ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
ดู: 11444
ตอบกลับ: 21
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

ปฐวีธาตุ

[คัดลอกลิงก์]
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Sornpraram เมื่อ 2016-4-14 06:23

ปฐวีธาตุ ของดีที่ต้องมีไว้บูชา






ปฐวีธาตุ เป็นธาตุกายสิทธิ์ที่มีพลังอิทธิฤิทธิ์ในตัวมันเองตามธรรมชาติ แบ่งออกเป็นตามธาตุต่างๆในธรรมชาติได้แก่ ดิน น้ำ ลม ไฟ ที่รู้จักและเป็นข่าวกันอย่างหนาหูในช่วงนี้ได้แก่เหล็กไหลที่มีการเรียกตามถ้ำต่างๆนั้นก็คือธาตุกายสิทธิ์ชนิดหนึ่งเช่นกัน ธาตุกายสิทธิ์นี้มีแบบให้คุณและให้โทษแก่ผู้ครอบครองนั้นๆล้วนแล้วแต่ว่าเป็นแบบไหน

ปฐวีธาตุ เป็นธาตุกายสิทธิ์ชนิดหนึ่งที่มาในลักษณะของหินที่อยู่ในแม่น้ำผ่านการเจียรไนจากธรรมชาติเป็นร้อยหรือพันปีมาแล้ว ปฐวีธาตุมีความใสมาก หากเอามือไปรองจะเห็นมือผ่านหิน เมื่อได้หินนี้มาแล้วต้องผ่านการอธิษฐานจิตจากผู้บรรลุธรรมชั้นสูงจากสายปฎิบัติกรรมฐานเท่านั้น สายอาคมเวทย์มนต์เสกปฐวีธาตุไม่ได้ ปัจจุบันหากจะหาปฐวีธาตุมาบูชาไม่ง่ายนักเพราะมีคนหลอกหากินบนความศรัทธาเอาหินกรวดธรรมดามาหลอกขายเป็นปฐวีธาตุ ดังนั้นจึงไม่เกิดผลอันใดแก่ผู้บูชาเสียเงินเสียทองไปเป็นจำนวนมาก

ข้อควรรู้เกี่ยวกับปฐวีธาตุ

- เป็นหินแม่น้ำที่ต้องอยู่ในแม่น้ำที่มีน้ำไหลเท่านั้น มีความโปร่งแสง ค่อนข้างใส
- เป็นธาตุกายสิทธิ์ที่เกิดจากธาตุลม
- ปลุกเสกจากพระปฎิบัติกรรมฐานเท่านั้น ไม่ใช่สายวิชาอาคมแต่อย่างใด เช่น หลวงปู่คำพันธ์ , หลวงพ่อประสิทธิ์ , เจ้าคุณนร

วิธีบูชาปฐวีธาตุ

ปฐวีธาตุเป็นของมีฤทธิ์ในตัว บางตำราว่าเป็นหินที่เกี่ยวพันกับพญานาคราช พญานาคได้เตรียมหินเหล่านี้แก่พระอภิญญาเพื่อสร้างเป็นปฐวีธาตุ พระเกจิจึงนำปฐวีธาตุมาสร้างเป็นพระเครื่องรุ่นต่างๆ เช่น หลวงปู่คำพันธ์ ดังนั้นจึงเป็นของมงคลให้ใส่น้ำหรือเอาแช่น้ำ ลอยด้วยดอกมะลิหรือดอกไม้หอมเป็นการบูชาไว้ในที่สูง หรือ ห้องพระเพื่อการกราบไหว้สักการะในแต่ละวัน ขอโชคขอลาภก็ดีทั้งนั้น

