ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

>> หลวงปู่หล้า อุตฺตโม วัดวังโพรงเข้ <<

[คัดลอกลิงก์]

กราบนมัสการหลวงปู่ครับผม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Sornpraram เมื่อ 2013-9-9 08:28

วัตถุมงคล
หลวงปู่หล้า อุตฺตโม (วาจาสิทธิ์)





         

หลวงปู่หล้า วาจาสิทธิ์ เทพเจ้าแห่งตำบลเกาะแก้ว แดนแห่งไกปืนเทียงในสมัยนั้น เพราะพื้นที่ส่วนใหญ่ยังเป็นป่าดงดิบมีทั้งเสือสิงห์กระทิงช้างและสัตว์นานาชนิด อาศัยอยู่มากมาย ในน้ำก็มีจระเข้ซึ่งเป็นสัตว์ใหญ่แห่งสายน้ำ ดังคำที่ว่าจระเข้เจ้าแห่งนที อินทรีเจ้าแห่งเวหา พยัคฆาเจ้าแห่งพงษ์ไพร ในเขตตำบลเกาะแก้วมีลำน้ำอันเกิดจากธรรมชาติอยู่สายหนึ่ง เรียกชื่อว่าลำน้ำห้วยใหญ่ ลำห้วยสายนี้มีวังลึกอยู่ที่หนึ่ง ชุมชนในย่านนี้ เรียกวังน้ำแห่งนี้ว่า วังโพรงตะเข้ เพราะมีจระเข้อาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก


           ประมาณปี พ.ศ.๒๕๔๐ มีผู้คนกลุ่มหนึ่งซึ่งอพยพมาจากตำบลสนามแจง อำเภอบ้านหมี่ มาตั้งรกรากประกอบสัมมาอาชีพ อยู่ข้างวังน้ำแห่งนี้ และตั้งชื่อชุมชนของตนเองว่า บ้านวังโพรงตะเข้ ต่อมาคำว่า ตะ หายไป ปัจจุบันจึงเรียกว่าวังโพรงเข้เท่านั้น เมื่อชุมชนใหญ่ขึ้นเป็นธรรมดาของชาวไทยที่นับถือพระพุทธศาสนา สิ่งที่เป็นฉัตรแก้วของชุมชน ก็คือวัดราวปี พ.ศ. ๒๔๕๐ ผู้นำชุมชน คือนายชื่น ได้เป็นผู้นำในการสร้างวัด และเรียกวัดตามชื่อของหมู่บ้าน เมื่อสร้างเสนาสนะบางส่วนสำเร็จแล้ว ก็ได้ไปนิมนต์พระจากวัดแห่งหนึ่ง ในตำบลสนามแจง อำเภอบ้านหมี่สองรูป ชื่อพระโฮม กับพระหนอมมาจำพรรษา วัดของชุมชนบ้านวังโพรงเข้ก็เจริญตามสภาพมาโดยลำดับ

           จนกระทั่งปี พ.ศ.๒๔๖๔ หลวงปู่หล้า อุตฺตโม ก็มาจำพรรษาเป็นเจ้าอาวาส จนมรณภาพเมื่อปี พ.ศ.๒๔๙๙
ดังกล่าวมาแล้วในฉบับก่อน



           หลวงปู่หล้าตอนที่ท่านมีชีวิตอยู่ ท่านเปรียบเสมือนเทพเจ้าของประชาชนชาวตำบลเกาะแก้ว เพราะในสมัยนั้นทางการแพทย์ยังเข้าไปไม่ถึง เมื่อยามเจ็บป่วยไข้ชาวบ้านในย่านนั้น ก็ได้อาศัยยาสมุนไพร น้ำมนต์ เวทมนต์หลวงปู่เป็นที่พึ่งแทนหมอ ซึ่งส่วนใหญ่เมื่อไม่ถึงที่ตายก็หายจากโรคภัยไข้เจ็บที่มาเบียดเบียนหลวงปู่จึงเป็นที่เคารพนับถือของชุมชนสำหรับเป็นที่พึ่งทางใจ


          ในยุคแรกหลวงปู่หล้าทำ ตะกรุดสามพันตึง แจกประชาชนเมื่อมีผู้ต้องการเป็นจำนวนมากจนหาโลหะทำตะกรุดไม่ทัน หลวงปู่จึงทำผ้ายันต์สามพันตึง ซึ้งวัตถุดิบหาง่ายกว่าแจกจ่าย จนพอเพียงแก่ความต้องการ ในปีต่อ ๆ มาเมื่อประชาชนต่างถิ่นได้ยินกิติศัพท์ของหลวงปู่หล้า และอภินิหารของตะกรุดสามพันตึง ประชาชนจึงพากันมาขอ หลวงปู่บอกว่าสร้างได้หนเดียว สร้างอีกไม่ได้ อาจารย์ห้าม แต่ผู้ที่ต้องการก็อ้อนวอนขอ หลวงปู่ทนอ้อนวอนไม่ได้ จึงสร้าง ตะกรุดหกพันตึง และ เก้าพันตึง แจกจ่ายตามลำดับ

