ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

राम พระศรีรามเทพ राम

[คัดลอกลิงก์]
21#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-6-17 06:50 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Sornpraram เมื่อ 2014-6-17 07:00

พระราม เป็น ชนชาวเผ่าอารยัน



การมาของชาวอารยัน (The Aryans)

       ต่อมาพวกมิลักขะ หรือ ดราวิเดียน (Dravidian) ที่มีความเจริญมากกว่าเผ่าเดิมก็ได้อพยพเข้ามาสู่อินเดีย ชนพวกนี้ได้ขยายตัวสู่ภาคใต้กลายเป็น พวกทมิฬ (Tamil) เตุลุคุุ (Teluku) มาลาบาร์ (Malabar) และ กนะริส (Kanarise) เป็นต้น คำว่ามิลักขะ แปลว่า เศร้าหมอง หรือมีผิวดำ และต่อมาเมื่อประมาณ ๔,๐๐๐ ปีมาแล้ว ชนชาติอารยัน (Aryans) ซึ่งเดิมกล่าวกันว่ามาจากเอเซียกลาง ก็อพยพเข้าสู่อินเดีย การย้ายถิ่นของชาวอารยันแบ่งออกเป็น ๒ สาย คือ

       สายแรกไปสู่ยุโรปกลายเป็นชาวอารยันยุโรปในปัจจุบัน
       สายที่สองมุ่งสู่ทิสตะวันออกเฉียงใต้ ตั้งรกรากแถวทะเลสาบแคชเบี้ยนในปัจจุบัน ต่อมาพวกเขาจึงแยกออกเป็นสองสาย คือสายหนึ่งไปสู่ตะวันออกกลางกลายเป็นชาวอารยันเปอร์เซีย และอีกเผ่ามุ่งตรงสู่อินเดียตั้งรกรากแถวแม่น้ำสิทธุตอนบน ลักษณะทั่วไป ของชาวอารยันคือผิวขาว ร่างกายสูงใหญ่ จมูกโด่งศรีษะค่อนข้างยาว ผมสีอ่อน หน้าตาได้สัดส่วน หน้าตาจึงออกไปทางฝรั่งชาวยุโรป สังคมชาวอารยันยุคแรก ๆ ประกอบด้วยนักรบ สามัญชน พ่อค้า นักบวช ทาส

      เนื่องจากอารยันซึ่งแปลว่าเจริญรุ่งเรืองเป็นชนชาติที่เจริญมากกว่า มีความชำนาญในการขี่ม้า ใช้หอกและดาบ เป็นอาวุธสำหรับทำการรบมากกว่า จึงเอาชนะชนพื้นเมืองสองเผ่าเบื้องต้นได้ และพลักดันพวกเขาสู่ภาคใต้ ต่อมาพวกเขาจึงเริ่มเรียนรู้ที่จะอยู่ด้วยกันอย่างฉันมิตรและมีการแต่งงานข้ามเผ่าพันธุ์ กลายมาเป็นชนส่วนมากของอินเดียปัจจุบัน

      แม้ในด้านการปกครองระยะนี้จะตกอยู่ในอำนาจของชาวอารยันผู้มาใหม่ แต่ด้านวัฒนธรรมด้านศาสนากับมีการผสมผสานกับวัฒนธรรมท้องถิ่นพวกมิลักขะเป็นชนเผ่าที่เคารพบูชาธรรมชาติ เช่น ต้นไม้ ภูเขา ดิน น้ำ ไฟ ลม เป็นต้น โดยถือว่ามีเทพสิงสถิตย์อยู่ทุกแห่งหน สามารถให้คุณให้โทษแก่ผู้อ้อนวอนบวงสรวงได้ พวกอารยัน ก็มีความเชื่อถือในธรรมชาติ เช่นกัน เช่นพระอาทิตย์ ดวงจันทร์ดวงดาว ท้องฟ้า เมฆหมอก พายุ เป็นต้น โดยถือว่าสิ่งเหล่านี้เป็นพระเจ้าของตน เมื่อพวกอารยันเข้ามาตั้งรกราก ชนทั้งสอง จึงมีการผสมผสานเข้ากันกลายมาเป็นศาสนาพราหมณ์หรือฮินดูดังเช่นปัจจุบัน


