ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

มาติดตามข่าวสารต่างๆที่น่าสนใจกันครับ

[คัดลอกลิงก์]
ฆาตกรฆ่าหญิงยัดขวดในท้องที่เชียงใหม่ รับเคยก่อเหตุมาแล้ว                                                 
                                                                                       
                            ที่มา : http://hilight.kapook.com/view/119106
                                                            ตำรวจรวบฆาตกรฆ่าหญิงยัดขวดในท้องที่เชียงใหม่ได้แล้ว พบเป็นชายไทย รับเคยก่อเหตุในลักษณะนี้มาแล้วในหลายพื้นที่

         สืบเนื่องเมื่อวันที่ 15 เมษายนที่ผ่านมานั้น ตำรวจรับแจ้งเหตุพบหญิงสาวถูกฆ่าเปลือยหมกที่โรงแรมแห่งหนึ่งกลางเมืองเชียงใหม่ โดยหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการสอบปากคำเพื่อนของผู้ตาย ซึ่งทราบชื่อในเวลาต่อมา คือ น.ส.สมร (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 33 ปี ชาวร้อยเอ็ด ก่อนจะขยายผลการสืบสวน จนกระทั่ง ล่าสุด วันที่ 16 เมษายน 2558 มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจเชียงใหม่ สามารถจับกุมผู้ต้องหาคดีนี้ได้ที่เกสต์เฮ้าส์แห่งหนึ่งย่านช้างม่อย ทราบชื่อคือ นายภรา ชูศรี

         ทั้งนี้ หลังจับกุมได้ พล.ต.ท. ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ได้เดินทางไปสอบสวนผู้ต้องหา โดยนายภรา สารภาพว่า เป็นผู้ที่ลงมือก่อเหตุฆ่านางสาวสมรจริง และ อ้างว่า ขณะก่อเหตุตนอยู่ในอาการมึนเมาจากยากล่อมประสาท และไม่คาดคิดว่า น.ส.สมร จะถึงขั้นเสียชีวิต พร้อมบอกด้วยว่า ก่อนหน้านี้มีปัญหาทางจิตจากความเครียด จนเข้ารับการรักษาที่คลีนิคแห่งหนึ่งใน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ต่อเนื่องมานานกว่า 1 ปี ทำให้ที่ผ่านมาต้องกินยากล่อมประสาทตลอดเวลา
นอกจากนี้ นายภรา ไม่มีงานทำเป็นหลักแหล่ง และมีพฤติกรรมชอบไปเที่ยวกลางคืนตามย่านบาร์เบียร์ โดยอ้างตัวว่าชื่อ "ไซม่อน" เศรษฐีชาวมาเลเซีย ก่อนจะชักชวนสาวบาร์เบียร์จากหลาย ๆ ร้านไปร่วมหลับนอน ซึ่งในแต่ละครั้ง นายภรามักจะให้หญิงสาวที่ไปกินยากล่อมประสาทก่อนจะร่วมหลับนอน อีกทั้งยังพบว่า ก่อนหน้านี้นายภราเคยก่อเหตุในรูปแบบเดียวกันในท้องที่ สภ.ช้างเผือก และ สภ.แม่ปิง อ.เมือง จ.เชียงใหม่ มาแล้ว ซึ่ง 2 ครั้งก่อนหน้านี้เหยื่อทั้ง 2 รายถูกใช้ขวดแก้วยัดเข้าไปทางทวารหนักแต่โชคดีที่ต่อสู้ขัดขืนหลบหนีได้ โดยทั้ง 2 คดี ไม่มีผู้เสียหายไม่เข้าแจ้งความ คาดว่าเพราะอับอาย และนอกจากพฤติกรรมวิตถารแล้ว ทุก ๆ ครั้งที่ก่อเหตุนายภรายังขโมยทรัพย์สินของผู้เสียหายอีกด้วย

         พล.ต.ท. ธนิตศักดิ์ กล่าวต่อว่า หลังจากนี้จะเร่งประสานงานไปยัง สน.มักกะสัน และตำรวจภูธรภาค 2 ซึ่งพบว่ามีคดีลักษณะนี้ในพื้นที่ด้วย เพื่อตรวจสอบว่าเป็นคนร้ายรายเดียวกันหรือไม่

         อย่างไรก็ดี จะเร่งนำตัวผู้ต้องหาไปตรวจสภาพจิต เพื่อให้แพทย์ลงความเห็นว่ามีอาการทางจิตขณะลงมือก่อเหตุหรือไม่ พร้อมแจ้งไปยังผู้ที่เคยตกเป็นเหยื่อขอให้เข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหารายนี้เพิ่มเติม                                                                        
                                                            

บิ๊กขรก.ป่วนด่านเป่า ขู่ตำรวจระวังดาวหลุดจากบ่า
                                                          
                            ที่มา : http://news.sanook.com/1781510/
                                                            หลังจาก เพจศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจร - บก.02 ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอความยาว 01.30 นาที เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 14 เมษายน 2558 ที่ผ่านมา ซึ่งวิดีโอดังกล่าวเป็นเรื่องราวของชายสูงวัยคนหนึ่ง ลักษณะอยู่ในอาการมึนเมา ถูกเชิญเข้ามาในด่านตรวจวัดแอลกอฮอลล์ พร้อมพูดโอ้อวดโชว์บัตรข้าราชการระดับสูง พร้อมระบุจะเคลียร์กับผู้กำกับเองเพราะตำรวจก็เกรงใจตนเองทั้งนั้น อีกทั้งได้พูดจาข่มขู่เจ้าหน้าที่ตำรวจว่าระวังดาวหลุดจากบ่า ก่อนไล่ให้นายตำรวจคนดังกล่าวเลิกถ่ายคลิปวิดีโอ ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง

ล่าสุด พ.ต.อ.สุพล ค้ำชู ผกก.สน.บึงกุ่ม ชี้แจงถึงกรณีคลิปดังกล่าวว่า ตามที่ได้รับได้รับรายงาน ทราบว่าในวันที่เกิดเหตุ คือวันที่ 14 เม.ย.ที่ผ่านมา ตำรวจ สน.บึงกุม ได้มีการตั้งด่านตรวจเมาแล้วขับ และเพื่อสกัดจับแก๊งเด็กแว้น โดยมีการตั้งด่านตั้งแต่เวลา 22.00 น. จนถึงเวลา 24.00 น. ในวันนั้นมีการจับกุมผู้ที่มีปริมาณแอลกอฮอล์เกินอัตรากฎหมายกำหนด ไว้ทั้งหมด 4 คน

พ.ต.อ.สุพล กล่าวต่อว่า ซึ่งในขณะเกิดเหตุทราบว่าใกล้เวลาที่จะเลิกด่านตรวจแล้ว โดยตามรายงานบุคคลที่อยู่ในคลิปได้เข้ามาสอบถามหาคนรู้จัก ซึ่งถูกจับข้อหาเมาแล้วขับ แต่ตนก็ไม่ทราบว่าเป็นใคร เท่าที่รู้ก็คือข้าราชการท่านนี้มาสอบถามหาคน จึงมีบัตรประจำตัวข้าราชการแสดงว่าเป็นใคร ทางเจ้าหน้าที่เมื่อทราบก็ไม่ได้ตอบโต้อะไรและอำนวยความสะดวกให้ โดยพาไปพบบุคคลที่ท่านต้องการมาพบ ซึ่งถูกควบคุมตัวนำไปไว้ที่ป้อมสายตรวจที่อยู่ใกล้ๆกัน แต่ยืนยันว่าไม่มีการจับกุมตัวบุคคลที่อยู่ในคลิปแต่อย่างใด

"ขอยืนยันว่าในวันเกิดเหตุ เป็นการเข้ามาสอบถามกันธรรมดา แต่ลักษณะที่เห็นอาจเป็นเหมือนการเข้ามาเบ่ง แต่ธรรมชาติของตำรวจก็ต้องสอบถามอยู่แล้วว่าเป็นใคร มาจากไหน จึงมีการแสดงตัว นอกจากนี้ก็ไม่มีการช่วยเหลืออะไรกันใดๆ ทั้งสิ้น โดยวันนี้พนักงานสอบสวน ก็เพิ่งจะนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 ที่ถูกจับในวันเกิดเหตุ ไปส่งฟ้องศาลเรียบร้อยแล้วอีกด้วย" พ.ต.อ.สุพล ระบุ                                                                        
                                                            

ทักษิณ ชินวัตร "ก้าวใคร"ไม่ข้าม


คอลัมน์ โครงร่างตำนานคน
โดย การ์ตอง
มติชนรายวัน วันที่ 19  เมษายน พ.ศ.2558  





เนิ่นนานแล้วที่ ทักษิณ ชินวัตร  พ้นจากบทบาททุกอย่างในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ

รัฐบาลเปลี่ยนมาหลายชุด ทั้งฝ่ายตรงกันข้าม  และฝ่ายเดียวกัน จนมาถึงรัฐบาลที่เกิดจากการยึดอำนาจ

มีความพยายามที่จะบอกกล่าวกันตลอดมาว่า  หากจะทำให้การเมืองไทยเดินไปข้างหน้าได้ ทุกฝ่ายจะต้อง

"ก้าวข้ามทักษิณ"

จะลองเลิกใช้  "ทักษิณ" เป็นเครื่องมือทางการเมือง  ไม่ว่าจะในทางบวกหรือทางลบ

ทว่าดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้

การเมืองไทยยัง "ก้าวข้ามทักษิณ"  ไม่ได้

จากพรรคไทยรักไทย ถูกยุบมาเป็นพรรคพลังประชาชน  และถูกยุบอีกครั้งมาเป็นเพื่อไทย

ทักษิณ ชินวัตร  ยังเป็นเครื่องมือสำคัญที่ใช้สำหรับการเรียกคะแนนนิยม ซึ่งได้ผลตลอดมา

ชื่อ ทักษิณ ชินวัตร  ยังขลังเรียกชัยชนะในการเลือกตั้ง ด้วยความง่ายที่จะพูดถึงผลงานในอดีต

ขณะเดียวกัน  อีกด้านหนึ่งชื่อ ทักษิณ ชินวัตร กลับเป็นเครื่องมือให้ฝ่ายตรงกันข้าม ทั้งในสภาและนอกสภา  ใช้เป็นชนวนทำลายพรรคคู่แข่ง

