ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

มาติดตามข่าวสารต่างๆที่น่าสนใจกันครับ

[คัดลอกลิงก์]
[url=][/url]


รวบสาวกปปส.ปล้นปืนด.ต.กองปราบฯ ตามรวบสาวนครศรีธรรมราช ร่วมปล้นปืนพก ด.ต. สน.นางเลิ้ง นำตัวไปกักขังหลังเวทีปราศรัย กปปส.ปลายปี 56                                                                  

                               25 ก.ค. 58  ที่กองบังคับการปราบปราม  พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รรท.ผบก.ป. สั่งการให้ พ.ต.อ.ไพโรจน์ โรจนขจร ผกก.2 บก.ป. พ.ต.ท.ต่อศักดิ์ ปานกลิ่นพุฒ สว.กก.2 บก.ป. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ป. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.นางเลิ้ง ร่วมกันจับกุม นางวาที หรือ ปู เพ็งหนู หรือ ขวัญสุด อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 42/2 หมู่ 3 ต.แหลม อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.346/2557 ลงวันที่ 19 มิถุนายน 2557 โดยจับกุมได้ภายในร้านตัดผมไม่มีเลขที่ หมู่ 1 ต.ปากแพรก อ.ดอนสัก จ.สุราษฎร์ธานี

                               ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2556 ขณะที่ ด.ต. ผบ.หมู่งานสืบสวน สน.นางเลิ้ง ขี่รถจักรยานยนต์เข้าไปภายในปั๊มน้ำมัน ถ.หลานหลวง แขวงวัดโสมนัส เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กทม.เพื่อเติมลมรถจักรยานยนต์ในปั๊มน้ำมัน ได้มีผู้ชุมนุมกลุ่มคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือ กปปส. จำนวน 5 คน เข้ามารุมทำร้ายร่างกาย จากเหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ ด.ต.ได้รับบาดเจ็บที่บริเวณใบหน้า และปืนพกรวมทั้งทรัพย์สินสูญหายไป ก่อนจะถูกนำตัวไปกักขังที่หลังเวทีชุมนุม ถ.ราชดำเนิน

                               ภายหลังเจ้าหน้าที่สืบทราบว่า เหตุการณ์ดังกล่าวมีนางวาทีเป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อเหตุ และหลบหนีไปกบดานอยู่ในพื้นที่ภาคใต้ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงกระจายกำลังลงพื้นที่ออกหาเบาะแสจนทราบว่าผู้ต้องหาหลบหนีไปซ่อนตัวและพักอาศัยอยู่กับแฟนใหม่ ซึ่งมีอาชีพเป็นช่างตัดผมในพื้นที่ หมู่ 1 ต.ปากแพรก อ.ดอนสัก จ.สุราษฎร์ธานี จึงนำหมายศาลพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นและจับกุมได้ดังกล่าว   

                               จากการสอบสวนเบื้องต้นนางวาทีให้การรับสารภาพว่า เป็นบุคคลตามหมายจับจริง เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหาปล้นทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะกระทำความผิด หรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุมและร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่นหรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง รับไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป



         http://www.komchadluek.net/detail/20150725/210436.html
--------------------

        (หมายเหตุ : ภาพประกอบข่าว)

[url=][/url]



มติแพทยสภาภาคทัณฑ์'หมอพรทิพย์'                                        'หมอพรทิพย์' จ่อร้องศาลปกครอง ทบทวนมติแพทยสภา สั่งภาคทัณฑ์ ชี้คดี 'เสี่ยชูวงษ์' ตรวจสอบไม่ยาก แต่ต้องรอดูรายงานแพทย์ ประกอบกับผลตรวจที่เกิดเหตุ รถยนต์ และสภาพศพ                                                                  

