ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
ดู: 3804
ตอบกลับ: 0
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

คาถาชินบัญชรกับแรงอธิษฐาน หลวงพ่อมุ่ย พุทธรักขิตฺโต วัดดอนไร่

[คัดลอกลิงก์]


https://www.facebook.com/%E0%B8%85%E0%B8%99%E0%B8%82%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%87-%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%8A%E0%B8%B2-1400423613508026/?fref=ts

หากกล่าวถึงหนึ่งในสุดยอดพระเกจิอาจารย์ แห่งเมืองสุพรรณบุรี ยุคแรกขอยกให้ หลวงพ่อเนียม วัดน้อย ยุคต่อมาเป็นหลวงปู่อิ่ม วัดหัวเขา แล้วจึงยกให้หลวงพ่อมุ่ย วัดอนไร่ กับ หลวงพ่อหร่ำ วัดวังจิก อันนี้จากวิจารณญาณของผู้เขียน ส่วนผู้ใดคิดเป็นอื่นนั้นก็ตามแต่เหตุผลของความศรัทธาที่ต่างไป สำหรับหลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ นี้นอกจากที่ข้าพเจ้าเคยได้รับฟังคำรับรองจาก หลวงปู่เดินหน อิเกสาโร ว่าท่านเก่งทางเหนียวคงและพลังจิตแก่กล้ามาก ดังที่เคยกล่าวไปแล้วในบทความก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ข้าพเจ้ายังได้รับฟังเรื่องราวของหลวงพ่อมุ่ย จากคำบอกเล่าของท่านผู้หนึ่งที่เป็นอาจารย์ผู้สร้าง และเป็นผู้แรงผลักดันทั้งตั้งชื่อให้เกิด **ฅนขลัง คลังวิชา** ท่านผู้มีคุณเป็นดั่งบิดาที่สอง และอาจารย์ผู้ถ่ายทอดความรู้หลากหลาย ในเรื่องราวเกี่ยวกับความเข้มขลังและวัตถุมงคล ท่านผู้นี้จัดเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับสุดยอดผู้หนึ่งในด้านนี้ ท่านผู้นี้คือ คุณสุรศักดิ์ พฤกษ์กานนท์ หรือป๊าบอยที่ข้าพเจ้าเรียกจนติดปาก
............
❀❀❀❀❀❀❀❀
............
คุณสุรศักดิ์ ได้รู้จักและฝากตัวเป็นศิษย์หลวงพ่อมุ่ยราวปี พ.ศ. ๒๕๐๐ เรื่องราวการพบกันที่จะเล่าต่อไปนี้ ขอออกตัวก่อนว่าเรื่องราวนี้ข้าพเจ้าเคยบอกเล่า และได้นำพา คุณกนก ขำสุวรรณ (หนุ่ม สุพรรณ) มาสอบถามพูดคุยกับคุณสุรศักดิ์ที่บ้านพักของข้าพเจ้า เหตุนี้ข้อมูลอาจไปตรงกับเนื้อหาที่เขียนโดยคุณหนุ่ม สุพรรณ ในหนังสือประวัติหลวงพ่อมุ่ย จึงแจ้งให้ทราบก่อนเพื่อนกันความสับสนในข้อมูลเหล่านี้ สำหรับปฐมเหตุที่คุณสุรศักดิ์ได้พบหลวงพ่อมุ่ยนั้นท่านเล่าให้ข้าพเจ้าฟังว่า ในช่วงปี พ.ศ. ๒๔๙๙ ในพระนครเวลานั้นพวกนักเลงจิ๊กโก๋มีมากแบ่งเป็นก๊กเป็นเหล่า สร้างความเดือดร้อยไล่ตีทำร้ายกันวุ่นวายไม่เว้นวัน และคุณสุรศักดิ์เองก็เป็นหนึ่งในชายหนุ่มที่โลดโผนอยู่ในวงการนักเลง โดยอยู่กับกลุ่มของ **พัน หลังวัน**
