ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
ดู: 4444
ตอบกลับ: 11
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

ท่านพ่อบัณฑูรสิงห์วัดเกตุมวดีย์(อนาคตวงศ์องค์ที่9)

[คัดลอกลิงก์]






เปิดตำนานภาพต้นฉบับ!!!ท่านพ่อบัณฑูรสิงห์วัดเกตุมวดีย์(อนาคตวงศ์องค์ที่9)
ท่านพ่อบัณฑูรสิงห์ วัดเกตุมวดีย์ สมุทรสาคร(อนาคตวงศ์องค์ที่9)ภาพนี้เป็นภาพซีเปียกาดร์เดิมๆ ขนาดภาพ8.5*11นิ้ว กาดร์12*15นิ้ว

มีขนาดภาพค่อนข้างใหญ่ซึ่งพบน้อยมาก ภาพนี้ท่านถ่ายในช่วงยุคแรกสมัยท่านยังหนุ่มๆที่เริ่มจะก่อตั้งวัดโดยการสร้างเจดีย์ที่อยู่ข้างหลัง จนปัจจุบันนี้วัดท่านใหญ่โต และเป็นภาพแรกในวงการที่ได้พบเห็นและเป็นภาพเดียวที่ทันท่าน สภาพสมบูรณ์มากๆ

ท่านพ่อบัณฑูรสิงห์ผู้ซึ่งรับคำทำนายว่าจะเป็นพระพุทธเจ้าองค์ต่อไป

ประวัติของท่านน่าสนใจอย่างยิ่ง

ท่านพ่อเกิดเมื่อวันที่ ๒๘ เมษายน พ.ศ.๒๔๓๔ ตรงกับวันอาทิตย์ขึ้น ๖ ค่ำ เดือน ๖ ปีเถาะ เกิดที่หมู่ ๘ ต.บางโทรัด อ.เมือง จ.สมุทรสาคร เกตุมวดีย์ ถือกำเนิดดังปรากฏอยู่นี้ โดยอธิฐานบารมีของท่านพ่อบัณฑูรสิงห์ธรรมบัณฑิต (เจิม คุณาบุตร) ตั้งขึ้นเมื่อเพ็ญเดือน ๑๒ ปีพุทธศักราช ๒๔๗๖ ขณะเมื่อท่านบวชเป็นภิกษุอยู่ ได้ปรากฏธรรมอันเห็นแจ้ง และอาจรู้อดีต อนาคตได้ รู้ว่าตนได้ปรารถนาพระโพธิญาณมา ๒๙ กัลป์แล้ว และได้รับพยากรณ์จากพระพุทธเจ้ามีพระสมณโคดมเป็นที่สุดว่า จักได้ตรัสรู้ในพุทธกัลป์ต่อไปข้างหน้า

ท่านจึงค้นหาสถานที่ที่พระโพธิสัตว์ทั้งหลาย ได้สร้างบารมีกันสืบเนื่องมาโดยการเดินธุดงค์ จาริกไปตามสถานที่ต่าง ๆ พบบ้างบางแห่ง แต่มีความเป็นไปในอนาคตยังยิ่งหย่อนกว่ากันไปบ้าง ยังไม่พร้อม เมื่อเข้ามาค้นหาสถานที่ซึ่งอยู่ในป่าลึกเข้าไป ห่างจากบ้านเกิดประมาณ ๒ กิโลเมตร ใช้การพิจารณาโดยญาณอย่างละเอียดถี่ถ้วน ยังความประหลาดอัศจรรย์หลายประการเกิดขึ้นในญาณขณะพิจารณาของท่าน

  จึงได้ตั้งสัจจะอธิษฐานบารมี ณ สถานที่พระเกตุมวดีย์นี้ต่อไปเพื่อสร้างกุศลหวังสัมมาสัมโพธิญาณในภายหน้า

เพราะสถานที่นี้มีสิ่งต่าง ๆ มากมายในอดีต ดังที่ท่านทั้งหลายได้พบเห็นอยู่ในขณะนี้

ทั้งที่เป็นภายนอกและภายในท่านจึงได้ขอแบ่งทรัพย์ส่วนหนึ่งของบิดามารดา ให้มาร่วมตั้งองค์พระเจดีย์ขึ้น

(ขณะนั้นอายุประมาณ ๓๐ ปีเศษ ยังไม่ได้สอนกรรมฐานแก่ใคร)

