ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

มาติดตามข่าวสารต่างๆที่น่าสนใจกันครับ

[คัดลอกลิงก์]
11#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-7-29 22:30 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ที่ประเทศเนเธอแลนด์ ..การแข่งขันดนตรีโลก ”World Music Contest Kerkrade : WMC 2013 ” ประเภทการแข่งขันวงโยธวาทิต ซึ่งมีวงโยธวาทิตจากทั่วโลกเข้าร่วมการแข่งขัน

3 วงโยธวาทิตจากประเทศไทย .. คว้ารางวัลชนะเลิศ และรองชนะเลิศ ได้ทั้งหมด...โดยวงโยธวาทิตโรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี สามารถคว้ารางวัลชนะเลิศ จากการทำคะแนนสูงสุด 93.74 คะแนน วงโยธวาทิตโรงเรียนสุรนารีวิทยา คะแนนรองลงมาเป็นอันดับ2รวม93 คะแนนและวงโยธวาทิตโรงเรียนเมืองพัทยา ได้คะแนนเป็นที่ 3





ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
12#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-7-29 22:36 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้


วันที่ 28 ก.ค.เวลา 18.30 น. หลังฝนตกลงมาอย่างหนักติดต่อกันในพื้นที่ อ.สังขละ จ.กาญจนบุรี ทำให้เกิดน้ำป่าไหลเชี่ยวกราก จากทุ่งใหญ่นเรศวร พัดขยะตอไม้ลงสูแม่น้ำซองกาเลีย ปะทะกับเสาสะพานอุตตมานุสรณ์ หรือสะพานมอญ ขาดประมาณ 30 เมตรได้รับความเสียหาย ทำให้ชาวบ้านไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้

นอกจากนี้ยังทำให้เชือกผูกแพที่พักลุงบุญ แพมิตรสัมพันธ์ ขาดทำให้แพลอยลงในอ่าง ซึ่งนายสมบูรณ์ ชาวมอญ อายุ 71 ปี เจ้าของแพลุงบุญ พร้อมเด็กเล็กติดอยู่ภายใน พลเมืองดีต้องนำเรือออกไปช่วยเหลือ

ขณะเดียวกัน น้ำได้ไหลเข้าท่วมในพื้นที่ องค์การบริหารส่วนตำบลหนองลู โรงพยาบาลคริสเตียน สูงประมาณ 50 เมตร ทำให้ชาวบ้านในหมู่บ้านซองกาเลียต้องอพยพไปอยู่ในที่สูง นอกจากนี้สะพานปูนข้ามหมู่บ้านซอแหละ ไปยังหมู่บ้านเวียกาดี้ ขาดรถยนต์ไม่สามารถสัญจรไปไปมาได้ พร้อมทั้งสะพานซองกาเลีย จากตัวเมืองสังขละไปสู่ด่านเจดีย์ 3 องค์ ขาดได้รับความเสียหายชาวบ้านและรถยนต์ไม่สามารถสัญจรผ่านมาไปมาได้เช่นกัน อย่างไรก็ตามทางการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้เข้าตัดกระแสไฟบางจุดเพื่อความปลอดภัยแล้ว

สะพานอุตตมานุสรณ์ หรือที่นิยมเรียกกันว่า สะพานมอญ หรือ สะพานไม้มอญ เป็น สะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทยมีความยาว 850 เมตร และเป็นสะพานไม้ที่ยาวเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากสะพานไม้อูเบ็ง ในประเทศพม่า เป็นสะพานที่ข้ามแม่น้ำซองกาเรีย ที่ ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี

สะพานนี้สร้างขึ้นโดยดำริของ หลวงพ่ออุตตมะ เจ้าอาวาสวัดวังก์วิเวการาม ในปี พ.ศ. 2529 จนถึง พ.ศ. 2530 โดยใช้แรงงานของชาวมอญ เป็นสะพานไม้ที่ใช้สัญจรไปมาของชาวมอญและชาวไทยที่อาศัยอยู่บริเวณนี้ ปัจจุบันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของจังหวัดกาญจนบุรี

ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
ออกุนเจริญเด้อบาด บองอู๊ด
14#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-7-30 07:38 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
สื่อนอกตีข่าว!!น้ำมันดิบรั่วกระทบ “แหล่งท่องเที่ยวสำคัญของไทย”
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
29 กรกฎาคม 2556 17:37 น.



