ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

>> หลวงปู่หล้า อุตฺตโม วัดวังโพรงเข้ <<

[คัดลอกลิงก์]
11#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-4-12 16:22 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
สิ้นแล้วร่มเงาไม้ใหญ่ แห่งโคกสำโรง



             วันที่ ๗ เมถุน พระฤาหัดสะบอดี แรม ๑๕ ค่ำ ปีวอก อัดถะศก อะธิกามาด ๒๔๙๙ (วันพฤหัสบดีที่ ๗ มิถุนายน แรม ๑๔ ค่ำ ปีวอก อัฐศก มีอธิกามาส พ.ศ. ๒๔๙๙) เวลาบ่ายสามโมงเย็นเศษๆ หลวงพ่อก็สิ้นใจมรณะ ในเวลานั้นมีทั้งญาติโยมบ้านใกล้และไกลร้อยเกิน (กว่าร้อยคน) พระสงฆ์วัดต่างๆ อีกสามสิบสี่สิบรูปพากันมาดูใจหลวงพ่อ แทบจะทุกคนพากันร้องไห้ และในเวลานั้นเองไก่แก้วสองตัวที่นายร้อยสำราญและปลัดแสวงเอามาถวาย ก็บินขั้นมาตรงที่หลวงพ่อมรณะ มันขันตัวละสามที่ แล้วมันก็บินออกทางหน้าต่าง หายไปในป่าทางเหนือวัด ตั้งแต่วันนั้นมันก็ไม่กลับมาอีกเลย

            เวลาเกือบห้าโมงเย็น ผู้คนหลายร้อยก็ร่วมกัน อาบน้ำศพหลวงพ่อ มีหลวงพี่หอมกับนายร้อยสำราญ เป็นหัวหน้า (เป็นประธาน) และในเวลานั้นเองฝนก็ตกลงมาอย่างไม่มีเค้ามาก่อน  (ไม่มีเมฆหรือที่ท่าว่าจะตกมาก่อนหน้านี้) หลวงพี่หอมบอกว่าเทวดาร่วมสรงน้ำศพหลวงพ่อ ผู้คนได้ฟังอย่างนั้นก็พากันขนลุกขนชัน (ขนลุกด้วยอัศจรรย์ในปาฏิหาริย์) ฝนตกลงมาสองสามอึดใจก็หาย (ก็หยุด) พออาบน้ำเสร็จก็เปลี่ยนผ้าครองให้ท่านใหม่ ผ้าชุดที่หลวงพ่อใส่มรณา ทั้งพระทั้งโยมต่างแย่งกันจนวุ่นวาย หลวงพ่อหอมจึงต้องให้พระช่วยกันตัดเป็นชื้นเล็กๆ  แจกให้ทั่วกันทุกๆ แล้วก็นำร่างไร้วิญญาณของหลวงพ่อใส่ในโรงไม้สักอย่างงามที่นายร้อยสำราญกับโยมกิมไล้ เตรียมไว้เป็นเดือนแล้ว แล้วก็เอาโลงศพไปตั้งสวดที่ศาลา

