ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

राम พระศรีรามเทพ राम

[คัดลอกลิงก์]
31#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-7-1 06:20 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้



หนุมานมีพลังและความว่องไวล้ำเลิศ ไม่เพียงแต่เหาะเร็วดังลมเท่านั้น แต่หนุมานยังมีพลังยกถอนภูเขาได้ หดและขยายร่างได้ตามต้องการและล่องหนได้ เมื่ออยู่ในสงครามหนุมานจะมีลักษณะน่าสะพรึงกลัว กล่าวคือ ร่างใหญ่เท่าภูเขา ผิวกายเป็นสีเหลืองดั่งทองหลอม ผิวหน้าสีแดงดั่งทับทิม มีหางยาวมาก หนุมานจะทำให้ศัตรูกระจัดกระจายโดยใช้เสียงคำรามอย่างน่ากลัว
หนุมาน เดินทางไปกรุงลงกา พร้อมกับพระราม กับกองทัพลิงและหมี เพื่อช่วงชิงนางสีดา มเหสีของพระราม ที่ถูกอสูรราพณ์จับตัวไป
วีรกรรมสำคัญของหนุมานก็คือ เหาะไปยังเทือกเขาหิมาลัยเพื่อนำสมุนไพรมารักษาบาดแผลของพระลักษณ์ พวกยักษ์ได้ขัดขวางหนุมาน แต่หนุมานก็มีชัย อสูรราพณ์หรือทศกัณฐ์ได้ส่งบริวารยักษ์มาฆ่า หนุมาน โดยตั้งรางวัลไว้ว่า ถ้าสำเร็จจะยกอาณาจักรให้ครึ่งหนึ่ง หนุมานได้จับขาของยักษ์เหวี่ยงไปทางกรุงลงกาจนตกลงมาตายต่อหน้าบัลลังก์ของอสูรราพณ์ แต่หนุมานหาสมุนไพรไม่พบ หนุมานจึงยกภูเขาไปทั้งลูก การเหาะโดยแบกภูเขาทั้งลูกไปทำให้เกิดลมวน เมื่อผ่านกรุงอโยธยา พระภรตจึงคิดว่าเป็นการกระทำของอสูร จึงยิงลูกศรใส่ หนุมาน จนตกลงมา เมื่อพบว่าเป็นหนุมาน พระภรตจึงไถ่โทษโดยการใช้ลูกศรยิง หนุมาน กลับไปกรุงลงกา แต่หนุมานปฏิเสธและเหาะกลับไปเอง จากนั้นจึงนำสมุนไพรให้พระราม เมื่อสงครามที่กรุงลงกายุติลง พระรามจึงให้รางวัลโดยการให้พรแด่หนุมาน ซึ่งขอเป็นอมตะ พระรามก็ประทานให้


ศึกรามายณะของอินเดีย หรือ รามเกียรติ์ของไทย ศิลปะในวัดพระแก้วมรกต / ภาพจาก Wikipedia


ขอขอบพระคุณ : ย้อนรอยชมพูทวีป
สำนักพิมพ์ คุ้มคำ / สมคมแดง สมปวงพร



"อุดมการณ์และความภักดีของศรีหนุมาน" จาก - ศรีมณเฑียร ทรรศน์
ขอขอบคุณ - สมาคมฮินดูสมาช

รุทธอวตาร (อวตารของพระศิวะ)

