ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

มาติดตามข่าวสารต่างๆที่น่าสนใจกันครับ

[คัดลอกลิงก์]
                            รวบคุณชายกำมะลอฉ้อโกง8แสนญาติแฟนหนุ่ม                                                                                                                   
                            ที่มา : เดลินิวส์
                                                            เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 1 ส.ค. พ.ต.อ.ภูบาล ทับจันทร์ รอง ผบก.ภ.จว.สระบุรี พร้อมด้วย พ.ต.อ.ไกรเขต บุรีรักษ์ ผกก.สส.ภ.จว.สระบุรี แถลงผลการจับกุม นายระหัตถุ์ หรือ นายเอกสุรีย์ จันทร์ศรีทอง หรือ หลวงพ่อระหัตถุ์ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 57 หมู่ 4 ต.หอกลอง อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก ในข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงเป็นบุคคลอื่น พร้อมของกลาง ผ้ายันต์ วัตถุมงคล และรูปถ่ายจำนวนมาก

พ.ต.อ.ภูบาล เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 15 พ.ค. ที่ผ่านมา นายระหัตถุ์ ได้ร่วมกับ นายโต้ง (นามสมมุติ) แฟนหนุ่มที่มีพฤติกรรมเป็นพวกรักร่วมเพศ ฉ้อโกงเงิน 8 แสนบาท ไปจากญาติผู้ใหญ่ของทางนายโต้ง ซึ่ง นายระหัตถุ์ ได้อ้างตัวว่าเป็น "หม่อมราชวงศ์วัชรบดินทร์ บุญนาค เทพหัสดิน ณ อยุธยา” หรือ "ท่านชายตอง" เข้าพูดจาหว่านล้อมกับ พ่อแม่ และญาติๆของ นายโต้ง ว่า จะมาสู่ขอ นายโต้ง เพื่อแต่งงาน จากนั้นได้ออกอุบายขอเงินกับทางญาติผู้ใหญ่ของ นายโต้ง จำนวน 8 แสนบาท สำหรับใช้เตรียมงานแต่ง แล้วบอกว่า จะนำเงิน 60 ล้านบาทมาเป็นค่าสินสอด จนญาติๆของ นายโต้ง หลงเชื่อนำเงินให้ไป หลังจาก นายระหัตถุ์ ได้เงินแล้ว จึงชักชวน นายโต้ง หลบหนี มาเช่าบ้านหรูในตัวเมืองสระบุรีอยู่กินฉันสามีภรรยา และนอกจากนี้ยังได้ไปหลอกลวงเจ้าของบริษัทแพท่องเที่ยวรายหนึ่งใน จ.กาญจนบุรี ให้นำเงินมาร่วมลงทุนทำการค้าได้เงินไปอีก 7 แสนบาท

รอง ผบก.ภ.จว.สระบุรี กล่าวอีกว่า ต่อมาตำรวจได้จับกุมตัว นายโต้ง ไปดำเนินคดีก่อนหน้าแล้ว ขณะที่ นายระหัตถุ์ ได้หลบหนีไปบวชเป็นพระ และเปิดสำนักสงฆ์ชื่อว่า "สำนักสงฆ์บางยี่ทุ่ม" ใน อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก พร้อมกับหลอกขายวัตถุจำพวกเครื่องรางของขลัง จึงได้ขอนุมัติศาลเพื่อขอหมายจับ จากนั้นจึงนำกำลังเดินทางไปจับกุม นายระหัตถุ์ ได้ที่สำนักสงฆ์ดังกล่าว พร้อมของกลางเป็นวัตถุมงคล พระเครื่องรุ่นต่างๆ ผ้ายันต์ แผ่นโบชัวร์ที่โฆษณาให้เช่าเครื่องรางของขลัง ภาพถ่ายขณะแต่งกายเป็นพระสงฆ์ ภาพถ่ายงานแต่ง และการ์ดแต่งงาน ซึ่ง นายระหัตถุ์ ให้การรับสารภาพ จึงนำตัวไปให้คณะสงฆ์ในพื้นที่ทำการสึก ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.หินซ้อน จ.สระบุรี ดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป.                                                                        
                                                            

