ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

มาติดตามข่าวสารต่างๆที่น่าสนใจกันครับ

[คัดลอกลิงก์]
                            ชาวบ้านตกใจ! นกกระจอกเทศโผล่วิ่งถนนย่านบางพลี                                                                                                                   
                            ที่มา : sanook.com
                                                            (29 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คลิปวิดีโอภาพเหตุการณ์บนถนนเทพารักษ์ ย่านบางพลี กำลังได้รับความสนใจจากผู้คนทั่วโลกออนไลน์ เมื่อพบนกกระจอดเทศตัวใหญ่ตัวหนึ่งกำลังวิ่งอยู่บนถนน 6 เลน สร้างความประหลาดใจแก่ผู้ที่สัญจรไปมา

คลิปภาพเหตุการณ์ดังกล่าวถูกโพสต์โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ "Sukchi Kas" คลิปสั้นๆ ความยาวประมาณ 20 วินาที ชื่อคลิปว่า "ขับรถไปดูงานเจอแบบนี้งงเลย แถวบางพลี" แสดงให้เห็นภาพนกกระจอกเทศตัวใหญ่ตัวหนึ่ง กำลังวิ่งอยู่กลางถนนเทพารักษ์ ใกล้กับห้างสรรพสินค้าบิ๊กซีบางพลี ควบคู่ไปกับจักรยานยนต์รับจ้างคันหนึ่ง ก่อนจะวิ่งแฉลบชิดซ้ายเพื่อหลีกทางและเปิดช่องจราจรให้คนคันอื่น ท่ามกลางความประหลาดใจแก่ผู้ที่พบเห็น

อย่างไรก็ตาม คลิปวิดีโอดังกล่าวไม่ได้บอกรายละเอียดชัดเจนเกี่ยวกับที่ไปที่มาของเจ้านกกระจอกเทศตัวดังกล่าว กลุ่มผู้ใช้อินเตอร์เน็ตส่วนใหญ่สงสัยว่า นกกระจอกเทศตัวนี้ออกมาวิ่งอยู่บนถนนใหญ่ได้เช่นไร แต่คาดว่านกกระจอกเทศน่าจะมีเจ้าของ แต่ก็แนะนำว่าไม่ควรนำมาวิ่งบนถนนใหญ่เพราะอาจจะทำให้เกิดอันตรายแก่สัตว์และผู้ที่สัญจรไปมาได้                                                                        
                                                            

                            ฉายเดี่ยวควงปืน ชิงเงิน 3 แสนบาท 'ออมสิน'หัวลำโพง                                                                                                                   
                            ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์
                                                            คนร้ายควงปืนบุกเดี่ยว ปล้นธนาคารออมสิน สาขาหัวลำโพง กวาดเงินไป 310,000 บาท หลบหนีลอยนวล ตร.เร่งเช็กกล้องวงจรปิด ล่าคนร้าย...

เมื่อวันที่ 29 ส.ค. พ.ต.อ.จารุต ศรุตยาพร ผกก.สน.ปทุมวัน เปิดเผยกับไทยรัฐออนไลน์ว่า มีคนร้ายชิงเงินธนาคารออมสิน สาขาหัวลำโพง ถนนพระราม 4 แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องจำนวนหนึ่ง

ที่เกิดเหตุ บริเวณเคาน์เตอร์ของธนาคาร พบพนักงานของธนาคารสาขาดังกล่าว อยู่ในอาการตื่นตระหนก ให้การว่า มีคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์มาจอดหน้าธนาคารออมสิน โดยสวมหมวกกันน็อกเต็มใบ พร้อมถืออาวุธปืนไม่ทราบชนิด เข้ามาบริเวณหน้าเคาน์เตอร์ ก่อนใช้ปืนจี้ แล้วบอกให้ตนส่งเงินสดในลิ้นชักมาทั้งหมด ตนจึงส่งเงินสดไป จำนวน 310,000 บาท จากนั้นคนร้ายจึงขี่รถจักรยานยนต์ที่จอดไว้ที่หน้าธนาคารหลบหนีไป

