ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก
เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด
เข้าสู่ระบบ
บ้านหลวงปู่
คศช.
ข่าวสารล่าสุด
ประสบการณ์
โชว์วัตถุมงคล
สอบถาม
นานาสาระ
นครนาคราช
ร่วมประมูล
บูชาวัตถุมงคล
เพื่อน
กระทู้แนะนำ
บุ๊คมาร์ก
ไอเท็ม
เหรียญ
ภารกิจ
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
ดูบริการทั้งหมด
เว็บบอร์ด
BBS
บูชาวัตถุมงคลหลวงปู่ชื่น
ศรีสุทธรรมนาคราช
ร้านจอมพระ
ศูนย์พระเครื่องจอมพระ
ค้นหา
ค้นหา
HOT TAG:
พระศรีราม
ขุนแผนแสนตรีเวทย์
พระเจ้าชัยวรมัน
บอร์ดนี้
บทความ
เนื้อหา
สมาชิก
Baan Jompra
›
นานาสาระ
›
ตำนานพระเกจิอาจารย์แห่งแดนสยาม
»
พระองค์ที่ ๑๐ : สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส
1
2
3
4
/ 4 หน้า
ถัดไป
กลับไป
ตั้งกระทู้ใหม่
ดู: 9083
ตอบกลับ: 34
พระองค์ที่ ๑๐ : สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส
[คัดลอกลิงก์]
kit007
kit007
ออฟไลน์
เครดิต
32163
ไปยังโพสต์
1
#
โพสต์ 2014-6-11 13:44
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
|
โพสต์ใหม่ขึ้นก่อน
|
โหมดอ่าน
พระประวัติและปฏิปทา
สมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ ๑๐ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส
(พระองค์เจ้ามนุษยนาคมานพ มนุสฺสนาโค)
พุทธศักราช ๒๔๕๓-๒๔๖๔
วัดบวรนิเวศวิหาร
แขวงบวรนิเวศ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร
หัวข้อ
• พระประวัติในเบื้องต้น
• ทรงบรรพชาและอุปสมบท
• ทรงทำทัฬหีกรรม (อุปสมบทซ้ำ)
• ทรงกรมและเป็นพระราชาคณะเจ้าคณะรอง
• ทรงครองวัดบวรนิเวศวิหาร
• การศึกษาพระปริยัติธรรมในภาษาไทย
• ทรงจัดตั้งมหามกุฎราชวิทยาลัย
o หลักสูตรของเดิม
o หลักสูตรมหามกุฏราชวิทยาลัย
• ทรงจัดตั้งโรงพิมพ์มหามกุฎราชวิทยาลัย
• ทรงออกนิตยสารธรรมจักษุ
• ทรงอำนวยการจัดการศึกษาหัวเมืองทั่วพระราชอาณาจักร
• ทรงปรับปรุงการปกครองคณะสงฆ์
• มหาสมณุตมาภิเษก
• ประกาศมหาสมณุตมาภิเศก
• ทรงปรับสถานภาพของคณะสงฆ์
• เสด็จตรวจการคณะสงฆ์
• ทรงปรับปรุงการพระศาสนาและการคณะสงฆ์ในด้านต่างๆ
o ในด้านการพระศาสนา
o ในด้านการคณะสงฆ์
o ในด้านการศึกษา
• การสถาปนาเปลี่ยนคำนำพระนามเป็น “สมเด็จพระมหาสมณเจ้า”
• ผลงานพระนิพนธ์
• ทรงเป็นนักการศึกษาที่ยิ่งใหญ่ของไทย
• พระกรณียกิจพิเศษ
• พระอวสานกาล
• ประวัติมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย
• ข้อมูลพื้นฐานปัจจุบันของมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย
บุ๊คมาร์ก
0
ตอบกลับ
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
kit007
kit007
ออฟไลน์
เครดิต