ครั้งแรกสูง ๙ ศอก และได้อัญเชิญพระบรมธาตุของท่านที่มีอยู่และมาโดยทางอากาศลงบรรจุไว้และขอให้บิดามารดาปลูกต้นโพธิ์อธิษฐานจิตไว้ ต่อมาได้สร้างขึ้นอีกโดยหุ้มองค์เดิมสูง ๙ วา และได้ชักชวนสานุศิษย์เตรียมที่จะสร้างองค์ต่อไปท่านได้อธิษฐานไว้สูงอีกเท่าหนึ่งคือ ๑๘ วา ถึงแม้ท่านจะต้องมรณะลง จำต้องทิ้งขันธ์เสียก่อนที่จะลงเข็มสร้าง ทั้งยังอธิษฐานขอให้ผู้เคยเป็นญาติทั้งหลายในอดีตที่เกิดแล้วมาร่วมสร้างบารมี ร่วมกันสร้างองค์พระธาตุเกตุมวดีย์ต่อไป

ธรรมดาสัจจะวาจาของพุทธพงษ์บรมโพธิสัตว์นั้นเมื่อตั้งสัจจะลงแล้วในมนุษย์โลกก็ดี เทวดาโลกก็ดีย่อมนับเข้าในอธิษฐานบารมี สัจจะบารมี รวมในบารมี ๓๐ ทัศนี้ด้วย ดังนั้นท่านจึงแบ่งทิพย์บารมีมาปรากฏ ปกป้องคุ้มครองรักษาสถานเกตุมวดีย์ศรีมงคลมหาสถาน

ตลอดจนสานุศิษย์ที่ประพฤติตามโอวาทของท่านได้ดังปรากฏประทับจิตใจแก่ท่านทั้งหลายอยู่แล้ว

และองค์พระบรมธาตุเกตุมวดีย์นี้จักสำเร็จตามปณิธานสัจจะอธิษฐานของท่านอย่างแน่นอนโดยไม่ต้องสงสัย

ท่านได้สร้างบารมีโดยตลอดมาถึงอายุ ๗๒ ปี เมื่อ พ.ศ.๒๕๐๖ ท่านได้ถึงแก่กรรมทิ้งขันธ์ละโลกนี้ไป

เหลือไว้ให้แต่อาณาเขตบริเวณพระธาตุเกตุมวดีย์ พร้อมทั้งอธิษฐานจิตไว้ ๓ ประการ ณ เกตุมวดีย์มงคลสถานแห่งนี้

๑. ผู้ใดเคยเป็นญาติมาแต่อดีต เมื่อเกิดขึ้น ขอจงมาสร้างกุศลบารมีอธิษฐานต่อไป ณ สถานที่นี้

๒ ผู้ใดได้ทำบุญสร้างกุศลมามาก ขอจงมาสร้างบารมีและอธิษฐานต่อไป ณ สถานที่นี้

๓. ผู้ใดได้สร้างบารมีอธิษฐานเป็นพระโพธิสัตว์ เมื่อเกิดขึ้นแล้ว ขอจงอธิษฐานสร้างบารมีต่อไป ณ สถานที่นี้



http://www.taradpra.com/itemDetail.aspx?itemNo=987998&storeNo=7605
สาธุ สาธุ สาธุ
ตั้งใจไว้เเล้วว่าจะต้องไปครับ
ภาษิตธรรม ของท่านพ่อบัณฑูรสิงห์ธรรมบัณฑิต (เจิม คุณาบุตร)
เขาไม่ถาม อย่าตะกราม ตะกละกล่าว ไก่สามหาว มิใช่ยาม ตะกรามขัน
กลัวไว้หน้า กล้าไว้หลัง ระวังทัน คนทุกวัน แปดเหลี่ยม สิบสองคม
คนหน้าเนื้อ ใจเสือ ก็เหลือคบ ข้างนอกกลบ หวานไว้ ข้างในขม
มะนาวเกลี้ยง ก็ไม่ล้น เท่าคนกลม เร็วกว่าลม เหลี่ยมลบ ตลบตะแลง
ฝนจะตก เท่าไร น้ำไม่ขัง ย่อมไหลหลั่ง ลงรู คูระแหง
รสไม่รู้ ดุจจวัก ที่ตักแกง จนปากแหว่ง เปรี้ยวหวาน ไม่พานรู้
ถึงมีหู มีอยู่ ดังหูกะทะ มีตาปะปะ เหมือนสัปปะรด น่าอดสู
ถึงมีปาก ปากพล่อย ดังหอยปู มีเท้าคู้ มือตาย เหมือนไม่มี
กระจกส่อง มองเด่น จะเห็นหน้า ปัญญาส่อง ปัญญา ชี้แจ่มใส
ตัวของตัว ชั่วดี มีเพียงใด ไม่ต้องไป หาหมอดู ก็รู้ดี
จิตไม่ตาย รูปไม่ตาย อย่าหมายผิด รูปกับจิต บอกหมด ปลดนิสัย
รูปทั้งกอง เปรียบเหมือนฟอง ชลาลัย เกิดขึ้นแล้ว ก็ดับไป เป็นธรรมดา
ถ้ารู้จิต ก็รู้จบ พบธรรมะ องค์พุทธะ ปรากฏ หมดโมหัน

