ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

มาติดตามข่าวสารต่างๆที่น่าสนใจกันครับ

[คัดลอกลิงก์]
พลิกแฟ้มประหาร! ‘หมอสุพัฒน์’ ฆ่าโหดแรงงานพม่าฝังดิน

ศาลจังหวัดเพชรบุรี ตัดสินประหารชีวิต “หมอสุพัฒน์” พร้อมลูกชายคนโต-จำคุกลูกชายคนเล็ก 25 ปี 3 เดือน ในคดีฆ่าอำพรางแรงงานชาวพม่าฝังดิน

หลังวานนี้ (1พ.ค.) ศาลจังหวัดเพชรบุรี ได้มีคำพิพากษาสั่งประหารชีวิต “หมอสุพัฒน์” พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ เลาหะวัฒนะ อดีตอายุรแพทย์ โรงพยาบาลตำรวจ พร้อมด้วยนายเอก เลาหะวัฒนะ บุตรชายคนโต และจำคุกนายอัคร เลาหะวัฒนะ บุตรชายคนเล็ก 25 ปี 3 เดือน

ฐานร่วมกันฆ่า “นายอีต้าร์” แรงงานชาวพม่า ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อนและปิดบังอำพรางซ่อนเร้นศพ หลังมีการขุดพบซากโครงกระดูกของแรงงานชาวพม่า ถูกฝังอยู่ภายในไร่ของ “หมอสุพัฒน์” ในพื้นที่ ต.กลัดหลวง อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี ขณะที่ “หมอสุพัฒน์” ขณะนี้อยู่ระหว่างหลบหนี ไม่มาฟังคำพิพากษา ให้ออกหมายจับมารับการลงโทษ โดยทนายความได้ยื่นขอประกันตัวเพื่อต่อสู้คดีในชั้นอุทธรณ์ต่อไป

พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ เลาหะวัฒนะ

ย้อนเหตุการณ์กลับไปเมื่อปี 2555 นับเป็นคดีดังแห่งปี เรื่องดังกล่าวกลายเป็นข่าวครึกโครม สังคมจับตามองและให้ความสนใจ เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าไม้รวก จ.เพชรบุรี เข้าจับกุม “หมอสุพัฒน์” ที่หลบซ่อนตัวอยู่ในรีสอร์ทแห่งหนึ่งที่หาดปึกเตียนเมื่อวันที่ 22 ก.ย.55  เนื่องจากมีส่วนพัวพันกับการหายตัวไปของ นายสามารถ นุ่มจุ้ย และน.ส.อรษา เกิดทรัพย์ สองสามีภรรยาชาวเพชรบุรี ที่หายตัวไปอย่างลึกลับ ตั้งแต่เดือนมิ.ย.52

หลังนายสว่าง นุ่มจุ้ย เจ้าของไร่สับปะรดชาวเพชรบุรี เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรีว่า พบรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นไทเกอร์ สีบรอนซ์เทา หมายเลขทะเบียน บฉ-5960 เพชรบุรี ของนายสามารถ บุตรชายและน.ส.อรษา ลูกสะใภ้ ที่หายตัวไปจอดอยู่ภายในบ้านร้างแห่งหนึ่งใน ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี

เหตุดังกล่าว นำมาสู่การ “พลิกแฟ้มคดีคนสูญหาย” ที่เหมือนจะถูกลืมไปแล้วกลับขึ้นมาทำใหม่อีกครั้ง กระทั่งนำไปสู่การจับกุม “หมอสุพัฒน์” และออกหมายจับ น.ส.วิลสา จันทรบัญชร ภรรยา ในข้อกล่าวหาร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยว และร่วมกันรับของโจร และต้องตกเป็นผู้ต้องสงสัย มีส่วนรู้เห็นเกี่ยวกับการหายตัวไปของสองสามีภรรยาดังกล่าวด้วย

พยานชี้จุดพบรถกระบะ “สองสามีภรรยา”ในจ.นนทบุรี

เหตุที่ทำให้ “หมอสุพัฒน์” ต้องตกเป็นผู้ต้องสงสัย เนื่องจากพี่ชายแท้ๆ ของหมอสุพัฒน์เอง ได้ให้ข้อมูลแก่ นายสว่าง บิดาของนายสามารถว่า รถกระบะของบุตรชายและลูกสะใภ้ที่หายไปกว่า 3 ปีนั้น ถูกจอดซุกในบ้านร้างแห่งหนึ่งในพื้นที่จ.นนทบุรี ซึ่งบ้านหลังดังกล่าวเป็นของ “หมอสุพัฒน์” ที่เคยอยู่อาศัย จนเป็นที่มาของการร้องรื้อคดี และตามจับกุมตัว “หมอสุพัฒน์” ในที่สุด โดยพ่อของเหยื่อ เชื่อว่ามาเกิดจากความขัดแย้งที่บุตรชายและสะใภ้มีที่ดินติดกับไร่ของ หมอสุพัฒน์

โดยคดีนี้เป็นที่สนใจของสังคม เพราะผู้ต้องหาเป็นถึงนายแพทย์ เป็นข้าราชการตำรวจชั้นผู้ใหญ่ แต่ทั้งนี้ การค้นหาหลักฐานในเชิงคดี ก็ยังไม่สามารถแจ้งข้อหา “ฆาตกรรมสองสามีภรรยา” กับหมอสุพัฒน์ได้ เนื่องจากการเข้าขุดค้นไร่ของหมอสุพัฒน์ที่ จ.เพชรบุรี จำนวนหลายครั้งนั้น พบเพียงโครงกระดูก 3 ศพ แต่เมื่อส่งไปตรวจดีเอ็นเอ กลับไม่มีศพใด ที่ระบุได้ว่าเป็นของนายสามารถ และภรรยาของเขา แต่กลับพบว่าหนึ่งใน 3 ศพนั้น เป็นศพของ “นายอีต้าร์” คนงานพม่าในไร่ของ หมอสุพัฒน์

