แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Sornpraram เมื่อ 2014-7-18 13:20
ในเรื่องรามเกียรติ์ หนุมานสร้างตำหนักรักข้ามเผ่าพันธุ์กับนางยักษ์ นางปลา นางฟ้า
และอื่นๆอีกมากมาย ถ้าถามว่าหนุมานมีเมียกี่คน สองมือสองเท้าอาจไม่พอนับ
เพราะท่านเจ้าคุณมีเมียตั้ง 5,006 นาง
ได้รับการปูนบำเหน็จจากพระรามคราวเดียวก็ 5,000 นางเข้าไปแล้ว
แต่ในจำนวนนี้มีเมียที่มีบทบาทเด่นในเรื่องเพียง 6 นาง
ตำนานรักหนุมานชาญสมร รักแรกกับนางฟ้า ชื่อ “นางบุษมาลี”
เกิดเมื่อครั้งที่หนุมาน ชมพูพาน และองคต รับบัญชาจากพระรามไปสืบมรรคาหาทางไปกรุงลงกาเพื่อนำแหวนและผ้าสไบไปถวายนางสีดา พร้อมแจ้งข่าวว่าพระรามกำลังยกทัพตามมาช่วยระหว่างทางเห็นเมืองร้างชื่อ เมืองบายน ไม่มีผู้คนอาศัย หนุมานนึกแปลกลองเข้าไปดู ได้พบกับนางบุษมาลี นางฟ้าที่พระอินทร์สาปให้มาอยู่เฝ้าเมืองนี้แต่เพียงผู้เดียวนาน 30,000 ปีเพราะนางทำเกินหน้าที่ ทำตัวเป็นแม่สื่อแม่ชักพานางสนมของพระอินทร์ไปให้ท้าวตาวัน นางจะพ้นจากคำสาปก็ต่อเมื่อชี้ทางให้กับทหารเอกของพระรามที่หาวเป็นดาวเป็นเดือน
หนุมานพบนางบุษมาลีก็หลงรักแบบ love at first sight สอบถามจนรู้ความแล้วก็ได้นางเป็นเมียอยู่กินกันหลายวัน (เน้นว่า “หลายวัน”) แต่พอนึกถึงหน้าที่ของตน
ก็จำใจลานาง บุษมาลี แล้วขว้างนางกลับไปสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ตามเดิม ตัวเองก็ออกเดินทางไปหานางสีดาต่อไป
รักที่สองกับนางยักษ์ ชื่อ “นางเบญกาย” ลูกสาวของพิเภกกับนางตรีชฎา
ทศกัณฐ์ใช้อุบายอยากให้พระรามเลิกทัพกลับไปโดยไม่ต้องใช้กำลังรบ จึงเรียกให้นางเบญกายแปลงกายเป็นนางสีดา ทำเป็นตายลอย(ทวน)น้ำไปที่พลับพลาของพระราม เมื่อพระรามเห็นเข้านึกว่านางสีดาตายจริง เนื้อเรื่องตอนนี้หลายคนที่เคยดูโขนศิลปาชีพ ตอน “นางลอย” คงจำได้ว่าหนุมานเป็นผู้ทูลให้พระรามเห็นข้อผิดสังเกตว่าถ้านางสีดาตายจริง ทำไมศพจึงลอยทวนน้ำมา และศพก็ยังอยู่ในสภาพสวยงามผิดสังเกตจึงขอพิสูจน์โดยจับนางมาเผาไฟ ถ้าเป็นศพจริงก็จะไหม้ไฟ แต่ถ้าเป็นศัตรูแปลงกายมา ก็จะต้องหนีไปแน่
นางเบญกายทนถูกไฟสุมไม่ไหวกลัวหมดสวย จึงเหาะหนี หนุมานเหาะตามไปจับมาได้ พระรามโปรดให้หนุมานสอบสวนจนได้ความและตามธรรมเนียม ได้นางเป็นเมียด้วย
รักที่สามกับนางปลา
