ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
ดู: 31311
ตอบกลับ: 30
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

เปิดตำนานวิชาปรอท

[คัดลอกลิงก์]
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย AUD เมื่อ 2014-9-10 20:44

เปิดตำนานวิชาปรอท

วิชาปรอท เป็นหนึ่งในวิชามหัศจรรย์ที่คนโบราณพยายามคิดค้นและพยายามทำให้สำเร็จ แต่มีน้อยคนนักที่จะสำเร็จปรอทขึ้นมาได้ ปรอทตามธรรมชาติเป็นโลหะธาตุเหลว และแม้ว่าจะเป็นโลหะเหลวที่ยังไม่ได้หุง แต่ก็มีอำนาจในตัว เช่นมีอำนาจด้านการกันไข้ป่า และโรคภัยต่างๆ และหากนำมาฆ่าพิษปรอท และหุงขึ้นรูปจนสำเร็จปรอทออกมาแล้วก็ยิ่งมีอานุภาพมากขึ้นทั้งคงกระพันชาตรี มีตบะอำนาจ เมตตามหานิยม กันโรคภัยไข้เจ็บและทำให้อายุวัฒนะยืนยาวอีกด้วย

ในปัจจุบันผู้ที่หุงปรอทจนขึ้นรูปมาได้มีอาจารย์โยธิน คล้ายดี อยู่ย่านพระสมุทรเจดีย์ ได้ศึกษาหาความรู้เรื่องปรอทมานานหลายสิบปี จนในที่สุดได้ไปขอความรู้จากสำนักหอสมุด แต่ก็ไม่พบเรื่องราวของปรอทเลย ต่อเมื่อถามกับเจ้าหน้าที่ จึงบอกว่าเรื่องเก่าๆแบบนี้ต้องไปดูที่ห้องสมุดโบราณ แต่บุคคลทั่วไปไม่ให้เข้าต้องเขียนคำร้องทิ้งเอาไว้รอท่านอธิบดีเซ็นต์จึงสามารถเข้าไปค้นดูตำราได้ อาจารยฺโยธินไม่ละความพยายามได้เขียนคำร้อง โดยให้สาเหตุว่าเพื่ออนุรักษ์ภูมิความรู้แต่โบราณไม่ให้สาบสูญไป ทางสำนักหอสมุดได้อนุญาติในที่สุด และทางอาจารย์โยธินได้เข้าคัดลอกตำราเก่าแก่ซึ่งล้วนเป็นสมุดข่อยโบราณ มีอายุราวปลายกรุงศรีอยุธยา และต้นรัตนโกสินทร์ บางเล่มมีอายุราวสมัยรัชกาลที่ ๖ การคัดลอกสูตรยาวิธีเล่นแร่แปรธาตุต้องอาศัยการตีความ ตีปริศนา และต้องแปลตัวขอมรวมทั้งคำไทยโบราณ จากนั้นต้องมาถามคนเฒ่าคนแก่ถึงชื่อว่านยาต่างๆ และต้องหามาปลูกเอง จากการได้ตำรามาต้องเตียมการกว่า ๒ ปีจึงหุงปรอท และในที่สุดก็สำเร็จปรอทในระดับต้น คือสามารถหุงปรอทเหลวๆ โดยไม่ต้องเข้าตะกั่ว ให้กลายเป็นก้อนขึ้นมาได้ ดังภาพที่เห็นครับ





ปรอทเป็นแร่กายสิทธิ์ที่ใกล้เคียงเหล็กไหล จริงๆแล้วปรอทก็เป็นไหลประเภทหนึ่งเหมือนกัน ผมเคยเห็นเหล็กไหลน้ำหนึ่งชั้นยอดมีสีเขียวปีกแมลงทับ และสีม่วงคราม เนื้อก็ใสเป็นแกว ไม่เหมือนหินหรือโลหะทั่วไป เทียบกับปรอทชั้นยอดก็เป็นแก้วเหมือนกัน ปรอทที่หุงชั้นสุดยอดตามตำนานมีลักษณะเป็นเพชรวาวใสประกายรุ้ง ทั้งปรอทและเหล็กไหลจัดเป็นกลุ่มดวงแก้วมณี อันเป็นบริวารของดวงแก้วจักรพรรดิ์ของพระมหาจักรพรรดิ์