บนภูเขาที่มีนามว่า ริศีมุก ณ ที่นั่น มีพญาวานรที่มีนามว่า เกสรี และนามของนางพญาวานรอันเป็นชายาของเขา นามว่า อัญชนา เพื่อความปรารถนาที่จะได้บุตรสักตัวหนึ่ง นางจึงกราบไหว้พระศิวะด้วยความภักดีอย่างยิ่ง พระศิวะทรงพึงพอใจกับด้วยความภักดีของเธอ และต้องการให้เธอได้สิ่งที่เธอต้องการ นางขอให้พระศิวะประทานบุตรให้แก่เธอให้มีความแข็งแรงเหมือนพระศิวะ พระศิวะทรงให้พรแก่เธอทันทีและบอกแก่เธอว่า การปรากฏเป็นองค์อวตารครั้งที่สิบเอ็ดของพระศิวะจะเกิดเป็นบุตรของเธอ ในเวลาต่อมา พระจันทร์เต็มดวงในเดือนไจตระ วันอังคาร การปรากฏครั้งที่สิบเอ็ดของพระศิวะก็ได้อุบัติขึ้นได้นามว่า ศรีหนุมาน
บทเรียนจากรูปแบบของวานร มีดังนี้
หน้าตาของพญาวานรชื่อศรีหนุมานได้ให้บทเรียน แก่เราดังต่อไปนี้การที่เราจะได้มาซึ่งความนิยมนับถือ มันไม่สำคัญที่จะมีร่างกายสวยงามเท่านั้น แต่มันสำคัญอยู่ที่การบริการรับใช้ที่ปราศจากความเห็นแก่ตัวที่มีต่อผู้หลัก ผู้ใหญ่ และต่อประชาชน ไม่มีบุคคลใดที่มีรูปร่างสวยงามอย่างเดียวจะสามารถเอาชนะหัวใจของบุคคลอื่น ได้และไม่สามารถที่จะเป็นผู้ภักดีที่แท้จริงได้ เว้นเสียแต่ว่าเขาผู้นั้นจะมีคุณสมบัติที่ดี ฉะนั้น มันมีความสำคัญที่จะกำจัดความเจ็บปวดของคนอื่น และทำการรับใช้โดยที่ไม่เห็นแก่ตัวต่อสังคม เช่น หนุมาน ฉะนั้น บุคคลสามารถเอาชนะความรักและความเคารพนับถือจากคนอื่นได้ก็ด้วยเอาแบบอย่าง หนุมาน
เมื่อหนุมานเดินทางไปถึงเกาะลังกาอันเป็นอาณาจักรของทศกัณฐ์ ยักษ์และมารทั้งหมด ก็โอบล้อมเขาเอาไว้ด้วยหน้าตาและอาวุธที่โหดร้าย แต่หนุมานก็ไม่ได้สะทกสะท้านประการใด เขากลับมีความเชื่อมั่นในพระราม และมีความเชื่อมั่นในตัวของเขาเองอย่างสูงผลของมันก็คือว่า เขาเอาชนะ พลังอำนาจของทศกัณฐ์ได้ทั้งหมด และได้รับผลสำเร็จในการเดินทางไปครั้งนั้น ในทำนองเดียวกันนี้ ในเวลาที่เราได้รับความยุ่งยากต่าง ๆ เราไม่ควรสะทกสะท้านต่อเหตุการณ์ และควรตั้งใจมั่นคงแน่วแน่ในความภักดีต่อพระเป็นเจ้า
ในรูปภาพบางภาพที่อยู่ในโบสถ์นั้น แสดงให้เห็นว่า หนุมาน กำลัง ยกภูเขาบนฝ่ามือซ้าย อันนี้หมายถึงว่า ขณะที่หนุมานเดินทางไป ผ่านอุปสรรคความยุ่งยากทั้งหมด และนำเอาภูเขามาเพื่อช่วยชีวิตของพระลักษณ์ให้ปลอดภัย ในทำนองเดียวกันนี้ เราควรจะเตรียมใจให้พร้อมไว้เสมอที่จะรับมือเพื่อต่อสู้กับความยุ่งยากใดๆ เพื่อช่วยเหลือหรือรักษาชีวิตของสมาชิกในครอบครัวหรือบุคคลทั้งหลายที่อยู่ ในสังคมของเรา แล้วเท่านั้น เราจึงจะมีสิทธิได้รับพรจากพระเป็นเจ้า
ผู้ภักดีทีมีความตั้งใจที่มีเล่ห์กลหลอกลวง ไม่มีสิทธิที่จะได้รับพรของพระเป็นเจ้าได้ เขาเป็นศัตรูตัวจริงของความโหดร้ายทั้งหลาย เมื่อหนุมานเดินทางไปเอาต้นไม้สันชีวนี (เป็นยาสมุนไพรชนิดหนึ่ง) เพื่อรักษาชีวิตของพระลักษณ์ให้ปลอดภัย ยักษ์นามว่าเนมิ แต่งตัวเขาเองเป็นเหมือนนักบวช และเริ่มเทศน์สอนหนุมาน หนุมานพบการแสดงกลลวงของความชั่วนั้นได้ทันที และลงโทษฆ่าเขาทันที ถ้าคนต้องการที่จะรับพรของหนุมาน เขาผู้นั้นต้องมีใจบริสุทธิ์และไม่ควรคิดร้ายหรือเจตนาหลอกลวงใดๆ
มีแม่มดตนหนึ่งนามว่า “สุรสา เศ” อาศัย อยู่ในทะเล มีอำนาจทางโยคะ ดึงเอาสิ่งต่างๆ ที่บินได้ลงไปสู่ทะเล และก็ฆ่ามันกินเป็นอาหาร เมื่อหนุมาน เหาะไปเหนือทะเล เพื่อตามหาพระนางสีดา สุรสา ก็ดึงหณุมาน แต่เขาก็ทำให้ร่างกายใหญ่โต ซึ่งเธอไม่สามารถจะกินได้ และในทันทีนั้น หนุมานก็แปลงกายเขาเป็นยุง แล้วเข้าไปในปากของเธอ แล้วก็ออกมาจากปากเธอทันที เหตุการณ์นี้สอนให้เรารู้ว่า ถ้าเราได้มาซึ่งอำนาจโยคะอย่างใดอย่างหนึ่ง เราควรใช้อำนาจอย่างเดียวกันนั้น เพื่อช่วยเหลือและคุ้มครอง คนอื่น ๆ ให้ปลอดภัยมากกว่าที่จะฆ่าหรือทำลายคนอื่น เพื่อเจตนาอันเห็นแก่ตัวของเรา
ผู้ภักดีที่แท้จริงของพระรามก็คือหนุมานที่ เหมือนมากที่สุด บุคคลผู้ซึ่งระลึกนึกถึงพระรามอยู่สม่ำเสมอ หนุมานช่วยเหลือพระองค์ทุกๆ ก้าวของชีวิต และเขาทำให้ความปรารถนาทุกอย่างของเขาสำเร็จลงโดยสมบูรณ์ และกำจัดความทุกข์ทั้งมวลของเขาออกไปได้