พ่อน้องกอหญ้า เปิดใจครั้งแรก บอกอยากเลี้ยงลูกเอง                                                                                                                   
                            ที่มา : kapook.com
                                                            พ่อน้องกอหญ้า ไปไหน ล่าสุด เปิดใจบอกต้องการรับ น้องกอหญ้า มาเลี้ยงดูเองตั้งแต่มีข่าวแม่น้องกอหญ้าเสีย ยืนยันเลี้ยงลูกได้ ยินดีให้ทุกฝ่ายตรวจสอบ

           สืบเนื่องจากกรณี น้องกอหญ้า เด็กหญิงวัย 5 ขวบ ที่เมื่อปลายปี 2555 เคยตกเป็นข่าวกอดศพแม่ซึ่งเสียชีวิตอยู่ภายในบ้านนานกว่า 3 วัน จนกระทั่งมีคนมาพบตัวและป้าแท้ ๆ ได้เป็นผู้รับน้องกอหญ้าไปอุปการะเลี้ยงดู กระทั่งล่าสุดกลับมีรายงานว่า น้องกอหญ้า ถูกป้าแท้ ๆ ทารุณกรรม ทั้งทำร้ายร่างกายและบังคับให้น้องกินอ้วกของตนเอง ทางเจ้าหน้าที่ศูนย์ประชาบดี จึงได้เข้าไปช่วยเหลือน้องกอหญ้า ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กและครอบครัว ขณะที่หลายฝ่ายเกิดคำถามว่า พ่อน้องกอหญ้า  หายไปไหน ?

           ล่าสุด (31 กรกฎาคม 2557) นายณัฏฐ์ ณัฏฐ์ฐากรณ์ พ่อน้องกอหญ้า ได้ออกมาเปิดใจให้สัมภาษณ์ผ่านช่วง Talk of the town ทางช่อง BRIGHT TV ถึงกรณีต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นและตอบข้อสงสัยของสังคมที่มองว่า เหตุใดเขาที่เป็นพ่อจึงเพิ่งออกมาแสดงตัวและขอรับน้องกอหญ้าไปอุปการะเองเอาป่านนี้ โดยนายณัฏฐ์ เปิดเผยว่า จริง ๆ เขาได้พบกับลูกสาวตั้งแต่วันที่ศูนย์ประชาบดีไปรับตัวน้องมาแล้ว โดยได้รับการติดต่อจากทางศูนย์ฯ ก่อนหน้านั้น 2 วัน และได้ลงพื้นที่สอบถามสิ่งที่เกิดขึ้นจากชาวบ้านในละแวกนั้นตั้งแต่วันก่อนจะไปรับน้องแล้ว 1 วัน

           นายณัฏฐ์ เผยว่า ศูนย์ประชาบดีเป็นผู้โทรศัพท์มาติดต่อเขา โดยสอบถามว่าใช่พ่อของน้องกอหญ้าหรือไม่ และพร้อมจะเลี้ยงน้องกอหญ้าหรือเปล่า ซึ่งตนก็ตอบว่าเลี้ยงได้ เพราะจริง ๆ อยากเลี้ยงน้องเองตั้งแต่แม่ของน้องเสียแล้ว แต่ด้วยอะไรหลายอย่างเลยไม่ได้รับน้องมาเลี้ยง

           พ่อน้องกอหญ้า กล่าวต่อว่า ตัวเขาอยู่กินกับแม่น้องกอหญ้ามา 7 ปี และเลิกกันตอนน้องอายุ 6 เดือน แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีการโทรไปสอบถามพัฒนาการของน้องตลอดเวลา เมื่อตอนที่แม่ของน้องเสีย เขาก็คิดจะรับน้องมาเลี้ยงและได้ปรึกษากับผู้ใหญ่แล้ว แต่หลังจากวันที่พบศพของแม่น้อง 1 วัน ก็มีป้าของน้องกอหญ้าเข้ามารับอุปการะ และมีสื่อมวลชนรับรู้ทุกอย่าง หากเขาเข้าไปตอนนั้นจะดูเหมือนไปแย่งน้อง แม้เขาจะมุ่งเข้าไปหาลูกแต่คนอื่นจะคิดอย่างไรก็ไม่รู้ กลัวว่าหากตัวเองเข้าไปจะทำให้ลูกสับสน ชีวิตปั่นป่วน และครอบครัวของป้าก็มีเด็กรุ่นราวคราวเดียวกันเป็นสังคมของเขาด้วย จึงเห็นว่าอาจจะเป็นทางที่ดีกว่า

