ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

>> หนุมาน (เนื้อผง) สองอมตะผู้ไม่มีวันตาย <<

[คัดลอกลิงก์]
ดูจากLine รู้สึกว่่าเมื่อวานจะมีพิธี ขออาวุธจากองค์เทพโดยศิษย์ที่เกิดธาตุลมด้วยนะครับ...ขนาดแค่อาวุธที่จะนำมาลงในองค์หนุมานอาจารย์ยังต้องทำพิธีขออนุญาติอันเชิญมาลงในหนุมานรุ่นนี้เลย...คิดดูกันเองละกันว่ากว่าจะเสร็จได้แต่ละรุ่นรายละเอียดมากมายขนาดไหน? ไม่ใช่แค่เขียนแบบร่างพิมพ์แล้วทำบล็อกนะครับ สำนักนี้...
เยี่ยมไปเลยครับ
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Sornpraram เมื่อ 2014-7-21 07:22

เมืองหนุมาน
เรื่องเล่า และภาพโดย พุฒิวงศ์ บุษบวรรษ


มีจังหวัดหนึ่งของไทย ที่มีเรื่องราวผูกไว้กับ วรรณคดีเรื่องรามเกียรตื์ โดยเฉพาะตัวละครเอก อย่างพญาหนุมานชาญสมร ไม่รู้เพราะเหตุนี้หรือเปล่า สมุนหนุมานถึงได้เต็มเมืองไปหมด ขนาดมีเทศกาลเลี้ยงโต๊ะจีนลิง เรื่องที่ผูกไว้มีอยู่สองสามตอนสำคัญ ตอนแรกคือตอนที่ พระลักษณ์ต้องหอกโมกศักดิ์ หนุมาณต้องไปหาต้องสังกรณีตรีชวา (ต่อมาใช้เรียกเป็นชื่อสมุนไพรไทย หรือเรียกอีกชื่อว่าหนุมานประสานกาย) และตอนหนุมานยกภูเขาเหาะข้ามมา เศษของภูเขาก็ตกอยู่บริเวณจังหวัดลพบุรี เรียกแถวนั้นมาเขาสมอคอน มีการสร้างรูปปั้นหนุมานแบกภูเขาไว้เป็นสัญลักษณ์
และตอนสำคัญคือเมื่อเสร็จศึกทศกัณฐ์แล้ว พระรามได้ตั้งให้หนุมานเป็น พญาอนุชิต (อนุชิต แปลว่า ชนะอยู่เนืองๆ ไม่ใช่ชนะน้อยๆ อย่างที่หลายคนเข้าใจนะครับ) แล้วครองกรุงลงกา แต่ด้วยวาสนาไม่ถึง พญาอนุชิตไม่สามารถนั่งบัลลังก์ได้เพราะจะร้อน พระรามจึงแผลงศรเสี่ยงทาย ว่าหากต้องที่บริเวณใดจะสร้างเมืองให้ครอง ซึ่งเชื่อว่าศรพระรามมาตกในจังหวัดลพบุรี บริเวณที่ศรตก เกิดเป็นดินสอพอง ที่มีสีขาวเหมือนกายหนุมาน จึงเรียกเมื่อลพบุรีว่า เมืองหนุมาน
หากใครมาเยือนจังหวัดลพบุรีมักนิยมเดินทางไปขอพรที่ศาลพระกาฬ ซึ่งตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันออกของพระปรางค์สามยอด ตำบลท่าหิน อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี


โดยศาลพระกาฬ สร้างด้วยศิลาแลงเรียงซ้อนกันเป็นฐานสูง แต่ก่อนเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า "ศาลสูง" ทับหลัง ซึ่งทำด้วยศิลาทรายสลักเป็นรูปพระนารายณ์บรรทมสินธุ์ สร้างขึ้นราวพุทธศตวรรษที่ 16 สมัยขอมเรืองอำนาจ วางอยู่ติดฝาผนังวิหารหลังเล็กชั้นบน ณ ที่นี้ได้พบหลักศิลาจารึกแปดเหลี่ยมจารึกอักษรมอญโบราณ พ.ศ. 2494 โดยสร้างทับบนรากฐานเดิมที่สร้างไว้ในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ภายในวิหารประดิษฐานพระนารายณ์ประทับยืน ซึ่งเดิมพระกร และพระเศียร หายไป

