ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
ดู: 37217
ตอบกลับ: 29
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

>> พระแก้ว พระกาฬ พญายมราช ท้าวเวสสุวรรณ เทพหลังความตาย <<

[คัดลอกลิงก์]

ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
2#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-4-30 11:56 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
...พระกาฬ...



ในความหมายดั้งเดิมของคนไทยสมัยก่อน
เปรียบเทียบได้กับเจ้าแห่งความตาย
คล้ายๆกับเมื่อได้ยินชื่อของพระยามัจจุราช หรือ พระยายม


ในปัจจุบันรูปเคารพ ...พระกาฬชัยศรี..
ถูกประดิษฐานอยู่บริเวณศาลหลักเมืองกรุงเทพฯ
ท่านถือว่าเป็นเทพารักษ์ประจำเมืองที่มีคนมาเคารพบูชาอยู่มิน้อย
         ศาลเดิมอยู่ใกล้เจ้าพ่อหอกลองหน้าวัดพระเชตุพน แต่ถูกรื้อลงในคราวเดียวกัน
เพื่อทำกรมทหารหรือกรมรักษาดินแดนในปัจจุบัน



คำว่า กาฬ แปลว่า สีดำ มึด
(หรืออาจจะหมายถึง ความตาย ,สิ่งที่น่ากลัว)


ซึ่งคนไทยโบราณมักจะเกรงกลัวพระกาฬมาก
จนพูดติดปากเป็นคำสบถสาบานว่า


" ให้พระแก้ว พระกาฬ มาหักคอซิเอ้า"

(พระแก้วในที่นี้น่าจะหมายถึง เจ้าพ่อเจตคุปต์
ท่านเป็นสมุห์บัญชีของพระยายมนั่นเอง )

ถ้าเอ่ยถึงพระกาฬเมื่อไรก็หมายถึง

" เทพแห่งความตายนั่นเอง "

แล้วเมื่อย้อนไปสมัย...ยุค 70-80 ปีก่อน
บรรดานักประพันธ์ นักข่าวหนังสือพิมพ์อาวุโส
มักจะพาดหัวข่าวว่า เรียกบรรดามือปืนรับจ้างฝีมือดี
ที่ปลิดชีวิตใครไม่เคยพลาด
ว่าเป็น "มือพระกาฬ" หรือ "ระดับพระกาฬ"


ทำให้คำนี้ถูกใช้จนติดหูในปัจจุบัน
แต่ความหมายก็ดูจะผิดแปลกไปกว่าเดิม
ประมาณว่า .....

เก่งไร้เทียมทาน  ไม่มีใครสู้ได้


เช่น นักกีฬาระดับพระกาฬ สินค้าที่ยิ่งใหญ่ระดับพระกาฬ
เมนูอาหารพิเศษสุดระดับพระกาฬ
รวมไปถึงใช้เรียกผู้ที่มีฝีมือด้านต่างๆ ว่าเก่งระดับ "พระกาฬ"

ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
3#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-4-30 20:41 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
เจ้าพ่อเจตคุปต์



เป็นรูปเทพารักษ์ที่จาหลักด้วยเครื่องไม้ปิดทองทั้งองค์ สูง ๑๓๓ ซม.
ประทับยืนบนแท่น พระเศียรทรงมงกุฎยอดชัย
สวมสนับเพลามีเชิง นุ่งภูษาทับด้วยห้อยหน้า
ประดับด้วย สุวรรณกระถอบ คาดปั้นเหน่งทับรัดพัสตร์
ต้นพระพาหารัดด้วยพาหุรัด ใส่สังวาลตาบทิศ ทับทรวง
สวมทองพระกร ทองพระบาท ฉลองพระบาท
มีรูปนาครัดที่ข้อพระพาหาไพล่ไปเบื้องหลัง
พระหัตถ์ทั้งสองยกเสมอระดับพระอุระ
พระหัตถ์ขวาถือเหล็กจาร พระหัตถ์ซ้ายถือใบลานอัครสันธานา
สำหรับจดความชั่วร้ายของชาวเมืองที่ตายไป
เจ้าเจตคุปต์เป็นเทพารักษ์ที่เป็นบริวารพระยม
มีหน้าที่จด บันทึกความชั่วร้ายของมนุษย์ที่ตายไปแล้วนาเสนอต่อพระยม