นอกจากนี้ นายณัฏฐ์ ยังได้ชี้แจงถึงกระแสข่าวที่ระบุว่าเขาเป็นคนไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง โดยยืนยันว่า ตนเองทำงานอยู่ฝ่ายการตลาดในบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ในกรุงเทพฯ มีบ้านและรายได้ในระดับที่สามารถเลี้ยงดูน้องกอหญ้าได้ แล้วก็มั่นใจว่าภรรยาคนปัจจุบันของเขาสามารถรับได้ เพราะเธอเป็นคนดี อีกทั้งพวกเขายังไม่มีลูกด้วยกันและไม่คิดจะมีด้วย

           และเพื่อเป็นการยืนยันถึงเจตนาอันโปร่งใส นายณัฏฐ์ยังระบุว่า เคยบอกกับหน่วยงานรัฐและสื่อมวลชนไปหมดแล้วว่าหากเขาได้รับลูกมาดูแลแล้ว เขายินดีให้ทุกฝ่ายตรวจสอบ เข้ามาละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของเขาได้อย่างเต็มที่ มากดออดหน้าบ้านได้ทุกเวลา พร้อมให้ตรวจสอบเสมอ นี่คือเงื่อนไขที่เขาเต็มใจเป็นฝ่ายยื่นเองเพื่อจะรับน้องกอหญ้ามาเลี้ยงดู เพราะเขามีความจริงใจ และให้สังคมได้สบายใจกับการอยู่บ้านหลังใหม่ของน้อง

           นายณัฏฐ์ ยังเผยอีกว่า ในตอนที่เขาไปหาลูกสาวนั้น เขายังรู้สึกได้ว่าน้องเริ่มรู้ว่าใครจะปกป้องดูแลเขาได้ น้องกอหญ้าจะถามตลอดว่า พ่อไม่ตีกอหญ้านะ ซึ่งตนก็บอกลูกว่า "พ่อไม่ตี เพราะแม่เล็กเป็นคนส่งพ่อมาดูแลหนู คุ้มครองหนู พาหนูขี่จักรยาน ทานข้าว ทุกสิ่งที่หนูไม่เคยได้จะได้จากพ่อ" น้องยังบอกให้ผมไปบอกผู้ปกครองของน้องด้วยว่าไม่ให้ตีลูกของพ่ออีก ซึ่งเขาฟังแล้วน้ำตาจะไหล น้องพูดเพราะทุกคำ เขาไม่เชื่อเด็ดขาดหากใครมาบอกว่าน้องกอหญ้าเป็นเด็กก้าวร้าว

           อย่างไรก็ดี นายณัฏฐ์ บอกว่า ตนยอมรับผิดในเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับน้องกอหญ้า ยอมรับจากใจว่าตัวเองผิด ด่าตนได้เลย.... "คำด่าของสังคมเป็นเหมือนกระจก ขอบคุณสื่อออนไลน์ทั้งคนที่ให้กำลังใจและว่าผม มันทำให้ผมตอบคำถามว่าผมมีเซฟตี้ให้ลูกอย่างไร จะดูแลลูกอย่างไร ผมโปร่งใสหมด ผมอัพเดทให้ดูได้หมด เพื่อสิ่งเดียวที่ผมจะได้ดูคือลูกของผม แค่นั้นเอง" สำหรับคำถามว่าเขาเพิ่งคิดได้ตอนนี้หรือยังไง เขาตอบได้เลยว่า "ผมคิดได้นานแล้วครับ แต่แค่ผมยังไม่ได้ทำ"