แต่ต่อมามีผู้นำพระเศียร ของพระสมัยอู่ทอง และพระกรมาต่อ ตามตำนานกล่าวว่า ที่พระกรหายไปทั้งหมดเพราะ พระกาฬไปรับลูกระเบิด พระกรจึงขาดหายไปหมด

และรอบบริเวณศาลพระกาฬ และพระปรางค์สามยอดนี่เองที่เป็นแหล่งชุมนุมของเหล่าวานร ซึ่งมักเรียกว่าลิงของเจ้าพ่อศาลพระกาฬ ซึ่งมีผู้นำอาหารมาให้อยู่ประจำ จนมีจำนวนมากขึ้น ปัจจุบันราชการต้องหาวิธีจัดระเบียบลิงไม่ให้ก่อความเดือดร้อนให้ประชาชนในละแวกนั้น

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Sornpraram เมื่อ 2014-7-23 07:19


  






ช่วงก่อนวันปีใหม่ไปหาอาจารย์ ท่านให้ดูหนุมานเนื้อผง
ลองพิมพ์ที่ทำเป็นตัวอย่างและมอบให้ลองไปใช้ดูช่วงเดินทาง
กลับบ้านแวะต่อรถที่พิษณุโลกมีความรู้สึกชอบใจหนุมาน
และอยากจะแขวนให้ได้เลยจ้างวินมอเตอร์ไซค์พาไปที่ใส่กรอบพระ
คิดไปกลับ120 บาทก็ตกลง ถึงร้านยื่นให้เจ้าของร้านดูคิดอยู่นานจะ
ลองหาดูพอดีมีที่กรอบทองไมครอนเหลืออยู่ชิ้นสุดท้ายตกลงตามนั้น
และเลือกสร้อยให้เข้าชุดด้วยหมดไป500บาทพอใจครับก่อนหน้านั้น
แวะไปร้านที่เลี่ยมพลาสติกช่างบอกว่าต้องมีคิวยาวอะไรก็ไม่เป็นใจสุดท้าย
มาจบที่ตลาดพระริมน้ำเมืองสองแควมองดูก็สวยดึแขวนติดตัวเลย
นั่งรถมารู้สึกปวดหัวตุ๊บๆไม่มีเค้าจะไม่สบายล่วงหน้าเลย เราก็ออก
กำลังกายสม่ำเสมอหรือว่าสังขารจะไปกันใหญ่แล้ว หลังจากทดลอง
แขวนหนุมานพิมพ์นี้แล้วเรื่องเงินทองจะมาแบบไม่ต้องร้องขอแถมถูก
หวยอีกด้วยก่อนปีใหม่เอากางไปเย็บซ่อมเล็กน้อยนัดรับข้ามปีไปเลย
ถึงไปรับเข้าไปร้านก็พนมมือสวัสดีปีใหม่เจ้าของร้านทำเหมือนหนุมาน
ท่านพนมเป็นตัวอย่างทักทายยิ้มแย้มแจ่มใส ปรกติไม่ได้ยกมือไหว้แกหรอก
แกให้ลูกสาวหยิบกางเกงที่เย็บซ่อมเสร็จแล้ว และบอกว่าไม่คิดคิดตังค์จ้า
ขอบคุณอย่างจริงใจ..แต่เหลือบไปเห็นลูกสาวแกทำหน้างงๆและเซ็งเล็กน้อย
เลยอุดหนุนสินค้าในร้านของแกเป็นการตอบแทนที่ใจดีจริงๆ...เรืองจับสลาก
ของวันปีใหม่ก็ได้รางวัลที่มีมูลค่าพิเศษหรือไปตักไข่การกุศลที่วัดแถวขอนแก่น
แค่20บาท ยังได้ของที่ดีกว่าพวกๆที่ไปด้วยกัน..ล่าสุดไปประชุมงานระดับกรมฯ
ถูกเรียกแกมบังคับให้ขึ้นไปร้องเพลงในงานเลี้ยงก็ร้องมันตามเรื่อง พอตอนเช้าเจอผู้ใหญ่ที่
คุ้นเคยกันก็ชมว่าร้องเพลงเพราะจังเจอ ท่านทีไรก็พูดเรื่องเดิมทำให้รู้สึกเขินเล็กน้อย..
สรุปแล้วดีครับดี  อยากรู้ต้องลองเอง...