เมื่อพระรามจะยกทัพข้ามสมุทรไปกรุงลงกา ทรงมีรับสั่งให้หนุมานไปจองถนน ทศกัณฐ์ รู้ข่าวจึงสั่งให้ “นางสุพรรณมัจฉา” ธิดาของตนที่เกิดกับนางปลาพาบริวารไปขนหินที่พลพรรคลิงนำมาจองทำเป็นถนนไปกรุงลงกาไปทิ้งเสีย คราวนี้สุครีพเป็นผู้เห็นเรื่องผิดสังเกต เพราะก้อนหินที่ขนมาทิ้งน้ำจนปริ่มๆสักพักก็หายไป ไม่เต็มขึ้นมาเป็นถนนเสียที จึงสั่งให้หนุมานไปตรวจดูหนุมานดำน้ำลงไปก็พบฝูงปลากำลังเร่งขนหินไปทิ้ง โดยมีนางสุพรรณมัจฉาเป็นผู้สั่งการ
ไม่พูดพล่ามทำเพลง หนุมานนักรักก็จีบจนได้นางสุพรรณมัจฉามาเป็นเมีย และได้บริวารปลามาเป็นพวก หนุมานชาญฉลาด มีเมียก็ใช้เมียให้เป็นประโยชน์ จึงขอให้นางสุพรรณมัจฉา “ยูเทิร์น” สั่งบริวารปลาให้ขนก้อนหินกลับมาถมไว้ตามเดิมจนเป็นถนนให้พระรามและพลพรรควานรข้ามไปกรุงลงกาได้สำเร็จ
*
เมียคนที่สี่กับนางฟ้า ชื่อ “นางวานรินทร์”
เดิมเป็นนางฟ้าทำหน้าที่เฝ้าดวงประทีปในห้องของพระอิศวร นางฟ้าผู้รักการเมาท์เป็นจิตใจ ดันไปเมาท์กับเพื่อน ปล่อยให้ดวงประทีปดับ มืดกันไปทั้งสวรรค์ พระอิศวรจึงสาปให้ลงมาเฝ้าเขาอังกาศเพียงผู้เดียวไม่สามารถเมาท์กับเพื่อนนางฟ้าได้อีก นางต้องเฝ้าเขาอังกาศอยู่อย่างนั้นจนกว่าจะพบและช่วยบอกที่ซ่อนของศัตรูแก่หนุมาน นางจึงจะพ้นคำสาป
ในรามเกียรติ์ตอน “ศึกวิรุญจำบัง” พระรามทรงมีพระบัญชาให้หนุมานตามไปสังหารวิรุญจำบังซึ่งหลบหนีไป ระหว่างทางตามหาวิรุญจำบัง หนุมานได้พบนางวานรินทร์โฉมงามในถ้ำ จึงเกี้ยวพาราสีถามไถ่ความจริงได้ความและได้ไว้เป็นเมียอีกหนึ่ง นางวานรินทร์เมื่อบอกที่ซ่อนของวิรุญจำบังให้หนุมานรู้แล้วก็พ้นคำสาปกลับไปอยู่บนสวรรค์ตามเดิม (อาจไปเมาท์ต่อ)
เมียคนต่อไปอดีตนางฟ้าไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ “นางมณโฑ” เมียรักของทศกัณฐ์ก็ตกเป็นเมียของหนุมานเหมือนกัน
ทศกัณฐ์กลัดกลุ้มใจที่เสียพญายักษ์และไพร่พลมากมายในการศึก จึงขอให้นางมณโฑทำพิธีหุงน้ำทิพย์ ที่เคยร่ำเรียนมาจากพระอุมา ซึ่งเป็นนายหญิงเก่า พอครบ 7 วัน ก็จะได้น้ำทิพย์มาประพรมเหล่ายักษ์ที่ตายไปให้ฟื้นคืนชีพขึ้นมา พญายักษ์ที่ตายไปแล้วอย่าง กุมภกรรณ วิรุญจำบัง สหัสเดชะ อินทรชิต แสงอาทิตย์ ฯลฯ ก็ฟื้นขึ้นมาเป็นผีดิบมีอิทธิฤทธิ์มากมาย
พระรามนึกสงสัยจึงตรัสถามพิเภกผู้รอบรู้ไปหมดทุกเรื่อง ได้ความว่า นางมณโฑหุงน้ำทิพย์เป็นน้ำอมฤตได้ แต่มีเคล็ดลับว่านางต้องถือพรหมจรรย์ตลอดพิธี ระหว่างที่นางมณโฑเป็นโรงงานหุงน้ำทิพย์ส่งมาให้กองทัพทศกัณฐ์นั้นเอง พระรามมีพระบัญชาให้หนุมานนิลนนท์ และชมพูพานไปทำลายพิธี หนุมานแปลงกายเป็นทศกัณฐ์เข้าไปพบนางมณโฑบอกให้นางเลิกพิธีเสียเพราะชนะศึกแล้ว และขอร่วมหลับนอนกับนางด้วย พิธีหุงน้ำทิพย์จึงถูกทำลายลง