พุทธคุณของปฐวีธาตุ

ปฐวีธาตุเป็นธาตุกายสิทธิ์ซึ่งจะมีธาตุทั้ง 4 ทั้ง ดิน น้ำ ลม ไฟ อยู่ในก้อนเดียวโดยการประจุเสกเข้าไปโดยพระเกจิเมื่อนำปฐวีธาตุมาใช้ให้อธิษฐานจิตเอาตามสุดจะปรารถนา สามารถกันภัยที่เกิดจากภัยธรรมชาติก็ดี เกิดจากมนุษย์ก็ดี ทั้งที่เกิดขึ้นในปัจจุบันและที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต (หลวงปู่คำพันธ์บอกว่าสามารถกันกันมันตภาพรังสีได้ทุกชนิด โปรดใช้วิจารณาญานด้วยนะครับ) ปฐวีธาตุที่จะเป็นก้อนเดี่ยวๆเลี่ยมห้อยคอหรือเป็นเม็ดเล็กๆโรยในพระเครื่องก็มีอานุภาพเท่ากัน หากจะหาของแท้ๆมาบูชาต้องหาจากที่มาดีๆจริงๆเท่านั้นครับ

หากได้ปฐวีธาตุมาบูชาให้แนะนำเลี่ยมแบบเปิดหน้าและหลังให้ปฐวีธาตุให้โดนสัมผัสกับไอร่างกายของผู้ที่บูชาซึ่งจะทำให้เชื่อมจิตและสื่อจิตไปถึงปฐวีธาตุง่ายขึ้น

คาถาบูชาปฐวีธาตุจุดธูป 7 ดอก
"นะโม 3 จบ"
"หิตะรา มันทิโล กะสิรา กะละลาสติ โสจะถิโห คะเนคะเน 3 จบ"


http://mongkol88.blogspot.com/2015/08/pataveetath.html

2#
 เจ้าของ| โพสต์ 2016-4-14 06:21 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้


ปฐวีธาตุ ที่สุดแห่งขลัง ของหลวงปู่คำพัน โฆษปัญโญ

โดย...รณธรรม ธาราพันธุ์




ตลอดชีวิตของคน “ทำ” พระเป็น ย่อมรู้แน่แก่ใจว่าเครื่องมงคลชิ้นใดที่ตนได้ “บรรจุคุณ” ไว้อย่างเต็มที่ที่สุด หรือทราบชัดว่า ของสิ่งใดที่ทรงไว้ซึ่ง “อานุภาพ” อย่างถึงที่สุด แล้วมักเก็บงำของนั้นไว้เป็นอย่างดี ไม่ใคร่ตกถึงมือใครง่ายๆ ดังเช่นของสิ่งอื่นทั่วไป เช่น หลวงพ่อพุธ ฐานิโย ยากที่ใครจะได้ตะกรุดธาตุหก, หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ ยากที่ใครจะได้พระพรหมผง และสำหรับหลวงปู่คำพัน




ใครจะเอาปฐวีธาตุก็ยากนัก คงเป็นเพราะท่านเหล่านั้นเกรงว่าผู้รับจะไม่รู้ถึงคุณค่าของของนั้น หรือไม่ก็กลัวผู้รับไปจะเปลี่ยนใจเป็นโจรในภายหลัง ซึ่งจะยากแก่การปราบปราม

                                                                        ผมก็เดาได้แค่นี้แหละ




ในศักดิ์สิทธิ์ฉบับก่อนโน้นที่เคยกล่าวถึงของป้องกันนิวเคลียร์ได้ มีหลายท่าน จ.ม. ไปถามผมว่ากันอย่างไรได้ระเบิดตกลงมาตรงหน้ายังกันได้หรือ? โถ ! ถ้าถึงขนาดนั้นอย่าว่าแต่คนแขวนเลย พระก็คงจะป่นนะครับ ที่ผมบอกว่าป้องกันได้นั้น หมายถึง กัน “กัมมันตภาพรังสี” ต่างหาก เป็นที่แน่ชัดว่าประเทศไทยไม่ถูกบอมบ์ด้วยนิวเคลียร์ดังเช่นที่ญี่ปุ่นเคยดอก แต่กัมมันตภาพรังสีที่ฟุ้งกระจายไปในชั้นบรรยากาศมันจะมากับอากาศที่หายใจกับเมฆ กับฝน และแม่น้ำ ลำธารต่างๆ ฝุ่นรังสีย่อมปนเปื้อนอยู่ทั่วไป มงคลวัตถุที่ท่านผู้ทรงคุณทั้งหลายเจริญภาวนาให้ จะมีอานุภาพทำลายกัมมันตภาพรังสีเหล่านั้นให้มีสภาวะเป็นกลาง ไม่เป็นพิษต่อร่างกาย

