แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Nujeab เมื่อ 2013-3-27 17:25
ประสบการณ์ของคุณสุริยา
วันนี้ขอเข้ามาเล่าเรื่องประสบการ ที่เกิดขึ้นกับผมเมื่อวานนี้เองครับ...
หลังจากลงไปคุมงานการติดตั้งสัญญาณมือถือสำเร็จลุลวงไปได้ด้วยดี... เมื่อวานเดินทางกลับแต่เช้า เพราะระยะทางไกลพอควน ประมาณ 800 กว่ากิโล พอนั่งรถมาสักพัก รู้สึกใจไม่ค่อยดี เลยตั้งจิตอธิษฐานขอพรหลวงปู่ และขอให้หลวงปู่ปกป้องคุ้มครองในการเดินทางกลับวันนี้ด้วย นั่งมาอีกสักพักเลยแวะหาอะไรกินกัน พอกินเสร็จเลยซื้อกาแฟให้โชเฟอร์หนึ่งกระป๋อง (กลัวมันหลับใน) แล้วก็ออกเดินทางต่อ... พอนั่งมาได้ประมาณ 500 กว่ากิโล จู่ๆก็ได้ยินเสียง แคร๊กๆๆๆๆ มาจากด้านหลัง ตอนแรกใจในคิดว่ายางแตก.....คิดอีกที ไม่น่าใช้... พอมองออกไปนอกกระจกฝั่งคนขับ เห็นล้อวิ่งแซงรถที่ผมนั่งมาด้วยความเร็วสูง... เอาล่ะสิ...ล้อใครละนี่ วิ่งเร็วกว่ารถเราอีก... มีกระท่อมขายของเล็กๆอยู่ข้างหน้า และมีคนยืนซื้อของอยู่ประมาณ 4 - 5 คน เจ้าล้อเจ้ากำวิ่งเรียบครองเล็กๆข้างถนน (ไม่มีน้ำ) ด้วยความเร็วที่ไม่น้อยลงกับเพิ่มขึ้น (เพราะเป็นทางชันลงไป) ตรงไปหากลุ่มคนที่กำลังซื้อของอยู่...
พอเจ้าล้อวิ่งไป ประมาณ 4-5เมตร ก่อนจะถึงกลุ่มคนกลุ่มนั้น มีเนินดินขวางอยู่ เจ้าล้อวิ่งขิ้นเนินแล้วลอยขึ้น สูงน่าจะประมาณ 3 - 4เมตร เห็นจะได้ เหตุการผ่านไปเร็วมาก แต่พอมีเวลาให้คิด ว่าขออย่าให้โดนใครเลย จะเป็นเพราะบังเอิญ หรือปฏิหารก็ไม่ทราบ ล้อนั้นตกมาลงที่หน้าร้าน ห่างจากกลุ่มคนชิดซ้ายออกไปไม่ถึงเมตร ผู้คนตกใจกระโดดเข้าไปในร้านกันหมด ตรงที่พวกเค้ายืนอยู่ เป็นหลังคามุงด้วยหญ้า ถ้าตกลงตรงหลังคา (ไม่อยากคิด) แล้วเจ้าล้อตัวดีก็วิ่งต่อด้วยความเร็ว(ลดลงบ้างแล้ว)ข้ามไปอีกฝั่งของถนนเข้าไปในป่า ห่างจากรถผมกว่า200เมตร
พอรถหยุด...โชเฟอร์รีบวิ่งไปหาล้อ... ส่วนผมลงมาดูล้อที่หลุด ตัวจานกระทะแบน เพราะลากมาประมาณ 200เมตรเห็นจะได้ เลยหาสัญญาณมือถือของความช่วยเหลือด่วน รอไปประมาณชั่วโมงกว่าๆ ช่างก็มาถึง...ก็ชวนกันคุยตามภาษาคนบริษัทเดียวกัน (แต่ไม่เคยเห็นหน้ากันมาก่อน)... แป๊บหนึ่งช่างก็บอกว่า...โอ้โหพี่...