พลังประชาชน เพื่อไทย  เดินหน้าในสังคมไทยที่เป็นแบบสองนคราประชาธิปไตยไม่ได้ เพราะมีชื่อ ทักษิณ ชินวัตร  ไปผูกติด

เพราะมีทั้งผลบวกและลบต่อทั้งฝ่ายที่ตัวเองสนับสนุน และฝ่ายตรงกันข้าม ชื่อ ทักษิณ  ชินวัตร จึงยังคงมีบทบาทสำคัญในทางการเมืองอยู่ไม่เสื่อมคลาย

ในช่วงเวลาหาเสียงเลือกตั้ง  พรรคการเมืองฝ่ายเดียวกันจะหยิบบทบาทของ "ทักษิณ"  ออกมาโฆษณา

ขณะที่ฝ่ายตรงกันข้ามพยายามที่ต่อต้านกีดกันให้ออกไป

แต่หลังการเลือกตั้งเมื่อได้รับชัยชนะแล้วฝ่ายเดียวกันจะพยายามลบชื่อ"ทักษิณ" ออกไปจากบทบาทการบริหารประเทศ เพราะเป็นเป้าโจมตีที่ได้ผลสูงมาก  ส่งผลสะเทือนต่อการบริหารประเทศอย่างยิ่ง

ขณะฝ่ายตรงกันข้ามพยายามลาก "ทักษิณ"  เข้ามาเพื่อการโจมตีที่ถนัดถนี่และได้ผลนั้น

เรื่องราวการเมืองไทยที่ผ่านมา จึง  "ก้าวไม่พ้นทักษิณ"

จนกระทั่งเกิดการปฏิวัติรัฐประหารขึ้นอีกครั้ง  โดยมีบทเรียนเต็มที่จากครั้งแรก

ซึ่งน่าจะเชื่อว่าบทเรียนนั้นจะทำให้ "ก้าวข้ามทักษิณ"  ได้

ทว่ากลับไม่เป็นเช่นนี้

ถึงวันนี้ยังเปิดทางให้ "ทักษิณ"  ออกมาแสดงบทบาทเป็นระยะ

แน่นอนทางหนึ่งประชาชนบางฝ่ายจะเฮโรร่วมถล่ม

แต่แน่ใจแค่ไหนว่าจะไม่ทำให้ประชาชนอีกบางฝ่ายฟื้นความทรงจำที่มีต่อทักษิณไม่รู้จบ

ยิ่งใช้"ทักษิณ"เป็นเครื่องมือทางการเมืองเท่าไร ไม่ว่าจะด้านบวกหรือด้านลบ

จะยิ่งทำให้ "ทักษิณ"  อยู่ยงคงกระพัน

และเป็นผู้มีบทบาทสำคัญต่อการเมืองไทยไม่รู้จบ

อาจบางทีอุปสรรคขัดขวาง  "โรดแมปการเมือง" ก็คือ ทักษิณ ชินวัตร



แต่คำถามที่เกิดขึ้นคือ อุปสรรคนี้  "ใครสร้างขึ้นมา"

เพื่ออะไร ??????




http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1429404962

คอลัมน์ "ข่าวข้นคนเข้ม"
  
โดย สันตะวา


"ร่างรธน. 315 มาตรา มีหลายมาตราโดนจองชำแหละซักฟอก"





หนังสือพิมพ์ ข่าวสด สิทธิ เสรีภาพ ประชาธิปไตย เป็นของปวงชนชาวไทยทุกคน ฉบับนี้ตรงกับ วันจันทร์ที่ 20 เมษายน พุทธศักราช 2558 ขึ้น 3 ค่ำ เดือน 6 ปีมะแม... วันนี้ สปช. จะเปิดสภาพิจารณา ร่างรธน. วันแรกแล้วอภิปรายยาวไปถึง 26 เม.ย. รวม 7 วัน 7 คืน ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนติดตามชม การถ่ายทอดสดทางช่อง 11 เพื่อจะได้รู้จักรธน.ฉบับใหม่ ฉบับที่ผู้มีอำนาจจะบังคับใช้ ใช้บังคับ เจ้าของประเทศ ในอีกไม่ช้าไม่นาน...




ในโอกาสสำคัญนี้ ข่าวสด ฉบับวันจันทร์ที่ 20 เม.ย. จัดพิมพ์รายละเอียดร่างรธน.ทั้ง 315 มาตรา รวม 8 หน้าพิเศษ แจกฟรี ในฉบับ เพื่อให้ผู้อ่านได้อ่าน ศึกษา ทำความเข้าใจ ส่วนอ่านแล้วเข้าใจแค่ไหน อย่างไร หรืออยากเสนอแนะ ท้วงติง วิพากษ์วิจารณ์ ขอส่งต่อไปยัง "ดร.ปื๊ด"บวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานกมธ.ยกร่าง กับ "ดร.จ้อย"เทียนฉาย กีระนันทน์




ประธานสปช. ที่กำลังเปิดสภา เขียนคิ้ว แต่งหน้า ทาปาก ร่างรธน. ... ร่างรธน. 315 มาตรา มีหลายมาตราโดนจองชำแหละ ซักฟอก ต้องจับตา ติดตาม มาตรา 172 ที่มีติ่งตอนท้ายว่า