                                                                        ไม่ใช่ระเบิดตกลงหลังคาบ้านแล้วไม่ตายครับ

                                                                        นั่นเป็นความเชื่อของผมโดยส่วนตัว ใครจะเชื่อก็ไม่ว่า ใครไม่เชื่อก็ไม่ว่าเป็นของธรรมชาติอยู่แล้ว พระพุทธเจ้าตรัสสอนสัตว์โลกอยู่เป็นนาน คนเชื่อก็มีคนไม่เชื่อก็มี สำมะหาอะไรกับผม

                                                                        คนไม่เชื่อหยุดอ่านก่อนได้เพื่อความสบายใจ ส่วนคนเชื่อบ้างไม่เชื่อบ้างเชิญอ่านต่อไป เพราะผมจะเข้าเรื่องสำคัญ

ย้อนไปเมื่อสมัยท่านเจ้าคุณนรฯ ยังทรงสังขารอยู่ ท่านเคยปรารภว่า พระรูปเหมือนนั่งในใบโพธิ์ของท่านประสบความสำเร็จ (คือมีคนนิยมมาก) ต่อไปจะมีผู้สร้างพระใบโพธิ์อีกมากมายแต่ไม่ประสบความสำเร็จดังเช่นของท่าน




หากจะมีพระทางภาคอีสานรูปหนึ่ง ประสบความสำเร็จในพระรูปเหมือนใบโพธิ์เช่นของท่าน แต่พระรูปนั้นจะต้องอธิษฐานจิตปฐวีธาตุได้ด้วย

                                                                        ปรารภนี้เป็นที่น่าสนใจ ใครที่รู้ต่างก็ออกแสวงหาพระผู้เสกปฐวีธาตุเป็น คำว่า “เป็น” ของท่านคุณนรฯ คงหมายถึงทำได้มากจนแพร่หลายไปในหมู่ชนได้ ไม่ใช่ทำเพียงแค่ก้อนสองก้อนก็จบ

                                                                        หากันอยู่นาน ก็ระแคะระคายว่ามีพระทางจังหวัดนครพนมรูปหนึ่ง ท่านทำปฐวีธาตุได้ เอ ! หรือท่านจะ “รับมุข”ที่ท่านเจ้าคุณนรฯพูด ทว่า เมื่อเช็คกับผู้รู้ท่านหนึ่งท่านว่าพระเถระรูปนั้นทำปฐวีธาตุแจกศิษย์มาแต่ปี พ.ศ. 2495 ก่อนท่านเจ้าคุณนรฯ เสียอีก





                                                                        จึงออกสืบเสาะจนได้ความว่าเป็น หลวงปู่คำพัน โฆษปัญโญ

                                                                        หลวงปู่คำพันทราบถึงวิธีการอธิษฐานปฐวีธาตุได้อย่างไร มันมีที่มาอย่างนี้ครับ

                                                                        กลับไปหลายสิบปีก่อน ครั้งหลวงปู่คำพันยังเป็นพระหนุ่ม ๆ มีผู้เฒ่าที่ครอบครองตำราสำคัญอยู่ นัยว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งยวด ครั้นชายชราใกล้ถึงที่สุดแห่งอายุขัย ก็ได้สั่งกำชับบุตรชายว่า เมื่อพ่อตายแล้วจงเอาคัมภีร์เล่มนี้ไปมอบให้กับหลวงพ่อคำพันแต่เพียงรูปเดียวเท่านั้น

