ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

~ หลวงปู่จวน กุลเชฏโฐ วัดเจติยาคิรีวิหาร ภูทอก ~

[คัดลอกลิงก์]
31#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-3-28 17:27 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้


นอกจากได้ก่อสร้างในวัดแล้ว ยังได้ทำประโยชน์ให้แก่ชาวบ้านใกล้เคียงอีกด้วย โดยได้สร้างทำนบกั้นน้ำให้แก่ชาวบ้าน ๖ ทำนบ และในปี ๒๕๒๓ ได้เริ่มทำถนนรอบภูเขา ๓ ลูก คือ ภูทอกน้อย ภูทอกใหญ่ และภูสิงห์น้อย ซึ่งต่างก็เป็นสำนักสงฆ์ของวัด เพื่อเป็นการกั้นเขตแดนวัด จะได้เป็นที่พึ่งพาอาศัยของสัตว์ป่านานาชนิด และยังเป็นการสงวนป่าไม่อีกด้วย (เมื่อท่านอาจารย์จวนมรณภาพแล้ว งานนี้ยังค้างอยู่ ทางวัดได้ทำต่อจนแล้วเสร็จ รวมทั้งทำนบน้ำแห่งใหม่ในหมู่บ้านด้วย)

ท่านได้รับนิมนต์มากรุงเทพมหานคร ได้รับอุบัติเหตุเครื่องบินตก ถึงแก่มรณภาพ เมื่อวันที่ ๒๗ เมษายน พ.ศ. ๒๕๒๓ สิริรวมอายุ ๕๙ ปี ๙ เดือน ๑๘ วัน พรรษา ๓๘
32#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-3-28 17:28 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ท่านพระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ ได้เทศน์ให้ศิษย์ฟังเสมอ ๆ เรื่องสมเด็จพระบรมศาสดาทรงสอนให้มนุษย์รู้จักบำเพ็ญประโยชน์ ๓ อย่าง ประโยชน์ปัจจุบัน ประโยชน์ภายภาคหน้า และ ประโยชน์อย่างยิ่ง ดังที่ได้ยกธรรมเทศนาของท่านตอนนี้มารวมไว้ข้างท้ายนี้

คำสอนของท่านอาจถือเป็นข้อสรุปปฏิปทา คุณธรรมขององค์ท่านผู้สอนได้เป็นอย่างดี

ท่านได้ปฏิบัติมาแล้ว เป็นตัวอย่างให้เราจักได้พยายามเจริญรอยตามคำสอนของท่าน

แรกเริ่ม ท่านบำเพ็ญประโยชน์ตน อัตตถประโยชน์ก่อน ท่านสอนเสมอ เราต้องว่ายน้ำให้เป็นเสียก่อน แล้วจึงค่อยไปสอนให้คนอื่นว่ายน้ำ ถ้าตัวเราก็ยังว่ายน้ำไม่เป็นช่วยตัวเองไม่ได้ ไปสอนเขา ก็รังแต่จะพากันจมน้ำตายไปด้วยกันหมด ดังนั้นในระยะแรก ท่านจึงบำเพ็ญเพียรอย่างอุกฤษฏ์ ซอกซอนซ่อนตัวอยู่ในกลางป่าลึก จนบำเพ็ญประโยชน์แก่ตนเองได้สมปรารถนาเรียบร้อยแล้ว ท่านก็ทำประโยชน์แก่ญาติ...เพื่อนร่วมชาติ ร่วมศาสนา ร่วมพระมหากษัตริย์ ทำประโยชน์แก่โลก แก่ส่วนรวมต่อไป

เป็นวิหารธรรม ที่เป็น “เครื่องอยู่” ของท่าน

วัดป่าบ้านนาจิก วัดป่าศิลาอาสน์ ที่ดงหม้อทอง สำนักสงฆ์ถ้ำจันทน์ วัดป่าที่ภูสิงห์น้อย (ภูกิ่ว) สำนักสงฆ์ถ้ำบูชา สำนักสงฆ์สะแนน และวัดเจติยาคิรีวิหาร (ภูทอก) เป็นเสมือนเจดีย์ศิลาที่ท่านก่อนตั้งไว้

