ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

ว่าน

[คัดลอกลิงก์]
11#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-1-17 08:17 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ว่านกุมารทอง
ชื่ออื่นๆว่านกระทุ่ม ว่านตะกร้อ (เหนือ) ว่านแสงอาทิตย์ (กรุงเทพฯ)

ลักษณะทั่วไปเป็นพันธุ์ไม้ล้มลุกที่มีลำต้นใต้ดิน ลักษณะหัวว่านคล้ายหอมหัวใหญ่ เปลือกที่หุ้มหัวมีสีน้ำตาลไหม้ และมีจุดสีแดงคล้ำประทั่วหัว ส่วนล่างของหัวมีรากออกเป็นกระจุกหนาแน่นดูเหมือนแท่นหรือฐานรองหัว ทำให้ดูคล้ายเด็กนั่งอยู่บนแท่นไว้ผมจุก จึงถูกเรียกชื่อว่า "ว่านกุมารทอง" ลำต้นส่วนที่โผล่ขึ้นมาเหนือผิวดินจะมีลักษณะกลม สีเขียว มีจุดสีแดงคล้ำตลอดทั้งก้าน ใบเป็นใบเลี้ยงเดี่ยว ลักษณะใบรีแกมรูปขอบขนาน ปลายใบมน โคนใบสอบเรียว ขอบใบเรียบเป็นคลื่นเล็กน้อย พื้นใบเป็นสี เขียวสด บิดตัวเป็นคลื่นเล็กน้อย ก้านใบเป็นรูปครึ่งวงกลม หรือหวายผ่าซีก แตกใบตรงส่วนยอดของต้นหรือก้านใบ ดอกจะออกก่อนใบ เมื่อดอกโรยแล้วใบจึงจะแทงขึ้นจากหัวใต้ดิน ดอกเป็นช่อแบบช่อซี่ร่ม ลักษณะของช่อดอกกลม ช่อหนึ่งๆ ประกอบด้วยดอกเล็กๆ หลายดอก ซึ่งแต่ละดอกมีกลีบดอกเป็นเส้นฝอยสีแดง ตรงปลายเป็นสีเหลืองเล็กน้อย ก้านดอกยาวมีสีเขียว ดอกดูสวยงามมาก โดยส่วนใหญ่แล้วดอกจะออกประมาณเดือนเมษายนถึงพฤษภาคมของทุกปี

การปลูกใช้ดินปนทรายหรือดินเผาไฟเป็นดินปลูก กลบดินพอมิดหัวว่าน รดน้ำที่เสกด้วยคาถา นะโมพุทธายะ ๓ หรือ ๗ จบ เสมอ ควรปลูกในวันเกิดของผู้ปลูกจะเป็นสิริมงคล ว่านต้นนี้ชอบความชื้นสูง ควรตั้งไว้ในที่ร่มรำไร

การขยายพันธุ์ขยายพันธุ์ด้วยการแยกต้นที่เกิดใหม่หรือหัวใต้ดิน

ความเป็นมงคลบ้านเรือนหรือร้านค้าใดมีว่านกุมารทองปลูกไว้จะเป็นสิริมงคลแก่สถานที่และผู้ปลูก เป็นว่านที่มีอำนาจ มีเทวดาคุ้มครอง เป็นที่ยำเกรงแก่ผู้พบเห็น ถ้าค้าขายก็จะขายได้กำไรไม่ล่มจม ให้อธิษฐานเอาเถิดในสิ่งที่ปรารถนา ถ้านำดอกว่านไปเคี่ยวน้ำมันมะพร้าวหรือน้ำมันถั่วไว้ทาตัวจะทำให้อยู่ยงคงกระพันชาตรี ควรปลูกว่านต้นนี้ไว้ใกล้ๆ ศาลพระภูมิจะยิ่งดี เป็นว่านคู่กับ ว่านนางคุ้ม ว่านผู้เฒ่าเฝ้าบ้าน