            หลังจากหลวงพ่อมรณาได้ ๕  วันปลัดแสวงจึงมาจากเมืองกรุง มาถึงก็ร้องไห้โฮแบบไม่อายใครทำให้คนอื่นที่เคยร้องไห้ไปก่อนแล้ว พากันร้องไห้ตามปลัดแสวงอีก ตลอดหกวันหกคืนมีผู้คนมางานศพหลวงพ่อวันคืนละหลายร้อยคน พระมาเกินกึ่งร้อยทุกวัน วันที่ ๑๓ เมถุน พุด ขึ้น ๖ ค่ำ ปีวอก อัดถะศก อะธิกามาด ๒๔๙๙ (...) เวลาบ่ายสองโมงเศษ  ก็ทำการเผาศพหลวงพ่อ ที่ลานวัดหน้ากุฏิ มีเจ้าคุณรามมาจากนพบุรี (ลพบุรี-พระเถระระดับจังหวัดในสมัยนั้น) เป็นหัวหน้าสงฆ์ หลวงบอวอนสัก นะอะโยธะยา (คนเดียวกันกับเจ้านายใหญ่ชื่อบวรศักดิ์ สุริยงค์ ณ อยุธยา) เป็นหัวหน้าฝ่ายโยม (ประธานฝ่ายฆราวาส) วันนั้นมีผู้คนมากมายจนแน่นลานวัดไปหมด คงใกล้จะกึ่งหมื่น (เกือบจะครึ่งหมื่น) พระสงฆ์อีกเกินร้อย กว่าผู้คนจะหมด ตะวันเกือบจะตกดิน จึงได้จุดไฟกองฟอน (เชิงตะกอน) เผาศพหลวงพ่อในตอนนั้นก็เหลืออยู่แต่หลวงพี่หอม ปลัดแสวง นายร้อยสำราญ โยมกิมไล้ พร้อมชาวบ้านอีกเกือบร้อยคน พอไฟไหม้โลงวอดไป ก็ต้องแปลกใจที่เห็นจีวร ห่มครองร่างหลวงพ่อไม่ยอมไหม้แล้วร่างหลวงพ่อจะไหม้หรือ... และในตอนนั้นเวลาใกล้จะสองทุ่มแล้ว ก็มีผู้หญิงขี่ม้าเข้ามาหานายร้อยสำราญกับปลัดแสวง

           ผู้หญิงคนนั้นบอกว่าเสือขาวขออนุญาตเข้ามาคารวะศพหลวงพ่อ ปลัดแสวงกับนายร้อยสำราญมองหน้ากันแล้วก็บอกผู้หญิงคนนั้นให้เสือขาวเข้ามาได้ ผู้หญิงคนนั้นหายไปพักหนึ่งก็กลับเข้ามาพร้อมเสือขาวและสมุนอีกเกือบสิบคน พอมาถึงพากันคุกเข่ากราบศพหลวงพ่อที่ไปกำลังลุกไหม้อยู่พอกราบศพหลวงพ่อแล้วเสือขาวก็มาไหว้หลวงพี่หอม ไหว้ผม แล้วก็ไปไหว้ปลัดแสวงกับนายร้อยสำราญ แล้วขุนโจรกับเจ้าหน้าที่ทั้งสองก็จับมือกัน เสือขาวพูดว่า

          “ขอบคุณท่านทั้งสองที่ให้ผมได้มาคารวะพระอาจารย์ วันนี้เราเป็นศิษย์อาจารย์เดียวกัน วันต่อไปท่านเจอผมขอท่านทั้งสองจงปฏิบัติตามหน้าที่ของท่านเถิด อย่าได้คิดว่าเป็นศิษย์ร่วมอาจารย์เลย”

         แล้วเสือขาวพร้อมสมุนก็ขึ้นม้าลาจากไปกับความมืดผมรู้สึกชอบน้ำใจเสือขาว ที่มีสัมมาคารวะให้ความเคารพยำเกรงต่อเจ้าหน้าที่บ้านเมืองไม่เข้ามาโดยภาระการ ทั้งที่มีกำลังเหนือกว่าในเวลานั้น

         เมื่อสองสามปีที่ผ่านมามีข่าวว่าเสือขาวถูกเจ้าหน้าที่ยิงตายที่อะโยธะยา จึงไม่เป็นความจริง ตอนนั้นหลวงพ่อยังอยู่มีคนมาบอกว่าเสือขายตายแล้ว หลวงพ่อได้แต่หัวเราะ หึ ๆ แสดงว่าหลวงพ่อรู้แล้ว ว่าเสือขาวยังไม่ตายตามข่าวที่เขามาบอก แต่ตอนนั้นผมไม่เข้าใจที่หลวงพ่อหัวเราะ