         รูปเคารพเจ้าพ่อเจตคุปต์ เดิมอยู่ที่ศาลหน้าหับเผยข้างคุกมหันตโทษ
ชาวบ้านจึงเรียกเพี้ยนว่า "เจ้าพ่อเจตคุก"



ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
4#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-4-30 20:57 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้


ประวัติพญายมราช
ตำนานท้าวพญายมราช (พระยม)

    ท้าว พญายมราช หรือ พระยม ในเทวตำนานยุคต้น ท้าวจตุโลกบาลแห่งทิศทักษิณ กล่าวไว้คือพระยม เป็นองค์เดียวกัน มีลักษณะใบหน้าดุดัน พระวรกายสีแดงทรงเครื่องอย่างกษัตริย์ พระหัตถ์ขวาถือบ่วงยมบาศก์(บ่วงบาศก์ที่ใช้จับมัดวิญญาณทั้งหลาย) พระหัตถ์ซ้ายทรงไม้ท้าวยมทัณฑ์ ทรงกระบือเป็นพาหนะ มีอิทธิฤิทธิ์มากทำหน้าที่พิพากษาและปกครองดวงวิญญาณทั้งหลายในนรกภูมิ มีบริวารคือ ยมฑูต หรือ นายนิรยบาล มีหน้าที่นำวิญญาณทั้งหลายไปยังสำนักพญายม และลงโทษแก่ดวงวิญญาณในนรก

ซึ่ง บริวารท้าวพญายมราชที่คนไทยรู้จักดีมีด้วยกัน ๒ องค์ ได้แก่ พระกาฬไชยศรี และ เจ้าพ่อเจตตคุปต์ ซึ่งมีรูปเคารพอยู่ที่ศาลหลักเมือง ทำหน้าที่จดชื่อและจับวิญญาณชั่วร้ายที่จะมารบกวนบ้านเมือง ท้าว พญายมราช เป็นเทวดาที่มีการกล่าวถึงในตำนานของทุกชาติพันธุ์ภาษา ของทุกวัฒนธรรมทั่วโลก ต่างกันเพียงการเรียกนามที่เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละภาษาเท่านั้น ส่วนหน้าที่และอำนาจนั้นมีความคล้ายคลึงกัน ตำนานลัทธิข้างจีนฝ่าย มหาญาน กล่าวว่า พญายมเป็นพระโพธิสัตว์พระองค์หนึ่ง

      ตำนานท้าวพญายมราช มีการกล่าวถึงกำเนิดไว้หลากหลาย อาจเป็นเพราะพญายมเป็นตำแหน่งเทวราชผู้ปกครองยมโลก มีการหมุนเวียนเปลี่ยนไปตามมติของเทวสภา หรือบารมีที่สั่งสมมาอย่างเหมาะสมทำให้ไปเกิดเป็นท้าวพญายมราช จากเทวตำนานในยุคต้นที่กล่าวว่าท้าวจตุโลกบาลทิศทักษิณ คือ พระยม

ด้วย ในยุคต้นที่ยังไม่มีวิญญาณใดที่เหมาะสม ท้าวจตุโลกบาลทิศทักษิณ คือ ท้าววิรุฬหก ทรงเป็นเทวกำเนิดจึงต้องรับภาระในตำแหน่งพญายม หรือ พระยม ซึ่งก็มีตำนานได้กล่าวไว้ว่า บริวารของพญายมคือ ยมฑูต ก็ คือกุมภัณฑ์ พวกหนึ่งนั่นเอง แต่เมื่อมีมนุษย์มากขึ้นสั่งสมบารมีหรือมีความเหมาะสมย่อมได้รับการสถาปนา ให้ดำรงตำแหน่ง

      ท้าวพญายมราช องค์ปัจจุบันในอดีตชาติก่อนที่ท่านจะได้รับสถาปนาเป็นท้าวพญายมราชนั้น ท่านเป็นมนุษย์ในครั้งก่อนพุทธกาล ในยุคที่ยังมนุษย์อยู่กันเป็นชุมชนยังไม่ใหญ่นัก ซึ่งท่านเป็นหัวหน้าชุมชนในหมู่บ้านเป็นผู้มีวิชาความรู้ เมื่อเกิดเหตุความไม่สงบขึ้นในชุมชนหมู่บ้านท่านเป็นผู้นำปราบปรามแก้ไข และต้องตัดสินพิพากษา