จากการพบศพ “นายอีต้าร์”นั้น เพื่อนคนงานในไร่ให้การอ้างว่า หมอสุพัฒน์ “เป็นคนสั่งฆ่า” โดยมีบุตรชายสองคนรวมอยู่ด้วยในขณะเกิดเหตุ สาเหตุเพราะหึงหวงที่นายอีต้าร์ไปพัวพันกับ นางวิลสา จันทรบัญชร ภรรยาของหมอสุพัฒน์ พร้อมให้การระบุว่า วันเกิดเหตุ “นายอีต้าร์” ถูกยิงเข้าที่ขมับและยิงซ้ำที่ปาก ส่วนแรงงานชาวพม่าอีกคนที่เป็นเพื่อนสนิทของ นายอีต้าร์ หลบหนีไปได้ ก่อนย้อนกลับมาเป็นพยานในคดีให้ตำรวจ จากนั้นมีการนำตัวพยานไปชี้จุดฝังศพจนพบซากโครงกระดูก โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหา “ฆ่าแรงงานพม่าและค้ามนุษย์” แก่หมอสุพัฒน์อีก 2 ข้อหา รวม 3 ข้อหา

ค้นศพสองสามีภรรยา ในไร่ “หมอสุพัฒน์”

“กักขังหน่วงเหนี่ยวและรับของโจร  ในคดีการหายไปของสองสามีภรรยา และข้อหาร่วมกันฆ่าแรงงานพม่าและข้อหาค้ามนุษย์ จากการพบศพ นายอีต้าร์” จนนำมาซึ่งคำสั่ง “ประหารชีวิต” แม้ว่าปัจจุบัน “หมอสุพัฒน์” จะยังอยู่ระหว่างหลบหนีคดีก็ตาม…

โดยก่อนหน้านี้ “หมอสุพัฒน์” พร้อมบุตรชายทั้งสอง ได้ออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรม โดยยืนยันว่า ไม่ได้กระทำความผิดในเรื่องดังกล่าว และไม่มีส่วนรู้เห็นต่อการหายตัวไปสองสามีภรรยา แต่กลับเป็นฝ่ายช่วยเหลือครอบครัวทั้งสองด้วยซ้ำ ทั้งนี้ทีมทนายพยายามยื่นขอประกันตัว หมอสุพัฒน์และน.ส.วิลสา ที่ถูกคุมขังในเรือนจำกลางเพชรบุรี แต่ศาลไม่อนุญาต

จนเมื่อยื่นอุทธรณ์ขอประกันตัว น.ส.วิลสา โดยศาลได้อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวในระหว่างดำเนินคดี เนื่องจากเห็นว่าเป็นคดีที่มีอัตราโทษเล็กน้อย อีกทั้งประกอบกับเป็นผู้หญิงไม่สามารถไปยุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐานในคดีได้

จากนั้น ศาลได้พิพากษาลงโทษจำคุก หมอสุพัฒน์ 5 ปี ในคดีลักทรัพย์ รถยนต์ ของสองสามีภรรยาชาวเพชรบุรี ที่หายตัวไปอย่างลึกลับ  ขณะที่น.ส.วิลสา ภรรยา ที่สมรู้ร่วมคิด ถูกจำคุก 3 ปี 4 เดือน

และอีกหนึ่งคดีใน “ข้อหาค้ามนุษย์” จากการรับคนงานต่างด้าวที่ไม่มีใบอนุญาตเข้าทำงาน พร้อมให้ที่พักพิงซ่อนเร้นแก่คนงานต่างด้าวเพื่อให้พ้นการจับกุม  โดยให้ “หมอสุพัฒน์” ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน ต่อโจทก์ร่วม รวมเป็นเงิน 1 ล้านบาท

โดย “หมอสุพัฒน์” ได้ยื่นหลักทรัพย์ขอปล่อยตัวชั่วคราวในคดีดังกล่าวออกไป เพื่อสู้คดีในชั้นอุทธรณ์ จากนั้น “หมอสุพัฒน์” ได้ “หลบหนี” ไม่มาฟังคำพิพากษาศาล ซึ่งศาลเห็นว่า “หมอสุพัฒน์” มีพฤติการณ์หลบหนีคดี จึงมีคำสั่งให้ออกหมายจับ และให้ยึดหลักทรัพย์ประกันขอปล่อยตัวชั่วคราว ดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม “หมอสุพัฒน์” ที่อยู่ระหว่างหลบหนีคดีในขณะนี้  มีรายงานล่าสุด จากเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนว่า เมื่อเร็วๆนี้มีผู้พบเห็น “หมอสุพัฒน์” ปรากฏตัวอยู่ที่โรงแรมแห่งหนึ่งใน ประเทศกัมพูชา

ถึงแม้ล่าสุด ศาลจะพิพากษาสั่ง “ประหารชีวิต” หมอสุพัฒน์แล้วก็ตาม คงไม่ถือว่าเป็นการสิ้นสุดคดีดังกล่าวได้อย่างสมบูรณ์ เนื่องจากตำรวจยังไม่สามารถนำตัว “หมอสุพัฒน์” กลับมาชดใช้กรรมที่ก่อไว้ได้…..

รวมถึงยังไม่พบศพของ “สองสามีภรรยา” ที่หายตัวไปอย่างลึกลับและไร้ร่องรอย ซึ่งถือเป็นหลักฐานสำคัญที่สามารถมัดตัวผู้กระทำผิดได้อย่างชัดเจน….



MThai News

ผู้ที่มีวิชาความรู้มากมายแต่คิดว่าชีวิตผู้อื่นเป็นเช่นผักปลานับวันความคิดเช่นนี้ถูกปลูกฝังในคนรุ่นใหม่มากขึ้นทุกวัน...มีหรือจน เรียนมาก เรียนน้อย ก็หนึ่งเสียวิตเหมือนกัน