ประสบการณ์พี่หมอต้อย


है


แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Sornpraram เมื่อ 2014-7-21 10:08






หนุมาน

มีพลังและความว่องไวล้ำเลิศ ไม่เพียงแต่เหาะเร็วดังลมเท่านั้น แต่หนุมานยังมีพลังยกถอนภูเขาได้ หดและขยายร่างได้ตามต้องการและล่องหนได้ เมื่ออยู่ในสงครามหนุมานจะมีลักษณะน่าสะพรึงกลัว กล่าวคือ ร่างใหญ่เท่าภูเขา ผิวกายเป็นสีเหลืองดั่งทองหลอม ผิวหน้าสีแดงดั่งทับทิม มีหางยาวมาก

หนุมานจะทำให้ศัตรูกระจัดกระจายโดยใช้เสียงคำรามอย่างน่ากลัว

หนุมาน เดินทางไปกรุงลงกา พร้อมกับพระราม กับกองทัพลิงและหมี เพื่อช่วงชิงนางสีดา มเหสีของพระราม ที่ถูกอสูรราพณ์จับตัวไป

วีรกรรมสำคัญของหนุมานก็คือ เหาะไปยังเทือกเขาหิมาลัยเพื่อนำสมุนไพรมารักษาบาดแผลของพระลักษณ์ พวกยักษ์ได้ขัดขวางหนุมาน แต่หนุมานก็มีชัย อสูรราพณ์หรือทศกัณฐ์ได้ส่งบริวารยักษ์มาฆ่า หนุมาน โดยตั้งรางวัลไว้ว่า ถ้าสำเร็จจะยกอาณาจักรให้ครึ่งหนึ่ง

หนุมานได้จับขาของยักษ์เหวี่ยงไปทางกรุงลงกาจนตกลงมาตายต่อหน้าบัลลังก์ของอสูรราพณ์ แต่หนุมานหาสมุนไพรไม่พบ หนุมานจึงยกภูเขาไปทั้งลูก การเหาะโดยแบกภูเขาทั้งลูกไปทำให้เกิดลมวน เมื่อผ่านกรุงอโยธยา พระภรตจึงคิดว่าเป็นการกระทำของอสูร จึงยิงลูกศรใส่ หนุมาน จนตกลงมา

เมื่อพบว่าเป็นหนุมาน พระภรตจึงไถ่โทษโดยการใช้ลูกศรยิง หนุมาน กลับไปกรุงลงกา
แต่หนุมานปฏิเสธและเหาะกลับไปเอง จากนั้นจึงนำสมุนไพรให้พระราม เมื่อสงครามที่กรุงลงกายุติลง

พระรามจึงให้รางวัลโดยการให้พรแด่หนุมาน ซึ่งขอเป็นอมตะ พระรามก็ประทานให้



ขอขอบพระคุณ : ย้อนรอยชมพูทวีป
  

อุดมการณ์และความภักดี ของศรีหนุมาน
รุทธอวตาร (อวตารของพระศิวะ)

         บนภูเขาที่มีนามว่า ริศีมุก ณ ที่นั่น มีพญาวานรที่มีนามว่า เกสรี และนามของนางพญาวานรอันเป็นชายาของเขา นามว่า อัญชนา เพื่อความปรารถนาที่จะได้บุตรสักตัวหนึ่ง นางจึงกราบไหว้พระศิวะด้วยความภักดีอย่างยิ่ง พระศิวะทรงพึงพอใจกับด้วยความภักดีของเธอ และต้องการให้เธอได้สิ่งที่เธอต้องการ นางขอให้พระศิวะประทานบุตรให้แก่เธอให้มีความแข็งแรงเหมือนพระศิวะ พระศิวะทรงให้พรแก่เธอทันทีและบอกแก่เธอว่า การปรากฏเป็นองค์อวตารครั้งที่สิบเอ็ดของพระศิวะจะเกิดเป็นบุตรของเธอ ในเวลาต่อมา พระจันทร์เต็มดวงในเดือนไจตระ วันอังคาร การปรากฏครั้งที่สิบเอ็ดของพระศิวะก็ได้อุบัติขึ้นได้นามว่า ศรีหนุมาน

