ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

ว่าน

[คัดลอกลิงก์]
21#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-1-17 09:44 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ว่านนางกวักใบโพธิ์
ลักษณะทั่วไปลักษณะใบดั่งใบโพธิ์ แตกกอกลมเหมือนบอน ก้านใบกลม ส่วนที่ติดกับหัวมีลักษณะเป็นกาบ ก้านใบและใบสีเขียว หัวเป็นแท่งกลมสีน้ำตาล เมื่อมีอายุมาก ๆ จึงจะเห็นหัวโผล่ขึ้นมาเหนือดิน ดอกคล้ายดอกจำปีตูม

การปลูกควรปลูกด้วยดินปนทราย

การขยายพันธุ์โดยการแยกหน่อ

ความเป็นมงคลมีสรรพคุณทางมหานิยม เหมาะแก่ร้านค้าขายจะหามาปลูกเลี้ยงไว้หน้าร้าน ช่วยกวักเรียกลูกค้าให้มาอุดหนุน
22#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-1-17 09:52 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ว่านกวักโพธิ์เงิน
ลักษณะทั่วไปว่านกวักโพธิ์เงิน มีลักษณะเป็นกอเหมือนบอน ก้านใบกลมสีเขียวใบรูปหัวใจ ปลายใบแหลม โคนใบมนเว้าน้อยๆ พื้นใบสีเขียว เส้นกลางใบสีขาว เส้นใบสีขาว มีหัวขนาดเล็กอยู่ใต้ดิน

การปลูกควรปลูกว่านกวักโพธิ์เงินด้วยดินปนทราย จัดวางกระถางว่านให้ได้รับแสงแดดรำไร ก้านใบจะแข็งแรงตั้งตรง หากอยู่แต่ในที่ร่มจะทำให้ก้านใบอ่อนไม่ตั้งตรง กอว่านจะไม่สวยงาม

การขยายพันธุ์โดยการแยกหน่อ

ความเป็นมงคลสรรพคุณเป็นว่านเสน่ห์เมตตามหานิยม ปลูกเลี้ยงไว้ในบริเวณร้านค้าขายจะทำมาค้าขึ้น ปลูกไว้บริเวณบ้านจะมีแต่ผู้นำลาภยศมาให้



ที่มา http://www.panmai.com/Warn/Warn_ARACEA_11.shtml


23#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-1-17 09:59 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้

ว่านกวักทองคำ

ชื่ออื่นๆกวักแม่ทองคำ

ลักษณะทั่วไปเป็นไม้ที่มีลำต้นสูงประมาณ 50-100 ซม. ลำต้นสีเขียวอ่อน แตกกิ่งก้านสาขาออกขึ้นไปเรื่อยๆ เป็นก้านของใบ ใบเป็นรูปใบพาย ปลายใบแหลม โคมใบมน ใบยาวประมาณ 30 ซม. พื้นใบสีเขียวเข้มมัน มีสีเขียวอ่อนเป็นลายเล็กๆ ทาบไปตามเส้นใบ ก้านใบมีสีชมพู แต่ถ้าไม่สมบูรณ์จะเป็นสีชมพูจางหรือเป็นสีขาว

การปลูกควรปลูกว่านด้วยดินร่วน จัดวางกระถางว่านให้ได้รับแสงแดดรำไรและมีความชื้นสูง

การขยายพันธุ์โดยการแยกหน่อ

ความเป็นมงคลเชื่อกันว่าเป็นว่านสิริมงคล ว่านแห่งโชคลาภ ปลูกเลี้ยงไว้ในบริเวณร้านค้าขายจะทำมาค้าขึ้น เงินทองไหลมาเทมา



ที่มา http://www.panmai.com/Warn
24#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-1-17 10:07 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้