จากการสอบสวน ทราบว่า คนร้ายใช้เวลาไม่ถึง 5 นาที โดยภาพจากกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพคนร้ายได้ แต่ไม่เห็นหน้า เนื่องจากสวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า จากนี้เจ้าหน้าที่จะเร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางต่างๆ ที่คาดว่าคนร้ายจะใช้ในการหลบหนี พร้อมตรวจรอยนิ้วมือแฝงบริเวณหน้าเคาน์เตอร์ เพื่อติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.                                                                        
                                                            

                            ดีเดย์ 1 ก.ย. จับปรับมักง่าย ไม่ข้ามทางม้าลาย ถ.อโศก                                                                                                                   
                            ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์
                                                            "นิพนธ์ เจริญผล" รอง ผบช.น. คุมเข้มบริเวณถนนอโศก พร้อมวางกำลังเจ้าหน้าที่ตามจุดต่างๆ หากพบเจอประชาชนไม่ข้ามทางม้าลายจับปรับทันที เริ่ม 1 ก.ย. นี้...

วันที่ 28 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.นิพนธ์ เจริญผล รอง ผบช.น. ผู้ช่วยหัวหน้าคณะทำงานพัฒนาแก้ไขปัญหาจราจรติดขัดในกรุงเทพฯ เปิดกับไทยรัฐออนไลน์ว่า วันจันทร์ที่ 1 ก.ย. เวลา 9 โมง เจ้าหน้าตำรวจจะเริ่มดำเนินมาตรการจับปรับ 200 บาท ไม่ข้ามทางม้าลายบริเวณถนนอโศกเป็นวันแรก เนื่องจากเส้นทางนี้มีสำนักงานเยอะ ผู้คนพลุกพล่าน และเป็นเส้นที่มีปัญหาการระบายรถมากที่สุด ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจยืนเฝ้าตามจุดต่างๆ หากพบเห็นประชาชนไม่ข้ามทางม้าลายจะมีการจับปรับตรงจุดนั้นทันที เพื่อให้เกิดการเข็ดหลาบ โดยช่วงเวลาเที่ยงถึงบ่ายโมง จะมีคนข้ามถนนเยอะเป็นพิเศษ เพราะเป็นช่วงเวลาพักกลางวัน

อย่างไรก็ตาม หากประชาชนไม่ข้ามถนนตัดหน้ารถ ผลที่เป็นไปได้คาดว่าน่าจะได้ผลถึง 50% หลังจากที่ก่อนหน้านี้บริเวณถนนประชาอุทิศตรงสถานทูตลาวนั้น ได้ใช้มาตรการคุมเข้มไปซึ่งปรากฏว่าได้ผลดีมาก จึงนำมาใช้ที่ถนนอโศก.                                                                        
                                                            

                            น้ำป่าทะลัก!! ท่วมเชียงรายกว่า 1,000 หลังคา ซัดครู 1 คนสูญหาย                                                                                                                   
                            ที่มา : T News
                                                            ฝนถล่มหนัก น้ำป่าไหลหลากที่ อ.พญาเม็งราย จ.เชียงราย เข้าท่วมบ้านเรือนกว่า 1,000 หลัง มีครูถูกน้ำซัด สูญหาย 1 ราย


วันนี้ (29 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่เช้ามืดที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้ เกิดฝนหนักอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ จ.เชียงราย ซึ่งทางสถานีอุตุนิยมวิทยาจังหวัดเชียงราย ตรวจวัดปริมาณน้ำฝนพบว่า มีฝนตกหนักกว่า 150 มิลลิเมตรทุกพื้นที่


ส่งผลให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมบ้านเรือนใน 5 อำเภอ โดยเฉพาะที่ ต.แม่เปา อ.พญาเม็งราย จ.เชียงราย ได้รับผลกระทบอย่างหนัก เนื่องจากน้ำบนเทือกเขาขุนห้วยแม่เปา ไหลหลากท่วมบ้านเรือนประชาชนใน 7 หมู่บ้าน ประกอบด้วย บ้านขุนห้วยแม่เปา บ้านสันเจริญ บ้านแม่เปาหมู่ 12 , 3 และ 16 บ้านสบเปา หมู่ 20 และ 14 มีบ้านเรือนประชาชนถูกน้ำท่วมกว่า 1,000 หลังมีปริมาณน้ำสูงตั้งแต่ 50 เซนติเมตร ถึง 1 เมตร