               
3#
 เจ้าของ| โพสต์ 2016-4-14 06:22 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
สั่งความได้ไม่นานก็ลาโลกนี้ไป บุตรชายก็ทำตามสั่งทุกประการ นำตำราไปมอบให้หลวงพ่อคำพัน เมื่อท่านเปิดอ่านก็ปรากฏว่าตัวอักษรในนั้น เป็น “ตัวธัมใหญ่” ทั้งหมดซึ่งถือว่าเป็นอักขระที่มีความศักดิ์สิทธิ์สูงสุด ใช้จารเฉพาะตำราชั้นสูงเท่านั้น

                                                                        เมื่ออ่านไปเรื่อยจึงทราบว่าหนังสือนั้นเป็นตำราที่ว่าด้วยการ “อธิษฐานปฐวีธาต” สามารถทำธาตุธรรมชาติธรรมดาให้มีอานุภาพ มีพลังงานขึ้นมาได้อย่างน่าอัศจรรย์

                                                                        ท่านจึงศึกษาวิธีการจนแตกฉาน จดจำได้ทุกขั้นตอน ในเวลาต่อมาก็มีพระภิกษุรูปหนึ่งมาขอตำรานั้นไป ท่านก็กรุณามอบให้ ทุกวันนี้ยังไม่ทราบว่าไปอยู่ที่ใคร

                                                                        หลวงปู่คำพันได้เมตตาอธิบายถึงคุณลักษณะของปฐวีธาตุที่ถูกต้องตามตำราทุกประการว่า ต้องเป็นกรวดที่แช่อยู่ในแหล่งน้ำธรรมชาติเท่านั้น จะอยู่บนบกไม่ได้ ตัวกรวดเมื่อเก็บขึ้นมาต้องมีลักษณะเดิมตามธรรมชาติของเขา จะบิ่น จะแตกหักหรือร้าวไม่ได้เลย

ที่สำคัญสุดยอด คือต้อง “โปร่งแสง” เท่านั้น

                                                                        คำว่าโปร่งแสงหมายถึง แสงสามารถลอดทะลุผ่านได้ ไม่ใช่โปร่งใส ถ้าโปร่งใสจะหมายถึงมองทะลุเห็นภาพอีกด้านได้ ซึ่งคงไม่มีกรวดชนิดใดเป็นเช่นนั้นแน่ หรือถ้ามีคงหายากสุดๆ

และด้วยคุณลักษณะเช่นนี้เองที่ทำให้ปฐวีธาตุของหลวงปู่คำพันเป็นของหายากที่สุด แม้ว่าทางวัดจะพยายามแก้ไขด้วยการนำกรวดจากแม่น้ำโขงชนิดขุ่นมาถวายท่านอธิษฐานแทนก็ตาม มันก็หาถูกต้องตามตำราบังคับไม่ หากท่านก็อนุโลมให้เป็นปฐวีธาตุได้เช่นกัน

                                                                        ผิดกับครูบาอาจารย์ท่านอื่นๆ เช่นท่านเจ้าคุณนรฯ ด้วยท่านมีข้อแม้กับปฐวีธาตุว่า ต้องอยู่ในอำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการเท่านั้น ส่วนจะใสหรือขุ่น จะใหญ่หรือเล็ก ท่านไม่เอามาเป็นประมาณ

                                                                        ผมเองก็เพิ่งทราบว่า ไม่เพียงท่านเจ้าคุณนรฯ หรือหลวงปู่คำพันเท่านั้นที่ทำปฐวีธาตุได้ พระมหาเถระผู้ทรงคุณสูงสุดคือ หลวงปู่ขาว อนาลโย วัดถ้ำกลองเพล อ.หนองบัวลำภู จ.อุดรธานี ก็ทำปฐวีธาตุ แต่ง่ายดายมาก ด้วยการให้ศิษย์เก็บเอากรวดที่ข้างกุฏิท่านนั่นแหละมาอธิษฐาน