                               21 ก.ค. 58  พญ.คุณหญิง พรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กล่าวถึงกรณีความเห็นแพทยสภาที่มีมติลงโทษภาคทัณฑ์ จากการเปิดเผยรายงานตรวจพิสูจน์ศพ นายห้างทอง ธรรมวัฒนะ ว่า ตนได้ยื่นขอรายละเอียดมติอย่างเป็นทางการจากแพทยสภา โดยแพทยสภาอ้างราชวิทยาลัยทั้งหมด ซึ่งไม่เคยให้ตนได้เข้าไปอธิบาย หรือชี้แจง อย่างไรก็ตาม เมื่อแพทยสภาลงมติแล้ว จะไม่สามารถอุทธรณ์ได้ ขั้นตอนที่ทำได้ คือ ร้องต่อศาลปกครองเพื่อขอให้ศาลมีคำสั่งให้แพทยสภาทบทวน โดยอยู่ระหว่างรวบรวมเอกสารมติแพทยสภาเพื่อยื่นร้องต่อศาลปกครอง

                               "ประเด็นที่นำมาอ้าง พูดเรื่องการให้สัมภาษณ์ของหมอ ไม่ใช่เรื่องการประกอบวิชาชีพ ในความเห็นของหมอ มองว่า การให้สัมภาษณ์ไม่ใช่เรื่องวิชาชีพ หมอจะยื่นต่อศาลปกครอง แต่ต้องรอดูข้อมูลจากแพทยสภาก่อน การให้สัมภาษณ์เป็นเรื่องการให้ความเห็นหมอนิติวิทยาศาสตร์ ไม่ใช่เรื่องการรักษาผู้ป่วย แต่เป็นเรื่องการรักษาความยุติธรรม"

                               ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กล่าวว่า มติลงโทษดังกล่าว ไม่มีผลกับการทำงานของตนเอง เพราะไม่ได้เป็นหมอรักษาคน แต่เป็นผู้บริหาร และไม่มีผลกับการเกษียณอายุราชการในอีก 2 เดือนข้างหน้านี้

                               พญ.คุณหญิง พรทิพย์ ยังได้ให้ความเห็นกรณีคดีนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง ว่า คดีนี้ในทางนิติวิทยาศาสตร์ ตรวจสอบได้ไม่ยาก ว่าเสียชีวิตก่อนอุบัติเหตุ หรืออุบัติเหตุเกิดก่อนแล้วเสียชีวิต ต้องรอดูรายงานแพทย์ ประกอบกับผลตรวจที่เกิดเหตุ รถยนต์ และสภาพศพ

http://www.komchadluek.net/detail/20150721/210191.html

หุ้นไทยเลือดสาด ข่าวลบปรับครม.เศรษฐกิจ-ราคาน้ำมันดิบร่วง-ประชุมเฟด 28-29 ก.ค.นี้


[url=]Prev[/url]
1 of 1

[url=]Next[/url]

คลิกภาพเพื่อขยาย



updated: 27 ก.ค. 2558 เวลา 12:13:57 น.
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์(บล.)อาร์เอชบี โอเอสเค (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันที่ 27 ก.ค. ดัชนีปรับตัวลดลงอย่างรุนแรง เนื่องจากได้รับผลจากข่าวลบในประเทศ ทั้งในแง่ภาพรวมเศรษฐกิจที่ยังไม่มีสัญญานการฟื้นตัวอย่างชัดเจนโดยล่าสุดกระทรวงพาณิชย์ ได้ประกาศตัวเลขส่งออก มิ.ย.58 อยู่ที่ระดับ -7.87% จากพ.ค. 58 ที่ระดับ-5.01% ขณะที่ส่งออก 6 เดือน (ม.ค.-มิ.ย.) -4.84% อีกทั้งยังมีข่าวลือในเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจที่ขณะนี้มี ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ทำหน้าที่รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ จึงส่งผลให้นักลงทุนมีความกังวลว่า หากเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นจริง อาจจะส่งผลกระทบถึงความต่อเนื่องด้านการบริหารงานได้
[color=#333333 !important]นอกจากนี้ยังมีปัจจัยลบต่างประเทศ ทั้งในด้านราคาน้ำมัน WTI เดือนส.ค.ที่ลดลง 0.31 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล มาปิดที่ 48.14 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรลหลังจากรายงานแท่นขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐประจำสหรัฐเพิ่มขึ้น 21 หลุม สู่ระดับ 659 หลุม กดดันราคาหุ้นกลุ่มพลังงาน รวมถึงการประชุมเฟดวันที่ 28-29 ก.ค. นี้ ก็อาจมีการส่งสัญญานเรื่องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย จึงส่งผลให้บรรยากาศการลงทุนอยู่ในเชิงลบอย่างมาก