ที่มา http://www.panmai.com/Warn/Warn_AMARYL_10.shtml
12#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-1-17 08:31 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ว่านเสน่ห์จันทน์เขียว
ลักษณะทั่วไปเป็นว่านที่เกิดจากหัวที่อยู่ใต้ดิน ลำต้นโผล่ขึ้นมาเหนือดิน มีลักษณะเป็นกอกลม คล้ายต้นบวบมีสีน้ำตาลไหม้ ใบเป็นรูปหัวใจ ปลายใบแหลม โคนเว้า พื้นใบและก้านใบมีสีเขียว ช่วงใบถี่ ขอบใบเรียบไม่มีหยัก ใบออกตรงส่วนยอดของลำต้น ออกดอกเป็นกลุ่มระหว่างกาบของก้านใบ ลักษณะของดอกคล้ายกับดอกจำปีตูมมีสีเขียว มีกาบดอกห่อหุ้มเกสรอยู่ และมีลักษณะเป็นแท่ง ว่านเสน่ห์จันทน์เขียวมี 2 ชนิด คือ ชนิดหนึ่งเกสรจะมีกลิ่นหอมอ่อนๆ และอีกชนิดหนึ่งเกสรไม่มีกลิ่นหอม

การปลูกเสน่ห์จันทน์เขียวเป็นว่านที่ปลูกได้ในดินทุกชนิด แต่จะเจริญงอกงามได้ดีในดินปนทราย ควรปลูกในที่ร่มหรือที่ร่มรำไร ให้มีแสงแดดส่องได้เพียงเล็กน้อย ถ้าถูกแสงแดดจัดนานจะทำให้ใบไหม้ การให้น้ำควรให้สม่ำเสมอทั้งเช้าและเย็น เพราะว่านเสน่ห์จันทน์เขียว เป็นไม้ที่ต้องการความชื้นสูงพอสมควร

การขยายพันธุ์โดยการแยกหน่อจากหัวเดิมมาปลูกใหม่

ความเป็นมงคลเสน่ห์จันทน์เขียวเป็นว่านเสน่ห์เมตตามหานิยม ปลูกเลี้ยงไว้เพื่ออำนวยโชคลาภและทำให้ผู้เป็นเจ้าของมีเสน่ห์ การพบปะผู้คนก็จะมีแต่คนชอบคนรักในตัวผู้เป็นเจ้าของว่าน และเป็นว่านที่เหมาะที่จะปลูกไว้ตามร้านค้าและบ้านเรือนเพราะจะทำให้มีลูกค้าหรือแขกบ้านไปมาหาสู่อย่างมิตรอย่างสม่ำเสมอ
ที่มา http://www.panmai.com/Warn/Warn_AMARYL_10.shtml
13#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-1-17 08:34 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้

ว่านเสน่ห์จันทน์แดงลักษณะทั่วไปเป็นว่านที่เกิดจากหัวที่อยู่ใต้ดิน ลำต้นอยู่เหนือผิวดิน ไม่มีการแตกกิ่งก้านสาขา ลำต้นประกอบด้วยก้านใบหลายๆ ก้าน ก้านใบกลมยาวมีสีเขียวอมแดงหรือสีเขียว หากเลี้ยงได้สมบูรณ์ก้านใบอาจเป็นสีแดงปนดำหรือสีแดงเลือดหมูตลอดทั้งก้านโดยไม่มีสีเขียว ใบมีลักษณะเป็นรูปหัวใจ โคนใบมนเว้า ปลายใบแหลม และขอบใบเรียบไม่มีหยัก พื้นใบสีเขียว ว่านเสน่ห์จันทน์แดงออกดอกเป็นกลุ่ม คล้ายดอกจำปีตูม ประกอบไปด้วยกาบดอกห่อหุ้มแท่งเกสรอยู่ภายใน ทั้งดอกและก้านดอกเป็นสีแดง

การปลูกควรปลูกในดินร่วนหรือดินปนทราย เป็นว่านที่เจริญเติบโตได้ดีทั้งในที่ร่มและที่มีแสงแดดจัด แต่เป็นว่านที่ชอบน้ำมาก จึงควรรดน้ำสม่ำเสมอทั้งเช้าเย็น