22#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-6-17 11:52 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆครับ
ขอบคุณครับ
25#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-6-18 07:21 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้







26#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-6-25 15:42 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
นารายณ์อวตาร



ฝ่ายท้าวทศรถนั้น มีเพื่อนเป็นพญานกชื่อสดายุ พระองค์ไม่มีโอรสธิดาเห็นว่าจะไม่มีใครสืบราชสมบัติ จึงทำพิธีขอโอรสที่มีฤทธิ์แต่ไม่สำเร็จ จึงไปนิมนต์ฤาษีกไลโกฎ ฤาษีกไลโกฎได้พาฤาษีอีก 4 องค์ ขึ้นไปเฝ้าพระอิศวรแล้วทูลว่า โลกมีความเดือดร้อนเพราะพระอิศวรและพระนารายณ์ได้ประทานศรแก่ยักษ์ คงมีแต่ท้าวทศรถเท่านั้นที่จะช่วยเหลือโลกได้ แต่พระองค์ไม่มีโอรส จึงควรให้พระนารายณ์อวตารไปปราบเหล่ายักษ์นั้น
พระอิศวรจึงให้พระนารายณ์อวตารไปเกิดเป็นโอรสท้าวทศรถ ชื่อ พระราม จักรเป็นพระพรต สังข์และบัลลังก์นาคราชเป็นพระลักษณ์ และคทาเป็นพระสัตรุต รวมทั้งให้พระลักษมีเป็นนางสีดา เกิดเป็นธิดาทศกรรฐ์และพระนางมณโฑ

กำเนิดทหารพระราม


ส่วนเหล่าเทวดาทั้งปวงได้พากันตามเสด็จไปช่วยพระนารายณ์ ปราบเหล่ายักษ์ด้วย พระอิศวรจึงให้พรว่า หากถูกพวกยักษ์ฆ่าตาย เมื่อลมพัดถูกตัวก็ให้ฟื้นขึ้นดังเดิม เหล่าเทพยดารับพรแล้วจึงจุติมาเป็นวานรในโลกมนุษย์ แล้วพระอิศวรจึงให้ฤาษีไปบอกกับท้าวทศรถ ให้ทำพิธีขอโอรส พระฤาษีได้ทำตามคำสั่ง ท้าวทศรถจึงตั้งพิธี ปรากฎรูปอสูรทูนถาดข้าวทิพย์ กลิ่นข้าวทิพย์โชยไปถึงกรุงลงกา พระนางมณโฑต้องการเสวยข้าวทิพย์มาก ทศกรรฐ์จึงให้นางกากนาสูร มาเอาข้าวทิพย์ นางกากนาสูรแปลงเป็นอีกามาโฉบเอาข้าวไปได้ครึ่งปั้น แล้วนำไปให้นางมณโฑ ส่วนที่เหลือสามปั้นครึ่งนั้น ส่วนนางไกยเกษีกับนางเกาสุริยา ได้คนละหนึ่งปั้น นางสมุทรเทวีได้ปั้นครึ่ง


