล่ะ ป้ามีเบอร์โทรเค้านะ เค้าโทรมาสั่งส้มตำป้าบ่อย
หญิงสาวคนหนึ่งลุกหนีพร้อมปิดหน้าเดินไปหลังร้านเข้าห้องน้ำไปไม่ยอมออกมาเลยจนผมได้ส้มตำแล้วขับรถกลับไป ในใจคิดว่าน่าจะเป็นผู้หญิงคนนี้แน่เลยที่เป็นเจ้าของเสียงที่ว่า “มีแฟนแล้วซะงั้น “ แน่เลย
หลังจากเล่าเรื่องทั้งหมดนี้ให้ ZONYA ฟังก็โดนแย่งไปครอบครอง เพราะ ZONYA อยากรู้ว่าเรื่องราวแบบนี้จะเกิดกับตัวเค้าบ้าง พอ ZONYA แขวนไปได้หนึ่งสัปดาห์เรื่องราวกลับคนละด้านกับผมเลย ทั้งสัปดาห์โดนเจ้านายรับประทานเอาไม่มีวันไหนเลยที่จะไม่โดน นี่คงเป็นเพราะแย่งคนอื่นเค้า และเอาไปแขวนโดยไม่บอกกล่าวเจ้าของเค้าก่อน  และตอนแขวนขึ้นคอไม่ยอมบริกรรมคาถาบอกกล่าวขุนแผนท่านก่อน คิดจะแขวนก็แขวน สะใจ จากนั้นมาผมก็แขวนประจำเลยครับก็มีเรื่องราวดีๆกับตัวเองตลอดไม่ว่าจะเป็นแม่ค้าทอนตังค์เกินบ้าง (เราก็คืนเค้าไป) / ฝากเพื่อนซื้อของ ซึ่งเพื่อนคนนี้ขี้เหนียวมากเค้าก็ไม่เอาเงินกับเรา (เค้าบอกว่าซื้อมาฝาก) แขวนไปไหนก็มั๊กมีแต่คนมอง มีคนยิ้มให้อย่างที่ไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย
ส่วนตัวแล้วผมตั้งใจบริกรรมคาถาก่อนออกจากบ้านมากครับท่องจำคาถาบทเต็มได้ขึ้นใจ คงจะเหมือนน้องแชมป์ LightGuardian ที่เคยบอกมั๊งครับ คาถาสั้นเป็นคาถาเมตตาแบบพุทธคุณ ส่วนคาถาบทยาวเป็นคาถามหาเสน่ห์ ลองเข้าไปอ่านคาถาบทเต็มดูก่อนก็ได้ครับว่าคาถาบทเต็มบอกกล่าวหรือขอขุนแผนอะไรบ้าง แต่ถึงอย่างไรผมก็เชื่อว่าพุทธคุณในองค์ขุนแผนชมตลาดมี 100% อยู่แล้วครับ
35#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-3-27 18:03 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ประสบการณ์จากพี่ทิม Timo

มีคนนึงชื่อนายแดง
แกเป็นโรคหัวใจหมอห้ามทำงานผมก็ให้ขุนแผนชมตลาดไปห้อย
เพราะแกเล่าว่าต้องไปสังสรรค์พบปะเพื่อนฝูงเก่าๆแถมตอนนี้ทำงานไม่ได้แล้ว
อยู่บ้านก็เบื่อ เกือบสองเดือนที่นายแดงได้ขุนแผนชมตลาดนี้ไป
แกเล่าว่าเพื่อนฝูงมักมาแจกเงินให้นับได้เกือบพันดอลล่าห์
และมักมีผู้หญิงมาตีสนิทแล้วพาไป...หน้าตาเฉย
บางครั้งมาสองคนแข่งกันหลอกล่อนายแดงว่าใครจะได้แอ้ม
เล่าให้ทราบครับมิได้มีเจตนาล่อแหลมใดๆ