           สำหรับกรณีความเป็นไปได้ หากทางศูนย์ประชาบดีจะให้นายณัฏฐ์เป็นคนดูแลน้องกอหญ้าร่วมกับป้าของเด็กนั้น คุณพ่อน้องกอหญ้า บอกว่า เขาอยากให้น้องโตกว่านี้ก่อน เพราะอยากให้น้องจดจำความรู้สึกของพ่อลูก พร้อมทั้งย้ำว่าเขาเป็นพ่อ ซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นเลี้ยงร่วมกับใคร เขายินดีให้ตรวจสอบ ขอยืนยันว่าเขาเลี้ยงดูลูกได้
ท้ายนี้ นายณัฏฐ์ ยังได้ฝากถึงผู้คนทั่วประเทศที่ติดตามเรื่องของน้องกอหญ้าอยู่ด้วย โดยระบุว่า... "ผมไม่ได้วาดฝันให้ลูกว่าลูกจะเป็นเจ้าหญิงเป็นเทพธิดา แต่ผมจะเลี้ยงดูลูกเพื่อทดแทน ที่ผมทำไม่ดีหรือที่สังคมประณาม อะไรก็แล้วแต่ ผมจะทำให้ชีวิตเค้ามีความสุขที่สุด" และสำหรับทุกคนที่รักน้อง ตอนนี้น้องกอหญ้าไม่ได้มีตนเป็นผู้ปกครองเพียงคนเดียว ผู้ปกครองของน้องคือคนทั่วประเทศที่ติดตามและให้กำลังใจน้อง ตนเป็นเหมือนตัวแทนผู้ปกครองเพื่อมาดูแลน้องให้ทุกคนสบายใจ มีความสุข โดยไม่ต้องมาคิดว่า พ่อแท้ ๆ จะตีลูกหรือไม่ เพราะพ่อสมัยใหม่ไม่ตีลูกอีกแล้ว แต่จะใช้การพูดจาด้วยเหตุผลในการสอนน้องแทน พร้อมยืนยันว่าได้วางแผนสำหรับการเลี้ยงดูน้องกอหญ้าไว้แล้วด้วย                                                                                   