ขณะเดียวกัน องค์การบริหารส่วนตำบลแม่เปา ได้ประกาศเตือนชาวบ้าน บ้านทุ่งเจ้า จำนวน 4 หมู่บ้าน ให้ประชาชนกว่า 700 หลังคาเรือนเก็บข้าวของขึ้นที่สูงโดยด่วน เนื่องจากมวลน้ำขนาดใหญ่กำลังไหลเชี่ยวกรากมุ่งหน้าไปทางหมู่บ้านทุ่งเจ้า

นอกจากนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พญาเม็งราย ได้รับแจ้งว่า มีคนถูกน้ำป่าพัดหายไปกับกระแสน้ำป่า 1 ราย ซึ่งเป็นครูโรงเรียนบ้านใหม่สุขสรรค์ ต.แม่เปา โดยขณะเกิดเหตุ ผู้เคราะห์ร้ายดังกล่าวกำลังขับรถยนต์เดินทางไปยังโรงเรียน แต่กลับถูกน้ำป่าพัดรถยนต์จมหายไปกับกระแสน้ำ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่พบรถยนต์แล้ว แต่ยังไม่พบตัวครูคนดังกล่าว ซึ่งกำลังเร่งค้นหาอย่างเร่งด่วน                                                                        
                                                            

นศ.สาวซิ่งฝ่าฝน ข้ามเกาะประสานงา เจ็บ5   
                                                                                    
                                                                                                        นักศึกษาสาวซิ่งเก๋งฝ่าฝนไปเรียน แต่รถเกิดเสียหลักพุ่งข้ามเกาะประสานงาเก๋งอีกคัน ส่งผลบาดเจ็บระนาว 5 ราย นักศึกษาสาวอ้างถูกรถชนท้าย ด้าน ตร.ตั้งข้อหาขับรถประมาท
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 30 ส.ค. มีรายงานว่า ร.ต.ท.ไพทูรย์ เกรียงไกรเดช ร้อยเวร สภ.เมืองชลบุรี ไปตรวจสอบเหตุรถชนกันบริเวณทางลงสะพานต่างระดับข้ามถนนบายพาสเลี่ยงเมืองชลบุรี ขาเข้าพัทยา หมู่ 10 ต.นาป่า อ.เมือง จ.ชลบุรี พบรถเก๋งยี่ห้อ มาสด้า 3 สีขาว ทะเบียน ศล 4209 กทม. สภาพด้านหน้าพังยับเยิน มี น.ส.สุรินทร สอนสิทธิ์ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 32/2 หมู่ 4 ต.ฟากท่า อ.ฟากท่า จ.อุตรดิตถ์ นักศึกษา ป.ตรี คณะบริหาร มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง จ.ชลบุรี เป็นคนขับ ได้รับบาดเจ็บที่คอและหลัง
                                กู้ภัยเข้าช่วยคนเจ็บริมถนนบายพาสเลี่ยงเมืองชลบุรีห่างไปประมาณ 5 เมตร พบรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า ยาริส สีขาว ทะเบียน กว 3017 ชลบุรี สภาพด้านหน้าและด้านข้างขวาพังยับเยินเช่นกัน มีร่าง นายอนุสรณ์ ภู่ระหงษ์ อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 60 หมู่ 5 ต.ซากโดน อ.แกลง จ.ระยอง เป็นคนขับ ถูกคอนโทรลหน้ารถอัดติดอยู่ กระดูกขาแตก ซี่โครงเดาะ เพื่อนที่นั่งมาด้วยอีก 3 คน ประกอบด้วย 1.นายทรงกรด โกฏทอง อายุ 21 ปี ขาขวาหัก ศีรษะแตก บาดเจ็บสาหัส 2.นายวรายุทธ รัตนวิจิตร อายุ 19 ปี และ 3 นายวรินทร ตันประเสริฐ อายุ 19 ปี บาดเจ็บเล็กน้อย กู้ภัยไตรคุณธรรม นำทั้งหมดส่ง รพ.ชลบุรี
สอบสวน น.ส.สุรินทร คนขับรถเก๋งมาสด้า ให้การว่า กำลังจะไปเรียนที่มหาวิทยาลัย มาถึงที่เกิดเหตุ มีฝนตกลงมาและมีรถไม่ทราบยี่ห้อและทะเบียนพุ่งชนท้ายรถตน ทำให้รถเสียหลักพุ่งข้ามเกาะกลางถนนไปประสานงากับรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้าอย่างจัง ทำให้มีผู้บาดเจ็บดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงตั้งข้อหา ขับรถประมาททำให้มีผู้บาดเจ็บ ดำเนินคดีต่อไป

