ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

สมดุลย์สุขภาพ (สุขภาพดีไม่มีขาย)

[คัดลอกลิงก์]
21#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-9-20 20:55 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้


เคล็ดลับ 7 วิธีเลือกสำลีที่ดีให้ผิวหน้า

สำลี จัดว่าเป็นอีกส่วนประกอบหนึ่งในการดูแลความสวยให้กับคุณสาวๆ ไม่ว่าจะ สำลีแผ่นธรรมดา สำลีรีดขอบ หรือสำลีก้อนก็ตาม จึงจำเป็นต้องเลือกที่ดีและเหมาะกับการใช้งานอีกด้วย วันนี้เรามีเกร็ดความรู้สำหรับการเลือกซื้อสำลีมาให้ดูกัน

I.1.สำลีเช็ดหน้าที่ดีต้องผลิตจากใยฝ้ายแท้ทั้งแผ่น ไม่มีการเจือปนสิ่งอื่นๆ เพราะใยฝ้ายแท้จะมีคุณสมบัติในการดูดซับน้ำได้ดีกว่าและปลอดภัยกับผิวหน้าของเรามากกว่าเพราะเป็นเส้นใยธรรมชาติ แต่เนื่องจากปัจจุบันใยฝ้ายแท้มีราคาสูงขึ้นมาก ทำให้ผู้ผลิตบางรายแอบเจือปนใยสังเคราะห์เข้าไป เพื่อลดต้นทุนในการผลิตหรืออาจมีการเคลือบผิวหน้าของสำลีด้วยสารสังเคราะห์เพื่อให้ผิวสำลีเนียนเรียบไม่เป็นขุย ดังนั้นหากจับบริเวณผิวหน้าสำลีแล้วให้ความรู้สึกเหมือนมีอะไรเคลือบอยู่หรือสำลีนั้นอาจมีผิวหน้าที่เนียนเรียบจนเกินไป ก็ให้ตั้งข้อสงสัยไว้ได้เลยว่าอาจมีการใช้สารสังเคราะห์มาเคลือบผิวสำลี หากนำสำลีนั้นไปใช้เช็ดผิวหน้าอาจก่อให้เกิดการระคายเคืองได้และสำลีนั้นอาจซับน้ำได้ไม่ดีเท่าที่ควร

II.2.สำลีเช็ดผิวหน้าที่ดีต้องสะอาด มีเนื้อสำลีที่ละเอียด นุ่มนวล เนียนแน่น ผิวสัมผัสเนียนเรียบ ไม่มีขุยสำลีหรือสิ่งสกปรกใดๆ เจือปนมาในถุงสำลีหรือในแผ่นสำลี ซึ่งการที่ผู้ผลิตจะผลิตสำลีได้เนื้อเนียนแน่น ไม่เป็นขุยนั้น ต้องอาศัยเทคโนโลยีในการผลิต อีกทั้งยังต้องใส่ใจในการเลือกสรรวัตถุดิบจากใยฝ้ายที่มีเส้นใยเหมาะสมซึ่งก็คือ ใยฝ้ายชนิดใยยาว ที่จะให้ผิวสัมผัสที่ดีกว่าใยฝ้ายชนิดใยสั้น แต่เนื่องจากใยฝ้ายชนิดใยยาวมีราคาสูงกว่า ผู้ผลิตบางรายจึงเลือกใช้ใยฝ้ายแบบสั้นแต่ใช้เทคนิคเคลือบผิวหน้าสำลีด้วยสารสังเคราะห์แทน

III.3.สำลีเช็ดผิวหน้าต้องไม่มีสารเคมีจากการผลิตตกค้าง โดยมีวิธีทดสอบง่ายๆ ก็คือ นำสำลีเช็ดหน้าไปแช่ในน้ำสะอาดพอประมาณ ให้สำลีซับน้ำนั้นเข้าไป จากนั้นใช้ช้อนกดน้ำจากสำลีออกมา แล้วเทใส่หลอดทดลองก่อนลองเขย่าดู หากมีสารเคมีตกค้างจะพบว่ามีฟองสีขาวๆ ขุ่นๆ ลอยอยู่เหนือน้ำนั้นด้วย หากเป็นสำลีที่ดีน้ำจะใสไม่มีฟอง