หนุ่มสาวแสบ เงินเก๊ซื้อของ  
                                                     
แบงก์พันซีร็อกซ์สี ยึดของกลาง7แสน

จับ 2 หนุ่มสาวแสบเอาแบงก์พันไปจ้างปรินต์สีซื้อสินค้าตามอินเตอร์เน็ต ใช้เทคนิคนัดเจอเหยื่อเวลากลางคืนทำให้ไม่ทันสังเกตว่าเป็นแบงก์ปลอม สารภาพสิ้นไส้จ้างทำมา 1,000 ใบใช้ไปแล้ว 300 ใบ ค้นห้องพบที่เหลืออีก 700 ใบคิดเป็นเงิน 7 แสนบาท อ้างเป็นลูกชายเจ้าของร้านทองย่านดอนเมือง แต่ตรวจสอบประวัติพบมีหมายจับ 2 หมาย แถมมีเหยื่อถูกหลอกซื้อขายสินค้าทางอินเตอร์เน็ตรอแจ้งความดำเนินคดีเพียบ
จับ 18 มงกุฎปรินต์แบงก์ปลอมซื้อของตามอินเตอร์เน็ตรายนี้ เปิดเผยขึ้นที่ สน.บางซื่อ เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 2 ส.ค. พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหาญพิทักษ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สุรนิตย์ พรหมบุตร ผบก.น.2 พ.ต.อ.เศกสิทธิ์ สุภาอ้วน ผกก.สน.บางซื่อ พ.ต.ท.วาสุเทพ คงกล่อม รอง ผกก.สส.สน.บางซื่อ พ.ต.ท.สิทธิชัย ธัญญาบาล สว.สส.สน.บางซื่อ และ พ.ต.ต.นาถนริศ รัตนบุรี สว.สส.สน.บางซื่อ พร้อมด้วย พ.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผบ.ร.11 รอ. พ.ท.จอมไตร กิจประสาน ผบ.ร.11พัน.1 รอ. แถลงจับกุมผู้ต้องหา 2 คน ใช้ธนบัตรปลอมหลอกซื้อโทรศัพท์มือถือผ่านทางอินเตอร์เน็ต ประกอบด้วยนายภควัต สิริรัตน์เรขา อายุ 27 ปี ที่อ้างว่าเป็นลูกเจ้าของร้านทองย่านดอนเมือง ตามหมายจับศาลอาญาเลขที่ 1311/2557 ลงวันที่ 1 ส.ค.57 และ น.ส.จิตรา ราชคมน์ อายุ 19 ปี ตามหมายจับเลขที่ 1312/2557 ลงวันที่ 1 ส.ค.57 พร้อมของกลางธนบัตรปลอมฉบับละ 1,000 บาท 700 ฉบับ คิดเป็นเงิน 7 แสนบาท ไอแพดมินิสีขาว 2 เครื่องและโทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง
พล.ต.ต.สุรนิตย์ พรหมบุตร ผบก.น.2 กล่าวว่า สืบเนื่องจากชุดสืบสวน สน.บางซื่อ รับแจ้งว่า มีคนร้ายใช้ธนบัตรปลอมหลอกซื้อสินค้าทางเว็บไซต์ ก่อเหตุมาแล้วหลายครั้งมีผู้เสียหายหลายคน ต่อมาทราบว่า ผู้ต้องหาพักอยู่ที่ดี คอนโดมิเนียม อาคารเอ ชั้น 4 ต.ไทรม้า อ.เมือง จ.นนทบุรี จึงเข้าตรวจค้นจับกุมพร้อมยึดของกลางทั้งหมดมาสอบสวน ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า นำธนบัตรปลอมดังกล่าวไปหลอกซื้อสินค้าจริง โดยว่าจ้างให้ร้าน 50 เพลส พริ้นติ้ง เลขที่ 358 ซอยสุขุมวิท 50 แขวงพระโขนง เขตคลองเตย เป็นผู้ผลิต จำนวน 1,000 ใบ คิดเป็นเงินปลอมมูลค่า 1 ล้านบาท ร้านดังกล่าวคิดค่าจัดทำธนบัตรดังกล่าวใส่กระดาษเอสี่แผ่นละ 18 บาท เป็นเงิน 4,500 บาท
“ทั้งนี้ผู้ต้องหานำธนบัตรปลอมไปใช้ซื้อสินค้าแล้ว 3 แสนบาท เหลือธนบัตรปลอมอีก 7 แสนบาทเก็บไว้ในห้องพัก ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสนธิกำลังกับทหารเข้าตรวจสอบและตรวจค้นห้างหุ้นส่วนจำกัด 50 เพลส พริ้นติ้ง พบนายบัณฑิต สิงห์เรือง เจ้าของร้านให้การว่า นายภควัตว่าจ้างให้ทำธนบัตรฉบับละ 1,000 บาทจริง อ้างว่าจะนำธนบัตรดังกล่าวไปทำเป็นวอลล์เปเปอร์ติดผนังห้อง จึงรับผลิตให้จำนวน 1,000 ฉบับตามที่ผู้ต้องหาสั่ง ไม่คิดว่าจะนำไปใช้แทนเงินจริงๆ” ผบก.น.2 กล่าว
ด้าน พ.ต.ท.วาสุเทพ คงกล่อม รอง ผกก. สส.สน.บางซื่อ กล่าวว่า จากการตรวจสอบประวัตินายภควัตพบว่าถูกศาลออกหมายจับความผิดฐานฉ้อโกง 2 หมาย ประกอบด้วยหมายจับของศาลแขวงพระนครเหนือที่ จ.347/2557 ลงวันที่ 27 ธ.ค.56 ข้อหาฉ้อโกงทรัพย์ พื้นที่ สน.บางเขน และหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรีที่ 294/2557 ลงวันที่ 20 มี.ค.57 ข้อหาฉ้อโกงทรัพย์ พื้นที่ สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี หลังจากนี้จะขยายผลสืบสวนต่อว่า ร้าน 50 เพลส พริ้นติ้ง มีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้ต้องหาทั้ง 2 คนหรือไม่ หากพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องจะแจ้งข้อหาเจ้าของร้านด้วย
รอง ผกก.สส.สน.บางซื่อ กล่าวอีกว่า สำหรับนายภควัตเคยก่อเหตุลักษณะดังกล่าวมาแล้วหลายครั้ง จะอาศัยเวลายามวิกาลเพื่อไม่ให้เหยื่อทันสังเกต นอกจากจะหลอกซื้อ-ขายไอโฟนแล้ว ผู้ต้องหารายนี้ ยังหลอกขายชิ้นส่วนคาร์บอนเคฟลาร์สำหรับรถยนต์ ตั้งชื่อร้านในอินเตอร์เน็ตว่า แมกซี่ คาร์บอน ช็อบ (Maxzie Carbon Shop) มีผู้เสียหายหลายรายได้รับความเสียหายตั้งแต่หลักพันจนถึงหลักแสนบาท นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 4 ก.พ. นายภควัตก่อเหตุหลอกขายไอโฟน 5 เอส ผ่านไลน์ให้กับนายกัณพงศ์ ธาระเขตร์ หรืออ้น เดอะวอยซ์ ราคา 15,000 บาท แต่พอโอนเงินผ่านบัญชีธนาคารกลับไม่ได้รับสินค้า ตอนนี้อ้น เดอะวอยซ์ รวมตัวกับผู้เสียหายรายอื่นเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ พ.ต.ท.วุฒิชัย สิงห์คง พงส.ผนพ.กก.2 บก.ป.แล้ว ตั้งแต่วันที่ 19 มี.ค.
                                