............
❀❀❀❀❀❀❀❀
............
คุณสุรศักดิ์เล่าว่า พัน หลังวัง เป็นนักเรียนโรงเรียนเซนต์คาเบียล เป็นลูกฅนมีเงินมีน้ำใจกว้างใหญ่ สำคัญเป็นฅนใจนักเลงและรักเพื่อนมากชนิดตายแทนได้ทันที เหตุนี้จึงได้รับการยกย่องให้เป็นลูกพี่และโด่งดังขึ้นมา สำหรับพัน หลังวัง เขาก็เป็นเหมือนเด็กหนุ่มสมัยนั้นหลาย ๆ ฅน คือ ต้องมีของดีคุ้มตัวทางอยู่คง แต่เขาไม่ขอบแขวนสร้อยพระ จึงเลือกสวมแหวนมงคลเก้า วัดราชบพิธ ด้วยเหตุผลว่าพระเกจิระดับสุดยอดมาร่วมเสกมากมาย และแหวนนี้สร้างอภินิหารคุ้มตัวเขามาหลายคราว เช่น คราวที่โดนแทงด้วยเหล็กขูดชาร์ป ที่โต๊ะสนุกเกอร์แถวพรานนก พัน หลังวัง โดนแทนเห็นเสื้อขาดเป็นทาง แต่ไม่เข้ามีแค่รอยขีดเหมือนแมวข่วนและรอยจ้ำ ๆ เท่านั้น
............
❀❀❀❀❀❀❀❀
............
ภายหลัง จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ มีคำสั่งให้กวาดล้างพวกนักเลง มือปืน และผู้มีอิทธิพลในเขตพระนคร นักเลงชื่อดังหลายฅนหายตัวไปพร้อมการมาของกลุ่มชายชุดดำ คราวนี้พวกนักเลงวงแตกเหมือนผึ้งแตกรัง ออกสู่หัวเมืองต่าง ๆ ด้วยกลัวการปราบปรามเอาจริง คุณสุรศักดิ์เก็บข้าวของหนีไปซุ่มฟังข่าวที่ จ.สุพรรณบุรี ไปอาศัยอยู่กับญาติข้างบิดา เวลานั้นคุณสุรศักดิ์มีเงินติดตัวไปจำนวนหนึ่ง พร้อมสายสร้อยคอทองคำหนักห้าบาทที่สวมติดคออยู่ กับรถจักรยานยนต์ใหม่เอี่ยมหนึ่งคัน สมัยนั้นตามหัวเมืองหาผู้มีเงินซื้อรถจักรยานยนต์ยังมีน้อย เรียกว่าขับไปไหนสาวต้องเหลียวมอง เดี๋ยวเท่ห์สุด ๆ ในสมัยนั้น
............
❀❀❀❀❀❀❀❀
............
ด้วยความที่ชอบทางเข้มขลังเสาะหาอาจารย์ เมื่อมาอยู่ จ.สุพรรณบุรี คุณสุรศักดิ์สอบถามชาวบ้านว่าในยุคนั้นพระอาจารย์ใดเก่งกล้ามีชื่อเสียง ได้ความว่าหลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ จัดเป็นพระอาจารย์ที่เข้มขลังพลังจิตแก่กล้าที่สุด คุณสุรศักดิ์รับฟังแล้วยังเฉย ๆ อยู่ด้วยยังไม่รู้สรรพคุณ จึงไม่ได้คิดเดินทางไปกราบท่าน จนต่อมาในงานบุญ วัดหนองผักนาค จ.สุพรรณบุรี ได้ยินเขาประกาศว่าหลวงพ่อมุ่ยมาในงานนี้ด้วย คุณสุรศักดิ์เมื่อรู้ก็คิดลองดีหลวงพ่อมุ่ย จึงตั้งใจนั่งสวดพระคาถาชินบัญชรในใจแล้วอธิษฐานว่า