IV.4.สำลีที่ผลิตจากใยฝ้ายธรรมชาติ จะมีสีขาวนวลๆ ไม่ขาวจั๊วะๆ สำลีที่ขาวเกินไปอาจมีการใช้สารฟอกขาวย้อมสำลีหรืออาจผสมใยสังเคราะห์เข้าไป

V.5.สำลีเช็ดผิวหน้าที่ดี ต้องมีคุณสมบัติในการดูดซับน้ำได้ดี ลองทดสอบง่ายๆ ว่า หยดน้ำลงบนสำลีในปริมาณที่เท่าๆ กัน สำลีแผ่นไหนซึมซับน้ำเข้าไปในตัวสำลีได้ดีกว่ากัน สำลีแผ่นที่ซับน้ำได้มากกว่าแสดงว่ามีคุณสมบัติดูดซับน้ำได้ดีกว่า ดังนั้นเครื่องสำอางหรือผลิตภัณฑ์บำรุงผิวจะกระจายตัวได้ดีกว่า จึงทำให้ไม่เปลืองเครื่องสำอาง

VI.6.สำลีเช็ดผิวหน้าที่ดีต้องมีความคงตัว มีรูปทรงที่ดี มีขนาดเหมาะกำลังดี โดยทั่วไปจะมีขนาดประมาณ 5x6 เซ็นติเมตร ขอบทั้งสี่ด้านไม่รุ่ย แยกเป็นแผ่นๆ สำหรับเช็ดหน้าได้ทันที

VII.7.สาวๆ ควรเลือกใช้สำลีแผ่นในการเช็ดทำความสะอาดผิวหน้าจะดีกว่าการใช้สำลีก้อน สำลีม้วนหรือสำลีแบบปึก เพราะสำลีแผ่นจะมีผิวสัมผัสที่ดีกว่าและมีความสะอาดมากกว่า อีกทั้งยั้งเช็ดผิวหน้าได้เป็นบริเวณกว้างทำให้ไม่เปลืองสำลี นอกจากนี้ยังควรเลือกสำลีแผ่นชนิดที่ผลิตมาสำหรับเช็ดผิวหน้าโดยเฉพาะ เนื่องจากจะผลิตจากเส้นใยฝ้ายที่ละเอียดและยาวกว่าสำลีแบบอื่นๆ เพื่อป้องกันการเกิดขุยสำลีติดผิวหน้าไม่เพียงแค่การใส่ใจในคุณภาพของสำลีเท่านั้น แต่บรรจุภัณฑ์ที่ห่อหุ้มสำลีก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน เพราะสำลีเช็ดผิวหน้าที่ดีนอกจากจะสะอาดแล้ว ยังต้องอยู่ในบรรจุภัณฑ์ที่มีความปลอดภัยสูง เช่น บรรจุภัณฑ์ประเภท Food grade ซึ่งถุงพลาสติกแบบ Food grade จะมีความใส สะอาดและเหนียวแข็งแรงมากกว่าถุงซิป โดยทั่วๆ ไป

http://www.appeal-magazine.com/item/273-7-beauty-secret

ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
22#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-10-30 12:37 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้

ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
23#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-11-6 07:40 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้


เกร็ดน่ารู้ "วาซาบิ" ป้องกันฟันผุได้!?


ใช่แล้วครับ วาซาบิป้องกันฟังผุได้
จากงานวิจัยของประเทศญี่ปุ่น พบว่าวาซาบิมีสารที่ชื่อว่า Isothiocyanate
ที่สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย Streptocoocus Mutans ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดฟันผุ

สารนี้สามารถพบได้ในผักบางอย่าง เช่น บร็อคโคลี่ด้วยเหมือนกัน
นอกจากนั้น อาหารที่ได้รับการยอมรับกันมานานว่าดีต่อสุขภาพฟัน และลดการเกิดฟันผูได้ดีที่สุด
ก็คือ ชาเขียว เพราะมีสารฟลูออไรด์ แล้วก็ยังมีแอปเปิ้ล และสตอเบอร์รี่ จ้า


ขอบคุณข้อมูล: คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล

ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
โดนครับโดน
25#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-10-5 07:38 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้