"ภาพรวมตลาดตอนนี้มีทั้งความกังวลและความคลุมเครือกดดัน ทำให้ดัชนีปรับตัวลดลงต่อเนื่อง ดังนั้นหากจะรอตลาดปรับตัวขึ้นตอนนี้คงต้องคาดหวังการปรับตัวขึ้นทางเทคนิค ซึ่งก็อาจเกิดขึ้นได้หลังจากที่ดัชนีร่วงลงมานาน" นายธนเดชกล่าว

สำหรับกรอบการแกว่งตัววันนี้ 27ก.ค. ประเมินแนวรับ 1,420 จุด แนวต้าน 1,440 จุด ทั้งนี้หุ้นที่น่าสนใจ ได้แก่ ADVANC, INTUCH ซึ่งเป็นหุ้นพื้นฐานที่มีการจ่ายเงินปันผลดีราว 5-7%





สหรัฐฯ เปิดผลรายงานการค้ามนุษย์2015 ไทยยังอยู่ ‘เทียร์ 3’ เหมือนเดิม #เรื่องเล่าเช้านี้


หนักกว่าช่วงม็อบ! ค้าปลีกครึ่งปีแรก โตต่ำสุดรอบ5ปี
[tr][/tr]


น.ส.จริยา จิราธิวัฒน์ ประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยในครึ่งปีแรกอยู่ในทิศทางชะลอตัวลง โดยในส่วนของตลาดค้าปลีกครึ่งปีแรกเติบโตเพียงร้อยละ 2.8 ซึ่งต่ำกว่าปีที่แล้วที่แม้จะมีความวุ่นวายทางการเมืองก็ยังเติบโตร้อยละ 3.2 โดยปีนี้ถือเป็นการเติบโตที่ต่ำที่สุดตั้งแต่เริ่มเก็บข้อมูลในปี 2553

สำหรับปัจจัยที่ทำให้ตลาดค้าปลีกชะลอตัว เนื่องมาจากผู้บริโภคชะลอการใช้จ่าย กำลังซื้อของผู้บริโภคที่ลดลงโดยเฉพาะในกลุ่มผู้มีรายได้ต่ำและในภาคเกษตร รวมถึงปัญหาหนี้ครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูง โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าคงทน เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์ก่อสร้าง ขณะที่สินค้าในกลุ่มแฟชั่นยังคงขยายตัวได้ดี

ขณะที่การขยายตัวของธุรกิจค้าปลีกครึ่งปีแรก ยังมีการขยายสาขาเพิ่มขึ้น โดยร้านค้าประเภทคอนวีเนี่ยนสโตร์เติบโตร้อยละ 2.8 ซุปเปอร์มาร์เก็ตเติบโตร้อยละ 8.5 ซุปเปอร์เซ็นเตอร์เติบโตร้อยละ 1.8 ดีพาร์ทเมนสโตร์เติบโตร้อยละ 3 และกลุ่มร้านค้าเฉพาะทางเติบโตร้อยละ 2.7 ทั้งนี้ ในกลุ่มซุปเปอร์มาร์เก็ตเติบโตมากที่สุดเนื่องจากกลุ่มลูกค้าเป็นกลุ่มระดับกลางและระดับบนที่มีกำลังซื้อ ขณะที่กลุ่มอื่นๆ ที่ยังมีการลงทุนเพิ่มเนื่องจากเชื่อว่าปัญหาที่เกิดขึ้นจะอยู่เพียงชั่วคราวเท่านั้น