เย ชยนฺติ สทา เสนหนาม มนฺคลย กรนมฺ
ศรี มโตราม จนฺทรสฺย กริปาโล มรม สวมินิ
เตศมารโถ สทาวิปร ปรทาตหม ปรยาตนตห
ทาทามิ วนฺจิต นิตฺยมฺ สรวนา เสารวยมุตตม

ความหมายก็คือว่า ผู้ภักดีเหล่านั้น ผู้ซึ่งระลึกนึกถึงพระราม ผู้มีความเมตตาที่สุดของเราทุกๆ วัน และตลอดเวลา ข้าฯ จะทำให้ความปรารถนาทุก ๆ อย่างของผู้ภักดีเช่นนั้นสำเร็จลงโดยสมบูรณ์ และประทานความสำเร็จในการกระทำทุก ๆ อย่างให้แก่พวกเขา ฉะนั้น การที่เราจะได้รับพรจาก หนุมาน มันเป็นความจำเป็นที่เราจะต้องทำการบูชา และระลึกนึกถึงพระราม
จาก - ศรีมณเฑียร ทรรศน์
ขอขอบคุณ - สมาคมฮินดูสมาช


คาถาบูชาพระหนุมาน

บูชาพระหนุมาน ขอพรให้มีความเข้มแข็ง
ชนะศัตรู มีแต่ความแข็งแกร่งไม่พ่ายแพ้ต่อสิ่งใด
ขอพรหนุมานให้ประทานความซื่อสัตย์จากผู้ใต้บังคับบัญชา และประทานความรักใคร่เอ็นดูจากผู้บังคับบัญชา
ให้พรเจ้านาย-หัวหน้า-ลูกน้อง-บริวาร มีแต่ความกลมเกลียวสามัคคี ไม่เกลียดชังกัน

การบูชาพระหนุมาน ควรบูชาควบคู่กับพระราม มีบทสวดให้เลือก คือ

- โอม ศรี หนุมาน นะมะห์

- โอม ศรี หนุมัทเต นะมะห์

- โอม ศรี รามะ ชยะ ชยะ รามะ
โอม ศรี หนุมานะ ชยะ ชยะ หนุมานะ

- โอม อัญจาเนยายะ วิดมาเห
มหาบัลลาเย ดีมาฮี
ตันโน หนุมาน ประโจทะยาต

- โอม อันจานี สุทายะชา วิดมาเห
วายุ ปุตรายะชา ดีมาฮี
ตันโน มรุทถี ประโจทะยาต

- โอม มะโนจาวัม มารุตาตุละยาเวกัม
จิเทนทริยัม พุทธิมาตัม วาริสะตัม
วาตัตตะมาชัม วานะรายุ ธ มุขยัม
ศรีราม ทุตัม สาระนัม ประปัทเย



exoticindiaart.com
32#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-7-1 06:21 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้



uncabaret.com














igougo.com

33#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-7-1 06:22 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้








wikipedia





หนุมานเป็นอวตารแห่งพระศิวะ เพื่อมาช่วยพระวิษณุในมหากาพย์เรื่องนี้ / ภาพจากวัดวิษณุ