                        

ไหม้รถตู้
                                       

               
เจ้าหน้าที่ดับเพลิงช่วย กันระดมดับไฟที่กำลังลุกไหม้รถตู้ส่วนบุคคล ยี่ห้อโฟล์คสวาเกน หมายเลขทะเบียน อห 4984 กรุงเทพมหานคร บริเวณกลาง สะพานข้ามแยกพระราม 9 ฝั่งมุ่งหน้าดินแดง เบื้องต้นตรวจสอบพบว่าเพลิงได้ลุกไหม้มาจากห้องเครื่อง ขณะเกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ส่วนสาเหตุอยู่ระหว่างการตรวจสอบ.
                                
                        

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย morntanti เมื่อ 2014-8-4 11:01
morntanti ตอบกลับเมื่อ 2014-8-1 12:29
ระทึก อีโบล่าระบาดไปยังไนจีเรีย หลังหนุ่มไลบีเรียติ ...

ลักษณะอาการผู้เป็นโรคอีโบล่า


ขอเพิ่มเติมเล็กน้อยข่าวยังไม่ยืนยัน 100% แต่แจ้งว่าตรวจพบผู้คาดว่าติดเชื้อ อีโลล่า ที่ฟิลิปินส์ แล้ว 1 คน ...ใกล้เข้ามาแล้ว กลุ่ม AEC ต้องเตรียมพร้อมรับมือได้แล้ว....