อัพโหลด 2013-4-12 16:48
ดาวน์โหลด (84.18 KB)




          และต่อมาไม่ทราบปี พ.ศ. นายสำราญ เครือนิล ไม่ทราบยศตำแหน่งและปลัดแสวงไม่ทราบนามสกุล ได้รับคำสั่งจากเบื้องบน ให้มาปราบเสือขาวและสมุน นายร้อยสำราญ เครือนิล และปลัดแสวงได้นำไก่ฟ้าสีขาว มาถวายหลวงปู่คู่หนึ่ง และขอตะกรุดหลวงปุ่ พร้อมเล่าเรื่องที่เบื้องบนสั่งให้มาปราบเสือขาว ให้หลวงปู่ฟัง จึงมาขอของขลังไปคุ้มครองตัว หลวงปู่จึงทำ ตะกรุดโทนพญาไก่แก้ว ให้ท่านทั้งสอง และคนอื่น ๆอีกไม่ทราบจำนวน หลังจากได้ตะกรุด จากหลวงปู่ไปแล้วนาน นายร้อยสำราญ เครือนิล และ ปลัดแสวงพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ ก็ปะทะกับเสือขาวและสมุน ที่ป่าข้างคลองแห่งหนึ่งห่างจากตัวอำเภอโคกสำโรงไปทางทิศเหนือ ประมาณสามกิโลเมตร เสียงปืนการปะทะกันระหว่างขุนโจรกับเจ้าหน้าที่ดังสนั่นหวั่นไหวได้ยินไกลหลายกิโล ทั้งสองฝ่ายยิงต่อสู้กันประมาณ ๒๐ นาที ฝ่ายโจรก็ล่าถอย เมื่อเสียงปืนสงบลงเจ้าหน้าที่เข้าเคลียพื้นที่ ปรากฏว่าทั้งสองฝ่ายไม่มีใครเสียชีวิตและบาดเจ็บ เลือดสักหยดก็ไม่มีให้เห็นเมื่อข่าวการปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่บ้านเมืองและขุนโจรชื่อดัง แพร่สพัดไปว่าไม่มีใครเป็นอะไรและมา รู้ว่าทั้งสองฝ่ายต่างเคยมาเอาวัตถุมงคลจากหลวงปู่หล้า ผู้คนที่ทราบข่าวนี้ต่างแห่กันมาขอวัตถุมงคลจากหลวงปู่เป็นจำนวนมาก หลวงปู่จึงสร้าง ตะกรุดมหารูดพญาไก่แก้ว แจกจ่ายแต่ผู้ที่ต้องการตะกรุดมีมากแต่ตะกรุดทำได้ช้าจึงไม่ทันแก่ความต้องการ หลวงปู่จึงให้พระจำปีแกะพิมพ์พระขุนแผนด้วยหินลับมีดโกน และสร้าง พระขุนแผนประจัญบาน แจกจ่ายให้กับประชาชนที่ต้องการอย่างทั่วถึง


อัพโหลด 2013-4-12 16:48
ดาวน์โหลด (113.34 KB)



กราบนมัสการหลวงปู่ ครับผม
metha ตอบกลับเมื่อ 2013-9-26 09:06

แว่วข่าวมาว่า..วัดหลวงปู่โดนน้ำท่วม

ระดับน้ำสูงประมาณ 60 ซ.ม.ครับ

Sornpraram ตอบกลับเมื่อ 2013-9-26 09:10
แว่วข่าวมาว่า..วัดหลวงปู่โดนน้ำท่วม

ระดับน้ำสูงปร ...

เมื่อไหร่ครับ
หรือว่ากำลังท่วม
metha ตอบกลับเมื่อ 2013-9-27 16:15
เมื่อไหร่ครับ
หรือว่ากำลังท่วม

ท่วมจนแห้งไปแล้วครับ
Sornpraram ตอบกลับเมื่อ 2013-9-27 16:39
ท่วมจนแห้งไปแล้วครับ

         หลวงพี่หอมในบันทึกพระจำปี คือใคร ???