สำหรับทิศทางการเติบโตในช่วงครึ่งปีหลังมองว่าไม่น่าจะเกินร้อยละ3เนื่องจากมองว่านโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลจะยังไม่สัมฤทธิผลรวมถึงปัจจัยที่น่าเป็นห่วงทั้งปัญหาหนี้ครัวเรือนกำลังซื้อรากหญ้าที่หดหาย ปัญหาภัยแล้งที่ฉุดกำลังซื้อในภาคเกษตร รวมถึงปัญหาการส่งออกด้วย ส่วนการปรับเปลี่ยนทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลมองว่าไม่น่าจะมีผลกระทบกับภาคค้าปลีกมากนัก

ทั้งนี้ อยากเสนอแนะให้ภาครัฐกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ เพื่อกระจายเม็ดเงินจากกลุ่มระดับกลางและระดับบนลงไปถึงระดับภูมิภาค รวมถึงอยากเสนอให้ภาครัฐลดภาษีนำเข้าสินค้าแฟชั่นชั้นนำ ซึ่งจะเพิ่มยอดจับจ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติได้





"บินไทย"ระงับเที่ยวบิน"กรุงเทพฯ-แอล.เอ."และ"กรุงเทพฯ-กรุงโรม" เริ่ม25ต.ค.นี้
airlinerouteเว็บไซต์ต่างประเทศที่รวบรวมเส้นทางการบินของสายการบินทั่วโลก รายงานว่า บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) พิจารณาระงับเส้นทางบินกรุงเทพฯ-แอล.เอ. (โบอิ้ง 777-200ERและโบอิ้ง 777-300ER) และเส้นทางการบินกรุงเทพฯ-กรุงโรม ประเทศอิตาลี (โบอิ้ง 747-400) โดยกำหนดเริ่มระงับตั้งแต่วันที่ 25 ตุลาคม 2558 เป็นต้นไป ทั้งนี้ 2 เส้นทางการบินข้างต้นนั้นทำการบินอยู่สัปดาห์ละ 4 วัน
  Bangkok - Seoul Incheon - Los Angeles
    TG692 BKK1340 – 2105ICN2220 – 1755LAX 77W x135
    TG693 LAX2350 – 0615+2ICN0745+2 – 1130+2BKK 77W x135
    Bangkok - Rome
    TG944 BKK0001 – 0555FCO 744 x246
    TG945 FCO1330 – 0605+1BKK 744 x246

ทั้งนี้ การระงับเส้นทางการบินข้างต้นนั้น อาจเป็นไปตามแผนฟื้นฟูการบินไทย ที่มีการปรับกลยุทธ์ 5 ข้อได้แก่ 1.การปรับเส้นทางการบิน ด้วยการหยุดเส้นทางการบินที่ขาดทุนต่อเนื่อง โดยเส้นทางที่ขาดทุนแต่มีแนวโน้มที่จะทำกำไรได้ ให้ปรับลดจำนวนเที่ยวบิน และให้ฟื้นฟูกลับมาภายใน 6-12 เดือน ส่วนเส้นทางที่พอมีกำไรให้พัฒนาและเพิ่มการบริการ เน้นการเชื่อมต่อเส้นทางบิน โดยการหยุดบินและลดจำนวนเที่ยวบิน

2.การปรับแผนการตลาด ด้วยการปรับกลยุทธ์การขายตั๋วด้วยระบบออนไลน์ 3.การขายทรัพย์สินบางส่วน เช่น เครื่องบินในเส้นทางที่ไม่คุ้มค่ากับการดำเนินงานหรือสิ้นเปลืองพลังงานมาก 4.การปรับโครงสร้างอัตรากำลัง ด้วยการลดจำนวนพนักงานให้น้อยลง โดยเป้าหมายคือการลดจำนวนพนักงานจำนวน 5 พันคน แต่ยังไม่กำหนดกรอบระยะเวลา ไม่ว่าจะเป็นการเกษียณอายุก่อนเวลา หรือสมัครลาออก ซึ่งปัจจุบันจำนวนพนักงานทั้งหมดมีประมาณ 25,000 คน และ 5.กิจการที่ไม่ใช่กิจการหลักให้ทำการโอน, ขายหรือปรับปรุงรูปแบบ