‪#‎แม่ใจทรามเอาลูกเพิ่งคลอดมาทิ้ง‬
คลิป ทีเด็ด2
2 ชม. ·




สุดเลวไม่รู้จะมีคำไหนมาด่าให้สาสมกับความระยำของคำว่าแม่เป็นกู้ชีพมาก็มีเคสนี้ที่ทุกคนต้องหลั่งน้ำตา19.30น.ชอยเข้าศูนย์มะเร็ง
ต.เสม็ด อ.เมือง ชลบุรี ‪#‎แม่ใจทรามเอาลูกเพิ่งคลอดมาทิ้ง‬ ‪#‎หมากำลังลากจะกิน‬ ‪#‎มีลุงขับรถมาเจอ‬ นึกว่าตุกตาพอดีใด้ยินเด็กร้องลงมาดูเห็นเป็นเด็กเข้าช่วยเหลื่อแจ้งมูลนิธิเด็กน่ารักเป็นเพศหญิง ‪#‎ตัวมีแต่รอยเขี้ยวหมาทั้งตัว‬ กู้ชีพชลบุรีรัมย์ไปรักษาขอให้หายไวนะขอบคุณลุงที่มาเจอทางมืดมากเป็นบางคนอาจไม่กล้าลงไปดู สลด!! –– [@กู้ภัยมังกร เฉพาะกิจ หนึ่งศูนย์หนึ่ง] กล่าว . . . ' [3/5/58]
CREDIT: http://goo.gl/1Cd8h3
*************************
ขอบคุณเรื่องแนะนำจาก –– @Rang Zaza





คลิปสาวเมาขับยาริสพุ่งชนกลุ่มนักปั่นจักรยานที่เชียงใหม่คลิปสาวเมาขับยาริสพุ่งชนกลุ่มนักปั่นจักรยานที่อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย และบาดเจ็บ 3 คน
สาวก ผีแดงเปิดเผยคลิปผู้หญิงเมาขับยาริสพุ่งชนกลุ่มนักปั่นจักรยาน บนถนนทางหลวงหมายเลข 118 สายดอยสะเก็ด-เชียงใหม่-เชียงรายขาออก เขตพื้นที่อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย และบาดเจ็บ 3 คน
จากการสอบปากคำเบื้องต้นคนขับให้การว่ามีอาการวูบหลับใน ประกอบกับผลการตรวจวัดระดับแอลกอออลล์ในร่างกายนักศึกษาคนดังกล่าวพบว่ามีปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายที่ 67 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ซึ่งเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้ที่ 50 มิลลิกรัมเปอร์เซนต์ จึงเข้าข่ายเมาแล้วขับ จึงรวบรวมพยานหลักฐานแจ้งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

เมาแล้วจะขับทำไม?




เก๋ง ฮอนด้าแจ๊ซ ชนกลุ่ม จักรยานปั่นเพื่อสุขภาพบน ถ.รัชดา-รามอินทรา หน้ามบ.บางกอกบูเลอวาร์ด นักปั่นฯบาดเจ็บ 3 คน

นักปั่นทั้งหลายก็ระวังด้วยนะครับ ...ถนนบ้านเมืองเราใช้ร่วมกันไม่ว่าอะไรที่มีล้อหมุนทางบก รถยนต์ มอเตอร์ไซย์ สามล้อ รถพ่วง รถบบรทุก จักรยาน ที่สำคัญไม่รู้จักมีวินัยในการขับขี่ไม่รักษากฎหมายและกฎจราจร ...บาดเจ็บล้มตายมาไม่มีใครเสียใใจเท่าคนในครอบครัว...
Fast8 เกิดที่ไทยแล้ว! สาวหล่อซิ่งรถ หนีไฟแนนซ์ เฉี่ยวรถหลายคัน และนี่คือรถที่เธอใช้

เมื่อเวลา 13.05 น. วันที่ 4 พฤษภาคม 2558 สาวหล่อขับรถหลบหนีไฟแนนซ์ที่มายึดรถหลังค้างจ่าย 6 เดือน มาตั้งแต่ อ่อนนุช 44 วิ่งมาทางประวิทย์ ใช้ความเร็ว ฟาส 8 แทรกกลาง ขณะรถติด เจ้าหน้าที่ไฟแนนซ์กระโดดเกาะท้ายเก๋ง ตามด้วยรถอาสาเป็นรถกระบะ ยังไม่ทราบหน่วยใด เลี้ยวซ้าย มุ่งหน้า แยกศรีอุดม แต่ก่อนที่จะถึง อุดมสุข 60 ได้เฉี่ยวชนกับ รถ 6 ล้อ ไฟแนนที่เกาะมาหลังรถ ได้พูดคุย อยู่พักนึง โดยทอมดังกล่าว เปิดกระจกลงมาเล็กน้อย แต่แล้วก็ได้เหยียบคันเร่งหนีต่อไปอีก
ต่อมา ได้เบรคกระทันหัน ตรงไฟแดง ศรีอุดมพอดี ทำให้ไฟแนนซ์ที่กระโดดเกาะรอบ 2 ตกลงมาได้รับบาดเจ็บ อาสากรุงเทพ ส่งร.พ. ปิยะมินแล้ว แต่เกือบชั่วโมงที่ทอมยังไม่ลงจากรถ จึงได้ทำการ ล็อคล้อเป็นที่เรียบร้อย
ทอมดังกล่าว เปิดกระจกลงมาเล็กน้อย แต่แล้วก็ได้เหยียบคันเร่งหนีต่อไปอีก โอ้ว ยิ่งกว่าหนังอีกนะ

ที่มา: https://www.facebook.com/photo.p ... 76351570&type=1

ใครผ่อนรถอยู่ระวังอย่าให้ขาดส่งนะครับ ...ขอเตือนด้วยความหวังดี ไฟแนนซ์มันตามซะอย่างกับเราไปฆ่าใครตายมาเลยนะนี่...



อุทาหรณ์! เต้ามหาภัย แตะนิดเดียวเสร็จทุกราย จากปากคนที่โดน คืนนั้นเกิดอะไรขึ้น?