นอกจากนี้เหล็กไหลหลายชนิดก็มีส่วนของปรอทเล่นไปในตัวเช่นเหล็กเปียก เหล็กชีปะขาว เหล็กไหลน้ำ เหล็กไหลเงินยวง แร่เขาอึมครึมบางชินก็มีสายแร่ปรอทวิ่งเข้าไปปน หรืออย่างแร่บางไผ่เองก็มีปรอทแทรกอยู่ในผิวตามธรรมชาติ ถ้าใครเคยเห็นก้อนแร่บางไผ่ที่ยังไม่ถลุงหรือยังไม่เผาเขาจะแช่เอาไว้ในน้ำคาวปลา และก้อนไหนที่แตก จะเห็นพรายปรอทเกาะอยู่ที่ก้อนแร่ ถ้าเอาขึ้นจากน้ำนานวันเข้าก็จะเกิดสนิมกินจนกลายเป็นขี้ดินขุยดินไปหมด แต่ถ้าแช่เอาไว้ในน้ำคาวปลา แร่จะโตขึ้นเองได้งอกไปมาได้และมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นสีก็เข้มขึ้มด้วย

ในธรรมชาติว่านยาและแร่ศักดิ์สิทธิ์หลายชนิดมักมีปรอทเข้าไปร่วมด้วยเสมอไม่มากก็น้อย ปรอทมันน่าอัศจรรย์จริงๆครับ




ที่มา Facebook : Jaruvat Chanposri

ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
2#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-8-28 15:36 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ตำนานวิชาปรอทวิเศษนั้น มีการกล่าวถึง พระฤๅษี ทั้ง ๕ ผู้เป็นอาจารย์ปรอทได้แก่ พระฤๅษีตาไฟ พระฤๅษีตาไว พระฤๅษีตาวัว พระฤๅษีนารอด และพระฤๅษีกัสสปะ ทั้ง ๕ ท่านนี้สำเร็จปรอท ๕ ชนิดคือ ปรอทเพชร ปรอทธาตุ ปรอทอ้ายงั่ง ปรอทสยมภู ปรอทตายพราย นอกจากนี้ยังมีตำราของพระฤๅษีสัจจพันธ์ แห่งเขาพระพุทธบาทสระบุรี และพระฤๅษีอีกหลายตน ล้วนแต่น่าอัศจรรย์น่าศึกษาทั้งสิ้นครับ
3#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-8-31 17:41 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
หนึ่งในความน่ามหัศจรรย์ของปรอทวิเศษ หรือปรอทหุงก็คือ การเสด็จไปไหนต่อไหนเองได้ เช่นกันกับอาจารย์โยธิน คล้ายดี ได้เล่าเรื่องการเสด็จของปรอทวิเศษไว้ว่า ปรอทบางองค์ทำขึ้นมาแล้วก็ใส่ไว้ในผอบ ปิดฝาเกลียวอย่างดี แต่พอมาดูอีกทีกลับหายไปอย่างไร้ร่องรอย ที่น่าอัศจรรย์กว่านั้นคือปรอทที่เก็บไว้อย่างมิดชิดบางครั้งเสด็จมาอยู่ตามโคนต้นว่านที่ปลูกเอาไว้

ผมถามอาจารย์ว่าแล้วว่านอะไรครับที่ปรอทเสด็จมาอยู่ตามโคนต้น
อาจารย์ตอบว่า ว่านพะตะบะ เป็นว่านชนิดหน่งซึ่งมีถิ่นกำเนิดจากฝั่งลาวแต่สมัยนี้สามารถไปจตุจักรหาซื้อหัวมาเพาะปลูกเองได้ ว่านพะตะบะเป็นว่านที่มีลักษณะแปลกคือ หัวว่านพะตะบะจะมีพรายปรอท เราสามารถคาดคะเนได้ว่า หนึ่งว่านชนิดนี้มีปรอทอยู่ในตัวตามธรรมชาติ สองว่านชนิดนี้สามารถเรียกปรอทตามธรรมชาติเข้ามาในตัวเองได้ และสามตามธรรมชาติปรอทชอบมากินว่านชนิดนี้ ทางพระท่านเรียกว่ามีอาตยนะดึงดูดซึ่งกันและกัน ระหว่างปรอทและว่านพะตะบะ จึงมีความผูกพันธ์สัมพันธ์กันดึงดูดและเอ้ออาศัยซึ่งกันและกัน

และเนื่องจากว่านพะตะบะมีปรอทในตัว ครูบาอาจารย์ท่านจึงกล่าวว่าว่านชนิดนี้ใช้กันผีทั้งปวงได้ เด็กนอนร้องไห้เอาว่านพะจตะบะแขวนเปลผีไม่กล้ามารังแก เอาสำนักทรงเอาว่านพะตะบะพกไว้เจ้าไม่กล้าลงทรงประทับถ้าเป็นเทพมีศักดิ์จะทักขึ้นมาทันที คนผีเข้าเอาหัวว่านพะตะบะจี้ลงไปผีร้องโอดครวญรีบออกไปทันทีเช่นกัน