          เมื่อเสือขาวพร้อมสมุนกลับไปแล้ว ก็หันมาดูร่างหลวงพ่อที่อยู่ในกองไฟ และไม่มีทีท่าว่าไฟจะไหม้ร่างหลวงพ่อเลย หลวงพี่หอมจึงขวนผมและโยมสำเภา (ลูกชายหลวงปู่หล้า) ไปจุดธูปบอกวิญญาณหลวงพ่ออย่าให้เป็นอย่างนี้เลย ปล่อยให้ไฟไหม้ร่างไปเถอะจะได้ไม่อุจาด เมื่อเราสามคนจุดธูปบอกวิญญาณหลวงพ่อแล้วก็มานั่งดูตามเดิม ดูอยู่พักใหญ่จนไฟสิ้นเปลว เหลือแต่ถ่านแดง ๆ ที่ยังลุกโพลงร้อนระอุอยู่ ก็ยังไม่มีทีท่าว่าร่างหลวงพ่อจะไหม้เลย ตอนนี้มีชาวบ้านออกมาดูกันเต็มไปหมด หลวงพี่หอมจึงชวนผม นายร้อยสำราญ ปลัดแสวง โยมสำเภา โยมกิมไล้ นายภา ทายกจำปา มานั่งปรึกษาหารือกันที่บนกุฏิว่าจะทำอย่างไรกันดีกับศพหลวงพ่อ ปลัดแสวงพูดว่าจะเก็บศพหลวงพ่อไว้ และจะไปซื้อโลงแก้วไร้อากาศ (สูญกาศ) มาใส่ศพหลวงพ่อเก็บไว้ หลวงพี่หอมไม่เห็นด้วย บอกว่าบ้านป่าเมืองดงเก็บไว้ก็ลำบาก จึงตกลงกันว่าพรุ่งนี้จะเอาบันไดแม่หม้ายมาทำฟืนเผาดูอีกที (วิธีล้างอาถรรพ์ ตามความเชื่อโบราณ)



        วันรุ่งขึ้นชาวบ้านก็ช่วยกันหาฟืนมาทำกองฟอน (เชิงตะกอน) เพื่อเผาร่างหลวงพ่ออีกเที่ยวหนึ่ง พอใกล้จะเพลก็พร้อมที่จะทำกองฟอนใหม่ ชาวบ้านและพระก็ช่วยกันยกร่างหลวงพ่อออกจากกกองขี้เถ้า เพื่อจะเอาฟืนเข้าไปวางทำกองฟอนในที่เดิม พอเข้าไปจับร่างหลวงพ่อผ้าจีวรที่ห่อร่างหลวงพ่ออยู่ ก็กรอบเป็นขี้เถ้าไปหมด จึงต้องเอาจีวรผืนใหม่มาห่อร่างหลวงพ่อไว้อีก ไม่วายที่ผู้คนจะแย่งเอาขี้เถ้าจีวรหลวงพ่อ รวมทั้งตัวผมด้วย พอทำกองฟอนเสร็จ ก็เอาบันไดโยมเป้ที่เป็นแม่หม้ายวางบนกองฟอน แล้วก็เอาร่างหลวงพ่อวางบนบันไดนั้น แล้วก็ทำพิธีจุดไปเผาโดยหลวงพี่หอมเป็นคนจุด เวลาผ่านไปกว่าชั่วโมงไฟลุกไหม้จนบันไดเป็นถ่านแดงจวนจะหมดแล้ว ร่างหลวงพ่อก็ยังอยู่เหมือนเดิม ถึงตอนนี้มีผู้คนบ้านอื่นมาดูกันเป็นจำนวนมาก เมื่อบันไดไม่สามารถล้างอาถรรพ์ได้ พ่อเฒ่าเหลี่ยมจึงให้พวกโยมผู้หญิง ที่เป็นแม่หม้ายไปเอาผ้าถุงมาคนละผืน เอามาแล้วก็เอาใส่ไฟลอบ ๆ กองฟอน โดยไม่ให้ถูกร่างหลวงพ่อ อึดใจเดียวไฟก็ไหม้ผ้าถุงหมด แต่ร่างหลวงพ่อยังอยู่เหมือนเดิม แม้แต่เส้นผมกับผ้าจีวรที่ห่มให้ใหม่ ก็ยังไม่ไหม้เหมือนเดิม จนใกล้จะห้าโมงเย็นกองฟอนก็เหลือแต่ขี้เถ้า ร่างหลวงพ่อยังอยู่เหมือนเดิม หลวงพี่หอมจึงตัดสินใจให้ฝังร่างหลวงพ่อไว้ที่ตรงเผานั้นเอง และก็ไม่มีใครขัด ชาวบ้านจึงช่วยกันขุดหลุม ใกล้จะสองทุ่มก็ขุดหลุมเสร็จ แล้วก็ทำพิธีฝังร่างหลวงพ่อไว้ตรงนั้น และตกลงกันว่าอีกสามปีจึงจะขุดเอากระดูก หลวงพ่อขึ้นมาทำบุญใส่ธาตุ (ใส่เจดีย์) ไว้บูชา พอวันรุ่งขึ้นชาวบ้านก็ออกมาร่วงกันทำบุญ ๗ วัน อุทิศส่วนกุศลไปให้หลวงพ่อตามประเพณี พอทำบุญเสร็จก็ช่วยกันทำรั้วล้อมตรงที่ฝังร่างหลวงพ่อไว้ แล้วก็เอาหญ้าแฝกและหญ้าแพรกมาปลูกที่หลุมศพหลวงพ่อตามประเพณีเช่นกัน

ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
12#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-4-12 16:28 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
พระคาถามหาเย็น
หลวงปู่หล้า วัดวังโพรงเข้ จ.ลพบุรี



พุทธังเย็นจิต ธัมมังเย็นใจ สังฆังเย็นทั้งภายนอกภายใน  นะมะพะทะ
พุทธังคุม ธัมมังคุม สังฆังคุม สาระพัดคุ้มครอง  มะพะทะนะ
สัพพะอักขระคาถา อยู่ในเสมานาแห่ง พุทธะคุณณัง ธัมมัคุณัง สังฆะคุณัง  พะทะนะมะ
นะเย็น โมเย็น พุทเย็น ธาเย็น ยะเย็น ทะนะมะพะ สวาหะ

13#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-4-12 16:32 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ขุนแผนไก่แก่แม่ปลาช่อน



ขุน     ไก่แก่ชาญเชี่ยวด้วย  เชิงชัย

แผน    ปลาช่อนหลายขวบขัย  แก่กล้า

ไก่     กุ๊กเหยื่อยซ่อนความนัย  ราคะ

แม่     สาวใหญ่ดูทีช้า  เล่ห์นั้นมากหลาย

ปลา     กาลกัดกินสบจิต  ปรารถนา

ช่อน    ร้อยมายาพันเล่ห์  แสนกลลวง



ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
14#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-4-12 16:43 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
หลวงปู่หล้า พระเกจิผู้มีพลังจิตล้ำลึก
หลวงพ่อเดิมท่านยังยอมรับในพลังจิตของหลวงปู่หล้า
ทั้งๆที่ไม่เคยเห็นหน้ากัน !!