'ทหารม้า' คืนความสุข รุมกระทืบ 'สห.ทอ.' น่วมคาร้านอาหาร               
               
                                           
            
               ทบ.จัดเต็มคืนความสุขให้ 3 สห.ทอ. จนกระอักเลือด จากเหตุการณ์แค่เข้าไปเตือนเรื่องสูบบุหรี่ในร้านอาหาร ย่านคลองหลวง 2 ครั้ง จนเหมือนทำให้ "ผู้กอง" ทหารม้า ม.พัน.30 เสียหน้า เกิดความไม่พอใจ กลับไปเรียกลูกน้องพร้อมอาวุธครบมือ มาช่วยรุมกระทืบพร้อม ขณะที่ "ประยุทธ์" ทราบเรื่องเตรียมฟันไม่เลี้ยง...
เมื่อวันที่ 28 ส.ค. 57 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า "น.ส.วาสนา นาน่วม" นักข่าวสายทหาร นสพ.บางกอกโพสต์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ส่วน "Wassana Nanuam" ถึงเหตุการณ์ "ทหารบก" ยกพวกรุมสกรัม "สห.ทอ." จากเหตุการณ์ไม่พอใจที่ถูกเตือนเรื่องสูบบุหรี่ในร้านอาหารแห่งหนึ่ง เลยจัดเต็ม "คืนความสุขให้" โดยมีข้อความว่า
"ทบ.คืนความสุขให้ ทอ."!!!!
ผบ.หน่วยสั่งคุมตัว "ร้อยเอก" และขังทหารหลายคน ที่ไปรุมทำร้าย สห.ทอ. รปภ.ผับ เมื่อคืนอังคารแล้วโดนตั้ง กก.สอบสวน คาดโดนโทษหนักสุด รายงานแม่ทัพ 1 และ "นายกฯ ประยุทธ์" แล้ว....
หลังจากในโลกโซเชียลและไลน์ ได้มีการส่งต่อข้อความเหตุการณ์ "ทหารบก" คืนความสุขให้ "ทหารอากาศ" กันอย่างแพร่หลาย ตั้งแต่บ่ายถึงค่ำ วานนี้ ว่า เมื่อคืน 26 ส.ค. 2557 ที่ร้านคลองเพลง ย่านนวนคร เขตคลองหลวง โดยระบุว่า ได้เกิดเหตุทหารบกยกกำลัง 1 คันรถยีเอ็มซี พร้อมอาวุธครบมือ ไปรุมทำร้าย สารวัตรทหารอากาศ ที่ไปรับจ็อบเป็น รปภ. อยู่ในร้าน จำนวน 3 คน โดยฝ่ายทหารบก จับ สห.ทอ.ใส่กุญแจมือแล้วรุมทำร้าย จนต้องนำส่งโรงพยาบาลภูมิพล 
จากการสอบสวนของตำรวจพบว่า เหตุเกิดเนื่องจาก "พันตรี" คนหนึ่ง สูบบุหรี่ในร้าน ฝ่าย "สห.ทอ." นอกเครื่องแบบ ที่มาเป็น รปภ.ร้าน มาเตือน 2 ครั้ง จนฝ่าย พันตรี ไม่พอใจ เลยกลับไปนำทหารบกลูกน้อง นั่งรถบรรทุกทหารมารุมทำร้าย สห.ทอ. ดังกล่าวนั้น
"ผบ.หน่วย ต้นสังกัดระบุ ไม่ใช่ "พันตรี" แต่เป็น "ร้อยเอก" ได้สั่งคุมตัวทันที "ร้อยเอก" และขังทหารหลายคนที่ไปรุมทำร้ายสารวัตรทหารอากาศ (สห.ทอ.) 
รปภ.ร้าน "คลองเพลง" เมื่อคืนแล้ว โดยมีการตั้ง กก.สอบสวน ความผิดวินัย คาดโดนลงโทษหนัก โดย ผบ.หน่วย ได้รายงานผู้บังคับบัญชา ตามลำดับชั้น ถึงแม่ทัพภาค 1 เรียบร้อยแล้ว คาดรายงานถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ./หัวหน้า คสช. และในฐานะนายกรัฐมนตรี ด้วย คาดเจอโทษขั้นหนักสุด โดยทาง ทบ.ได้มีคำสั่งกวดขัน ผบ.หน่วยทั้งหมด ให้ดูแลกำลังพล ไม่ให้ไปก่อเหตุเช่นนี้อีก หากปล่อยให้เกิดอีก จะโดนลงโทษขั้นสูงสุด"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับหน่วยทหารบกที่รุมทำร้ายทหารจาก สห.ทอ. จนบาดเจ็บ ในเบื้องต้นได้รับการเปิดเผยจากนายทหารชั้นผู้ใหญ่ของกองทัพบก ว่า เป็นทหารจากหน่วย ม.พัน.30 รอ. สังกัด กองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ อันเป็นหน่วย "บูรพาพยัคฆ์" นั่นเอง.
                                