การขยายพันธุ์โดยการแยกหน่อ

ความเป็นมงคลว่านเสน่ห์จันทน์แดงจะเป็นมงคลในเรื่องของมหานิยม ถ้าปลูกไว้ในบริเวณบ้าน ก็จะเป็นศรีมีเสน่ห์แก่ครอบครัว ผู้ใดจะคิดบุกเข้ามากระทำการร้ายใดๆ ก็จะไม่สำเร็จและจะทำให้ผู้ที่คิดร้ายนั้นกลับมีจิตเมตตาขึ้นมาแทน

ที่มา http://www.panmai.com/Warn/Warn_AMARYL_10.shtml
14#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-1-17 09:02 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ว่านเสน่ห์จันทน์ขาว

ลักษณะทั่วไปเสน่ห์จันทน์ขาวเป็นว่านที่ลำต้นโผล่ขึ้นมาจากหัวที่อยู่ใต้ดิน ประกอบไปด้วยกาบใบที่ห่อหุ้มลำต้นอยู่ มีลักษณะคล้ายกับต้นบอน ลำต้นเป็นสีน้ำตาล ใบเป็นรูปใบโพธิ์ พื้นใบสีเขียวและมีสีขาวประอยู่ทั่วใบ ปลายใบแหลมเรียว โคนใบเว้าเข้าหาก้านใบ และถ้าใบสมบูรณ์ดี เส้นกลางใบก็จะเป็นสีขาว ใบอ่อนแตกตรงส่วนยอดของลำต้น โดยจะมีก้านใบกลมตรงชูขึ้นมาและก้านใบก็จะมีขาวด้วย ดอกสีขาวอมเขียวออกดอกเป็นกลุ่ม ลักษณะของดอกคล้ายกับดอกจำปีตูม มีกลีบเดียวกลางดอกมีเกสรเป็นรูปแท่ง มีก้านดอกยาวสีขาว

การปลูกควรปลูกในดินปนทรายหรือดินที่มีการระบายน้ำได้ดี อย่าให้ถูกแสงแดดจัดอาจทำให้ตายได้ ควรปลูกในที่มีแสงแดดรำไร ว่านเสน่ห์จันทน์ขาวเป็นว่านที่ชอบน้ำมาก จึงควรรดน้ำทุกเช้าและเย็น

การขยายพันธุ์โดยการแยกหน่อ

ความเป็นมงคลเป็นว่านที่มีอำนาจในทางเสน่ห์ ปลูกขึ้นที่ไหนหรือบ้านใดสามารถเป็นเสน่ห์เรียกคนไปที่นั่นได้ ในสมัยโบราณเชื่อกันว่าเป็นว่านเชิงเสน่ห์ระหว่างชายและหญิง และถ้านำหัวว่านมาแกะเป็นรูปนางกวักก็จะเป็นเสน่ห์แก่ผู้ที่ทำอาชีพค้าขาย



ที่มา http://www.panmai.com/Warn/Warn_AMARYL_10.shtml
15#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-1-17 09:03 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ว่านเสน่ห์จันทน์มหาโพธิ์

ชื่ออื่นๆว่านศรีมหาโพธิ์

ลักษณะทั่วไปเสน่ห์จันทร์มหาโพธิ์มี ลำต้นเป็นหัวอยู่ใต้ดิน ก้านใบกลมเรียวสีเขียว บริเวณโคนแผ่ออกเป็นกาบโอบหุ้มลำต้นแบบสลับโดยรอบ ใบรูปหัวใจ ปลายใบแหลมเป็นติ่ง โคนใบกลมและหยักเว้า เส้นกลางใบและเส้นใบทางด้านบนเป็นร่องลึกสีเขียวอ่อนทางด้านล่างนูนเป็นสัน แผ่นใบหยักเป็นคลื่น ส่วนใหญ่จะอยู่ในลักษณะนอนขนานกับพื้นดิน ราก ลำต้น ก้านใบ หักดมจะมีกลิ่นหอม ยอดอ่อนแทงออกมาก่อนจะคลี่ใบ มีหน่ออ่อนตามข้างหัว ดอกคล้ายดอกจำปีตูม สีเขียวอ่อน