Sornpraram ตอบกลับเมื่อ 2014-7-19 08:54
ช็อก! ?โค้ชเช? ไม่กลับไทยแล้ว

*










                            ลูกเศรษฐีชุมพรซิ่งเก๋งตกสะพานร้อยศพดับ
                                                                                                                  
                            ที่มา : เดลินิวส์
                                                            เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 4 ส.ค. ร.ต.ท.ชฤทธิ์ เวชโกสิทธิ์ พนักงานสอบสวน สภ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร รับแจ้งอุบัติเหตุรถเก๋งเสียหลักตกลงไปในคลอง บริเวณสะพานตะโก ถนนสายเอเซีย 41 ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงหลัก กม.ที่ 48 หมู่ 1 ต.ทุ่งตะไคร อ.ทุ่งตะโก จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมหน่วยกู้ภัยสมาคมพุทธประทีปหลังสวนทุ่งตะโก ในที่เกิดเหตุตรงคอสะพานพบเศษชิ้นส่วนรถยนต์หล่นกระจัดกระจายเกลื่อนถนน ส่วนภายในคลองพบรถเก๋งเชฟโรเลต แคปติวา สีขาว ทะเบียน 1 กฒ 2604 กรุงเทพมหานคร สภาพพลิกหงายท้องจมน้ำอยู่ครึ่งคัน ที่บริเวณเบาะนั่งคนขับพบศพ น.ส.สิริกร คูพัฒนาพิบูลย์ อายุ 32 ปี บ้านเลขที่ 213/11 ถนนประชาอุทิศ เขตเทศบาลเมืองชุมพร อ.เมืองชุมพร เสียชีวิตติดอยู่ภายใน

สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า น.ส.สิริกรผู้ตาย เป็นช่างแต่งหน้าอิสระ มีชื่อเสียงโด่งดัง โดยรับแต่งหน้าเจ้าสาว-เจ้าบ่าว เพื่อถ่ายภาพในงานแต่งงานทั่วทั้ง จ.ชุมพร อีกทั้งยังเป็นลูกสาวของเจ้าของร้านขายวัสดุก่อสร้างรายใหญ่ของ จ.ชุมพร มีฐานะเข้าขั้นเศรษฐี ซึ่งในวันนี้ผู้ตายได้เดินทางมาแต่งหน้าให้คู่บ่าวสาว ใน พื้นที่ อ.ทุ่งตะโก เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ ด้วยความไม่ชำนาญเส้นทาง ประกอบกับมีฝนตกถนนลื่น ทำให้รถที่ขับมาด้วยความเร็วเกิดเสียหลักขณะเข้าโค้ง จนพุ่งชนราวสะพานตกลงไปในคลองเสียชีวิต อย่างไรก็ดีสะพานตะโกที่ผู้ตายเสียชีวิตนั้น ได้รับการขนานนามจากชาวบ้านว่า "สะพานร้อยศพ" เนื่องจากเกิดอุบัติเหตุมีผู้เสียชีวิตบ่อยครั้ง.                                                                        
                                                            

                            รถไฟฟ้าสายสีม่วง ใกล้ความจริง คืบหน้า 90% แล้ว                                                                                                                   
                            ที่มา : kapook.com
                                                            รฟม. เผย โครงการระบบรถไฟฟ้าสายสีม่วง บางใหญ่-เตาปูน คืบหน้าแล้วกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ เปิดทดสอบเดินรถปลายปี 2558 และเปิดให้บริการจริงปี 2559

            วันนี้ (4 สิงหาคม 2557) นายยงสิทธิ์ โรจน์ศรีกุล ผู้ว่าการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยความคืบหน้าโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง (บางใหญ่-เตาปูน) ว่า ขณะนี้การก่อสร้างในโครงการดังกล่าวมีความคืบหน้าแล้วกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ ทั้งงานก่อสร้าง งานระบบราง งานระบบไฟฟ้าเครื่องกล ซึ่งการดำเนินการเสร็จเร็วกว่าแผนที่กำหนด ทำให้มั่นใจว่าจะมีการเปิดทดสอบเดินรถได้ในปลายปี 2558 และเปิดให้บริการได้กลางปี 2559

            ด้าน นายสมบัติ กิจจาลักษณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ บีเอ็มซีแอล เปิดเผยว่า บีเอ็มซีแอล ได้รับสัมปทาน 4 สัญญาจาก รฟม. ให้เป็นผู้ลงทุนจัดหาระบบรถไฟฟ้า เดินรถและซ่อมบำรุงระบบรถไฟฟ้าสายสีม่วง เป็นระยะเวลาสัมปทาน 30 ปี โดยขณะนี้ได้มีการเตรียมทีมงานด้านการเดินรถและซ่อมบำรุง และจะมีการทดลองเดินรถเหมือนจริงเพื่อให้มั่นใจว่าในการเปิดเดินรถกลางปี 2559 จะมีความปลอดภัยมากที่สุด                                                                        
                                                            


ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้