32163
2
#
เจ้าของ
|
โพสต์ 2014-6-11 13:46
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส
(พระองค์เจ้ามนุษยนาคมานพ มนุสฺสนาโค)
พระประวัติในเบื้องต้น
หลังจาก
สมเด็จพระสังฆราช (สา ปุสฺสเทโว)
วัดราชประดิษฐ์ สิ้นพระชนม์
เมื่อ พ.ศ. ๒๔๔๒ แล้ว พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕
ไม่ทรงสถาปนาพระเถระรูปใดในตำแหน่งที่สมเด็จพระสังฆราช อีกจนตลอดรัชกาล
ในช่วงปลายรัชกาลที่ ๕ จึงว่างสมเด็จพระสังฆราชอยู่เป็นเวลา ๑๑ ปี ถึงรัชกาลที่ ๖
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงทรงถวายมหาสมณุตมาภิเษกแด่
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระวชิรญาณวโรรส เป็น
สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส
กล่าวอย่างสามัญทั่วไปก็คือ ทรงสถาปนาเป็นสมเด็จพระสังฆราชนั่นเอง
พระองค์เจ้าบุตรี กรมหลวงวรเสรฐสุดา
สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส
ทรงเป็นพระราชโอรส องค์ที่ ๔๗
ใน
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔
และ
เจ้าจอมมารดาแพ
ประสูติเมื่อวันพฤหัสบดี เดือน ๕ แรม ๗ ค่ำ
ปีวอก จุลศักราช ๑๒๒๑ ตรงกับวันที่ ๑๒ เมษายน พุทธศักราช ๒๔๐๓
ณ ตำหนักหลัง พระที่นั่งจักรพรรดิพิมานมุขหลัง ในพระบรมมหาราชวัง
เมื่อวันประสูตินั้นฝนตกใหญ่ พระบรมชนกนาถจึงทรงถือเป็นมงคลนิมิต
พระราชทานนามว่า
“พระองค์เจ้ามนุษยนาคมานพ”
หลังจากประสูติได้เพียงปีเดียว เจ้าจอมมารดาของพระองค์ก็ถึงแก่กรรม
พระองค์จึงทรงอยู่ในความเลี้ยงดูของกรมหลวงวรเสรฐสุดา อาทิอักษรวรรคศรี
(พระองค์เจ้าบุตรี พระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓)
ซึ่งเป็นพระญาติ ทรงเรียกว่าเสด็จป้า มาตั้งแต่ทรงพระเยาว์
ต่อมา ทรงย้ายมาอยู่กับท้าวทรงกันดาร (ศรี) ผู้เป็นยาย
เมื่อพระชนมายุ ๘ พรรษา ทรงเริ่มศึกษาภาษาบาลี
ทรงศึกษาอยู่จนสามารถแปลธรรมบทได้ก่อนที่จะทรงผนวชเป็นสามเณร
และทรงเริ่มศึกษาภาษาอังกฤษกับครูฝรั่งเมื่อพระชนมายุ ๑๒ พรรษา
นอกจากนี้ ยังทรงศึกษาโหราศาสตร์กับครู
ที่เชี่ยวชาญทางโหราศาสตร์มาแต่พระชนม์ยังน้อย
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
kit007
kit007
ออฟไลน์
เครดิต
32163
3
#
เจ้าของ
|
โพสต์ 2014-6-11 13:46
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
เมื่อทรงมีพระชนมายุได้ ๕ พรรษา
ทรงบรรพชาและอุปสมบท
เมื่อพระชนมายุ ๑๔ พรรษา ทรงผนวชเป็นสามเณรตามพระราชประเพณี
ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม พร้อมกับเจ้านายอื่นอีก ๒ พระองค์
โดยมี
สมเด็จฯ กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์
เป็นพระอุปัชฌาย์
และ
หม่อมเจ้าพระธรรมุณหิศธาดา
