คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8220/2553 ตามที่โจทก์บรรยายฟ้องมานั้นได้ความว่า จำเลยประกอบกิจการค้าขายอาหารตามสั่งและเครื่องดื่มจำเลยเปิดแผ่นวีซีดีเพลง…อันเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เสียหาย ซึ่งได้มีผู้ทำขึ้นหรือดัดแปลงขึ้นให้ลูกค้าในร้านอาหารของจำเลยได้ฟัง ไม่ปรากฏว่าจำเลยเปิดเพลงดังกล่าวเพื่อหากำไรโดยตรงจากการที่ให้ลูกค้าได้ฟังเพลงโดยการเรียกเก็บค่าตอบแทนจากลูกค้าในการเปิดเพลงดังกล่าว หรือเรียกเก็บเพิ่มรวมไปกับค่าอาหารและเครื่องดื่มแต่อย่างใด การกระทำของจำเลยตามฟ้องจึงไม่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 มาตรา 31 ประกอบมาตรา 70 วรรคสอง เพราะไม่ครบองค์ประกอบความผิดของบทมาตราดังกล่าวซึ่งต้องเป็นการกระทำเพื่อหากำไรโดยตรงจากการละเมิดลิขสิทธิ์ แม้จำเลยให้การรับสารภาพก็ไม่อาจลงโทษจำเลยได้ตาม พ.ร.บ.จัดตั้งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศและวิธีพิจารณาคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ มาตรา 26 ประกอบ ป.วิ.อ. มาตรา 185 วรรคหนึ่ง
มาตรา ๒๗ การกระทำอย่างใดอย่างหนึ่งแก่งานอันมีลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัตินี้ โดยไม่ได้รับอนุญาตตามมาตรา ๑๕ (๕) ให้ถือว่าเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ ถ้าได้กระทำดังต่อไปนี้ (๑) ทำซ้ำหรือดัดแปลง (๒) เผยแพร่ต่อสาธารณชน
ใช้ไอเท็ม รายงาน
majoy ตอบกลับเมื่อ 2016-7-7 06:10 อยู่ตลาดน้ำ ฟังเพลงที่เขาเปิด นี่เราโขมยเพลงเขาฟังทุกรอบเลยหรือนี่ 555
Sornpraram ตอบกลับเมื่อ 2016-7-9 08:29 ทรัพย์สินทางปัญญา ผมเห็นด้วยนะครับ จะได้มีการพัฒนา มีการแข่งขันกันสร้างงาน
majoy ตอบกลับเมื่อ 2016-7-9 22:19 แต่บางทีมันช่างโหดร้านนะครับ อยู่ร้านนี่เปิดเพลงฟ ...
Sornpraram ตอบกลับเมื่อ 2016-7-10 08:06 ยังไม่ชินอีกหรอครับ เกิดเป็นคนไทยต้องอดทน
รายละเอียดเครดิต ตอบกระทู้ ข้ามไปยังโพสต์ล่าสุด