       เอเอฟพี - หลังจากเกิดเหตุการณน้ำมันดิบรั่วจากท่อส่งน้ำมันกลางทะเลของบริษัทพีทีที โกลบอล เคมิคอลฯในวันที่ 27 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ทางการไทยได้มีความพยายามที่จะกำจัดคราบน้ำมันที่ไหลทะลักเข้าเต็มหาดที่เกาะเสม็ดที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยประสานงานไปยังหน่วยบัญชาการนาวิกโยธินให้เข้ามาดำเนินการจัดการคราบน้ำมันในครั้งนี้
      
       จากการรายงานข่าว คาดว่าน้ำมันดิบประมาณ 50,000 ลิตรได้รั่วจากท่อส่งน้ำมันลงทะเลในวันเสาร์(27)ที่ผ่านมา โดยห่างจากฝั่งประมาณ 20 กิโลเมตร หรือ 12 ไมล์ ของจังหวัดระยองซึ่งอยู่ทางภาคตะวันออกของไทย พีทีที โกลบอล เคมิคอลฯเผย
      
       น้ำมันดิบที่รั่วได้มาถึงหาดอ่าวพร้าวบนเกาะเสม็ดซึ่งทหารเรือนับร้อยนาย รวมไปถึงเจ้าหน้าที่ดูแลรักษาพันธ์สัตว์ป่า พนักงานของบริษัทพีทีที โกลบอล เคมิคอลฯ และชาวบ้านที่อยู่บริเวณนั้นแข่งกับเวลาในการขจัดคราบน้ำมัน
      
       “การปนเปื้อนครั้งนี้ครอบคลุมเนื้อที่กว่า300 เมตร หรือ 990 ฟุตของชายหาด ซึ่งมันก็หนักเอาการ” สุเมธ สายทอง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติ เขาแหลมหญ้า หมู่เกาะเสม็ด เผยกับเอเอฟพี
      
       และนอกจากนี้ พนักงานแผนกต้อนรับของโรงแรมหาดอ่าวพร้าวรีสอร์ทได้ให้ความเห็นกับเอเอฟพีว่า “แขกที่มาพักที่โรงแรมต่างพากันทยอยกันเช็คเอ้าท์ออกจากโรงแรม”
      
       โดยพนักงานต้อนรับที่อยู่โรงแรมไม่ห่างจากโรงแรมหาดอ่าวพร้าวรีสอร์ทได้เสริมว่า “มีคราบน้ำมันอยู่เต็มหาด เราต้องยอมรับมัน ตอนนี้มันก็โกลาหลกันอยู่ มีคนจำนวนมากรวมทั้งทางเจ้าหน้าที่กำลังช่วยกันจัดการกับเรื่องนี้อยู่”
      
       โดยในแถลงการในวันอาทิตย์(28) ที่ออกโดยพีทีที โกลบอล เคมิคอลฯที่มีรัฐบาลไทยมีส่วนถือหุ้นเป็นเจ้าของอยู่นั้น กล่าวว่ามีการใช้เรือ 10 ลำในกระบวนการกำจัดคราบน้ำมันในครั้งนี้ และทางบริษัทมั่นใจว่าจะสามารถควบคุมสถานการณ์วิกฤติการรั่วไหลในครั้งนี้ได้
      
       ทางด้านกลุ่มกรีนพีซได้ออกโรงกระตุ้นให้รัฐบาลไทยระงับการสูบน้ำมันและการสำรวจหาน้ำมันในอ่าวไทย โดยให้เหตุผลว่า เป็นเพราะเกิดปัญหา “การรั่วไหลครั้งใหญ่เกิดขึ้น”
      