   
วันที่ ๗ เมถุน พระฤาหัดสะบอดี แรม ๑๕ ค่ำ ปีวอก อัดถะศก อะธิกามาด ๒๔๙๙ (วันพฤหัสบดีที่ ๗ มิถุนายน แรม ๑๔ ค่ำ ปีวอก อัฐศก มีอธิกามาส พ.ศ. ๒๔๙๙) เวลาบ่ายสามโมงเย็นเศษๆ หลวงพ่อก็สิ้นใจมรณะ ในเวลานั้นมีทั้งญาติโยมบ้านใกล้และไกลร้อยเกิน (กว่าร้อยคน) พระสงฆ์วัดต่างๆ อีกสามสิบสี่สิบรูปพากันมาดูใจหลวงพ่อ แทบจะทุกคนพากันร้องไห้ และในเวลานั้นเองไก่แก้วสองตัวที่นายร้อยสำราญและปลัดแสวงเอามาถวาย ก็บินขั้นมาตรงที่หลวงพ่อมรณะ มันขันตัวละสามที่ แล้วมันก็บินออกทางหน้าต่าง หายไปในป่าทางเหนือวัด ตั้งแต่วันนั้นมันก็ไม่กลับมาอีกเลย

            เวลาเกือบห้าโมงเย็น ผู้คนหลายร้อยก็ร่วมกัน อาบน้ำศพหลวงพ่อ มีหลวงพี่หอมกับนายร้อยสำราญ เป็นหัวหน้า (เป็นประธาน) และในเวลานั้นเองฝนก็ตกลงมาอย่างไม่มีเค้ามาก่อน  (ไม่มีเมฆหรือที่ท่าว่าจะตกมาก่อนหน้านี้) หลวงพี่หอมบอกว่าเทวดาร่วมสรงน้ำศพหลวงพ่อ ผู้คนได้ฟังอย่างนั้นก็พากันขนลุกขนชัน (ขนลุกด้วยอัศจรรย์ในปาฏิหาริย์) ฝนตกลงมาสองสามอึดใจก็หาย (ก็หยุด) พออาบน้ำเสร็จก็เปลี่ยนผ้าครองให้ท่านใหม่ ผ้าชุดที่หลวงพ่อใส่มรณา ทั้งพระทั้งโยมต่างแย่งกันจนวุ่นวาย หลวงพี่หอมจึงต้องให้พระช่วยกันตัดเป็นชื้นเล็กๆ  แจกให้ทั่วกันทุกๆ แล้วก็นำร่างไร้วิญญาณของหลวงพ่อใส่ในโรงไม้สักอย่างงามที่นายร้อยสำราญกับโยมกิมไล้ เตรียมไว้เป็นเดือนแล้ว แล้วก็เอาโลงศพไปตั้งสวดที่ศาลา

            หลังจากหลวงพ่อมรณาได้ ๕  วันปลัดแสวงจึงมาจากเมืองกรุง มาถึงก็ร้องไห้โฮแบบไม่อายใครทำให้คนอื่นที่เคยร้องไห้ไปก่อนแล้ว พากันร้องไห้ตามปลัดแสวงอีก ตลอดหกวันหกคืนมีผู้คนมางานศพหลวงพ่อวันคืนละหลายร้อยคน พระมาเกินกึ่งร้อยทุกวัน วันที่ ๑๓ เมถุน พุด ขึ้น ๖ ค่ำ ปีวอก อัดถะศก อะธิกามาด ๒๔๙๙ (...) เวลาบ่ายสองโมงเศษ  ก็ทำการเผาศพหลวงพ่อ ที่ลานวัดหน้ากุฏิ มีเจ้าคุณรามมาจากนพบุรี (ลพบุรี-พระเถระระดับจังหวัดในสมัยนั้น) เป็นหัวหน้าสงฆ์ หลวงบอวอนสัก นะอะโยธะยา (คนเดียวกันกับเจ้านายใหญ่ชื่อบวรศักดิ์ สุริยงค์ ณ อยุธยา) เป็นหัวหน้าฝ่ายโยม (ประธานฝ่ายฆราวาส) วันนั้นมีผู้คนมากมายจนแน่นลานวัดไปหมด คงใกล้จะกึ่งหมื่น (เกือบจะครึ่งหมื่น) พระสงฆ์อีกเกินร้อย กว่าผู้คนจะหมด ตะวันเกือบจะตกดิน จึงได้จุดไฟกองฟอน (เชิงตะกอน) เผาศพหลวงพ่อในตอนนั้นก็เหลืออยู่แต่หลวงพี่หอม ปลัดแสวง นายร้อยสำราญ โยมกิมไล้ พร้อมชาวบ้านอีกเกือบร้อยคน พอไฟไหม้โลงวอดไป ก็ต้องแปลกใจที่เห็นจีวร ห่มครองร่างหลวงพ่อไม่ยอมไหม้แล้วร่างหลวงพ่อจะไหม้หรือ... และในตอนนั้นเวลาใกล้จะสองทุ่มแล้ว ก็มีผู้หญิงขี่ม้าเข้ามาหานายร้อยสำราญกับปลัดแสวง