หนุมานเป็นอวตารแห่งพระศิวะ เพื่อมาช่วยพระวิษณุในมหากาพย์รามายณะ หรือ รามเกียรติ์ / ภาพจาก BBC


พระราม และ หนุมาน


เทวรูปพระราม ในวัดวิษณุ ยานนาวา


จากซ้ายไปขวา หนุมาน (คุกเข่า) พระลักษณ์ พระราม พระนางสีดา
ภาพจาก Wikipedia


ที่มา..http://www.siamganesh.com/hanuman.html
34#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-7-1 08:49 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
35#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-7-1 08:50 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ธรรมะแห่งราชา


36#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-7-1 08:51 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Sornpraram เมื่อ 2014-7-1 08:56

37#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-7-1 08:52 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
38#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-7-20 07:09 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Sornpraram เมื่อ 2014-7-28 09:15

จองถนน ในรามเกียรติ์

มติชนรายวัน ฉบับประจำวันพฤหัสบดีที่ 8 พฤศจิกายน 2555






พระรามจองถนน

ฝ่ายพระรามคิดจะปราบเหล่ายักษ์ให้เสร็จสิ้นไปโดยเร็ว ชามพูวราช ได้ทูลว่า การที่พระรามจะข้ามไปลงกาด้วยฤทธิ์อำนาจที่เหล่าทหารขันอาสานั้นย่อมทำได้ แต่จะทำให้เสียพระเกียรติยศ ควรจะให้ไพร่พลนำเอาหินไปทิ้งเพื่อสร้างถนนในมหาสมุทร พระรามจึงสั่งให้สุครีพพาไพร่พลไปเร่งสร้างถนน โดยให้นิลพัทควบคุมไพร่พลเมืองชมพู หนุมานควบคุมไพร่พลเมืองขีดขิน นิลพัทนั้นแค้นหนุมานมาแต่เดิมแล้ว ได้โอกาสล้างแค้นจึงแสดงฤทธิ์ เอาเท้าคีบเขาหิมวันต์ สองมือชูเขาคิรินทร เหาะมาแล้วบอกให้หนุมานคอยรับ

นิลพัทจึงทิ้งภูเขาลงมาทั้งสองลูกหวังให้ถูกหนุมาน แต่หนุมานรับไว้ได้ จึงคิดแก้ลำบ้าง โดยไปหักยอดเขา และนำหินก้อนมหึมาผูกตามขน แล้วให้นิลพัทรับบ้าง นิลพัทเห็นจึงขอให้หนุมานโยนมาทีละก้อน หนุมานว่า ทีนิลพัทแกล้งทิ้งมาพร้อมกันหวังให้ตาย แล้วทิ้งหินทั้งหมดลง นิลพัทใช้มือและเท้ารับไว้ได้ หนุมานหาว่านิลพัทสบประมาทตน และได้ท้าวความถึงท้าวชมพูที่มีฤทธิ์มาก ตนยังจับมาได้ นับประสาอะไรกับนิลพัท

นิลพัทโกรธท้าหนุมานต่อสู้ดังกึกก้อง พระรามได้ยินคิดว่าเหล่าลิงรบกับยักษ์ ให้พระลักษมณ์ไปดู แล้วจึงพาสุครีพ หนุมาน และนิลพัท เฝ้าพระราม พระรามโกรธ สุครีพจึงทูลแก่พระรามว่า ควรจะแยกทั้งคู่ให้ห่างกัน โดยให้หนุมานอยู่กับพระราม ส่วนนิลพัทให้กลับไปช่วยท้าวชมพูดูแลเมืองขีดขิน ทำหน้าที่ส่งเสบียงให้กองทัพเดือนละครั้ง ถ้าขาดราชการจะประหารเสีย ฝ่ายพระรามได้สั่งให้หนุมานจองถนนไปกรุงลงกาเสร็จภายในเจ็ดวัน หากไม่เสร็จจะประหารชีวิต






            เมืองลงกาของทศกัณฐ์เป็นเกาะ (ที่จินตนาการจากโลกจริงคือ ศรีลังกา) มีทะเลล้อมรอบ
กรุงศรีอยุธยามีแม่น้ำล้อมรอบ จึงเปรียบเหมือนกรุงลงกาของทศกัณฐ์ ดังพระราชนิพนธ์เพลงยาวนิราศของกรมพระราชวังบวรฯ ตอนหนึ่งว่า