       “อ่าวไทยซึ่งถือเป็นอู่ข้าวอู่น้ำของประเทศไทย ได้ถูกย่ำยีมานานแล้วจากน้ำมันดิบรั่วที่ไหลผ่านตามท่อส่งตามเส้นทางที่บริษัทปิโตรเคมีวางไว้ทั่วอ่าวไทย” เผยจากนักเคลื่อนไหวกลุ่มกรีนพีซ พลาย ภิรมย์
      
       โดยทางกลุ่มกรีนพีซได้ยืนยันว่ามีการรั่วไหลของน้ำมันดิบในอ่าวไทยมานานกว่า 30ปีแล้ว
      
       “นี่เป็นการรั่วของน้ำมันดิบครั้งที่ร้ายแรงมากของจังหวัด” ภุชงค์ สฤษฎีชัยกุล ผอ. ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที 1 และเสริมต่อไปว่า “นี่เป็นครั้งแรกที่เกิดขึ้นบนเกาะเสม็ด”
      
       บรรดานักอนุรักษ์ต่างให้ความห่วงใยในทั้งผลกระทบในการรั่วไหลน้ำมันต่ออ่าวไทยและผลกระทบที่เกิดจากการใช้สารเคมีในการกำจัดการปนเปื้อนคราบน้ำมันในครั้งนี้
      
       “แหล่งทรพยากรธรรมชาติหลักที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุดคือ แนวประการังและแหล่งห่วงโซ่อาหารของสัตว์น้ำ” ศรีสุวรรณ จรรยา ประธานของกลุ่มต่อต้านสภาวะโลกร้อน กล่าว
      
       จากที่ผ่านมา พีทีที โกลบอล เคมิคอลฯเคยประสบปัญหาเกี่ยวข้องกับการรั่วไหลน้ำมันครั้งใหญ่ขึ้นทางตะวันตกเฉียงเหนือของออสเตรเลียในปี 2009 ซึ่งถือเป็นการรั่วไหลครั้งใหญ่เท่าที่ออสเตรเลียเคยประสบมา

15#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-7-30 10:09 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้


"ดาวเทียมระบบเรดาร์และสถานีเรดาร์ตรวจวัดคลื่นและกระแสน้ำชายฝั่ง เพื่อติดตามและคาดการณ์การเคลื่อนที่ของคราบน้ำมันที่รั่วไหลในทะเล บริเวณตอนเหนือของเกาะเสม็ด"

จากภาพแสดงให้เห็นถึงคราบน้ำมันที่ผิวหน้าทะเล มีขนาดพื้นที่ประมาณ 15 ตารางกิโลเมตร ห่างชายฝั่งทะเลประมาณ 1.6 กิโลเมตร โดยคราบน้ำมันที่พบเป็นบริเวณกว้างจะอยู่ทางตอนเหนือของเกาะเสม็ด (วงสีเขียว) และมีทิศทางเคลื่อนที่ไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือเข้าหาฝั่ง แต่มีลักษณะเป็นเพียงแผ่นฟิล์มบาง ๆ ซึ่งส่วนใหญ่จะสลายตัวด้วยกระบวนการธรรมชาติเช่นแบคทีเรียและแสงอาทิตย์ต่อไป

จากการใช้ข้อมูลภาพดาวเทียมและข้อมูลกระแสน้ำจากสถานีเรดาร์ตรวจวัดคลื่นและกระแสน้ำของ GISTDA คาดว่าวันที่ 30 กรกฎาคม 2556 ในช่วงเช้าฟิล์มน้ำมันเหล่านี้อาจจะเริ่มเข้าสู่ชายฝั่งในเขตอำเภอแกลง ประชาชน ผู้ประกอบการ ตลอดจนสถานเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในบริเวณดังกล่าวจึงควรเตรียมการรับมือโดยงดเล่นน้ำทะเล งดการใช้น้ำทะเลเพื่อการเพาะเลี้ยงและขนย้ายสิ่งของที่อาจได้รับความเสียหายจากคราบน้ำมัน รวมทั้งให้ความร่วมมือแก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการป้องกันและขจัดคราบน้ำมัน