การปลูกใช้ดินร่วนผสมอิฐเผาไฟทุบละเอียด นำไปตากน้ำค้างหนึ่งคืน เอามาใช้เป็นดินปลูก วางหัวว่านตรงกลางกระถาง โดยปลูกให้หัวโผล่ กดดินพอแน่นรดน้ำพอเปียกชุ่ม วางกระถางในที่ร่มแต่ให้ถูกแดดรำไร เป็นว่านที่ไม่โทรมเหมือนว่านอื่นๆ ที่จะทิ้งใบบางฤดู แต่ว่านนี้จะทรงตัวอยู่ได้ตลอดทั้งปี

การขยายพันธุ์โดยการแยกหน่อ

ความเป็นมงคลใช้เป็นสิริมงคลในด้านการค้า และเมตตามหานิยม เชื่อกันว่าหากนำหัวว่านมาแกะเป็นรูปพระ แล้วใส่สงในขันสำริด เทน้ำมันจันทน์ลง เสกด้วยคาถา นำน้ำมันมาทาที่หน้าผาก ผู้คนที่พบปะจะนิยมรักใคร่สนิทสนม ต้อนรับขับสู้ เอ็นดูและเมตตา หากนำน้ำมันมาทาตัวจะเกิด นะจังงัง คงกระพันชาตรี แคล้วคลาดจากอุบัติภัย อันตราย หากนำน้ำมันมาใส่หัวใส่มือ จะสามารถทำกิจการงานใดๆ สำเร็จสมดังมุ่งหมาย


ที่มา http://www.panmai.com/Warn/Warn_AMARYL_10.shtml
16#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-1-17 09:17 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ว่านเต่าเกียด
ชื่ออื่นๆเต่าเขียด (ภาคกลาง), โหรา (ชุมพร)

ลักษณะทั่วไปเป็นไม้ล้มลุก ลำต้นเป็นเหง้าอยู่ใต้ดิน ส่วนที่โผล่ขึ้นมาเหนือดินนั้นเป็นเพียงก้านใบและใบ ก้านใบยาว 30-40 ซม. ซึ่งจะชูใบแตกขึ้นมาบนผิวดิน ก้านใบสีเขียวแกมแดง ลักษณะกลมเรียว ใบเป็นรูปสามเหลี่ยม ปลายแหลม โคนใบเว้าเป็นรูปหัวใจ ขอบใบเรียบ ไม่มีจัก มีสีเขียวกว้างประมาณ 10-15 ซม. ยาว 10-20 ซม. ดอกออกเป็นช่อ แต่จะไม่มีก้านช่อดอกลักษณะของดอกจะคล้ายกับดอกบอน แต่มีขนาดเล็กกว่า ดอกสีเขียวอมเหลือง

การปลูกปลูกโดยใช้ส่วนผสมของดินร่วน 5 ส่วน ทรายหยาบ 1 ส่วน เปลือกถั่วและอิฐก้อนเล็กอย่างละ 1 ส่วน

การขยายพันธุ์ขยายพันธุ์โดยการแยกหน่อ

ความเป็นมงคลเป็นมงคลในด้านการค้าและเมตตามหาเสน่ห์ พัดโบกเงินทองและสิ่งเป็นมงคลเข้ามาในบ้าน สิ่งที่ไม่ดีตลอดจนโรคภัยไขเจ็บก็ให้ห่างไกล

สรรพคุณทางยาหัวมีกลิ่นหอม นำมาบดเป็นผงใช้ผสมกับใบยาสูบและยานัตถุ์ได้ เมื่อนำมากลั่นด้วยไอน้ำจะได้น้ำมันหอมสีเหลือง นอกจากนี้หัวยังใช้ผสมกับเครื่องเทศใส่แกงทำให้มีรสหอมอีกด้วย ทั้งต้นนำมาตำแล้วใช้ทาแก้โรคผิวหนัง


ที่มา http://www.panmai.com/Warn/Warn_AMARYL_10.shtml
17#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-1-17 09:25 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ว่านเต่านำโชค