กลับมาที่เรื่องปรอทเสด็จไปมาได้ อาจารย์โยธินเล่าว่าครั้งหนึ่งเอาปรอทให้คุณยายเอาไว้กำชับว่าระวังหายนะ เพราะปรอทชอบไปไหนต่อไหนได้เสมอ คุณยายท่านก็เอาไว้ในกระเป๋ารูดซิบเป็นอย่างดี ผ่านไปเพียง ๓ วันลองมาคลำดูในกระเป๋าปรากฏว่าปรอทหนีหายไปซะแล้ว ทั้งๆที่รูดซิบไว้สนท ก็น่าแปลก โบราณท่านว่าปรอทที่มีฤทธิ์ดีแล้วไม่ต้องระดับสุดยอดก็ได้ พวกเพชรพญาธรชอบมาขโมยเอาไปเพิ่มฤทธิ์เพิ่มเดชให้ตัวเองนัก

ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
4#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-8-31 17:48 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
สังกรณียักษ์ในป่าสามารถกินปรอท รากของสังกรณีจะชอนไชไปตามหน้าผาหินเพื่อดูดกินปรอทที่หากินทองในหินที่มีสายแร่ทอง เช่นเดียวกับว่านบางอย่างที่ดูดปรอทเข้าไว้ในตัวเพื่อเพิ่มฤทธิ์อำนาจของตัวเองเช่นว่านพะตะบะ ที่มีอานุภาพด้านกันผี หรือต้นหนาดที่มีอานุภาพด้านกันผีเช่นกัน


ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
ขอบคุณคร้าบ
6#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-9-9 21:08 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้


ตามตำราไสยเวทย์ทั้งของไทยและพม่ากล่าวถึงปรอทตรงกันว่าหากใช้ว่านยาซัดให้แข็งตัวขึ้นได้ก็จะมีฤทธิ์วิเศษทั้งคงกระพันและอายุวัฒนะกันโรคภัยไข้เจ็บทั้งหลายมิให้กล้ำกรายแก่ตนเอง ถ้าสำเร็จถึงขั้นเลอเลิศสูงสุดแล้วอาจจะยังให้ชีวิตอยู่ยาวนานนับกัปป์ปี

แต่ถึงจะไม่สำเร็จขั้นสุดยอดด้วยอำนาจตามวิถีธรรมชาติของปรอทก็ยังช่วยเรื่องการปกป้องคุ้มครองทั้งจากคุณไสยมนต์ดำและโรคภัยต่างๆได้ตามสมควร

ในทางพม่าปรอทที่ทำให้แข็งตัวเขาจะเรียกว่า เซยากี ครับจัดเป็นตัวยาอย่างหนึ่งที่จะนำมาฝนผสมกับหมึกเพื่อสักตามร่างกายเพื่อให้ผลทางด้านคงกระพัน กันคุณไสย

ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
แหล่มเลยพี่
9#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-9-10 20:43 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย oustayutt เมื่อ 2014-9-10 21:08
oustayutt ตอบกลับเมื่อ 2014-9-10 11:04
แหล่มเลยพี่

ลองหาว่านพะตะบะ มาปลูกล่อไว้ดูสิ

10#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-9-10 20:51 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย AUD เมื่อ 2014-9-10 20:59

ปรอทสำเร็จ

ปรอทสำเร็จ  เป็นวิชาการทำปรอทให้แข็งตัว สมัยโบราณหลายๆท่านที่ศึกษาเรื่องปรอทนี้ก็คงจะเคยได้ยินการจับปรอทในแหล่งน้ำคลำสกปรกใต้ถุนบ้านหรือตามแหล่งน้ำเน่าต่างๆ โดยการเอา
ไข่เป็ดเจาะรูหลายๆฟองแล้วนำไปแช่ในแหล่งน้ำสกปรกดังกล่าว


ปรอทเป็นธาตุที่ชอบกินของสกปรกเน่าเหม็นจะเข้าไปตามรูที่เจาะบนไข่นั้นแล้วพอกินเนื้อในไข่ ปรอทจะออกจากไข่ไม่ได้ เคยมีผู้ทดลองทำมาแล้วแต่ได้ปรอทมาในปริมาณไม่มากนัก