ผมว่าเคล็ดลับคือการทำใจให้มีความสุขที่ได้ออกนอกบ้านคือคนเราต้องเข้าสังคมรู้จักคนระดับต่างๆไม่งั้นคุณเป็นใครก็ไม่มีใครรู้จะเก่งหรือจะขอความจุนเจือก็แห้งเหี่ยว
(เขาไม่มองข้าม)
นี่คือขุนแผนชมตลาด คุณจะเด่นมากจนเขาไม่มองข้ามขอเพียงแต่คุณทำใจให้เป็นสุขเมื่อออกนอกบ้าน
ถ้าอยากรู้ว่าทำไงก็ลองอยู่บ้านซักอาทิตย์ห้ามดูทีวีฯลฯนั่นแหละจะรู้เพราะแค่ไปนั่งกินก้วยเตี๋ยวก็จะดีกว่าอยู่บ้านคือมีความสุขหายอึดอัด
ถ้าทำได้แม้ออกไปทำงานก็ได้กำไร ใช้ได้เกินคาดถ้าใช้เป็น  อยู่ที่ไหนใครมองข้ามหรือไม่มีปัญหา
นายเเดงเป็นตัวอย่างให้ผมเข้าใจแตกรายละเอียดเพราะใกล้กัน ตัวนายแดงยังงงว่าเกิดอะไรขึ้น
ทุกวันนี้นายแดงกลายเป็นคนกล้าคุยกับทุกคนเพราะเขารู้ว่าคนชอบเขานายแดงกลายเป็นคนตลกชวนคนหัวเราะ
เจอผู้หญิงก็มักไปพูดอะไรให้เขาขำซะอย่างนั้น (ผมยังอยากจะไปฟังเลยว่าทำไง )
แกคุยกับฝรั่งเก่งมากในเรื่องสำนวนเพราะเกิดที่นี่
36#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-3-27 18:04 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ประสบการณ์ของคุณ taratip

ขอแชร์ประสบการณ์นะครับ
... จริงๆเรื่องนี้ ผมเคยมาโพสถาม คณะ คศช. ว่าการบนขอหลวงปู่ ทำอย่างไร ตั้งแต่เวปบอร์ดเก่าแล้ว เรื่องมีอยู่ว่า
         ผมทำงานอยู่ธนาคารแห่งหนึ่งครับ เป็นงานบริการลูกค้า ของสาขาหนึ่ง พอดีเมื่อต้นปีนี้ มีการปรับโครงสร้างองค์กร จึงมีการก่อตั้งสำนักงานเขตขึ้นมาอีกที่หนึ่ง ( สำนักงานเขต ก็คือ สำนักงานที่ควบคุมดูแลสาขานั่นแหละครับ , คล้ายๆ อบต. ดูแลหมู่บ้าน , เหนือกว่า อบต. ก็อบจ. ประมาณนั้น)
       สำนักงานเขตนี้เปิดมาช่วงต้นปีนี้เลยครับ ทีแรกผมก็ไม่ได้คิดที่จะย้ายมาทำงานที่นี้สักเท่าไหร่ เพราะ
         1.สาขานี้ที่ผมทำนั้นก็พึ่งย้ายมา(ประมาณ4-5 เดือน) ปกติธรรมเนียมในการอยู่แต่ละสาขา 2 ปี ครับ
         2.ประสบการณ์ในงานสินเชื่อของผมก็ไม่มีเลย  (ผมย้ายไปทำตำแหน่ง เจ้าหน้าที่ งานอำนวยสินเชื่อ)
       ขออธิบายเพิ่มเติมนะครับ งานอำนวยสินเชื่อก็คือ งานที่วิเคราะห์สินเชื่อที่สาขาส่งเรื่องมา ซึ่งจะลึกซึ่งกว่าที่สาขาวิเคราะห์
       ทีนี้ พอดีว่า พี่ที่สาขาผมมาเล่าให้ฟังว่า ที่สำนักงานเขต ยังขาดคนอยู่ 2 ตำแหน่ง ในใจผมคิดว่า โอกาสมาแล้ว แต่ด้วยเหตุผลที่ผมกล่าวไว้ด้านบน มันค่อนข้างยากจริงๆ  ยากสุดๆ แต่ในใจผมตัดสินใจแล้ว ว่าผมจะลองดู
       วันรุ่งขึ้นผมโทรไปที่เขตฯ ว่าผมขอสมัครในตำแหน่งนี้  แล้วพออีกวัน ผมก็เข้าไปสัมภาษณ์เลยครับ เข้าไปสัมภาษณ์ผู้จัดการเขต , ท่านถามผมไม่กี่ประโยค เป็นประโยคเบสิคทั้งนั้น เช่น จบอะไรมา ประมาณนี้นะครับ
       แล้วหลังจากวันนั้น ก็คือการรอครับ เวลาผ่านมาประมาณแค่ 1-2 อาทิตย์เท่านั้น ก็มีโทรศัพท์โทรบอกมาผมว่า ที่เขตรับผมเข้าไปร่วมงานด้วย ระยะเวลาเพียงประมาณไม่เกิน 1 เดือน ผมได้ย้ายงานอีกแล้ว ไปในตำแหน่งที่ดีกว่าเดิมมากๆ ถ้าถามผมว่า ตอนแรกมีโอกาสสักกี่% ที่จะได้ย้ายสมใจ ผมก็ตอบไม่ได้นะครับว่าเท่าไหร่ รู้แต่ว่า น้อยมากๆ
       จากวันนั้น ถึงวันนี้ งานของผมโอเคมากเลยครับ หัวหน้างานโดยตรง เพื่อนร่วมงาน ดีกับผมมากๆ ผมก็ต้องขอบคุณหลวงปู่ชื่นจริงๆครับ ที่ทำให้ผมได้มีโอกาส ทั้งๆที่ไม่เคยคาดหวังวาจะได้มาก่อน