ยอดขายโตโยต้าครึ่งปี ติดลบ 16.3%
                                                                                                                  
                            ที่มา : shows.voicetv.co.th/voice-market/238359.html


                                                            โตโยต้ามอเตอร์ (ประเทศไทย) ปรับลดคาดการณ์ยอดขายรถยนต์ปีนี้เหลือ 800,000 คัน  ต่ำสุดในรอบ 6 ปี  หลังยอดขายรถในครึ่งปีแรก  ติดลบกว่า 16%

นาย เคียวอิจิ ทานาดะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า  มอเตอร์ (ประเทศไทย) ยอมรับ  จากปัญหาเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศชะลอตัว   ทั้งการบริโภคที่ชะลอลง  ภัยแล้งที่รุนแรงมากขึ้น รวมถึงอุตสาหกรรมที่ลดกำลังการผลิต  ทำให้โตโยต้าประเทศไทย  ปรับลดประมาณการยอดขายในปีนี้เหลือเพียง 800,000 คัน  จากเดิมที่ตั้งไว้ที่ 920,000 คัน หลังยอดขายครึ่งปีแรก อยู่ที่  369,109 คัน ลดลง 16.3%  ซึ่งถือว่าเป็นยอดขายที่ต่ำที่สุดในรอบ 6 ปี นับตั้งแต่ปี 2553   โดยยอมรับว่าเป็นการทำธุรกิจที่ยากลำบากที่สุด  

ดังนั้นจึงอยากให้รัฐบาลเข้ามาดูแลเร่งรัดการเบิกจ่ายงบลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน  เพื่อให้มีเม็ดเงินลงสู่ระบบเศรษฐกิจ  และทำให้เกิดกำลังซื้อของประชาชน

ทั้งนี้ เป้าหมายใหม่ยอดขายที่ 800,000 คัน  แบ่งเป็น การจำหน่ายในประเทศ 280,000 คัน และส่งออก 390,000 คัน โดยในช่วงครึ่งปีแรก   จำหน่ายไปแล้วรวม 370,000 คัน  ดังนั้นเพื่อให้เป็นไปตามที่ตั้งไว้  ในช่วงครึ่งปีหลังจะต้องจำหน่ายให้ได้อย่างน้อย 430,000คัน

โตโยต้า ประเทศไทย  ยืนยันว่า  ยังไม่มีการปลดพนักงาน และยังคงการผลิตรถยนต์ในประเทศไทยที่ 770,000 คันเช่นเดิม  โดยประเทศไทยยังคงเป็นสำนักงานใหญ่แห่งที่ 2 ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก                                                                        
                                                            

วันที่ 30 กรกฎาคม  พ.ศ. 2558 เวลา 00:03 น.
จำนวนคนอ่านล่าสุด 507 คน
ข่าวข้นคนเข้ม

สันตะวา


สังคมจะตรวจสอบจนท. กับทุกความเคลื่อนไหวของ"เทพเทือก"

