ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

มาติดตามข่าวสารต่างๆที่น่าสนใจกันครับ

[คัดลอกลิงก์]
เก่งมากสำหรับแฝดคู่นี้ สู้ชีวิต ทำใจและยอมรับมัน เป็นผมก็ไม่รู้จะทำได้ไหม
ไฟไหม้โรงงานยาง นิคมเหมราช บริษัทหลิงหลง ระยอง                                                                                                                   
                            ที่มา : http://hilight.kapook.com/view/115148
                                                            ภาพล่าสุด ไฟไหม้โรงงานยาง นิคมเหมราช บริษัทหลิงหลง ระยอง
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ทวิตเตอร์  @MorningNewsTV3

ไฟไหม้โรงงานยางระยองยังคุกรุ่น-ฉีดน้ำเลี้ยงป้องลุกลาม (ไอเอ็นเอ็น)

                 SkyReport เผยภาพล่าสุด ไฟไหม้โรงงานยางรถยนต์ บริษัทหลิงหลง นิคมเหมราช จ.ระยอง ไฟยังคุกรุ่น เจ้าหน้าที่ยังฉีดน้ำหล่อเลี้ยงป้องกันลุกลาม ขณะที่ กรมควบคุมมลพิษ เตรียมเข้าตรวจสอบสภาพอากาศ

                 วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2558 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าเหตุเพลิงไหม้โรงงานยางรถยนต์ของบริษัท หลิงหลง ภายในนิคมอุตสาหกรรมเหมราชอีสเทิร์นซีบอร์ด จ.ระยอง โดย นายพรชัย ถมกระจ่าง นายอำเภอศรีราชา ได้เดินทางเข้าอำนวยการดับเพลิง พร้อมฟังบรรยายสรุปสถานการณ์จากตัวแทนโรงงาน ทั้งนี้สาเหตุเพลิงไหม้คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร มีคนงานภายในโรงงานเห็นประกายไฟปะทุขึ้นที่สายไฟเมนหลักของโรงงานก่อนที่เปลวไฟจะหล่นใส่แท่นตั้งยางรถยนต์จนเกิดเพลิงลุกไหม้ลามถึงกองยางรถยนต์ในโรงงาน ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี

                 และจากการนับยอดจำนวนคนงานล่าสุด พบว่ายังอยู่กันครบไม่พบผู้เสียชีวิตตามที่มีข่าวออกมาก่อนหน้านี้ว่ามีผู้เสียชีวิต 4 ราย โดยมีเพียงผู้บาดเจ็บจากการสำลักควันเท่านั้น และขณะนี้สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ในวงจำกัดแล้ว หลังจากเผาผลาญอาคารภายในโรงงานเสียหาย 6 หลัง

                 โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา SkyReport ของช่อง 3 ได้ทำการบินสำรวจพร้อมเผยภาพล่าสุดบริเวณจุดเกิดเหตุพบว่า ไฟยังคุกรุ่น เจ้าหน้าที่ยังฉีดน้ำหล่อเลี้ยงป้องกันลุกลาม ขณะที่ กรมควบคุมมลพิษ เตรียมเข้าตรวจสอบสภาพอากาศ                                                                        
                                                            

ไหม้หมดเลยมังครับนั่น
ไหม้ทั้งหลังเลย
ดาบตำรวจ สภ.เมืองสระแก้ว แค้นเมียมีชู้จ่อยิงดับ


2014/12/22 10:52 PM


http://www.tnamcot.com/2014/12/2 ... %E0%B9%89%E0%B8%A7/


สระแก้ว 22 ธ.ค.-ดาบตำรวจ ผบ.หมู่งานสืบสวน สภ.เมืองสระแก้ว แค้นเมียมีชู้ใช้ปืนจ่อยิงหน้าผาก 1นัด หน้าอก 1 นัด เสียชีวิตก่อนหลบหนี จนท.เร่งไล่ล่า และประสานจนมอบตัว

เมื่อเวลา 05.30 น.วันที่ 22 ธ.ค.57 ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองสระแก้ว จ.สระแก้ว ได้รับแจ้งเหตุยิงกันบริเวณหน้าร้านอาหารปากซอยเทศบาล 20 เขตเทศบาลเมืองสระแก้ว จ.สระแก้ว จึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุข้างตู้โทรศัพท์สาธารณะ พบร่างของนางสาวอรพรรณ  ศรีสุทโธ หรือ อร อายุ 25 ปี นอนจมกองเลือดหายใจรวยริน พบบริเวณหน้าผากและหน้าอก มีรอยถูกกระสุนปืนยิงเข้าจุดละ 1 นัด หน่วยกู้ภัยสระแก้ว จึงได้รีบนำส่งโรงพยาบาล และเสียชีวิตในเวลาต่อมา