ว่านเจ้าน้อยมหาพรหม
ชื่ออื่นๆว่านพญาค่าง

ลักษณะทั่วไปว่านเจ้าน้อยมหาพรหม เป็นว่านที่มีหัวยาวกลมตรง (ลำต้น) สีเขียว ก้านใบยาวสีเขียว ใบรูปใบพายสีเขียว โคนใบมนปลายใบเรียวแหลม โคนก้านใบและลำต้นมีลายเล็กน้อย

การปลูกควรปลูกด้วยดินร่วนหรือดินปนทราย เป็นว่านชอบน้ำ ควรวางกระถางว่านให้ถูกแสงแดดเพียงรำไร

การขยายพันธุ์โดยการแยกหน่อ

ความเป็นมงคลสรรพคุณเป็นว่านอยู่ยงคงกระพัน โดยตัดลำต้นหรือหัวว่านเป็นชิ้นเล็ก ๆ พอกลืนได้ ห่อหุ้มด้วยมะขามเปียกก่อนแล้วจึงกลืน ระวังอย่าให้ยางของว่านถูกลิ้นได้ลิ้นจะแข็งพูดไม่ออก ยางหากถูกมือหรือผิวหนังส่วนอื่นก็คันได้เช่นกัน



ที่มา http://www.panmai.com/Warn
25#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-1-17 10:12 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ว่านเงินไหลมา

ลักษณะทั่วไปเงินไหลมาเป็นพรรณไม้เลื้อยที่มีเถายาว ลำต้นมีความยาวประมาณ 10-20 เมตร มีลำต้นกลมสีเขียว ผิดลำต้นเกลี้ยงเป็นข้อห่างๆ และมีรากออกตามข้อลำต้นแต่ละข้อจะมีกาบใบหุ้มอยู่ใบเดียวออกตามข้อสลับกันซึ่งมีก้านใบยาวประมาณ 10-15 เซนติเมตร ใบเป็นแฉกประมาณ 5 แฉก ขนาดใบกว้างประมาณ 3-5 เซนติเมตร ยาวประมาณ 10-15 เซนติเมตร ใบเป็นแฉกลึกเข้าหาโคนใบ ส่วนปลายใบเรียวแหลม พื้นใบมีสีเขียว และมีสีเหลืองปนอยู่ที่บริเวณลยเส้นใบเล็กน้อยถ้ามีอายุมากจะออกดอกตรงส่วนยอดลักษณะดอกคล้ายกับดอกของบอน

การปลูกการปลูกในกระถางเพื่อใช้ประดับภายในและภายนอกอาคาร ใช้กระถางทรงสูง ขนาด 10-16 นิ้ว ใช้ปุ๋ยคอก แกลบ ขุยมะพร้าว และดินร่วน อย่างละหนึ่งส่วน ผสมดินปลูก ใช้ไม้หลักที่หุ้มด้วยกาบมะพร้าวปักไว้ตรงกลางกระถางเพื่อเป็นที่ยึดเกาะของราก ควรให้ปุ๋ยสม่ำเสมอและควรเปลี่ยนกระถางเมื่อมีอายุประมาณ 2-3 ปี การปลูกในแปลงปลูกเพื่อประดับบริเวณบ้านและสวน ควรปลูกตามบริเวณรอบโคนไม้อื่นหรือทำร้านเพื่อให้รากยึดเกาะและเลื่อยขึ้นได้ ควรปลูกในดินที่ร่วนซุย ต้องการแสงแดดรำไรหรือในร่ม

การขยายพันธุ์การปักชำ

ความเป็นมงคลเป็นไม้มงคลนาม คนไทยโบราณเชื่อว่าบ้านใดปลูกต้นเงินไหลมาไว้ประจำบ้าน จะทำให้เกิดความมั่งมีร่ำรวย เงินทองไหลมาสู่บ้านและผู้อาศัย และยังมีความเชื่ออีกว่าต้นเงินไหลมายังช่วยสร้างความเป็นเสน่ห์แก่บ้านและผู้อาศัย เพราะลักษณะใบของต้นเงินไหลมามี สีสัน สวยงาม สีกลางใบคล้ายสีเงินตำแหน่งที่ปลูกและผู้ปลูกเพื่อเป็นสิริมงคลแก่บ้านและผู้อาศัย ควรปลูกต้นเงินไหลมาไว้ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ผู้ปลูกควรปลูกในวันอังคาร เพราะโบราณเชื่อว่าการปลูกไม้เอาคุณทางใบให้ปลูกในวันอังคาร