โดยเฉพาะที่วัดเจติยาคีรีวิหาร ซึ่งท่านได้สร้างสะพานเวียนรอบเขาโดยรอบเป็นชั้น ๆ จนถึงยอด ทำให้เขาภูทอกเป็นสถานที่ซึ่งเหมาะสำหรับผู้มุ่งไปปฏิบัติธรรมและพักผ่อน กิตติศัพท์อันงามขององค์ท่านเอง และสถานที่ซึ่งท่านบูรณะและสร้างสรรแล้ว ได้ชักนำให้ประชาชนจากที่ใกล้และไกล พากันสนใจ แม้ชาวต่างประเทศก็จัดคณะไปกราบคารวะและเยี่ยมชมสถานที่กันไม่ขาด

ด้วยเมตตาธรรมของท่าน ผ่าดงพงพีหลายแห่ง ได้กลายเป็นไร่นาสาโท ยิ่งท่านได้นำชาวบ้านสร้างถนนหนทาง สะพาน สระน้ำ ฝาย อ่างเก็บน้ำเพิ่มขึ้น ไร่นาสาโทเหล่านั้นก็อุดมสมบูรณ์ขึ้น
33#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-3-28 17:28 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
โดยเฉพาะที่ภูทอก เราได้ประจักษ์กับตาเองว่า ระหว่างสองสามปีหลังนี้ นาข้าวแถวบริเวณใกล้ภูทอก ต้นข้าวจะงาม สูงแทบจะท่วมหัวทีเดียว ชาวบ้านรู้จักปลูกผัก ได้อาศัยเมล็ดพันธุ์ผักจากวัด ได้น้ำจากฝายและอ่างเก็บน้ำ ๖ – ๗ แห่ง ที่ “หลวงพ่อ” คิดทำให้บ้าง และต่อมาได้ทำเป็นตัวอย่างจูงใจให้ชาวบ้านรู้จักช่วยตัวเอง ทำเพิ่มเติมขึ้นด้วย เขาเหล่านั้นก็เรียกได้ว่า พอจะลืมหน้าอ้าปากได้ บ้านเรือนที่มีอยู่เพียง ๑๐ หลังคาเรือน ก็กลายเป็นหลายร้อยหลังคาเรือน ... ที่เป็นฟาก เป็นไม้ไผ่ ก็เริ่มเปลี่ยนเป็นไม้ถาวรขึ้นอย่างหนาตา หลายสิบบ้านเป็นเจ้าของไร่มัน พืชผลต่าง ๆ และมีอีกเป็นสิบบ้านเช่นเดียวกัน ที่ต่างมีรถยนต์จอดอยู่ในบ้านของตน

วัดวาอาราม ถนน สะพาน สระน้ำ ฝาย อ่างเก็บน้ำ และความเจริญของหมู่บ้านที่ประชาชนอพยพตามเข้ามาอาศัยบารมีการุณธรรมอันสงบร่มเย็นของท่าน ... เหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นที่ดงหม้อทอง วานรนิวาส ที่ถ้ำจันทน์ ดงศรีชมภู ที่ภูสิงห์น้อย ที่ถ้ำบูชา ที่น้ำตกสะแนน ภูวัว ที่ภูทอกน้อย ภูทอกใหญ่ ... ล้วนเป็นอนุสรณ์แห่งการบำเพ็ญบารมีเพื่อโลกัตตถประโยชน์และญาตัตถประโยชน์ของท่านทางด้านถาวรวัตถุทั้งสิ้น