ชื่ออื่นๆบุกเต่า

ลักษณะทั่วไปว่านเต่านำโชค เป็นพืชล้มลุกที่มีหัวอยู่ใต้ดิน หัวเป็นรูปกลมแป้นขนาดเท่ากำมือเด็ก ผิวเปลือกสีน้ำตาล ตอนบนมีลักษณะโหนกนูนเหมือนกระดองเต่า ตอนมีลักษณะล่างแบนราบซึ่งรากจะแทงออกทางด้านนี้ บางหัวมีปุ่มยื่นออกมาลักษณะคล้ายหัว เขา และหางเต่า จึงถูกตั้งชื่อตามลักษณะว่า "ว่านเต่านำโชค" เนื้อในหัวเป็นสีขาว หรือสีนวล มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ลำต้นแตกขึ้นบริเวณกลางหัวด้านบน มีลำต้นเหมือนต้นบุก สูงประมาณ 1-2 ฟุต ลำต้นเป็นสีน้ำตาลแดง มีจุดดำๆ เห็นได้ชัดต่างกันกับบุก แตกใบบริเวณส่วนปลายลำต้น โดยลักษณะใบเป็นแฉกๆ แผ่กว้างและกางออก ใบสีเขียวเข้ม ผิวใบมีขนสีน้ำตาลกระจายทั่ว ใต้ใบเขียวอ่อน ดอกจะแทงขึ้นมาจากหัวใต้ดิน ดอกคล้ายดอกบอน

การปลูกว่านเต่าชอบดินร่วนปนทรายหรือแกลบ ฝังหัวพอให้พ้นดินเล็กน้อย เพราะถ้าฝังมิดหัวอาจทำให้ว่านเน่าตายได้ ไม่ควรรดน้ำจนแฉะมากเกินไป ต้องปลูกในที่ร่มร่ำไร จึงจะเจริญงอกงามดี

การขยายพันธุ์ขยายพันธุ์โดยการแยกหัว

ความเป็นมงคลมีสรรพคุณทางเมตตามหานิยม และคงกระพันชาตรี บ้านไหน เรือนไหนมีปลูกไว้จะช่วยส่งเสริมได้ ทำมาค้าขายคล่อง นำหัวพกติดตัวเดินทางไปติตดต่อ เจรจาค้าขาย จะประสบผลสำเร็จ ซื้อง่ายขายคล่อง



ที่มา http://www.panmai.com/Warn/Warn_AMARYL_10.shtml
18#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-1-17 09:33 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้

ว่านสิงหะโมรา
ลักษณะทั่วไปมีหัวลักษณะคล้ายแง่งข่า แข็ง และมีสีแดงเรื่อๆ ลำต้นคล้ายต้นของผักหนาม ลำต้นกลม ไม่แตกกิ่งก้าน ต้นอาจสูงกว่า 1.5 เมตร ใบลักษณะคล้ายใบผักหนามเช่นเดียวกับลำต้น มีสีเขียว เส้นใบสีแดง ใบหนา ยาวรี ก้านใบสีเขียวมีหนามอ่อนๆ และมีจุดสีแดงเข้มตลอดทั้งก้านใบ ลักษณะดอกเป็นแท่งกลมยาว มีกาบหุ้มช่อดอกสีน้ำตาล เป็นดอกชนิดสมบูรณ์เพศอยู่รอบๆ แท่งดอก ผลมีเปลือกแข็งมากห่อหุ้มเมล็ดไว้ และมีเนื้อนุ่มๆ ห่อหุ้มภายนอกอีกชั้นหนึ่ง

การปลูกว่านสิงหะโมราจะเจริญเติบโตได้ดีในดินร่วนปนทรายที่ระบายน้ำได้ดี ชอบความชื้นสูง รดน้ำแต่พอชุ่ม ควรให้ได้รับแดดรำไร เวลาปลูกให้กลบดินแต่พอมิดหัวเท่านั้น

การขยายพันธุ์โดยการแยกหัว

ความเป็นมงคลว่านสิงหะโมรามีอานุภาพทางด้านป้องกันภูตผีปีศาจ


ที่มา http://www.panmai.com/Warn/Warn_AMARYL_10.shtml
19#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-1-17 09:37 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ว่านเขียวหมื่นปี

