เตือนภัยแก๊งสาวอ้วน ตระเวนป้ายยารูดทรัพย์ตามร้านค้า จ.พิษณุโลก เตือนภัยแก๊งสาวอ้วนออกตระเวนป้ายยารูดทรัพย์เจ้าของร้านกาแฟกลางวันแสกๆ ที่ จ.พิษณุโลก และอุตรดิตถ์ มีร้านค้าที่ตกเป็นเหยื่อแล้วไม่ต่ำกว่า 4 ราย ได้ทรัพย์สินไปจำนวนมาก
วันที่ 15 ธันวาคม ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า มีแก๊งมิจฉาชีพรูปร่างเป็นสาวร่างอวบอ้วน ออกป้ายยารูดทรัพย์ผู้เสียหาย ที่ร้านกาแฟมดดำ ตั้งอยู่เลขที่ 516/31 ถนนพิชัยสงคราม ต.ในเมือง อ.เมือง จ. พิษณุโลก หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบ พบ น.ส.นพรัตน์ ฉิมสาหร่าย อายุ 42 ปี เจ้าของร้าน เล่าให้กับผู้สื่อข่าวฟังว่า เมื่อเวลา 10.20 น. ของวันที่ 14 ธันวาคม ที่ผ่านมา
ขณะเปิดร้านขายกาแฟตามปกติ มีหญิงสาวอายุประมาณ 40 ปี รูปร่างอวบอ้วน ทำทีเข้ามาสั่งซื้อกาแฟจำนวน 20 แก้ว และขอทำให้เสร็จภายใน 10 นาที เนื่องจากต้องการซื้อนำไปให้ลูกน้อง ที่เปิดบูทขายชุดชั้นในอยู่ที่หน้าห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้กับร้าน ขณะกำลังจะไปชงกาแฟ คนร้ายได้ทำทีหยิบใบทองออกมาขายให้กับตน และพูดจาหว่านล้อมให้นั่งฟังเพื่อที่จะซื้อเบอร์ทอง
โดยที่มือข้างขวาถือปากกาแกว่งไปมา และมาจับที่มือและแขนของตนจนรู้สึกมึนงง ก่อนที่คนร้ายจะบอกให้ตนหยิบเงินในกระเป๋าสตางค์ โดยตนได้ควักเงินออกมาให้เป็นธนบัตรใบละ 1,000 บาท จำนวน 3 ใบ และธนบัตรใบละ 100 บาท จำนวน 10 ใบ รวมเป็นเงิน 4,000 บาท
หลังจากนั้นคนร้ายก็ลุกเดินออกไปจากร้านโดยที่ไม่ได้รอกาแฟที่สั่งไว้แต่อย่างใด เมื่อตั้งสติได้จึงมารู้ตัวว่าถูกคนร้ายรูดทรัพย์ไปแล้ว ประกอบกับมาตรวจสอบกล้องวงจรปิดก็ทราบว่าตนหยิบเงินให้คนร้ายไปโดยไม่รู้ตัว จึงได้แจ้งให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ติดตามหาตัวคนร้ายทันที
น.ส.นพรัตน์ เล่าให้ฟังอีกว่า หลังจากเกิดเหตุเกือบ 2 ชั่วโมง ตนเองและพนักงานในร้านกาแฟ มีอาการวิงเวียนศีรษะ และอาเจียน เหมือนถูกมอมยา จึงเชื่อว่าถูกป้ายยาอย่างแน่นอน หลังจากนั้นตนก็ได้นำภาพกล้องวงจรปิดภายในร้าน ที่จับภาพที่คาดว่าจะเป็นคนร้ายดังกล่าว ไปลงในกลุ่มเฟชบุ๊ก ให้ประชาชนได้ระมัดระวังตัว เกรงว่าสาวคนดังกล่าวจะไปหลอกผู้อื่นอีก แต่ปรากฏว่ามีร้านค้าที่ตกเป็นเหยื่อ ถูกสาวคนเดียวกันหลอกมาขายเบอร์ทอง เช่นกัน และถูกตบทรัพย์สินไปโดยไม่รู้ตัวไปไม่ต่ำกว่า 4 ราย แต่ละรายนั้นสูญเงินไปกว่า 3-4 พันบาท ในพื้นที่ จ. พิษณุโลกและจ.อุตรดิตถ์ จึงขอเตือนประชาชน และร้านค้าทั่วไปอย่าได้หลงเชื่อผู้คนมาซื้อขายของโดยไม่รู้จักกันมาก่อน ซึ่งอาจจะทำให้เป็นเหยื่อจากแก๊งป้ายยาดังกล่าวได้
ที่มา: http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1418642927
|