(มีพระนามเดิมว่า ศิขเรศ)
เป็นผู้ประทานสรณะและศีล เมื่อทรงผนวชแล้วมาประทับ ณ วัดบวรนิเวศวิหาร
ทรงผนวชเป็นสามเณรอยู่ ๒ เดือนเศษ จึงทรงลาผนวช
ครั้นพระชนมายุ ๒๐ พรรษา ทรงผนวชเป็นพระภิกษุ
ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เมื่อวันที่ ๒๗ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๒๒
โดยมี
สมเด็จฯ กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์
เป็นพระอุปัชฌาย์
และ
พระจันทรโคจรคุณ (ยิ้ม จันทรังสี)
วัดมกุฎกษัตริยาราม
เป็นพระกรรมวาจาจารย์
ทรงได้รับพระนามฉายาว่า
“มนุสฺสนาโค”
ทรงผนวชแล้วเสด็จมาอยู่จำพรรษา ณ
วัดบวรนิเวศวิหาร
เมื่อทรงมีพระชนมายุได้ ๑๕ พรรษา
ถึงหน้าเข้าพรรษาของปีพุทธศักราช ๒๔๒๒ นั้นเอง
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จพระราชดำเนิน
มาทรงถวายพุ่มพรรษา ณ วัดบวรนิเวศวิหาร ตามพระราชประเพณี
และในคราวนั้นได้เสด็จฯ ไปถวายพุ่มพรรษาแด่
พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้ามนุษยนาคมานพ
ซึ่งเพิ่งทรงผนวชใหม่ถึงกุฏิที่ประทับ
พร้อมทั้งทรงกราบด้วยพระอาการเคารพ
อันเป็นพระอาการที่ไม่เคยทรงปฏิบัติต่อพระเจ้าน้องยาเธอพระองค์อื่นที่ทรงผนวช
เป็นเหตุให้สมเด็จพระมหาสมณเจ้าพระองค์นั้น
ทรงตัดสินพระทัยไม่ทรงลาผนวชแต่วันนั้น
ดังที่พระองค์ได้ทรงบันทึกไว้ในพระประวัติตรัสเล่าว่า
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
kit007
kit007
ออฟไลน์
เครดิต
32163
4
#
เจ้าของ
|
โพสต์ 2014-6-11 13:47
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
เมื่อทรงมีพระชนมายุได้ ๑๕ พรรษา
“เสด็จกุฎีเราทรงประเคนพุ่ม เราเห็นท่านทรงกราบด้วยเคารพอย่างเป็นพระแปลก
จากพระอาการที่ทรงแสดงแก่พระองค์อื่นเพียงทรงประคอง อัญชลี
เรานึกสลดใจว่า โดยฐานเป็นพระเจ้าแผ่นดิน ท่านก็เป็นเจ้าของเรา
โดยฐานเนื่องในพระราชวงศ์เดียวกัน ท่านก็เป็นพระเชฏฐะของเรา
โดยฐานเป็นผู้แนะราชการพระราชทาน ท่านก็เป็นครูของเรา
เห็นท่านทรงกราบแม้จะนึกว่าท่านทรงแสดงความเคารพแก่ธงชัยพระอรหันต์ต่างหาก
ก็ยังวางใจไม่ลง ไม่ปรารถนาจะให้เสียความวางพระราชหฤทัยของท่าน
ไม่ปรารถนาจะให้ท่านทอดพระเนตรเรา
ผู้ที่ท่านทรงกราบแล้ว ถือเพศเป็นคฤหัสถ์อีก
ตรงคำที่เขาพูดกันว่า กลัวจัญไรกิน เราตกลงใจว่าจะไม่สึกในเวลานั้น”
สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์
พระอุปัชฌาย์ในคราวทรงบรรพชาและอุปสมบท
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
kit007
kit007
ออฟไลน์
เครดิต
32163
5
#
เจ้าของ
|
โพสต์ 2014-6-11 13:48
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
พระจันทรโคจรคุณ (ยิ้ม จันทรังสี) พระอุปัชฌาย์