                        

ไฟไหม้ 'เจเจ พลาซ่า' ตลาดสวนจตุจักร ร้านค้าวอด 16 ล็อค                                
                                       

               
        ไฟไหม้ ตลาดนัดสวนจตุจักร บริเวณศูนย์การค้าเจเจ พลาซ่า โซนซี ไร้ผู้บาดเจ็บ ร้านค้าวอด 16 ล็อคประเมินมูลค่าความเสียหายไม่ได้...
เมื่อเวลา 02.08 น. วันที่ 1 ก.ย. เกิดเหตุเพลิงไหม้ ตลาดนัดสวนจตุจักร บริเวณศูนย์การค้าเจเจ พลาซ่า โซนซี ซอย 2 ถนนกำแพงเพชร 2 เขตจตุจักร กทม. เจ้าหน้าที่ดับเพลิงและหน่วยกู้ภัย ระดมฉีดน้ำควบคุมเพลิงที่กำลังลุกไหม้ จนสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ในวงจำกัด ซึ่งไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด โดยภายหลังเพลิงสงบ เบื้องต้นพบว่าร้านต้นเพลิงมาจากเลขที่ 156-157 ซึ่งเป็นร้านผ้าไหมของที่ระลึก จนลุกลามเสียหาย 16 ล็อค เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างประเมินมูลค่าความเสียหาย ส่วนสาเหตุต้องรอเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง.

                            ตำรวจจ่อแจ้งข้อหารุ่นพี่ปทุมรับน้องทำร้ายร่างกายจนตาย                                                                                                                   
                            ที่มา : MThai News
                                                            ตำรวจ เผย รอผลนิติเวช ศพเหยื่อช่างกลรับน้องโหด คาด 1 สัปดาห์รู้ผล จ่อแจ้งข้อหารุ่นพี่ ด้านญาติแจ้งความไว้ก่อนแล้ว
พ.ต.อ. ดำรงค์ศักดิ์ ทองงามตระกูล รอง ผบ.ก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ รรท.ผกก.สภ.หัวหิน เปิดเผย สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า กรณี นายโภไคย แสงโรจน์รัตน์ หรือ น้องกัน อายุ 16 ปี ซึ่งเป็นนักศึกษาชั้น ปวช.ปีที่ 1 วิทยาลัยเทคนิคปทุมธานี เสียชีวิต อย่างมีเงื่อนงำจากการไปรับน้องของรุ่นพี่ ที่ อ.หัวหิน นั้น