ที่มา http://www.panmai.com/Warn
26#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-1-17 10:17 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ว่านน้ำ
ชื่ออื่นๆคงเจี้ยงจี้, ผมผา, ส้มชื่น, ฮางคาวน้ำ, ฮางคาวบ้าน (ภาคเหนือ) ตะไคร้น้ำ (เพชรบุรี) ทิสีปุตอ (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน) ว่านน้ำ, ว่านน้ำเล็ก, ฮางคาวผา (เชียงใหม่)

ลักษณะทั่วไปว่านน้ำเป็นพืชที่ขึ้นอยู่ตามริมหนองน้ำหรือบริเวณที่ชื้นแฉะ มีลำต้นเป็นเหง้าอยู่ใต้ดินลักษณะเป็นเส้นกลมหนา สีขาวออกม่วง เจริญงอกงามตามยาวขนานกับ ผิวดิน ใบแตกจากเหง้า ลักษณะแข็งตั้งตรง รูปร่างแบนเรียวยาวคล้ายใบดาบฝรั่ง ปลายใบแหลม ผิวใบเรียบ เห็นเส้นกลางใบชัดเจน แตกใบเรียงสลับซ้ายขวาเป็นแผง ใบค่อนข้างฉ่ำน้ำ ดอกมีสีเขียวมีขนาดเล็กออกเป็นช่อ มีจำนวนมากอัดกันแน่นเป็นแท่งรูปทรงกระบอก มีก้านช่อดอกลักษณะคล้ายใบ

การปลูกว่านน้ำปลูกได้ดีในที่ชื้นแฉะ มีน้ำท่วม ริมบ่อน้ำ ปลูกโดยการตัดต้นพันธุ์หรือเหง้าให้มีข้ออย่างน้อย 1 ข้อ ปักชำในกระบะทรายก่อน พอเริ่มงอกจึงย้ายไปปลูก หรือนำท่อนพันธุ์ไปปักประมาณ 1 สัปดาห์ จะเป็นใบอ่อนแตกออกมา ว่านน้ำเป็นพืชที่ชอบแสงแดดรำไร เจริญเติบโตได้ดีในฤดูฝน เมื่อเข้าปลายฤดูฝนเหง้าจะเริ่มมีใบแห้ง เริ่มจากเหง้าข้อที่ 1 ไปเรื่อยๆ ถ้าขาดน้ำในช่วงนี้เป็นเวลานาน เหง้าอาจจะแห้งตายได้แต่ถ้ามีน้ำอยู่ เหง้าก็ยังคงสดอยู่และแตกรากและใบใหม่ต่อไป

การขยายพันธุ์โดยการแยกหน่อ

สรรพคุณทางยาหัวว่านแต่มีกลิ่นหอม นำมาโขลก ต้มในน้ำเดือด กินน้อยๆ ทุกมื้อ วันละสามครั้ง เป็นยาแก้ปวดท้อง ธาตุเสีย บำรุงธาตุ แก้จุก ขับลมในลำไส้ ปรุงลงในยาขมต่างๆ ทำให้ระงับอาการปวดท้องได้ดี กินมากทำให้อาเจียนได้ หรือนำหัวว่านมาฝนผสมกับเหล้าขาว เจือน้ำลงไปเล็กน้อย ใช้ทาหน้าอกเด็ก เพื่อดูดพิษแก้อักเสบของหลอดลมและปอด ใบว่านตำกับชุมเห็ดเทศใช้ทาแก้โรคผิวหนัง