ครั้งหนึ่งคราวกาลก่อนนั้น หลวงพ่อเดิมท่านได้รับนิมนต์มาปลุกเสกวัตถุมงคล

ณ.วัดแห่งหนึ่ง ใน จ.ลพบุรี

เป็นที่ทราบดีว่าชื่อเสียงหลวงพ่อเดิมในยุคนั้นท่านโด่งดังมาก



  หลวงปู่หล้า..ท่านได้ให้คนในวังโพรงเข้

นำเทียน(เล่มเล็กที่จุดบูชาพระ)ไปถวายให้หลวงพ่อเดิม

เมื่อเดินทางไปถึงจึงรอเวลา เพราะช่วงหลวงพ่อเดิม ท่านพุทธาภิเษก

แล้วเสร็จ จะมีผู้คนห้อมล้อมกราบนมัสการและขอของดีจากท่านมากมาย

จนผู้คาเริ่มจะบางตา จึงเร่งนำเทียนไปถวายท่าน

และเมื่อหลวงพ่อเดิม ท่านรับเทียน จากชายดังกล่าว

ท่านก็มอบให้ผ้าไตรจีวร ให้กลับมา และไม่ได้กล่าวอะไรอีก

การสื่อสารของพระอริยะ มันเป็นเรื่อง อจินไตย

อย่างเมื่อครั้งหลวงปู่สาม วัดป่าไตรวิเวกฯ ท่านเดินทางไปเยี่ยม

หลวงปู่ดุลย์ อตุโล ตอนที่ท่านอาพาธ เมื่อเดินทางไปถึงท่านนั่ง

สงบนิ่งอยู่หน้าห้องชั่วระยะเวลาหนึ่ง แล้วท่านก็กราบหลวงปู่ดุลย์อยู่ที่หน้าห้อง

แล้วท่านก็เดินทางกลับ และเมื่อมีคนถามท่านว่า หลวงปู่ทำไมไม่เข้าไปสนธนา

กับหลวงปู่ดุลย์  ท่านตอบว่าเราพูดคุยกับท่านเสร็จแล้ว  !!!!


อย่างกรณี หลวงพ่อเดิม กับ หลวงปู่หล้า ท่านคงจะมีการสื่อสารกันแล้ว

คนเก่าแก่แถววัดวังโพรงเข้ ต่างยืนยันตรงกันว่าหลวงปู่หล้าท่านไม่เคยพบกับ

หลวงพ่อเดิม และไม่มีการติดต่อสื่อสารกันมาก่อนแต่อย่างไร

นั้นเป็นเรื่องของทางโลก แต่ทางจิตวิญญาน ทางอาจจะสนิทสนมกันมาก

เกินกว่ามนุษย์ปุถุชนคนเดินดินอย่างเราจะหยั้งลึก ที่จะเข้าใจ

หลวงพ่อเดิมท่านคงยอมรับในคุณวิเศษ แห่งองค์หลวงปู่หล้า

ท่านจึงได้มอบถวายผ้าไตรจีวรมาให้ท่าน



ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
15#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-4-12 16:46 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
หลวงปู่หล้า วาจาสิทธิ์
เกินครึ่งศตวรรษมาแล้ว
วาจาสิทธิ์ของท่าน
ก็ยังคงแสดงปฎิหารย์ให้เห็นอยู่เสมอ



เชื่อหรือไม่!! ที่โบสถ์วัดวังโพรงเข้
ไม่มีนกมาเกาะที่หลังคาโบสถ์
เกินครึ่งศตวรรษมาแล้ว !!
ทั้งๆที่วัดข้างๆห่างไปไม่ถึงกิโลดี
กลับมีนกเกาะอยู่เต็มหลังคาโบสถ์
เหมือนเช่นทุกวัดทั่วไป

ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
16#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-4-12 16:53 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ตะกรุดมหาทมื่น