ชื่ออื่นๆว่านขันหมาก

ลักษณะทั่วไปเป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก ลำต้นกลมสีเขียวออกแดงเรื่อๆ อาจสูงถึง 1 เมตร มียางสีขาว ก้านใบสีเขียว ยาว 8-10 ซม. ลักษณะด้านบนเป็นร่องเล็กน้อย ด้านนอกกลมนูน บริเวณโคนแผ่ออกเป็นกาบสีเขียวออกแดงเรื่อๆ โอบหุ้มกันโดยรอบ ใบรูปรี ขนาดกว้าง 8-10 ซม. ยาว 15-20 ซม. ปลายใบมนแหลม โคนใบแคบมน ทางด้านบนเส้นกลางใบเป็นร่องสีเขียวด้านล่างเส้นกลางใบนูนเป็นสัน แผ่นใบสีเขียวอมเหลือง มีรอยประสีเขียวเข้มหรือสีบรอนซ์เงินตลอดใบ บริเวณแผ่นใบทั่วๆ ไป ทางด้านบนแผ่นใบสีเข้มกว่าทางด้านล่างและมีรอยประมากกว่า

การปลูกเป็นไม้ที่เลี้ยงง่าย ปลูกได้ทั้งในดินปนทรายหรือดินร่วนซุย ไม่ชอบแสงแดดจัด ควรปลูกในที่ร่มหรือที่มีแสงแดดส่องเพียงรำไร เหมาะที่จะปลูกในอาคาร รดน้ำบ่อยๆ หรืออาทิตย์ละครั้งก็ได้

การขยายพันธุ์โดยการแยกหน่อ

ความเป็นมงคลเป็นว่านคงกระพันชาตรี นำใบมาตำให้แหลกละเอียดผสมกับเหล้าขาว นำมาพอกแผลสด ปิดปากแผลที่ถูกของมีคมแล้วเอาผ้าพันไว้ให้แน่น เมื่อหายเจ็บแล้วให้นำผ้าพันแผลออกจะเห็นรอยแผลเชื่อมสนิทกันเช่นเดิม เป็นรอยเล็กน้อยแต่ไม่อักเสบหรือเจ็บปวดและเมื่อแผลแห้งตกสะเก็ดจะไม่เป็นแผลเป็น เป็นไม้ประดับที่มีความสวยงาม และเป็นสง่าแก่สถานที่ปลูก วัดในสมัยโบราณมักจะมีว่านนี้เกือบทุกวัด ถือเป็นแม่ว่านที่มีมาช้านาน เป็นมรดกตกทอดจนถึงปัจจุบัน


ที่มา http://www.panmai.com/Warn/Warn_AMARYL_10.shtml
20#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-1-17 09:39 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ว่านพญาช้างเผือก
ลักษณะทั่วไปว่านพญาช้างเผือกเป็นว่านที่มีหัว ลำต้นกลมยาวเป็นข้อ ลำต้นเป็นสีเขียว แตกใบที่ยอดทีละใบ ก้านใบยาวสีขาวสะอาด โคนก้านใบเป็นกาบ ครีบกาบเป็นสีเขียวใบรูปใบพายสีเขียว ปลายใบแหลมโคนใบมน ใบบาง ริมใบบิดเล็กน้อย เส้นกลางใบสีขาวหรือขาวอมเขียว มีจุดขาวประบนใบไม่มากนัก บางใบมีเพียง 2-3 จุด เป็นว่านที่แตกหน่อจากโคนต้น และตามหว่างข้อของลำต้น สามารถแยกไปปลูกได้

การปลูกควรปลูกด้วยดินร่วน รดน้ำให้ชุ่มอยู่เสมอ เพราะเป็นว่านชอบน้ำ

การขยายพันธุ์โดยการแยกหน่อ

ความเป็นมงคลในทางสมุนไพรใช้ใบตำกับเหล้าพอกแผลเพื่อถอนพิษงู พิษหมาบ้า พิษแมลงสัตว์กัดต่อยทุกชนิด ในทางคุ้มภัยและคงกระพันชาตรี เชื่อว่าปลูกไว้ในบริเวณบ้านป้องกันภูตผีปีศาจ ปัดเป่าเสนียดจัญไรต่างๆ หากใช้กินโดยการหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วหุ้มด้วยมะขามเปียก กลืนลงไประวังอย่าให้ยางถูกลิ้นหรือบริเวณภายในปากได้ เพราะพิษของยางอาจทำให้ขากรรไกรแข็งได้ เป็นคงกระพันชาตรี

ที่มา http://www.panmai.com/Warn/Warn_AMARYL_10.shtml
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้