ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

>> หนุมาน (เนื้อผง) สองอมตะผู้ไม่มีวันตาย <<

[คัดลอกลิงก์]
nobnob ตอบกลับเมื่อ 2014-8-1 01:12
อ่อ ซวยแระ ขอถอนคำพูดแระครับ(ทันมั้ยเนี่ย)..........  เข้ ...

แจ่มครับ อย่าลืมสีผึ้งด้วยน่ะ
metha ตอบกลับเมื่อ 2014-8-1 04:06
แจ่มครับ อย่าลืมสีผึ้งด้วยน่ะ

จัดไปครับ จัดไป
Nujeab ตอบกลับเมื่อ 2014-8-1 10:20
จัดไปครับ จัดไป

สู้ๆๆครับพี่หนู
แหม่บ้านนี้หนุ่มๆมีรสชาติในการใช้ของจริงๆ
อย่างนี้ต้องให้โดนสาวๆรุมแย่งกระชากเสื้อขาด
เผื่อจะเข็ด
อาถรรพ์หนุมานหินอ่อนสีชมพู

เบื้องหลังความโด่งดังของจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์


    คืนวันที่  ๑๖ กันยายน ๒๕๐๐ จอมพลสฤษดิ์  ธนะรัชต์ ได้นำกำลังทหาร ทำรัฐประหารโค่นล้มรัฐบาลจอมพล ป.พิบูลย์สงคราม ลงอย่างง่ายดาย พร้อมกับการก้าวขึ้นสู่บัลลังก์แห่งอำนาจอย่างเด็ดขาดในประเทศไทย ด้วยการประกาศกฏอัยการศึกทั่วประเทศ ท่านจอมพลใช้มาตรา ๑๗ สั่งการกับ มือวางเพลิง จอมอันธพาล สิงห์เฮโลอีน และผู้บ่อนทำลายชาติ คนต่อไปและคนต่อไปอย่างไม่เกรงกลัวใคร ซึ่งการสั่งยิงเป้าแต่ละครั้ง เป็นการเสริมสร้างพลังแห่งความกลัวเกรงของผู้กระทำความผิดเป็นลำดับๆ จนเมืองไทยสงบราบคาบ ด้วยอาชญากรรมต่างๆ อย่างสิ้นเชิง

         แต่ทว่า ท่ามกลางความสงบราบเรียบของบ้านเมือง กลับเป็นผลร้ายพอกพูนไว้กับ ท่านจอมพลเสมือนถูกฟ้าดินลงโทษ กับผู้มีบาปทางการเมืองอย่างท่านจอมพลสฤษดิ์ มีอาการเพียบหนัก จนถึงขั้นต้องบินไปผ่าตัดม้ามที่สหรัฐอเมริกา แพทย์ขีดเส้นตายไว้ไม่เกิน ๑ ปี ช่วงนี้เองที่เหล่าสมุนซ้ายขวาผู้จงรักภักดีต่อ พณ.ท่านเริ่มกระสับกระส่ายโดยเฉพาะอดีตกุนซือรัฐมนตรี X ถึงกับวิ่งพล่านไม่เป็นอันกินอันนอนไปด้วย


           อาจารย์เต็ง จิตตะวณิช ผู้มีชื่อเสียงโด่งดังกับการแกะสลักจากสมาธิ (ซึ่งเคยแกะสลักตราจักรีจากหิน สลักพญาหงส์เหยียบคฑา และราชสีห์หยก น้อมเกล้าฯ ถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ มาแล้ว) เมื่อปี ๒๕๐๐ จากการใช้สมาธิจิตจนเกิดนิมิตเป็นรูปที่จะแกะแล้วสลักขึ้นตามนั้น โดยที่ตนเองไม่เคยมีความรู้เรื่องการแกะสลักมาก่อนเลย (ว่ากันว่าทำได้เพราะบารมีเทพ)