เคล็ดลับลดน้ำหนัก
สูตรลดหน้าท้องจากญี่ปุ่น ใช้ยางรัดผมช่วยลดพุงได้
พุง ถือว่าเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญในการดูแลรักษารูปร่างของผู้หญิง ดังนั้นเราจึงเห็นผู้หญิงส่วนใหญ่ให้ความสนใจกับการลดพุงกันอย่างเอาเป็นเอาตาย ไม่ว่าจะเป็นการซิทอัพ หรืออดอาหารก็ตามที
แต่ที่ประเทศญี่ปุ่นนั้น การลดหน้าท้องหรือพุงได้กลายเป็นเรื่องง่าย ๆ สบาย ๆ ไปเสียแล้ว ในเมื่อพวกเขาสามารถที่จะมีหน้าท้องที่แบนราบได้ โดยที่ไม่ต้องอดอาหารหรือออกกำลังกายกันอย่างหนัก พวกเขาเพียงแค่มีหนังยางเส้นเดียวเท่านั้นก็เพียงพอแล้ว และควรเป็นหนังยางผ้านุ่มๆ แบบที่ใช้รัดผม
1 นำหนังยางมารัดตรงที่หัวแม่เท้าทั้งสองข้างให้เข้ามาติดกัน (อย่างที่เห็นตามรูปตัวอย่างที่แสดงไว้ในรูปที่ 1-2 )
2 และเมื่อคล้องลงไปแล้วก็มีข้อกำหนดว่าให้พยายามอย่าให้ส้นเท้าแยกออกจากกันเท่านั้นเป็นใช้ได้ แล้วทีนี้ก็ลงนอนลงไปอย่างตามสบายเลยทีเดียว
3 ทำทุกๆวันและก็ทำเพียงแค่วันละแค่เพียง 5 นาทีก็พอและที่ดีที่สุดก็ตรงที่ไม่ต้องมานั่งลดอาหารให้ร่างกายต้องหิวโหยขาดอาหารจนเกิดเป็นร่างกายทรุดโทรมขึ้นมาได้
ผู้คิดเรื่องนี้ได้ค้นพบว่า การที่กระดูกบั้นเอว (โค๊ต สุ บัง) มีอาการ เบี้ยว โย้เย้ (ยู กา มู) อยู่ไม่ตรงที่แน่นอน เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้กล้ามเนื้อบั้นเอวและหน้าท้องของเรานั้นหยุดการทำงานที่ดีไป
ดังนั้นเมื่อเราได้ใช้หนังยางรัดลงไปที่นิ้วหัวแม่เท้า ซึ่งเป็นจุดสำคัญของร่างกายที่จะไปช่วยบังคับการทำงานของกล้ามเนื้อส่วนนั้นให้ทำงานดีขึ้นและตรงเป้าหมาย ช่วยให้กระดูกบั้นเอวของเรากลับคืนมาสู่ในที่ตั้งอันมั่นคง เป็นปกติ คือไม่เบี้ยวโย้เย้ กล้ามเนื้อหน้าท้องและรอบบั้นเอวก็จะค่อยๆแบนราบลง
สุขภาพดีไม่มีขาย

ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
26#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-10-5 07:40 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้

ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
27#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-10-5 07:41 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้

ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
28#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-10-5 07:42 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้

ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
29#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-10-5 07:43 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้


#อุจจาระค้างในลำไส้...... อันตรายกว่าคิด
เจ้าปัญหาที่ว่ามาเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิด อากาศหลายอย่าง ตั้งแต่ ท้องอืด ปวดหลัง ปวดตัว ยันไม่เกรน
#วิธีที่แก้ให้อาการอุจจาระค้างลำไส้นั้นไม่ยาก เริ่มจากกินเมนูง่ายๆ เช่น นมกล้วย นมหวานโซดา น้ำเม็ดแมงลัก น้ำงาดำ
วิธีทำก็ง่ายแสนง่ายมาดูกัน อุจจาระตกค้างในลำไส้เกิดจากการที่เราเคี้ยวอาหารไม่ละเอียด กินอาหารที่มีกากใยน้อย และระบบดูดซึมไม่ดี เป็นเหตุให้เวลาเราถ่ายจะถ่ายไม่หมด อุจจาระที่ค้างก็จะไปเกาะผนังลำไส้ เมื่อเกาะติดแน่นไปเรื่อยๆ อุจจาระจะไปตกค้างทับเส้นเลือดในกระเพาะและกดทับกระดูกบริเวณหลัง ส่งผลให้มีอาการดังนี้ตามมา เช่น ปาดหลัง ท้องอืด เป็นไมเกรน