กำเนิดนางสีดา

ต่อมาทุกนางได้ทรงครรภ์ นางเกาสุริยาประสูติโอรสเป็นพระราม นางไกยเกษีประสูติโอรสเป็นพระพรต นางสมุทรเทวีประสูติโอรสมาเป็นพระลักษณ์และพระสัตรุต พระนางมณโฑประสูติธิดามาเป็นนางสีดา เมื่อนางสีดาเกิดนั้นได้ร้องว่า ผลาญราพณ์ ถึงสามครั้ง ทุกคนได้ยินยกเว้นทศกรรฐ์และนางมณโฑ ทศกรรฐ์ดีใจมากที่ได้ธิดาและได้ให้พิเภกมาทำนายดวงชะตา พิเภกทำนายว่าดวงชะตานางสีดาเป็นกาลกิณี ควรจะเอาไปทิ้งน้ำ ทศกรรฐ์จึงให้เอาไปใส่ผอบทิ้งกลางทะเล แต่มีดอกบัวใหญ่ขึ้นมารองรับไว้ แล้วลอยทวนน้ำไปถึงอาศรมพระชนก ผู้ซึ่งเดิมเป็นกษัตริย์ครองเมืองมิถิลา พระฤาษีจึงนำไปเลี้ยงดู ต่อมาเห็นว่าตนออกบวชเพื่อสำเร็จญาณโลกีย์ แต่การที่มาเลี้ยงนางสีดาทำให้ไม่สำเร็จ จึงนำผอบที่ใส่นางสีดาไปฝังใต้ต้นไทรใหญ่ ให้อยู่ในอารักขาของเหล่าเทวดา ส่วนที่กรุงศรีอยุธยา วันหนึ่งพระราม พระลักษณ์ พระพรต และพระสัตรุต ลองศรกัน พระรามแกล้งยิง หลังนางค่อมกุจจี นางค่อมได้รับความอับอายและเจ็บแค้นจึงอาฆาตพระรามตั้งแต่นั้น เมื่อพระโอรสเจริญวัย ท้าวทศรถจึงให้โอรส ไปศึกษาพระเวทกับฤาษีสององค์ชื่อ ฤาษีวสิษฐ์และฤาษีสวามิตร จนเรียนศิลปศาสตร์ได้อย่างชำนาญ และเห็นว่าจากนี้เหล่ายักษ์จะต้องตายด้วยศรพระราม แต่พระรามไม่มีศรประจำตัว จึงตั้งพิธีขอศร พระอิศวรได้ประทานศรให้องค์ละสามเล่ม แต่ละเล่มมีฤทธิ์ต่างกัน สำหรับศรของพระรามคือ ศรพรหมมาสตร์ ศรอัคนิวาต และศรพลายวาต เมื่อกลับเข้ากรุงศรีอยุธยา จึงลองศรให้ท้าวทศรถชมเป็นที่ชื่นชมโสมนัส ทางด้านท้าวไกยเกษ เห็นว่าตนนั้นชรามากแล้ว จึงไปขอลูกของพระนางไกยเกษีมาเลี้ยงดู หากในวันข้างหน้ามีศัตรูมารุกรานจะได้เป็นกำลังต่อสู้ได้ ท้าวทศรถจึงให้พระพรตกับพระสัตรุตไป


นับตั้งแต่ทศกรรฐ์ถอดดวงใจแล้วก็มีความกำเริบมากขึ้น และยังเห็นว่าเหล่านักพรตมีฤทธิ์มาก ซึ่งในกาลข้างหน้า การบำเพ็ญตบะของฤาษีนั้น อาจทำให้เกิดอันตรายต่อเหล่ายักษ์ได้ จึงให้นางกากนาสูรและไพร่พลยักษ์แปลงเป็นกา ไปทำลายพิธีบำเพ็ญตบะ พวกฤาษีสู้ไม่ได้ จึงไปเฝ้าท้าวทศรถ ขอให้พระราม พระลักษณ์ ไปช่วยปราบ    พระราม พระลักษณ์ ได้แผลงศรถูกนางกากนาสูรตาย สวาหุและม้ารีสลูกของนางกากนาสูร ทั้งสองจึงมาแก้แค้นแทนมารดา พระรามจึงแผลงศรถูกสวาหุตาย ส่วนม้ารีสหนีไปกรุงลงกา

ฝ่ายพระชนกหลังจากได้ฝังผอบนางสีดาไว้โคนต้นไทรแล้วไปบำเพ็ญเพียรต่อ แต่ไม่สำเร็จญาณสมาบัติ เกิดความเบื่อหน่ายจะกลับไปครองเมืองมิถิลาตามเดิม จึงไปขุดเอาผอบนางสีดาขึ้นมาภายในมีนางอายุประมาณ สิบหกปี จึงได้พาเข้าเมือง และตั้งชื่อว่า นางสีดา
27#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-6-25 15:44 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้







ชาตินี้มึงมีแต่สองหัตถ์ จงไปอุบัติเอาชาติใหม่

ให้สิบเศียรสิบพักตร์เกรียงไกร เหาะเหินเดินได้ในอัมพร

มีมือยี่สิบซ้ายขวา ถือคทาอาวุธธนูศร

กูจะเป็นมนุษย์แต่สองกร ตามไปราญรอนชีวี



28#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-6-26 11:29 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Sornpraram เมื่อ 2014-6-26 11:30