          ชื่อเสียงอาจารย์เต็ง เป็นที่กล่าวขานกันในหมู่ผู้บ้าอำนาจของเมืองไทย อดีตรัฐมนตรี x จึงมาว่าให้อาจารย์เต็ง แกะสลักรูปหนุมานหาวเป็นดาวเป็นเดือน เพื่อต่ออายุให้ท่านจอมพลฯ  รูปหนุมานหาว  ตรงกับปีเกิดของ  ฯ พณ ฯ  จอมพล  สฤษดิ์  ธนะรัชต์  คือปีวอก  ( เกิดเมื่อวันอังคารที่  ๑๖  มิถุนายน พ.ศ.๒๔๕๑  ตรงกับแรม  ๓  ค่ำ  เดือน  ๗  ปีวอก )  หมายถึงลิงหรือหนุมานในเรื่องรามเกียรติ์  และหมายถึงอำนาจ,  ทหารเอก


             อาจารย์เต็งเข้าสมาธิ เห็นเป็นเหตุร้ายจะบังเกิดแก่ตน และโดยเฉพาะ ผู้มาว่าให้ทำอย่างเด่นชัด จึงปฏิเสธไม่รับทำ  และขอร้องให้รัฐมนตรี X เลิกคิดจะทำการต่ออายุ พณฯท่านเสีย ไม่งั้นตัวเองจะรับเคราะห์แทน แต่ด้วยความซื่อสัตย์ต่อเจ้านาย อดีตรัฐมนตรี X  ยอมรับเคราะห์กรรมแทนไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น โดยไม่ยอมล้มเลิกความตั้งใจที่จะทำพิธีต่ออายุ   จากนั้นพิธีประกอบเป็นตัวหนุมานอันลือลั่นจึงเกิดขึ้นมาในคืนวันเพ็ญ

โดยรัฐมนตรี X ยอมลงทุนไปขุดดิน ๗ ป่าช้าด้วยตนเอง ครั้งสุดท้ายที่ไปขุดดินกลางท้องสนามหลวง เที่ยงคืนของคืนพระจันทร์เต็มดวง ขณะที่ปักธูปขอขมาอธิษฐานต่อเทพยดาและบูรพมหากษัตริย์ไทย สุนัขจากทั่วทุกสารทิศก็หอนโหยหวนขึ้นพร้อมกันคล้ายจะเป็นสัญญาณว่าเทพเจ้าแห่งมฤตยู  ได้ย่างพระบาทเข้ามารับรู้การกระทำอันฝืนกติกาแห่งยมฑูต แต่รัฐมนตรี X ก็ใจแข็งพอที่จะหอบคินนั้นมาปั้นเป็นฤาษีนารท เพื่อทำพิธีได้อย่างปลอดภัย ส่วนข้างอาจารย์เต็ง ซึ่งกำลังไปขนหินอ่อนเพื่อมาแกะสลักที่เขาโชงก จ.นครนายก ก็ต้องผจญกรรมเสี่ยงต่อการเสืยชีวิตและรอดมาได้ แต่ก็ต้องเสียขาไปหนึ่งข้างเพราะอิทธิพลของหินอ่อนอันลือลั่น...


          เบื้องหลังการทำหนุมานหินอ่อนสีชมพูนี้ เต็มไปด้วยความลี้ลับนานับประการ ยากเย็นเข็ญใจกว่าจะสัมฤทธิ์ผลออกมา ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องมีอันเป็นไปจนไม่เหลือแม้แต่คนเดียวตายเกลี้ยงอย่างน่าสงสาร แต่จะยากเย็นอาถรรพ์แค่ไหน ก็ไม่พ้นความสามารถของผู้มีพลังจิตอันกล้าแข็งของอาจารย์เต็งไปได้ ทั้งๆที่ตลอดเวลาที่อาจารย์เข้าสมาธิ แกะสลักหนุมานหินอ่อน ตาทั้งสองข้างบวมแดงจนเกือบจะบอด ต้องพักแล้วรวมพลังอันแข็งกล้าฝ่าฟันมารร้ายจนลุล่วงเป็นรูปร่างหนุมานหาวเป็นดาวเป็นเดือน ที่มีมือหนึ่งถือจักร มือหนึ่งถือพระขรรค์ยืนเงื้อง่าอย่างองอาจบนแท่นไม้เล็กๆที่ต้องใช้เวลาทั้งสิ้น  ร่วม ๓ เดือน เพราะต้องเสียเวลาในการนำดินจาก ๗ ประเทศ พร้อมด้วยผงอิทธิเจ จากประเทศศรีลังกา   ด้าย ๙ สี ปิดลงในดวงจอมพลสฤษดิ์ บนแผ่นเงินแผ่นทอง ๓ แผ่น ที่สำคัญในตัวหนุมานตัวนี้ ใส่เครื่องผงลงกา  ลงไปด้วยนี่เองคือที่มาแห่งอำนาจในตัว พณฯท่าน ที่กำลังป่วยหนัก ถึงกับต้องให้น้ำเกลืออยู่ที่กองพล ๑
สามารถจะลุกขึ้นมาปฏิบัติการได้อย่างเฉียบพลัน เด็ดขาดแทบไม่น่าเชื่อ