          บริเวณอื้ออลด้วยชลธี           ประดุจเกาะอสุรีลงกา
จองถนน ในรามเกียรติ์ หมายถึง ระดมพลทำถนน, สร้างถนน, ตัดถนน (คำว่า จอง มีหลายความหมาย เช่น กำหนดเอาไว้, หมายเอาไว้, ผูก, ฯลฯ)

พระรามโปรดให้กองทัพวานรระดมขนหินถมทะเลทำถนนข้ามมหาสมุทรไปเกาะลงกา ดังกลอนพระราชนิพนธ์ ร.1 ว่า

          “ขนศิลาถมท้องสมุทรไท        จองถนนข้ามไปเมืองมาร”

เมื่อถนนข้ามทะเลสมุทรไปเกาะเมืองลงกาสำเร็จแล้ว เป็นที่รับรู้ทั่วไปมีในเอกสารไทยเรียกว่า ถนนพระราม แต่แผนที่โลกเรียกถนนเป็นสะพานด้วยชื่อตำนานฝรั่งว่า Adam’s Bridge หมายถึงอะไร? ไม่ทราบ

          ไม่ว่าจะเรียกชื่ออย่างไร แต่ในทางภูมิประเทศจริงๆคือแนวหินธรรมชาติซึ่งเคยเชื่อมต่อระหว่างปลายแหลมอินเดียใต้กับศรีลังกา ปัจจุบันยังมีแนวให้เห็นเด่นชัด แต่ผู้แต่งรามายณะ(ไทยเรียกรามเกียรติ์) จินตนาการเป็นถนนพระราม แล้วผูกเรื่องขึ้นมา ดังเป็นที่รู้ทั่วกัน


สมณทูตสยามที่ ร.2 โปรดให้ส่งไปสืบพระศาสนาถึงลังกา ได้อาศัยเรือค้าช้างจากเมืองตรังข้ามทะเลอันดามันผ่านเกาะนาควารี(นิโคบาร์)ไปขึ้นฝั่งที่อินเดียใต้ แล้วจาริกเดินบกลงไปทางทิศใต้ถึงเมืองราเมศวรัม ผ่านบริเวณถนนพระราม (แต่มองไม่เห็น) ไปขึ้นเกาะลังกา


มีจดหมายเหตุตอนหนึ่งจดว่า เมื่อคณะสงฆ์ลงเรือถ่อข้ามสมุทรจะไปขึ้นฝั่งเกาะลังกา

“กลับหลังมาแลดูถนนพระรามหาเห็นไม่”


(เรื่องประดิษฐานพระสงฆ์สยามวงศ์ในลังกาทวีป พระนิพนธ์ สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ สำนักพิมพ์มติชน พิมพ์เมื่อ พ.ศ. 2546 หน้า 394)


สุนทรภู่จะเคยเดินทางผ่านถนนพระรามร่วมไปในคณะสงฆ์สมัย ร.2 หรือไม่? ไม่ทราบ แต่ในพระอภัยมณีพาดพิงถึงถนนพระรามบ่อยครั้งอย่างคุ้นเคย เช่น


อุศเรนเตรียมทัพจะยกไปตีเมืองผลึก มีกลอนว่า


          แล้วเดินบกยกมาลงท่าข้าม              ถนนพระรามเรือแพแซ่สลอน
ยั้งหยุดจัดหัดทหารให้รานรอน ข่าวขจรทั่วทั้งเกาะลังกา


ต่อจากนั้นอุศเรนยกทัพจากถนนพระรามข้ามฟากทะเลอันดามันไปฝั่งตรงข้ามเป็นเมืองผลึก (เมืองถลาง เกาะภูเก็ต) มีกลอนว่า


          ฝ่ายลังกาฝรั่งอยู่หลังถนน               พอพักพลฝึกทหารชาญสนาม
ออกจากฝั่งวังวนถนนพระราม แล้วยกข้ามฟากมาสิบห้าคืน
ถึงเขตคุ้งกรุงผลึกนึกประหลาด        ไม่เห็นลาดตระเวนแขวงมาแข็งขืน
เข้าปากน้ำสำคัญให้ลั่นปืน               เสียงปึงปังดังครืนทั้งธรณี

พระรามจองถนน แล้วได้ถนนพระรามข้ามทะเลสมุทรจากปลายแหลมแผ่นดินใหญ่ไปเกาะเมืองลงกา คงเป็นความรู้ที่กระฎุมพียุคต้นกรุงรัตนโกสินทร์ร่วมสมัยสุนทรภู่รู้กันทั่วไป แต่รู้แบบไหน?

ไม่มีใครรู้จนบัดนี้

39#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-9-12 06:03 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้