หลวงปู่หล้า อุตฺตโม วัดวังโพรงเข้
ท่านสร้างบูชาครูเพียง 9 ดอก







คาถาโองการมหาทมื่น



โอม นะ โม พุท ธา ยะ

กูจะกล่าวกำเนิดเกิดพระมหาทมื่น กูจะโยนตัวกูขึ้นไปเป็นกงไม้ไร่ ก็หักแหลกลงเป็นผุยผงทั่วทั้งเมืองสกลชมพู
กูจะลำลึกถุงครูกูใครจะสู้กูก็บ่มิได้ ครูกูจึงให้กูเล่า พระคาถาพุทธังสรณังคัจฉามิ ธัมมังสรณังคัจฉามิ
สังฆังสะระณังคัจฉามิ ภะคะวาไชยมังคะลัง อะระหัง สุคะโต นะโมพุทธายะวันทานัง ปาสุอุชา อิสะปะมิ
พุทธสังมิ อิสวาสุ นะมะอะอุ อิกะวิติ วิสุทธิเสฐโฐ อะสังวิสุโลปุสะพุภะ อะระหังสุคะโตภะคะวา
สังวิธาปุกะยะปะ อาปามะจุปะ ทีมะสังอังขุ ทุสะมะนิ สะธะวิปิปะสะอุ ทุสะนะโส จิเจรุนิ ตันนิพพุทติง
นะมะนะอะ นอกอนะกะ กออนออะ นะอะกะอัง ตัถถะนะถะ อุมะอะยัง จิปิเสคิ คิเสปิจิ กันหะเนหะ นิระมหาสะตัง
จะภะกะสะ นะมะพะทะ กะระมะถะ จะอะภะคะ นะมะกะยะ สุสิโมพุทโธภะคะวา สุสิโมธัมโมภะคะวา สุสิโมสังโฆภะคะวา
โลกะนาโถมหิทธิโก นาสังสิโม ยะถาพะลังจังงังเหยหาย เดชะครูปัทธิยายจึงให้เป็นกำแพงเพชรทั้ง 7
ชั้นกันตนกู คือ พระวิภังค์พระสังฆณีพระปรมัตถะอัตถาจาริย์เจ้าจึงให้คงแก่หอกดาบแหลนหลาว
ธนูง้าวทั้งหน้าไม้ปืนไฟอย่าได้ต้องตนกู

เพชชะคงแก่ หอกเหล็ก หอกหล่อ หอกข้อเงิน หอกข้อทอง หอกสำริดกริชทองแดงคงแก่แสงฟ้าผ่า คงทั้งข้างซ้าย
คงทั้งข้างขวา คงทั้งข้างหน้า คงทั้งข้างหลัง คงทั้งนั้ งคงทั้งยืน คงทั้งหลับ คงทั้งตื่น คงทั้งกลางคืน คงทั้งกลางวันตรีเพชชะคงๆสวาหะ
โอมเอิกเกริกไตรภพตลบบาดาลเหาะทยานบนอากาศหมู่อสูรขยาดมืดมัวกลัวกูอยู่ระย่อฤาษีเล้นซุกซ้อนนอนหลับอยู่ก
ลางป่า ทั้งขโมดมารยาเหาะทยานมา ช่วยกูหนุมานหลานพระไวยบุตรสัปปะยุทธ ด้วยอินทรชิตประสิทธิสรรพางค์ล้างมารมัดตนได
้เอาไปถวายแก่ราพย์เจ้ากรุงลงกาหมู่อสูรยักษาจะฆ่ากูก็บ่มิตาย ด้วยเดชะพระนารายณ์ จุติลงมาบังเกิด
นะโมพุทธายะ ตรีเพชชะคงๆ อิติปิโสภะคะวา เกศาผม อยู่ทั้วในกายตนกูคงตรีเพชชะคงๆ อิติปิโสภะคะวา
โลมาขนอยู่ทั้วในกายตนกูคงตรีเพชชะคงๆ อิติปิโสภะคะวา นะขาเล็บ อยู่ทั้วในกายตนกูคงตรีเพชชะคงๆ
อิติปิโสภะคะวา ทันตาฟัน อยู่ทั้วในกายตนกูคงตรีเพชชะคงๆ อิติปิโสภะคะวา ตะโจหนัง
อยู่ทั้วในกายตนกูคงตรีเพชชะคงๆ อิติปิโสภะคะวา มังสังเนื้อ อยู่ทั้วในกายตนกูคงตรีเพชชะคงๆ
อิติปิโสภะคะวานหารูเอ็น อยู่ทั้วในกายตนกูคงตรีเพชชะคงๆ อิติปิโสภะคะวา อัตถิกระดูก
อยู่ทั้วในกายตนกูคงตรีเพชชะคงๆ คงด้วยนะโมพุทธายะ พุทธังรักษา ธัมมังรักษา สังฆังรักษา บิดารักษา
มารดารักษา พระอินทรักษา พระพรหมรักษา ครูบาอาจารย์รักษา อิมังกายะพันธะนังอะธิฏฐามิ