นพ.กฤษดา ศิรามพุช ผู้อำนวยการสถาบันเวช ศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติ ได้อธิบายเพิ่มเติมไว้ว่า เราสามารถตรวจด้วยตัวเองได้ว่าเรามีอุจจาระค้างในลำไส้หรือไม่ เริ่มจากการนอนหงายแล้วเอามือคลำท้องด้านซ้ายล่าง เลยสะดือทางซ้ายไปหน่อย แล้วเอานิ้วทั้ง 5 ลองกดดูจนลึกและเลื่อนไปมา หากมีค้างอยู่จะคลำได้เป็นแท่งยาวๆ อยู่ตามรูปลักษณ์ของลำไส้

หลายคนอาจจะกังวลว่าจะทำอย่างไรดีให้อาการอุจจาระตกค้างในลำไส้หายไป ต้องผ่าตัดหรือเปล่า ไม่ยากขนาดนั้นค่ะ เรารักษาอาการดังกล่าวเริ่มได้ที่การกิน มีสูตรง่ายๆมาฝากค่ะ

แบ่งสูตรอาหารแก้อุจจาระตกค้างได้เป็น 2 กลุ่ม

1.สูตรล้างกลุ่มนม

- กินนมสด 2 กล่องกับกล้วยน้ำว้า 2 ลูก ตอนเช้า ก่อนอาหาร

- นำนมสด 2 กล่อง โยเกิร์ต 1 ถ้วย น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ เติมน้ำส้มหรือน้ำมะนาว รสชาติตามชอบ ทิ้งไว้อย่าง น้อย 15 นาที แล้วดื่มตอนเช้าก่อนอาหาร

- นมข้นหวาน 1 ช้อนโต๊ะ โซดา 1 แก้วใหญ่ ชงให้เช้ากัน ดื่มก่อนนอน

2.สูตรล้างกลุ่มผัก

- ให้กินผักใบเขียวและผักมีเมือก ๆ ทุกชนิด เช่น ผักบุ้งแดงวันละ 2 กำมือ ผักกุยไซ่ กระเจี๊ยบเขียว บวบ น้ำเต้า ตำลึง เป็นต้น

- นำเม็ดแมงลัก 2 ช้อนชา ชงกับน้ำอุ่น 1 แก้ว ทิ้งไว้ให้พอง ดื่มก่อนนอน

- ใช้มะขามเปียก (แกะเมล็ดออก) 8 ส่วน นำมานึ่ง นำข่าแห้งตำละเอียด 1 ส่วน เกลือป่น 1 ส่วน ผสมให้เข้ากัน คลุกด้วยผงชะเอมหรือผงบ๊วย ปั้นเป็นก้อนกลมขนาดพอดีคำ กินเพื่อระบายอุจจาระและช่วยฟื้นฟูปลายประสาท

- นำงาดำ 1 ขีดมาล้างให้สะอาด ตากให้แห้ง คั่วให้สุก ปั่นให้ละเอียดแล้วคลุกกับน้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ (ให้รีบคลุกทันที เพราะ งาป่นหรือถั่วป่นทุกชนิด ถ้าทิ้งไว้เกิน 20 นาที เชื้อราจะเข้าไป การคลุกด้วยน้ำผึ้งช่วยป้องกันเชื้อราได้) ปั้นเป็นลูกกลม ๆ ใส่ตู้เย็นเก็บไว้ เวลากินนำมาชงกับน้ำร้อน ดื่มตอนเช้าทุกวัน

- ดอกแพงพวยฝรั่ง เด็ดกลีบกินตามจำนวนเท่าอายุ

- ดอกชุมเห็ดเทศ นำดอกชุมเห็ด 1 ช่อเท่ากับ 1 ดอก นำมาลวกราดน้ำกะทิจิ้มน้ำพริกกิน ห้ามกินเกิน 3 ดอก/วัน

เรียบเรียงข้อมูลจาก : lifestyle.th.msn.com และ Thai Self Care

ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
30#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-10-5 07:43 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้

ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้