|
อึ้ง!! ประกาศขายด่วนกิจการรถเมล์ เหตุรับภาระไม่ไหว
ที่มา : เดลินิวส์
เมื่อวันที่ 15 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พบรถโดยสารประจำทางปรับอากาศ ร่วมบริการสีชมพูสาย 1009 วิ่งระหว่างสายไหม-รามอินทรา ปิดประกาศบริเวณด้านข้าง และด้านหลังรถมีใจความว่า "ขายด่วน!!!กิจการรถโดยสารสาย 1009 ขอให้รัฐช่วยซื้อกิจการไป! บังคับให้เก็บค่าโดยสาร "ต่ำกว่า" ต้นทุนมานานแล้วลำบากมาก ไม่ไหวแล้ว พยายามหาวิธีช่วยเหลือตัวเองมาตลอด ตั้งแต่วิกฤติน้ำมันแพง , น้ำท่วม , ค่าแรงขึ้น , อะไหล่แพง , การจราจรเป็นอัมพาต , แรงงานขาดแคลน แต่วันนี้บอกตรงๆว่า หมดหนทาง ยอมแพ้ ทำดีไม่ได้ดี ไม่เหลือจะทำต่อได้ไว รัฐไม่เคยช่วยใช้หนี้แทน "ท้อแล้ว" ทุกวันนี้อะไหล่แพง ค่าแรงขึ้นทุกอย่างแพงหมด ให้เราบริการดีๆรถดีๆ แต่ให้เราเก็บค่าโดยสารกูกที่สุดในโลก" สร้างความประหลาดใจและเห็นใตให้กับผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก
ล่าสุดทีมข่าวเดลินิวส์ออนไลน์ได้ติดต่อสอบถามไปยัง น.ส.ประภารัตน์ ชัยพรประเสริฐ กรรมดาผู้จัดการ บริษัท สยามเมย์ จำกัด เปิดเผยว่า "ข้อความที่ปรากฎนั้น เราได้ติดประกาศตั้งแต่ 6 เดือนที่แล้ว เนื่องจากได้รับความเดือดร้อนจากกรณีที่ทางกรมการขนส่งทางบกไม่อนุญาตให้บริษัทฯปรับขึ้นค่าโดยสารตั้งแต่ปี 52 กรมการขนส่งฯจึงได้สั่งการให้สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) ทำการสำรวจต้นทุนการเดินรถสายใหม่-สะพานใหม่พบว่า ต้นทุนจริงรถเมล์ร้อนอยู่ที่ 10 บาท รถปรับอากาศอยู่ที่ 12 บาท แต่กรมการขนส่งได้จัดเก็บจากผู้โดยสารเพียง 8 บาท และ 12 บาทตามลำดับ โดยอ้างอิงราคาของรถเมล์ ขสมก. จนถึงปี 57 ต้นทุนรถร้อนอยู่ที่ 12 บาท และรถประบอากาศอยู่ที่ 14 บาท แต่ยังไม่มีการอนุญาตให้ปรับขึ้น ทั้งที่ในปัจจุบันบริษัทต้องแบกรับภาระค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท ค่าน้ำมันที่ปรับสูงขึ้น แม้จะมีน้ำมันฟรีให้แต่ปั๊มกลับตั้งอยู่ห่างออกไปอีกราว 10 กม. ค่าอะไหล่ที่แพงขึ้นตามค่าครองชีพ ปัญหาการจราจรติดขัดที่ส่งผลต่อต้นทุนน้ำมันทั้งยังกระทบต่อจำนวนเที่ยววิ่งที่ลดลง ที่ผ่านมาเคยส่งหนังสือถึงนายชัชชาติ สิทธิ์พันธุ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ซึ่งในครั้งนั้นได้รับปากว่าจะช่วยเหลือ แต่สุดท้ายเรื่องก็เงียบหายไป
ทั้งนี้ต้องการให้ภาครัฐออกนโยบายช่วยเหลือโดย 1.ปล่อยให้ค่าโดยสารรถร่วมเป็นไปตามกลไกของตลาด ตามต้นทุนที่แท้จริง เพื่อให้เกิดการแข่งขันด้านบริการและคุณภาพ 2.ลดเส้นทางเดินรถที่ทับซ้อน เพื่อไม่ให้ผู้ประกอบการต้องแข่งขันกันเอง ซึ่งส่งผลเสียต่อผู้โดยสาร เนื่องจากที่ผ่านมาการแข่งขันแย่งรับผู้โดยสารทำให้เกิดอุบัติเหตุหลายครั้ง 3.ช่วยแก้ไขปัญหาการจราจรโดยเปิดช่องเดินรถประจำทาง (บัสเลน) เพื่อให้ ปชช.หันกลับมาใช้ระบบขนส่งมวลชนอย่าแท้จริง ปัจจุบันถนนระหว่างสะพานใหม่-สายไหม มักมีผู้ใช้รถ และพ่อค้าแม่ค้ามาจอดรถในช่องซ้ายเป็นจำนวนมาก อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจออกมาดูแลกวดขันอย่างจริงจัง 4. กรมการขนส่งต้องจัดการรถเถื่อนที่วิ่งรับส่งผู้โดยสารตามซอยย่อยให้เด็ดขาด เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถมีรายได้เบี้ยงตนเองได้ และ 5.เร่งช่วยเหลือปัญหาแรงงานขาดแคลนโดยเฉพาะอาชีพพนักงานขับรถรับส่งสาธารณะ เนื่องจากปัจจุบันส่วนใหญ่หนีไปขับรถมอเตอร์ไซต์รับจ้างและรถแท็กซี่หมดแล้ว เนื่องจากต้องรับผิดชอบความผิดทั้งหมดหากเกิดอุบัติเหตุบนถนนทั้งทีความเป็นจริงต้นเหตุของอุบัติเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ และผู้โดยสารมักขึ้น-ลงรถโดยไม่ระวัง และเล่นโทรศัพท์มือถือตลอดเวลา ทั้งนี้จากการสอบถามแหล่งข่าวในกรมการขนส่งทางบก ได้รับการชี้แจงว่า ขณะนี้เรื่องยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของคณะกรรมการกลาง.
|
|