ที่มา เดลินิวส์
แชร์ว่อนทั่วเมืองคอน ภาพ"4 สาว เต้ามหาภัย" ตระเวนหาเหยื่อ แสร้งหลงทางขอติดรถไปด้วย ก่อนชวนกันเข้าม่านรูด แถมคะยั้นคะยอให้สัมผัสหน้าอก ชี้ใครเผลอแตะวูบหมดสติไม่กี่วินาที รูดทรัพย์เกลี้ยง ผู้เสียหายเพียบทั้งหนุ่มกลัดมันยันชายวัยดึก เสร็จราบคาบ ตร.ภาค 8 รีบเก็บเข้าแฟ้มประวัติอาชญากรรม

เมื่อวันที่ 4 พ.ค. กลายเป็นที่พูดถึงไปทั่ว จ.นครศรีธรรมราช สำหรับภาพหญิงสาว 4 ราย ที่ถูกโพสต์แชร์ส่งต่อไปอย่างแพร่หลาย พร้อมข้อความว่า "หนุ่มกลัดมันระวังไว้ สาว ๆ เหล่านี้.....มหาภัย" ซึ่งระบุอ้างว่า หญิงสาวทั้ง 4 ราย ที่แยกกันหาเหยื่อ โดยเฉพาะหนุ่มกลัดมันตามสถานบันเทิง ห้างสรรพสินค้า โรงแรม รวมทั้งย่านที่มีผู้คนพลุกพล่าน จากนั้นก็จะติดต่อขายบริการทางเพศ แต่ปรากฏว่าพอมีชายหนุ่มซื้อบริการ และพากันเข้าไปในม่านรูด เพียงไม่กี่วินาทีที่ใช้ปากสัมผัสหน้าอก ก็จะมีอาการมึนงงและหมดสติไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นพอตื่นขึ้นมาหลังหลับไปหลายชั่วโมง ทรัพย์สินของมีค่าทั้งหมดก็อันตธานถูกขโมยหายไปแล้ว

โดยผู้เสียหายที่เป็นชายหลายรายได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับตำรวจ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช เพื่อให้ดำเนินคดีสาวมหาภัยเหล่านี้ ซึ่งทั้งหมดมีพฤติการณ์เดียวกันคือ ใช้ยาสลบชนิดรุนแรงป้ายไว้ที่หน้าอก ขณะเดียวกันยังมีผู้เสียหายอีกจำนวนหนึ่งที่ไม่กล้าเข้าแจ้งความเนื่องจากอับอายและเกรงจะมีผลกระทบต่อครอบครัว แต่ก็ได้รวมตัวกันโพสต์ภาพและข้อความเพื่อเตือนภัยนักท่องราตรีทั้งหลายแทน มูลค่าความเสียหายนับหลายแสนบาทแล้ว

นายจู้ (นามสมมุติ) หนุ่มใหญ่วัยคะนองที่เป็นหนึ่งในผู้เสียหาย เล่าว่า หญิงสาวเหล่านี้จะเข้ามาหลอกล่อคล้ายอ่อยเหยื่อให้หลงกล แสร้งอ้างว่าเพิ่งมาอยู่ที่ จ.นครศรีธรรมราช ไม่นาน ยังไม่คุ้นสถานที่ จากนั้นก็วอนขอให้ขับรถพาไปส่งที่นั่นที่นี่ สุดท้ายก็ชักชวนกันเข้าโรงแรมม่านรูด โดยสาวเจ้าจะพยายยามคะยั้นคะยอให้ใช้ปากสัมผัสหน้าอกตลอด หากใครเผลอทำตาม ไม่กี่วินาทีก็มีอาการเบลอ เวียนศีรษะ ก่อนจะวูบหมดสติไป ตื่นมาทรัพย์สินก็หายไปหมดแล้ว จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความ

ด้าน พ.ต.ท.อาคม จอนนุ้ย พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครศรีธรรมราช กล่าวว่า เหตุลักษณะนี้เกิดขึ้นในพื้นที่หลายครั้ง มีทั้งที่มาแจ้งความและไม่กล้าแจ้ง ถือเป็นภัยสังคมที่ผู้ชายทั่วไปควรระมัดระวัง เชื่อว่าเป็นยาสลบชนิดรุนแรงที่สั่งซื้อทางอินเตอร์เน็ต

ขณะที่ พ.ต.ท.คมสัน พฤษวานิช รอง ผกก.ป.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช กล่าวว่า ทางตำรวจ บช.ภ.8 ก็ได้ส่งภาพกลุ่มหญิงสาวเต้ามหาภัยไปทั่วพื้นที่ จ.นครศรีธรรมาช แล้วเพื่อให้ท้องที่เก็บไว้เป็นแฟ้มประวัติ ช่วยกันสอดส่องดูแล ก่อนที่จะมีใครตกเป็นเหยื่อเพิ่มเติมอีก.
ข้อมูลจาก:

ดูเพิ่มเติม ==> http://nisit.co/Wvxk
ใครที่ชอบนมจากเต้า....ระวังด้วยนะครับ.....ด้วยความหวังดี อิอิ โดยเฉพาะเต้าที่ไม่คุ้นเคย



ช็อก แฉอีกไอเอสสุดโฉด บังคับเด็กสาวเป็นทาสกาม


จับทำ"รีแพร์"ทุกคร้้ง เหมือนได้หญิงบริสุทธิ์!




สำนักข่าว"RT"รายงานว่า  เจ้าหน้าที่ของสหประชาชาติได้ออกมาแฉพฤติกรรมโฉดระลอกใหม่ของกลุ่มไอเอส โดยระบุว่า กลุ่มมีพฤติกรรมข่มขืนเด็กสาว  บังคับแต่งงาน และยังบังคับให้พวกเธอต้องทำรีแพร์อวัยวะเพศทุกครั้งที่ถูกจับแต่งงานใหม่  

รายงานระบุว่า นายไซนาบ บันกูร่า  ตัวแทนพิเศษของสหประชาชาติประจำกิจการด้านติดตามความขัดแย้งและความรุนแรง เปิดเผยกับสื่อว่า  มีหลักฐานใหม่ที่มาจากการสอบถามเหยื่อทาสกามของ  กลุ่มนักรบติดอาวุธกองกำลังก่อตั้งรัฐอิสลามแห่งซีเรียและอิรัก หรือไอเอส ได้ซื้อเด็กจากอิรักและซีเรีย  มาเป็นแรงงานทาส และบังคับให้พวกเธอแต่งงานกับสมาชิกกลุ่ม  

โดยพวกเธอจะถูกจับเปลือยและตรวจสอบทางเพศอย่างพิศดาร และพวกเธอยังถูกปฎิบัติไม่ต่างจากวัวควาย  พร้อมทั้งระบุว่า จากการสอบถามเหยื่อเด็กหญิงสาวรายหนึ่งบอกว่า เธอถูกบังคับให้แต่งงานกับสมาชิกกลุ่มถึง  21 ราย และแต่ละครั้ง เธอจะถูกจับให้ทำรีแพร์ หรือยกกระชับช่องคลอด  เพื่อให้กลุ่มเหมือนได้สาวบริสุทธิ์พรหมจรรย์ไปครอบครอง