คาถาโองการมหาทมื่น : คาถาโองการมหาทมื่น เป็นพระคาถาโบราณ ภาวนาด้วยจิตที่เป็นสมาธิ
จะเป็นคงกระพันชาตรียิ่งนัก จะใช้ปลุกเสกเครื่องรางของขลัง เสกข้าวกิน เสกได้สารพัดแล

ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
17#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-4-12 16:55 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ตะกรุดพญาไก่แก้วมหารูดสยบกระสุนคต






ธนูสั่ง ธนูกระสุนคดก็ว่า เป็นธนูที่ใช้กระสนดินเหนียว ปั้นเป็นเม็ดกลมๆแล้วตากแห้ง

ธนูนี้ลักษณะเป็นอย่างธนูทั่วไป ผิดกันแต่ได้รับการปลุกเสกด้วยเวทมนตร์คาถา

เชื่อว่าสามารถบังคับให้ลูกธนูไปถูกฝ่ายตรงกันข้ามส่วนไหนก็ได้ และที่พิสดาร

คือลูกธนูลูกเดียว สามารถบังคับให้ไปถูกคนหลายๆคนได้โดยไม่จำกัดทิศทาง

จึงเรียกกันว่าธนูสั่ง หรือธนูกระสุนคด

ลูกกระสุนคดบ้างตำราต้องใช้ดิน 7 โป่ง 7ป่าช้า ฯลฯ มาปั้นลูกกระสุน

ถ้ายิงออกไปสั่งเป็นสั่งตายได้ ตามปราถนา


  วิชาคันธนูหรือคันกระสุนนี้ ถูกถ่ายทอดกันมาแต่โบราณคณาจารย์รุ่นเก่าๆ

ที่ท่านขมังเวท มักจะสำเร็จวิชาขมังธนูนี้ด้วย  แต่เดิมนั้น

เชื่อว่าวิชานี้คงใช้ประโยชน์ในการศึกษาสงครามมากกว่าเพราะขุนพลนักรบ

โบราณต้องเชี่ยวชาญตำรับพิชัยสงคราม และชำนาญพระเวททั้งนั้น

คงต้องเรียนรู้วิชาขมังธนูนี้เพื่อการศึกเป็นแม่นมั่น  ต่อมาภายหลัง

ความจำเป็นที่จะต้องใช้วิชานี้ลดน้อยลง และคณาจารย์รุ่นเก่าๆ

ก็ล้มหายตายจากไป  วิชานี้จึงสูญเสียการถ่ายทอดไป

เป็นวิชาที่มีอานุภาพร้ายกล้ากว่าอาวุธใดๆในโลกนี้



กาลก่อน พ.ศ.2496


ประจันแดง (ประจัน=ทิด) จอมขมังเวทย์แห่งหนองชนะชัย นักเลงสมัยนั้น

ถ้าได้ยินชื่อประจันแดงต้องหัวหดกันเป็นทิวแถว

ด้วยแกล้งกลัวบารมีและอาคมอันแก่กล้า ของประจันแดง

ประจันแดงเป็นคนร่างใหญ่ ท่านเป็นคนอีสาน ได้บวชเรียนและ

ศึกษาเวทวิทยาคมมาก่อนและได้ธุดงค์มาอยู่วัดแถวหนองชนะชัย ลพบุรี

ต่อมาท่านได้สึกมีครอบครัวและตั้งรกราก

อยู่แถวหนองชนะชัย ท่านเป็นคนหนึ่งที่สำเร็จวิชากระสุรคด อย่างเอกอุ

มีเหตุการณ์ครั้งหนึ่งสมควรบันทึกไว้ในวีรกรรมของ วิชากระสุนคด แห่ง..ประจันแดง



ครั้งหนึ่ง..