ผู้หญิงคนนั้นบอกว่าเสือขาวขออนุญาตเข้ามาคารวะศพหลวงพ่อ ปลัดแสวงกับนายร้อยสำราญมองหน้ากันแล้วก็บอกผู้หญิงคนนั้นให้เสือขาวเข้ามาได้ ผู้หญิงคนนั้นหายไปพักหนึ่งก็กลับเข้ามาพร้อมเสือขาวและสมุนอีกเกือบสิบคน พอมาถึงพากันคุกเข่ากราบศพหลวงพ่อที่ไปกำลังลุกไหม้อยู่พอกราบศพหลวงพ่อแล้วเสือขาวก็มาไหว้หลวงพี่หอม ไหว้ผม แล้วก็ไปไหว้ปลัดแสวงกับนายร้อยสำราญ แล้วขุนโจรกับเจ้าหน้าที่ทั้งสองก็จับมือกัน เสือขาวพูดว่า

          “ขอบคุณท่านทั้งสองที่ให้ผมได้มาคารวะพระอาจารย์ วันนี้เราเป็นศิษย์อาจารย์เดียวกัน วันต่อไปท่านเจอผมขอท่านทั้งสองจงปฏิบัติตามหน้าที่ของท่านเถิด อย่าได้คิดว่าเป็นศิษย์ร่วมอาจารย์เลย”

         แล้วเสือขาวพร้อมสมุนก็ขึ้นม้าลาจากไปกับความมืดผมรู้สึกชอบน้ำใจเสือขาว ที่มีสัมมาคารวะให้ความเคารพยำเกรงต่อเจ้าหน้าที่บ้านเมืองไม่เข้ามาโดยภาระการ ทั้งที่มีกำลังเหนือกว่าในเวลานั้น

         เมื่อสองสามปีที่ผ่านมามีข่าวว่าเสือขาวถูกเจ้าหน้าที่ยิงตายที่อะโยธะยา จึงไม่เป็นความจริง ตอนนั้นหลวงพ่อยังอยู่มีคนมาบอกว่าเสือขายตายแล้ว หลวงพ่อได้แต่หัวเราะ หึ ๆ แสดงว่าหลวงพ่อรู้แล้ว ว่าเสือขาวยังไม่ตายตามข่าวที่เขามาบอก แต่ตอนนั้นผมไม่เข้าใจที่หลวงพ่อหัวเราะ

          เมื่อเสือขาวพร้อมสมุนกลับไปแล้ว ก็หันมาดูร่างหลวงพ่อที่อยู่ในกองไฟ และไม่มีทีท่าว่าไฟจะไหม้ร่างหลวงพ่อเลย หลวงพี่หอมจึงขวนผมและโยมสำเภา (ลูกชายหลวงปู่หล้า) ไปจุดธูปบอกวิญญาณหลวงพ่ออย่าให้เป็นอย่างนี้เลย ปล่อยให้ไฟไหม้ร่างไปเถอะจะได้ไม่อุจาด เมื่อเราสามคนจุดธูปบอกวิญญาณหลวงพ่อแล้วก็มานั่งดูตามเดิม ดูอยู่พักใหญ่จนไฟสิ้นเปลว เหลือแต่ถ่านแดง ๆ ที่ยังลุกโพลงร้อนระอุอยู่ ก็ยังไม่มีทีท่าว่าร่างหลวงพ่อจะไหม้เลย ตอนนี้มีชาวบ้านออกมาดูกันเต็มไปหมด หลวงพี่หอมจึงชวนผม นายร้อยสำราญ ปลัดแสวง โยมสำเภา โยมกิมไล้ นายภา ทายกจำปา มานั่งปรึกษาหารือกันที่บนกุฏิว่าจะทำอย่างไรกันดีกับศพหลวงพ่อ ปลัดแสวงพูดว่าจะเก็บศพหลวงพ่อไว้ และจะไปซื้อโลงแก้วไร้อากาศ (สูญกาศ) มาใส่ศพหลวงพ่อเก็บไว้ หลวงพี่หอมไม่เห็นด้วย บอกว่าบ้านป่าเมืองดงเก็บไว้ก็ลำบาก จึงตกลงกันว่าพรุ่งนี้จะเอาบันไดแม่หม้ายมาทำฟืนเผาดูอีกที (วิธีล้างอาถรรพ์ ตามความเชื่อโบราณ)