ฝ่ายกองทัพทศกัณฐ์เมื่อน้ำทิพย์ “ขาดตลาด” ไม่มาส่งเหมือนเดิม ก็รู้ว่าพิธีหุงน้ำทิพย์ถูกทำลาย จึงถอยทัพกลับ ส่วนหนุมานเสร็จภารกิจแล้วก็ทิ้งเมืองลงกา งานนี้นางมณโฑช้ำใจหัวโตอยู่คนเดียว
เมียคนสุดท้ายที่จะเล่าในคราวนี้เป็นนางยักษ์ชื่อ “นางสุวรรณกันยุมา” มเหสีม่ายของอินทรชิต ที่ทศกัณฐ์ยกให้แก่หนุมาน
หลังจากหลงกลอุบายของหนุมาน (อีกแล้ว) ที่ทำทีมาสวามิภักดิ์โดยแกล้งทูลว่าเหน็ดเหนื่อยและน้อยใจที่รับใช้พระรามพระลักษณ์มานานนม แต่ไม่เคยได้รับรางวัลหรือการยกย่องเลย แถมยังถูกกล่าวโทษ เลยต้องหนีมาพึ่งใบบุญทศกัณฐ์แล้วออกอุบาย (ซ้ำอีกที) อาสาไปรบกับพระลักษณ์เพื่อพิสูจน์ความภักดีของตน ทศกัณฐ์เมื่อเห็นหนุมานแสดงความจริงใจฝักใฝ่ตนอย่างเต็มที่ ก็ปูนบำเหน็จความดี ความชอบให้เป็นอุปราช มอบราชทรัพย์ และยกนางสุวรรณกันยุมาให้ ซึ่งเป็นม่ายหลังจากอินทรชิตผู้สามีตายในการรบกับพระราม
ลูกของหนุมาน
แม้หนุมานจะมีเมียรูปงามสะคราญโฉมแต่ก็มิได้อยู่กินกับนางใดนานด้วยติดภารกิจงานหลวงต้องไปรบทัพจับศึก แต่กระนั้นก็ยังมีทายาทสืกับสกุลถึง 2 ตน คือ อสุรผัด ลูกชายกึ่งลิงกึ่งยักษ์ ซึ่งเป็นลูกที่เกิดกับนางเบญกายและ มัจฉานุ ลูกชายกึ่งลิงกึ่งปลา ที่เกิดบนางสุพรรณมัจฉา
ตบตีแย่งชิงหึงหวง
หนุมานเก่งกาจเรื่องการรบขนาดไหนแต่เรื่องการรักก็มีเรื่องกุมขมับบ่อยเหมือนกันเพราะเมียก่อน เมียหลังอาละวาดตบตีกัน (ได้อารมณ์ประมาณ “แรงเงา”) ไม่ใช่ใครที่ไหน นางเบญกาย กับนางสุวรรณกันยุมา สองนางยักษ์ที่มาปะทะกันกลางกรุงลงกา ขณะที่หนุมานแกล้งมาสวามิภักดิ์กับทศกัณฐ์นั่นเองแม้จะเก่งกล้าสามารถในการศึก แต่มาเจอรถไฟสองขบวนชนกันจังเบ้อเร่อกลางกรุงลงกาอย่างนี้ ก็ออกอาการเป๋ ปวดเศียรเวียนเกล้าเอาเหมือนกัน นางเบญกายและนางสุวรรณกันยุมาลงไม้ลงมือถล่มกันแบบไม่ยั้งจนนางสุวรรณกันยุมาต้องเรียกลูกชาย คือ ยามลิวัน และ กันยุเวก ให้มาช่วย
เหตุการณ์จะลงเอยอย่างไร ไปตามอ่านในรามเกียรติ์กันได้เอง หรือจะติดตามชมจากการแสดงโขนรามเกียรติ์ ที่สำนักการสังคีตจัดให้ชมอยู่บ่อยๆก็ได้ ดูหลายๆตอนก็ปะติดปะต่อเป็นเรื่องกันได้เอง
บทความดีๆ โดยคุณ ฐิพรรัศม์ อิ่มสวาสดิ์
ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ
ที่มา..http://www.trueplookpanya.com |