37#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-3-27 18:07 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ประสบการณ์ของคุณสุริยา

ขอเข้ามาเล่าเรื่องประสบการ เพื่อบูชาคุณหลวงปู่หน่อยครับ บางเรื่องอาจจะเคยเล่ามาแล้วนะครับ...

       ย้อนกับไปตอนที่ทางสำนักได้เปิดให้ผู้มีจิตศรัทธาต่อองค์หลวงปู่ ได้บูชารูปหล่อ "มณีราชา" ตอนนั้นผมก็ได้ศึกษาประวัติของหลวงปู่มาพอควน เริ่มจากการหาข้อมูล กุมาร 9 โกฐฐิ ของท่าน พอได้อ่านประวัติท่านก็มีจิตใจศรัทธาท่านอย่างบอกไม่ถูก (ตอนนั้นไม่ได้สนใจวัตถุมงคลของท่านแต่อย่างใด...เพียงแต่ศรัทธาในใจลึกๆ) ต่อมาน้องแอม(Abnarak) ได้ไปโพสต์เรื่องเปิดให้บูชาในเวปกุมารเวปหนึ่ง ซึ่งตอนนั้นพอแค่เห็นรูปต้นแบบ จิตใจมันเหมือนไม่อยู่กับเนื้อกับตัว วิ่งเต้นหาเงินเพื่อที่จะบูชามาให้ได้ (ตอนนั้นยังทำงานอยู่ที่เก่า...ค่าใช้จ่ายแต่ละเดือนสูงมาก เกือบจะไม่พอที่จะใช้จ่ายด้วยซ้ำ) ก็ได้แต่เข้าเวปทุกวันๆ มองดูยอดจองขึ้นไปเลื้อยๆ ก็ได้คุยกับน้องแอมผ่านเวปบอร์ด และได้แนะนำเคล็ด(แต่ไม่)ลับว่าลองอธิษฐานของหลวงปู่ดู ก็เลยลองตามที่น้องแอมแนะนำผ่านรูปหลวงปู่ในจอคอม... ปฏิหารมีจริงครับ ไม่กี่วันต่อมาได้เงินมาก้อนหนึ่ง แต่ไม่ทัน...ยอดจองเต็ม   แต่ไม่ย่อท้อ...เลยตัดสินใจโทรหาพี่นางฟ้าประจำสำนัก พี่นางฟ้าบอกว่าเต็มแล้ว แต่ด้วยน้ำใจที่พี่น้างฟ้ามีอย่างที่เรารู้ๆกัน บอกว่าจะลองขอแบ่งกับท่านอื่นที่จองไว้หลายองค์ดู อีกครึ่งชั่วโมงให้โทรมาใหม่ ครึ่งชั่วที่ว่านี้ สำหรับผมแล้วยาวนานเหมือนครึ่งปี ใจก็ได้แต่ภาวนากับหลวงปู่ให้เมตตาได้นิมนต์ว่าฝั่งนี้ซักองค์ เมื่อถึงเวลาก็รีบโทรไป นางฟ้าใจดีผู้นั้นก็บอกว่าจะแบ่งให้องค์หนึ่ง ดีใจอย่างบอกไม่ถูก นี้เป็นประสบการเพียงการเริ่มต้นเท่านั้น...