พระรามจองถนน





พระรามจองถนน



                ฝ่ายพระรามคิดจะปราบเหล่ายักษ์ให้เสร็จสิ้นไปโดยเร็ว ชามพูวราช ได้ทูลว่า การที่พระรามจะข้ามไปลงกาด้วยฤทธิ์อำนาจที่เหล่าทหารขันอาสานั้นย่อมทำได้ แต่จะทำให้เสียพระเกียรติยศ ควรจะให้ไพร่พลนำเอาหินไปทิ้งเพื่อสร้างถนนในมหาสมุทร พระรามจึงสั่งให้สุครีพพาไพร่พลไปเร่งสร้างถนน โดยให้นิลพัทควบคุมไพร่พลเมืองชมพู หนุมานควบคุมไพร่พลเมืองขีดขิน


               
นิลพัทนั้นแค้นหนุมานมาแต่เดิมแล้ว ได้โอกาสล้างแค้นจึงแสดงฤทธิ์ เอาเท้าคีบเขาหิมวันต์ สองมือชูเขาคิรินทร เหาะมาแล้วบอกให้หนุมานคอยรับ นิลพัทจึงทิ้งภูเขาลงมาทั้งสองลูกหวังให้ถูกหนุมาน แต่หนุมานรับไว้ได้ จึงคิดแก้ลำบ้าง โดยไปหักยอดเขา และนำหินก้อนมหึมาผูกตามขน แล้วให้นิลพัทรับบ้าง นิลพัทเห็นจึงขอให้หนุมานโยนมาทีละก้อน หนุมานว่า ทีนิลพัทแกล้งทิ้งมาพร้อมกันหวังให้ตาย แล้วทิ้งหินทั้งหมดลง นิลพัทใช้มือและเท้ารับไว้ได้ หนุมานหาว่านิลพัทสบประมาทตน และได้ท้าวความถึงท้าวชมพูที่มีฤทธิ์มาก ตนยังจับมาได้ นับประสาอะไรกับนิลพัท

                นิลพัทโกรธท้าหนุมานต่อสู้ดังกึกก้อง พระรามได้ยินคิดว่าเหล่าลิงรบกับยักษ์ ให้พระลักษมณ์ไปดู แล้วจึงพาสุครีพ หนุมาน และนิลพัท เฝ้าพระราม พระรามโกรธ สุครีพจึงทูลแก่พระรามว่า ควรจะแยกทั้งคู่ให้ห่างกัน โดยให้หนุมานอยู่กับพระราม ส่วนนิลพัทให้กลับไปช่วยท้าวชมพูดูแลเมืองขีดขิน ทำหน้าที่ส่งเสบียงให้กองทัพเดือนละครั้ง ถ้าขาดราชการจะประหารเสีย

ฝ่ายพระรามได้สั่งให้หนุมานจองถนนไปกรุงลงกาเสร็จภายในเจ็ดวัน หากไม่เสร็จจะประหารชีวิต



29#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-7-1 06:19 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้

พระหนุมาน ในเรื่อง รามเกียรติ์ ซึ่งดัดแปลงมาจากเรื่อง รามายณะ ของอินเดีย / dharmathai.com

หนุมานยกภูเขา ในเรื่องรามายณะ


พระราม และ พระหนุมาน
พระหนุมาน คือ สมุนเอกแห่งพระราม
เป็นมือขวาที่คอยช่วยเหลือ
ร่วมสู้รบกับพระรามด้วยความซื่อสัตย์ภักดี
หนุมาน
จึงเป็นสัญลักษณ์แห่งความจงรักภักดีต่อเจ้านาย
และเป็นสัญลักษณ์แห่งความรักลูกน้องของพระราม