จากการสอบถามทราบว่ามือปืนที่ยิงนางสาวอรพรรณจนเสียชีวิต คือ ด.ต.ทะนงศักดิ์  สะท้านสัตย์  หรือดาบบัง อายุ 48 ปี ผบ.หมู่งานสืบสวน สภ.เมืองสระแก้ว เป็นสามีของนางสาวอรพรรณ ซึ่งหลังก่อเหตุ ด.ต.ทนงศักดิ์ อุ้มลูกวัย 2 ขวบ หลบหนีไป

จากการสอบสวนเจ้าของร้านอาหารบริเวณดังกล่าวทราบว่าเมื่อเวลาประมาณ 05.30 น. ได้ยินเสียงผู้ชายและผู้หญิงทะเลาะกันเสียงดังบริเวณข้างตู้โทรศัพท์สาธารณะหน้าร้าน ต่อมาได้ยิงเสียงปืนดังขึ้น 2 นัด เมื่อวิ่งออกมาดูเห็น ด.ต.ทนงศักดิ์ ซึ่งแต่งเครื่องแบบครึ่งท่อนสวมเสื้อแจ็คเก็ตสีดำ อุ้มลูกวัย 2 ขวบ วิ่งไปขึ้นรถยนต์กระบะขับหนีไปอย่างรวดเร็ว ขณะที่พบนางสาวอรพรรณ ภรรยาของ ด.ต.ทนงศักดิ์ ถูกยิงนอนจมกองเลือด

จนท.ระดมกำลังกันออกติดตามจับกุม ด.ต.ทนงศักดิ์ แต่ยังไร้ร่องรอย จนกระทั่งเวลาประมาณ 11.00 น. ด.ต.ทนงศักดิ์ ติดต่อ พ.ต.อ.วุฒิชัย  คำพุฒิ ผกก.สภ.เมืองสระแก้ว ขอเข้ามอบตัว

จากการสอบถาม ทราบว่าสาเหตุที่ทำให้ ด.ต.ทนงศักดิ์ คิดสั้นตัดสินใจยิงภรรยา เนื่องจากทราบว่านางสาวอรพรรณ ภรรยา ซึ่งมีลูกด้วยกัน 1 คน อายุ 2 ปี แอบไปคบกับชายอื่นและชอบหนีออกไปเที่ยวบ่อยครั้ง จนกระทั่งล่าสุดเกิดทะเลาะกันอีก และด้วยความหึงหวง ด.ต.ทนงศักดิ์ จึงใช้ปืนพกประจำตัวขนาด .38 ยิงนางสาวอรพรรณ ภรรยา 2 นัดซ้อน โดยยิงเข้าที่หน้าผาก 1 นัดและ หน้าอก 1 นัด .-สำนักข่าวไทย


Tagged: ด.ต.แค้นเมียมีชู้, สภ.เมืองสระแก้ว



ที่มา..http://www.tnamcot.com
สุดเพี้ยน! หนุ่มจีนตัดมือตัวเอง แก้อาการเสพติดเกม
                                                                                                                   
                            ที่มา : http://www.springnews.co.th/global/184689
                                                            
           สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า หนุ่มจีนวัย 19 ปีจากเมืองหนานทง ในมณฑลเจียงซู สาธารณรัฐประชาชนจีน เข้ารักษาตัวในห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาล หลังได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการใช้มีดตัดข้อมือของตัวเอง

หนุ่มเพี้ยนรายนี้เผยสาเหตุของการกระทำดังกล่าวว่า เขาต้องการแก้อาการเสพติดเกมและอินเตอร์เน็ตของตัวเอง จึงตัดสินใจใช้มีดทำครัวในบ้านของตน เฉือนข้อมือตัวเองหลายครั้งขณะนั่งอยู่ที่เก้าอี้ในสวนสาธารณะ ก่อนจะทนการบาดเจ็บไม่ไหวและเรียกรถแท็กซี่ให้ไปส่งที่โรงพยาบาลของมหาวิทยาลัยซึ่งอยู่บริเวณใกล้ๆ

นับเป็นโชคดีของหนุ่มจีนรายนี้ ที่ศัลยแพทย์สามารถต่อเส้นเลือดและเส้นเอ็นข้อมือให้เขาได้สำเร็จ แต่ไม่ยืนยันว่าเขาจะสามารถใช้งานหรือเคลื่อนไหวมือได้เหมือนปกติหรือไม่

ทั้งนี้ จากข้อมูลสถิติพบว่า ชาวจีนมากกว่า 24 ล้านคนมีอาการเสพติดการใช้อินเตอร์เน็ต และร้อยละ 14 ของวัยรุ่นจีนมีอาการเสพติดโลกออนไลน์ ซึ่งผู้ที่มีอาการรุนแรงจะไม่สนใจทำอะไรเลย นอกจากนอนและเล่นอินเตอร์เน็ต ทำให้จีนถึงกับต้องตั้งศูนย์บำบัดอาการเสพติดอินเตอร์เน็ตขึ้นที่กรุงปักกิ่งเลยทีเดียว                                                                        
                                                            