เงินก้อนนั้นที่กล่าวมาข้างบนนั้นจริงๆแล้วเป็นเงินสะสมกับที่ทำงานเก่าครับ (ไม่ใช่จากงานนอก...) ขอเอ่ยก่อนตอนอธิษฐานครับ ผมได้ไปยื่นสมัครงานที่ใหม่(ที่ทำอยู่ ณ ปัจจุบัน) ซึ่งเป็นตำแหน่งสูง ละดับอำนวนการแผนก ซึ่งต้องการวุฒิสูงมาก ผมได้ยื่นสมัครตั้งแต่เดือนกรกฏาคม ปี2552 เซิ่งผมได้ยื่นไปทั้งหมด 3ครั้ง ยื่นครั้งสุดท้ายเดือนพฤศจิกายน จนกลางเดือนธันวาคม ได้อธิษฐานขอหลวงปู่ว่า อยากได้รูปหล่อมณีราชาของหลวงปู่มาไว้กราบไหว้ที่บ้าน ถ้าหากผมมีวาสนาพอ ขอให้หลวงปู่เมตตาช่วยให้เค้าเรียกไปสัมภาษณ์และได้งานใหม่ทำ และก็ขอให้ได้เงินเดือนสูงๆอย่างที่ผมตั้งความหวังไว้ด้วย... ไม่กี่วันครับ ทางบริษัทที่ผมไปสมัครไว้โทรมานัดไปสัมภาษณ์ ทั้งที่ก่อนหน้านั้นโทรไปถามก็ได้แต่บ่ายเบี่ยง ตอนสัมภาษณ์เป็นไปแบบง่ายมากๆ มีเพียงคนเดียวที่สัมภาษณ์ผม แล้วบอกว่าจะติดต่อกลับเร็วๆนี้ วันต่อมาแต่เช้า โทรศัพท์ดัง และก็ได้ข่าวดี เงินเดือนได้เกินกว่าที่ขอไว้อีก ดีใจมากๆแต่ก็ไม่ลืมที่จะยกมือขอบพระคุณหลวงปู่... (เงินเดือนใหม่ที่ได้เกินกว่าที่ทำงานเก่าถึงสามเท่า)... เป็นประสบการครั้งแรกของผมจากองค์หลวงปู่ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ผม รัก และศรัทธาต่อองค์หลวงปู่อย่างหมดใจ...