การบูชาพระหนุมาน จึงให้ผลทั้ง
1. เจ้านายรักลูกน้อง เอ็นดูลูกน้องมากขึ้น
2. ลูกน้องซื่อสัตย์กับเจ้านาย อยู่ในโอวาทมากขึ้น
หนุมาน เป็นลิงเผือก (กายสีขาว) มีลักษณะพิเศษคือ มีเขี้ยวอยู่กลางเพดานปาก มีกุณฑลขนเพชร สามารถแผลฤทธิ์ให้มี ๔ หน้า ๘ มือ และหาวเป็นดาวเป็นเดือนได้ ใช้ ตรีเพชร (สามง่าม) เป็นอาวุธประจำตัว (จะใช้เมื่อรบกับยักษ์ตัวสำคัญๆ) มีความเก่งกล้ามาก สามารถแปลงกาย หายตัวได้ ทั้งยังอยู่ยงคงกระพันแม้ถูกอาวุธของศัตรูทำร้ายจนตาย เมื่อมีลมพัดก็จะฟื้นขึ้นได้อีก

หนุมาน เป็นเทพลิงที่มีความสามารถในการเรียนรู้ ว่องไว ถือกำเนิดจากนางอัญจนา ราชินีลิง หนึ่งในสิ่งมีชีวิตที่กำเนิดโดยเทพเจ้า เป็นผู้ช่วย พระวิษณุ เมื่อครั้งอวตารเป็น พระราม สามารถเหาะได้ เนื่องจากพระบิดาคือ พระวายุ เทพแห่งลม กำเนิดของหนุมานสลับซับซ้อน กล่าวกันว่าพระบิดาของพระราม ได้จัดพิธีเพื่อของโอรส โดยให้มเหสีทั้งสามเสวยขนมองค์ละ ๑ ชิ้น นางไกษเกษี ซึ่งอ่อนชันษาที่สุด ได้รับขนมเป็นองค์สุดท้าย พระนางไม่ชอบขนมนี้ และเมินพระพักตร์นกเหยี่ยวเล็กจึงบินมาคว้าไป มันบินไปในป่า และพบ นางอัญจนา ซึ่งถูกสาปให้เป็นลิง กำลังสวดวิงวินขอบุตรอยู่ ดังนั้นนกเหยี่ยวจึงปล่อยขนม พระวายุก็พัดพาขนมไปตกที่มือของนาง จากนั้น พระศิวะ จึงปรากฎร่างต่อหน้านางและให้นางกินขนม เมื่อนางกิน จึงตั้งครรภ์หนุมานขึ้น ทันทีที่หนุมานเกิดก็มีอาการหิวทันที มารดาจึงไม่พอใจหนุมานนัก ครั้นเมื่อหนุมานเห็นดวงอาทิตย์คิดว่าเป็นผลไม้ จึงกระโดดตามไป ดวงอาทิตย์เคลื่อนหนี หนุมาน ก็ไล่ตามไปไกลจนถึงสวรรค์ของ พระอินทร์ พระอินทร์ทรงใช้วัชระขว้างใส่ขากรรไกรหนุมาน ทำให้หนุมาน หล่นลงมาบนโลก พระวายุ บิดาของหนุมานจึงแก้แค้นให้ โดยเข้าไปสิงอยู่ในร่างของเหล่าเทพเจ้า ทำให้เกิดอาการจุกเสียด พระอินทร์จึงต้องขอขมาพระวายุ และให้พรว่าหนุมานจะเป็นอมตะ (บางคัมภีร์ว่าพระรามให้พรหนุมานให้เป็นอมตะ)

30#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-7-1 06:20 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้