โดยกลุ่มไอเอสได้สร้างรูปแบบความรุนแรงทางเพศใหม่  รวมทั้งรูปแบบความทารุณต่อผู้หญิง เพื่อให้กลายเป็นส่วนหนึ่งหลักปฎิบัติและอุดมการณ์ของกลุ่ม  และใช้สิ่งเหล่านี้เป็นกลยุทธ์ในการก่อการร้ายเพื่อรุกคืบต่อการบรรลุวัตถุประสงค์ทางยุทธศาสตร์สำคัญของกลุ่มและว่ากลุ่มได้ใช้ความโหดเหี้ยมและความรุนแรงต่อเหยื่อเด็กสาวในพื้นที่ความขัดแย้งที่กลุ่มสามารถยึดครองได้หรือตามสถานที่ต่าง ๆ เช่น จุดตรวจ จุดข้ามพรมแดน และค่ายกักกัน

นอกจากนี้ กลุ่มไอเอสยังดำเนินธุรกิจค้ามนุษย์ บังคับเด็กสาวค้าประเวณี และเรียกค่าไถ่ เพื่อหาเงินเข้ากระเป๋าด้วย  ขณะที่ความรุนแรงทางเพศที่กลุ่มไอเอสใช้ ถือเป็นกลยุทธ์ในการลงโทษ เหยียดหยาม  และย่ำยีความเป็นมนุษย์ของชาวบ้าน ทำให้เป็นเรื่องง่ายขึ้นที่กลุ่มจะได้ข้อมูลต่าง ๆ จากเหยื่อ  

นอกจากนี้ ยังมีรายงานด้วยว่า  มีแพทย์ที่ต้องคอยทำแท้งเถื่อนให้แก่เด็กสาวท้องจากสมาชิกกลุ่มไอเอสตั้งแต่อายุยังน้อย  รวมทั้งอายุเพียงแค่ 9 ปี ด้วย โดยเหยื่อเหล่านี้จำนวนมากเป็นชาวยาซิดิซในอิรัก  ซึ่งที่ผ่านมามีรายงานว่า ได้ถูกกลุ่มไอเอสลักพาตัวเป็นจำนวนกว่า 4 หมื่นคน รวมทั้งชนกลุ่มน้อยอื่น ๆ  เช่น ชาวคริสเตียน อิรัก ชาวเติร์ก และชาวชาบักส์  ขณะที่เหยื่อเหล่านี้ก็ต้องรู้สึกละอายใจและเจ็บปวดที่กลายเป็นผู้ถูกกระทำ  และไม่สามารถเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้ หลังจากถูกกลุ่มไอเอสข่มเหงอย่างเหยียดหยามและย่ำยี





http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1431149703
2โหรดัง! เตือนไทยดินไหวใหญ่ อ้างเขย่าทั่วปท.
ชี้ระวังถึง12กค. อุตุฯแจงอาจเกิด แค่ระดับกลางๆ







โหรดังพยากรณ์เตือนภัยแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในไทย "โสรัจจะ นวลอยู่" นอสตราดามุสเมืองไทย เตือนให้ระวังถึง 12 ก.ค. ชี้รุนแรงชนิดที่ไม่เคยมีมาก่อน ผลจากปรากฏการณ์ ดาวเสาร์ ดาวราหู และดาวมฤตยู โคจรตั้งมุมฉากกัน แถมยังมีดวงอาทิตย์เป็นตัวเร่ง ถือเป็นครั้งแรกตั้งแต่ก่อตั้งประเทศไทย คาดเกิดขึ้นพร้อมกันทั่วประเทศเริ่มจากทางเหนือก่อนไล่ลงไปใต้ นายกสมาคมโหรนานาชาติก็ระบุ เมื่อเกิดปรากฏการณ์ดังกล่าว มักตามมาด้วยเหตุแผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด หรืออุบัติภัยร้ายแรง ขณะที่รองอธิบดีกรมอุตุฯแจงรอยเลื่อนในไทยอาจจะทำให้เกิดแผ่นดินไหวที่ความรุนแรงปานกลางเท่านั้น



เมื่อวันที่ 9 พ.ค. นายโสรัจจะ นวลอยู่ โหรชื่อดัง เจ้าของฉายา "นอสตราดามุสเมืองไทย" กล่าวถึงกรณีการทำนายดวงเมืองประเทศไทยกับการเกิดแผ่นดินไหวว่า ในทางโหราศาสตร์มีสัญญาณที่ไม่เคยเกิดมาก่อนตั้งแต่ตั้งประเทศไทยมา คือปรากฏ การณ์ดาว 3 ดวง โคจรในมุมหักศอกกัน ประกอบด้วย ดาวเสาร์ ดาวราหู และดาวมฤตยู ขณะนี้ดาวเสาร์โคจรอยู่ในราศีพิจิก ดาวราหูโคจรอยู่ในราศีกันย์ และดาวมฤตยูกำลังจะโคจรเข้าอยู่ในราศีเมษในวันที่ 12 ก.ค.นี้ ทำให้เกิดเป็นมุม 3 เหลี่ยม



นายโสรัจจะกล่าวว่า ดาวทั้ง 3 ดวง ไม่เคยโคจรในลักษณะแบบนี้มาก่อน ถือเป็นมุมที่เกี่ยวข้องและส่งผลกระทบหลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องภัยพิบัติ นอกจากนี้ ยังมีดาวอาทิตย์อีกหนึ่งดวงที่เป็นตัวเร่ง ซึ่งจะทำมุมกับดาวราหูช่วงกลางเดือนนี้ คือวันที่ 16 พ.ค.นี้ ซึ่งเป็นมุมที่ไม่ค่อยดีนัก ทำให้มีโอกาสเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่มากชนิดที่ไม่เคยเกิดมาก่อน โดยเกิดขึ้นพร้อมๆ กันทุกภาคทั่วประเทศ โดยจุดศูนย์กลางอาจเกิดทางภาคเหนือ จากนั้นจะมีอาฟเตอร์ช็อกมาเรื่อยๆ ไล่ลงไปยังตอนล่างของประเทศ



