ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

เปิดตำนานวิชาปรอท

[คัดลอกลิงก์]
21#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-9-28 15:01 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้


ในทางพม่าเขาเรียกปรอทสั้นๆว่า "ปะ" และกล่าวถึงที่มาของปรอทหรือปะนี้ว่ามาจาก ๕ สถานที่ด้วยกัน เรียกว่า ปะทั้ง ๕

ปะ ทั้ง ๕ ได้แก่ ปะตา หมายถึงปรอทที่ได้แม่น้ำ ข้อนี้หมายถึงการดักเอาปรอทเหลวจากตามลำน้ำโดยดูชัยภูมิว่าเป็นลำน้ำที่มีดินเลน มีใบไม้เน่าทับถม ผู้รู้ก็จะใช้ไข่เน่าไปดักล่อตามริมน้ำ

ปะตอง หมายถึง ปรอทที่ดักเอาจากในป่า ปรอทป่าหมายถึงการดักล่อปรอทจากบริเวณดินโป่ง ในป่าดิบ ปรอทพวกนี้มีฤทธิ์แรง ใช้ได้ดีทางกันไข้ป่า กันผี

ปะแตง หมายถึงปรอทที่ได้มาจากใต้ดิน ปรอทใต้ดินนั้นมักหาจากใต้จอมปลวกหรือจากในป่าช้าประเภทนี้พวกผีก็กลัวยิ่งนัก

ปะเตง หมายถึงปรอทที่ได้มาจากถ้ำ อันนี้หาจากถ้ำที่มีลักษณะเป็นถ้ำสะอาดมีน้ำไหลผ่าน โบราณเรียกว่าถ้ำลอดปรอทขาว ปรอทประเภทนี้มีฤทธิืดุจเหล็กไหล

ปะโตง หมายถึงปรอทที่ได้มาจากอากาศ อันนี้หาได้จากดอกลำโพงหรือมะม่วงสุก ผู้หาต้องตื่นแต่ตีสามตีสี่เอาชามโลหะใบใหญ่ๆมารองเอาเขย่าที่โคนดอกลำโพงก็จะมีลิ่มปรอทอากาศตกลงมา ประเภทนี้นับเป็นปรอทบริสุทธิ์ชั้นดี

ขอแสดงเนื้อหาเกี่ยวกับปรอทพม่าไว้พอเป็นสังเขปเท่านี้ก่อนครับผม
ข้อมูลเรื่องปรอทจากพระอาจารย์ผดุง วัดล้านตอง จ.เชียงใหม่

ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
23#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-10-5 08:01 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้

เทพเมอคิวรี่ รู้จักกันดีในพระพุธหรือเทพประจำดาวพุธในขณะเดียวกันเป็นเทพประจำธาตุปรอทธาตุปรอทเป็นธาตุโลหะเหลวที่มีความไว คนไทยชอบเปรียบว่า ไวยังกะปรอท ด้านชาวกรีกก็เช่นกันวาดเป็นเทพเมอคิวรี่เป็นเทพเจ้าที่เร็วดั่งลมกรด มีหมวกมีปีกและรองเท้าที่มีปีกเป็นสัญลักษณ์ว่ามีความเร็วเหนือใคร ในมือมีไม้เท้าวิเศษรักษาโรคได้ทุกชนิด สัญลักษณ์นี้ต่อมาใช้ในด้านการแพทย์ไปทั่วโลกจวบจนทุกวันนี้ เช่นกันปรอทมีสรรพคุณรักษาโรคทุกชนิดหากเข้าถึงแก่นแท้ของธาตุชนิดนี้

ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
ขอบคุณครับ มากมาย
อยากหาพระปรอทแท้ๆ มาให้อาจารย์เสกจัง แต่จะหาแท้ๆ และราคาจับต้องได้ คงยากแน่เลย
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ธี เมื่อ 2015-6-23 17:14