หนังสือพิมพ์ ข่าวสด สิทธิ เสรีภาพ ประชาธิปไตย เป็นของปวงชนชาวไทยทุกคน ฉบับนี้ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ 30 กรกฎาคม พุทธศักราช 2558 ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8/8... วันนี้วันสำคัญทางพุทธศาสนา วันอาสาฬหบูชา ครบองค์สามแห่ง พระรัตนตรัย ประกอบด้วย พระพุทธ, พระธรรม, พระสงฆ์ ขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนทำบุญ สร้างกุศล ละบาป เลิกอบายมุข เพื่อเข้าถึง แก่นศาสนา สุข สงบ ว่างเปล่า แท้จริง... เรียบร้อยโรงเรียนมะกัน เมื่อทางการสหรัฐจัดให้ ไทย อยู่ใน เทียร์ 3 หรือระดับต่ำสุดของมาตรฐานการจัดการปัญหาค้ามนุษย์ อันเป็นระดับเดิม ถ้าเปรียบกับเรียนหนังสือก็คือ สอบตกซ้ำ จากนี้อีกไม่เกิน 90 วันลุ้นกันต่อ ประธานาธิบดีโอบามา จะมีมาตรการอะไร แค่ไหน อย่างไรกับประเทศไทย... เมื่อต้องอยู่ร่วมโลก ภายใต้กฎกติกาสากล เราต้องยอมรับความจริง ไทยเป็นประเทศเล็ก บารมีไม่เด่น เสียงไม่ดัง แถมภาพลักษณ์ยังติดลบ ดังนั้นการต่อสู้ เคลื่อนไหว เพื่อผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปให้ได้ ควรใช้ ปัญญา บวก อดทน อย่าลืมว่ามาตรการที่ไทยเราอาจถูกเล่นงาน คือ คว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ ถ้าโดนดาบนี้ซ้ำอีกก็ กู๊ดบายไทยแลนด์...


กลับมาเป็น เทพเทือก อีกครา หลังจากห่มเหลืองถือศีล 227 ข้อนานนับปี ทันทีที่พ้นประตูวัด สุเทพ เทือกสุบรรณ นำชาวคณะบุกยื่นผบช.ภาค 8 คัดค้านย้ายสำนักงานบช.ภาค 8 จากจ.สุราษฎร์ธานี ไปที่ตั้งใหม่จ.ภูเก็ต รักตำรวจ ห่วงชาวสีกากีขนาดนี้ ช่วยติดตามความคืบหน้า 396 โรงพักร้าง ด้วยสิ... เทพเทือก คืนสู่ยุทธจักร ไม่มีอะไรน่าห่วง ระดับหัวหน้าม็อบนกหวีด ยุงคงไม่กล้าไต่ ไรคงไม่กล้าตอม ฝ่ายที่น่าหนักใจก็ ฝ่ายความมั่นคง เพราะสร้างบรรทัดฐานไว้สูง วางมาตรฐานไว้เข้ม นับจากนี้ทั้งสังคมจะติดตามจับตา ตรวจสอบ บรรทัดฐาน-มาตรฐานเจ้าหน้าที่ กับทุกความเคลื่อนไหวของ สุเทพ เทือกสุบรรณ...


ที่ประชุมคณะกรรมการสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจ ประกันภัย (คปภ.) มีมติเลือก สุทธิพล ทวีชัยการ นั่งเก้าอี้เลขาธิการคปภ.คนใหม่ แทน ประเวช องอาจสิทธิกุล ที่หมดวาระเดือนต.ค. ... พลิกแฟ้มชีวิต ดร.สุทธิพล จัดเป็นบุคคลคุณภาพดีหนึ่งประเภทหนึ่ง ดีกรีนิติศาสตรบัณฑิต(เกียรตินิยม) ม.ธรรมศาสตร์ นักเรียนทุนหลวงศิษย์เก่าฮาร์วาร์ด ด๊อกเตอร์จากมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย ผ่านงานผู้พิพากษา-เลขาธิการกกต.-กสทช.-กรรมการตรวจเงินแผ่นดิน ด้วยวัยเพียง 55 ปี เลขาธิการคปภ.คงไม่ใช่ตำแหน่งสุดท้าย... ข่าวข้น คนเข้ม วันนี้, 08.30 น. ศ.นพ.สุทธิพร จิตต์มิตรภาพ เลขาธิการคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ จัดประชุม "ทรัพยากรชีวภาพสู่ผลิตภัณฑ์ระดับโลก ครั้งที่ 2" ห้องแมจิก 3 มิราเคิลฯ... 12.30 น. พนิดา วานิชรัตน์ ผอ.กลุ่มยุทธศาสตร์ฯ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ เปิดงาน "สีสันเชียงใหม่แบรนด์ @เจ.เจ.มอลล์" ลานโปรโมชั่น ชั้น 1 เจ.เจ.มอลล์ จตุจักร ... แจ้งข่าวล่วงหน้า ไปรษณีย์ไทย จัดแสดงตราไปรษณียากรแห่งชาติ 2558 "เปิดมิติใหม่ ซูเปอร์แสตมป์..แสตมป์ที่เป็นมากกว่าแสตมป์" 3-9 ส.ค. ไปรษณีย์กลาง บางรัก...ศูนย์ศิลปาชีพ บางไทรฯ และ ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน) จัดนิทรรศการแสดงผลงานการประกวดโครงการหัตถศิลป์ทรงคุณค่า วิจิตรเลิศล้ำเครื่องเบญจรงค์ไทย วันที่ 3 ส.ค. ไลฟ์สไตล์ฮอลล์ สยามพารากอน...