"เหตุแผ่นดินไหวใหญ่ๆ ก่อนหน้านี้มักมีศูนย์กลางเกิดในต่างประเทศ ก่อนส่งผลกระทบต่อเราและประเทศอื่นๆ แต่แผ่นดินไหวครั้งนี้ อาจจะเกิดขึ้นในบ้านเราเอง ซึ่งผมก็ได้ทำนายเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้นปีแล้ว เหตุอาจจะเกิดตั้งแต่ช่วงนี้ไปจนถึงก่อนวันที่ 12 ก.ค. ดังนั้นประเทศไทยต้องระมัดระวัง อย่าประมาท หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องต้องให้ความรู้ประชาชนว่าจะมีวิธีป้องกันอย่างไร เพราะเราไม่เคยประสบและรับมือกับภัยพิบัติแบบนี้ ถ้าเกิดขึ้นอย่างรุนแรงก็คงสร้างความเสียหายหนักแน่นอน" นอสตราดามุสเมืองไทยกล่าว



ด้านนายภิญโญ พงศ์เจริญ นายกสมาคมโหรนานาชาติ กล่าวว่า เรื่องแผ่นดินไหวเป็นความรู้ในโหราศาสตร์ชะตาบ้านเมืองและโหราศาสตร์อุตุนิยม ซึ่งตามตำราแบ่งเป็น 2 หลักใหญ่ คือ 1.เมื่อเกิดอุปราคาครั้งสำคัญๆ ขึ้น และมีดวงดาวใหญ่ๆ ตั้งแต่ 3 ดวงขึ้นไป เข้ามาทำมุมสัมพันธ์กับแนวอุปราคามักตามมาด้วยเหตุการณ์แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด และอุบัติภัยครั้งสำคัญ



"2.แม้ไม่มีปรากฏการณ์อุปราคา แต่เมื่อดาวใหญ่ เช่น ดาวพฤหัสบดี ดาวเสาร์ หรือดาวมฤตยู เข้ามาทำมุมที่สำคัญก็จะเกิดอุบัติภัยในทำนองเดียวกันเช่นกัน ฉะนั้น จะเห็นว่าตอนนี้เป็นช่วงหลังการเกิดอุปราคามาได้ 1 เดือน และมีดาวบนท้องฟ้าโคจรสัมพันธ์กัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งราหูสถิตที่ราศีกันย์ซึ่งเป็นธาตุดิน ส่วนพระมฤตยูเล็งพระราหูอยู่ที่ราศีมีนซึ่งเป็นธาตุน้ำ อยู่ในนวางค์ขาด (แนวโคจรของดวงดาวอยู่ในตำแหน่งที่เป็นโทษ) โดยมีดาวพฤหัสบดีทำมุมตรีโกณอยู่ตรงราศีกรกฎ ซึ่งเป็นราศีธาตุน้ำ" นายกสมาคมโหรนานาชาติกล่าว



นายภิญโญกล่าวว่า นอกจากนี้ ดาวพฤหัสบดียังส่งกระแสไปถึงดาวพระเสาร์ ซึ่งเป็นประธานฝ่ายบาปเคราะห์ที่โคจรถอยหลังอยู่ตรงราศีพิจิก ดาวเสาร์ถูกดาวอังคารที่อยู่ตรงราศีพฤษภเล็งทำมุม 180 องศาสนิท เพราะฉะนั้นที่ดาวเหล่านี้ทำมุมสัมพันธ์กันดังกล่าว จะนำมาซึ่งอุบัติภัยธรรมชาติเกี่ยวกับน้ำ ธรณีพิบัติ รวมไปถึงไฟด้วย ส่วนความรุนแรงก็จะแรงแบบเห็นได้ชัดเจน แต่มั่นใจว่าไม่ถึงขนาดแผ่นดินทางภาคใต้หรือแหลมมลายูจะหายไป อย่างที่เป็นข่าว แต่ความเสียหายที่จะเกิดขึ้นเป็นที่น่าวิตก เพราะดาวทำมุมค่อนข้างแรง การทำนายทางโหราศาสตร์ที่ว่ามานี้ เป็นเครื่องมือเตือนภัยให้ช่วยกันเตรียมการป้องกัน และรับมือเพื่อบรรเทาความเสียหาย



วันเดียวกันนายบุรินทร์ เวชบรรเทิง รองอธิบดีฝ่ายปฏิบัติการ กรมอุตุนิยมวิทยา กล่าวว่า ธรรมชาติของแผ่นดินไหวเกิดจากแหล่งกำเนิดภายใน แหล่งแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ในโลกมักเกิดในแนวปะทะของแผ่นเปลือกโลก ซึ่งในส่วนของประเทศไทยเรา จุดที่ใกล้ที่สุดคือฝั่งอันดามัน หากเกิดการปะทะที่ใหญ่มากก็อาจส่งแรงสั่นสะเทือนจนรู้สึกได้ แต่ที่นักวิชาการพูดว่าจะเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในประเทศไทยนั้น ตามข้อมูลไทยมีรอยเลื่อนมีพลัง 14 กลุ่ม และแต่ละกลุ่มก็มีแขนงของมันเอง ซึ่งรอยเลื่อนประมาณร้อยละ 80-90 มีโอกาสทำให้เกิดแผ่นดินไหวความรุนแรงระดับกลางๆ



นายบุรินทร์กล่าวอีกว่า รอยเลื่อนเหล่านี้เคยเกิดแผ่นดินไหวมาแล้วแต่มีขนาดต่ำกว่า 6.5 แม็กนิจูด แต่การเฝ้าระวังแผ่นดินไหวอิงตามประวัติการเกิดอย่างเดียวไม่ได้ ต้องพิจารณาคุณลักษณะของรอยเลื่อนแขนงต่างๆ ด้วย ซึ่งนักธรณีวิทยาใช้วิธีการขุดลอกสำรวจ แต่ที่ผ่านมาเราสำรวจไปได้แค่บางแขนงเท่านั้น จึงไม่สามารถระบุได้ว่ารอยเลื่อนใดมีความเสี่ยงบ้าง แต่มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดแผ่นดินไหวขนาดต่ำกว่า 7 แม็กนิจูด ความรุนแรงขึ้นอยู่กับพื้นที่ ทั้งนี้ตัวเลขดังกล่าวเป็นเพียงการประมาณค่าเท่านั้น



สำหรับแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ที่คนกำลังกังวลอยู่ตอนนี้ ซึ่งมีการอ้างอิงข้อมูลการเคลื่อนแผ่นเปลือกโลกในสเกลระดับโลก ยอมรับว่าเรายังมีความรู้ไม่มากพอ แต่นักธรณีวิทยาก็ทำงานอยู่ ยืนยันว่าหากมีการเกิดจริงจะไม่กระทบถึงประเทศไทยเนื่องจากระยะทางไกลมาก ส่วนในประเทศไทยแผ่นดินไหวเกิดด้วยแหล่งกำเนิดภายใน บริเวณรอยเลื่อนมีพลังทางภาคเหนือซึ่งมีมากถึง 7-8 รอยเลื่อน



"ระบบการป้องกันภัยแผ่นดินไหวต่างจากภัยรูปแบบอื่น อาจหลีกเลี่ยงได้ เช่น ถ้ารู้ว่ามีความเสี่ยงอยู่ใกล้รอยเลื่อนมีพลังก็อาจไปตั้งบ้านเรือนที่อื่น หรือสร้างอาคารให้เหมาะสมรับความเสี่ยง แผ่นดินไหวเกิดจากการขยับตัวเปลือกโลก บางครั้งมีปัจจัยบางอย่างวัดได้ เช่น การเคลื่อนตัวผิดปกติ ความเครียดสะสมมากขึ้น การปล่อยคลื่นกระแสวิทยุ ระดับน้ำใต้ดินเปลี่ยนแปลง หรือการปล่อยแก๊สเรดอน ส่วนการพยากรณ์แผ่นดินไหวนั้นทำได้ แต่ไม่แน่นอน มีความเม่นยำไม่เกิน 20 เปอร์เซ็นต์ อย่างไรก็ตาม การพยากรณ์แผ่นดินไหวถูก 1 ครั้ง สามารถช่วยชีวิตคนได้มาก บางประเทศจึงมีการศึกษาวิจัยจนเกิดระบบและเครื่องมือป้องกันที่ดี" รองอธิบดีกรมอุตุฯ กล่าว




http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1431222773










กรองกระแส/มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 8-14 พฤษภาคม  2558)

พลานุภาพ การเมือง ของ ชวลิต ยงใจยุทธ


ในวัย 83 พลานุภาพ ความคิด



ฐานการทหาร
ฐานการเมือง


ทําไมทุกครั้งที่มีการขยับขับเคลื่อนจาก พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ  จึงก่อให้เกิดผลสะเทือนในเชิงปฏิกิริยาสะท้อนตามมาเหมือนกับระลอกคลื่นในมหาสาคร




อาจเป็นเพราะ 1 นามของคน เงาแห่งไม้

ขณะเดียวกัน  อาจเป็นเพราะ 1 เพราะสถานภาพแต่กาลอดีตของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ แสดงให้เห็น "เครือข่าย"  อันเป็นความสัมพันธ์ค่อนข้างสลับซับซ้อน

ทั้งความสัมพันธ์ทาง "ทหาร"  ทั้งความสัมพันธ์ทาง "การเมือง"


"คอนเน็กชั่น" หรือที่เรียกว่า "เครือข่าย"  แห่งความสัมพันธ์ต่างหากที่ทำให้แม้วัยจะเหยียบเข้าสู่เลข 83  แล้วก็ยังน่าเกรงขาม

มิอาจสบประมาท  มิอาจมองข้ามได้


จากเครือข่ายทางด้าน "การทหาร" ทำให้รากฐานของ  พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ หนักแน่นดุจแผ่นผา ไม่เพียงในฐานะ "ลูกป๋า" ทำงานสนองให้กับ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์  ตั้งแต่ยังเป็น ผบ.ทบ. กระทั่งสไลด์เข้าดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีในเดือนเมษายน  2523

หากยิ่งกว่านั้นตัว พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ยังเดินตามรอย "ป๋า" ทั้งในฐานะ ผบ.ทบ.  และ ผบ.ทหารสูงสุด และที่สุดก็ "นายกรัฐมนตรี" ในเดือนพฤศจิกายน 2539

นี่ย่อมเป็น  "รากฐาน" อันมากด้วยความมั่นคงและ  "แข็งแกร่ง"


อย่าดูหมิ่น "ป๋า"
อย่าดูหมิ่น  "ลูกจิ๋ว"


คล้ายกับการทะยานเข้ามาของ คสช.  และของรัฐบาลปัจจุบันไม่มีอะไรยึดโยงอยู่กับอำนาจและบารมีของ พล.อ.เปรม  ติณสูลานนท์

เพราะล้วนเป็น  "บูรพาพยัคฆ์"

เติบใหญ่ในพื้นที่กองทัพภาคที่ 1 เป็นเหล่าทหารราบ  มิได้เติบใหญ่ในกองทัพภาคที่ 2 และมิได้เป็นเหล่าทหารม้า

ทั้งยังองอาจ  สง่างามภายใต้ร่มธงแห่ง "ทหารเสือราชินี"

แต่อย่าลืมเป็นอันขาดว่า การเคลื่อนไหวของ  กปปส. ผ่านกระบวนการ "ชัตดาวน์" กทม. ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2556 รากฐานสำคัญมาจากพรรคประชาธิปัตย์  รากฐานอันแน่นหนามาจากพื้นที่ภาคใต้

นี่คือปัจจัยในการ "ปูทาง" และสร้าง "เงื่อนไข"  ทางการเมือง

ยิ่งกว่านั้น เมื่อมีการสถาปนา "แม่น้ำ 5 สาย" ขึ้น ไม่ว่าแม่น้ำสายที่ 1  คสช. แม่น้ำสายที่ 2 รัฐบาล แม่น้ำสายที่ 3 สนช. แม่น้ำสายที่ 4 สปช. แม่น้ำสายที่ 5  กรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ก็มีเครือข่าย "ลูกป๋า"  เข้าไปมีบทบาทร่วมด้วย

หากไม่มีบทบาท ไฉนสัมปทานปิโตรเลียมรอบที่ 21  จึงยังค้างเติ่งอยู่เล่า

หากไม่มีบทบาท  ไฉนทุกคราที่มีวาระสำคัญก็จำเป็นต้องมีการตบเท้าเข้าไปแสดงความคารวะอย่างเป็นประจำ