ขอบคุณครับ ตำนานเขาว่าไว้ ผมได้ยินเรื่องปรอทจากยายผมเล่าให้ฟังเกี่ยวกับพระองค์หนึ่งที่สำเร็จปรอท ยายผมเล่าว่า ทวด(พ่อยาย)เห็นและรู้มากับตาของท่าน มีพระองค์หนึ่ง รู้เส้นทางเดินของปรอท ซึ่งเป็นชนิดที่บินได้ ท่านรู้ว่าปรอทนี้จะบินผ่านทุ่งนาเป็นประจำ ท่านได้นำเนื้อหมูไปวางไว้ และเมื่อปรอทลงกินเนื้อหมู หมูจะมีสีคล้ำ มีนำ้หนักมากกว่าตอนวางไว้ เนื่องจากปรอทลงกินเนื้อหมูแล้วมีน้ำหนัก บินไปไม่ได้(ยายเล่าครับ) หลังจากนั้น พระท่านก็นำมาทำพิธีฆ่าปรอท หลังจากทำแล้วก็นำน้ำที่ประสมปรอทที่ฆ่าแล้วมาดื่มกิน เพื่อให้ปรอทอยู่ในตัว ยายผมเล่าว่า ทวดกับเพื่อนได้ไปหาพระองค์นี้ พระท่านเล่าให้ทวดฟังถึงพิธีกรรมการฆ่าปรอท พอสุดท้ายของพิธีให้ปรอดเข้าไปอยู่ในตัว ทวดเล่าว่า พระท่านจะบอกว่าต้องใช้น้ำกีี่ขัน ปรอทมันก็พาท่านบิน(เหาะ) ออกไป ทวดได้ยินเพียงคำว่า ขันๆๆๆๆ จึงไม่รู้ว่าสุดท้ายท่านทำพิธีอย่างไร ทวดว่า พระท่านคงควบคุมปรอทไม่ได้มันจึงพาเหาะหายไปต่อหน้าทุกคน และไม่กลับมาอีกเลย ตำราปรอทบินจึงไม่สมบูรณ์ไม่มีการบันทึก มีแต่เล่าต่อๆกันเท่านั้น ....พิจารณาครับ เป็นความเชื่อ ถ้าเป็นจริง ปรอทคงหายากมาก และแบ่งเป็นชนิดๆของมันตามลักษณะที่มีหรือเปล่าเป็นที่น่าส่งสัย
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Marine เมื่อ 2015-8-23 19:59

วิชาแปลธาตุ (ปรอท)

ปรอทเป็นสรรพยามีสรรพคุณมากมากจึงมีกระบวนการทำตามแบบโบราณดังนี้ใช้วิธีการดักจับปรอทตามน้ำคลำน้ำที่เน่าเหม็นปรอทจะมากินสิ่งที่เน่าเหม็นมีกรรมวิธีการดักจับหลายวีธี

การทำปรอทให้บริสุทธิ์
นำปรอทมาใส่ในชามกระเบี้องเคลือบนำข้าวที่หุงสุกใหม่ๆทิ้งเอาไว้ให้เย็นแล้วนำมาใส่ให้ท่วมปรอทคลุกเคล้าข้าวสุกกับปรอทให้เข้ากัน ด้วยไม้หรือกระเบื้องเคลือบพยายามบี้บดให้ปรอทแตกตัวสัก 15 นาทีหรือจนปรอทแตกตัวเป็นเม็ดละเอียดจะเห็นว่าข้าวสุกจะติดสีดำมากมายสุดท้ายล้างด้วยน้ำสะอาดโดยการเทน้ำสะอาดใส่ลงไปล้างหลายๆครั้งแล้วถ่ายน้ำออกหรือเทน้ำออกให้ระมัดระวังตามสมควรเนื่องจากปรอทมีน้ำหนักมากจะไม่เกาะติดสิ่งใดๆการล้างออกจึงทำได้ไม่ยากนัก