--
**หากหลวงพ่อมุ่ย ศักดิ์สิทธิ์จริงดังคำที่ฅนเขาล่ำลือ ขอให้หลวงพ่อมุ่ยรับรู้ในคำอธิษฐานนี้ และขอให้ได้พบหลวงพ่อมุ่ยแล้วตนจะถวายปัจจัยที่ติดตัวมาทั้งหมดแด่ท่าน **
--
เมื่ออธิษฐานจบลงก็ไม่ได้คิดอะไรต่อ ได้เดินทางรับประทานอาหารที่ร้านค้าซึ่งมาเปิดขายในงาน นั่งรับประทานอาหารอยู่ครู่หนึ่ง จู่ ๆ เห็นมีชายชราเดินมาเรียกบอกว่า **หลวงพ่อมุ่ยให้มาตาม** คุณสุรศักดิ์กล่าวว่าเวลานั้น งง มาก จึงย้อนถามกลับไปว่า
--
คุณสุรศักดิ์ : **ลุงมาตามผิดฅนหรือปล่าครับ ผมไม่เคยพบหลวงพ่อมุ่นเลย**
--
ลุงผู้มาตาม : **หลวงพ่อมุ่ยท่านสั่งให้ผมมาตามคุณ ท่านบอกว่าให้ตามฅนที่ใส่หมวกแก๊ป ตอนนี้กำลังนั่งกินก๋วยเตี๋ยวอยู่ให้มาพบท่าน**
--
เมื่อเจอคำตอบแบบนี้คุณสุรศักดิ์ถึงกับพูดไม่ออก เพราะสมัยนั้นจะหาฅนใส่หมวกแก๊ปน้อยมาก ยิงตามหัวเมองบ้านนอกบ้านนายิ่งไม่มีเอาเสียเลย เมื่อเป็นเช่นนี้แสดงว่าตามตัวถูกฅนแน่นอน คุณสุรศักดิ์รีบจ่ายเงินค่าอาหารแล้วรีบเดินติดตามคุณลุงผู้นั้นมาทันที เมื่อกราบหลวงพ่อมุ่ยแล้วท่านพูดว่า **เอารถเครื่องไปส่งท่านทที่วัดดอนไร่หน่อยได้ไหม เพราะรถที่พาท่านมายางแตก** คุณสุรศักดิ์รับปากท่านทันที เพราะเห็นช่องทางได้ใกล้ชิดท่าน แต่มาฉุกคิดแปลกใจว่าหลวงพ่อมุ่ยท่านรู้ได้อย่างไร ว่าคุณสุรศักดิ์มีรถจักรยานยนต์ ทั้งที่พบกันเพียงครั้งแรก ทั้งนี้ลวงพ่อมุ่ยท่านยังพูดลอย ๆ ว่า **คาถาชินบัญชรนั้นดีมาก** แบบนี้จัดว่าหลวงพ่อมุ่ยดักทางใจรู้วาระจิตถึงสามเด้งติดกันในคราวเดียว จึงฟันธงได้ทันทีว่าไม่ใช่ฟลุ๊คหรือเด่าสุ่มแน่นอน ภายหลังคุณสุรศักดิ์จึงฝากตัวเป็นศิษย์ และในวันนั้นมีเงินติดตัวอยู่นับพันบาท (ในสมัยนั้น) คุณสรศักดิ์ถวายท่านทั้งหมด และไปมาหาสู่อยู่จนหลวงพ่อมุ่ยมรณภาพ
............
**ไม่ใช่พวกใส่ชุดขาวหลับตาเพื่อสร้างภาพ
เป็นเพียงแค่ฅนบาปที่ผ่านมา ... ฅนขลัง คลังวิชา..**
............
❀❀❀❀❀❀❀❀
สนใจบทความติดตามได้
โดยกด ==>>✪Likeเพจ✪<< ==
ทุก ✪Like/Share✪ คือกำลังใจ
ขอบพระคุณทุกท่านที่สนใจ •:*
❀❀❀❀❀❀❀❀
..........
เขียน / เรียบเรียง โดย : ฅนขลัง คลังวิชา
..........
Cr. ภาพประกอบบทความจาก
web-pra.com

ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้