หนุมานมีพลังและความว่องไวล้ำเลิศ ไม่เพียงแต่เหาะเร็วดังลมเท่านั้น แต่หนุมานยังมีพลังยกถอนภูเขาได้ หดและขยายร่างได้ตามต้องการและล่องหนได้ เมื่ออยู่ในสงครามหนุมานจะมีลักษณะน่าสะพรึงกลัว กล่าวคือ ร่างใหญ่เท่าภูเขา ผิวกายเป็นสีเหลืองดั่งทองหลอม ผิวหน้าสีแดงดั่งทับทิม มีหางยาวมาก หนุมานจะทำให้ศัตรูกระจัดกระจายโดยใช้เสียงคำรามอย่างน่ากลัว
หนุมาน เดินทางไปกรุงลงกา พร้อมกับพระราม กับกองทัพลิงและหมี เพื่อช่วงชิงนางสีดา มเหสีของพระราม ที่ถูกอสูรราพณ์จับตัวไป
วีรกรรมสำคัญของหนุมานก็คือ เหาะไปยังเทือกเขาหิมาลัยเพื่อนำสมุนไพรมารักษาบาดแผลของพระลักษณ์ พวกยักษ์ได้ขัดขวางหนุมาน แต่หนุมานก็มีชัย อสูรราพณ์หรือทศกัณฐ์ได้ส่งบริวารยักษ์มาฆ่า หนุมาน โดยตั้งรางวัลไว้ว่า ถ้าสำเร็จจะยกอาณาจักรให้ครึ่งหนึ่ง หนุมานได้จับขาของยักษ์เหวี่ยงไปทางกรุงลงกาจนตกลงมาตายต่อหน้าบัลลังก์ของอสูรราพณ์ แต่หนุมานหาสมุนไพรไม่พบ หนุมานจึงยกภูเขาไปทั้งลูก การเหาะโดยแบกภูเขาทั้งลูกไปทำให้เกิดลมวน เมื่อผ่านกรุงอโยธยา พระภรตจึงคิดว่าเป็นการกระทำของอสูร จึงยิงลูกศรใส่ หนุมาน จนตกลงมา เมื่อพบว่าเป็นหนุมาน พระภรตจึงไถ่โทษโดยการใช้ลูกศรยิง หนุมาน กลับไปกรุงลงกา แต่หนุมานปฏิเสธและเหาะกลับไปเอง จากนั้นจึงนำสมุนไพรให้พระราม เมื่อสงครามที่กรุงลงกายุติลง พระรามจึงให้รางวัลโดยการให้พรแด่หนุมาน ซึ่งขอเป็นอมตะ พระรามก็ประทานให้


ศึกรามายณะของอินเดีย หรือ รามเกียรติ์ของไทย ศิลปะในวัดพระแก้วมรกต / ภาพจาก Wikipedia


ขอขอบพระคุณ : ย้อนรอยชมพูทวีป
สำนักพิมพ์ คุ้มคำ / สมคมแดง สมปวงพร



"อุดมการณ์และความภักดีของศรีหนุมาน" จาก - ศรีมณเฑียร ทรรศน์
ขอขอบคุณ - สมาคมฮินดูสมาช

รุทธอวตาร (อวตารของพระศิวะ)