นำปรอทมาแช่น้ำปลาร้าหมั่นคนสักพักหนึ่งคนบ่อยๆทิ้งเอาไว้สัก 1 คืน รุ่งเช้าให้ล้างน้ำปรอทด้วยน้ำสะอาดเหมือนกับขั้นตอนแรกหลายๆครั้ง
ให้นำเอาตะใคร้ทั้งต้นทั้งใบมาตำให้ละเอียดนำไปคลุกเคล้ากับปรอทคนให้เข้ากันทิ้งไว้อีก 1 คืนนำมาล้างออกด้วยน้ำสะอาดแบบเดียวกับการล้างน้ำในขั้นตอนแรก
เอาปรอทมาแช่น้ำมะดันหรือมะกรูดหรือน้ำมะนาวหมั่นคนบ่อยๆทิ้งเอาไว้ 1 คืนวันรุ่งขึ้นให้นำไปล้างด้วยน้ำสะอาด
เสร็จแล้วนำเอามาใส่เอาไว้ในขวดแก้วปิดฝาให้แน่นเพื่อกันมิให้ปรอทดูดเอาสิ่งที่เป็นพิษเข้ามาปะปนอีกปรอทที่ได้มานี้ยังเป็นของเหลวเชื่อกันว่าปรอทที่ผ่านวิธีการกรองเอาพิษออกแล้วนี้มีความบริสุทธิ์ 90 กว่าเปอร์เซ็นต์

การทำปรอทให้แข็งแบบโบราณ

แบบที่ 1 ให้สะกดด้วยอาคมโดยนำเอาปรอทใส่ลงในกระทะเอาไม้สนเกี๊ยะจุดไฟใส่ใต้กระทะเป็นเชื้อเพลิงจากนั้นบริกรรมเติมไฟแต่ไม่ให้ร้อนมากชั่วเวลาหนึ่งให้ใส่ทองคำลงไปเพื่อล่อให้ปรอทแทรกตัวเข้าไปอยู่ในทองคำและแข็งตัวเมื่อปรอทแข็งตัวแล้วก็จะผ่อนไฟจนกระทั่งหยุดใส่ไหและเย็นลงในเวลาต่อมา

ขั้นตอนต่อไปเป็นการบูชาเจ้าป่าเจ้าเขาก่อนที่จะเอาปรอทแข็งตัวแล้วนำเอาไปใส่เอาไว้ในพานวางตั้งเอาไว้หน้าหิ้งพระคลุมด้วยทองคำเปลว

แบบที่ 2 ใช้ปรอท, ดีบุก, น้ำตะใคร้, จุนสี, กัมมะถัน, น้ำประสานทองอย่งละเท่าๆกันสำหรับจุนสีและน้ำประสานทองมีพาให้ระมัดระวังหน่อยต้องนำมาให้ความร้อนให้แตกตัวก่อนเรียกว่าการฆ่าพิษนำทั้งหมดมากวนรวมกันให้เข้ากันจนเป็นสีรุ้งการหุงนำไปตั้งในเตาแก๊สก็ได้แล้วนำเอาไปเทลงในแบบพิมพ์ต่างๆเมื่อปรอทแข็งตัวได้รูปแล้วนำเอามาแต่งด้วยกระดาษทรายละเอียดและนำเอาไปใช้ตามเจตนารมณ์ต่อไป

ข้อเสียของปรอทคือ กินทอง, กินดวงคนที่เกิดปีธาตุทองเช่นปีมะโรง,และกินคนที่มีชื่อว่าทองด้วย

หมายเหตุ โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านอย่างรอบคอบ

ที่มา http://board.palungjit.org/f17/%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B9%81%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%98%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B8-%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%97-116007.html



ขอบคุณครับ
ใครรู้จักแหล่งขายแหวนปรอทไหมครับ น่าเอามาเสก
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้