http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1438185470

ต้านสหรัฐ?

ชกไม่มีมุม

วงค์ ตาวัน



ท่าทีของนายกฯ ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต่อกรณีที่สหรัฐยังคงให้ไทยตกซ้ำชั้นเทียร์ 3 ในปัญหาการค้ามนุษย์ต่อไป ซึ่งออกมาในแนวสุขุมอดทนอดกลั้นนั้น


น่าสนใจพิจารณาอย่างมาก


โดยเฉพาะต่อกรณีที่มีการก่อกระแสต่อต้านสินค้าอเมริกาในหมู่คนไทยบางกลุ่ม เพื่อหวังจะตอบโต้ตามประสาคนเลือดรักชาติขึ้นหน้า


ขณะที่นายกฯ บิ๊กตู่กลับขอร้องว่า อย่าไปโทษสหรัฐเลย ถึงอย่างไรในวันข้างหน้าต้องคบเป็นเพื่อนกันต่อ


อีกทั้งยิ่งไปแสดงท่าที อาจจะยิ่งโดนสหรัฐลงโทษหนักกว่าเดิมอีก


จึงมีแต่ต้องก้มหน้าแก้ปัญหา เพื่อให้ยอมเลื่อนชั้นพ้นเทียร์ 3 ในรอบพิจารณาคราวหน้า


นับเป็นความเยือกเย็นที่ผิดบุคลิกเป็นอันมาก!


  แต่ฟังคำกล่าวของบิ๊กตู่ อธิบายชัดว่า ยิ่งไปขัดแย้งจะยิ่งถูกมาตรการลงโทษหนัก


นั่นก็เป็นคำตอบที่ชัด เหมือนจะบอกว่า เราไม่มีทางเลือก


มองอีกมุม การที่วิจารณ์กันมากว่า การตัดสินของสหรัฐนั้นมีการเมืองกำหนด


แปลได้ว่า ไทยเรายังคงโดนชาติประชาธิปไตยบีบหนัก ให้กลับสู่ระบบเลือกตั้ง


ประเด็นนี้มีความเป็นไปได้สูง และนั่นยิ่งทำให้คสช.หนักใจ


เพราะถ้ายังไม่สามารถทำให้วันเลือกตั้งชัดเจนได้ อาจจะโดนบีบหนักกว่านี้!


  วันนี้คสช.อาจจะยังชั่งใจอยู่ว่า ควรยืดเวลาบริหารบ้านเมืองตามแรงเชียร์และดันของกลุ่มชนชั้นสูง และม็อบนกหวีดต่อไปไหม


ที่อ้างเรื่องปฏิรูปก่อนเลือกตั้งนั่นแหละ


แล้วถ้าหากยอมปฏิรูปไปอีกหลายๆ ปี เพราะการปฏิรูปนั้นเป็นนามธรรม จับต้องไม่ได้ เลื่อนลอย


ถ้าทำอย่างนี้ก็คงโดนบีบหน้าเขียว เศรษฐกิจอาจเข้าสู่ยุคยาจกกันเลยก็ได้!