ล่าสุด ทางคดี ทาง ตร. ได้สอบปากคำรุ่นพี่และรุ่นน้องหมดแล้ว ซึ่งยังมีการให้การที่ขัดแย้งบ้างพอสมควร ดังนั้น จึงต้องรอผลทางนิติวิทยาศาตร์ของสถาบันนิติเวชก่อน คาดว่าไม่เกิน 1 สัปดาห์จะทราบผลถึงสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยทาง ตร. ได้ประสานพูดคุยทางวาจากับนิติเวชตลอดเวลา

ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว เป็นเหตุที่น่าเชื่อได้ว่ารุ่นพี่อาจจทำการรับน้องที่มีการทำร้ายร่างกายร่วมด้วย ดังนั้น ตร. จึงเตรียมแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ชีวิตไว้แล้ว โดยญาติของผู้เสียชีสิตได้มาแจ้งความและให้ปากคำเอาไว่ก่อนหน้านี้แล้ว ทั้งนั้ ขอรอผลนิติเวชวิทยาอีกครั้งหนึ่งก่อน                                                                        
                                                            

                            กระหน่ำยิง 6 นัด นศ.เทคโนฯกรุงเทพ ดับกลางกรุง                                                                                                                   
                            ที่มา : sanook.com
                                                            ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (1 ก.ย.) เมื่อเวลา 07.00 น. สน.หวัหมากรับแจ้งเหตุมีผู้๔กยิงเสียชีวิต ภายในซอยรามคำแหง 107 (ซอยวัดศรีบุญเรือง) แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ ที่เกิดเหตุพบศพนายพัชร กัมพลาศิริ อายุ 21 ปี นศ.ปี 1 คณวิศวกรรมศาสตร์ช่างกล มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีกรุงเทพ สภาพศพนอนหงายเสียชีวิตจมกองเลือด สวมเสื้อแขนสั้นสีดำ กางเกงยีนส์สีดำ ถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดเข้าที่ใบหน้า 3 นัด และแขนซ้าย 3 นัด ใกล้กันพบกระเป๋ากีฬาและซองบุหรี่ตกอยู่

จากการสอบสวนทราบว่า ผู้ตายเคยเรียนอยู่ที่ วิทยาลัยเทคโนโลยีช่างอุตสาหกรรมกรุงเทพ เมื่อ 3 ปีก่อน จากนั้นมาสอบเข้าเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีกรุงเทพ โดยเรียนได้เพียง 2 สัปดาห์ ขณะเกิดเหตุได้มีคนร้ายเป็นชาย 2 คน ไม่ทราบรูปพรรณสัณฐาน ขับรถจยย. ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นฟีโน่ สีน้ำตาลไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน มาจอดฝั่งตรงข้ามก่อนจะตะโกนเรียกผู้ตาย เมื่อผู้ตายหันมามอง คนร้ายก็ชักอาวุธปืนออกมายิงกระหน่ำในระยะเผาขน ก่อนขับรถจยย.หนีไป โดยใช้เส้นทางถนนรามคำแหง

เบื้องต้น จากการสันนิษฐานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ คาดว่าน่าจะมาจากการล้างแค้นของสถาบันคู่อริ เพราะที่ผ่านมาผู้ตายไม่เคยมีเรื่องกับใครมาก่อน ขณะนี้ตำรวจกำลังตรวจสอบกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุ เพื่อหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป                                                                        
                                                            

                            รพ.สงขลา ไม่ผ่าคลอดคนไข้เหตุไม่ฝากครรภ์พิเศษ                                                                                                                   
                            ที่มา : kapook.com
                                                            ว่อนโซเชียล แพทย์ไร้จริยธรรม ไม่ยอมผ่าคลอดคนไข้เพราะไม่ได้ฝากครรภ์พิเศษ จนทารกพิการ แถมยังไม่รับผิดชอบต่อความผิดพลาดที่เกิดขึ้น