        วันรุ่งขึ้นชาวบ้านก็ช่วยกันหาฟืนมาทำกองฟอน (เชิงตะกอน) เพื่อเผาร่างหลวงพ่ออีกเที่ยวหนึ่ง พอใกล้จะเพลก็พร้อมที่จะทำกองฟอนใหม่ ชาวบ้านและพระก็ช่วยกันยกร่างหลวงพ่อออกจากกกองขี้เถ้า เพื่อจะเอาฟืนเข้าไปวางทำกองฟอนในที่เดิม พอเข้าไปจับร่างหลวงพ่อผ้าจีวรที่ห่อร่างหลวงพ่ออยู่ ก็กรอบเป็นขี้เถ้าไปหมด จึงต้องเอาจีวรผืนใหม่มาห่อร่างหลวงพ่อไว้อีก ไม่วายที่ผู้คนจะแย่งเอาขี้เถ้าจีวรหลวงพ่อ รวมทั้งตัวผมด้วย พอทำกองฟอนเสร็จ ก็เอาบันไดโยมเป้ที่เป็นแม่หม้ายวางบนกองฟอน แล้วก็เอาร่างหลวงพ่อวางบนบันไดนั้น แล้วก็ทำพิธีจุดไปเผาโดยหลวงพี่หอมเป็นคนจุด เวลาผ่านไปกว่าชั่วโมงไฟลุกไหม้จนบันไดเป็นถ่านแดงจวนจะหมดแล้ว ร่างหลวงพ่อก็ยังอยู่เหมือนเดิม ถึงตอนนี้มีผู้คนบ้านอื่นมาดูกันเป็นจำนวนมาก เมื่อบันไดไม่สามารถล้างอาถรรพ์ได้ พ่อเฒ่าเหลี่ยมจึงให้พวกโยมผู้หญิง ที่เป็นแม่หม้ายไปเอาผ้าถุงมาคนละผืน เอามาแล้วก็เอาใส่ไฟลอบ ๆ กองฟอน โดยไม่ให้ถูกร่างหลวงพ่อ อึดใจเดียวไฟก็ไหม้ผ้าถุงหมด แต่ร่างหลวงพ่อยังอยู่เหมือนเดิม แม้แต่เส้นผมกับผ้าจีวรที่ห่มให้ใหม่ ก็ยังไม่ไหม้เหมือนเดิม จนใกล้จะห้าโมงเย็นกองฟอนก็เหลือแต่ขี้เถ้า ร่างหลวงพ่อยังอยู่เหมือนเดิม หลวงพี่หอมจึงตัดสินใจให้ฝังร่างหลวงพ่อไว้ที่ตรงเผานั้นเอง และก็ไม่มีใครขัด ชาวบ้านจึงช่วยกันขุดหลุม ใกล้จะสองทุ่มก็ขุดหลุมเสร็จ แล้วก็ทำพิธีฝังร่างหลวงพ่อไว้ตรงนั้น และตกลงกันว่าอีกสามปีจึงจะขุดเอากระดูก หลวงพ่อขึ้นมาทำบุญใส่ธาตุ (ใส่เจดีย์) ไว้บูชา พอวันรุ่งขึ้นชาวบ้านก็ออกมาร่วงกันทำบุญ ๗ วัน อุทิศส่วนกุศลไปให้หลวงพ่อตามประเพณี พอทำบุญเสร็จก็ช่วยกันทำรั้วล้อมตรงที่ฝังร่างหลวงพ่อไว้ แล้วก็เอาหญ้าแฝกและหญ้าแพรกมาปลูกที่หลุมศพหลวงพ่อตามประเพณีเช่นกัน


  
จากคำบอกเล่าจากผู้เฒ๋าคนแก่ ชาวบ้านวังโพรงเข้ ยืนยันว่า..

หลวงพี่หอมในบันทึกของพระจำปี ก็คือ..

หลวงพ่อหอม เขมิโย วัดหนองชนะชัย ลพบุรี




เมื่อกาลก่อนหอมพ่อหอมท่านเดินธุดงค์ ผ่านมาละแวกวัดวังโพรงเข้ สันเท้าของท่านแตก
เดินด้วยความทุกขเวทนาเป็นอย่างยิ่ง หลวงปู่หล้าท่านคงรู้ด้วย  สมาบัติ ฌาน
ท่านเลยสั่งญาติโยมในวัดเอาเกวียนออกไป รับหลวงพ่อหอม
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้