"ยึดความศรัทธาเป็นที่ตั้งให้มั่นคงตลอดไป ยืนหยัดช่วยเผยแผ่กิตติคุณของ หลวงปู่ชื่น ติคญาโณ"
38#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-3-27 18:09 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ประสบการณ์ของพี่ใหม่ ma-ii

     รุ่นน้องผมคนหนึ่งพ่อเค้าเข้าโครงการบวชเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล 5 ธันวาคมนี่แหละครับ
ตามประสามนุษย์เงินเดือน  ที่เงินมักจะไม่ค่อยชนเดือน(อายุงานยังน้อย)  อยากกลับบ้านไปทำบุญใส่บาตรกับพ่อที่วัด
แต่เงินไม่ค่อยจะมี  จังหวะหนึ่งได้โทรศัพท์คุยกันน้องก็เล่าให้ฟังแล้วถามถึงเลขดังประจำอำเภอเพราะคราวที่แล้วมีเลข
ผีแม่หม้ายโผล่มา..ดันแม่นซะด้วย

ผมเลยบอกไปว่าคราวนี้ไม่มีหรอก  มีแต่เลขงานศาลเจ้าประจำปีออกมั่งไม่ออกมั่ง  พอดีนึกขึ้นได้ว่าน้องเค้าได้ขุนแผน
สะกดทัพจากผมไปหนึ่งองค์  ผมก็เลยบอกไปว่าให้อาราธนาพระแล้วก็นึกถึงหลวงปู่เอาหละกัน...ลองดูนะ

วันนี้โทรคุยกับน้องอีกรอบ น้องเล่าให้ฟังว่า  วันนั้นก็ลองอาราธนาแล้วก็อธิษฐานกับหลวงปู่ดูจริง ๆ   แล้วก็หยิบล็อต
เตอรี่มาหนึ่งใบ(นิสัยดีมาก  มีตั้งเยอะแต่หยิบแค่หนึ่งใบ )  เกิดมาไม่เคยซื้อล็อตเตอรี่ถูกกะเค้าซักที  พอตรวจแล้ว
ปรากฎว่าถูกเลขท้ายสามตัว...ดีใจมาก  เลยได้ทำบุญกับพ่อที่บวชได้อย่างสบายใจ  ด้วยบารมีหลวงปู่ชื่นช่วยลูก ๆ
หลาน ๆ ครับ

ส่วนตัวผมเองเมื่อวานซืนต้องขับรถเข้ากรุงเทพฯ ไปเอาของให้ลูกค้าเพราะถ้าให้ส่งขนส่งกว่าจะส่งก็คงจะนานไม่ทัน
กาล  แต่รถยังไม่ได้ต่อทะเบียนเลย   นึกขึ้นมาได้ก็ตอนจะไปแล้วไม่รู้จะทำยังไง  เลยอธิฐานกับหลวงปู่แล้วก็แขวน
ขุนแผนน้ำผึ้ง  เหน็บหนุมาน  เชิญพญานาคาไว้ในกระเป๋าสะพาย(ชุดนี้ผมใช้เวลาเดินทางครับ)  แล้วฝันก็เป็นจริง
ตำรวจทางหลวงตั้งด่านตอนตีห้ากว่า ๆ ซะด้วย(ขยันจริง ๆ เลยตำรวจทางหลวงแถวบ้านผมเนี้ยะ)  พอเรียกให้จอด
พี่ตำรวจก็กวาดสายตามองทั้งคัน  ผมลุ้นแทบแย่แฮะ  แล้วเค้าก็โบกมือให้รถผมผ่านไปได้  ทั้ง ๆ ที่ผมก็เห็นว่าเค้า
มองพวกป้ายพรบ. ทะเบียนรถหน้ากระจกอยู่  เพราะช่วงปลายปียังงี้ตำรวจเค้าจะรู้กันครับว่าถ้าป้ายยังเป็นสีนี้อยู่ร้อย
ละเก้าสิบส่วนมากเป็นรถที่ไม่ยอมต่อทะเบียน  พอผ่านไปได้ก็ดีใจมาก  ติดต่อซื้อของในเมืองกรุงก็สะดวกดีครับไม่มี
ปัญหาอะไร