                                                                        หาง่ายแต่หายาก

“หา” แรกง่าย เพราะเอากรวดข้างกุฏิไม่ต้องไปไกล “หา” หลังยาก เพราะของไม่มี คนอยากได้ก็ฝันไปก่อน รวมทั้งผม

ไม่เพียงหลวงปู่ขาวเท่านั้นที่ทำปฐวีธาตุ หลวงปู่ดูลย์ อตุโล วัดบูรพาราม อ.เมือง จ.สุรินทร์ ก็ทำ ทำจริงๆนะมีคนใกล้ชิดที่เชื่อถือได้ ได้รับจากมือหลวงปู่ดูลย์มาจริงๆ

                                                                        ก็น่าแปลกที่ท่านเหล่านั้นสามารถทราบได้ว่ากรวดธรรมดาหากกำหนดจิตให้เป็นของมีพลังงานด้วยกระบวนการทางจิตที่ซับซ้อนเกินปุถุชนจะเข้าถึงได้ละก็ ย่อมมีอานุภาพสุดจะประมาณ

ขนาดกันนิวเคลียร์ได้ก็แล้วกัน

                                                                        หลวงปู่คำพันบอกว่า ในตำราระบุไว้ว่าผู้จะอธิษฐานปฐวีธาตุได้นั้นต้องเป็นผู้เดินวิปัสสนาล้วน จะเป็นผู้เล่นทางสายวิชาคือคาถาอาคมไม่ได้เลย จึงหมดสงสัยว่าทำไมหลวงปู่ขาว หลวงปู่ดูลย์ก็ทำเป็น

                                                                        ปฐวีธาตุของครูบาอาจารย์องค์อื่น ผมไม่ทราบว่าท่านอธิษฐานจิตในการป้องกันอย่างไร แต่ของหลวงปู่คำพันท่านอธิษฐานว่า

                                                                        ให้ป้องกันภัยอันจะเกิดแต่ธรรมชาติก็ดี ภัยอันเกิดแต่มนุษย์ก็ดี กันได้ทั้งสิ้น กันภัยจากอาวุธยุทโธปกรณ์ทุกชนิดที่มีอยู่ในปัจจุบัน และที่จะมีขึ้นในอนาคต

                                                                        ท่านเรียกการอธิษฐานแบบนี้ว่า “เสกครอบลงไป”

การเสกแบบนี้ไม่เหมือนกับการเสกพระเครื่องทั่วไปของท่าน ท่านจึงย้ำว่า “ปฐวีธาตุนี้เป็นของที่ดีที่สุดเท่าที่มีอยู่”เหนือกว่าวัตถุมงคลทั้งปวงของท่าน

                                                                        ครั้งหนึ่งท่านพระอาจารย์เวทย์ อาจารย์สัมปันโน ศิษย์ก้นกุฏิของหลวงปู่คำพัน คิดหาปฐวีธาตุ ชนิดถูกต้องตามตำราทุกประการมาถวายหลวงปู่คำพันเสก จึงหาอาสาสมัครได้พระ เณร และญาติโยมจำนวนหนึ่ง ออกค้นหาปฐวีธาตุในลำน้ำโขง

                                                                        การตามล่าหาของดีในคราวนั้นเป็นความยุ่งยากลำบากเหลือแสน เพราะน้ำในแม่น้ำโขง เย็นยะเยียบ เมื่อลงแช่ไปนานๆ ก็เกิดหนาวสั่นจับไข้ไม่สบายกันถ้วนหน้า อีกทั้งกรวดที่ควานขึ้นมานับร้อยๆ ก้อนในแต่ละครั้ง จะมีใสตามตำราสักก้อนก็แสนยาก