"...ในกรณีที่บุคคลดังกล่าวมิได้เป็นส.ส.ต้องมีคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสองใน สามของจำนวนสมาชิกทั้งหมด โดยการลงมติต้องเปิดเผย" แปลไทยเป็นไทยก็คือ เปิดช่องนายกฯ คนนอก นั่นแล... อีกหลายมาตราว่าด้วย ส.ส. และ ส.ว. ก็ต้องอ่านกันหลายๆ รอบ เพราะเนื้อหายาว




รายละเอียดปลีกย่อยเยอะ แล้วยังหมก-ยัด-ซุก ของใหม่, ของแปลก, ของแสลง ไว้อีกแยะ เอาแค่วิธีเลือก วิธีนับคะแนนส.ส.บัญชีรายชื่อ ขนาด ปู่ชัย ชิดชอบ สมาชิกสปช. เล่นการเมืองมาเกินครึ่งศตวรรษ เป็นส.ส.ตั้งแต่ปี 2512 เก้าอี้ประธานรัฐสภาก็เคยนั่ง ผ่านรธน.มากว่า 10 ฉบับ อ่านแล้วยังมึน !!!...



http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1429462353
Sornpraram ตอบกลับเมื่อ 2015-4-20 08:25
คอลัมน์ "ข่าวข้นคนเข้ม"
  
โดย สันตะวา

  

"ปฏิรูปอะไรกัน ในเมื่อต้นทางไม่ยึดโยงประชาชน

ไม่ได้มาจากวิถีทางประชาธิปไตย"




วันที่ 21 เมษายน  พ.ศ. 2558



ข่าวข้นคนเข้ม
โดย ข้าวตอกแตก

หนังสือพิมพ์ ข่าวสด ครบทุกรส สดทุกเรื่อง ฉบับนี้ตรงกับวันอังคารที่ 21 เดือนเมษายน พุทธศักราช 2558 ขึ้น 4 ค่ำ เดือน 6 ปีมะแม... อยู่ในโหมดประชุมสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) วันที่ 2 อภิปรายร่างแรกรัฐธรรมนูญ 315 มาตรา ฉบับที่นำร่างโดย อาจารย์ปื๊ด ดร.บวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ แต่ละมาตรานำไปสู่การถกเถียงอื้ออึง ทั้งนายกฯ คนนอก ที่มาส.ส. ส.ว.ลากตั้ง 11 องค์กรสืบทอดอำนาจ ยี้ มากกว่า ฮ้อ...


ต้องทำใจก็ในเมื่อให้อำนาจกลุ่มคนล้มรัฐบาลพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้งตาม วิถีทางประชาธิปไตย หลักใหญ่ใจความส่วนหนึ่ง จึงมีอยู่แค่ทำอย่างไรให้สิทธิ-เสียงของคนชนบทผ่านผู้แทนฯ ในภาคเหนือ ภาคอีสาน ลดลง หรือไม่ก็เกลี่ยเก้าอี้ให้ใกล้เคียงกับภาคใต้


ดังเช่น ส.ส.เขตเหลือ 250 เพิ่มส.ส.บัญชีรายชื่อเป็น 200 ซ้ำยังแบ่งเป็น 6 ภาคให้ยุ่งยากซับซ้อนเข้าไว้... วิปสปช. ยอมรับเอง สปช. กับ กมธ.ยกร่างฯ เป็นเนื้อเดียวกันทุกขั้นตอน


ไม่มีเหตุใดร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่ผ่าน... สำคัญกว่านั้น ไม่มีใครยอมทุบหม้อข้าวตัวเองหรอก หากคว่ำรัฐธรรมนูญจริงก็ไปกันทั้งคู่แล้วตั้งชุดใหม่ อภิปราย 7 วัน 7 คืน แค่พิธีกรรม สุดท้ายเอาหรือไม่เอา ขึ้นกับ แป๊ะ อยู่ดี...


ประธาน เทียนฉาย กีระนันทน์ ภาคภูมิใจงานสปช.เดินมาได้เกือบครึ่งทาง หลังจบอภิปรายร่างรัฐธรรมนูญ วางปฏิทินงานปฏิรูปด้านต่างๆ ยาวเหยียด แต่ประชาชนอีกฝ่ายถามเมื่อไหร่จะสุดทางหมดวาระกันไปเสียที ปฏิรูปอะไรกัน ก็ในเมื่อต้นทาง ไม่ยึดโยงประชาชน ไม่ได้มาจากวิถีทางประชาธิปไตย... กลับมากระตือรือร้นแล้ว


คณะกรรมการการเลือกตั้ง ประกาศซักซ้อมการลงคะแนนแบบโอเพ่นลิสต์ ปัญหาของ กกต.ชุดนี้ ไม่ได้อยู่ที่ความสามารถ แต่อยู่ที่ความเป็นกลางทางการเมืองต่างหาก มีผลงานประจักษ์เมื่อ เลือกตั้ง 2 กุมภาฯ ประชาชนรู้แจ้งแทงตลอด ใครยักคิ้วหลิ่วตากับใคร ต้องการนำไปสู่อะไร... เงียบไปนานหลังรัฐประหาร 22 พฤษภาฯ โดนเด้งเข้ากรุ ที่ปรึกษาประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ธาริต เพ็งดิษฐ์ ประกาศพร้อมชี้แจง ป.ป.ช.สั่งอายัดทรัพย์สิน 40.9 ล้านบาท อดีตอธิบดีดีเอสไอคนดังเชื่อเหตุมาจากเคยทำคดีสำคัญ อย่าง คดีสลายการชุมนุมทางการเมือง 99 ศพ เมื่อปี 2553 หรือ ทุจริตก่อสร้าง 396 โรงพัก...