บนภูเขาที่มีนามว่า ริศีมุก ณ ที่นั่น มีพญาวานรที่มีนามว่า เกสรี และนามของนางพญาวานรอันเป็นชายาของเขา นามว่า อัญชนา เพื่อความปรารถนาที่จะได้บุตรสักตัวหนึ่ง นางจึงกราบไหว้พระศิวะด้วยความภักดีอย่างยิ่ง พระศิวะทรงพึงพอใจกับด้วยความภักดีของเธอ และต้องการให้เธอได้สิ่งที่เธอต้องการ นางขอให้พระศิวะประทานบุตรให้แก่เธอให้มีความแข็งแรงเหมือนพระศิวะ พระศิวะทรงให้พรแก่เธอทันทีและบอกแก่เธอว่า การปรากฏเป็นองค์อวตารครั้งที่สิบเอ็ดของพระศิวะจะเกิดเป็นบุตรของเธอ ในเวลาต่อมา พระจันทร์เต็มดวงในเดือนไจตระ วันอังคาร การปรากฏครั้งที่สิบเอ็ดของพระศิวะก็ได้อุบัติขึ้นได้นามว่า ศรีหนุมาน
บทเรียนจากรูปแบบของวานร มีดังนี้
หน้าตาของพญาวานรชื่อศรีหนุมานได้ให้บทเรียน แก่เราดังต่อไปนี้การที่เราจะได้มาซึ่งความนิยมนับถือ มันไม่สำคัญที่จะมีร่างกายสวยงามเท่านั้น แต่มันสำคัญอยู่ที่การบริการรับใช้ที่ปราศจากความเห็นแก่ตัวที่มีต่อผู้หลัก ผู้ใหญ่ และต่อประชาชน ไม่มีบุคคลใดที่มีรูปร่างสวยงามอย่างเดียวจะสามารถเอาชนะหัวใจของบุคคลอื่น ได้และไม่สามารถที่จะเป็นผู้ภักดีที่แท้จริงได้ เว้นเสียแต่ว่าเขาผู้นั้นจะมีคุณสมบัติที่ดี ฉะนั้น มันมีความสำคัญที่จะกำจัดความเจ็บปวดของคนอื่น และทำการรับใช้โดยที่ไม่เห็นแก่ตัวต่อสังคม เช่น หนุมาน ฉะนั้น บุคคลสามารถเอาชนะความรักและความเคารพนับถือจากคนอื่นได้ก็ด้วยเอาแบบอย่าง หนุมาน
เมื่อหนุมานเดินทางไปถึงเกาะลังกาอันเป็นอาณาจักรของทศกัณฐ์ ยักษ์และมารทั้งหมด ก็โอบล้อมเขาเอาไว้ด้วยหน้าตาและอาวุธที่โหดร้าย แต่หนุมานก็ไม่ได้สะทกสะท้านประการใด เขากลับมีความเชื่อมั่นในพระราม และมีความเชื่อมั่นในตัวของเขาเองอย่างสูงผลของมันก็คือว่า เขาเอาชนะ พลังอำนาจของทศกัณฐ์ได้ทั้งหมด และได้รับผลสำเร็จในการเดินทางไปครั้งนั้น ในทำนองเดียวกันนี้ ในเวลาที่เราได้รับความยุ่งยากต่าง ๆ เราไม่ควรสะทกสะท้านต่อเหตุการณ์ และควรตั้งใจมั่นคงแน่วแน่ในความภักดีต่อพระเป็นเจ้า
ในรูปภาพบางภาพที่อยู่ในโบสถ์นั้น แสดงให้เห็นว่า หนุมาน กำลัง ยกภูเขาบนฝ่ามือซ้าย อันนี้หมายถึงว่า ขณะที่หนุมานเดินทางไป ผ่านอุปสรรคความยุ่งยากทั้งหมด และนำเอาภูเขามาเพื่อช่วยชีวิตของพระลักษณ์ให้ปลอดภัย ในทำนองเดียวกันนี้ เราควรจะเตรียมใจให้พร้อมไว้เสมอที่จะรับมือเพื่อต่อสู้กับความยุ่งยากใดๆ เพื่อช่วยเหลือหรือรักษาชีวิตของสมาชิกในครอบครัวหรือบุคคลทั้งหลายที่อยู่ ในสังคมของเรา แล้วเท่านั้น เราจึงจะมีสิทธิได้รับพรจากพระเป็นเจ้า
ผู้ภักดีทีมีความตั้งใจที่มีเล่ห์กลหลอกลวง ไม่มีสิทธิที่จะได้รับพรของพระเป็นเจ้าได้ เขาเป็นศัตรูตัวจริงของความโหดร้ายทั้งหลาย เมื่อหนุมานเดินทางไปเอาต้นไม้สันชีวนี (เป็นยาสมุนไพรชนิดหนึ่ง) เพื่อรักษาชีวิตของพระลักษณ์ให้ปลอดภัย ยักษ์นามว่าเนมิ แต่งตัวเขาเองเป็นเหมือนนักบวช และเริ่มเทศน์สอนหนุมาน หนุมานพบการแสดงกลลวงของความชั่วนั้นได้ทันที และลงโทษฆ่าเขาทันที ถ้าคนต้องการที่จะรับพรของหนุมาน เขาผู้นั้นต้องมีใจบริสุทธิ์และไม่ควรคิดร้ายหรือเจตนาหลอกลวงใดๆ
มีแม่มดตนหนึ่งนามว่า “สุรสา เศ” อาศัย อยู่ในทะเล มีอำนาจทางโยคะ ดึงเอาสิ่งต่างๆ ที่บินได้ลงไปสู่ทะเล และก็ฆ่ามันกินเป็นอาหาร เมื่อหนุมาน เหาะไปเหนือทะเล เพื่อตามหาพระนางสีดา สุรสา ก็ดึงหณุมาน แต่เขาก็ทำให้ร่างกายใหญ่โต ซึ่งเธอไม่สามารถจะกินได้ และในทันทีนั้น หนุมานก็แปลงกายเขาเป็นยุง แล้วเข้าไปในปากของเธอ แล้วก็ออกมาจากปากเธอทันที เหตุการณ์นี้สอนให้เรารู้ว่า ถ้าเราได้มาซึ่งอำนาจโยคะอย่างใดอย่างหนึ่ง เราควรใช้อำนาจอย่างเดียวกันนั้น เพื่อช่วยเหลือและคุ้มครอง คนอื่น ๆ ให้ปลอดภัยมากกว่าที่จะฆ่าหรือทำลายคนอื่น เพื่อเจตนาอันเห็นแก่ตัวของเรา
ผู้ภักดีที่แท้จริงของพระรามก็คือหนุมานที่ เหมือนมากที่สุด บุคคลผู้ซึ่งระลึกนึกถึงพระรามอยู่สม่ำเสมอ หนุมานช่วยเหลือพระองค์ทุกๆ ก้าวของชีวิต และเขาทำให้ความปรารถนาทุกอย่างของเขาสำเร็จลงโดยสมบูรณ์ และกำจัดความทุกข์ทั้งมวลของเขาออกไปได้