การทำปรอทให้แข็งตัว ในภาษาไสยศาตร์เรียกว่า "การฆ่าปรอท"ด้วยการนำว่านยาบางชนิดมา ใช้ฆ่าปรอทเพื่อให้ปรอทแข็งตัว   เช่น ว่านเพชรหึง      เหตุที่ต้องทำให้ปรอทแข็งตัวนั้นเพราะ
จะได้สามารถพกพาปรอทไปได้ในทุกๆ ที่ ซึ่งการทำปรอทให้แข็งตัวนั้นมีหลายวิธี อีกวิธีหนึ่งคือ การเสาะหาสถานที่หุงปรอท นั่นคือ   ถ้ำที่มืดทึบซึ่งจะต้องเป็นถ้ำที่เข้าตำราโบราณ   ที่เรียกว่า
"ถ้ำลอด-ปรอทขาว" และผู้ที่ฆ่าปรอทตายและให้แข็งตัวได้เราจะเรียกผู้นั้นว่า "ผู้สำเร็จปรอท" โดยอิทธิฤทธิ์ของปรอทสำเร็จมีดังนี้คือ

ผู้สำเร็จปรอท จะสามารถเหาะเหินเดินอากาศได้ เดินทางไปไหนมาไหนได้รวดเร็วกว่าคนปกติ อีกทั้งความเหนื่อยล้าเป็นไม่มี มีความเชื่อว่าปรอทคือเครื่องสะพายแล่งของพญายมราช ดังนั้น
ภูติผีปีศาจจึงพากันเกรงกลัวยิ่งนักหากที่ใดที่มีคนถูกผีเข้าเจ้าสิง หากนำปรอทเข้าไปใกล้ตัวคน ที่ถูกผีเข้าผีจะรีบหนีออกไปทันที   การเลี้ยงปรอทนั้นท่านว่าให้เอาทองคำเปลว  มาวางไว้ใกล้ๆ
กับก้อนปรอทนั้น ไม่ทันไรแผ่นทองคำเปลวจะอันตรธานหายไปเองอย่างไม่ทราบสาเหตุ การให้ ทองคำเปลวแก่ปรอทกินเป็นอาหารหากวันใดลืมให้แล้วมาให้วันต่อมาปรอทจะกินทองคำเปลวจุ
มากคือกินแผ่นทองคำเปลวทีเดียว 2 แผ่นเลย ปรอทสามารถเตือนภัยให้กับเจ้าของได้และเตือน ได้ทั้งเรื่องโชคชะตาของเจ้าของว่าช่วงนั้นดีหรือร้ายเพียงใด และแน่นอนเรื่องป้องกันภัยอันตรายต่าง ๆ ให้กับเจ้าของปรอท ปรอทก็สามารถป้องกันได้เช่นกัน

ปรอทเป็นของเหลวและไหลกลอกกลิ้งได้เช่นเดียวกับน้ำ หลักวิทยาศาสตร์ปรอทนั้นจะมีอาการหดตัวเมื่อถูกความเย็นและพองตัวเมื่อถูกความร้อน   ตามวิชาการแพทย์ก็ต้องใช้
ปรอทเป็นเครื่องวัดระดับความร้อนของคนไข้ หลักอุตุนิยมวิทยาก็ใช้ปรอทเป็นเครื่องวัดอุณหภูมิเป็นต้น

เพราะการคุมตัวกันไม่ติดของปรอท และเป็นธาตุชนิดหนึ่งที่มีอาการประหลาดนี้เอง ในโบราณกาลจึงถือว่าปรอทนั้นหากผู้ใดมีวิชาสามารถทำการคุมตัวกันได้ และประกอบพิธี
โดยหลักไสยศาสตร์  อันถูกต้องครบถ้วนแล้ว   ฤทธิ์อันเกิดจากวิทยาคมซึ่งรวมอยู่ในปรอทนั้นอาจจะสามารถนำผู้ที่เป็นเจ้าของให้เกิดอิทธิฤทธิ์และกระทำปาฏิหาริย์ต่างๆได้ ดังอุปเท่ห์โบราณดังนี้

ผู้ใดอมปรอทไว้
1.ผู้นั้นจะมีรูปร่างดังพระมหาจักรพรรดิ (หมายถึง ความมีเดช ฤทธิ์ และความงามเป็นที่เสน่หากระมังอันนี้รวมถึงอานุภาพที่คล้ายกับเหล็กไหลในตำนานที่เด่นเรื่อคุ้มครองป้อง
กันภัยด้วย)

2.เสียงไพเราะ ดังท้าวมหาพรหม (หมายถึง พูดถูกใจบุคคล เป็นเสน่ห์ พูดอะไรมีคนเชื่อถือกระมัง)
3.ไปป่าหิมพานต์ยาม ๑ ก็ถึง (คงหมายถึงการทำปาฏิหาริย์ ล่องหน)
4.ไป ๔ ทวีป ในนิ้วมือเดียว (เช่นเดียวกับข้อ ๓ หรืออาจหมายถึงกายทิพย์ก็ได้)
5.คิดอะไรสำเร็จสมความปรารถนา


ที่มา : http://dhammarakkoe.blogspot.com

ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้