ตำรวจอำเภอโคกสำโรงจะยกกำลังมาจับกุม ประจันแดง

(ด้วยเหตุอันใดเกล้ากระหม่อนก็มิทราบ) ขณะที่กำลังจะยกกองกำลังเดินลงจากโรงพัก

ทันใดนั้น...ลูกกระสุนคดก็กระทบเข้าหน้าของ..

ตำรวจ ทุกท่านท่านพร้อมกัน เป็นเหตุให้ตำรวจโคกสำโรงสมัยนั้นไม่มีใครกล้า

ที่จะยกกำลังไปปราบปรามจับกุมประจันแดงแม้นแต่งสักคนเดียว

"ด้วยแกล้งกลัวอิทธิฤทธิ์ของประจันแดง"

เป็นความมหัศจรรย์ของวิชากระสุนคดทั้งๆที่บ้านของประจันแดงห่างจาก

โรงพักกว่า 5 กิโลเมตร แต่งกระสุนอาคมสามารถยิงไปถึงอย่างน่าทึ่ง

ทำให้ผมนึกย้อนกลับไปถึงศาสตร์ธนูอาคมของ "พระราม"

น่าจะมีอยู่จริงๆ นิทาน หรือละครที่ยิ่งใหญ่ ส่วนมากแล้วจะจำลองเหตุการณ์ประวัติศาสตร์

ของวีรบุรุษบรรพชนมาจากเรื่องจริง แต่มีการแต่งเติมของ

นักเขียนจากเรื่องจริง จนกลายเป็นนิทานสมบูรณ์แบบ 100%

ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
กราบนมัสการหลวงปู่ครับ
19#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-4-15 00:18 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
เสือยังส่ายหน้า
เมื่อเจอกับ
ขุนแผนประจันบาน



เรื่องราวมันเกิดขึ้นในยุคอันธพาลครองเมือง
สมัยนั้นป่ายังคงเป็นป่าที่ยังมีความอุดมสมบูรณ์
สรรพสัตว์ที่อาศัยอยู่ในป่าทั้งหมี เสือ จระเข้ ก็ยังมีอยู่มากมาย

เรื่องราวมันมีอยู่ว่า ......
นายสมบูรณ์ มีอาชีพเป็นนายพราน มักจะเข้าป่า หาของป่ามาขายอยู่เสมอ
เย็นค่ำของวันหนึ่ง นายสมบูรณ์เข้าป่าไปทางทิศเหนือจากวัดวังโพรงเข้อยู่ราว 3 กิโลเมตร
พร้อมกับสุนัขแสนรู้ คู่ใจ จุดประสงค์ในวันนั้นนายสมบูรณ์จะไปจับปลาจับเต่าตามคูคลอง มากิน มาขาย

ขณะที่นายสมบูรณ์กำลังซุ่มหาปลาหาเต่าอยู่นั้น ก็มีเหตุการณ์ที่ไม่คลาดฝันเกิดขึ้น
.............................
เสือโคร่งตัวหนึ่ง ที่กำลังซุ่มโจมตีนายสมบูรณ์เช่นกันก็โจนทะยาน พุ่งเข้าหาอย่างรวดเร็ว
และ ตบมีดพร้าในกำมือนายสมบูรณ์ กระเด็นไปไกล
นายสมบูรณ์ไร้อาวุธต่อสู้ เหลือเพียงแค่มือเท้าเปล่า ที่จะใช้ยื้อชีวิต
..............................

มือเปล่า กับ เสือโคร่งตัวใหญ่
จะรอดได้ไงเนี่ย ?? พรานสมบูรณ์

...............................................



ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
กราบนมัสการหลวงปู่ครับ
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้