พอเมื่อวานขับรถกลับออกจากกรุงเทพเช้ามืดเหมือนเดิม  มาเจอด่านตำรวจอีก  แต่คราวนี้ตั้งด่านด้วย  ตั้งเครื่องตรวจ
จับความเร็วด้วย  ผมกะลังคุยโทรศัพท์กับน้องอยู่(อย่าเลียนแบบนะครับ)  พอดีเหลือบเห็นรถสวนกันกระพริบไฟให้เท้า
ก็เลยผ่อนคันเร่งโดยอัตโนมัติ  ขับมาได้ซักพักใหญ่ถึงเจอรถจอดซุ่มพร้อมเครื่องจับความเร็ว  เลยมาอีกซักครึ่งกิโลเจอ
ด่านใหญ่เลยครับ  ยกกันมาเป็นสิบเลย  นึกในใจว่าคราวนี้โดนแหง ๆ ถ้าไม่โดนเรื่องความเร็วก็ทะเบียนหละ.....พอถึง
คิวรถผมเค้าไม่มองให้เสียเวลาเลยครับ  กวักมือให้ผ่านไปแล้วก็เรียกคันต่อหลังจากผมให้จอดแทน

กลับถึงบ้านไม่ทันพัก  พี่สะใภ้บอกว่าช่วยพาไปทำพาสปอร์ตที่เมืองจันทร์หน่อย  อดหลับอดนอนมา 2 วันแระยังต้อง
ขับรถอีก รถพี่สะใภ้ป้ายแดง  เห็นท่าไม่ดีผมก็เลยอัญเชิญพญานาคามาคล้องไว้กับกระจกมองหลัง  พี่สะใภ้ถามผมว่า
แขวนไว้ทำไม...."สร้างขวัญและกำลังใจสิครับ"...ผมตอบอย่างมั่นใจมาก ผ่านด่านตรวจสบายหายห่วงเลยครับ

แต่คราวนี้มาแปลก  พอทำพาสปอร์ตเสร็จ(เด๋วนี้ทำง่ายมากครับ ใช้บัตรประชาชนใบเดียวเอง ศูนย์ที่จันทร์ก็บริการดี
มาก ๆ ครับ)  นาน ๆ จะเข้าเมืองใหญ่ทีพี่สะใภ้ก็ขอช็อปที่โรบินสันจันทร์ซะหน่อย  ส่วนผมเหนื่อยจนเดินแทบไม่ไหว
เลยไปนั่งรออยู่ที่ร้านมิสเตอร์โดนัทชั้นใต้ดิน  จิบกาแฟไปอ่านหนังสือการ์ตูนไปด้วย  อยู่ดี ๆ ก็มีเด็กสาวน่ารักมั่ก ๆ
มานั่งโต๊ะเดียวกับผม  ทั้ง ๆ ที่โต๊ะอื่นก็ว่าง ๆ    อย่าเพิ่งอิจฉาครับสาวน้อยคนนี้คาดว่าจะอยู่ประมาณชั้นอนุบาลได้
ผู้ปกครองน้องเค้านั่งอีกโต๊ะนึง  ส่วนน้องคนนี้พอมานั่งที่โต๊ะผม  ก็หยิบหนังสือการ์ตูนผมไปอ่านเฉยเลย  จนผู้ปกครอง
ต้องบอกว่า "ไปหยิบของพี่เค้าทำไม?...มานั่งตรงนี้มา"  ผมก็บอกกับผู้ปกครองไปว่า "ตามสบายครับ ไม่เป็นไรครับ"

พอมองหน้าน้องเค้าดี ๆ ก็จำได้ว่าเคยเห็นหน้ากันตอนทำพาสปอร์ต  ยังจะมาเจอกันที่โรบินสันอีกแฮะ ผมก้ออ่านการ์
ตูนเล่มของผมไป  น้องเค้าก็เปิดการ์ตูนที่ผมวางอยู่บนโต๊ะได้ซักพัก  พี่สะใภ้โทร.มาบอกให้เดินหาร้านพิซซ่าหน่อยจะ
ซื้อไปฝากลูก  ผมเห็นน้องเค้าอ่านอยู่ก็เลยวางหนังสือทิ้งไว้ให้อีกเล่มแล้วก็เดินหาร้านพิซซ่าแล้วก็ไม่เห็นจะมี โทร.
บอกพี่สะใภ้เสร็จ ถือโอกาสเดินไปเข้าห้องน้ำล้างหน้าซะหน่อย  ปรากฎว่าเดินสวนกับน้องและป้าของน้องเค้าที่หน้า
ห้องน้ำ