ที่มา http://www.panmai.com/Warn
27#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-1-17 10:19 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ว่านมหากาฬ

ชื่ออื่นๆผักกาดกบ ผักกาดนกเขาดำ โคก หนาดแห้ง

ลักษณะทั่วไปว่านมหากาฬเป็นพันธุ์ไม้เลื้อย มีหัวอยู่ใต้ดิน เนื้อของหัวเป็นสีขาว ใบมีลักษณะคล้ายใบผักกาด ใบหนาและแข็ง พื้นใบสีเขียวอ่อน มีลายสีม่วงซีดๆ บนใบ ใบอ่อนจะเป็นสีม่วงแก่ ตามแขนงใบเป็นสีขาว ก้านใบเมื่อแก่จะเปลี่ยนจากสีม่วงเป็นสีขาว ดอกมีลักษณะเป็นฝอยก้านดอกยาว มีสีเหลือง คล้ายดอกดาวเรืองแต่มีขนาดเล็กกว่ามาก

การปลูกควรปลูกในดินปนทรายที่ระบายน้ำได้ดี รดน้ำแต่พอดินชุ่มเท่านั้น เพราะว่านมหากาฬไม่ชอบดินแฉะซึ่งจะทำให้ใบเน่าได้ง่าย ควรให้ได้รับแสงแดดปานกลาง

การขยายพันธุ์ขยายพันธุ์โดยการแยกหน่อ

ความเป็นมงคลเชื่อกันว่าเป็นว่านที่มีอำนาจ หากปลูกเลี้ยงไว้ในบริเวณบ้าน นอกจากสามารถป้องกันอันตรายทั้งปวงได้แล้ว ยังทำให้ผู้ปลูกเลี้ยงมีอำนาจบารมีเป็นที่เกรงขามของคนทั่วไป



ที่มา http://www.panmai.com/Warn
ขอบคุณครับพี่เมธ
29#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-1-17 12:49 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ว่านแจง
ชื่ออื่นๆดาวเรืองโคก (เลย), หัวน่วม (กรุงเทพฯ)ลักษณะทั่วไปเป็นไม้ล้มลุก หัวเป็นหัวกลมขนาดใหญ่ เนื้อในสีขาว ลำต้นกลมสีเขียวทอดไปตามพื้นดินแล้วตั้งขึ้น ใบคล้ายว่ามหากาฬแต่มีขนาดเล็กกว่า สีของใบเขียวจัดมาก ขอบใบมีรอยจักเว้าเข้าไปกลางใบมากกว่าว่านมหากาฬ แต่ขนาดเล็กกว่า ก้านใบสีเขียวสั้น ด้านล่างเส้นกลางใบและเส้นใบนูนเป็นสันสีขาว แผ่นใบด้านบนสีเขียว ด้านล่างสีเขียวจางกว่าด้านบน ดอกมีสีเหลือง ก้านข่อดอกชูขึ้นมาจากหัวว่านสูงเด่นเห็นชัด ลักษณะดอกคล้ายดอกดาวเรืองตูม เมื่อขุดหัวว่านขึ้นมาจากดินทิ้งไว้ไม่กี่วันหัวว่านจะนิ่มตลอดหัวเอามือบีบดูก็รู้สึกคล้ายๆ มีน้ำอยู่ภายในการปลูกเป็นว่านที่ขึ้นได้ในดินทั่วไปที่ระบายน้ำได้ดี ไม่ชอบน้ำแฉะหรือท่วมขังเพราะหัวจะเน่าได้ง่าย เป็นว่านที่ปลูกเลี้ยงง่ายการขยายพันธุ์โดยการปักชำความเป็นมงคลเป็นว่านประเภทคงกระพันชาตรี เมื่อกินเข้าไปรู้สึกซาบซ่าน เกิดความฮึกเหิม บรรดานักเลงหัวไม้สมัยก่อนสนใจเสาะหาไว้ติดตัว เพราะสามารถทนต่อไม้คมแฝกและไม้ตะพดได้เป็นอย่างดีชื่ออื่นๆดาวเรืองโคก (เลย), หัวน่วม (กรุงเทพฯ)