แค่ ข้าวลายจุด เวอร์ชั่นแรกทำเอา รัฐบาล-คสช. จับจ้องข้องใจมีทะเบียนการค้า เป็นอีเวนต์เชิงสัญลักษณ์ทางการเมืองหรือเปล่า สมบัติ บุญงามอนงค์ ขอพักการผลิตไว้ชั่วคราว แต่อยู่ระหว่างปรับปรุงพัฒนาเป็น เวอร์ชั่น 2 ช่วงนี้เสนอสินค้าใหม่ขายต้นกล้า มะนาวต่างดุ๊ด แฟนๆ รออุดหนุนกันได้... ข่าวข้น คนเข้ม วันนี้, 08.00 น. งานประเพณีสงกรานต์ศรีมหาราชาและประเพณีกองข้าว ชมขบวนแห่กองข้าว การละเล่นพื้นบ้าน การนวดแผนไทย การแสดงศิลปวัฒนธรรม ฯลฯ สวนสุขภาพ เทศบาลเมืองศรีราชา จ.ชลบุรี...




08.30 น. งานประชุมวิชาการนานาชาติทางสัตวแพทย์ ในโอกาสคณะสัตวแพทย์ จุฬาฯ ครบรอบ 80 ปี รอยัล พารากอน ฮอลล์... 11.00 น. งานเฟอร์นิเจอร์ แฟคทอรี่ เอาต์เล็ต ซีซั่น 1 สินค้าราคาถูกส่งตรงจากมือผู้ผลิตและจำหน่าย ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์... 14.00 น. ฮิโรโนบุ อิริยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.โตโย-ไทย คอร์ปอเรชั่น แถลงโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานถ่านหินในประเทศเมียนมาร์ ห้องประชุมชั้น 27 โตโย-ไทยฯ อาคารเสริมมิตรทาวเวอร์ ถ.สุขุมวิท 21...




http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1429548251


ยอดใช้ไฟฟ้าทำสถิติใหม่สูงสุด ที่ 27,139 เมกะวัตต์                                                            
                                                                                       
                            ที่มา : http://news.voicetv.co.th/thailand/195258.html

                                                            กระทรวงพลังงานเผย วันนี้ (21 เม.ย.) เวลา 14.13 น. มียอดใช้ไฟฟ้าทำสถิติใหม่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 27,139 เมกะวัตต์ ทำลายสถิติเดิม 7 เม.ย.ที่ผ่านมา เหตุอากาศร้อนจัด

​นายทวารัฐ สูตะบุตร  รองปลัดกระทรวงพลังงาน  เปิดเผยว่า  กระทรวงพลังงานได้รับรายงานจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ. ถึงสถานการณ์การใช้ไฟฟ้าสูงสุดหรือพีค(Peak) ของประเทศไทย ที่ล่าสุดได้สร้างสถิติใหม่ของประเทศเป็นที่เรียบร้อย โดยมีการใช้ไฟฟ้าสูงสุดอยู่ที่ 27,139 เมกะวัตต์ เมื่อเวลา 14.13 น. ทำลายสถิติพีคเมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา (วันที่ 7 เม.ย.) ที่ระดับ 27,056.8 เมกะวัตต์ ซึ่งถือเป็นสถิติที่ได้ทำลายสถิติพีคของปี 2557 ที่ระดับ 26,942.1 เมกะวัตต์มาแล้ว โดยสถิติพีคใหม่ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ มาจากสาเหตุสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าว อุณหภูมิเฉลี่ยสูงถึง 38.3 องศาเซลเซียส

​ทั้งนี้ จากสถิติการใช้ไฟฟ้าสูงสุดดังกล่าว กระทรวงพลังงานคาดว่ามีโอกาสที่ประเทศไทยจะได้สร้างสถิติพีคของปีนี้อีกหลายครั้ง หากสภาพอากาศยังคงร้อนอบอ้าว และมีแนวโน้มที่อุณหภูมิจะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ จากรายงานของกรมอุตุนิยมวิทยา ซึ่งจะทำให้เกิดการใช้พลังงานมากเพิ่มขึ้นตามไปด้วย โดยเฉพาะจากภาคธุรกิจ อาคารสำนักงาน ออฟฟิศ และประชาชนทั่วไป ซึ่งสาเหตุหลักๆ มาจากกรณีที่มีการใช้เครื่องปรับอากาศที่ต้องทำงานหนักมากยิ่งขึ้นในช่วงนี้  