  อีกทั้งภาวะเศรษฐกิจวันนี้ ก็ทำให้คสช.เริ่มอยากเลือกตั้งให้เร็วเสียแล้ว


นั่นเป็นเรื่องที่ผู้นำทหารต้องคิดหนัก และเริ่มยอมเลิกทะเลาะกับฝ่ายโลกประชาธิปไตย


ในแง่คนไทยเองเล่า ควรโชว์รักชาติไม่ยอมให้สหรัฐรังแก โดยมีการเมืองแฝงหรือไม่!?


  ก็ต้องถามว่าการเมืองสหรัฐนั้น คือการบีบให้คืนอำนาจสู่ประชาชนส่วนใหญ่


แล้วเราเป็นประชาชนฝ่ายที่ไม่อยากได้อำนาจการเมืองมาสู่มือเราหรือเปล่าล่ะ!!

http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1438362371



แชร์ว่อนตะเคียนแตกยอดเป็นพระปางสมาธิ!!
เขาป่าช้าเก่า ชาวบ้านแห่สักการะ-เชื่อสิ่งมงคล

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 1 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังปรากฏเป็นภาพข่าวฮือฮาทางโลกออนไลน์ เป็นภาพยอดไม้ตะเคียนโผล่ยอดสูง เหนือยอดไม้อื่นๆ มองเห็นเป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ บนยอดเขาป่าช้าเก่าของหมู่บ้าน เส้นทางถนนลงไปอ่างเก็บน้ำหาดส้มแป้น ม.3 ต.หาดส้มแป้น อ.เมืองระนอง จ.ระนอง ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปสำรวจ พบมีชาวบ้านหาดส้มแป้นส่วนหนึ่ง มาจุดธูป และเทียน เพื่อสักการะ และกราบไหว้ยอดไม้มีลักษณะเป็นองค์พระพุทธรูปปางสมาธิ เชื่อเป็นยอดไม้มงคล จะนำสิ่งดีมาให้หมู่บ้านหาดส้มแป้น

โดยนางอุดม ละอองวงศ์ไพศาล วัย 70 ปี ชาวบ้านหาดส้มแป้น กล่าวว่า เห็นเหมือนพระพุทธรูปนั่งขัดสมาธิ หันหน้าไปทางทิศตะวันออก เชื่อว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ให้เรามองเห็นได้ เพราะภูเขาลูกนี้มีอะไรหลายๆ อย่าง ที่บรรจุอยู่ในภูเขา ซึ่งเมื่อก่อนเป็นป่าช้าเก่าของหมู่บ้าน หากมองเข้าไปด้านขวามือ จะเห็นเส้นคล้ายจีวรพาดห่มพระพุทธรูปองค์นี้ และด้านหน้าจะเห็นเหมือนพานพุ่ม 2 พานตั้งอยู่ เชื่อว่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยบันดาลใจให้ ผู้คนมาเห็น ก่อนเข้าพรรษา และจะเป็นสิ่งที่เป็นมงคล ให้กับหมู่บ้านเราที่ตำบลหาดส้มแป้น ให้ชาวบ้านมีความสุข และเป็นมงคลกับหมู่บ้าน  







บ้านหาดส้มแป้น จะเป็นหมู่บ้านที่อยู่กลางหุบเขา ชาวบ้านในอดีตอพยพย้ายเข้ามาตั้งถิ่นฐานทำเหมืองแร่ดีบุก ชาวจีนในพื้นที่ในอดีตจะเรียกบ้านหาดส้มแป้นว่า ฮวยซัมเปียน หมายถึงลึกเข้าไปในหุบเขา มีแหล่งท่องเที่ยวสำคัญในพื้นที่หลายแหล่ง เช่น ระนองแคนย่อน , วัดหาดส้มแป้น และอ่างเก็บน้ำหาดส้มแป้น หลายคนเชื่อว่า ยอดตะเคียนที่โผล่สูงขึ้นมาเป็นองค์พระพุทธรูป จะเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญอีกจุดหนึ่ง ที่มีนักท่องเที่ยวทั่วไปเข้ามาเที่ยวชมและสักการะองค์พระพุทธรูปยอดตะเคียนแห่งนี้

ที่มา..http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1438400740
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้