สำหรับพื้นที่ที่คราบน้ำมันยังมีความหนาแน่นจะเป็นหย่อม ๆ ในอ่าวที่มีลักษณะปิดทางฝั่งตะวันตกของเกาะเสม็ด โดยเฉพาะอ่าวพร้าว (วงสีแดง) ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังดำเนินการขจัดอยู่อย่างรีบด่วน

อนึ่งการใช้ดาวเทียมระบบเรดาร์ตรวจวัดคราบน้ำมันนั้นเป็นการวัดความราบเรียบของผิวหน้าทะเลอันเนื่องมาจากแรงตึงผิวที่ลดลงของน้ำทะเลเนื่องมาจากฟิล์มน้ำมัน ดังนั้นแม้จะเป็นเพียงฟิล์มบาง ๆ ดาวเทียมก็สามารถตรวจวัดได้ ซึ่งฟิล์มน้ำมันบาง ๆ นั้น ถึงแม้อาจจะไม่ทำให้เกิดอันตรายโดยเฉียบพลันเหมือนคราบน้ำมันที่มีความหนามาก ๆ แต่ในระยะยาวอาจจะมีผลต่อระบบนิเวศน์ รวมทั้งจะเกิดการสะสมและแปรสภาพเป็นก้อนน้ำมันดิน (Tar Ball) บนหาดในระยะยาวต่อไป



ข้อมูลและภาพข่าวจาก www.gistda.or.th

29 ก.ค.56 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในหน้าเพจเฟซบุ๊ก Tremsak Meechaiyo ได้เล่าเหตุการณ์ที่น่าชื่นชมของคนขับแท็กซี่รายหนึ่ง โดยมีข้อความระบุว่า

ผมเจอแล้วครับ TAXI ดีๆ ก็มีเหมือนกัน เรื่องมีอยู่ว่า ป้าคนหนึ่งในหมู่บ้านเดียวกับผม แกชักและก็อ้วก ผมอุ้มแกขึ้น TAXI พอขึ้นมาสักพัก ตามองไปเห็นพี่ TAXI แกไม่กด METER ผมจึงบอกว่า พี่ไม่กด METER หรา พี่เขาหันหน้ามาพร้อมกับพูดว่า "ไม่เป็นไรครับ เงินหาเมื่อไหร่ก็ได้ ชีวิตคนสำคัญกว่า"

พระเจ้า! วินาทีที่พี่เขาหันมา หน้าพี่เขาหล่อกว่าณเดชอีก ตลอดทางป้าคนนั้นอ้วกตลอดเลย พี่ TAXI ก็ไม่บ่นไรสักคำ

พอถึงโรงพยาบาล ก็จะเอาเงินให้พี่ TAXI แกกลับพูดว่า "ไม่เป็นไรครับ เก็บไว้ให้น้าแกรักษาตัวเถอะ" อัยยะ พี่จะหล่อมากไปแล้ว ผมได้แต่ยกมือไหว้ขอบคุณแก แล้วผู้โดยสารคนต่อไปจากที่ผมลงรถ คือคนขาหัก แกก็ยิ้มแล้วบอกว่า "ขึ้นได้มั๊ยครับให้ผมช่วยมั๊ย" พระเจ้า เอาใจกูไปเลยเถอะ!