บทเรียนจากรูปแบบของวานร มีดังนี้

         หน้าตาของพญาวานรชื่อศรีหนุมานได้ให้บทเรียนแก่เราดังต่อไปนี้การที่เราจะได้มาซึ่งความนิยมนับถือ มันไม่สำคัญที่จะมีร่างกายสวยงามเท่านั้น แต่มันสำคัญอยู่ที่การบริการรับใช้ที่ปราศจากความเห็นแก่ตัวที่มีต่อผู้หลักผู้ใหญ่ และต่อประชาชน ไม่มีบุคคลใดที่มีรูปร่างสวยงามอย่างเดียวจะสามารถเอาชนะหัวใจของบุคคลอื่นได้และไม่สามารถที่จะเป็นผู้ภักดีที่แท้จริงได้ เว้นเสียแต่ว่าเขาผู้นั้นจะมีคุณสมบัติที่ดี ฉะนั้น มันมีความสำคัญที่จะกำจัดความเจ็บปวดของคนอื่น และทำการรับใช้โดยที่ไม่เห็นแก่ตัวต่อสังคม เช่น หนุมาน ฉะนั้น บุคคลสามารถเอาชนะความรักและความเคารพนับถือจากคนอื่นได้ก็ด้วยเอาแบบอย่างหนุมาน

         เมื่อ หนุมานเดินทางไปถึงเกาะลังกาอันเป็นอาณาจักรของทศกัณฐ์ ยักษ์และมารทั้งหมด ก็โอบล้อมเขาเอาไว้ด้วยหน้าตาและอาวุธที่โหดร้าย แต่หนุมานก็ไม่ได้สะทกสะท้านประการใด เขากลับมีความเชื่อมั่นในพระราม และมีความเชื่อมั่นในตัวของเขาเองอย่างสูงผลของมันก็คือว่า เขาเอาชนะ พลังอำนาจของทศกัณฐ์ได้ทั้งหมด และได้รับผลสำเร็จในการเดินทางไปครั้งนั้น ในทำนองเดียวกันนี้ ในเวลาที่เราได้รับความยุ่งยากต่าง ๆ เราไม่ควรสะทกสะท้านต่อเหตุการณ์ และควรตั้งใจมั่นคงแน่วแน่ในความภักดีต่อพระเป็นเจ้า
      



         ในรูปภาพบางภาพที่อยู่ในโบสถ์นั้น แสดงให้เห็นว่า หนุมาน  กำลังยกภูเขาบนฝ่ามือซ้าย อันนี้หมายถึงว่า ขณะที่หนุมานเดินทางไป ผ่านอุปสรรคความยุ่งยากทั้งหมด และนำเอาภูเขามาเพื่อช่วยชีวิตของพระลักษณ์ให้ปลอดภัย ในทำนองเดียวกันนี้ เราควรจะเตรียมใจให้พร้อมไว้เสมอที่จะรับมือเพื่อต่อสู้กับความยุ่งยากใดๆ เพื่อช่วยเหลือหรือรักษาชีวิตของสมาชิกในครอบครัวหรือบุคคลทั้งหลายที่อยู่ในสังคมของเรา แล้วเท่านั้น เราจึงจะมีสิทธิได้รับพรจากพระเป็นเจ้า

         ผู้ภักดีทีมีความตั้งใจที่มีเล่ห์กลหลอกลวง ไม่มีสิทธิที่จะได้รับพรของพระเป็นเจ้าได้ เขาเป็นศัตรูตัวจริงของความโหดร้ายทั้งหลาย เมื่อหนุมานเดินทางไปเอาต้นไม้สันชีวนี (เป็นยาสมุนไพรชนิดหนึ่ง) เพื่อรักษาชีวิตของพระลักษณ์ให้ปลอดภัย ยักษ์นามว่าเนมิ แต่งตัวเขาเองเป็นเหมือนนักบวช และเริ่มเทศน์สอนหนุมาน หนุมานพบการแสดงกลลวงของความชั่วนั้นได้ทันที และลงโทษฆ่าเขาทันที ถ้าคนต้องการที่จะรับพรของหนุมาน เขาผู้นั้นต้องมีใจบริสุทธิ์และไม่ควรคิดร้ายหรือเจตนาหลอกลวงใดๆ
  