อย่าลืมว่า "ลูกจิ๋ว" ก็เป็น "ลูกป๋า"  อย่างยาวนานยิ่งกว่าใครไหนอื่น


รากฐานการทหาร
ฝอ.3  ฝ่ายยุทธการ


พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เติบใหญ่ในฐานะนายทหาร "ปฏิบัติการพิเศษ"  ทำงานด้านการข่าว ทำงานด้านยุทธการ แม้จะสังกัดเหล่า "ทหารสื่อสาร"

สมญานามแห่ง  "ขงเบ้ง" แห่งกองทัพบก มิใช่จับสลากได้

งานด้านหลักของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ  คือการต่อสู้กับคอมมิวนิสต์ ไม่ว่าในต่างแดน ไม่ว่าระหว่างชายแดน  ไม่ว่าในเขตแทรกซึม

ผลึกแห่งความคิด 1 คือ การเสนอให้จัดตั้ง  "ทหารพราน"

ผลึกแห่งความคิด 1 ซึ่งสำคัญเป็นอย่างมากก็คือ หลักการ "การเมืองนำการทหาร"  อันปรากฏผ่านคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 66/2523

นำไปสู่การวางอาวุธ นำไปสู่การยุติ  "สงครามกลางเมือง"

ตรงนี้เองจึงทะยานจาก นายทหารคนสนิทรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม  พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ไปสู่ตำแหน่งเจ้ากรมยุทธการทหารบก ผู้ช่วยเสนาธิการทหารบก รองเสนาธิการทหารบก  เสนาธิการทหารบก ผู้บัญชาการทหารบก  ผู้บัญชาการทหารสูงสุด

จากนั้นอำลากองทัพเข้าดำรงตำแหน่งทางการเมืองทั้ง  รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

ในที่สุดก็  "นายกรัฐมนตรี"

เป็นนายกรัฐมนตรีภายหลังการเลือกตั้งเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2539  ในฐานะหัวหน้าพรรคความหวังใหม่ซึ่งได้ชัยชนะจากการเลือกตั้งของประชาชน

วัย 83  อันสุกงอม
ดินระเบิด ลูกจิ๋ว


เหตุปัจจัยอันใดทำให้อดีตนายกรัฐมนตรี  อดีตผู้บัญชาการทหารบก อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด ต้องออกมาเดินสายทั้งๆ ที่มีอายุย่างเข้าปีที่  83

เดินสายไปร่วมงานบุญกับผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย

เดินสายไปพบปะรับเรื่องราวร้องทุกข์จากเกษตรกรชาวนาผู้ประสบปัญหาในอาชีพในการดำรงชีวิต

รับรู้ความขัดแย้งทางความคิด รับรู้การแตกแยกในทางการเมือง

คำตอบจาก พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เด่นชัดและตรงไปตรงมาว่า  เพราะห่วงใยและเห็นใจในชะตากรรมของชาวบ้าน

ไม่ว่าจะเรียกว่า "ราษฎร"  ไม่ว่าจะเรียกว่า "พลเมือง"




http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1431077844
แห่ส่องถนนยกตัว บางคนก้มดูเห็นหัวพญานาค
                                                               
ชาวบ้าน 2 หมู่บ้านของสุรินทร์ทำพิธีบวงสรวง หลังถนนคอนกรีตยกตัวสูงจนเกิดโพรง ก้มดูบางคนบอกเห็นพญานาค

                                                                                                                       

                                                นำเสนอข่าวโดยทีมงาน Sanook.com

                                                                ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (14 พ.ค.) เมื่อเวลา 09.00 น. ที่บริเวณถนนคอนกรีต ระหว่างบ้านนาเกากับบ้านบึง ต.แกใหญ่ อ.เมือง จ.สุรินทร์ ชาวบ้าน 2 หมู่บ้าน ได้ประกอบพิธีเซ่นไหว้เจ้าที่ หลังจากชาวบ้านพบว่าช่วงปลายของถนนคอนกรีต มีการยกตัวสูงขึ้นจากพื้นดินประมาณ 10 นิ้ว โค้งนูนขึ้นคล้ายหลังเต่าจนเกิดเป็นโพรงด้านล่าง มีรอยแตกตามผิวคอนกรีต โดยชาวบ้านที่ทราบข่าวต่างเดินทางมาดู โดยนำดอกไม้ธูปเทียน มาเซ่นไหว้ตามความเชื่อ
ขณะที่ชาวบ้านต่างพากันก้มดูว่ามีอะไรอยู่ใต้ถนนบ้าง บางคนก็บอกว่าเห็นเป็นหัวพญานาค บางคนก็บอกว่าเห็นเป็นพระพุทธรูป โดยถนนดังกล่าวอยู่ห่างจากป่าช้าวัดประมาณ 300 เมตร และเคยมีการขุดพบสิ่งของสมัยโบราณเป็นประจำ บางคนบอกว่าอาจมีการหมักหมมของแก๊สเกิดขึ้น
โดยจากการใช้กล้องบันทึกภาพภายในโพรงถนนคอนกรีตที่ยกตัวสูงขึ้น ไม่พบสิ่งใดอยู่ใต้โพรงคอนกรีต แต่มีลักษณะเป็นควันคล้ายมีความร้อนสะสม พื้นดินปกติ ไม่มีการทรุดตัว แต่พื้นคอนกรีตยกตัวดันสูงขึ้น
ด้าน นายวัลลภ เรืองพรเจริญ นายอำเภอเมืองสุรินทร์ บอกกับชาวบ้านว่า การประกอบพิธีบวงสรวงเจ้าที่ในวันนี้ ทำขึ้นเพื่อความสบายใจของชาวบ้าน ให้ทุกคนเชื่อในสิ่งมีเหตุผล อย่าวิตกกังวล กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ให้ใช้สติปัญญาพิจารณา
อย่างไรก็ตาม ถนนสายนี้อยู่ในความรับผิดชอบขององค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งจะประสานให้ อบจ.สุรินทร์ เข้ามาตรวจสอบหาสาเหตุการยกตัวสูงขึ้นของถนนคอนกรีตสายนี้ เพื่อความสบายใจของชาวบ้านในบริเวณนี้ต่อไป

                                                        
                                                                                                            
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้