เย ชยนฺติ สทา เสนหนาม มนฺคลย กรนมฺ
ศรี มโตราม จนฺทรสฺย กริปาโล มรม สวมินิ
เตศมารโถ สทาวิปร ปรทาตหม ปรยาตนตห
ทาทามิ วนฺจิต นิตฺยมฺ สรวนา เสารวยมุตตม

ความหมายก็คือว่า ผู้ภักดีเหล่านั้น ผู้ซึ่งระลึกนึกถึงพระราม ผู้มีความเมตตาที่สุดของเราทุกๆ วัน และตลอดเวลา ข้าฯ จะทำให้ความปรารถนาทุก ๆ อย่างของผู้ภักดีเช่นนั้นสำเร็จลงโดยสมบูรณ์ และประทานความสำเร็จในการกระทำทุก ๆ อย่างให้แก่พวกเขา ฉะนั้น การที่เราจะได้รับพรจาก หนุมาน มันเป็นความจำเป็นที่เราจะต้องทำการบูชา และระลึกนึกถึงพระราม
จาก - ศรีมณเฑียร ทรรศน์
ขอขอบคุณ - สมาคมฮินดูสมาช


คาถาบูชาพระหนุมาน

บูชาพระหนุมาน ขอพรให้มีความเข้มแข็ง
ชนะศัตรู มีแต่ความแข็งแกร่งไม่พ่ายแพ้ต่อสิ่งใด
ขอพรหนุมานให้ประทานความซื่อสัตย์จากผู้ใต้บังคับบัญชา และประทานความรักใคร่เอ็นดูจากผู้บังคับบัญชา
ให้พรเจ้านาย-หัวหน้า-ลูกน้อง-บริวาร มีแต่ความกลมเกลียวสามัคคี ไม่เกลียดชังกัน

การบูชาพระหนุมาน ควรบูชาควบคู่กับพระราม มีบทสวดให้เลือก คือ

- โอม ศรี หนุมาน นะมะห์

- โอม ศรี หนุมัทเต นะมะห์

- โอม ศรี รามะ ชยะ ชยะ รามะ
โอม ศรี หนุมานะ ชยะ ชยะ หนุมานะ

- โอม อัญจาเนยายะ วิดมาเห
มหาบัลลาเย ดีมาฮี
ตันโน หนุมาน ประโจทะยาต

- โอม อันจานี สุทายะชา วิดมาเห
วายุ ปุตรายะชา ดีมาฮี
ตันโน มรุทถี ประโจทะยาต

- โอม มะโนจาวัม มารุตาตุละยาเวกัม
จิเทนทริยัม พุทธิมาตัม วาริสะตัม
วาตัตตะมาชัม วานะรายุ ธ มุขยัม
ศรีราม ทุตัม สาระนัม ประปัทเย



exoticindiaart.com
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้