ป้าเค้าก็เรียกผม  "น้องคะเมื่อกี้ตอนน้องลุกไปน้องทำเงินหล่นไว้ค่ะ  คงจะเป็นของน้องแน่เพราะน้องนั่งอยู่คนเดียว"
พูดเสร็จป้าเค้าก้อยื่นแบงค์พันมาให้ผมใบนึง  ผมก็ยื่นมือไปรับแบบงง ๆ แล้วก็ขอบคุณป้าของน้องเค้า  เข้าห้องน้ำ
เสร็จ  ผมก็เดินกลับไปที่โต๊ะ  ... อ้าว! คุณน้องนั่งตากลมแบ๊วอยู่ที่โต๊ะ  คุณป้าก็นั่งถัดไปอีกโต๊ะนึง  มองหน้ากันไป
มองหน้ากันมา  "เด๋วหนูอ่านการ์ตูนให้ฟังนะคะ?"  เออเนอะ...เด็กหนอเด็กตัวกระจึ๋งนึงอ่านหนังสือได้จริงอ่ะ?

นอกจากสาวน้อยเธอจะน่ารักแล้ว  ยังอ่านหนังสือได้จริง ๆ ครับ  ผมทึ่งมากจนต้องหันไปถามป้าของเธอว่าน้องเค้า
อยู่ชั้นไหนครับเนี้ยะ!!!  คุณป้าบอกน้องเค้าเรียนอยู่อนุบาล1 เอง .....อ้าว...ยังงี้อ่านหนังสือได้ตั้งแต่ตอนไหนหละ
ครับ????    "น่าจะประมาณขวบครึ่งค่ะ  แม่เค้าชอบอ่านหนังสือ  แล้วน้องเค้าก็ดูคาราโอเกะเยอะมาก มารู้อีกที
เค้าก็อ่านเองได้แล้วค่ะ"  สาวน้อยก็ชวนผมคุยแล้วก็อ่านหนังสือให้ฟังอย่างตั้งใจ   ผมหละทึ่งจริง ๆ ครับจนอยากจะ
หมั้นหมายเอาไว้ให้ลูกชายจิง ๆ

ผมแปลกใจที่ว่าเจอกันที่โน่น  แล้วก็ยังมาเจอกันที่นี่อีก  เก็บตังค์ได้ก็ส่งคืนเจ้าของ  แล้วน้องเค้าก็ไม่ยักจะกลัวผม
เลยแฮะ  ปกติค่อนข้างที่จะหายากมากนะครับที่เด็กจะไม่กลัวคนแปลกหน้า  ความบังเอิญเยอะ ๆ ที่เกิดขึ้นทำให้ผม
อดที่จะนึกไม่ได้ว่าเป็นเพราะบารมีของหลวงปู่แน่ ๆ ครับ  พอผมจะกลับบ้านผมเลยไปเดินหาซื้อตุ๊กตาฝากน้องเค้า
เพราะอยากตอบแทนน้ำใจคุณป้า...ก็เลยให้หลานสาวแทนพอผมบอกว่าจะกลับน้องเค้าก็ลุกไปอย่างไม่งอแงทั้ง ๆ
ที่ครั้งแรกเรียกให้ลุกยังไงก็ไม่ยอมไป...ยิ่งดูก็ยิ่งเห็นว่าคนบางคนนี่เค้ามีเสน่ห์มาตั้งแต่เกิดจริง ๆ นะครับ

กลับถึงบ้านโดยสวัสดิภาพ  นอนพักเอาเรี่ยวแรงคืนหนึ่งวันนี้เพิ่งจะฟื้นครับ   ปลอดภัยและประทับใจด้วยบารมีหลวงปู่
จริง  ๆ ครับ
39#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-3-27 18:11 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ประสบการณ์ของหมอพาย