น๊อตมันไม่ได้ถูกขันให้แน่นแต่แรกแล้วนะครับ ดูจากรอยสนิมที่น้ำเข้าไป และนี้...พี่ดูน๊อตตัวนี้สิ หักตรงรอยที่ถูกสนิมกัดพอดี..." ผมได้แต่อึ้ง เลยบอกให้ช่างขันน็อตล้อที่เหลือให้ด้วย ช่างก็ชวนคุยต่อ ผมต้องอึ้งอีกครั้งเมื่อช่างว่า "พี่โชคดีมากนะนี่ ที่โชเฟอร์ไหวตัวทัน ที่ไม่เบรคตอนล้อมันหลุด" ผมก็ถามว่าถ้าเบรคจะเป็นอะไรเหรอ จานกระทะล้อจะพังมากกว่านี้ใช่มั๊ย ช่างตอบว่า "เปล่าพี่... ถ้าล้อหลุด เบรคมันจะล๊อค แล้วถ้าเราแตะแบรค รถจะเสียความทรงตัวและพลิกคว่ำ" ไอ้เราก็คิดว่าเราโชคดี เจ้าโชเฟอร์มีสติ... เลยมองไปที่มัน แล้วถามเล่นๆว่า "เองแบรคหรือเปล่าว่ะ" โชเฟอร์ตอบด้วยความสัตย์จริงว่า... "โห้... ผมนี่นะ... แบรคตั้งแต่ได้ยินเสียง แคร๊กแรก เลยครับพี่....ไม่งั้นรถจะหยุดเหรอ" เวรกรรม...กำลังจะชมว่ามันเก่ง.... จากการที่ได้คุยกับช่าง และชาวบ้านแถวนั้น ทุกคนบอกว่าผมโชคดีมากที่รถไม่พลิกคว่ำ ด้วยความเร็วขนาดนี้ และโชคดีที่ล้อรถไม่ไปโดนใคร และไม่มีรถวิ่งสวนมา เพราะรถจะวิ่งเร็วมากบนถนนเส้นนี้ พอเวลาเลยไป กว่า 2ชั่วโมง เมื่อเปลี่ยมน๊อตเสร็จ ตรวจเช็คอะไรต่างๆ หลังกล่าวคำขอบใจช่าง ก็ได้เวลาเดินทางต่อ ผมก็ได้นั่งคิดดู ด้วยน๊อตมันขันไม่แน่นตั้งแต่แรก ตอนที่เราเดินทางเข้าออกเหมืองที่ถนนรุงรัง ไต่ตามป่าตามเขาที่ชันขนาดนั้น ทั้งเป็นป่ารก หน้าผาสูง และเกือบจะไม่มีหมู่บ้านเลย ถ้าล้อหลุดตอนนั้น เราจะเป็นยังไง แล้วถ้ามาหลุดตอนลงเขาล่ะ (ยิ่งไม่อยากคิด...) แล้วก็มาพิจารณาดูเหตุการณ์ต่างๆตั้งแต่ก่อนออกเดินทางกลับ เหมือนอะไรๆเหมาะเจาะลงตัวกันไปหมด เริ่มจาก ก่อนออกจากที่พัก ผมได้หยิบ อาถรรพณ์ธม “เนื้อมวลสารล้วน” มาห้วยคอ โดยที่ไม่ได้เหน็บอะไรเลย ปกติเวลาเดินทาง ผมจะห้อย “มะรุมมะตุ้ม” และเหน็บอีกสิ่งหนึ่ง... แต่วันนั้นรู้สึกอยากห้อยอาถรรพณ์ธมเป็นพิเศษ นั่งรถมาซักพัก รู้สึกใจไม่ดี เลยตั้งจิตอธิษฐานของพรหลวงปู่ (อย่างที่กล่าวมาก่อนหน้านี้) ยังมีพนักงานอยากฝากให้ผมเอาตู้เย็นมาให้ที่เวียงจันทร์ (บ้านเค้าอยู่ เมืองท่าแขก ห่างจากจุดเกิดเหตุไม่เกิน 20กิโล) แรกๆกะว่าจะไม่รับ เพราะฟ้าครึ้มกลัวฝนตก แต่พอมาถึงเมืองท่าแขก ฟ้าก็เริ่มจะสว่าง เลยให้เค้าเอาขึ้นท้ายกระบะ (TOYOTA VIGO 4WD รุ่นสูง) พอวิ่งออกมาไม่ถึง 20กิโล ล้อก็หลุด เชื่อมั๊ยครับตอนล้อหลุด รถไม่มีการแฉลบ หรือเสียหลักเลย วิ่งเป็นแนวตรง ความรู้สึกคล้ายๆกับยางแฟ๊บแค่นั้น แต่มีเสียงดัง พอพิจารณาดู ตู้เย็นมีส่วนช่วยให้ท้ายกระบะหนักขึ้น ซึ่งช่วยในการทรงตัว ล้อรถไม่มีการโดนคน รถ หรือสิ่งปลูกสร้างใดๆ ที่จะก่อให้เกิดการบาดเจ็บ หรือเสียทรัพย์ (แล้ว...แบรคตอนที่ล้อหลุดล่ะ...???)
ผมมั่นใจเต็มอกครับว่า หลวงปู่คอยดูแลปกป้องคุ้มครองผมตลอดการเดินทาง และดลบันดาลให้เหตุการณ์ต่างๆลงตัวกัน
กราบขอบพระคุณหลวงปู่อีกครั้งครับ ที่คอยช่วยเหลือศิษย์มาตลอด ไม่ว่าจะเรื่องเล็กเรื่องใหญ่ รักหลวงปู่ที่สุดครับ....
(ลืมบอกครับว่า ตอนเดินทางเข้าออกเหมืองก็ห้อย “อาถรรพณ์ธม” เหมือนกันครับ...)
จงภูมิใจเถิด ที่เราเกิดมาได้มีวาสนาได้เป็น ศิษย์ "หลวงปู่ชื่น ติคญาโณ" และ "อาจารย์ สรายุทธ งามชื่น"
|