ดังนั้น กระทรวงพลังงาน   จึงขอความร่วมมือทุกภาคส่วน และประชาชนทั่วไป ช่วยกันประหยัดไฟฟ้าในช่วงหน้าร้อนนี้ โดยเฉพาะการทำความสะอาดเครื่องปรับอากาศ หรือล้างแอร์ในช่วงหน้าร้อนนี้ เพื่อให้แอร์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และทำความเย็นได้ดีขึ้น ร่วมกันปิดไฟดวงที่ไม่ใช้ การปรับแอร์ที่อุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียส หรือถ้าสามารถปรับอุณหภูมิแอร์เพิ่มขึ้นทุก 1 องศาเซลเซียส ก็จะช่วยประหยัดไฟฟ้าลงได้ร้อยละ 10 เช่น การปรับอุณหภูมิแอร์ที่ 26 องศาเซลเซียส การปลดปลั๊กไฟที่ไม่ใช้ เปลี่ยนหลอดไฟประหยัดพลังงาน โดยมาตรการทั้งหมดดังกล่าวจะช่วยลดการใช้พลังงานไฟฟ้าของประเทศ และลดค่าใช้จ่ายในเรื่องค่าไฟฟ้าได้เป็นอย่างดี

อย่างไรก็ตาม กระทรวงพลังงานขอแจ้งสรุปผลในช่วงที่มีการหยุดจ่ายก๊าซธรรมชาติจากประเทศ เมียนมาร์ ระหว่างวันที่ 10 – 19 เมษายน 2558 ที่ผ่านมา ซึ่งมีการหยุดจ่ายก๊าซธรรมชาติเพื่อซ่อมบำรุงแหล่งก๊าซยานาดา-เยตากุน นั้น ไม่ได้มีการส่งผลกระทบใดๆ ต่อประเทศไทย  และปัจจุบันอยู่ระหว่างการหยุดซ่อมบำรุงที่แหล่งซอติก้า ประเทศเมียนมาร์ (20 – 27 เมษายน 2558) โดยกระทรวงพลังงานขอยืนยันว่าสถานการณ์การผลิตไฟฟ้าในประเทศมีความมั่นคงต่อเนื่อง และพร้อมจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติในช่วงปลายเดือนเมษายนนี้                                                                        
                                                            

ไฟปริศนาลุกไหม้ข้าวของในบ้านกว่า 112 ครั้ง ในรอบ 1 เดือน                                                
                                                                                       
                            ที่มา : http://hilight.kapook.com/view/119309


                                                            เกิดเหตุไฟปริศนาลุกไหม้ข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้านหลังหนึ่ง จ.พัทลุง ระยะเวลาแค่ 1 เดือน ไหม้ถึง 112  ครั้ง เจ้าของบ้านวิงวอนทั้งน้ำตา หน่วยงานเกี่ยวข้องช่วยเข้าตรวจสอบหาสาเหตุด้วย

              วันที่ 20 เมษายน 2558 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า ที่บ้านเลขที่ 144 หมู่ 6 ต.ตะโหมด อ.ตะโหมด จ.พัทลุง ของนายล้อม ศักดิ์หวาน อายุ 63 ปี ได้เกิดไฟลุกไหม้ขึ้นภายในบ้านกว่า 112 ครั้ง ตลอด 1 เดือนที่ผ่านมา จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบว่า ภายในบ้านดังกล่าว ทั้งเสื้อผ้า ที่นอน เครื่องใช้ต่าง ๆ ภายในห้องนอน ห้องครัว และโซฟา ถูกไฟไหม้ได้รับความเสียหายทั้งหมด ส่วนที่เหลือญาติและเพื่อนบ้านได้ช่วยกันขนย้ายมาเก็บไว้หน้าบ้าน

              จากการสอบถาม นายล้อม เจ้าของบ้านดังกล่าว เล่าทั้งน้ำตาว่า เหตุการณ์ไฟไหม้ปริศนานี้เริ่มเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2558 ที่ผ่านมา ซึ่งครั้งแรกไฟได้ลุกไหม้โรงเก็บของใช้หลังบ้าน จนได้รับความเสียหาย ต่อมาก็ได้ลุกไหม้ภายในบ้านทุกวัน ตั้งแต่ที่นอน เสื้อผ้า ผ้าห่มรวมถึงกระดาษถุงพลาสติกที่อยู่ภายในบ้าน จู่ ๆ ไฟก็ลุกไหม้ แม้กระทั่งเครื่องใช้ไฟฟ้าไฟก็ยังไหม้ทุกวัน มาจนถึงวันนี้ แทบจะไม่มีเสื้อผ้าหรือของใช้ให้เหลือไว้ใช้แล้ว
ทั้งนี้ ทางญาติพี่น้องจะมาช่วยเฝ้าดูสถานการณ์ให้ โดยใช้น้ำพรมเข้าไปในบ้านให้ชื้นและเตรียมถังน้ำไว้เพื่อป้องกัน เมื่อเกิดไฟไหม้อีกจะได้ช่วยดับไฟทัน แต่ก็ไม่เป็นผล ไฟก็ยังไหม้อยู่ตลอด  นอกจากนี้ญาติที่มาช่วยเฝ้าเสื้อผ้าบางครั้งก็ถูกไฟไหม้บริเวณร่างกายได้รับบาดเจ็บบ้าง ซึ่งตลอด 1 เดือนที่ผ่านมา ตนและครอบครัวทุกข์ใจอย่างหนัก ไม่สามารถออกไปทำมาหากินได้ตามปกติ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ร้องขอหน่วยงานทางจังหวัดที่เกี่ยวข้องช่วยเข้าตรวจสอบด้วย แต่จนถึงบัดนี้ ก็ไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาดูแลหรือตรวจสอบเลย

              ในขณะเดียวกัน รายงานระบุว่า ขณะที่กำลังเก็บภาพถ่ายในบ้านแค่เพียง 15 นาที ได้เกิดไฟไหม้ผ้าขนหนูที่เปียกน้ำ ถุงพลาสติก กล่องยาสามัญประจำบ้านถึง 3 ครั้ง ทั้งที่อุณหภูมิภายในบ้านวัดได้ 33 องศาเซลเซียส ซึ่งไม่น่าจะเกิดไฟไหม้ขึ้นได้                                                                        
                                                            

จนป่านนี้ยังไม่มีใครติดคุกเรื่องสร้าง โรงพัก
ทั้งๆ ที่ทุกๆ วงการเขารู้กันทั้งนั้น




วันที่ 22 เมษายน  พ.ศ. 2558



ข่าวข้นคนเข้ม

พญาไม้ pradej@hotmail.com


หนังสือพิมพ์ ข่าวสด ฉบับประจำวันพุธที่ 22 เมษายน 2558



ข้างหน้าคือความขัดแย้งเมื่อ กติกา ที่จะเอามาใช้เป็น แม่บท ในการปกครองประเทศ กลายเป็น ยาผีบอก ที่คิดสูตรกันขึ้นมาเอง แล้วกดหัวประชาชนให้ยอมรับ

จะกลัวอะไรกันนักหนากับการ คอร์รัปชั่น ของนักการเมือง ในเมื่ออำนาจของ ศาลสถิตยุติธรรม อยู่นอกการครอบงำของ นักการเมือง อีกทั้งการฟ้องร้องก็สามารถฟ้องตรงต่อศาลได้ โดยผู้เสียหายเป็นเจ้าของคดี

กติกาปี 2550 ก็เป็น รัฐธรรมนูญ ที่คนกลุ่มนี้ช่วยกันร่างขึ้นมา หวังจะบีฑาคะแนนนิยม พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร แถมยังวางหอกดาบไว้มากมาย แต่ พรรคทักษิณ ก็ผ่านมาคว้าชัย จนต้องใช้ อุบายการเมือง หลายกระบวนท่าลงมาจัดการ

เลือกตั้งใหม่อีกครั้งทั้งๆ ที่ ประชาธิปัตย์ เป็นรัฐบาล แต่ก็ต้องแพ้อย่างราบคาบให้กับ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นักการเมืองใหม่ถอดด้าม

วันนี้เขียนกันขึ้นมาอีกฉบับ แต่กติกาก็คือกติกู แถมยังวาง เครือข่าย อำนาจไว้อย่างกว้างขวางมากมาย "พญาไม้" ถึงบอกว่า ข้างหน้า การเมือง ก็ยังวุ่นวาย เพราะฝ่ายหนึ่งจะแก้ไขอีกฝ่ายต้านไว้ เป็น 2 อำนาจ ที่จะเผชิญหน้ากันเหมือนเก่า

ตัวอย่างของความไร้เดียงสา รัฐธรรมนูญใหม่ บอกว่า การเมืองจะสั่งข้าราชการก็ต้องทำเป็น ลายลักษณ์อักษร สั่ง ปากเปล่า ไม่ได้ ในทางปฏิบัตินั้นมันเป็นไปได้ไหม

เขาขึ้นเงินเดือนให้กับตัวเองเป็นคดีผิดกฎหมาย แต่ ปอปอชอ เองอยากทำงานต่อทั้งๆ ที่กฎหมายบอกว่าทำไม่ได้

จนป่านนี้ยังไม่มีใครติดคุกเรื่องสร้าง โรงพัก ทั้งๆ ที่ทุกๆ วงการเขารู้กันทั้งนั้นว่าเงินที่สั่งจ่ายนั้นใครได้ไปและไปแบ่งให้ใคร รู้กระทั่งว่าเท่าไหร่ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี วันนี้เป็นคดี ถูกหาว่าไม่ดูแลเรื่องมีการโกงข้าว แต่ตบแต่งห้องในทำเนียบรัฐบาลวันนี้ คนเซ็นผ่าน ไม่ต้องเป็นผู้ต้องหา ท่านว่าไม่ต้องรับผิดชอบ

เชียร์กันเลิศเลอ เรื่องสิงคโปร์ยุค ลี กวนยิว สะอาดปราศจากคอร์รัปชั่น แต่หากใช้มาตรฐานขององค์กรอิสระเมืองไทย วันนี้ ตระกูลลี ทั้งสำรับต้องพิมพ์มือเป็นผู้ต้องหา เพราะคนในครอบครัว อดีตท่านผู้นำ ล้วนมีตำแหน่งใหญ่เงินเดือนงามในบริษัทยักษ์ อยากรู้ให้บินไปสิงคโปร์แล้วคุยกับคนขับแท็กซี่เมืองนั้น นั่นคือสัญญาณของการเปลี่ยนแปลง