เหตุการณ์นี้ทำให้ผมรู้ว่า TAXI ดีก็มีนะครับพี่น้อง พี่แกชื่อ ครรชิต คิดโสดา ทะเบียนรถ ทม 5879 ช่วยกันแชร์นะครับ ประเทศชาติต้องการคนแบบนี้ SUPER TAXI

ทั้งนี้ เมื่อเรื่องราวนี้ถูกเผยแพร่ออกไป ชาวเน็ตต่างเข้ามากดแชร์ และแสดงความชื่นชมพี่แท็กซี่รายนี้กันมากมาย

17#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-7-30 22:11 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
เอาอีก!!! Samsung Galaxy S4 ระเบิดที่ฮ่องกง วอดทั้งหลัง



เกิดเหตุ Samsung Galaxy S4 ระเบิดที่ฮ่องกง ทำเพลิงไหม้บ้านวอดทั้งหลัง คาดแบตเตอรี่และสายชาร์จโทรศัพท์เป็นเหตุ

วันนี้ (30 ก.ค.) สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า Samsung Galaxy S4 ระเบิด ขณะที่เจ้าของมือถือยังอยู่ในบ้าน เพลิงได้ไหม้อย่างรวดเร็วจนทำให้เจ้าของบ้านต้องหนีออกจากบ้านเพื่อเอาตัวรอด เพลิงได้เผาโซฟาและผ้าม่านก่อนที่จะแพร่กระจายไปยังส่วนอื่น ๆ ของบ้าน โชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บกับเหตุการณ์ในครั้งนี้
ศาสตราจารย์คณะวิศวกรรมไฟฟ้ามหาวิทยาลัยในไต้หวัน กล่าวว่า โทรศัพท์เพียงอย่างเดียวไม่น่าจะเป็นแหล่งพลังงานที่จะก่อให้เกิดระเบิดร้ายแรงครั้งนี้ได้ สาเหตุของการระเบิดครั้งนี้อาจจะมาจากแบตเตอรี่และสายชาร์จโทรศัพท์
ทาง Samsung เองก็กำลังหาสาเหตุที่ก่อให้เกิดความสูญในครั้งนี้ คงต้องคอยติดตามกันต่อไปครับว่าสาเหตุจริง ๆ แล้วมาจากอะไรกันแน่ ?



ที่มา : best-news / talkystory



18#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-7-30 22:28 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย AUD เมื่อ 2013-7-30 22:30

ตะลึง!! "งูจงอาจยักษ์"โผล่สวนยางระนอง -ยาวเฟื้อย 5 ม. แผ่แม่เบี้ยสูง 2 ม. ชาวบ้านกระเจิง

มาดูชัดๆ งูจงอางขนาดยักษ์ยาว 5 เมตร โผล่กลางสวนยางระนอง  ชูแม่เบี้ยสูงกว่า 2 เมตร ชาวบ้านแตกตื่นวิ่งหนีวุ่น




[size=1.1em]. วันนี้ (30 ก.ค.) ได้รับรายงานจากนายสุทิน จำปาดะ กำนัน ต.กำพวน อ.สุขสำราญ จ.ระนอง ว่า ขณะที่ตนเดินทางมาทำกิจธุระที่บ้านคลองทราย ม. 5 ตบางหิน อ.กะเปอร์ จ.ระนอง ได้รับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่ว่า มีผู้เห็นงูจงอางขนาดใหญ่ความยาวประมาณ 5 เมตร เลื้อยลงมาจากภูเขาเข้ามาอาศัยอยู่ในสวนยางพาราของชาวบ้านภายในหมู่บ้าน ทำให้ชาวบ้านหวาดกลัวไม่กล้าออกไปทำกิจธุระนอกบ้าน หรือเข้าไปทำสวนยาง รวมทั้งสวนปาล์มน้ำมัน และสวนผลไม้ที่อยู่ใกล้เคียง เนื่องจากกลัวว่าจะเจอกับงูยักษ์ซึ่งคาดว่าเป็นงูจงอางที่มีนิสัยดุร้ายและอาจจะหิวโซเข้ามาทำร้ายชาวบ้านได้ รวมทั้งไม่กล้านำสัตว์เลี้ยงออกไปหากินตามปกติ โดยชาวบ้านต้องการให้ตนเร่งติดต่อ นายอับดุล จำปาดะ บิดา ซึ่งเป็นหมองูให้เข้ามาช่วยจับงู หรือจัดการกับงูเพื่อชาวบ้านจะได้สบายใจสามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ


      
       นายสุทิน กล่าวต่อว่า หลังจากตนทราบเรื่อง จึงได้เร่งไปรับตัวบิดาคือ นายอับดุล จำปาดะ มายังบ้านคลองทราย และเดินทางเข้าไปยังสวนยางพารากลางหมู่บ้านที่ชาวบ้านให้เบาะแสว่าพบเห็นงูจงอางขนาดใหญ่ โดยในขณะที่บิดาของตนกำลังเดินเข้าไปในสวนยางพาราเพื่อหาตัวงูจงอาง ปรากฏว่า ชาวบ้านในหมู่บ้านที่ทราบข่าวได้เดินทางมาดูการจับงูเป็นจำนวนมาก โดยหลังจากที่นายอับดุล ผู้เป็นบิดาซึ่งเดินนำหน้าขบวนล่างูเข้าไปในสวนยางพาราเกือบ 1 ชม. มีชาวบ้านพบเห็นงูตัวดังกล่าวนอนแน่นิ่งอยู่ในคูน้ำข้างสวนยางพารา ในลักษณะท้องป่อง ทางหมองู นายอับดุล จึงเข้าไปทำพิธีเพื่อจับงู ปรากฏว่า เมื่องูจงอางเห็นคนเข้าไปในระยะใกล้ ก็ได้ชูแม่เบี้ยขึ้นมาสูงกว่า 2 เมตร สร้างความแตกตื่นให้แก่ชาวบ้าน บางคนวิ่งหนี เนื่องจากรู้ถึงความน่ากลัวของจงอาง แต่นายอับดุล ซึ่งอยู่ในสภาพนิ่งเฉยพร้อมทีมงานได้เข้าไปใช้บ่วงล้อมจับ โดยใช้เวลานานกว่า 20 นาที จึงสามารถจับได้ แต่ชาวบ้านที่ล้อมจับกลัวว่าจงอางขนาดใหญ่จะทำร้ายจึงได้ใช้อาวุธทุบทีจนตาย



      
นายอับดุล จำปาดะ หมองูกล่าวว่า ตนจับงูมานานชั่วชีวิตพบว่าจงอางที่จับได้ในวันนี้ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยจับมา โดยชาวบ้านนำตลับเมตรมาวัดขนาดความยาวลำตัวได้ถึง 4.70 ม. ส่วนรอบตัวนั้นต้องใช้มือกำ 4 กำมือตรงกลางลำตัวจึงจะกำได้มิด ส่วนบริเวณหัวพบว่ามีขนาดใหญ่กว่าหน้าคน จากนั้นชาวบ้านได้ผ่าบริเวณลำท้อง พบงูเหลือมในท้องอีกตัวขนาดความยาวประมาณ 2 เมตร คาดว่างูจงอางตัวดังกล่าวลงมาจากภูเขาท้ายหมู่บ้านเพื่อหาอาหารก่อนพลัดหลงเข้ามาในสวนยางพาราของชาวบ้าน และเจองูเหลือมจึงกินเป็นอาหาร ซึ่งโชคดีที่งูจงอางตัวดังกล่าวได้กินอาหารไปแล้วจึงทำให้เคลื่อนไหวช้า หากพบในขณะยังหิวโซอาจจะจับลำบากกว่านี้






ที่มา http://www.tnews.co.th
19#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-7-31 05:27 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ด่วน!! เฉลิม โฆษิตพิพัฒน์ ประกาศยอมแพ้ -ล้มชมรมอนุรักษ์ศิลปะ