ลักษณะทั่วไปเป็นไม้ล้มลุก หัวเป็นหัวกลมขนาดใหญ่ เนื้อในสีขาว ลำต้นกลมสีเขียวทอดไปตามพื้นดินแล้วตั้งขึ้น ใบคล้ายว่ามหากาฬแต่มีขนาดเล็กกว่า สีของใบเขียวจัดมาก ขอบใบมีรอยจักเว้าเข้าไปกลางใบมากกว่าว่านมหากาฬ แต่ขนาดเล็กกว่า ก้านใบสีเขียวสั้น ด้านล่างเส้นกลางใบและเส้นใบนูนเป็นสันสีขาว แผ่นใบด้านบนสีเขียว ด้านล่างสีเขียวจางกว่าด้านบน ดอกมีสีเหลือง ก้านข่อดอกชูขึ้นมาจากหัวว่านสูงเด่นเห็นชัด ลักษณะดอกคล้ายดอกดาวเรืองตูม เมื่อขุดหัวว่านขึ้นมาจากดินทิ้งไว้ไม่กี่วันหัวว่านจะนิ่มตลอดหัวเอามือบีบดูก็รู้สึกคล้ายๆ มีน้ำอยู่ภายใน

การปลูกเป็นว่านที่ขึ้นได้ในดินทั่วไปที่ระบายน้ำได้ดี ไม่ชอบน้ำแฉะหรือท่วมขังเพราะหัวจะเน่าได้ง่าย เป็นว่านที่ปลูกเลี้ยงง่าย

การขยายพันธุ์โดยการปักชำ

ความเป็นมงคลเป็นว่านประเภทคงกระพันชาตรี เมื่อกินเข้าไปรู้สึกซาบซ่าน เกิดความฮึกเหิม บรรดานักเลงหัวไม้สมัยก่อนสนใจเสาะหาไว้ติดตัว เพราะสามารถทนต่อไม้คมแฝกและไม้ตะพดได้เป็นอย่างดี



ที่มา http://www.panmai.com/Warn
30#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-1-17 12:52 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ว่านธรณีสาร

ลักษณะทั่วไปเป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็ก ลำต้นตรง สูงประมาณ 0.5–1 เมตร ลำต้นสีเขียว ตรงปลายยอดเป็นสีอ่อน หากต้นแก่โคนต้นจะเป็นสีน้ำตาล ใบมีลักษณะกลมเล็กคล้ายใบมะขาม ก้านใบสีเขียว ใบจะออกทั้ง 2 ข้างของก้านใบคู่กันไปจนสุดปลายก้าน ส่วนก้านใบจะแตกออกจากลำต้นโดยรอบๆ เป็นพุ่มสวยงาม

การปลูกปลูกในดินร่วน หรือดินปนทรายที่มีการระบายน้ำได้ดี ควรปลูกหรือจัดวางกระถางในบริเวณที่ได้รับแสงแดดปานกลาง และควรรดน้ำให้ชุ่มทุก เช้า-เย็น

การขยายพันธุ์ขยายพันธุ์โดยการใช้เมล็ดเพาะเป็นต้นกล้า แล้วจึงแยกต้นกล้าไปปลูก

ความเป็นมงคลว่านธรณีสารเป็นว่านที่นับถือกันมาช้านาน โดยการนำไปเข้าพิธีประพรมน้ำมนต์ เพราะเชื่อกันว่าเป็นมงคล ปลูกไว้ในบริเวณบ้านแล้วจะดี และควรปลูกว่านธรณีสารในวันพฤหัสบดี ข้างขึ้น



ที่มา http://www.panmai.com/Warn
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้