อดีตคนประชาธิปัตย์ อลงกรณ์ พลบุตร อภิปรายรัฐธรรมนูญเสร็จให้ประชาชนลง ประชามติ แต่บทเรียนจากปี 2550 จะทำให้ ผู้มีอำนาจ ไม่กล้าเอา รัฐธรรมนูญ ไปทำ ประชามติ เพราะเสี่ยงเกินไปกับการชุมนุมต่อต้าน

ข่าวข้น คนเข้ม วันนี้, 09.30 น. ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล เปิดตัวกิจกรรม หาทุนสมทบสร้างอาคารนวมินทรบพิตร 84 พรรษา โถงอาคาร 100 ปี สมเด็จพระศรีนครินทร์... 15.00 น. รังสินี ปิยะสมบัติกุล กรรมการ ผู้จัดการบริษัท เฟลเว่อส์ จำกัด เปิดสาขาแรกร้าน "พิ้งก์เบอร์รี่" โฟรเซนโยเกิร์ตชื่อดังจากอเมริกา ชั้น 2 เซ็นทรัลชิดลม... 18.00 น. หอการค้าจังหวัดปทุมธานี ส่งมอบงานและยินดีกับคณะกรรมการหอการค้าจังหวัดปทุมธานี ปีวาระ 2558-2559 ห้องแมจิก 1 มิราเคิลฯ... แจ้งข่าวล่วงหน้า จรวย ขันมณี ประธานกรรมการอำนวยการจัดงานฯ แถลงความพร้อมงาน "Big Motor Sale 2015 - มหกรรมของยานยนต์ เพื่อขายแห่งชาติ" ห้องอังรีดูนังต์ ราชกรีฑาสโมสร พรุ่งนี้ 10.00 น. ...


http://www.khaosod.co.th/index.php


แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Sornpraram เมื่อ 2015-4-22 22:55

ครอบครัวข้องใจเหตุนักธุรกิจสาวผูกคอดับปริศนาในวัดป่าฯ!!








จากกรณี เมื่อวันที่ 20 เม.ย. เวลา 07.30 น. ร.ต.ท.พิสิฐ ทองเงิน พนักงานสอบสวน สภ.จอมพระ อ.จอมพระ จ.สุรินทร์ ได้รับแจ้งจากพระสงฆ์ในวัดป่าปราสาทจอมพระ อ.จอมพระ ว่ามีผู้หญิงใช้เชือกไนล่อน ผูกคอกับกิ่งไม้ในวัดเสียชีวิต ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบและชันสูตรศพ เจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมด้วยอาสากู้ภัยจอมพระ เดินทางไปถึงพบว่ามีญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิต ได้นำร่างผู้เสียชีวิตลงมาจากกิ่งไม้แล้ว และนำเชือกที่ติดกับคอออกแล้ว ทราบชื่อผู้ตายคือ น.ส.มนัสนันท์ กาญจนสุทธิแสง อายุ 43 ปี อยู่ ต.จอมพระ อ.จอมพระ สวมเสื้อผ้าชุดวอร์มสีน้ำเงินคาดเขียว เจ้าหน้าที่ตำรวจพบเอกสารจดหมายลาตายของผู้เสียชีวิต ซึ่งเขียนด้วยลายมือของผู้ตายเอง ระบุถึงการยกทรัพย์สินของผู้เสียชีวิตให้กับญาติพี่น้อง และทรัพย์สินหนี้สินที่มีทั้งหมด บอกให้ญาติพี่น้องติดต่อกับใครเบอร์โทรศัพท์อะไร บัญชีธนาคารต่างๆ และขอให้ญาติทุกคนได้อโหสิกรรมแก่ผู้ตาย ด้วยกายกรรม วจีกรรมและมโนกรรม ขณะที่พี่ชาย มาเห็นศพน้อง ถึงกับร่ำไห้ด้วยความเสียใจ ไม่คิดว่าน้องสาวจะมาคิดสั้นเร็วแบบนี้

ล่าสุด วันที่ 22 เม.ย. นายธนประเสริฐ กาญจนสุทธิแสง อายุ 53 ปี อยู่ ต.จอมพระ อ.จอมพระ จ.สรินทร์ พี่ชายนางสาวมนัสนันท์ ผู้ตาย เปิดเผยว่า กรณีมีการนำเสนอว่าผู้ตายได้ไปลงทุนเปิดคลินิกฟอกไต ที่ จ.ขอนแก่น แล้วขาดทุนเป็นสาเหตุของการคิดสั้นฆ่าตัวตายนั้นไม่เป็นความจริง โดยก่อนตาย ผู้ตายก็มีอาการซึมเศร้า และเป็นคนคิดมาก ส่วนคลินิกฟอกไตมีกำไรดี ไม่ได้ขาดทุนหรือเจ๊งเลย แต่ผู้ตายได้เซ้งคลินิกและนำเงินของผู้ตายมาช่วยสร้างศาลาวัด บริจาคให้ส่วนรวม และนำเงินไปช่วยเหลือบริจาคที่ต่างๆ ตามที่ระบุ และแบ่งญาติพี่น้องคนที่ผู้ตายรู้จักมากมาย ศพก็ได้บริจาคเป็นอาจารย์ใหญ่



ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้