                                                                        บางก้อนใสแจ๋วแต่บิ่นก็ต้องทิ้งไป เวลาทิ้งก็ต้องเอาไปทิ้งไกล ไม่อย่างนั้นเวลางมลงไปก็เจอก้อนเก่าอีก บางทีลุยป่าหญ้าเข้าไปหาในที่ที่ว่างเปล่า งมๆ อยู่เจ้าของที่ก็มาไล่เพราะเขาไม่รู้ว่ามาทำอะไรกันก็มี จึงเป็นความทุกข์สาหัสของผู้ออกหาจริงๆ ทีมล่าปฐวีธาตุดำเนินการอยู่นานนับเดือน ปรากฏปฐวีธาตุชนิดถูกแบบ 100 % ได้เพียง 200 กว่าก้อนเท่านั้น

เป็นของยืนยันว่าหายากแท้ๆ

                                                                        เมื่อนำปฐวีธาตุไปถวายหลวงปู่คำพันอธิษฐานจิตแล้ว คณะผู้ค้นหาก็เกิดความคิดขึ้นมาว่า ของดีขนาดนี้จะทำอย่างไรจึงสมควร ถ้าเพียงแต่เก็บงำเอาไว้กับคนบางคนก็จะตกอยู่แค่นั้น และต่อไปในกาลข้างหน้า ใครจะทราบไว้ว่ากรวดก้อนนี้คืออะไร ?

จึงตกลงใจสร้างรูปเหมือนหลวงปู่คำพัน ขนาด 3 นิ้วเศษๆ ด้วยเนื้อว่าน แล้วบรรจุของสำคัญสุดยอดนี้ลงไปเพื่อให้อยู่เป็นที่เป็นทาง และเพื่อเพิ่มความเป็นมหามงคลให้กับรูปเหมือน

พระรุ่นนี้สร้างในปี พ.ศ. 2538 มีจำนวนเพียง 227 องค์ เท่ากับจำนวนศีลของพระ รูปเหมือนทั้งหมดดำเนินการปลุกเสกแบบ “บินเดี่ยว” โดยหลวงปู่คำพันในอุโบสถโบราณของวัดแก่งตอย เป็นการเสกแบบเฉพาะเจาะจงลงไปสำหรับพระบูชา 3 นิ้ว, รูปเหมือนลอยองค์เนื้อว่าน ชนิดแขวนคอ รุ่น 2 และพระอุปคุตพันฤทธิ์ มีเรื่องแปลกอยู่ว่าขณะดำเนินการสร้างรูปเหมือนแบบบูชานี้อยู่ หลวงปู่คำพันก็ให้คนมาเอารูปเหมือนที่เสร็จก่อนเพื่อนไป 2 องค์ บอกว่าเพื่อเอาไปเสกก่อน แล้วมอบให้กับศิษย์คนสำคัญในวงการ 2 คน แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของพระรูปเหมือนรุ่นนี้ยิ่งนัก

เมื่อผู้เสกถูกใจ คงไม่ต้องคิดให้มากว่าจะดีวิเศษอย่างไร ผมเห็นปฐวีธาตุเป็นของที่ดีที่สุดอยู่แล้ว จะหาชนิดถูกแบบอย่างนี้ก็หายาก ในเมื่อมีบรรจุอยู่ในรูปเหมือนนี้ ก็ต้องคว้าไว้ก่อน