พระอาวุโสมองโกเลีย ยันพระมัมมี่ยังไม่มรณภาพ แค่เข้าฌานลึก                           

                                                                                       
                            ที่มา : http://hilight.kapook.com/view/115381
                                                            พระอาวุโสมองโกเลีย ยันพระมัมมี่ยังไม่มรณภาพ แค่เข้าฌานลึก

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก knowledgeincreaser.blogspot.com

            พระอาวุโสมองโกเลีย ยันพระที่ถูกพบในสภาพมัมมี่ยังไม่มรณภาพ แค่เข้าฌานลึก ขณะที่คาดว่าพระรูปดังกล่าวอาจเป็นพระอาจารย์ของ องค์ลามะดาชิ ดอร์โซ อิทิกิลอฟ แห่งอดีตสหภาพโซเวียต

            วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2558 สำนักข่าวบีบีซี มีรายงานว่า พระอาวุโสหลายรูปในประเทศมองโกเลีย ระบุว่าพระรูปหนึ่งที่ถูกพบในสภาพมัมมี่ โดยมีหนังวัวพันรอบกายเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น ยังไม่มรณภาพ หากแต่อยู่ในสมาธิจิตที่ดิ่งลึก ขณะที่ร่างของพระรูปดังกล่าวกำลังอยู่ระหว่างการชันสูตร

            ขณะที่นักวิทยาศาสตร์ยังไม่ชี้ชัดว่าเหตุใดร่างของพระรูปนี้จึงถูกรักษาไว้อย่างดี แต่หลายคนเชื่อว่าอาจเป็นเพราะสภาพอากาศหนาวเหน็บในแถบภาคกลางค่อนไปทางเหนือของมองโกเลีย ทำให้ร่างดังกล่าวยังคงอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์

            อย่างไรก็ตาม ดร.บาร์รีย์ เคอร์ซิน แพทย์ขององค์ดาไล ลามะ ได้แสดงความคิดเห็นว่า พระรูปนี้อยู่ในสภาวะการเข้าสมาธิในระดับที่ยากจะพบเจอ ซึ่งเรียกว่า "ทัคดัม" และหากผู้เข้าสมาธิสามารถเพ่งจิตอยู่ในสมาธิขั้นนี้ได้ต่อไป เขาก็จะเข้าถึงสภาวะแห่งพุทธ

            รายงานชี้ว่า พระรูปนี้ถูกค้นพบหลังจากมีคนขโมยร่างเพื่อนำไปขายในตลาดมืด แต่ตำรวจมองโกเลียสามารถจับกุมผู้กระทำผิดไว้ได้ ก่อนส่งร่างของพระรูปนี้ไปเก็บรักษาไว้ที่ศูนย์นิติเวชแห่งชาติ โดยที่ขณะนี้ยังไม่เป็นที่ทราบชัดว่าแท้จริงแล้วพระรูปนี้เป็นใคร แต่คาดกันว่าน่าจะเป็นพระอาจารย์ขององค์ลามะดาชิ ดอร์โซ อิทิกิลอฟ ซึ่งถูกพบอยู่ในสภาพมัมมี่เช่นกัน

            โดยเมื่อปี 2470 ลามะอิทิกิลอฟ แห่งเบอร์ยาเทีย ในอดีตสหภาพโซเวียต ได้แจ้งแก่ศิษยานุศิษย์ว่าจะละสังขารและให้ขุดร่างขึ้นมาในอีก 30 ปีข้างหน้า จากนั้นเขาได้เริ่มนั่งสมาธิก่อนจะสังขารไป จนเมื่อมีการขุดร่างขึ้นมาในภายหลังก็ปรากฏว่าร่างของลามะองค์นี้ยังคงอยู่ในสภาพดี แต่ด้วยหวาดกลัวทางการโซเวียตทำให้ศิษยานุศิษย์ตัดสินใจนำร่างขององค์ลามะกลับไปฝังอีกครั้ง กระทั่งถึงปี 2545 จึงขุดขึ้นมาเพื่อเฉลิมฉลอง และพบว่าร่างยังอยู่ในสภาพดี จากนั้นจึงนำไปประดิษฐานที่วัดเพื่อให้เคารพบูชาต่อไป                                                                        
                                                            

ขอบคุณครับ
kit007 ตอบกลับเมื่อ 2015-2-5 18:55
พระอาวุโสมองโกเลีย ยันพระมัมมี่ยังไม่มรณภาพ แค่เข้า ...