         มีแม่มดตนหนึ่งนามว่า “สุรสา เศ” อาศัยอยู่ในทะเล มีอำนาจทางโยคะ ดึงเอาสิ่งต่างๆ ที่บินได้ลงไปสู่ทะเล และก็ฆ่ามันกินเป็นอาหาร เมื่อหนุมาน เหาะไปเหนือทะเล เพื่อตามหาพระนางสีดา สุรสา ก็ดึงหณุมาน แต่เขาก็ทำให้ร่างกายใหญ่โต ซึ่งเธอไม่สามารถจะกินได้ และในทันทีนั้น หนุมานก็แปลงกายเขาเป็นยุง แล้วเข้าไปในปากของเธอ แล้วก็ออกมาจากปากเธอทันที เหตุการณ์นี้สอนให้เรารู้ว่า ถ้าเราได้มาซึ่งอำนาจโยคะอย่างใดอย่างหนึ่ง เราควรใช้อำนาจอย่างเดียวกันนั้น เพื่อช่วยเหลือและคุ้มครอง คนอื่น ๆ ให้ปลอดภัยมากกว่าที่จะฆ่าหรือทำลายคนอื่น เพื่อเจตนาอันเห็นแก่ตัวของเรา

         ผู้ภักดีที่แท้จริงของพระรามก็คือหนุมานที่เหมือนมากที่สุด บุคคลผู้ซึ่งระลึกนึกถึงพระรามอยู่สม่ำเสมอ หนุมานช่วยเหลือพระองค์ทุกๆ ก้าวของชีวิต และเขาทำให้ความปรารถนาทุกอย่างของเขาสำเร็จลงโดยสมบูรณ์ และกำจัดความทุกข์ทั้งมวลของเขาออกไปได้
  
เย ชยนฺติ สทา  เสนหนาม มนฺคลย กรนมฺ
ศรี มโตราม จนฺทรสฺย  กริปาโล มรม สวมินิ
เตศมารโถ สทาวิปร ปรทาตหม ปรยาตนตห
ทาทามิ วนฺจิต นิตฺยมฺ สรวนา เสารวยมุตตม

         ความหมายก็คือว่า ผู้ภักดีเหล่านั้น ผู้ซึ่งระลึกนึกถึงพระราม ผู้มีความเมตตาที่สุดของเราทุกๆ วัน และตลอดเวลา ข้าฯ จะทำให้ความปรารถนาทุก ๆ อย่างของผู้ภักดีเช่นนั้นสำเร็จลงโดยสมบูรณ์ และประทานความสำเร็จในการกระทำทุก ๆ อย่างให้แก่พวกเขา ฉะนั้น การที่เราจะได้รับพรจาก หนุมาน มันเป็นความจำเป็นที่เราจะต้องทำการบูชา และระลึกนึกถึงพระราม
จาก
ศรีมณเฑียร  ทรรศน์
ขอขอบคุณ
สมาคมฮินดูสมาช


0)
ผู้ภักดีเหล่านั้น ผู้ซึ่งระลึกนึกถึงพระราม ผู้มีความเมตตาที่สุดของเราทุกๆ วัน และตลอดเวลา ข้าฯ จะทำให้ความปรารถนาทุก ๆ อย่างของผู้ภักดีเช่นนั้นสำเร็จลงโดยสมบูรณ์ และประทานความสำเร็จในการกระทำทุก ๆ อย่างให้แก่พวกเขา

ฉะนั้น การที่เราจะได้รับพรจาก หนุมาน มันเป็นความจำเป็นที่เราจะต้องทำการบูชา และระลึกนึกถึงพระราม

จะเป็นอย่างไรหนอถ้าได้บูชาพระรามกับหนุมานพร้อมๆกัน รอครับรอ
Nujeab ตอบกลับเมื่อ 2014-7-21 14:20
ผู้ภักดีเหล่านั้น ผู้ซึ่งระลึกนึกถึงพระราม ผู้มีควา ...

ฉะนั้น ..

การที่เราจะได้รับพรจาก หนุมาน

มันเป็นความจำเป็นที่เราจะต้องทำการบูชา

และระลึกนึกถึงพระราม



Nujeab ตอบกลับเมื่อ 2014-7-21 14:20
ผู้ภักดีเหล่านั้น ผู้ซึ่งระลึกนึกถึงพระราม ผู้มีควา ...


ดื่มน้ำใบเตยรอก่อนนะ เจ้หนู  




ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้