ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
ดู: 2800
ตอบกลับ: 1
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

เปรต 4ตน

[คัดลอกลิงก์]
..คาถาเปรต 4 ตน..


ในอดีตกาลนานมาแล้ว มีบุตรเศรษฐี 4 คน เป็นเพื่อนสนิทกันกินด้วยกันเที่ยวด้วยกัน อยู่มาวันหนึ่ง เพื่อนคนหนึ่งเสนอว่าพวกเราก็มีเงินมีทองใช้จนตายก็ไม่หมด เราน่าจะเสพสุขให้เต็มที่สุขที่น่าตื่นเต้น เมื่อเพื่อน ๆ ถามว่าสุขที่น่าตื่นเต้นน่ะอะไร เพื่อนคนต้นคิดกล่าวว่า
“ก็เป็นชู้กับเมียเขาสิ ตื่นเต้นดี”ภรรยาคนอื่นที่สวยๆ


อีก 3 คนที่เหลือเห็นดีเห็นงามด้วย จากนั้นมา บุตรเศรษฐีเพลย์บอยทั้ง 4 ก็เที่ยวจีบเมียชาวบ้าน เอาเงินหว่าน อย่างว่า “แข็งดังหินเงินง้างอ่อนได้ดังประสงค์”ภรรยาสาวของใครต่อใครตกเป็นเมียบำรุงบำเรอความสุขของเจ้า 4 คนนั้นมากมายไม่มีใครทำอะไรได้เพราะอำนาจเงินและอิทธิพลบารมีของพ่อของพวกเขา




เมื่อพวกเขาตายไป ไปเกิดในนรกเสวยผลกรรมอยู่เป็นเวลาไม่รู้กี่กัปต่อกี่กัป จนกระทั่งถึงสมัยพระพุทธกาลนี้ สัตว์นรก 4 ตัวนี้รู้สึกสำนึกในบาปกรรมที่ตนทำ อยากจะประกาศว่าต่อไปนี้ถ้าได้กลับไปเกิดเป็นมนุษย์อีกจะเลิกทำชั่วเด็ดขาด จะทำแต่ความดีแต่ไม่มีเวลาได้พูดตามต้องการพูดออกมาได้เฉพาะแค่คำแรก คนละคำ ตามลำดับ ทุ สะ นะ โส


ซึ่งเปรตตัวแรกต้องการพูดว่า


ทุชชีวิตะชีวิมหาเยสันโน นะทะทามหะเส
วิชชะมาเนสุ โภเคสุ ทีปัง นากัมหะอัตตะโน


เมื่อยังเป็นมนุษย์มีโภคทรัพย์มากมาย เราก็ไม่ได้ให้ทาน ไม่ทำที่พึ่งแก่ตัว ทำแต่ความชั่วช้าสารเลว




ตัวที่สองต้องการพูดว่า


สัฏฐีวัสสะหัสสานิ ปะริปุณณานิ สัพพะโส
นิระเย ปัจจะมา-นานัง กะทา อันโตภะวิสสะติ


เราตกนรกหมกไหม้เป็นเวลาหกหมื่นปีแล้วเมื่อไรจะสิ้นเวรสิ้นกรรมเสียที




ตัวที่สามต้องการพูดว่า


นัตถิอันโต กุโต อันโต นะอันโต ปะฏิทิสสะติ
ตะทาหิ ปะกะตัง ปาปัง มะมะตุยหัญจะ มาริสา


ไม่มีที่สุดสิ้นดอก เมื่อไหร่เล่ามันจะสิ้นเวรสิ้นกรรม ก็พวกเราทำแต่ความชั่วช้าสารเลวนี่ เพื่อนเอ๋ย




ตัวที่สี่ต้องการพูดว่า


โสหัง นูนะอิโต คันตวา โยนิง ลัทธานะ มานุสิง
วะทัญญู สีละสัมปันโน กาหามิ กุสะลัง พะหุง


ถ้าเราได้เกิดเป็นมนุษย์อีก เราจะให้ทานรักษาศีลจะทำบุญกุศลเป็นอันมาก

2#
 เจ้าของ| โพสต์ 2016-11-6 10:19 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้


เปรตทั้งสี่ตนนั้นเป็นเปรตที่ต้องทนรับทุกข์เวทนาในบ่อหินเดือดมานานหลายกัลป์

ต่อเมื่อมีพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้พระองค์หนึ่งจึงจักได้โผล่ขึ้นมาครั้งหนึ่ง

แต่ละครั้งจะมีเวลาไม่ถึงอึดใจ

เพียงเปล่งเสียงเรียกพระพุทธองค์ให้เสด็จมาทรงโปรดช่วยให้พ้นจากทุกขเวทนาแค่คำเดียว


ก็กลับจมดิ่งลงสู่ก้นบ่อ

ต้องกลับไปเสวยกรรมทนทุกขเวทนาจนกว่าจะมีพระพุทธเจ้าองค์ใหม่มาตรัสรู้อีก

คำที่เปรตทั้งสี่กู่ร้องเรียกพระพุทธองค์นั้น

เมื่อนำมารวมกันแล้วจะได้ความว่า

“ทุ สะ นะ โส”



เมื่อเปรตตนใดที่มารบกวนหรือก่อกวนมนุษย์ผู้ทรงศีลได้ยินพระคาถาหัวใจเปรตบทนี้
จักระลึกถึงเปรตทั้งสี่ที่ยังเสวยกรรม
อยู่ในอเวจีมหานรก จักได้สติ เกิดความรู้สึกหวาดกลัวผลแห่งกรรมที่ตนจักได้รับ
รีบหลบหนีไปไม่กล้ากระทำกรรมชั่ว
อาศัยซึ่งเปรตทั้งสี่ตนนั้นเป็นอุทาหรณ์ดั่งนี้แล ฯ



(อุทาหรณ์ แปลว่า ตัวอย่าง การอ้างอิง การยกขึ้นให้เห็น)

พระคาถาสี่คำที่เกิดจากเปรตทั้งสี่คนนั้นท่านอาจารย์ทางด้านไสยศาสตร์ท่านขนานนามว่า

“พระคาถาหัวใจเปรต”

ใช้สวดเพื่อข่มขู่ไล่วิญญาณที่ชั่วร้ายที่เข้าสิ่งร่างเหยื่อผู้เคราะห์ร้าย
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้