มัมมี่นี่ ถ้ายังไม่ตายจริงนี่ แสดงให้เห็นถึงความสุดยอดของสมาธิเลย แต่ผมว่าไม่เหลือแล้วหล่ะครับ
                                                                                                                                                                                                  เงื่อนไขการคว้าแชมป์ “คิงส์คัพ” ของแต่ละทีม!
                                                                                                                  
                            ที่มา : http://sport.sanook.com/130905/

                 ถึงคราวที่ต้องใช้วลี "ยืมจมูกคนอื่นหายใจ" คงยังไม่พอ เพราะต้อง "ทำวันนี้ให้ดีที่สุด" ด้วยสำหรับ "ทัพช้างศึก" หากหวังจะคว้าแชมป์ คิงส์คัพ ครั้งที่ 43 นี้

เพราะล่าสุด หลังจากที่ ทีมชาติไทย พ่ายเละต่อ ทีมชาติอุซเบกิสถาน 2-5 ไปเมื่อช่วงหัวค่ำวานนี้ ทำให้สถานการณ์ "ลุ้นแชมป์" ประตูไม่เปิดกว้างสำหรับเราเท่าไรนัก

"โสมขาว" เกาหลีใต้ ถือไพ่ได้เปรียบ ดูดีมีภาษีกว่าใครเพื่อนในตอนนี้ เมื่อนำเป็นจ่าฝูง 6 คะแนน นัดสุดท้ายกับทีมชาติไทย "แค่ไม่แพ้" พวกเขาก็จะเป็นแชมป์ทันที

ส่วน อุซเบกิสถาน อยู่ในสถานการณ์ที่เป็นรองลงมา เนื่องจากนัดสุดท้ายพวกเขาต้องชนะ ฮอนดูรัส แล้ว ก็ต้อง "ยืมจมูกช้างศึกหายใจ" ลุ้นให้ไทยเราเอาชนะเกาหลีใต้ให้ได้สถานเดียว และต้องชนะแบบยิงไม่เยอะด้วยนะ
ด้าน "ช้างศึก" ทีมชาติไทย เสียเปรียบกว่าใครเพื่อน เมื่อต้องเอาชนะเกาหลีใต้ให้ได้อย่างน้อย 2 ประตู และ "ยืมจมูกฮอนดูรัสหายใจ" ด้วยหวังให้ขุนพลจากทะเลแคริบเบียนไม่แพ้อุซเบกิสถานนั่นเอง

และสุดท้าย ฮอนดูรัส แม้โอกาสจะได้แชมป์ครั้งนี้จะเท่ากับศูนย์ไปแล้ว แต่พวกเขายังถือเป็นส่วนสำคัญ กำหนดชะตาชีวิตตำแหน่งแชมป์ของทีมอื่นได้ โดยเฉพาะ อุซเบกิสถาน และ ทีมชาติไทย

อย่างไรก็ดี วันที่ 7 ก.พ. 2558 นี้ ทัพนักเตะทีมชาติไทยยังถือว่ามีโอกาสดีไม่น้อย เมื่อโปรแกรมที่วางไว้ จะลงสนามเตะเป็นคู่ที่สอง ตอน 19.00 น. ซึ่งนั่นหมายความว่า เราทราบผลคู่แรกที่ลงแข่งไปก่อนตอน 16.00 น. แล้วนั่นเอง

เงื่อนไขการคว้าแชมป์ "คิงส์คัพ" ครั้งที่ 43 ของแต่ละทีม

"ไทย" จะได้แชมป์ ก็ต่อเมื่อ - ต้องชนะ เกาหลีใต้ ไม่น้อยกว่า 2 ประตูขึ้นไป และ อุซเบกิสถาน ไม่ชนะ ฮอนดูรัส

"เกาหลีใต้" จะได้แชมป์ ก็ต่อเมื่อ - ได้เปรียบมากกว่าเพื่อน เพราะมีถึงสองเงื่อนไข เงื่อนไขแรกคือ ชนะหรือเสมอ ทีมชาติไทย ก็พอ และ เงื่อนไขที่สองคือ แพ้ ไทย ไม่เกิน 1 ประตู แต่ อุซเบกิสถาน ไม่ชนะ ฮอนดูรัส

"อุซเบกิสถาน" จะได้แชมป์ ก็ต่อเมื่อ - ต้องชนะ ฮอนดูรัส ให้ได้ก่อนสถานเดียว และลุ้นให้ ไทย ต้องชนะ เกาหลีใต้ เท่านั้นเช่นกัน ซึ่งถ้าเป็นกรณีนี้ ต้องมานับลูกได้เสียว่าใครดีกว่า ถ้าบวก-ลบผลต่างยังเท่ากัน ทีมที่ยิงประตูได้มากกว่าจะได้แชมป์ไปครอง

"ฮอนดูรัส" ไม่มีโอกาสได้แชมป์แล้ว                                                                        
                                                            

ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้