เมื่อทรงทำทัฬหีกรรม (อุปสมบทซ้ำ) เป็นธรรมยุตอีกครั้งหนึ่ง
ทรงทำทัฬหีกรรม (อุปสมบทซ้ำ)
หลังจากทรงจำพรรษา ณ วัดบวรนิเวศวิหาร ๑ พรรษาแล้ว
ได้เสด็จไปจำพรรษาที่ ๒ ณ วัดมกุฎกษัตริยาราม
ในสำนักของพระจันทโคจรคุณ (ยิ้ม จันทรังสี) ผู้เป็นพระกรรมวาจาจารย์
ในระหว่างที่ประทับ ณ วัดมกุฎกษัตริยาราม นั้นเอง
ได้ทรงทำ
ทัฬหีกรรม (อุปสมบทซ้ำ)
เป็นธรรมยุตอีกครั้งหนึ่ง
ตามธรรมเนียมนิยมของพระสงฆ์ธรรมยุตในครั้งนั้น
โดยมี
พระจันทรโคจรคุณ (ยิ้ม จันทรังสี)
เป็นพระอุปัชฌาย์
พระธรรมไตรโลกาจารย์ (เดช ฐานจาโร)
เจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทราวาส
แต่ครั้งยังเป็นพระเปรียญอยู่วัดโสมนัสวิหาร เป็นพระกรรมวาจาจารย์
ณ โบสถ์แพ หน้าวัดราชาธิวาส เมื่อวันที่ ๓ มกราคม พ.ศ. ๒๔๒๒
สมเด็จพระมหาสมณเจ้าฯ ทรงฉายร่วมกับ
พระจันทรโคจรคุณ (ยิ้ม จันทรังสี) เมื่อครั้งยังมิได้ทรงกรม
ทรงกรมและเป็นพระราชาคณะเจ้าคณะรอง
เมื่อทรงผนวชได้ ๓ พรรษา ทรงเข้าแปลพระปริยัติธรรมหน้าพระที่นั่ง
ณ พระที่นั่งบรมราชสถิตมโหฬาร ห้องเขียว
ท่ามกลางประชุมพระราชาคณะผู้ใหญ่ ๑๐ รูป
มี
สมเด็จฯ กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์
เป็นประธาน
ทรงแปลได้เป็นเปรียญ ๕ ประโยค และทรงหยุดอยู่เพียงนั้น
หลังจากทรงแปลพระปริยัติธรรม ได้เป็นเปรียญ ๕ ประโยคแล้ว
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงสถาปนาพระอิสริยยศเป็น
กรมหมื่นวชิรญาณวโรรส ทรงดำรงสมณศักดิ์เป็นเจ้าคณะรองในธรรมยุติกนิกาย
เมื่อ พ.ศ. ๒๔๒๔ พระองค์ทรงเป็นเจ้าคณะรองในคณะธรรมยุตเป็นพระองค์แรก
และทรงเป็นพระราชาคณะเจ้าคณะรอง
ที่ทรงมีพรรษายุกาลน้อยที่สุด คือ ๓ พรรษาเท่านั้น
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
kit007
kit007
ออฟไลน์
เครดิต
32163
6
#
เจ้าของ
|
โพสต์ 2014-6-11 13:48
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
พัดยศสมณศักดิ์กรมหมื่นวชิรญาณวโรรส
มีสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะเจ้าคณะรองคณะธรรมยุต
ทรงครองวัดบวรนิเวศวิหาร
ครั้นเมื่อปีพุทธศักราช ๒๔๓๔
สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์
สิ้นพระชนม์
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
ให้
สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส
ขณะเมื่อทรงดำรงพระอิสริยยศเป็นกรมหมื่น ทรงครองวัดบวรนิเวศวิหาร
สืบต่อจาก
สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์
นับเป็นเจ้าอาวาสพระองค์ที่ ๓ ของวัดบวรนิเวศวิหาร
ครั้นปี พ.ศ. ๒๔๓๖ ทรงพระกรุณาโปรดเลื่อนพระสมณศักดิ์เป็น
สมเด็จพระราชาคณะเจ้าคณะใหญ่คณะธรรมยุต