             วันที่ 31 สิงหาคม 2557 ในโลกโซเชียลเน็ตเวิร์กได้มีการแชร์ข้อมูลของคุณแม่รายหนึ่ง ที่เข้าไปคลอดลูกยังโรงพยาบาล จ.สงขลา แต่เนื่องจากเธอไม่ได้ฝากครรภ์พิเศษไว้ แพทย์จึงไม่ยอมผ่าคลอดให้แม้ลูกตัวใหญ่ ยังคงฝืนดึงและงัดทารกออกมาจนเส้นประสาทของทารกขาด ทำให้หนูน้อยต้องพิการทั้งที่เกิดมาครบ 32 แถมแพทย์ยังไม่แสดงความรับผิดชอบใด ๆ ต่อเหตุที่เกิดขึ้นด้วย

             โดยเฟซบุ๊ก GK Captain GifKe เจ้าของเรื่องราวได้มีการเปิดเผยรูปพร้อมข้อความเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2557 โดยระบุว่า

             "ความรับผิดชอบอยู่ที่ไหน ? จะมีใครรู้ซึ้งถึงหัวอกคนเป็น "แม่" คนนี้บ้าง ที่ต้องมาทนเห็นลูกตัวเองเสียแขนไปตั้งแต่แรกเกิด ทั้ง ๆ ที่ลูกของแม่ก็เกิดมาสมบูรณ์ครบ 32 ทุกอย่าง ทำไมเด็กตัวใหญ่หมอที่โรงบาลสงขลาถึงไม่ผ่าให้ ทำไมหมอให้คลอดเอง เพราะแม่ไม่ได้ฝากพิเศษเหรอ ? ถึงไม่ผ่าให้ พอตอนคลอดกลับคลอดไม่ออกเพราะเด็กตัวใหญ่มาก หมอจึงงัดและ ดึงคอและแขนออกมา จนทำให้เส้นประสาททั้ง 5 ขาด แขนยกไม่ขึ้น อ่อนแรง กระดิกนิ้วไม่ได้ ตาข้างซ้ายตก ! ได้อยู่ในตู้อบครึ่งเดือนกว่าจะฟื้น นี่จะเป็นความสะเพร่าของหมอที่ โรงพยาบาล จ.สงขลา ที่ไม่มีสติในการรักษา ทำแบบชุ่ย ๆ วินิจฉัยผิดผลาด หรือ เรียกว่าเวรกรรม ความซวย ! หรือ อะไรก็ตาม แต่หมอก็น่าจะออกมารับผิดชอบในการกระทำให้บ้าง ไม่ใช่ปล่อยให้เป็นแบบนี้ ในเมื่อหมอเป็นคนทำ ! ให้แขนลูกเป็นแบบนี้ หมอต้องรักษาให้ไม่ใช่เหรอ ? แม่ต้องหอบลูกอ่อนกระเตง ๆ ไปรักษาตัวที่กรุงเทพฯ และกลับลงใต้อีก ขึ้นลง ๆ อยู่แบบนี้ "ถึงแม่จะเหนื่อแม่ก็ทนได้ แต่ลูกเสียแขนไปแม่ทนไม่ได้" นี่คือ ความเจ็บปวดทรมานที่แสนสาหัสที่สุด แม้สงสารลูกเหลือเกิน..ลูกเอ๋ย..

             *ฝากแชร์เป็นอุทาหรณ์ หมอที่ไม่มีจริยธรรม และ ขาดความรับผิดชอบในวิชาชีพ"

             "สิ่งที่ทำผิดพลาดไปแล้วไม่สามารถเอากลับคืนมาได้.. แต่สิ่งที่ทำได้ก็คือ..ความรับผิดชอบ ในสิ่งที่ทำผิดพลาดไป ! และสามัญสำนึกในจิตใจที่ดีของคน ! ""

             ขณะที่ชาวเน็ตต่างเข้ามาแสดงความเห็นใจคุณแม่และสงสารหนูน้อยที่ต้องรับชะตากรรมดังกล่าว โดยมีต้นเหตุจากความสะเพร่าและไม่รับผิดชอบของแพทย์ โดยมีผู้ใช้บางรายแนะนำให้คุณแม่รายนี้ นำเรื่องไปปรึกษายังฝ่ายจริยธรรมของแพทยสภาด้วย                                                                        
                                                            

ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้