กาลครั้งหนึ่ง มีหิรันยักษ์ตนหนึ่งได้มาสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านด้วยการม้วนแผ่นดิน ร้อนถึง พระนารายณ์ต้องอวตารแปลงมาเป็นวราหะหรือหมูป่ามาสู้รบ แล้วขวิดเอาชนะได้ในที่สุด แล้วคลี่ผืนแผ่นดินออกดังเดิม
ครั้นถึงคีรีไกรลาส บังคมบาทพระศุลีนาถา ทูลว่าหิรันต์อสุรา องอาจหยาบช้ากำเริบใจ ย่ำยีเทวาทานพ จบสวรรค์ชั้นฟ้าต่ำใต้ มิหนำซ้ำม้วนสุธาไป จะแกล้งให้บรรลัยทั้งแผ่นดิน บัดนี้พาลงยังบาดาล โลกจะวายปราณหมดสิ้น พระองค์มงกุฎเทวินทร์ ช่วยอินทรีย์สัตว์ให้ถาวรฯ ฯ ๖ คำ ฯ เมื่อนั้น พระจอมไกรลาสสิงขร ได้ฟังฝูงเทพนิกร ภูธรถวิลจินดา ดูดู๋หิรันต์ยักษ์ขุนมาร หยาบช้าสาธารณ์เป็นหนักหนา มันเสียสัตย์ที่สัญญา กูไม่ไว้ชีวาอสุรีฯ ฯ ๔ คำ ฯ คิดแล้วจึงมีประกาศิต สั่งพระจักรกฤษณ์เรืองศรี เชิญเจ้าผู้มีฤทธี ไปล้างอสุรีให้บรรลัยฯ ฯ ๒ คำ ฯ เมื่อนั้น พระนารายณ์ผู้มีอัชฌาสัย รับสั่งพระจอมภพไตร บังคมไหว้แล้วรีบไปบาดาลฯ ฯ ๒ คำ ฯ ครั้นถึงจึงเห็นหิรันต์ยักษ์ ทำฤทธิ์สิทธิศักดิ์สำแดงหาญ หนีบสามแผ่นดินสุธาธาร ผ่านฟ้าก็แปลงอินทรีย์ฯ ฯ ๒ คำ ฯ กลับกลายเป็นพญาสุกร เขี้ยวเพชรงามงอนจำรัสศรี กายนั้นเผือกผ่องดังสำลี เข้าไล่ราวีอสุราฯ ฯ ๒ คำ ฯ เมื่อนั้น หิรันต์ยักษ์สิทธิศักดิ์ยักษา เห็นสุกรอาจองตรงมา พญามารกริ้วโกรธพิโรธนัก ตาแดงดั่งแสงไฟกัลป์ กระทืบบาทสนั่นทั้งไตรจักร ไม่รู้ว่าองค์พระหริรักษ์ ขุนยักษ์เข้าไล่บุกบันฯ ฯ ๔ คำ ฯ เมื่อนั้น องค์พระวราห์รังสรรค์ เข่นเขี้ยวตาแดงแปรงชัน วิ่งหมุนหุนหันเข้าชิงชัยฯ ฯ ๒ คำ ฯ ขวิดกัดทั่วตัวขุนมาร ล้มลงไม่ทานกำลังได้ เศียรขาดตัวขาดขาดใจ ด้วยฤทธิไกรพระจักรีฯ ฯ ๒ คำ ฯ เสร็จปางซึ่งล้างยักษ์ร้าย องค์พระนารายณ์เรืองศรี ก็ขวิดคัดเอาพื้นปัถพี มาไว้ตามที่ด้วยศักดาฯ ฯ ๒ คำ ฯ แล้วกลับเป็นองค์พระทรงครุฑ ถือเทพอาวุธเงื้อง่า เหาะทะยานผ่านขึ้นเมฆา ตรงมาเกษียรสมุทรไทฯ ฯ ๒ คำ ฯ รามเกียรติ์ ฉบับ บทพระราชนิพนธ์ในสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกฯ ตอนที่ 2 : ปราบหิรันต์ยักษ์ |