นับเป็นเจ้าคณะใหญ่คณะธรรมยุตพระองค์ที่ ๒
ทรงเป็นเจ้าคณะใหญ่คณะธรรมยุตเมื่อทรงมีพรรษายุกาล ๑๕ พรรษา
เมื่อทรงเป็นเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหารแล้ว
ก็ได้ทรงเริ่มพัฒนากิจการพระศาสนา
โดยทรงเริ่มทำขึ้นภายในวัดบวรนิเวศวิหารก่อน
เป็นการทดลองเพื่อดูผลได้ผลเสีย และทรงปรับปรุงแก้ไขจนทรงเห็นว่า
มีผลดีเป็นคุณประโยชน์แก่พระศาสนาเป็นส่วนรวม
จึงทรงขยายออกในวงกว้าง กล่าวเฉพาะที่สำคัญคือ
เมื่อครั้งทรงดำรงพระอิสริยยศเป็นพระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นวชิรญาณวโรรส
พระชนมายุได้ราว ๒๐-๒๑ พรรษา
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
kit007
kit007
ออฟไลน์
เครดิต
32163
7
#
เจ้าของ
|
โพสต์ 2014-6-11 13:49
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
การศึกษาพระปริยัติธรรมในภาษาไทย
ทรงริเริ่มให้ภิกษุสามเณรที่บวชใหม่เล่าเรียนพระธรรมวินัยในภาษาไทย
เพื่อให้รู้จักพระพุทธศาสนาทั้งส่วนที่เป็นธรรมและวินัยในขั้นพื้นฐาน
ในชั่วระยะเวลาอันสั้น โดยพระองค์ได้ทรงสอนด้วยพระองค์เอง
มีการสอบความรู้ของภิกษุสามเณรที่เรียนด้วยวิธีสอบแบบใหม่คือวิธีเขียน
ต่อมาได้มีภิกษุสามเณร ไม่เฉพาะแต่พระใหม่เท่านั้น
ที่นิยมเล่าเรียนพระธรรมวินัยแบบใหม่ที่พระองค์ทรงจัดขึ้นนี้
และนิยมแพร่หลายออกไปถึงวัดอื่นๆ ด้วย
เมื่อทรงเห็นว่าเป็นการเล่าเรียนที่มีประโยชน์ต่อภิกษุสามเณรทั่วไป
จึงได้ทรงกำหนดให้เป็นหลักสูตรการศึกษาสำหรับคณะสงฆ์ในเวลาต่อมา
ที่เรียกว่า
“นักธรรม”
ซึ่งเป็นหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ของคณะสงฆ์สืบมาจนปัจจุบัน เป็นการศึกษาพระปริยัติธรรมในภาษาไทย
คู่กับการศึกษาพระปริยัติธรรมในภาษาบาลีที่มีมาแต่โบราณ
เมื่อทรงมีพระชนมายุได้ ๒๓ พรรษา
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
kit007
kit007
ออฟไลน์
เครดิต
32163
8
#
เจ้าของ
|
โพสต์ 2014-6-11 13:50
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
เมื่อครั้งทรงดำรงพระอิสริยยศเป็นพระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นวชิรญาณวโรรส
ทรงฉายเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๒๙ ณ วัดมกุฎกษัตริยาราม พระชนมายุได้ ๒๗ พรรษา
ทรงจัดตั้งมหามกุฎราชวิทยาลัย
สำหรับเป็นสถานศึกษาของภิกษุสามเณรและกุลบุตร
เป็นการทรงริเริ่มจัดการศึกษาของภิกษุสามเณรแบบใหม่
คือ เล่าเรียนพระปริยัติธรรมประกอบกับวิชาการอื่นๆ
ที่เอื้อต่อการสั่งสอนพระพุทธศาสนา
และสอบด้วยวิธีเขียนซึ่งทรงริเริ่มขึ้นเป็นครั้งแรก
ภิกษุสามเณรที่สอบไล่ได้ตามหลักสูตรนี้ก็ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