บารมีอาถรรพณ์ธม+ขุนแผนกุมารแก้วกุมารเทพ


หลวงปู่ท่านเมตตาผม ปาฏิหาริย์จริงๆ


วันนี้ผมไปสอบสัมภาษณ์งานที่โรงพยาบาลมาครับ ตำแหน่งที่ว่ามีคนต้องการเยอะมาก เพราะสามารถฝึกประสบการณ์ได้เป็นอย่างดี ทีนี้ตอนแรกผลสัมภาษณ์ออกมาปรากฏว่ารับแค่6 คน ไม่มีชื่อผมอยู่ในนั้น ผมเลยรู้สึกไม่ค่อยดีนิดหน่อย  ระหว่างเดินกลับ ก็คิดว่าจะมีปาฏิหาริย์ไหมแล้วก็นึกถึงหลวงปู่ ซึ่งมันไม่น่าเป็นไปได้ แต่จู่ๆก็มีโทรศัพท์เรียกผมขึ้นไปที่ห้องสัมภาษณ์อีกครั้ง แล้วทางกรรมการบอกกับผมว่า จริงๆยังสามารถรับได้อีกหนึ่งตำแหน่งเอาไหม ผมอึ้งไปเลย เพราะตำแหน่งที่ทางกรรมการเสนอมา ตรงกับใจผมอย่างที่สุด ตรงใจกว่าตำแหน่งที่คนอื่นๆได้ไปแล้วเสียอีก แล้วที่แปลกมากคือ มีอีกตั้งหลายคนไม่เรียกกลับมา เรียกกลับมาแค่ผมคนเดียวเท่านั้น อันนี้ใครจะว่าบังเอิญผมไม่ทราบ แต่ผมมั่นใจว่าหลวงปู่่ช่วยผมไว้จริงๆ อย่างไม่ต้องสงสัย

ผมแขวนอาภรรพ์ถมและกุมารแก้วกุมารเทพไปครับ

เคารพหลวงปู่ครับ

ปล. อยากให้อาจารย์สรายุทธรวบรวมคำสอนหลวงปู่มาให้อ่านหน่อย นอกจากพระเครื่องแล้ว อยากได้คำสอนท่านไปปฏิบัติครับ

40#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-3-27 18:13 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ประสบการณ์ของคุณ chuchat9999

      มีเรื่องเล่าให้ฟังครับ มีญาติมาจากอำเภอโนนแดงมาเยี่ยมที่บ้านและเห็นพระของหลวงปู่จึงขอ 1 องค์ องค์ไหนก็ได้ ผมเลยหยิบพระอาถรรพ์ธรรมราชาพิมพ์เล็กไม่มีตะกรุดให้ 1 องค์ บอกให้ไปเลี่ยมพลาสติกขึ้นคอได้เลย เมื่อก่อนสมัคร อบ.ต แพ้คะแนนเดียว ได้ไประมาณสามเดือนมีข่าวมาบอกว่า คนทั้งหมู่บ้าน ขอให้ญาติคนนี้็เป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน เพราะผู้ช่วยคนเก่าหมดวาระอายุครบ60ปี ตามปรกติใครจะมาเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ต้องเสียเงินให้ผู้ใหญ่ประมาณสองถึงห้าหมื่นบาท บางแห่งเกือบแสน นี้ไม่ต้องเสียซักบาท(ค่าตอบแทนเดือนละ5,000บ.) และทางรพ.มหาราชติดต่อให้นำรถเข้าโครงการส่งผู้ป่วยไปโรงพยาบาลอีก มีค่าตอบแทนให้ปีละ3,5000บ. ญาติคนนี้บอกมาว่าพระที่ให้มานั้นดีจริงๆ ผมบอกว่า ของหลวงปู่ดีจริงไม่ต้องพึ่งโฆษณา และคนไหนปฏิบัติดีมีศิลธรรมหลวงปู่จะลงมาช่วยโดยไม่ต้องบอกกล่าว
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้