                                                                        ปัจจุบันรูปเหมือนแบบบูชารุ่นแรกยังพอมีเหลืออยู่ที่ท่านพระอาจารย์เวทย์เจ้าอาวาสวัดแก่งตอย จำนวนที่เหลืออยู่เข้าใจว่าราว 30 องค์ ทราบว่าทางวัดยังคงอัตราค่าบูชาไว้เท่าเดิม คือ 1,500 บาท ถ้าจะว่าแพงก็จงดูความละเอียดประณีตของงานก่อนเถิด ทั้งผง ทั้งเส้นเกศา ทั้งปฐวีธาตุชนิดถูกแบบล้วนมีอยู่ในพระรุ่นนี้อย่างสมบูรณ์ (บทความนี้เขียนไว้หลายปีแล้ว) ที่สำคัญ ราคานี้หลวงปู่คำพันเป็นผู้ตั้งเอง

                                                                        ปัจจัยทั้งหมดหาได้ตกอยู่กับใครไม่ แม้แต่หลวงปู่คำพันผู้เป็นองค์เสก แต่จะเป็นทุนในการบูรณะวัดแก่งตอย ซึ่งเป็นวัดร้างมาเนิ่นนานในอดีตให้กลับเจริญรุ่งเรืองใช้ประโยชน์ได้สมเป็นศาสนสถานในพระพุทธศาสนา

                                                                        ได้ทั้งของดี ได้ทั้งบุญ จะเอาอย่างไรอีก

                                                                        ใครคิดว่าจะบูชามาเพื่อแกะปฐวีธาตุออกแขวนผมก็ไม่ว่ากัน

                                                                        สมัยก่อนที่ คุณอำพล เจน อนุญาตให้บริเวณบ้านเป็นสนามลองพระอยู่นั้น ได้มีการหยิบยกเอาปฐวีธาตุของหลวงปู่คำพันชนิดไม่ถูกแบบมาทดสอบให้เห็นจริง โดยระบบ “ยิง” ซึ่งเป็นระบบพิสูจน์ให้เห็นจริงกันได้จะจะตา

                                                                        คุณอำพลไม่ได้เป็นคนยิง ผู้ยิงเป็นตำรวจแม่นปืน แต่แม่นปืนก็ยังไม่ชัวร์ จึงต้องเอาปืนจ่อปฐวีธาตุในระยะ “เผาขน”ปากกระบอกปืน ห่างจากปฐวีธาตุไม่เกิน 1 นิ้ว เรียกว่าใครดีใครอยู่

                                                                        ก่อนจะกดเปรี้ยงลงไป

ผลคือลูกปืนแฉลบผ่านองค์ธาตุไปได้อย่างน่าประหลาด ซึ่งในระยะจ่อยิงขนาดนั้น อย่าว่าแต่ปฐวีธาตุเลย ให้ยิงเด็ดหนวดยุงตัวผู้ก็คงไม่พลาด เป็นที่ประจักษ์ว่าคงอานุภาพด้านแคล้วคลาดกันภัยได้จริง

                                                                        แม้ว่าปฐวีธาตุก้อนนั้นจะเป็นชนิดไม่ต้องตามตำราก็ตาม
5#
 เจ้าของ| โพสต์ 2017-7-9 20:43 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้

แอบทราบมาว่า..อาจารย์ก็ทำไว้เหมือนกันนะ  
Sornpraram ตอบกลับเมื่อ 2017-7-9 20:43
แอบทราบมาว่า..อาจารย์ก็ทำไว้เหมือนกันนะ

ฝากบอกอาจารย์ด้วยครับ ว่าขอรับกลับบ้านครับ
7#
 เจ้าของ| โพสต์ 2017-7-10 08:13 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
oustayutt ตอบกลับเมื่อ 2017-7-9 21:02
ฝากบอกอาจารย์ด้วยครับ ว่าขอรับกลับบ้านครับ

8#
 เจ้าของ| โพสต์ 2017-8-4 07:07 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
คาถาบูชาปฐวีธาตุจุดธูป 7 ดอก

"นะโม 3 จบ"

"หิตะรา มันทิโล กะสิรา กะละลาสติ โสจะถิโห คะเนคะเน 3 จบ"
ปฐวีธาตุ
10#
 เจ้าของ| โพสต์ 2017-8-5 06:18 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้