ตั้งเป็นเปรียญเช่นเดียวกับผู้สอบไล่ได้ในสนามหลวงตามแบบเดิมเหมือนกัน
เรียกว่า
“เปรียญมหามกุฎ”
แต่น่าเสียดายที่หลักสูตรพระปริยัติธรรมแบบมหามกุฎดังกล่าวนี้
ได้ดำเนินการอยู่เพียง ๘ ปีก็เลิกไป เพราะสมเด็จพระมหาสมณเจ้าฯ
ไม่ทรงมีเวลาจะดูแลจัดการเนื่องจากทรงมีพระภารกิจอื่นในคณะสงฆ์มาก
หลักสูตรของเดิม
การศึกษาด้านพระปริยัติ แบ่งออกเป็น ๒ ฝ่าย
ฝ่ายไทย ๙ ชั้น
ฝ่ายรามัญ ๔ ชั้น
ฝ่ายไทย
ชั้นที่ ๑ เรียน อรรถกถาธรรมบท
ชั้นที่ ๒ เรียน อรรถกถาธรรมบถ
ชั้นที่ ๓ เรียน อรรกถาธรรมบท (ตั้งแต่ชั้นนี้ไป นับเป็นเปรียญ)
ชั้นที่ ๔ เรียน มังคลัตถทีปนี บั้นต้น
ชั้นที่ ๕ เรียน สารัตถะสังคะหะ
ชั้นที่ ๖ เรียน มังคลถทีปนี บั้นปลาย
ชั้นที่ ๗ เรียน เรียน ปฐมสมันตปาสาทิกา
ชั้นที่ ๘ เรียน วิสุทธิมรรค
ชั้นที่ ๙ เรียน สารัตถะทีปนี ฎีกาพระวินัย
ฝ่ายรามัญ
ชั้นที่ ๑ เรียน บาลีพระวินัยมหาวิภังค์ (ปาจิตตีย์)
ชั้นที่ ๒ เรียน บาลีพระวินัยมหาวัคค์ และจุลวัคค์
ชั้นที่ ๓ เรียน บาลี มุคคกวินัยวินิจฉัย
ชั้นที่ ๔ เรียน ปมสมันตปาสาทิกา
การสอบ ๓ ปี สอบครั้งหนึ่ง
หากทางราชการมีเหตุขัดข้อง
ก็เลื่อนไปเป็น ๖ ปี สอบครั้งหนึ่ง
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
kit007
kit007
ออฟไลน์
เครดิต
32163
9
#
เจ้าของ
|
โพสต์ 2014-6-11 13:51
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
หลักสูตรมหามกุฏราชวิทยาลัย
ชั้นนักเรียนที่ ๓ เรียน บาลีไวยากรณ์
ชั้นนักเรียนที่ ๒ เรียน อรรถกถาธรรมบท บั้นต้น ท้องนิทาน
ชั้นนักเรียนที่ ๑ เรียน แก้คาถาอรรถกถาธรรมบท บั้นปลาย
ชั้นเปรียญที่ ๓ เรียน แก้คาถาอรรถกถาธรรมบท บั้นต้น
(เปรียญตรี)
ชั้นเปรียญที่ ๒ เรียน บาลีพระวินัยมหาวิภังค์ ภิกขุนีวิภังค์ และพระสูตรบางสูตร
(เปรียญโท)
ชั้นเปรียญที่ ๑ เรียน บาลีพระวินัยมหาวัคค์ และจุลวัคค์ และอภิธรรม
(เปรียญเอก)
การสอบ สอบทุกปี แลผลของการสอบครั้งแรกใน ปี ร.ศ. ๑๑๒ (พ.ศ. ๒๔๓๖)
นั้นก็ปรากฏว่าได้ผลดี คือมีนักเรียนสอบได้เกินกว่าครึ่ง
ดังที่ปรากฏตามกรายงานการสอบครั้งแรกดังนี้
ชั้นนักเรียนที่ ๓ สอบ ๒๙ สอบได้ ๑๕ ตก ๑๔
ชั้นนักเรียนที่ ๒ สอบ ๑๐ สอบได้ ๖ ตก ๔
ชั้นนักเรียนที่ ๑ สอบ ๔ ได้ ๑ ตก ๓
เมื่อทรงมีพระชนมายุได้ราว ๓๕ พรรษา
ในส่วนการศึกษาของกุลบุตรนั้น พระองค์ได้ทรงจัดตั้งโรงเรียนภาษาไทย
ของมหามกุฎราชวิทยาลัยขึ้นตามวัดธรรมยุต เพื่อให้เป็นที่เล่าเรียนของกุลบุตร
โดยใช้หลักสูตรที่ พระองค์ทรงจัดขึ้นใหม่เรียกว่า
“หลักสูตรมหามกุฎ”
เช่น
โรงเรียนวัดบวรนิเวศ โรงเรียนวัดมกุฎ
เป็นต้น
การจัดตั้งโรงเรียนดังกล่าวนี้ขึ้นก็ด้วยทรงมีพระดำริว่าเพื่อเป็นการช่วยรัฐบาล
พระองค์ทรงพยายามพัฒนาโรงเรียนภาษาไทยของมหามกุฎให้เป็นโรงเรียน