ครั้งหนึ่งเกิดเหตุการณ์ฆ่ากันตายในหมู่บ้าน ที่ท่านดูแลอยู่ แต่ไม่มีผู้ใดยอมรับว่าเป็นผู้กระทำด้วยเกรงกลัวความผิด เพราะโทษนั้นหนักถึงกับต้องประหารให้ตายตกตามกันคือชีวิตต้องชดใช้ด้วยชีวิต ท่านในฐานะผู้ปกครองดูแลเมื่อสอบสวนแล้วไม่มีผู้ยอมรับผิด จึงได้ใช้วิชาความรู้ที่ร่ำเรียนมาเสกแป้งฝุ่นแล้วซัดออกไปก็จะปรากฎรอยเท้า ผู้กระทำผิด

http://www.oknation.net/blog/sulfa/2011/05/08/entry-1

5#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-4-30 21:09 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้

ท้าวกุเวร หรือ ท้าวเวสสุวรรณ
เป็นอธิบดีแห่งอสูรย์หรือยักษ์ หรือเป็นเจ้าแห่งผี
เป็นหนึ่งในบรรดาท้าวจตุโลกบาลทั้งสี่ ผู้คุ้มครองและดูแลโลกมนุษย์
สถิตอยู่บนสวรรค์ชั้นจาตุ ทรงอิทธิฤทธิ์อานุภาพมาก
ประทับ ณ โลกบาลทิศเหนือ มียักษ์เป็นบริวาร



          คนไทยโบราณนิยมนำผ้ายันต์รูปยักษ์ผูกไว้ที่หัวเตียงเด็กเพื่อป้องกันวิญญาณชั่วร้ายไม่ให้มารังควานแก่เด็ก ท้าวกุเวรองค์นี้มีกล่าวถึงในอาฏานาฏิยปริตว่านำเทวดาในสวรรค์ชั้นจตุมหาราชิกา มาเฝ้าพระพุทธเจ้า และได้ถวายสัตย์ที่จะดูแลพระพุทธเจ้าและเหล่าสาวกไม่ให้ยักษ์หรือบริวารอื่น ๆ ของท้าวจตุโลกบาลไปรังควาน


           ท้าวกุเวรหรือท่านท้าวเวสสุวรรณนั้น ส่วนมากเราจะพบเห็นในรูปลักษณ์ของยักษ์ยืนถือกระบองยาวหรือคทา (ไม้เท้าเป็นรูปกระบอง) กันซะส่วนใหญ่ แต่แท้ที่จริงแล้ว ยังมีรูปเคารพของท่านในรูปของชายนั่งในท่า มหาราชลีลา มีลักษณะอันโดดเด่นคือ พระอุระพลุ้ยอีกด้วย กล่าวกันว่าผู้มีอาชีพสัปเหร่อ หรือมีอาชีพประหารชีวิตนักโทษ มักพกพารูปท้าวเวสสุวรรณ สำหรับคล้องคอเพื่อเป็นเครื่องรางของขลัง ป้องกันภัยจากวิญญาณร้ายที่จะเข้ามาเบียดเบียน ในภายหลังภาพลักษณ์ของท้าวกุเวรที่ปรากฏในรูปของชายพุงพลุ้ยเป็นที่เคารพนับถือ ในความเชื่อว่าเป็นเทพแห่งความร่ำรวย แต่ท้าวกุเวรในรูปของท้าวเวสสุวรรณซึ่งมาในรูปของยักษ์เป็นที่เคารพนับถือว่า เป็นเครื่องรางของขลังป้องกันภูติผีปีศาจ

ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
  จาไมท่านยมถึงได้แม้น ๆ กะ  ท่านเทพวันอังคารรุยเนอะ  
ขอบคุณครับ
ชอบๆครับ
10#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-5-8 09:03 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
คาถาบูชาพระกาฬ

โอม   ทักขิณทิส   ยมเทวตา    สหคณปริวารา    อาคัจฉันตุ   ปริภุญชันตุ   สวาสหาย ฯ
โอม    สัพพอุปาทว   สัพพทุกข   สัพพโศก   สัพพโรค  สัพพภัย สัพพเคราะห์เสนียดจัญไร วินาสาย สัพพศัตรู  ปมุจจติฯ      
โอม.....ยมเทวตา    สทารักขันตุ   สวาห    สวาห   สวาหายฯ
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้