                 แต่หนุมานหินอ่อนตัวนี้ ฤทธิกล้าแข็งเกินไปเสียแล้ว เพราะการอัญเชิญเหล่าเทพทุกชั้นฟ้ามาร่วมปลุกเสกจึงต้องทุบขา หนุมานออกเสียข้างหนึ่ง  แล้วใส่เดือยเหล็กทำขาปลอมขึ้นมาแทน ส่วนแขนที่ต้องเด็ดออกเสียข้างหนึ่ง

เพื่อลดอิทธิฤทธิ์ที่จะบ้าระห่ำลงไม่งั้น จอมพลสฤษดิ์ อาจจะเป็นนโปเลียนที่ ๒ ของโลกก็อาจเป็นได้ ...ไม่มีใครล่วงรู้ถึงความลี้ลับในตัวหนุมานหินอ่อนตัวนี้แม้กระทั่งบัดนี้ นอกเสียจากอดีตรัฐมนตรี X ผู้ซื่อสัตย์ และอาจารย์เต็ง ผู้ประกอบพิธีมากับมือ  จวบจนกระทั่งวาระสุดท้ายของ พณฯ ท่านก็มาถึง ตามกำหนดของดวงในหนุมาน...

                 ที่ห้องดับจิต ณ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า เมื่อ เวลา ๑๘ นาฬิกา ของวันที่ ๘ ธันวาคม ๒๕๐๖ อันเป็นขณะเดียวกับที่บ้านกองพล ๑

บนห้องรับแขกอันเป็นที่ตั้งของหนุมานหินอ่อน

งกำลังหมุนติ้วอยู่หลายตลบและแล้วในที่สุด

ก็แตกกระจายออกเป็นเสี่ยงๆ ในเวลาเดียวกัน

                 อวสานของ พณฯท่านจอมพลเผด็จการมาถึงแล้ว แม้จะต่ออายุมาได้ถึง ๒ ปี เต็ม ก็ไม่สามารถหนีความตายไปได้   รัฐมนตรี X ผู้ซื่อสัตย์ยอมรับเคราะห์กรรมจนตัวเองเกือบโดนโทษประหารในคดีฐานบ่อนทำลายชาติ ส่วนอาจารย์เต็งก็ต้องจบชีวิตอย่างน่าสงสารในเวลาต่อมาด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ปริศนา และมีบุคคลที่เกี่ยวข้องกับพิธีกรรมลึกลับนี้อีกมากมายที่ต้องจบชีวิตลงไปพร้อมด้วยกัน



แหล่งที่มาบทความ
http://www.ubonpra.com/board/index.php?topic=2461.msg15312
เก่งมากๆ หนุมาน
majoy ตอบกลับเมื่อ 2014-10-1 08:54

รู้เรื่องกับเขาด้วยหรา
Sornpraram ตอบกลับเมื่อ 2014-10-1 09:37
รู้เรื่องกับเขาด้วยหรา

คงไม่แคล้วเรื่อง...
Sornpraram ตอบกลับเมื่อ 2014-10-1 08:38
โดยเฉพาะเรื่อง..

เรื่องอะไรดี อยากเก่งแบบหนุมานจังครับ
majoy ตอบกลับเมื่อ 2014-10-1 12:07
คงไม่แคล้วเรื่อง...

อะไรอ่า
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้