ไม่ใกล้ไม่ไกล ไม่ไปไม่มา ไม่ตึงไม่หย่อน อยู่ระหว่างทุกข์ระหว่างธาตุ ระหว่างอากาศ ทำจิตให้บริสุทธิ์ เหลือแต่รูปกับนาม ให้ลมเดินไปตามวิธี เกิดช่องว่างปรากฏ ธรรมเครื่อง ว่างปรากฏ แก่สติแลญาณ ย่อมเป็นที่ตั้งอาศัย รับรองให้ตั้งอยู่ในอาการว่าง ไม่คิดไม่นึกไม่เกาะ ขันธ์อายะตะนะเรียกว่าอุปาทานดับ เมื่ออายะตะนะไม่มีสัตว์บุคคลเกาะ ไม่มีเกิด วิมุตติเครื่องแจ้งแห่งกิเลส ที่เหลืออยู่หมด ก็ย่อมรู้ด้วยตัวเอง เพียงเท่านี้ท่านก็จะบังเกิดเต็มแห่งภูมิธรรม วิมุตติเครื่องแจ้ง เวทยิตะนิโรธ เป็นเหตุให้ขันธ์ อดีตอนาคตปัจจุบัน ลำดับตามลักษณะวิปัสสนาญาณ เรียกว่าบุคคลถึงอนุปาทิเสสบุคคล ข้อความที่กล่าวมานี้ เพื่อให้รู้ชัดจะได้ดับความไม ่รู้ชัด ถ้าจะกล่าวโดยการกระทำจริงๆ ก็จะกระทำสั้นนิดเดียว หรือปล่อยสติที่ธาตุทรงว่างเปล่า ตามลม ตั้งแต่ปลายเท้าตลอดศีรษะ และศีรษะตลอดปลายเท้า จนช่องว่างปรากฏทั่วกาย ก่อนให้ สติและญาณว่างปรากฏสติ มีเพียงเท่านี้ตามที่กล่าวมาแล้วข้างต้นทุกประการ