"เฉลิม โฆษิตพิพัฒน์" ประกาศล้มชมรมอนุรักษ์ศิลปะไทย  ลั่น เกิดมาไม่เคยยอมแพ้แต่วันนี้ต้องยอม เพราะวงการนี้มีหลายชนนั้นหลายระดับความคิด

วันนี้ ( 30 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า   เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ประธานชมรมขอแจ้งประกาศล้มชมรมอนุรักษ์ศิลปะไทย โดนเขียนจดหมายและโพสต์ในเฟชบุ๊คมีใจความว่า " ถึงพี่ๆน้องๆลูกศิษย์ที่รักทุกท่าน  วันที่ 29 ก.ค. 56  เวลา 7.58 น. ผมอยากจะขอเรียนให้ท่านพี่ๆน้องๆ และลูกศิษย์ลูกหาทุกคนทราบก่อนว่า  สิ่งที่ผมเขียนอยู่นี้ เป็นความในในที่ได้ ผ่านการพิจารณา มาอย่างรอบคอบแล้วครับ  ชีวิตนั้นเกิดมาผมไม่เคยมีคำว่ายอมแพ้  ถ้าคิดจะทำสิ่งใด  จะมีความสำเร็จเสมอ  วันนี้ผมต้องการขอประกาศยอมแเป็นครั้งแรกของชีวิตของผม   ขอยอมแพ้จริงๆครับ  ยอมแพ้ที่จะอยู่กับพี่ๆน้องๆในวงการนี้  แม้ว่าคนส่วนใหญ่จะเข้าใจผม  แต่วงการนี้มีหลายชนชั้น  หลายระดับความคิด  แตกต่างความรู้การศึกษา ผมรู้มาก่อน  จงเพียรพยายามที่จะอยู่  เพื่อช่วยเหลือพี่ๆน้องๆในวงการนี้ "   



ที่มา http://www.tnews.co.th


20#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-7-31 17:44 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
"ในหลวง-ราชินี" เสด็จฯ แปรพระราชฐานประทับวังไกลกังวลพรุ่งนี้


ผู้ว่าประจวบฯเผย "ในหลวง-ราชินี" เสด็จฯ แปรพระราชฐานประทับวังไกลกังวลพรุ่งนี้ ขณะตร.ประชุมถวายความปลอดภัย

วันนี้ (31 ก.ค.) นายวีระ ศรีวัฒนตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยกับสำนักข่าวทีนิวส์ว่า ทางจังหวัดได้รับแจ้งจากสำนักพระราชวังเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ จะเสด็จฯออกจากโรงพยาบาลศิริราช ในเวลาประมาณ 16.00 น. ของวันที่ 1 สิงหาคมนี้ เพื่อเสด็จพระราชดำเนินแปรพระราชฐานมาประทับ ณ วังไกลกังวล อำเภอหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์  
  
   
สำหรับการเตรียมความพร้อมขณะนี้ทางจังหวัดได้สั่งทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการปรับปรุงภูมิทัศน์ ประดับธงชาติ ธงตราสัญลักษณ์ประจำพระองค์ทั้ง 2 พระองค์ บริเวณเกาะกลางถนนเพชรเกษม ตั้งแต่ท่าอากาศยานหัวหิน ถึงบริเวณหน้าพระราชวังไกลกังวล โดยคาดการณ์ว่าทั้งสองพระองค์จะเสด็จถึงวังไกลกังวลภายในเวลา 18.00 น.  
  
   
ด้าน พล.ต.ต.ธเนษฐ สุนทรสุข ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ได้เรียกประชุมตำรวจภูธรจังหวัดเพื่อเตรียมการด้านการถวายความปลอดภัย และการจัดการจราจรในเส้นทางขบวนเสด็จฯ ซึ่งคาดว่าจะต้องใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจประมาณ 500 นาย พร้อมให้ทุกหน่วยเตรียมอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่คาดว่าเดินทางมาเฝ้ารับเสด็จฯอย่างเนืองแน่น


ที่มา http://www.tnews.co.th

ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้