แต่ที่ทรงประโยชน์คุณค่ามหาศาล หาประมาณมิได้ คือทางด้านจิตใจ ที่ท่านกรุณาเมตตาช่วยเหลือเจือจาน เทศนา สั่งสอน แนะนำให้ศิษย์ทั้งบรรพชิตและฆราวาส ... ทั้งที่หนองคาย อุบล อุดร นครพนม สกลนคร กาฬสินธุ์ เลย สงขลา เชียงใหม่ เชียงราย กรุงเทพฯ ... จันทบุรี ชลบุรี ให้ศิษย์มีความคิดที่ถูกต้องดีงาม ไม่หลงไปในทางที่ผิด ให้รู้จักทุกข์ เหตุที่เกิดทุกข์ ธรรมอันเป็นที่ดับทุกข์ ข้อปฏิบัติให้ถึงธรรมอันเป็นที่ดับทุกข์

ท่านได้บำเพ็ญประโยชน์ปัจจุบันแล้ว

สำหรับประโยชน์ ๒ ประการคือ ประโยชน์ภายภาคหน้า.... เพื่อว่าเมื่อละชีวิตปัจจุบันแล้ว จะได้มีสุคติเป็นที่ไป และ ประโยชน์อย่างยิ่ง ... เพื่อดับอาสวกิเลสให้สิ้นไปถึงพระนิพพาน ... นั้น

บรรดาศิษย์ของท่านไม่มีความสงสัยเลยว่า ท่านได้บำเพ็ญบารมีเพื่อประโยชน์ ๒ ประการหลังนี้บริบูรณ์แล้ว เต็มแล้ว หรือไม่ และเพียงใด

ที่มา http://www.dharma-gateway.com/mo ... lp-juan-hist-02.htm
34#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-3-28 17:29 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ประสบการณ์ของคุณใหม่(ma-ii)


ขออนุญาตเล่าประสบการณ์แทรกหน่อยนะครับ ตอนเด็ก ๆ ประมาณป.5-ป.6 ผู้ใหญ่เคยพา
ไปไหว้หลวงปู่ที่ภูทอก  ตามประสาเด็ก ๆ พอเห็นภูเขาก็วิ่งขึ้นภูเขาหายไปเลย
ไต่เขาตามทางเดินเลียบผาไปเรื่อย ๆ   บางครั้งเดินอยู่คนเดียวนาน ๆ ไม่เจอคน
เดินสวนทางมาเลยก็มี  เห็นหลวงปู่นั่งรับแขกอยู่บนศาลาก็ไม่ได้เข้าไปกราบท่าน
เพราะยังเด็กไม่รู้ประสา

เดินสูงขึ้นไปเรื่อย ๆ  ก็ยิ่งน่าหวาดเสียวครับ  วิ่งอยู่คนเดียวจนเพลิน  ตาก็มองไป
เห็นรองเท้าแตะเก่า ๆ ข้างนึง  อยู่บนทางเดิน  ใจไม่ทันคิดอะไรเท้าก็เตะรองเท้า
ลอยโด่ง  ตกลงไปหายอดไม้ที่เห็นเป็นผืนป่าอยู่ด้านล่าง...หวาดเสียวมากกก

เดินมาได้ไม่กี่ก้าว มือที่คอยจับภูเขาก็ถูกตัวอะไรต่อยเข้าแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัวปวด
จับจิตจับใจเลยครับ  ความปวดติดมืออยู่จนกระทั่งลงมาถึงพื้นเบื้องล่างภูเขาก็
หาย  ไม่มีอาการบวมแต่อย่างใด

หลายปีต่อมาเติบโตขึ้นได้มีโอกาสศึกษาประวัติหลวงปู่  ถึงได้รู้ว่าข้างล่างนั้นเป็น
ที่อยู่ของพวกบังบด  แล้วเค้าห้ามโยนขยะหรืออะไรก็ตามทิ้งลงไปตอนที่อยู่ริมทาง
เดินเลียบผา...เด็กน้อยไม่รู้ประสาตอนนั้นเลยโดนสั่งสอนไปตามระเบียบ

หลวงปู่เป็นพระที่ปฎิบัติดีปฏิบัติชอบ กราบได้สนิทใจเป็นเพชรแท้แห่งพุทธศาสนา
อีกองค์หนึ่งครับ


35#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-9-4 10:49 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้




36#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-9-4 10:50 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้




37#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-9-4 10:51 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้





ขอบคุณครับ
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้