[size=28.0311px]ธรรมที่กล่าวมาแล้วข้างต้นนี้ เป็นวิธีนั่งสมาธิอย่างพระอริยเจ้า ตั้งแต่พระโสดาบันเป็นต้นไป จัตตุปาเยหิ จัตตริปะมุทโท ทะจาปิถานานิ อภัพโพบ่มิอาจจะเกตุง เพื่อจะกระทำให้แจ้งซึ่งอริยะทั้ง ๔ คือ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค ละกายะทิฏฐิ ไม่ถือเนื้อถือตัว ถือชาติตระกูล ถือเราถือเขา วิจิกิจฉา ความเคลือบแคลงสงสัยไม่มี ในคุณพระพุทธเจ้า พระธรรมเจ้า พระสงฆเจ้า ไม่มีสีลัพตะปรามาส ไม่บนเบี้ยเสียขวัญ เข้าผีทรงเจ้า เซ่นเหล้าและยาเมี่ยงหมาก บูชาไม่มี ขาดปริเฉทประหารตามกำลังของตนชั่วขณะจิตหนึ่ง ท่านว่าโสโสตะปฏิญาณพระธรรม ละมิจฉามรรคทำภัยและเวรให้สิ้นไปด้วยขันติและเมตตาเข้าถึงซึ่งเป็นโอรสของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า บุคคลนั้นได้เห็นห้องช่องมหานิพพาน สัจจริงจังสัจจะถาวะโร มนุษย์สัตว์ปฏิบัติตามคำสอน จะตัดรอนมลทินสิ้นทุกข์โข เมื่อดับจิตผลบรรพชิตสุเมโธ วิมานคือสถานแห่งบ้านเรือน ครั้นจุติมากำเนิดมนุษย์ จะผ่องผุดโสภาหาไม่เหมือน ด้วยกุศลประจักษ์เป็นหลักเตือน ดุจเป็นเพื่อนมิตรแท้เฝ้าแลดู ท่านทั้งหลายชายหญิงสิ่งประสงค์ อย่าอาวรณ์สงสัยใจหดหู่ ฟังให้ดีถือชัดจัดเป็นครู จะกอบกู้ใจประกอบระบอบธรรม จงหมั่นเชื่อหมั่นจำทำให้เห็น จะเด่นเหมาะสมกายคมสัน รักโอวาทถือโอวาทอย่าคลาดคลำ บุญจะทำสัตว์โลกมีโชคชัย ข้อที่ว่าดีจะได้ดี ภาษิตนี้บอก ตรงไม่สงสัย ถ้าทำชั่วผลชั่วนำตัวไป ลงสู่ในทุกขาน่าเสียดาย อันโลภะโทสะโมหะโหด อย่าโลภอย่าหลงบรรจงหมาย จะทำตัวให้มีราคีคาย ถือให้ได้ยังให้ติดคิดให้ดี อันคีลังทั้งห้า อุตส่าห์เถิด เป็นบ่อเกิดสุขแสนแดนวิถี สุขกับทุกข์บุญบาปทราบกันดี ตัดราคีอย่าลุกุศลทาน มนุษย์เลิศเกิดทรัพย์คนนับหน้า เห็นกับตาในปัจจุบันอันไพศาล เราทำดีสร้างดีมีศีลทาน เกิดผลญาณตามส่งดังหงษ์ทอง จงตริตรึกนึกให้ถูกผูกให้ทราบ บุญกรรมบาปทำชั่วจิตมัวหมอง อยู่ที่ไหนทำที่ไหนควรไตร่ตรอง

[size=28.0311px]ผลสนองบุญเสนออย่าเผลอกาย ชักบาลีชี้เตือนเพื่อนมนุษย์ ชักเอาธรรมยุทธเป็นจุดหมาย ระตะนังทั้งสามงามเพริศพราย อย่าทำลายหัตถ์ชูขึ้นบูชา อย่าให้ขาดนึกถึงบาทบพิตรอดิศร ท่านเข้าสู่นิพพานนานมายังถาวร ฝากคำสอนกับพระสงฆ์ทรงศีลา ท่านทั้งหลายชายหญิงสิ่งทั้งหลาย เร่งขวนขวายก่อสร้างทางสิกขา ใครไม่เชื่อเบื่อในรสพจนาถ เกลียดโอวาทความตรัสที่ขัดไถ จะเห็นเหตุเพศชั่วในตัวแท้ หนุ่มสาวเถ้าแก่แน่สักขี สัจจังเวใช่จะแกล้งแต่งวาที คงเกิดมีเข้าสักวันอันทุกข์ภัย จิตไม่ตายรูปไม่ตายอย่าหมายผิด รูปกับจิตบอกหมดปลดนิสัย รูปทั้งกองเปรียบเหมือนฟองชลาลัย เกิดขึ้นแล้วดับไปเป็นธรรมดา ให้รู้จริงเห็นจริงตามเป็นจริง จิตสงบนิ่งเข้าสู่ชลังอุเบกขา รู้จิตรู้จบพบธรรมะ ถึงพุทธะตัดให้หมดโทษมหันต์ ตัณหาจิตคิดลำบากยาก ครามครัน เพราะนับวันยิ่งจะห่างทางนิพพานนะท่านเอย ฯ
7#
 เจ้าของ| โพสต์ 2016-8-6 05:29 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
oustayutt ตอบกลับเมื่อ 2016-8-5 19:55
ตั้งใจไว้เเล้วว่าจะต้องไปครับ

สาธุ ขอให้สมหวังนะครับ

ทำไมในภาพท่านต้องวางนาฬิกาไว้ด้วยครับ
สาธุครับ....
10#
 เจ้าของ| โพสต์ 2016-8-16 07:01 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
Marine ตอบกลับเมื่อ 2016-8-7 22:58
ทำไมในภาพท่านต้องวางนาฬิกาไว้ด้วยครับ

ท่านให้โชคหรือป่าว ไม่แน่ใจ
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้