“เชลยศักดิ์” คือโรงเรียนราษฎร์ แบบอยู่ประจำ เพื่อเป็นต้นแบบให้รัฐบาล
หรือเอกชนอื่นๆ ทำตาม แต่ไม่เป็นผลสำเร็จเพราะขาดเงินทุนที่จะดำเนินการ
ให้เป็นไปตามพระดำริ ในที่สุดก็ต้องทรงมอบโรงเรียนภาษาไทยของมหามกุฎฯ
ให้กระทรวงธรรมการ คือกระทรวงศึกษาธิการในปัจจุบัน
เป็นผู้ดำเนินการต่อไป ดังที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
เมื่อทรงมีพระชนมายุได้ราว ๓๘ พรรษา พ.ศ. ๒๔๔๐
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
kit007
kit007
ออฟไลน์
เครดิต
32163
10
#
เจ้าของ
|
โพสต์ 2014-6-11 13:51
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ทรงจัดตั้งโรงพิมพ์มหามกุฎราชวิทยาลัย
เนื่องจากทรงจัดการศึกษาในมหามกุฎราชวิทยาลัยดังกล่าวมาแล้ว
จำเป็นต้องใช้หนังสือและตำราเรียนเป็นจำนวนมาก
จึงได้ทรงจัดตั้งโรงพิมพ์ขึ้นเพื่อจัดพิมพ์หนังสือและตำรับตำราต่างๆ
ให้เพียงพอแก่การใช้ศึกษาของภิกษุสามเณรและกุลบุตร
เรียกว่า
“โรงพิมพ์มหามกุฎราชวิทยาลัย”
โดยทรงใช้ แท่นพิมพ์ที่ใช้พิมพ์พระไตรปิฎก
เมื่อครั้งรัชกาลที่ ๕ และโรงพิมพ์ก็ตั้งที่โรงพิมพ์หลังเดิม
ที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงสร้างขึ้น
เมื่อครั้งยังทรงผนวชอยู่และทรงครองวัดบวรนิเวศวิหาร
(คือตรงที่สร้างพระตำหนักเพ็ชรในบัดนี้)
แต่โรงพิมพ์ที่พระองค์ทรงจัดตั้งขึ้นดังกล่าวนี้ดำเนินกิจการอยู่เพียง ๘ ปี
ก็ต้องเลิกไปเพราะค่าโสหุ้ยสูงจนไม่อาจดำเนินการต่อไปได้
ต้องทรงกลับไปใช้วิธีจ้างโรงพิมพ์อื่นซึ่งเสียค่าโสหุ้ยน้อยกว่า
ทรงออกนิตยสารธรรมจักษุ
หลังจากทรงจัดตั้งสถานศึกษาคือมหามกุฎราชวิทยาลัยได้ ๑ ปี
ก็ทรงออกนิตยสารธรรมจักษุ เป็นนิตยสารรายเดือน
สำหรับตีพิมพ์เรื่องราวทางพระพุทธศาสนา
ทั้งที่เป็นคำสั่งสอนและข่าวสารต่างๆ ออกเผยแพร่แก่ประชาชน
รวมทั้งข่าวเกี่ยวกับกิจการมหามกุฎราชวิทยาลัยด้วย
ที่สำคัญคือเพื่อเป็นสนามให้ภิกษุสามเณรที่เป็นนักเรียนของมหามกุฎราชวิทยาลัย
ได้ฝึกแปล แต่ง เขียน เรื่องราวทางพระพุทธศาสนาแล้วตีพิมพ์เผยแพร่แก่ประชาชน
ธรรมจักษุจึงเป็นนิตยสารทางพระพุทธศาสนาฉบับแรกของไทย
และมีอายุเก่าแก่ที่สุดนับจวบจนกระทั่งถึงปัจจุบันก็กว่า ๑๐๐ ปีแล้ว
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
หน้าถัดไป »
1
2
3
4
/ 4 หน้า
ถัดไป
กลับไป
ตั้งกระทู้ใหม่
โหมดขั้นสูง
B
Color
Image
Link
Quote
Code
Smilies
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง
ลงชื่อเข้าใช้
|
ลงทะเบียน
รายละเอียดเครดิต
ตอบกระทู้
ข้ามไปยังโพสต์ล่าสุด
ตอบกระทู้
ขึ้นไปด้านบน
ไปที่หน้ารายการกระทู้
Share To Facebook
Share To Twitter
Share To Google+
Share To ...